พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
โพสต์ที่ 1
'เสี่ยปู่'ฮุบถือปริญสิริ10%
Source - โพสต์ทูเดย์
Saturday, May 20, 2006 10:51
มองโต-เป้าถือหุ้น15% เล็งจังหวะซื้ออีก4-5ตัว หุ้นอาหารหนุนพอร์ตโต
โพสต์ทูเดย์-"เสี่ยปู่" เทหมดหน้าตักเก็บหุ้นปริญสิริเพิ่มยอดถือหุ้นพุ่งเป็น 10% ตั้งเป้าเก็บถึง 15% เล็งเก็บหุ้น 4-5 ตัว หากราคาลงมาต่ำ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
รายงานแบบการได้มาและจำหน่ายหลักทรัพย์(แบบ 246-4)ว่า นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ได้ซื้อหุ้นบริษัท ปริญสิริ(PRIN)เพิ่มจำนวน 147 ล้านหุ้น หรือ 0.22% จากเดิมที่ถืออยู่ 65.926 ล้านหุ้น หรือ 9.84% รวมถือหุ้น 67.90 ล้านหุ้น หรือ 10.14% โดยราคาสูงสุดที่ได้มาอยู่ที่ 3.28 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2549
สำหรับนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เป็นนักลงทุนรายใหญ่ เจ้าของฉายา"เสี่ยปู่" นิยมลงทุนหุ้นพื้นฐานดี และถือลงทุนระยะยาว โดยหุ้นแต่ละตัวที่ลงทุนจะถือจำนวนมาก สัดส่วนไม่ต่ำกว่า 5% ของทุนจะทะเบียน
"เสี่ยปู่"เปิดเผยถึงการเข้าถือหุ้น PRIN 10%เศษ เนื่องจากเห็นว่าเป็นบริษัทที่มีการเติบโตของกำไรดีต่อเนื่อง และคาดว่าปีนี้จะกำไร 60 สตางค์ต่อหุ้น โดย PRIN เปิดโครงการปีนี้จำนวนมากและขายได้ เพราะสร้างบ้านราคาถูกและสวยครองตลาดบ้านราคาถูกได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้บริษัทยังเริ่มทำคอนโดมิเนียม เพิ่มรายได้เข้ามา
"คิดว่าราคาหุ้น PRIN ไม่แพง หรือ 2 เท่าเศษ ของราคาพาณ์ 1 บาท เป็นหุ้นอนาคตดี ถ้าผมมีเงินจะเก็บเพิ่ม หวังไว้ 15% เป็นการถือลงทุน ไม่คิดทำราคา และไม่คิดร่วมเป็นกรรมการ เพราะผู้บริหารทำได้ดีอยู๋แล้ว" เสี่ยปู่กล่าว
นักลงทุนรายใหญ กล่าวว่า นอกจากหุ้นปริญสิริแล้ว ยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่ซื้อลงทุน ประกอบด้วย บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น(ประเทศไทย)(SIS),บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์(RPC)บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท(S&P) บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT)บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น(MINOR)บริษัทอิออน ธนสินทรัพย์(ไทยแลนด์)หรือAEONTS บริษัทท่าอากาศยานไทย(AOT)บริษัทบางจากปิโตรเลียม(BCP)บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีคัลไทย(TPI) บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น(SE-ED)และบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น(CP7-11)
สำหรับหุ้นที่ถือก่อนหน้านี้และได้ขายออกไปแล้ว ประกอบด้วย บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ (MATCH)บริษัทซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์(CMO) บริษัท อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น(SORKON) บริษัท เอ็ม.วี.ที. คอมมิวนิเคชั่น (CMVT)บริษัท อาร์ ซี แอล(RCL)บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง(THANI)บริษัท แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์(LPN)
