MENA

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

MENA

โพสต์ที่ 1

โพสต์

"มีนาทรานสปอร์ต" เตรียมนำหุ้นเข้า SET ขาย IPO 184 ล้านหุ้น



ทันหุ้น-สู้โควิด : บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด(มหาชน) หรือ MENA มีแผนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 184 ล้านหุ้นหรือ 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต, สำหรับจ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ



มีนาทรานสปอร์ต ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถลากจูงหรือรถเทรลเลอร์ ให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ และการขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่อใช้ในการก่อสร้าง ได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าว โดยมีบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน



โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ จะมีครอบครัวขจรวุฒิเดช ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 93.9% แต่ภายหลังการขายหุ้น IPO สัดส่วนการถือหุ้นจะลดเหลือ 70.4% ขณะที่บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40%



สำหรับผลดำเนินงานของบริษัทในช่วงปี 2560-2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 698.8 ล้านบาท , 669.4 ล้านบาท และ 703.7 ล้านบาทตามลำดับ
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: MENA

โพสต์ที่ 2

โพสต์

MENA : บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน)
ประเภทธุรกิจ
ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถลากจูงหรือรถเทรลเลอร์ (Trailer) ให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) และการขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง
ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
กลุ่มอุตสาหกรรม / หมวดธุรกิจ บริการ / ขนส่งและโลจิสติกส์์
สถานะ Filing
จำนวนหุ้นที่ IPO
หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 184,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.1 ของทุนชำระแล้วหลัง IPO
ระยะเวลาเสนอขายหุ้น
n/a
ราคา IPO
n/a
ราคา PAR
0.50 บาท
วันที่เริ่มซื้อขาย n/a
ที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท ที่ปรึกษา เอเชีย พลัส จำกัด

ข้อมูล Filing
www.menatransport.co.th
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: MENA

โพสต์ที่ 3

โพสต์

https://market.sec.or.th/public/ipos/IP ... sID=308161

หนังสือชี้ชวนตราสารทุน
รายละเอียดตราสาร
ผู้ออกหลักทรัพย์ : บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน)
ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ : บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน)
วันที่ยื่น Filing version แรก : 18/09/2563
วันที่แก้ไข Filing ครั้งล่าสุด (วันที่นับ 1 Filing) : -
วันที่ Filing มีผลบังคับใช้ : -
วันที่เริ่มต้นการเสนอขาย : -
วันที่สิ้นสุดการเสนอขาย : -
ประเภทหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ
ประเภทการเสนอขาย : การเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน
ที่ปรึกษาทางการเงิน/ผู้ควบคุม : บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด / N.A.
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: MENA

โพสต์ที่ 4

โพสต์

“มีนาทรานสปอร์ต” ยื่นไฟลิ่งระดมทุน 184 ล้านหุ้น เข้า SET

21/09/2020 14:30มีนาทรานสปอร์ต

“มีนาทรานสปอร์ต” ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. ขาย IPO จำนวน 184 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ชูความเชี่ยวชาญในธุรกิจให้บริการรับส่งสินค้าด้วยรถลากจูงและรถผสมคอนกรีต ลูกค้ารายใหญ่เชื่อมั่น และขยายงานอย่างต่อเนื่องตามการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ให้บริการขนส่งคอนกรีตแก่ลูกค้าผู้ผลิตปูนแบรนด์ชั้นนำหลายบริษัท เตรียมนำเงินใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต คืนหนี้และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ตั้ง “ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


สุวรรณา ขจรวุฒิเดช
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ filing) แบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แล้ว เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2563 โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในครั้งนี้

สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของ MENA ในครั้งนี้ จำนวนไม่เกิน 184 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ บริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 367 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 275 ล้านบาท วัตถุประสงค์การใช้เงิน เพื่อใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ โดยมี โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ MENA ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ กลุ่มครอบครัวขจรวุฒิเดช สัดส่วน 93.9% และภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ เหลือสัดส่วน 70.4%

นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมอีกว่า การยื่นไฟลิ่งในครั้งนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเข้ามาระดมทุน ขยายการเติบโตในธุรกิจให้บริการรับส่งสินค้าด้วยรถลากจูงและรถผสมคอนกรีต ที่บริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพและการขยายโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ มีความน่าเชื่อถือต่อคู่ค้าและพันธมิตร อีกทั้งยังเป็นการมุ่งสู่ความมั่นคงและยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว

ทั้งนี้ MENA มีการแบ่งการประกอบธุรกิจออกเป็น 3 หน่วยธุรกิจ โดยธุรกิจหลักคือ 1) บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง มีความสามารถในการทำกำไรโดดเด่น และเป็นรายได้หลักของบริษัท ในสัดส่วนกว่า 65% ของรายได้รวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 MENA มีรถมิกเซอร์รวมทั้งสิ้น 466 คัน ให้บริการทั้งรถมิกเซอร์ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพปริมณฑล และหัวเมืองสำคัญ อาทิ ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง เป็นต้น โดยได้รับความไว้วางใจจากบริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำของประเทศ อาทิ บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด (INSEE) บริษัท เอเซียผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ จำกัด (BUA Concrete) และ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) รวมถึงบริษัทผู้ผลิตท้องถิ่นอื่นๆ ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

2) ธุรกิจขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกแบบหัวลาก – หางพ่วง (Trailer) โดยมีสินค้าหลักประเภทวัสดุก่อสร้างและวัตถุดิบอุตสาหกรรม เช่น ปูนผง คอนกรีตผสมเสร็จ แร่วัตถุดิบ ขี้เถ้าลอย (Fly Ash) เป็นต้น และสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 MENA มีรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) ให้บริการรวมทั้งสิ้น 83 คัน และมีรถกึ่งพ่วง (หางลาก) ประเภทต่าง ๆ รวม 104 คัน

3) ธุรกิจการขายสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง เช่น คอนกรีต ปูนซีเมนต์ถุง ปูนซีเมนต์ผง และขี้เถ้าลอย ให้แก่ลูกค้า ซึ่งส่วนมากเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และไม่ได้เข้าทำสัญญาเป็นตัวแทนขายสินค้าให้บริษัทผู้ผลิตรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะเพื่อความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ โดย MENA จะทำการติดต่อซื้อสินค้าจากบริษัทผู้ผลิตคอนกรีตที่มีชื่อเสียง หรือจากผู้ผลิตท้องถิ่น โดยดำเนินธุรกิจแบบซื้อมาขายไป เพื่อความครบวงจรและสามารถบริหารสภาพคล่องของ MENA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ดี MENA มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจขนส่งมากกว่า 27 ปี และได้ทำการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายประเภทของธุรกิจและการเพิ่มจำนวนรถขนส่ง เพื่อรองรับการขยายงานเพิ่มมากขึ้น ตามการเติบโตของงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยจะทำการขนส่งสินค้าชนิดต่างๆ ให้กับคู่ค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ เช่น ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงโอกาสในการขยายงานใน EEC เป็นต้น ปัจจุบัน MENA เป็นผู้ขนส่งให้แก่บริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์ และบริษัทขนส่งรายใหญ่หลายบริษัท ทั้งยังมีการรับงานขนส่งที่หลากหลาย สำนักงานใหญ่ของ MENA ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี และมีสาขาอีก 4 แห่ง ได้แก่ สาขาลาดกระบัง สาขาราชเทวี สาขาระยอง และสาขาขอนแก่น ส่งผลให้ MENA มีการเติบโตของรายได้ที่ค่อนข้างมั่นคง

สำหรับผลประกอบปี 2562 มีรายได้รวม 703.7 ล้านบาท รายได้หลักมาจากค่าขนส่งและค่าบริการในสัดส่วนที่มากกว่า 90% ของรายได้รวมทั้งหมด แบ่งเป็นรายได้มาจากค่าขนส่ง 28% รายได้ค่าบริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-to-mix concrete) 67% รายได้จากการขาย 4% รายได้อื่นๆ เกือบ 1% ด้านกำไรสุทธิงวดปี 2562 อยู่ที่ 37.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 5.3%

ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 2563 มีรายได้รวม 333.0 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 19.1 ล้านบาท และคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 5.8% อัตรากำไรสุทธิที่ดีขึ้น สืบเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง ประกอบกับต้นทุนทางการเงินลดลงจากการชำระคืนหนี้อย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้กำไรสุทธินั้นปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม และความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: MENA

โพสต์ที่ 5

โพสต์

SCGP เคาะกรอบราคาไอพีโอ 33.50-35 บาท/หุ้น

efinanceThai.com


"เอสซีจี แพคเกจจิ้ง(SCGP)" กำหนดกรอบราคาขายหุ้นไอพีโอที่หุ้นละ 33.50-35 บาท เตรียมขายไอพีโอ 1,127.55 ล้านหุ้น ด้านบริษัทอื่นเดินหน้าเข้าตลาดต่อเนื่อง นำโดย "มีนาทรานสปอร์ต"- "เวล เกรดฯ" - "เอ็นอาร์ อินสแตนท์ฯ" -"ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก" จ่อเข้า SET ตามด้วย "ศิรกร"- "เคแอนด์เคฯ"- "ชริ้งเฟล็กซ์"- "ดีเฮ้าส์พัฒนา" จ่อเข้า mai

*** "เอสซีจี แพคเกจจิ้ง" เคาะราคาขายหุ้นไอพีโอ 33.50-35 บ./หุ้น

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) บริษัทย่อยของ SCC ซึ่งเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ล่าสุดได้กำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้นเบื้องต้นแล้วที่ 33.50-35 บาทต่อหุ้น

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SCGPเพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชน
ทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยสรุป ดังนี้

(1) SCGP จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,127,550,000 หุ้น มูล
ค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อการออกและเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)

(2) SCGP จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 169,130,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment Agent) ซึ่งเป็นจำนวนไม่เกิน 15% ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายทั้งหมดในครั้งนี้ และคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3.8% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SCGP ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้



*** หลายบริษัทตบเท้าเข้า SET

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เปิดเผยว่า ได้ยื่นแบบไฟลิ่งแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ filing) แบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)แล้ว เมื่อ 18 กันยายน 2563 โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

MENA จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 184 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ บริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้


นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัทคันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของ บมจ.เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง(WGE)เปิดเผยว่า WGE จะกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอในเดือน ก.ย.นี้ และคาดจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ?ในเดือน ต.ค.นี้ โดย WGE มีแผนจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 160 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 26.67% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด

บล.เอเซียพลัส ระบุผ่านบทวิเคราะห์ว่า เมื่อ 16 ก.ย.63 ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ของ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR)เรียบร้อยแล้ว โดยจะเสนอขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 3,000 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังไอพีโอ

*** 4 บริษัทเตรียมเข้าตลาด mai

นายภากร ตั้งนุกูลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายงานขายและการตลาด บมจ.ศิรกร (SK) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. ให้เสนอขายหุ้นสามัญออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)จำนวน 115 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ โดยจะเปิดจองซื้อในปลายเดือน ก.ย.นี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) กลางเดือน ต.ค.นี้

นายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น (KK) กล่าวภายหลังการโรดโชว์ต่อนักลงทุนที่หาดใหญ่และกรุงเทพฯ ว่า กระแสการตอบรับจากนักลงทุนดีมาก นักลงทุนให้ความสนใจสอบถามข้อมูลในด้านต่างๆ ของบริษัทฯ อย่างละเอียด ทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจในธุรกิจของ KKและมีความเชื่อมั่นต่ออนาคตของบริษัทมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มั่นใจว่าในวันที่เปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จะได้รับการตอบรับที่ดี

นายคมกฤต มีคำสัตย์ กรรมการผู้จัดการ สายงานตลาดทุน บล.อาร์ เอช บี (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.ชริ้งเพล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ SFT เปิดเผยว่า SFT เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) จำนวนไม่เกิน 120 ล้านหุ้น ซึ่งจะเห็นในช่วงไตรมาส 4/63 และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)โดย ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.ดีเฮ้าส์พัฒนา (DHOUSE)เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.ล.ต.เริ่มนับหนึ่งแบบไฟลิ่ง เพื่อเสนอขายไอพีโอของ DHOUSE เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ บริษัทฯ เตรียมเดินหน้านำเสนอข้อมูลธุรกิจพร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: MENA

โพสต์ที่ 6

โพสต์

`มีนาทรานสปอร์ต(MENA)` ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 184 ล้านหุ้น เข้า SET



สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -21 ก.ย. 63 13:47 น.
  'มีนาทรานสปอร์ต (MENA)' ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต.ขายหุ้น IPO จำนวน 184 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้าเทรด SET นำเงินลงทุนในโครงการในอนาคต จ่ายคืนหนี้สิน เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ ตั้งบริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

  นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA เปิดเผยว่า ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ filing) แบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แล้ว เมื่อ 18 กันยายน 2563 โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

  สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของ MENA ในครั้งนี้ จำนวนไม่เกิน 184 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ บริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้

  ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 367 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 275 ล้านบาท วัตถุประสงค์การใช้เงิน เพื่อใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ โดยมี โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ MENA ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ กลุ่มครอบครัวขจรวุฒิเดช สัดส่วน 93.9% และภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ เหลือสัดส่วน 70.4%

  นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การยื่นไฟลิ่งในครั้งนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเข้ามาระดมทุน ขยายการเติบโตในธุรกิจให้บริการรับส่งสินค้าด้วยรถลากจูงและรถผสมคอนกรีต ที่บริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพและการขยายโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ มีความน่าเชื่อถือต่อคู่ค้าและพันธมิตร อีกทั้งยังเป็นการมุ่งสู่ความมั่นคงและยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว

  ทั้งนี้ MENA มีการแบ่งการประกอบธุรกิจออกเป็น 3 หน่วยธุรกิจ โดยธุรกิจหลักคือ 1) บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง มีความสามารถในการทำกำไรโดดเด่น และเป็นรายได้หลักของบริษัท ในสัดส่วนกว่า 65% ของรายได้รวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 MENA มีรถมิกเซอร์รวมทั้งสิ้น 466 คัน ให้บริการทั้งรถมิกเซอร์ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพปริมณฑล และหัวเมืองสำคัญ อาทิ ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง เป็นต้น

  โดยได้รับความไว้วางใจจากบริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำของประเทศ อาทิ บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด (INSEE) บริษัท เอเซียผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ จำกัด (BUA Concrete) และ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) รวมถึงบริษัทผู้ผลิตท้องถิ่นอื่นๆ ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

  2) ธุรกิจขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกแบบหัวลาก - หางพ่วง (Trailer) โดยมีสินค้าหลักประเภทวัสดุก่อสร้างและวัตถุดิบอุตสาหกรรม เช่น ปูนผง คอนกรีตผสมเสร็จ แร่วัตถุดิบ ขี้เถ้าลอย (Fly Ash) เป็นต้น และสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 MENA มีรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) ให้บริการรวมทั้งสิ้น 83 คัน และมีรถกึ่งพ่วง (หางลาก) ประเภทต่าง ๆ รวม 104 คัน

  3) ธุรกิจการขายสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง เช่น คอนกรีต ปูนซีเมนต์ถุง ปูนซีเมนต์ผง และขี้เถ้าลอย ให้แก่ลูกค้า ซึ่งส่วนมากเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และไม่ได้เข้าทำสัญญาเป็นตัวแทนขายสินค้าให้บริษัทผู้ผลิตรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะเพื่อความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ โดย MENA จะทำการติดต่อซื้อสินค้าจากบริษัทผู้ผลิตคอนกรีตที่มีชื่อเสียง หรือจากผู้ผลิตท้องถิ่น โดยดำเนินธุรกิจแบบซื้อมาขายไป เพื่อความครบวงจรและสามารถบริหารสภาพคล่องของ MENA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  อย่างไรก็ดี MENA มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจขนส่งมากกว่า 27 ปี และได้ทำการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายประเภทของธุรกิจและการเพิ่มจำนวนรถขนส่ง เพื่อรองรับการขยายงานเพิ่มมากขึ้น ตามการเติบโตของงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยจะทำการขนส่งสินค้าชนิดต่างๆ ให้กับคู่ค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ เช่น ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงโอกาสในการขยายงานใน EEC เป็นต้น

