จันทร์ ก.ย. 11, 2006 2:18 pm | 0 คอมเมนต์
ก่อนที่คุณจะซื้อหุ้นของอะไรสักตัวหนึ่ง มีประเด็นส่วนตัวที่ควรจะต้องพิจารณา
1) ผมมีบ้านไหม
2) ผมจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนั้นไหม
3) ผมมีคุณสมบัติส่วนตัวที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนในหุ้นหรือเปล่า
อ้างอิงจากหนังสือ ONE UP ON WALL STREET
Peter Lynch ให้ความเห็นในแง่ที่ว่าบ้านเป็นสิ่งที่น่าลงทุนเป็นอย่างมาก
ถึงกับแนะนำให้นักลงทุนถามตัวเองก่อนว่าตัวเองมีบ้านหรือเปล่า ก่อนที่จะคิดลงทุนในหุ้น
เพราะการกู้ได้มหาศาล ถ้าคุณซื้อบ้าน 100,000 เหรียญ ด้วยเงินดาวน์ 20%
และมูลค่าของบ้านเพิ่มขึ้น 5% ต่อปี คุณก็ได้กำไรปีละ 25% จากเงินดาวน์
และดอกเบี้ยจากการผ่อนนั้นเอาไปหักภาษีได้ ถ้าคุณทำได้ดีอย่างนั้นในหุ้น
ในที่สุดแล้วคุณก็จะรวยยิ่งกว่านาย บูน พิคเคนส์ -- หน้า 82
ไม่น่าแปลกที่คนทำเงินในอสังหาริมทรัพย์และขาดทุนในตลาดหุ้น
พวกเขาใช้เวลาเป็นเดือนๆ เลือกบ้าน และเป็นนาทีในการเลือกหุ้น
ว่าที่จริงพวกเขาใช้เวลาช็อปปิ้งซื้อเตาไมโครเวฟดีๆ มากกว่าซื้อหุ้นลงทุนดีๆ เสียอีก -- หน้า 84
ในมุมมองผม หากเป็นบ้านหลังแรก ให้ซื้อเมื่อมีความจำเป็นและพร้อม
การผ่อนบ้านใช้เวลาถึง 20 - 30 ปี คงต้องผ่าน economic cycle
ที่มีทั้งดอกเบี้ยต่ำและดอกเบี้ยสูง ไม่รู้ตั้งกี่รอบ ...
แต่การซื้อเมื่อ Supply สูงหรือปริมาณบ้านล้นตลาด นั่นก็คือหลังจากช่วงฟองสบู่อสังหาแตก
อย่างที่พี่ CK แนะนำ เรามักจะได้ราคาถูก และช่วงนั้นดอกเบี้ยมักจะต่ำเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครับ
รวมทั้งอาจจะมีนโยบายของรัฐออกมากระตุ้น เช่นไม่เสียค่าธรรมเนียมการโอนเป็นต้นครับ