ผมเคยดู แมนนี่ ปาเกียว ไล่ยำ บาร์เรร่า แพ้น็อค แบบหมดทางสู้ครับจังหวะ
พูดง่าย ทำยาก
เกิดจากฟ้าบันดาล หรือ ฝึกฝน
ใครเคยดู หมอนี่ ชกบ้างไหมครับ
มาร์โค แอนโตนิโอ บาร์เรร่า
แชมป์122หรือ126 ของWBC ไม่รู้ไม่แน่ใจ
จังหวะ
ของไอ้หมอนี่ มันที่สุดแล้วนะครับ
ตั้งกะดูมวยมา40กว่าปี
เอ ผมโพสผิดกระทู้หรือเปล่าครับนี่
ขอโทษด้วยครับ
ผมว่าผมได้จังหวะลาจากทีวีไอซะที
ไปชวนคุณเจ๋งไปเที่ยวต่างจังหวัดดีกว่า
จังหวะในการลงทุน
-
- Verified User
- โพสต์: 141
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 31
- Muffin
- Verified User
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเชื่อว่า Timing มีความหมายครับ
โพสต์ที่ 32
การลงทุน ผมว่า มันก็เหมือนกับหลายๆอย่างในชีวิตครับ แต่ละคนใช้แต่ละวิชาและฝึกฝนได้มากไม่เท่ากันครับ กีฬายังมีหลายประเภทเลยครับ
ผมเคยเขียนไว้ใน blog ของตัวเองที่ pantip แล้วหนึ่งครั้งครับเรือ่งนี้
สำหรับเรื่อง market timing หนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนไว้ค่อนข้างละเอียด คือ Unexpected Return ของ Ed Easterling ครับ
ใครมีเปิดไปหน้าที่ 28-29 เลยนะครับ ตรงนั้นใช้ข้อมูลของ www.CrestmontResearch.com แสดงผลตอบแทนระยะยาวที่เกี่ยวของกับ"เวลา"ที่เข้าลงทุนนะครับ ใช้ตัวอย่างจาก USA นี่แหละ
Chapter 3 ทั้ง Chapter เขียนเรื่องนี้เลยครับ
ฟังดูไม่ค่อยจะเป็น VI สไตล์ที่เน้น Buy-and-Hold มากเท่าไหร่
ผมไปดีกว่า เดี๋ยวโดนเตะ :roll:
ผมเคยเขียนไว้ใน blog ของตัวเองที่ pantip แล้วหนึ่งครั้งครับเรือ่งนี้
สำหรับเรื่อง market timing หนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนไว้ค่อนข้างละเอียด คือ Unexpected Return ของ Ed Easterling ครับ
ใครมีเปิดไปหน้าที่ 28-29 เลยนะครับ ตรงนั้นใช้ข้อมูลของ www.CrestmontResearch.com แสดงผลตอบแทนระยะยาวที่เกี่ยวของกับ"เวลา"ที่เข้าลงทุนนะครับ ใช้ตัวอย่างจาก USA นี่แหละ
Chapter 3 ทั้ง Chapter เขียนเรื่องนี้เลยครับ
ฟังดูไม่ค่อยจะเป็น VI สไตล์ที่เน้น Buy-and-Hold มากเท่าไหร่
ผมไปดีกว่า เดี๋ยวโดนเตะ :roll:
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 34
เห็นด้วย ครับ ...nanchan เขียน:มันอยู่ที่ความเข้าใจ ความเชื่อ ความถนัด ความศรัทธา
หรือ จะเรียกว่า รางวัล อย่างที่หมอสามัญชนเคยว่าไว้
จังหวะอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญ ถ้าคุณมีโอกาสมากมายเหลือเฟือ
จริงๆ ผมก็เชื่อแบบปีเตอร์ลินซ์ ว่าจังหวะทางพื้นฐานนั้นสำคัญ
แต่ผมก็เชื่อจังหวะในราคาเป็นสำคัญด้วยเช่นกัน
เพราะผมเป็นแค่รายย่อย ถ้าลงทุนตัวนี้ไม่ได้ ไม่ทัน
ก็ไปหาตัวใหม่ลงได้