  ปัจจุบัน MENA เป็นผู้ขนส่งให้แก่บริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์ และบริษัทขนส่งรายใหญ่หลายบริษัท ทั้งยังมีการรับงานขนส่งที่หลากหลาย สำนักงานใหญ่ของ MENA ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี และมีสาขาอีก 4 แห่ง ได้แก่ สาขาลาดกระบัง สาขาราชเทวี สาขาระยอง และสาขาขอนแก่น ส่งผลให้ MENA มีการเติบโตของรายได้ที่ค่อนข้างมั่นคง

  สำหรับผลประกอบปี 62 มีรายได้รวม 703.7 ล้านบาท รายได้หลักมาจากค่าขนส่งและค่าบริการในสัดส่วนที่มากกว่า 90% ของรายได้รวมทั้งหมด แบ่งเป็นรายได้มาจากค่าขนส่ง 28% รายได้ค่าบริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-to-mix concrete) 67% รายได้จากการขาย 4% รายได้อื่นๆ เกือบ 1% ด้านกำไรสุทธิงวดปี 2562 อยู่ที่ 37.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 5.3%

  งวด 6 เดือนแรกปี 63 มีรายได้รวม 333.0 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 19.1 ล้านบาท และคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 5.8% อัตรากำไรสุทธิที่ดีขึ้น สืบเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง ประกอบกับต้นทุนทางการเงินลดลงจากการชำระคืนหนี้อย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้กำไรสุทธินั้นปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม และความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: MENA

โพสต์ที่ 7

โพสต์

MENA ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 184 ล้านหุ้น เดินหน้าเทรด SET นำเงินขยายธุรกิจเต็มสูบ

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ยื่นคำขออนุญาตเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในขณะนี้ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ filing) แบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แล้ว เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในครั้งนี้

สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของ MENA ในครั้งนี้ จำนวนไม่เกิน 184 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ บริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 367 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 275 ล้านบาท

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์การใช้เงิน เพื่อใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ โดยมี โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ MENA ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ กลุ่มครอบครัวขจรวุฒิเดช สัดส่วน 93.9% และภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ เหลือสัดส่วน 70.4%

นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมอีกว่า การยื่นไฟลิ่งในครั้งนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเข้ามาระดมทุน ขยายการเติบโตในธุรกิจให้บริการรับส่งสินค้าด้วยรถลากจูงและรถผสมคอนกรีต ที่บริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพและการขยายโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ มีความน่าเชื่อถือต่อคู่ค้าและพันธมิตร อีกทั้งยังเป็นการมุ่งสู่ความมั่นคงและยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว

ทั้งนี้ MENA มีการแบ่งการประกอบธุรกิจออกเป็น 3 หน่วยธุรกิจ โดยธุรกิจหลักคือ 1) บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง มีความสามารถในการทำกำไรโดดเด่น และเป็นรายได้หลักของบริษัท ในสัดส่วนกว่า 65% ของรายได้รวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 MENA มีรถมิกเซอร์รวมทั้งสิ้น 466 คัน ให้บริการทั้งรถมิกเซอร์ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพปริมณฑล และหัวเมืองสำคัญ

อาทิ ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง เป็นต้น โดยได้รับความไว้วางใจจากบริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำของประเทศ อาทิ บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด (INSEE) บริษัท เอเซียผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ จำกัด (BUA Concrete) และ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) รวมถึงบริษัทผู้ผลิตท้องถิ่นอื่นๆ ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

2) ธุรกิจขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกแบบหัวลาก – หางพ่วง (Trailer) โดยมีสินค้าหลักประเภทวัสดุก่อสร้างและวัตถุดิบอุตสาหกรรม เช่น ปูนผง คอนกรีตผสมเสร็จ แร่วัตถุดิบ ขี้เถ้าลอย (Fly Ash) เป็นต้น และสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 MENA มีรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) ให้บริการรวมทั้งสิ้น 83 คัน และมีรถกึ่งพ่วง (หางลาก) ประเภทต่าง ๆ รวม 104 คัน

3) ธุรกิจการขายสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง เช่น คอนกรีต ปูนซีเมนต์ถุง ปูนซีเมนต์ผง และขี้เถ้าลอย ให้แก่ลูกค้า ซึ่งส่วนมากเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และไม่ได้เข้าทำสัญญาเป็นตัวแทนขายสินค้าให้บริษัทผู้ผลิตรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะเพื่อความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ โดย MENA จะทำการติดต่อซื้อสินค้าจากบริษัทผู้ผลิตคอนกรีตที่มีชื่อเสียง หรือจากผู้ผลิตท้องถิ่น โดยดำเนินธุรกิจแบบซื้อมาขายไป เพื่อความครบวงจรและสามารถบริหารสภาพคล่องของ MENA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ดี MENA มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจขนส่งมากกว่า 27 ปี และได้ทำการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายประเภทของธุรกิจและการเพิ่มจำนวนรถขนส่ง เพื่อรองรับการขยายงานเพิ่มมากขึ้น ตามการเติบโตของงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยจะทำการขนส่งสินค้าชนิดต่างๆ ให้กับคู่ค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ

เช่น ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงโอกาสในการขยายงานใน EEC เป็นต้น ปัจจุบัน MENA เป็นผู้ขนส่งให้แก่บริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์ และบริษัทขนส่งรายใหญ่หลายบริษัท ทั้งยังมีการรับงานขนส่งที่หลากหลาย สำนักงานใหญ่ของ MENA ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี และมีสาขาอีก 4 แห่ง ได้แก่ สาขาลาดกระบัง สาขาราชเทวี สาขาระยอง และสาขาขอนแก่น ส่งผลให้ MENA มีการเติบโตของรายได้ที่ค่อนข้างมั่นคง

สำหรับผลประกอบปี 2562 มีรายได้รวม 703.7 ล้านบาท รายได้หลักมาจากค่าขนส่งและค่าบริการในสัดส่วนที่มากกว่า 90% ของรายได้รวมทั้งหมด แบ่งเป็นรายได้มาจากค่าขนส่ง 28% รายได้ค่าบริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-to-mix concrete) 67% รายได้จากการขาย 4% รายได้อื่นๆ เกือบ 1% ด้านกำไรสุทธิงวดปี 2562 อยู่ที่ 37.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 5.3%

และงวด 6 เดือนแรกปี 2563 มีรายได้รวม 333.0 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 19.1 ล้านบาท และคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 5.8% อัตรากำไรสุทธิที่ดีขึ้น สืบเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง ประกอบกับต้นทุนทางการเงินลดลงจากการชำระคืนหนี้อย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้กำไรสุทธินั้นปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม และความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: MENA

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง “มีนาทรานสปอร์ต” กดปุ่มไฟเขียว เดินแผน IPO 184 ล้านหุ้น

มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เดินหน้าตามแผนระดมทุน ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) นับหนึ่งไฟลิ่ง MENA เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 184 ล้านหุ้น เพื่อนำเงินจากการระดมทุนไปใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต ใช้จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ ย้ำการเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการรับส่งสินค้าด้วยรถผสมคอนกรีตและรถเทรลเลอร์รายใหญ่ของประเทศ โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในครั้งนี้

นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA มีศักยภาพการเติบโตสูงและอยู่ในธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากงานโครงสร้างพื้นฐาน งานก่อสร้างโครงการ และสอดรับนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันการลงทุนในประเทศ เนื่องจาก รถขนส่งเป็นสิ่งจำเป็น โดยรถของ MENA ถือว่ามีจำนวนมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม มีความโดดเด่นในรถผสมคอนกรีต มีลูกค้ารายใหญ่เชื่อมั่น ไว้วางใจใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสามารถในการบริหารจัดการในระดับสูง ผู้บริหารมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในธุรกิจมากว่า 27 ปี และพร้อมเดินหน้ารับโอกาสการเติบโตในอนาคต เป็นผู้ประกอบการรายแรกในธุรกิจรถผสมคอนกรีต ที่เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยหลังจากได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) / ร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ปัจจุบัน สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งแล้ว เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา

สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของ MENA ในครั้งนี้ จำนวนไม่เกิน 184 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ บริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 367 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 275 ล้านบาท

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีต หรือรถมิกเซอร์ (Mixer) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการเติบโต และมีความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่อง เนื่องจาก ความสามารถในการบริหารจัดการรถและพนักงานจัดส่งที่มีศักยภาพ ในการควบคุมคุณภาพสินค้าคอนกรีตตลอดการขนส่ง ทำให้ MENA เป็นที่ไว้วางใจต่อลูกค้าบริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำของประเทศ อาทิ บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด (INSEE) บริษัท เอเซียผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ จำกัด (BUA Concrete) และ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) รวมถึง การขยายขอบเขตการให้บริการไปยังบริษัทผู้ผลิตท้องถิ่นอื่นๆ ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถลากจูงหรือรถเทรลเลอร์ (Trailer) และการขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง เพื่อความครบวงจร และเสริมสร้างโอกาสในธุรกิจ

ปัจจุบัน MENA มีรถที่บริหารจัดการมากกว่า 600 คัน แบ่งเป็น รถมิกเซอร์ 466 คัน รถเทรลเลอร์ (หัวลาก) 83 คัน และมีรถกึ่งพ่วง (หางลาก) ประเภทต่าง ๆ รวม 104 คัน ด้วยความสามารถในการบริหารจัดการกองยานจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจและรับงานได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะงานโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ โดยจะทำการขนส่งสินค้าชนิดต่างๆ ให้กับคู่ค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ

วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ โดยโครงการในอนาคตของบริษัทฯ มีนโยบายกำหนดอัตราผลตอบแทนภายในขั้นต่ำ (IRR) เพื่อประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น

“MENA เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจขนส่งมากว่า 27 ปี ทีมผู้บริหารมีประสบการณ์และความสัมพันธ์อันดี กับลูกค้าและพันธมิตร ด้วยการให้บริการที่มีมาตรฐาน และ ความสามารถในการบริหารจัดการรถขนส่งที่มีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถมิกเซอร์สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าในโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ได้ ทำให้ปัจจุบันเราถือว่าอยู่ในระดับ Top3 ของอุตสาหกรรม แผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ เพราะบริษัทฯ เล็งเห็นโอกาส เนื่องจากเราอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงโอกาสใน EEC พร้อมกันนี้ ยังมองหาโอกาส ในการขยายรถขนส่งไปยังกลุ่มลูกค้าประเภทคอนซูเมอร์เพิ่มเติม จากเดิมเราแข็งแกร่งในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง” นางสุวรรณา กล่าว

