ถามอิกกับอิก 8 June 2021 20.30
วันนี้มาฟังมุมมองของ ดร นิเวศน์ ว่ามองหุ้นเวียดนามร่วงหนักหลังเพิ่งทำจุดสูงสุดใหม่อย่างไร
อจ นิเวศน์ บอกว่า อยากย้อนไปที่ตลาดหุ้นเวียดนาม ซึ่งเปิดตลาดหุ้นในปี 2000
จากดัชนี 100 จุดขึ้นไป 1,319 จุด ผลตอบแทนทบต้นเกือบ 15% ภายใน20ปี
ถ้ารวมปันผลก็เป็น 17% ขึ้นมา 13 เท่า
รอบนี้ขึ้นไปแตะ 1,400 จุด และลงมาแรง
เปรียบเทียบตลาดหุ้นไทย
ปี2518 เป็นปีแรกที่เปิดให้ซื้อขายหุ้นในไทย
SET ขึ้นไป20ปีแรก เท่ากับตลาดหุ้นเวียดนาม ประมาณ 1,200 จุด
แต่พอช่วงที่สอง ตลาดหุ้นไทยขึ้นจาก 1,320 ไปที่ 1,600จุด ใน 24 ปีหลัง
หุ้นขึ้นแค่ 320 จุด คิดเป็น 2-3 % ต่อปี
ถามว่า ตลาดหุ้นเวียดนามจะเหมือนตลาดหุ้นไทยในช่วงที่สองหรือไม่
ดร นิเวศน์ ไม่คิดว่า ตลาดหุ้นเวียดนามจะเหมือนกับตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทย ในช่วง20ปีที่สอง ไม่ค่อยผันผวน แกว่งตัวช้าๆ
แต่ก็มีหุ้นเล็กที่ผันผวนแรง ซึ่งนักลงทุนไทยเล่นอยู่
ตลาดหุ้นเวียดนาม หุ้นใหญ่มีคนเล่น โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร
ต้นปีจาก 1,100 จุดมาอยู่ที่ 1,300 แล้ว
ต่อจากนี้น่าคิด ตลาดหุ้นไทย ล้อไปกับ ศก ไทย ซึ่งโตช้า อีก1-2ปี ก็จะโต 3-4%
ศก ไทย หายไป 3 ปี แต่ ศก เวียดนาม ก็โตต่อใน3 ปีนี้ ปีนี้น่าจะโตไม่ต่ำกว่า 7%
เวียดนาม ศก ไม่อิงกับการท่องเที่ยวเหมือน ไทย แต่อิงกับการส่งออก
ศก ไทย อีก3ปี จะไปต่อไหม ก็เป็นคำถามที่น่าคิด
ส่วน ตลาดหุ้นเวียดนาม ไม่ห่วงว่าตอนนี้ดัชนีอยู่ระดับสูง ถ้าเทียบในอาเซียนจะต่ำที่สุด
ETF Diamond โตเร็วมาก บริษัทที่อยู่ในกองETF เป็น หุ้นTop ที่ต่างชาติที่ถือ เป็นหุ้นSuperstock
ปีนี้ ETF Diamond ขึ้นมาไม่น้อยกว่า 30-40% อจ นิเวศน์ก็พึ่งไปซื้อมา
ก่อนหน้านี้หุ้นไม่ขึ้น แต่ตอนนี้ นักลงทุนรายย่อยที่เวียดนาม 3 ล้านคนแล้ว
เล่นกันvolumn 30,000ลบต่อวัน แต่ต่างชาติขายหุ้นตลอดในช่วงนี้
รายย่อยเปิดบัญชีเดือนละแสนคน เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม
เวลารายย่อยมาเล่น ก็เหมือนสมัยก่อนของไทย เล่นหุ้นแบงค์
ซึ่งแต่ละแบงค์ ต่างคนก็ไม่ได้แข่งขันกันเหมือนเมืองไทย
แบงค์ก็โตเร็ว เพราะคนยังกู้แบงค์น้อย มีโอกาสเติบโตได้อีกเยอะ
รายย่อยที่เวียดนาม สนใจแต่หุ้นที่วิ่งเร็วๆ บริษัทเล็กๆมีเยอะ
อจ ลงทุนธนาคาร ที่ทำ consumer finance ลงทุนไม่นาน ราคาก็ขึ้นมา100%
แต่ไม่สามารถซื้อหุ้นได้เยอะ(น่าจะติดFL)
หลังๆ ถ้าจะซื้อหุ้นที่มีpremium ก็ซื้อผ่าน ETF Diamond