เสี่ยปู่กล่าวว่า การเลือกขายหุ้นจะพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทนั้น ๆ หากเห็นว่ามีแนวโน้มการทำกำไรลดลง หรือกำไรวูบวาบ ก็จะขายหุ้นออกไป โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ส่วนหุ้นที่ถือลงทุนระยะยาว จะเป็นหุ้นที่ผลประกอบการดีต่อเนื่อง ราคาไม่สูง และผลตอบแทนจากเงินลงทุนดี
"หุ้น RCL ผมขายออกไปหมดแล้ว แม้ว่าผลประกอบการบริษัทจะดี แต่ไม่แน่ใจบริษัทใหม่ ๆ เข้ามาแข่งราคาเฟด (อัตราค่าขนส่งทางตู้คอนเทนเนอร์) แล้วทำให้ราคาเฟดตก" นักลงทุนรายใหญกล่าว
เสี่ยปู่ กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นขณะนี้มีโอกาสปรับตัวลงได้อีกจากแรงขายของต่างชาติ โดยจะถือจังหวะช่วงนี้ปรับพอร์ต เก็บหุ้นดี ๆ ที่ราคาปรับตัวลงมา เพิ่มอีก 4-5 บริษัท
สำหรับมูลค่าหุ้นที่ลงทุนทั้งหมดได้ปรับตัวมากขึ้นจากปลายปีมากกว่า 10% ของเงินลงทุนแม้ว่าภาวะตลาดจะเจอกับปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ราคาน้ำมันแพง และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากหุ้นที่ลงทุน เช่น MINT และ MINOR ที่ราคาปรับตัวขึ้นมาก--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
Source - โพสต์ทูเดย์
Saturday, May 20, 2006 10:51
มองโต-เป้าถือหุ้น15% เล็งจังหวะซื้ออีก4-5ตัว หุ้นอาหารหนุนพอร์ตโต
โพสต์ทูเดย์-"เสี่ยปู่" เทหมดหน้าตักเก็บหุ้นปริญสิริเพิ่มยอดถือหุ้นพุ่งเป็น 10% ตั้งเป้าเก็บถึง 15% เล็งเก็บหุ้น 4-5 ตัว หากราคาลงมาต่ำ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
รายงานแบบการได้มาและจำหน่ายหลักทรัพย์(แบบ 246-4)ว่า นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ได้ซื้อหุ้นบริษัท ปริญสิริ(PRIN)เพิ่มจำนวน 147 ล้านหุ้น หรือ 0.22% จากเดิมที่ถืออยู่ 65.926 ล้านหุ้น หรือ 9.84% รวมถือหุ้น 67.90 ล้านหุ้น หรือ 10.14% โดยราคาสูงสุดที่ได้มาอยู่ที่ 3.28 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2549
สำหรับนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เป็นนักลงทุนรายใหญ่ เจ้าของฉายา"เสี่ยปู่" นิยมลงทุนหุ้นพื้นฐานดี และถือลงทุนระยะยาว โดยหุ้นแต่ละตัวที่ลงทุนจะถือจำนวนมาก สัดส่วนไม่ต่ำกว่า 5% ของทุนจะทะเบียน
"เสี่ยปู่"เปิดเผยถึงการเข้าถือหุ้น PRIN 10%เศษ เนื่องจากเห็นว่าเป็นบริษัทที่มีการเติบโตของกำไรดีต่อเนื่อง และคาดว่าปีนี้จะกำไร 60 สตางค์ต่อหุ้น โดย PRIN เปิดโครงการปีนี้จำนวนมากและขายได้ เพราะสร้างบ้านราคาถูกและสวยครองตลาดบ้านราคาถูกได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้บริษัทยังเริ่มทำคอนโดมิเนียม เพิ่มรายได้เข้ามา
"คิดว่าราคาหุ้น PRIN ไม่แพง หรือ 2 เท่าเศษ ของราคาพาณ์ 1 บาท เป็นหุ้นอนาคตดี ถ้าผมมีเงินจะเก็บเพิ่ม หวังไว้ 15% เป็นการถือลงทุน ไม่คิดทำราคา และไม่คิดร่วมเป็นกรรมการ เพราะผู้บริหารทำได้ดีอยู๋แล้ว" เสี่ยปู่กล่าว