สำหรับภาพรวมผลประกอบการบริษัทฯ รายได้รวมจากการประกอบธุรกิจของ MENA ประกอบด้วยรายได้ค่าขนส่ง รายได้ค่าบริการ รายได้จากการขาย และ รายได้อื่น ซึ่งในงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 476.6 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากค่าขนส่งและค่าบริการขนส่งคอนกรีตในสัดส่วนที่มากกว่า 90% ของรายได้รวมทั้งหมด ขณะที่ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 24.4 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย จาก 26.9 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 เนื่องมาจากผลกระทบ COVID-19 ส่งผลให้การขนส่งชะลอตัว ตามความคืบหน้าของงาน และความต้องการของลูกค้า แต่อย่างไรก็ตาม จากการที่ MENA ปรับตัวโดยการลดค่าใช้จ่าย ประกอบกับ MENA มีต้นทุนทางการเงินลดลงจากการชำระคืนหนี้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิทำได้ดีขึ้น อยู่ที่ 5.5% สำหรับผลประกอบการในปี 2562 รายได้รวม อยู่ที่ 703.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 37.6 ล้านบาท
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: MENA

โพสต์ที่ 9

โพสต์

“MENA” จัดประชุมนักวิเคราะห์ตามแผน IPO เดินหน้าเข้าเทรด SET ปีนี้

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA พร้อมด้วย นางสาวสุดารัตน์ ขจรวุฒิเดช ผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการ และ นายอธิคม วงศ์ส่องจ้า ผู้อำนวยการสายงานบัญชีการเงิน นำเสนอข้อมูลในงานประชุมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำเสนอข้อมูลบริษัทฯ และกลยุทธ์การเติบโต ตามแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 184 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ

ภายหลัง IPO ย้ำความเชื่อมั่นการเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ มีจุดเด่นในการบริหารจัดการรถและพนักงานจัดส่งจำนวนมาก พร้อมรับโอกาสการเติบโตจากงานโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัว และขยายการให้บริการในทุกภูมิภาคของประเทศ

โดยเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปี 2564 โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์

ข้อมูล บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการขนส่งสินค้าทางบกและสินค้าเฉพาะทาง อาทิเช่น คอนกรีตผสมเสร็จ ปูนซีเมนต์ผง ปูนซีเมนต์ถุง สินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ ขี้เถ้าลอย แร่แคลเซียม แบเรียม เป็นต้น วัตถุอันตราย สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าควบคุมอุณหภูมิ ฯลฯ รวมถึงเป็นตัวแทนจำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จทั่วประเทศ สั่งสมประสบการณ์กว่า 25 ปี สามารถบริหารจัดการการขนส่งสินค้าทางบกได้อย่างมีคุณภาพ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 , ISO 45001 : 2018 และ Q standard เราพร้อมที่จะก้าวเดิน เคียงข้างธุรกิจของผู้ว่าจ้าง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: MENA

โพสต์ที่ 10

โพสต์

“มีนาทรานสปอร์ต” แย้มแผนเทรด SET คาดเสนอขายภายในปีนี้ 184 ล้านหุ้น พร้อมจัดทัพรถมิกเซอร์ รับโอกาสงานโปรเจ็กต์ทยอยเดินหน้าลงทุนตามแผน

มีนาทรานสปอร์ต (MENA) หนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เดินหน้าระดมทุนตามแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 184 ล้านหุ้น คาดเสนอขายภายในปีนี้ โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบล.เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ชูจุดเด่นในการบริหารจัดการรถและพนักงานจัดส่ง พร้อมรับโอกาสการเติบโตจากงานโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัว และขยายการให้บริการในทุกภูมิภาคของประเทศ ล่าสุดอัพเดทผลงาน Q1/64 มีรายได้รวมเท่ากับ 152.5 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10.1 ล้านบาท มีรถที่บริหารจัดการมากกว่า 500 คัน และพนักงานจัดส่งมากกว่า 500 คน อยู่ในระดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีต หรือรถมิกเซอร์ (Mixer) และเทรลเลอร์ (Trailer) รวมทั้ง การขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของ MENA ในครั้งนี้ จำนวนไม่เกิน 184.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ บริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 367 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 275 ล้านบาท วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ โดยโครงการในอนาคตของบริษัทฯ มีนโยบายกำหนดอัตราผลตอบแทนภายในขั้นต่ำ (IRR) เพื่อประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น

โดยบริษัทฯ มีแผนจะนำเสนอข้อมูลสรุปการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัทฯ (โรดโชว์) ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนปีนี้ และคาดว่าจะเสนอขายและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ภายในปี 2564 นี้ โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้

อย่างไรก็ดี ธุรกิจขนส่งของบริษัทฯ มีจุดแข็งในด้านศักยภาพการเติบโตสูง ได้รับประโยชน์จากงานโครงสร้างพื้นฐาน และงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ สอดรับนโยบายการลงทุนของภาครัฐและเอกชน เนื่องจาก รถขนส่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ขับเคลื่อนงานโครงการต่างๆ โดย MENA ถือเป็นผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่ได้เป็นบริษัทในเครือผู้ผลิตปูนซีเมนต์ที่มีรถผสมคอนกรีตรองรับความต้องการของลูกค้าในงานโครงการขนาดใหญ่ได้อันดับต้นๆของประเทศ และยังถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกในธุรกิจรถผสมคอนกรีตที่เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการ และความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อบริษัทฯ