และผมก็คิดว่าผมซื้อสูงกว่าได้ถ้าคิดว่าหุ้นตัวนั้นคู่ควร
-
- Verified User
- โพสต์: 857
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 35
มาย้อนอ่านเพิ่งเห็นว่าลืมข้อที่สำคัญที่สุดไปคือ อมตะวาจาของเฮีย คค. ที่ว่า
"อย่าโลภเกินความรู้ของตัวเอง"
ถ้า VI ซื้อด้วยเหตุผลพื้นฐานของหุ้นและราคาเหมาะสม แต่ขายเพราะเห็นตลาดไม่ดีและหวังไปซื้อที่ราคาต่ำกว่า ก็คงเข้าเคสนี้เหมือนกัน ต้องถามตัวเองก่อนว่าสิ่งที่เราจะทำเกินกว่าความรู้ที่เรามีหรือเปล่า
VS ก็คงคล้าย ๆ กัน จะซื้อหรือขายในตลาดตอนนี้ก็คงต้องถามตัวเองเหมือนกันว่ามันเกินกว่าความรู้ตัวเองหรือเปล่า ถ้าไม่เกินก็ลุยโลด แต่ถ้าเกินมันก็คือการพนัน วัดดวงกันเท่านั้น
"อย่าโลภเกินความรู้ของตัวเอง"
ถ้า VI ซื้อด้วยเหตุผลพื้นฐานของหุ้นและราคาเหมาะสม แต่ขายเพราะเห็นตลาดไม่ดีและหวังไปซื้อที่ราคาต่ำกว่า ก็คงเข้าเคสนี้เหมือนกัน ต้องถามตัวเองก่อนว่าสิ่งที่เราจะทำเกินกว่าความรู้ที่เรามีหรือเปล่า
VS ก็คงคล้าย ๆ กัน จะซื้อหรือขายในตลาดตอนนี้ก็คงต้องถามตัวเองเหมือนกันว่ามันเกินกว่าความรู้ตัวเองหรือเปล่า ถ้าไม่เกินก็ลุยโลด แต่ถ้าเกินมันก็คือการพนัน วัดดวงกันเท่านั้น
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 36
คนที่ลงทุนตามจังหวะ มักจะคุ้นเคยกับเหตุการณ์
ตกรถ ซื้อไม่ทัน เมื่อตลาดมีข่าวดี ตลาดเปิดบวกแรง
ขายไม่ทัน เมื่อมีข่าวร้าย ตลาดเปิดแดงเถือก
ถือตั้งนานราคาไม่ขยับ ขายปุ๊บราคาลิ่ง
ซื้อแล้วลง
Сut Loss แล้วราคาเด้งกลับ
เด้งกลับแล้วจะซื้อกลับดีไหม ราคาแพงกว่าที่ขายนะ
ซื้อกลับ ปรากฏว่าหุ้นกลับลงต่ำกว่าเดิมซะอีก
ถ้าไม่ซื้อกลับ ราคาวิ่งไม่หยุด
วุ่นวายใจ จริงหนอ
ตกรถ ซื้อไม่ทัน เมื่อตลาดมีข่าวดี ตลาดเปิดบวกแรง
ขายไม่ทัน เมื่อมีข่าวร้าย ตลาดเปิดแดงเถือก
ถือตั้งนานราคาไม่ขยับ ขายปุ๊บราคาลิ่ง
ซื้อแล้วลง
Сut Loss แล้วราคาเด้งกลับ
เด้งกลับแล้วจะซื้อกลับดีไหม ราคาแพงกว่าที่ขายนะ
ซื้อกลับ ปรากฏว่าหุ้นกลับลงต่ำกว่าเดิมซะอีก
ถ้าไม่ซื้อกลับ ราคาวิ่งไม่หยุด
วุ่นวายใจ จริงหนอ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 18
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 37
ผมเห็นด้วยที่ว่ามันแล้วแต่ไสตล์และความถนัดของแต่ละคนครับ
แต่ผมมันไม่ถนัดซักอย่าง เฮ้อ
แต่ผมมันไม่ถนัดซักอย่าง เฮ้อ
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 39
ผมว่าคนลงทุนแนวVI แรกๆ
ก็วุ่นวายใจไม่ต่างกับ VS เหมือนกันหละครับ
หุ้นคนอื่น ทำไมมันขึ้นจัง
หุ้นตัวเองไม่เห็นขึ้นตามเค้าไปเลย
หุ้นฉันจะถือได้ยาวนานขนาดนั้นเชียวเหรอ
ผมว่าทั้งนี้ ก็ต้องให้ระยะเวลาและประสบการณ์เป็นตัวบ่มอบรมจิตใจเช่นกัน
ก็วุ่นวายใจไม่ต่างกับ VS เหมือนกันหละครับ