นักลงทุนรายใหญ กล่าวว่า นอกจากหุ้นปริญสิริแล้ว ยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่ซื้อลงทุน ประกอบด้วย บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น(ประเทศไทย)(SIS),บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์(RPC)บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท(S&P) บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT)บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น(MINOR)บริษัทอิออน ธนสินทรัพย์(ไทยแลนด์)หรือAEONTS บริษัทท่าอากาศยานไทย(AOT)บริษัทบางจากปิโตรเลียม(BCP)บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีคัลไทย(TPI) บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น(SE-ED)และบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น(CP7-11)
สำหรับหุ้นที่ถือก่อนหน้านี้และได้ขายออกไปแล้ว ประกอบด้วย บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ (MATCH)บริษัทซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์(CMO) บริษัท อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น(SORKON) บริษัท เอ็ม.วี.ที. คอมมิวนิเคชั่น (CMVT)บริษัท อาร์ ซี แอล(RCL)บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง(THANI)บริษัท แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์(LPN)
เสี่ยปู่กล่าวว่า การเลือกขายหุ้นจะพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทนั้น ๆ หากเห็นว่ามีแนวโน้มการทำกำไรลดลง หรือกำไรวูบวาบ ก็จะขายหุ้นออกไป โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ส่วนหุ้นที่ถือลงทุนระยะยาว จะเป็นหุ้นที่ผลประกอบการดีต่อเนื่อง ราคาไม่สูง และผลตอบแทนจากเงินลงทุนดี
"หุ้น RCL ผมขายออกไปหมดแล้ว แม้ว่าผลประกอบการบริษัทจะดี แต่ไม่แน่ใจบริษัทใหม่ ๆ เข้ามาแข่งราคาเฟด (อัตราค่าขนส่งทางตู้คอนเทนเนอร์) แล้วทำให้ราคาเฟดตก" นักลงทุนรายใหญกล่าว
เสี่ยปู่ กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นขณะนี้มีโอกาสปรับตัวลงได้อีกจากแรงขายของต่างชาติ โดยจะถือจังหวะช่วงนี้ปรับพอร์ต เก็บหุ้นดี ๆ ที่ราคาปรับตัวลงมา เพิ่มอีก 4-5 บริษัท
สำหรับมูลค่าหุ้นที่ลงทุนทั้งหมดได้ปรับตัวมากขึ้นจากปลายปีมากกว่า 10% ของเงินลงทุนแม้ว่าภาวะตลาดจะเจอกับปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ราคาน้ำมันแพง และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากหุ้นที่ลงทุน เช่น MINT และ MINOR ที่ราคาปรับตัวขึ้นมาก--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
โพสต์ที่ 2
สงสัยว่า หุ้นแต่ละตัวที่เสี่ยปู่เก็บ เสี่ยปู่เอาเงินจากไหนมามากมายมารับตลอดเลย? อย่าง PRIN ถ้าเท่าที่อ่านจากข่าว ราคาที่แกซื้อช่วง มีนา ก็ เกิน 3.2 บาท ตอนนี้หุ้น 3 บาท ก็ยังขาดทุนอยู่เลย
กรณี Match ก็จำได้ว่า แกเก็บตั้งแต่ตอนปี 46 ซึ่งราคาหุ้นหลัง ปี46 ก็เห็นๆกันอยู่ว่า รูดมโหฬาร
MFEC ก็จำได้ว่า เสี่ยแกถือเยอะ หุ้นก็ ลงๆ เอาซะอีก