ปัจจุบัน MENA มีรถที่บริหารจัดการมากกว่า 500 คัน แบ่งเป็น รถมิกเซอร์ 466 คัน และรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) 75 คัน นอกจากนี้ ยังมีรถกึ่งพ่วง หรือหางลากประเภทต่างๆ 105 คัน รวมทั้ง มีพนักงานจัดส่งภายใต้การบริหารกว่า 500 คนด้วยความสามารถในการบริหารจัดการกองยานและพนักงานจัดส่งจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจและรับงานได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะงานโปรเจกต์ขนาดใหญ่ โดยจะทำการขนส่งสินค้าชนิดต่างๆ ให้กับคู่ค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ

สำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ ได้แก่ บริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำของประเทศ อาทิ บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด (INSEE) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง บริษัท เอเซียผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ จำกัด (BUA Concrete) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ปูนซีเมนต์เอเซีย และ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย รวมถึง การขยายขอบเขตการให้บริการไปยังบริษัทผู้ผลิตท้องถิ่นอื่นๆ ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการขนส่งสินค้าให้แก่บริษัทปูนซีเมนต์ผงต่างๆ บริษัทวัสดุก่อสร้าง และ สินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้ง การเป็นตัวแทนขายสินค้าให้แก่ลูกค้าของบริษัทฯ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ และเพื่อความครบวงจร

สำหรับภาพรวมผลประกอบการปีนี้ บริษัทฯ เตรียมพร้อมรับโอกาสการเติบโตจากความพร้อมทั้งกองยานรถมิกเซอร์ และพนักงานจัดส่ง เพื่อสอดรับนโยบายการลงทุนจากภาครัฐ และเอกชน ซึ่งจะทยอยกลับมาเดินหน้าตามแผนการลงทุนที่วางไว้ ได้แก่ โครงการ EEC เกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน , โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และ โครงการรถไฟทางคู่ รวมทั้ง การปรับกลยุทธ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับการขยายงานโครงการของกลุ่มลูกค้าหลัก และการขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้น ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ โดยการเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ จะยิ่งเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสนับสนุนแผนการเติบโตของ MENA ให้เป็นไปตามที่วางไว้ได้

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดไตรมาส 1/2564 รายได้รวมของ MENA ประกอบด้วยรายได้ค่าขนส่ง รายได้ค่าบริการ รายได้จากการขาย และ รายได้อื่นๆ รวมอยู่ที่ 152.5 ล้านบาท ปรับลดลงเล็กน้อย ราว 14.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 178.8 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากค่าขนส่งและค่าบริการในสัดส่วนอย่างน้อย 90% ของรายได้รวมทั้งหมด โดยสาเหตุหลักในการปรับลดลง เนื่องจากค่าขนส่งและค่าบริการปรับขึ้นลงตามราคาน้ำมัน ซึ่งในไตรมาส 1/2564 นี้ ราคาน้ำมันลดลงมากกว่าปีที่แล้วราว10% นอกจากนี้ ภาคก่อสร้างยังคงชะลอตัวจากสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้จำนวนเที่ยวขนส่งลดลงด้วย

ขณะที่ ในงวดไตรมาส 1/2564 มีกำไรสุทธิ 10.1 ล้านบาท โดย MENA ปรับตัวโดยการลดค่าใช้จ่าย ประกอบกับต้นทุนทางการเงินลดลงจากการชำระคืนหนี้อย่างต่อเนื่อง แม้สถานการณ์ COVID-19 ยังคงมีอยู่ แต่อัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากปี 2563 อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 5.7% และในไตรมาส 1 ปีนี้อยู่ที่ 6.6% ขณะที่ผลประกอบการปี 2563 MENA มีรายได้รวม 614.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 34.8 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี แม้ในปีนี้สถานการณ์ COVID-19 จะส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง แต่บริษัทฯ เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ และหากในอนาคตจะมีการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ MENA คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบในเชิงลบกับการขนส่งอย่างเป็นสาระสำคัญ และจะยังคงสามารถดำเนินการ เติบโตต่อเนื่องรับปัจจัยบวกในระยะยาว
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: MENA

โพสต์ที่ 11

โพสต์

"มีนาทรานสปอร์ต" เตรียมโรดโชว์ปลายมิ.ย. , คาดหุ้นเข้าเทรดใน SET ปีนี้


"มีนาทรานสปอร์ต"หนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เดินหน้าระดมทุนตามแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 184 ล้านหุ้น คาดเสนอขายภายในปีนี้ โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบล.เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ชูจุดเด่นในการบริหารจัดการรถและพนักงานจัดส่ง พร้อมรับโอกาสการเติบโตจากงานโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัว และขยายการให้บริการในทุกภูมิภาคของประเทศ



นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะนำเสนอข้อมูลสรุปการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัทฯ (โรดโชว์) ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนปีนี้ และคาดว่าจะเสนอขายและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ภายในปี 2564 นี้ โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้



โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO)จำนวนไม่เกิน 184.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ โดยโครงการในอนาคตของบริษัทฯ มีนโยบายกำหนดอัตราผลตอบแทนภายในขั้นต่ำ (IRR) เพื่อประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น



