The Long Tail ไม่ใช่เรือหางยาว
ใครที่เป็นแฟนคอลัมน์อ.วรากรณ์ สามโกเศศ คงเคยได้ยินคำนี้กันมาบ้างเพราะเคยถูกนำมาอรรถาธิบายให้ทราบกันมาสักระยะแล้ว
The Long Tail เป็นศัพท์(ค่อนข้าง)ใหม่ที่บัญญัติขึ้นมาอย่างน้อยสามสี่ปีมาแล้วโดยนาย Chris Andersen คนเขียนหนังสือเล่มนี้นั่นเอง Chris Andersen เป็นบรรณาธิการนิตยสาร Wired ในอเมริกา รวมทั้งเคยเป็นนักข่าวให้กับ The Economist อันเลื่องชื่อ อยู่หลายปี
The Long Tail ก็คือปรากฏการณ์ที่ รสนิยมเฉพาะกลุ่มอันหลากหลายอย่างที่ศัพท์ทางการตลาดเรียกกันว่า Niche Market มีความสำคัญยิ่งขึ้นๆ อันเนื่องมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหลายอย่างช่วยทำให้รสนิยมเฉพาะกลุ่มเหล่านี้มีโอกาสได้ผุดได้เกิดขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คงเป็นร้านหนังสือซึ่งปรกติร้านหนังสือระดับซุปเปอร์สโตร์ในอเมริกา สต๊อกหนังสือได้ระดับแสนเล่มก็หรูแล้ว แต่การก่อกำเนิดเกิดขึ้นของ Amazon.com ทำให้หนังสือประเภทที่ขายได้ไม่มาก มีโอกาสได้ผุดได้เกิด (เพราะถ้าเป็นร้านหนังสือแบบดั้งเดิม เค้าจะไม่เอาหนังสือประเภทนี้ไปไว้ในร้านเด็ดขาดเพราะมีค่าเสียโอกาสสูง) ตัวอย่างอื่นก็เช่น Ebay ซึ่งขายของอิเหละเขละขละไปหมด ของที่เราๆเห็นว่ามันจะมีคนซื้อกันได้ยังไง เช่นกล่องนมตาหมีใช้แล้ว ก็ยังมีขายในอีเบย์ ฯลฯ
นายคริสแกพบว่า ไอ้พวกของเหล่านี้นั้น หากนับรวมกันเข้าจริงๆ นับเป็นปริมาณมหาศาลแทบจะเทียบเท่ากับพวกยอดนิยม ("Hits") The Long Tail นั้นพูดอีกนัยหนึ่งกำลังเปลี่ยนสังคมจาก The culture of Hits ให้มาเป็น The culture of niches มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ตัวอย่างผมคิดว่าเห็นได้ชัดขึ้นในบ้านเราก็คือกรณีวงการเพลง ซึ่งเมื่อก่อนพี่เบิร์ดบูมเมอแรง หรือพี่กี้ร์ใจไม่ด้านพอ ขายได้สองล้านตลับเป็นเรื่องชิวๆ แต่เดี๋ยวนี้มีวงหน้าใหม่ขายเทปได้สองสามหมื่นชุดเต็มไปหมด (ก็ดีใจกันใหญ่แล้ว)
จนถึงตรงนี้ใครไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนคงสงสัยว่าทำไมถึงเรียกว่า The Long Tail ขอให้นึกถึงวิชาสถิติ ที่มีกราฟกระจายตัวเป็นรูประฆังฟ่ำ เอ๊ย คว่ำ The Long Tail ก็คือปรากฏการณ์ที่มีหางของกราฟยาว เพราะว่ามี รสนิยมเฉพาะกลุ่มหลายหลายแต่ความถี่ค่อนข้างน้อยอยู่เต็มไปหมดนั่นเอง
(จากรูปข้างล่างนี้ก็คือพื้นที่ที่เป็นสีเหลือง)
ร้อยคนร้อยเล่ม: The Long Tail
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 102
- ผู้ติดตาม: 0
ร้อยคนร้อยเล่ม: The Long Tail
โพสต์ที่ 3
long tail คือหางของกราฟโค้งปกติในวิชาสถิติครับ
เมื่อก่อนหากจะหาฟังเพลงพวกเฉพาะกลุ่ม หรือหาฟังยากๆ หรือจะดูหนังติสต์ๆ ถ้าอยู่บ้านนอกก็จบกันเลยเพราะหาซื้อที่ออมก๋อยไม่ได้แน่
แต่ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เนตทำให้โลกของพวกรสนิยมส่วนน้อยในสังคมหาของพวกนี้เสพง่ายขึ้น อยู่ไกลแค่ไหนถ้าเน็ตไปถึง เราซื้อมันได้แน่นอน ส่วนฝั่งด้านคนขายก็สามารถเข้าถึงตลาดได้ทุกที่ในโลก เลิกง้อ Megastore บนโลกจริงซะที
เมื่อก่อนหากจะหาฟังเพลงพวกเฉพาะกลุ่ม หรือหาฟังยากๆ หรือจะดูหนังติสต์ๆ ถ้าอยู่บ้านนอกก็จบกันเลยเพราะหาซื้อที่ออมก๋อยไม่ได้แน่
แต่ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เนตทำให้โลกของพวกรสนิยมส่วนน้อยในสังคมหาของพวกนี้เสพง่ายขึ้น อยู่ไกลแค่ไหนถ้าเน็ตไปถึง เราซื้อมันได้แน่นอน ส่วนฝั่งด้านคนขายก็สามารถเข้าถึงตลาดได้ทุกที่ในโลก เลิกง้อ Megastore บนโลกจริงซะที