RPC ตอนที่มีข่าวว่าแกสนใจและมีรายงานว่าแกซื้อไป 5% ราคาก็แพงกว่าตอนนี้
สงสัยว่าทำไม หุ้นที่เสี่ยปู่ซื้อส่วนใหญ่ไม่ค่อย perform เลย ? แล้วแกเอาเงินจากไหนมากมายมา ซื้อหุ้น เหมือนๆติดหุ้นเนี่ย
กรณี Match ก็จำได้ว่า แกเก็บตั้งแต่ตอนปี 46 ซึ่งราคาหุ้นหลัง ปี46 ก็เห็นๆกันอยู่ว่า รูดมโหฬาร
MFEC ก็จำได้ว่า เสี่ยแกถือเยอะ หุ้นก็ ลงๆ เอาซะอีก
RPC ตอนที่มีข่าวว่าแกสนใจและมีรายงานว่าแกซื้อไป 5% ราคาก็แพงกว่าตอนนี้
สงสัยว่าทำไม หุ้นที่เสี่ยปู่ซื้อส่วนใหญ่ไม่ค่อย perform เลย ? แล้วแกเอาเงินจากไหนมากมายมา ซื้อหุ้น เหมือนๆติดหุ้นเนี่ย
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
โพสต์ที่ 3
ผมว่าการลงทุนของนักลงทุนรายใหญ่บางคนที่ประสบความสำเร็จในการลงทุน เราน่าจะดูถึงวิธีการคัดเลือกหุ้น แนวทางการซื้อและขายหุ้นของเขา
อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้ว่าเขาถือหุ้นอะไรอยู่
ก็น่าจะเริ่มศึกษาดุว่าหุ้นเหล่านั้นที่เขาถือมันดีจริงเหมือนทีเขาพูดหริอไม่
ผมเชื่อว่าไม่ใข่หุ้นทุกตัวที่เขาลงทุนจะประสบความสำเร็จทั้งหมด เหมือนที่ปีเตอร์ลินซ์ ที่เล่าประสบการณ์ลงทุนก็มีทั้งกำไรมากและขาดทุนหนักเหมือนกันครับ
ผมว่าเราน่าจะลองแกะลอยดูศึกษาหุ้นพื้นฐานเหล่านี้ดูซะหน่อย เผื่อในอนาคตจะได้รู้จักวิธีการคัดเลือกหุ้นเพื่อการลงทุนนะครับ โดยเริ่มศึกษาอย่างละเอียดไปทีละตัวก็ดี และดูว่า ตัวไหนเขาซื้อและเขาขายด้วยเหตุผลอะไรก็ดีนะครับ ได้ความรู้เชิงปฏิบัติเพิ่มขึ้น แถมทำให้เข้าใจธุรกิจที่เขาลงทุนด้วยครับ น่าจะสนุกดี
อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้ว่าเขาถือหุ้นอะไรอยู่
ก็น่าจะเริ่มศึกษาดุว่าหุ้นเหล่านั้นที่เขาถือมันดีจริงเหมือนทีเขาพูดหริอไม่
ผมเชื่อว่าไม่ใข่หุ้นทุกตัวที่เขาลงทุนจะประสบความสำเร็จทั้งหมด เหมือนที่ปีเตอร์ลินซ์ ที่เล่าประสบการณ์ลงทุนก็มีทั้งกำไรมากและขาดทุนหนักเหมือนกันครับ
ผมว่าเราน่าจะลองแกะลอยดูศึกษาหุ้นพื้นฐานเหล่านี้ดูซะหน่อย เผื่อในอนาคตจะได้รู้จักวิธีการคัดเลือกหุ้นเพื่อการลงทุนนะครับ โดยเริ่มศึกษาอย่างละเอียดไปทีละตัวก็ดี และดูว่า ตัวไหนเขาซื้อและเขาขายด้วยเหตุผลอะไรก็ดีนะครับ ได้ความรู้เชิงปฏิบัติเพิ่มขึ้น แถมทำให้เข้าใจธุรกิจที่เขาลงทุนด้วยครับ น่าจะสนุกดี
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
โพสต์ที่ 5
รออยู่นานว่าเมื่อไรตลาดจะอัพเดทรายชื่อผู้ถือหุ้น iTV แต่ก็ไม่เห็นสักที จะได้รู้ว่า 8.3 ล้านหุ้นที่เสี่ยปู่ซื้อไว้ที่ 9 บาทกว่า ตอนนี้ยังอยู่หรือเปล่า :?:
ผมเริ่มมีคำอธิบายแล้วว่าทำไมหุ้นบางตัว (ส่วนใหญ่ไม่ใช่หุ้นตัวที่ใหญ่มากๆ) ถึงได้มีราคาตลาดยืนสูงอยู่ได้ตลอดเวลาอย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกับสมัยก่อนที่ iTV ราคา 30 บาท คือถ้าขาใหญ่เขามาเก็บหุ้นเหล่านี้ที float จะหายไปเยอะเลย ทำให้ราคายืนสูงตลอดเวลา แล้วบางทีเวลาเห็นบางตัวราคาตกเอาตกเอาอย่างรวดเร็วโดยไม่มีข่าวรองรับ ก็คงเพราะขาใหญ่เขาเปลี่ยนตัวเล่นนั่นแหละ