ทั้งนี้ธุรกิจขนส่งของบริษัทฯ มีจุดแข็งในด้านศักยภาพการเติบโตสูง ได้รับประโยชน์จากงานโครงสร้างพื้นฐาน และงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ สอดรับนโยบายการลงทุนของภาครัฐและเอกชน เนื่องจาก รถขนส่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ขับเคลื่อนงานโครงการต่างๆ โดย MENA ถือเป็นผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่ได้เป็นบริษัทในเครือผู้ผลิตปูนซีเมนต์ที่มีรถผสมคอนกรีตรองรับความต้องการของลูกค้าในงานโครงการขนาดใหญ่ได้อันดับต้นๆของประเทศ และยังถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกในธุรกิจรถผสมคอนกรีตที่เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการ และความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อบริษัทฯ



ปัจจุบัน MENA มีรถที่บริหารจัดการมากกว่า 500 คัน แบ่งเป็น รถมิกเซอร์ 466 คัน และรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) 75 คัน นอกจากนี้ ยังมีรถกึ่งพ่วง หรือหางลากประเภทต่างๆ 105 คัน รวมทั้ง มีพนักงานจัดส่งภายใต้การบริหารกว่า 500 คนด้วยความสามารถในการบริหารจัดการกองยานและพนักงานจัดส่งจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจและรับงานได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะงานโปรเจกต์ขนาดใหญ่ โดยจะทำการขนส่งสินค้าชนิดต่างๆ ให้กับคู่ค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ



สำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ ได้แก่ บริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำของประเทศ อาทิ บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด (INSEE) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง บริษัท เอเซียผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ จำกัด (BUA Concrete) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ปูนซีเมนต์เอเซีย และ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย รวมถึง การขยายขอบเขตการให้บริการไปยังบริษัทผู้ผลิตท้องถิ่นอื่นๆ ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการขนส่งสินค้าให้แก่บริษัทปูนซีเมนต์ผงต่างๆ บริษัทวัสดุก่อสร้าง และ สินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้ง การเป็นตัวแทนขายสินค้าให้แก่ลูกค้าของบริษัทฯ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ และเพื่อความครบวงจร



สำหรับภาพรวมผลประกอบการปีนี้ บริษัทฯ เตรียมพร้อมรับโอกาสการเติบโตจากความพร้อมทั้งกองยานรถมิกเซอร์ และพนักงานจัดส่ง เพื่อสอดรับนโยบายการลงทุนจากภาครัฐ และเอกชน ซึ่งจะทยอยกลับมาเดินหน้าตามแผนการลงทุนที่วางไว้ ได้แก่ โครงการ EEC เกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน , โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และ โครงการรถไฟทางคู่ รวมทั้ง การปรับกลยุทธ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับการขยายงานโครงการของกลุ่มลูกค้าหลัก และการขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้น ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ โดยการเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ จะยิ่งเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสนับสนุนแผนการเติบโตของ MENA ให้เป็นไปตามที่วางไว้ได้
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: MENA

โพสต์ที่ 12

โพสต์

2 หุ้น IPO "มีนาทรานสปอร์ต -เซนต์เมด"จ่อเข้าระดมทุนตลาดหลักทรัพย์

หุ้น IPO 2 บริษัท เตรียมที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในเร็วๆ นี้ ประกอบด้วยหุ้นบริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด(มหาชน) และบริษัท เซนต์เมด จำกัด(มหาชน) ภายในเร็วๆ นี้ หลังจากได้ยื่นแบบไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว



นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ(SET) หลังได้มีการยื่นแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนต่อทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และได้มีการนับหนึ่งไฟลิ่งแล้วในช่วงที่ผ่านมา โดยจะนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์) ภายในปลายเดือนมิ.ย.นี้ และคาดว่าหุ้นจะเข้าซื้อขายได้ไม่เกินไตรมาส 4/64



โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO)จำนวนไม่เกิน 184.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้สำหรับลงทุนในโครงการในอนาคต จ่ายคืนหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ โดยมีบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้



MENA ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถลากจูงหรือรถเทรลเลอร์ (Trailer) ให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) และการขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง




นอกจากนี้ก็มีบริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน)หรือ SMD ที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในกลางปีนี้



นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน SMD เปิดเผยก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้น IPO ประมาณเดือน มิ.ย.2564 ซึ่งบริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 54 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 25.23% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดโดยเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปใช้ดำเนินโครงการศูนย์ตรวจการนอนหลับลงทุนในเครื่องมือแพทย์ให้เช่า ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระคืนเงินกู้ให้แก่สถาบันการเงิน



ทั้งนี้ SMD จำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยบริษัทนำเข้าเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์จากผู้ผลิตต่างประเทศ เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลทั่วไปและสถานพยาบาลชั้นนำในประเทศ มีกลุ่มสินค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย 6 ประเภท ได้แก่ กลุ่มสินค้าด้านเวชบำบัดวิกฤต กลุ่มสินค้าด้านการช่วยหายใจและเวชศาสตร์การนอนหลับ กลุ่มสินค้าด้านหทัยวิทยา กลุ่มเครื่องมือแพทย์ทั่วไป กลุ่มสินค้าสมาร์ทฮอสพิทอล และกลุ่มอื่นๆ
โพสต์โพสต์