ดัชนีหุ้นเวียดนาม ถ้าเป็นทั้งตลาด คือ ดัชนี VN ตอนนี้1319 จุด,
VN30 1438 จุด(คล้ายSET50) ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมหุ้นขนาดใหญ่ 30ตัวแรก ในนั้นจะมีหุ้นแบงค์เยอะ
อจ บอกว่า ขาขึ้นของตลาดหุ้นเวียดนามรอบนี้ ขึ้นอย่างเดียวเลย
อจ บอกว่า หุ้นขึ้นเร็ว มาจากรายย่อยเป็นแรงผลักดัน แต่ก็มีอิงกับfundamental
แต่หุ้นที่เล่นไม่ใช่หุ้นกลุ่มนี้หมายถึงหุ้นพื้นฐาน แต่รายย่อยไปเล่นกลุ่มเหล็ก ยาง เป็นต้น
ดังนั้นหุ้นพื้นฐาน เช่น ACV ซึ่งเป็นหุ้นสนามบินคล้ายกับ AOT ในเมืองไทย
สนามบินเวียดนามในอนาคตจะโตมากกว่านี้ คนเวียดนามต้องเดินทางโดยเครื่องบิน
เพราะระยะจากเหนือไปใต้(Hojimin to Hanoi)ต่างกัน 2,000 กม
ส่วนถนน ที่อยู่นอกเมือง สถาพไม่ดี ใช้เวลาเยอะในการเดินทาง ต้องใช้เครื่องบินอย่างเดียว
การมองหุ้นเวียดนาม ให้เปรียบกับหุ้นในเมืองไทย เช่น
ธุรกิจห้างสรรพสินค้า Vincom เทียบกับ CPN
ธุรกิจสนามบิน ACV เทียบกับ AOT
ดูแล้วที่เวียดนาม มีmarket cap เล็กกว่าของไทยเยอะ
เพราะคนเวียดนามยังไม่รู้จักหุ้น Superstock เลยไม่เล่นกลุ่มนี้
ดังนั้นในตลาดหุ้นเวียดนาม โอกาสไม่ใช่แค่ดัชนีหุ้นขึ้นอย่างเดียว
แต่จะได้ประโยชน์จากการถือหุ้นsuperstockที่เวียดนาม
ตอนหุ้นไทย สมัยก่อนขึ้นเฉลี่ย 6%ต่อปี จากใน40กว่าปี
แต่คนที่ลงทุนแบบวีไอ จะได้กำไรมากกว่านี้เยอะ
กลุ่มProperty ก็น่าสนใจ กลุ่ม Vinhome ที่มีmarket capแสนล้าน
ตลาดหุ้นไทยสมัยก่อน กลุ่มproperty จะมาช่วงแรกๆ เช่น กลุ่มบางกอกแลนด์
เวียดนามก็คงคล้ายๆกัน จะมีผู้ชนะรายใหม่ๆของกลุ่มproperty หมุนเวียนกันไป
เป็นโอกาสของนักลงทุนแนววีไอที่ลงทุนหุ้นเวียดนาม
อจ ไม่มีเวลาในศึกษาหุ้นรายตัว
แต่เข้าใจตลาดหุ้นดีจากประสบการณ์การลงทุนที่ผ่านมาในตลาดหุ้นไทย
เลยเลือกหุ้นจากกลุ่มที่เคยขึ้นของเมืองไทย
หุ้นพลังงานที่ลงทุนไป เมืองไทยโตมาก แต่หุ้นที่เวียดนามไม่โต กลับจ่ายปันผลดี
อจ บอกว่า สู้ลงทุนในกลุ่มแบงค์ไม่ได้ มาเร็วกว่าเยอะ
เราไม่มีเวลา และไม่รู้จักหุ้นมากพอ ไม่ได้ไปเวียดนามหลายปี เลยไปลงทุนในETF Diamond
ตัวTopในport ก็เป็นตัวที่สนใจอยู่แล้ว เลยซื้อได้เยอะเลย
มุมมองของความเสี่ยงของตลาดหุ้นเวียดนาม
ตอนปี2018 คุณอิกบอกว่า ดัชนีก็เคยขึ้นสูงและตกลงมา ถามว่า ตอนนี้จะเหมือนกันไหม
อจ บอกว่า ปี2008 ตลาดหุ้นเวียดนามมีการreform ปฏิรูป เมื่อก่อน ไปซื้อหุ้น เอาเงินอัดกระเป๋าไปซื้อ
เพราะเงินเฟ้อสูง ยังมีกลิ่นอายของคอมมิวนิสต์
หลังปี2008 reform ค่าเงินเคยลด30% และค่าเงินเริ่มนิ่ง