หุ้นคนอื่น ทำไมมันขึ้นจัง
หุ้นตัวเองไม่เห็นขึ้นตามเค้าไปเลย
หุ้นฉันจะถือได้ยาวนานขนาดนั้นเชียวเหรอ
ผมว่าทั้งนี้ ก็ต้องให้ระยะเวลาและประสบการณ์เป็นตัวบ่มอบรมจิตใจเช่นกัน
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 40
ผมว่าข้อเสียที่มากจริงๆของ VS ไม่ใช่เรื่องวุ่นวายใจหรอกครับ
ผมว่าเป็นเรื่อง เสียเวลา มากกว่า
คนที่จะเป็น VS นั้น ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้
ใช้เวลาในการติดตามข่าว
ใช้เวลาในการคิดแล้วคิดอีก
มากกว่า และสมควรจะมากกว่า VI ด้วยซ้ำ
ถ้าไม่เช่นนั้น คนก็คงใช้ได้แค่คำว่า S ไม่มี V ต่อข้างหน้า
ผมว่าเป็นเรื่อง เสียเวลา มากกว่า
คนที่จะเป็น VS นั้น ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้
ใช้เวลาในการติดตามข่าว
ใช้เวลาในการคิดแล้วคิดอีก
มากกว่า และสมควรจะมากกว่า VI ด้วยซ้ำ
ถ้าไม่เช่นนั้น คนก็คงใช้ได้แค่คำว่า S ไม่มี V ต่อข้างหน้า
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 41
ผมเห็นด้วยกับประโยคนี้นะครับ
"ถ้าเล่นหุ้นแล้วจน ฮ่องกงคงไม่มีคนรวย"
เอ๊ะ......ทำไมมันตรงกันข้ามกันนะ......จะเป็นไปได้อย่างไร
จึงคิดว่าทางออกน่าจะเป็น เล่นหุ้นแล้วมีทั้งรวยและจน ขึ้นอยู่กับว่าใครแพ้ใครชนะ
แต่ผมก็เห็นด้วยกับคุณฐิติที่บอกว่า
ดินฟ้าอากาศนั้นแปรปรวนทุกเมื่อเชื่อวัน การเดาว่าอีกหนึ่งสัปดาห์ ฝนจะตกหรือแดดจะออก ก็อาจจะมีโอกาสถูกบ้างผิดบ้าง แต่จะเอาให้แม่นยำถึงระดับ95% นั้นเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน
จนกระทั่งมีคนคิดค้นทฤษฎีเคออสขึ้นมาเพื่อความพยายามที่จะพยากรณ์ และต้องการที่จะควบคุมดินฟ้าอากาศ แต่ผลสรุปของทฤษฎีก็คือ ผีเสื้อขยับปีกนิดเดียวที่ปักกิ่ง ทำให้เกิดฝนตกขนาดหนักที่นิวยอร์ค จึงสรุปว่าแม้ทฤษฎีนี้ก็ยังไม่สามารถพยากรณ์ได้
นั่นคือสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่มีการปรุงแต่งจากจิตใจและความลำเอียงใดๆของธรรมชาติ เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น แต่ตลาดหุ้นนั้นซุบซ้อนกว่าดินฟ้าอากาศเสียอีก เพราะโดนปรุงแต่งด้วยกิเลสตัณหา ความกลัวความโลภ เพราะจิตมนุษย์นั้นแสนสุดจะลึกล้ำเหลือกำหนด แม้เถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
ทฤษฎีเคออสที่ไม่สามารถทำนายดินฟ้าอากาศได้ จึงไม่มีทางพยากรณ์ตลาดหุ้นได้เลย และจึงสามารถสรุปได้เต็มที่ว่า
ตัวที่เมื่อเราเปลี่ยนแปลงแล้วมีผลทำให้ความยากกลายเป็นความง่ายอย่างน่าอัศจรรย์
สิ่งนั้นก็คือ ปัจจัยเรื่อง ระยะเวลา
ถ้าเรายืดระยะเวลาออกไป เราจะพบว่าเราสามารถพยากรณ์ได้แม่นยำมากขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
ลองพิสูจน์ดูสิครับ.........