ผมเริ่มมีคำอธิบายแล้วว่าทำไมหุ้นบางตัว (ส่วนใหญ่ไม่ใช่หุ้นตัวที่ใหญ่มากๆ) ถึงได้มีราคาตลาดยืนสูงอยู่ได้ตลอดเวลาอย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกับสมัยก่อนที่ iTV ราคา 30 บาท คือถ้าขาใหญ่เขามาเก็บหุ้นเหล่านี้ที float จะหายไปเยอะเลย ทำให้ราคายืนสูงตลอดเวลา แล้วบางทีเวลาเห็นบางตัวราคาตกเอาตกเอาอย่างรวดเร็วโดยไม่มีข่าวรองรับ ก็คงเพราะขาใหญ่เขาเปลี่ยนตัวเล่นนั่นแหละ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
โพสต์ที่ 6
คืนหนึ่ง ณ ร้าน acoutic หลังสวน ไม่นานนี้ ซึ่งเสียปู่เป็นเจ้าของร้าน ประมาณ ตีสอง ผมก็เลยเดินเลียบๆเคียงๆ ไปนั่งฟังเสี่ยปู่ คุยกับอีกเสี่ย เหอๆ เราไม่ใช่เสี่ย ฟังเฉยๆ
พอมีจังหวะเลยถามนิดนึง เกียวกับ อิออน ว่าพี่ปู่ ถือไว้เหรอ แกกว่าจะตอบ สายตาก็ครุ่นคิดเล็กน้อย ในตาเหมือนมีรอยยิ้ม เล็กๆ แล้วบอกว่า ผมเคยถือ 3 ล้านหุ้น แล้วขายไป 1 ล้านหุ้น
แต่ ก็แปลกนะ มีกองทุนต่างประเทศมาติดต่อ แล้วให้กำไร 20-30 % จากราคาตลาด ณ ปัจจุบัน
บทสนทนาหยุด เพราะผมไม่ได้ถามต่อ และแกก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ลากลับ
อืม สงสัยเรียนจากเสี่ยปู่นี่ ถ้าจะยาก พูดน้อยจัง ไปเรียนจากดร.นิเวศน์ดีกว่า นะ หรือไม่ก็ท่าน สุมาอี้ ท่านวิบูลย์ แถวๆนี่แหละ
อิอิ
พอมีจังหวะเลยถามนิดนึง เกียวกับ อิออน ว่าพี่ปู่ ถือไว้เหรอ แกกว่าจะตอบ สายตาก็ครุ่นคิดเล็กน้อย ในตาเหมือนมีรอยยิ้ม เล็กๆ แล้วบอกว่า ผมเคยถือ 3 ล้านหุ้น แล้วขายไป 1 ล้านหุ้น
แต่ ก็แปลกนะ มีกองทุนต่างประเทศมาติดต่อ แล้วให้กำไร 20-30 % จากราคาตลาด ณ ปัจจุบัน
บทสนทนาหยุด เพราะผมไม่ได้ถามต่อ และแกก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ลากลับ
อืม สงสัยเรียนจากเสี่ยปู่นี่ ถ้าจะยาก พูดน้อยจัง ไปเรียนจากดร.นิเวศน์ดีกว่า นะ หรือไม่ก็ท่าน สุมาอี้ ท่านวิบูลย์ แถวๆนี่แหละ
อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
โพสต์ที่ 7
การติดตามดูวิธีการซื้อขายหุ้นรายใหญ่ ก็ถือว่าหุ้นที่เขาถือจำนวนมาก เป็น Watch List ที่ต้องเฝ้าดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งถ้ามาซื้อหุ้นตัวเดียวกับที่เราถือ เรายิ่งต้องเฝ้าติดตามดูอย่างระมัดระวังครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นหุ้นที่มี Free Float น้อย สภาพคล่องไม่มาก และมีผู้เล่นในตลาดไม่มาก ครับ
มีเซียนหุ้นคนหนึ่ง เคยให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า
เวลาที่เราไปเห็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางคนถือหุ้นบางตัวจำนวนมาก ๆ นั้นให้ลองวิเคราะห์ว่า
อาจจำเป็นต้องถือหุ้นตัวนั้นอยู่ เพราะยังหาคนต่อยอดไม่ได้ หรือพูดง่าย ๆ คือ ติดดอยอยู่เหมือนกัน กำลังหาทางลงอยู่ ดังนั้น
หรือเก็บหุ้นจำนวนมากไว้ เพราะหวังลงทุนระยะกลางหรือระยะยาวจริง ๆ
เพราะหุ้นที่เขา Trading จริง ๆ จะไม่มีหุ้นตัวนั้นปรากฏใน Port เพราะซื้อขายรายวันทำกำไรไปเรียบร้อยแล้วครับ
ปีเตอร์ ลินซ์ สมัยบริหารกองทุนนั้น