รัฐต้องการส่งเสริมการลงทุน นโยบายเริ่มมีมาตรฐาน เงินเฟ้อ อยู่ 2-3% คล้ายเมืองไทยแล้ว
ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามขึ้นมาเยอะเลย ค่าเงินเริ่มstableมากขึ้น
จีนเมื่อก่อน ศก โตแบบ miracle รอบนี้ เวียดนามถือว่าเป็นstarเลย
การส่งออกของเวียดนามปีนึงมากกว่า 20,000 ล้าน มากกว่าเมืองไทยแล้ว
ภาคconsumerโตมาก หุ้น VRE โตไว (อจ ยังไม่ได้ซื้อ)
คนแน่นห้างเทียบกับ4ปีก่อน ไม่มีคนเดินเยอะ
หุ้นทุกSector มีโอกาสเติบโตสูง
Q&A
1.กังวลว่าเทคโนโลยีกำลังมา ทำให้หุ้นเวียดนามหมดเสน่ห์ในการลงทุนไหม
ตอบ เวียดนามสามารถอยู่กับold economyได้ ค่าแรงถูก
ยังไม่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆเลย ห้างยังเติบโตอีกเยอะ
ตลาดเสื้อผ้า ก็ยังเติบโตได้ ยังไม่มีธุรกิจไหนที่อิ่มตัว
ตอนอจ ออกไปตจว ไอศครีมยังเป็นยี่ห้อlocalเลย
ธุรกิจยังไม่ถึงระดับstandardระดับโลกเลย
2.ระหว่างหุ้นธนาคารเล็กที่ยังมีroomในการลงทุนกับธนาคารขนาดใหญ่ที่มีRoomอาจเต็ม
อจ เลือกกลุ่มไหนดีครับ
ตอบ เลือกหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ ที่มีmanagementดีๆ
เมืองไทยมีตัวอย่างเรื่องนี้ ถ้าบริหารไม่ดี ก็เจ๊งได้
แต่ต้องระวังว่า ให้ซื้อไว้ในพอร์ตระดับนึง แนะให้กระจายความเสี่ยง เช่น ลง VN30
เพราะธนาคารจะดีมากจนถึงวันนึงแล้วเจ๊งเลย ต้องระวัง
3. ETF Diamond มีเงินเข้ามาลงทุนเยอะจะเหมือน กองเทคโนโลยีที่สหรัฐซึ่งนิยมมากในช่วงต้นปี
และหลังจากนั้นราคาร่วงลงมาแรงไหม
ตอบ กองนี้มีหุ้นดีๆ 12ตัวเช่น หุ้นขายเครื่องใช้ไฟฟ้า
ตอนที่คนเข้ามาลงทุน ทำให้ราคาหุ้นในกองนี้ก็ขึ้นตามไปด้วย
แต่หุ้น12ตัวนี้ ก็ยังไม่แพง PE เฉลี่ยก็ยังไม่สูง
หุ้นเวียดนามมีความผันผวนสูง แต่ถ้าถือหุ้นในระยะยาวจะได้ผลตอบแทนดี
ถ้าต่างชาติเข้ามาเมื่อไหร่ หุ้นเวียดนามก็สามารถขึ้นได้อีก
4.ผู้ฟังถามว่า ถ้าเราคิดสวน เรื่องคนแห่ไปลงทุนในต่างประเทศกันเยอะ ลงทุนหุ้นไทยดีไหม
ตอบว่า ขนาดจำนวนเงินที่ไปลงทุนต่างประเทศ ก็ยังไม่เยอะ
และหุ้นไทย ก็มีการลงทุนต่อวันแสนล้านบาท
นาทีนี้ ถ้าบอกว่าลงทุนหุ้นเวียดนามเสี่ยง ตลาดหุ้นต่างประเทศและไทยเสี่ยงกว่า
ดังนั้นให้ดูภาพใหญ่ของบริษัท เช่น ถึงแม้เป็นold economy ก็ยังมีคนใช้บริการ
ให้ลงทุนและถือยาวไป
สุดท้ายขอขอบคุณ อจ นิเวศน์ และคุณอิก นะครับที่มาให้ความรู้และข้อคิดเห็นสำหรับ
ตลาดหุ้นเวียดนาม
มองหุ้นเวียดนามอย่างไรหลังจากทำจุดสูงสุดแล้วร่วงลง โดย ดร นิเวศน์
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0