แต่ในเวลาเดียวกันผมก็เห็นด้วยกับประโยคนี้ผมเคยได้ยินประโยคนี้ตั้งแต่เด็กๆ ในละครเจ้าพ่อตลาดหุ้น
"ถ้าเล่นหุ้นแล้วรวย ฮ่องกงคงไม่มีคนจน"
"ถ้าเล่นหุ้นแล้วจน ฮ่องกงคงไม่มีคนรวย"
เอ๊ะ......ทำไมมันตรงกันข้ามกันนะ......จะเป็นไปได้อย่างไร
จึงคิดว่าทางออกน่าจะเป็น เล่นหุ้นแล้วมีทั้งรวยและจน ขึ้นอยู่กับว่าใครแพ้ใครชนะ
แต่ผมก็เห็นด้วยกับคุณฐิติที่บอกว่า
โดยเฉพาะการเล่นสั้นสรุปว่าการเล่นหุ้น ลงทุนในหุ้น ยากยิ่งกว่าสิ่งใด
ดินฟ้าอากาศนั้นแปรปรวนทุกเมื่อเชื่อวัน การเดาว่าอีกหนึ่งสัปดาห์ ฝนจะตกหรือแดดจะออก ก็อาจจะมีโอกาสถูกบ้างผิดบ้าง แต่จะเอาให้แม่นยำถึงระดับ95% นั้นเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน
จนกระทั่งมีคนคิดค้นทฤษฎีเคออสขึ้นมาเพื่อความพยายามที่จะพยากรณ์ และต้องการที่จะควบคุมดินฟ้าอากาศ แต่ผลสรุปของทฤษฎีก็คือ ผีเสื้อขยับปีกนิดเดียวที่ปักกิ่ง ทำให้เกิดฝนตกขนาดหนักที่นิวยอร์ค จึงสรุปว่าแม้ทฤษฎีนี้ก็ยังไม่สามารถพยากรณ์ได้
นั่นคือสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่มีการปรุงแต่งจากจิตใจและความลำเอียงใดๆของธรรมชาติ เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น แต่ตลาดหุ้นนั้นซุบซ้อนกว่าดินฟ้าอากาศเสียอีก เพราะโดนปรุงแต่งด้วยกิเลสตัณหา ความกลัวความโลภ เพราะจิตมนุษย์นั้นแสนสุดจะลึกล้ำเหลือกำหนด แม้เถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
ทฤษฎีเคออสที่ไม่สามารถทำนายดินฟ้าอากาศได้ จึงไม่มีทางพยากรณ์ตลาดหุ้นได้เลย และจึงสามารถสรุปได้เต็มที่ว่า
แต่ในความยากก็มีความง่าย ถ้าเราปรับปัจจัยบางตัวสรุปว่าการเล่นหุ้น ลงทุนในหุ้น ยากยิ่งกว่าสิ่งใด
ตัวที่เมื่อเราเปลี่ยนแปลงแล้วมีผลทำให้ความยากกลายเป็นความง่ายอย่างน่าอัศจรรย์
สิ่งนั้นก็คือ ปัจจัยเรื่อง ระยะเวลา
ถ้าเรายืดระยะเวลาออกไป เราจะพบว่าเราสามารถพยากรณ์ได้แม่นยำมากขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
ลองพิสูจน์ดูสิครับ.........
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 45
หุ้นที่เราซื้อไปแล้วขึ้นทุกวันวันละบาท เมื่อผ่านไปหนึ่งร้อยวันราคา 100 บาทกลายเป็น 200 บาท
หุ้นอีกตัวที่เราซื้อแล้วไม่ขึ้นเลย พอวันที่ 80 วันเดียว ขึ้นพรวดเดียว 100 บาทแล้วนิ่งอยู่อย่างนั้น ผ่านไปร้อยวันจาก 100 บาทก็กลายเป็น 200 บาทเหมือนกัน
ผลตอบแทนของสองกรณีนี้ไม่แตกต่างกัน..
ถ้าหุ้นส่วนใหญ่มันวิ่งแบบตัวแรกก็ดีสิ แต่ผมว่าหุ้นส่วนใหญ่มันชอบเป็นแบบตัวที่สอง...