ตอน Port เล็ก ๆ ก็มีหุ้นจำนวนมาก และหมุนเวียนหุ้นเป็นว่าเล่นเหมือนกัน เนื่องจากปีเตอร์ ลินซ์ พอไปศึกษาหุ้นบางตัวที่น่าสนใจแต่เงินหมด ก็ต้องหาทางระบายหุ้นบางตัวใน Port ที่เห็นว่าเด่นน้อยกว่าหุ้นที่จะซื้อใหม่เป็นต้น และช่วงที่ลำบากที่สุดของปีเตอร์ ลินซ์ ก็คือ ตอนช่วงที่มี Port ลงทุนขนาดเล็ก และ ดัชนี ดาวน์โจนส์ไม่ค่อยเป็นใจคืออยู่ระหว่างตกต่ำมาก ทำให้มีผู้ถอนเงินจากกองทุนเปิดที่เขาบริหารอยู่จำนวนมาก ทำให้เขาต้องบริหาร Port แบบหมุนเวียนหุ้นบ่อยครั้ง เพื่อรักษาสภาพคล่องของกองทุน พร้อมกับต้องหาทางเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนเพื่อเอาขนะดัขนีตลาดครับ ทำให้เขาต้องทำการบ้านอย่างหนัก จนผมขาวโพนไปหมดครับ 8) และ หุ้นส่วนใหญ่ที่ ปีเตอร์ ลินซ์ถือยาวจริง ๆ ที่อ่านดูมักจะเป็นหุ้นค้าปลีก ที่มีเครือข่ายมาก ส่วนหุ้นที่ทำกำไรใน Port มากคือหุ้น วัฏจักร หุ้น Turnaround และหุ้นโตเร็ว
ดังนั้น เวลานักลงทุนรายใหญ่ถือหุ้นตัวใดจำนวนมาก เราต้องวิเคระห์มุมนี้ให้ออกว่า เขาต้องการลงทุนระยะยาวหรือระยะสั้น
ถ้าระยะสั้นแล้วเราไปต่อยอด พอราคาเขาถึงเป้าหมายเขาก็ขายของได้สะดวก ได้ราคา และพ้นทุกข์ แต่เราไปต่อยอดเราก็เป็นทุกข์แทน
แต่ถ้าเป็นการลงทุนระยะยาวต่อเนื่อง แถมเราไปดูการจ่ายปันผลและการเติบโตของหุ้นย้อนหลังหลาย ๆ ปี ก็เติบโตต่อเนื่อง แบบนี้เราก็อาจวิเคราะห์ได้ว่า หุ้นกลุ่มนี้ของเขาคงน่าจะลงทุนระยะยาวเพื่อเก็บเกี่ยวปันผลและส่วนต่างราคาระยะยาวครับ
ที่ต้องเป็น Watch List ก็เพราะว่าการขับเคลื่อนของการซื้อขายของรายใหญ่แต่ละครั้ง ค่อนข้างจะกระทบกับราคาตลาดอย่างมากโดยเฉพาะราคาตลาดระยะสั้น จึงต้องวิเคราะห์ให้ออก หากจะต้องถือหุ้นที่รายใหญ่เหล่านี้เขาถืออยู่ครับ ซึ่งรายใหญ่ก็เป็น ผู้เล่นหนึ่ง เหมือนกับ กองทุน และต่างชาติครับ ซึ่งมีลักษณะของการลงทุนที่แตกต่างกันครับ เหมือนกับหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา เวลาที่ต่างชาติขับเคลื่อนที ตลาดก็ปั่นป่วนไปหมดครับ
มีเซียนหุ้นคนหนึ่ง เคยให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า
เวลาที่เราไปเห็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางคนถือหุ้นบางตัวจำนวนมาก ๆ นั้นให้ลองวิเคราะห์ว่า
อาจจำเป็นต้องถือหุ้นตัวนั้นอยู่ เพราะยังหาคนต่อยอดไม่ได้ หรือพูดง่าย ๆ คือ ติดดอยอยู่เหมือนกัน กำลังหาทางลงอยู่ ดังนั้น
หรือเก็บหุ้นจำนวนมากไว้ เพราะหวังลงทุนระยะกลางหรือระยะยาวจริง ๆ
เพราะหุ้นที่เขา Trading จริง ๆ จะไม่มีหุ้นตัวนั้นปรากฏใน Port เพราะซื้อขายรายวันทำกำไรไปเรียบร้อยแล้วครับ
ปีเตอร์ ลินซ์ สมัยบริหารกองทุนนั้น
ตอน Port เล็ก ๆ ก็มีหุ้นจำนวนมาก และหมุนเวียนหุ้นเป็นว่าเล่นเหมือนกัน เนื่องจากปีเตอร์ ลินซ์ พอไปศึกษาหุ้นบางตัวที่น่าสนใจแต่เงินหมด ก็ต้องหาทางระบายหุ้นบางตัวใน Port ที่เห็นว่าเด่นน้อยกว่าหุ้นที่จะซื้อใหม่เป็นต้น และช่วงที่ลำบากที่สุดของปีเตอร์ ลินซ์ ก็คือ ตอนช่วงที่มี Port ลงทุนขนาดเล็ก และ ดัชนี ดาวน์โจนส์ไม่ค่อยเป็นใจคืออยู่ระหว่างตกต่ำมาก ทำให้มีผู้ถอนเงินจากกองทุนเปิดที่เขาบริหารอยู่จำนวนมาก ทำให้เขาต้องบริหาร Port แบบหมุนเวียนหุ้นบ่อยครั้ง เพื่อรักษาสภาพคล่องของกองทุน พร้อมกับต้องหาทางเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนเพื่อเอาขนะดัขนีตลาดครับ ทำให้เขาต้องทำการบ้านอย่างหนัก จนผมขาวโพนไปหมดครับ 8) และ หุ้นส่วนใหญ่ที่ ปีเตอร์ ลินซ์ถือยาวจริง ๆ ที่อ่านดูมักจะเป็นหุ้นค้าปลีก ที่มีเครือข่ายมาก ส่วนหุ้นที่ทำกำไรใน Port มากคือหุ้น วัฏจักร หุ้น Turnaround และหุ้นโตเร็ว
ดังนั้น เวลานักลงทุนรายใหญ่ถือหุ้นตัวใดจำนวนมาก เราต้องวิเคระห์มุมนี้ให้ออกว่า เขาต้องการลงทุนระยะยาวหรือระยะสั้น
ถ้าระยะสั้นแล้วเราไปต่อยอด พอราคาเขาถึงเป้าหมายเขาก็ขายของได้สะดวก ได้ราคา และพ้นทุกข์ แต่เราไปต่อยอดเราก็เป็นทุกข์แทน
แต่ถ้าเป็นการลงทุนระยะยาวต่อเนื่อง แถมเราไปดูการจ่ายปันผลและการเติบโตของหุ้นย้อนหลังหลาย ๆ ปี ก็เติบโตต่อเนื่อง แบบนี้เราก็อาจวิเคราะห์ได้ว่า หุ้นกลุ่มนี้ของเขาคงน่าจะลงทุนระยะยาวเพื่อเก็บเกี่ยวปันผลและส่วนต่างราคาระยะยาวครับ
ที่ต้องเป็น Watch List ก็เพราะว่าการขับเคลื่อนของการซื้อขายของรายใหญ่แต่ละครั้ง ค่อนข้างจะกระทบกับราคาตลาดอย่างมากโดยเฉพาะราคาตลาดระยะสั้น จึงต้องวิเคราะห์ให้ออก หากจะต้องถือหุ้นที่รายใหญ่เหล่านี้เขาถืออยู่ครับ ซึ่งรายใหญ่ก็เป็น ผู้เล่นหนึ่ง เหมือนกับ กองทุน และต่างชาติครับ ซึ่งมีลักษณะของการลงทุนที่แตกต่างกันครับ เหมือนกับหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา เวลาที่ต่างชาติขับเคลื่อนที ตลาดก็ปั่นป่วนไปหมดครับ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
โพสต์ที่ 8
สงสัยเสี่ยท่าน
คงจะแวะมาอ่านกระทู้แถวนี้บ่อย
เลยลองถือยาว
เลยลืมขาย
แต่ผมมีข้อโต้แย้ง
ท่านขาย สอขอนแก่น ตอนผลประกอบการดี แต่ประกาศเพิ่มทุน
เอ็มเอฟอีซี ผลประกอบการตกต่ำลง
แต่ท่านรอขายแต่ไม่ยอมพูดถึงนะ
บางครั้งคนเราบางคนบางครั้ง
ก็อยากเอาชนะหุ้น ยันราคาไม่ให้ลงหุ้นที่ตัวเองถือน่ะ
ยังไงก็ขอแสดงความนับถือเสี่ย ที่มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ นับถือเงินท่านที่มีมากว่าผมล่ะครับ
คงจะแวะมาอ่านกระทู้แถวนี้บ่อย
เลยลองถือยาว
เลยลืมขาย
แต่ผมมีข้อโต้แย้ง
ท่านขาย สอขอนแก่น ตอนผลประกอบการดี แต่ประกาศเพิ่มทุน
เอ็มเอฟอีซี ผลประกอบการตกต่ำลง
แต่ท่านรอขายแต่ไม่ยอมพูดถึงนะ
บางครั้งคนเราบางคนบางครั้ง
ก็อยากเอาชนะหุ้น ยันราคาไม่ให้ลงหุ้นที่ตัวเองถือน่ะ
ยังไงก็ขอแสดงความนับถือเสี่ย ที่มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ นับถือเงินท่านที่มีมากว่าผมล่ะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
โพสต์ที่ 9
เรียน พี่ปรัชญา ครับ
ผมจึงเชื่อว่า การที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่มีหุ้นอยู่ใน Port จำนวนมาก จึงไม่ใช่หุ้นที่เราต้องสนใจลงทุนตาม
แต่เป็น Watch list ที่เราต้องระมัดระวัง และคัดเลือกการลงทุนเป็นพิเศษ
เพื่อไม่ให้เข้าไปซื้อหุ้น แบบที่ 2 ไปต่อยอด โดยเรารับความทุกข์นั้นมาแทน