ดังนั้นสำหรับผมแล้ว การถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งไว้ตลอดเวลา แล้วหุ้นไม่ขึ้นไม่ได้หมายความว่าเราขาดทุนกำไร การถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเอาไว้เป็นการ "ตีตั๋ว" เพื่อประกันว่าเมื่อไรที่มันวิ่งซึ่งเราคิดว่ามันต้องวิ่งแต่เราไม่รู้ว่าเมื่อไร เราจะได้ไม่พลาดครับ
หุ้นอีกตัวที่เราซื้อแล้วไม่ขึ้นเลย พอวันที่ 80 วันเดียว ขึ้นพรวดเดียว 100 บาทแล้วนิ่งอยู่อย่างนั้น ผ่านไปร้อยวันจาก 100 บาทก็กลายเป็น 200 บาทเหมือนกัน
ผลตอบแทนของสองกรณีนี้ไม่แตกต่างกัน..
ถ้าหุ้นส่วนใหญ่มันวิ่งแบบตัวแรกก็ดีสิ แต่ผมว่าหุ้นส่วนใหญ่มันชอบเป็นแบบตัวที่สอง...
ดังนั้นสำหรับผมแล้ว การถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งไว้ตลอดเวลา แล้วหุ้นไม่ขึ้นไม่ได้หมายความว่าเราขาดทุนกำไร การถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเอาไว้เป็นการ "ตีตั๋ว" เพื่อประกันว่าเมื่อไรที่มันวิ่งซึ่งเราคิดว่ามันต้องวิ่งแต่เราไม่รู้ว่าเมื่อไร เราจะได้ไม่พลาดครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 46
เวลาอ่านกระทู้แบบนี้ทีไร
ผมนึกถึง DSM ทุกที
ผมนึกถึง DSM ทุกที
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
- khun_parinya
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 47
อันนี้ถูกต้องที่สุดครับ ประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทยมันสั้นจริง ๆ แค่ 31 ปีเองCK เขียน:สงสัยเพราะประวัติศาสตร์ตลาดไทยมันสั้นไปมังครับ
อ่านอีกบทความนึง
บอกว่า ถ้าซื้อ s&p 500 เมื่อราคาปิดวันศุกร์สูงกว่า MA200 วัน
และขาย s&p 500 เมื่อราคาปิดวันศุกร์ ต่ำกว่า MA200 วัน
โดยไม่ต้องใช้สมองวิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจจะดีหรือเลว
จะได้กำไรมากกว่าการถือยาว ประมาณ 2% หรือไงเนี่ย
ของฝรั่งเค้าซัดกันร้อยกว่าปีแล้วครับ
- อาทิตย์จรัสแสง
- Verified User
- โพสต์: 5
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 48
ถ้าไม่ได้เข้าช่วง 40 วันนี้เรียกว่าเข้าผิดจังหวะหรือเปล่าและผลตอบแทนจะติดลบทันที หากพลาดการถือครองในวันที่ดัชนีขึ้นสูงสุด 40 วัน
แล้วถ้าเข้าผิดจังหวะจะกำไรเหรอครับ[/quote]
:D:D:D:D
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
Re: จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 50
[quote="chatchai"]จากส่วนหนึ่งของบทความ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- BOONPARUEY
- Verified User
- โพสต์: 184
- ผู้ติดตาม: 0
จังหวะในการลงทุน
โพสต์ที่ 51
... ถ้านักธุรกิจ และ ผู้ประกอบการไม่ มีกระบวนการความคิดที่ดี
...ปัจจุบันทุก ๆ กิจการคงล้มละลายหายสูญไปจากระบบธุรกิจ ...คงไม่
มีบริษัทประกอบการใหญ่ - เล็กให้นักเล่นหุ้นได้มาเล่นแน่...
... ท่านว่า " รู้มาก จะ ยากนาน - รู้น้อย จะ พลอยรำคาญ " ...
... แสวงหาความรู้ จะต่างกันมากกับ ยึดมั่น - เชื่อมั่น อัตตา ...
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
...ปัจจุบันทุก ๆ กิจการคงล้มละลายหายสูญไปจากระบบธุรกิจ ...คงไม่
มีบริษัทประกอบการใหญ่ - เล็กให้นักเล่นหุ้นได้มาเล่นแน่...
... ท่านว่า " รู้มาก จะ ยากนาน - รู้น้อย จะ พลอยรำคาญ " ...
... แสวงหาความรู้ จะต่างกันมากกับ ยึดมั่น - เชื่อมั่น อัตตา ...
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
... " บุญ คือ เสบียงของคนไม่ประมาท " พุทธตรัส ...