ขอบคุณความเห็นของพี่ปรัชญา ปรมาจารย์หุ้นท่านหนึ่งที่ติดตามอ่านข้อคิดเห็นมาโดยตลอดครับ
แบบนี้ เราก็จับพฤติกรรมบางอย่างของเขาได้ครับ แม้หุ้นที่ผลประกอบการดี มีกำไร แต่หากมีการเพิ่มทุน ซึ่งอาจมีผลกระทบกับ Dillution Effect หรือเขาต้องเพิ่มเงินในการลงทุนเพิ่ม ถ้าราคาที่เขาถือน่าจะมีกำไรพอควร เขาก็คงขายเพราะไม่อยากลงทุนเพิ่มครับท่านขาย สอขอนแก่น ตอนผลประกอบการดี แต่ประกาศเพิ่มทุน
ตรงนี้ก็ตรงใจผมเลยครับ เพราะการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ยังถือหุ้นบางตัว แม้ผลประกอบการย่ำแย่ แต่ยังฝืนเอาชนะหุ้นที่ตนเองคิดว่าดีอยู่ ก็ไม่ปล่อยให้มันลงตามพื้นฐานมัน แต่ต้องการพิสูจน์ว่า ตนเองนั้นคิดถูกเอ็มเอฟอีซี ผลประกอบการตกต่ำลง
แต่ท่านรอขายแต่ไม่ยอมพูดถึงนะ
บางครั้งคนเราบางคนบางครั้ง
ก็อยากเอาชนะหุ้น ยันราคาไม่ให้ลงหุ้นที่ตัวเองถือน่ะ
ผมจึงเชื่อว่า การที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่มีหุ้นอยู่ใน Port จำนวนมาก จึงไม่ใช่หุ้นที่เราต้องสนใจลงทุนตาม
แต่เป็น Watch list ที่เราต้องระมัดระวัง และคัดเลือกการลงทุนเป็นพิเศษ
เพื่อไม่ให้เข้าไปซื้อหุ้น แบบที่ 2 ไปต่อยอด โดยเรารับความทุกข์นั้นมาแทน
ขอบคุณความเห็นของพี่ปรัชญา ปรมาจารย์หุ้นท่านหนึ่งที่ติดตามอ่านข้อคิดเห็นมาโดยตลอดครับ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
โพสต์ที่ 10
[quote="thawattt"]เรียน พี่ปรัชญา ครับ
แบบนี้ เราก็จับพฤติกรรมบางอย่างของเขาได้ครับ แม้หุ้นที่ผลประกอบการดี มีกำไร แต่หากมีการเพิ่มทุน ซึ่งอาจมีผลกระทบกับ Dillution Effect หรือเขาต้องเพิ่มเงินในการลงทุนเพิ่ม ถ้าราคาที่เขาถือน่าจะมีกำไรพอควร เขาก็คงขายเพราะไม่อยากลงทุนเพิ่มครับ
สวัสดีครับคุณ hawattt
จริงตามที่เขียนมาครับ แต่ก็สงสัญญาณว่าท่านไม่ได้ยึดถือ
ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัทที่กำลังถืออยู่
แต่เป็นการรอโอกาสขาย เหมือนติดหุ้นนั่นล่ะครับ
[quote]เอ็มเอฟอีซี
แบบนี้ เราก็จับพฤติกรรมบางอย่างของเขาได้ครับ แม้หุ้นที่ผลประกอบการดี มีกำไร แต่หากมีการเพิ่มทุน ซึ่งอาจมีผลกระทบกับ Dillution Effect หรือเขาต้องเพิ่มเงินในการลงทุนเพิ่ม ถ้าราคาที่เขาถือน่าจะมีกำไรพอควร เขาก็คงขายเพราะไม่อยากลงทุนเพิ่มครับ
สวัสดีครับคุณ hawattt
จริงตามที่เขียนมาครับ แต่ก็สงสัญญาณว่าท่านไม่ได้ยึดถือ
ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัทที่กำลังถืออยู่
แต่เป็นการรอโอกาสขาย เหมือนติดหุ้นนั่นล่ะครับ
[quote]เอ็มเอฟอีซี
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
พอร์ตหุ้นของ เสียปู่
โพสต์ที่ 13
ระหว่างเสี่ยปู่กับดร.นิเวศน์ถ้านับจำนวนเงินเริ่มต้นเท่าๆกัน ใช้เวลาลงทุนเท่าๆกัน ใครชนะครับ.........สำหรับนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เป็นนักลงทุนรายใหญ่ เจ้าของฉายา"เสี่ยปู่" นิยมลงทุนหุ้นพื้นฐานดี และถือลงทุนระยะยาว โดยหุ้นแต่ละตัวที่ลงทุนจะถือจำนวนมาก สัดส่วนไม่ต่ำกว่า 5% ของทุนจะทะเบียน
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด