ขอทราบหลักการลงทุนแบบก้นบุหรี่ครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ขอทราบหลักการลงทุนแบบก้นบุหรี่ครับ
โพสต์ที่ 2
ซิการ์แท่งใหม่หอมหวลชอบลิ้มลอง แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย
นักลงทุนแบบก้นบุหรี่จะไม่ซื้อซิการ์แท่งใหม่ แต่จะเดินเก็บซิการ์ตามพื้นที่คนสูบแล้วทิ้ง ขึ้นมาสูบ อาจจะไม่ใหม่ถอดด้ามเหมือนกันแต่ก็ได้รสชาดระดับหนึ่ง ที่สำคัญลงทุนน้อยกว่ามาก
เปรียบกับหุ้นก็คือการลงทุนในหุ้นโดยไม่ให้ราคาจากการเติบโตเลย วิธีนี้เราอาจพลาดหุ้นดีบางตัวไปบ้าง แต่ผลตอบแทนของพอร์ตโดยรวมจะไม่เลวจะดีเพราะแทบไม่เคยมี big loss เนื่องจากเราไม่เคยซื้อหุ้นในราคาแพงๆ อาศัยการ limit downside risk นั่นเอง
นักลงทุนแบบก้นบุหรี่จะไม่ซื้อซิการ์แท่งใหม่ แต่จะเดินเก็บซิการ์ตามพื้นที่คนสูบแล้วทิ้ง ขึ้นมาสูบ อาจจะไม่ใหม่ถอดด้ามเหมือนกันแต่ก็ได้รสชาดระดับหนึ่ง ที่สำคัญลงทุนน้อยกว่ามาก
เปรียบกับหุ้นก็คือการลงทุนในหุ้นโดยไม่ให้ราคาจากการเติบโตเลย วิธีนี้เราอาจพลาดหุ้นดีบางตัวไปบ้าง แต่ผลตอบแทนของพอร์ตโดยรวมจะไม่เลวจะดีเพราะแทบไม่เคยมี big loss เนื่องจากเราไม่เคยซื้อหุ้นในราคาแพงๆ อาศัยการ limit downside risk นั่นเอง
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
ขอทราบหลักการลงทุนแบบก้นบุหรี่ครับ
โพสต์ที่ 3
หุ้นก้นบุหรี่นั้น เป็นหุ้นที่เกรแฮมชอบและบัฟเฟตต์เป็นคนตั้งชื่อให้กับหุ้นกลุ่มนี้ สาเหตุที่ตั้งชื่อนี้ก็อย่างที่น้องสุมาอี้บอกไว้นั่นแหละครับ
เกรแฮมชอบซื้อหุ้นที่ราคาถูกมากๆ เขาเลือกหาหุ้นที่มีราคา2/3ของ(สินทรัพย์หมุนเวียนหักด้วยหนี้สินทั้งหมด)
เช่น บริษัท A มีสินทรัพย์ทั้งหมด 2000 ลบ. สินทรัพย์หมุนเวียน 1000 ลบ. มีหนี้สินทั้งหมด 400 ลบ.
เมื่อมีคนเสนอขายหุ้นนี้ที่ราคา 400 ลบ. เกรแฮมก็จะซื้อ เพราะเขาถือว่าราคาซื้อขายเป็น 2/3ของ(สินทรัพย์หมุนเวียนหักด้วยหนี้สินทั้งหมดซึ่ง = 600 ลบ.) และที่ราคา400ลบ.นี้ คิดเป็น p/b = 400/1600 =0.25 เท่านั้นเอง
และถ้ายิ่งขายที่ราคาต่ำมากๆ เช่น ขายที่ราคา 300ลบ. หรือ 200ลบ. เขาคงจะกวาดเรียบ
วิธีนี้ของเกรแฮมสามารถทำกำไรได้มหาศาลจนเขาได้ชื่อว่าเป็นบิดาของ VI เลยทีเดียวครับ
แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า คลื่นลูกใหม่ไล่คลื่นลูกเก่า บัฟเฟตต์ซึ่งเป็นศิษย์เอกของเกรแฮมได้คิดค้นต่อยอดจากอาจารย์ และค้นพบวิธีที่ดีกว่าจนทำให้บัฟเฟตต์เป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกในด้านนักเล่นหุ้น
เกรแฮม.......ซื้อหุ้นที่มีคุณภาพปานกลางในราคาที่สุดยอด
บัฟเฟตต์........ซื้อหุ้นที่คุณภาพสุดยอดในราคาปานกลาง
เกรแฮมชอบซื้อหุ้นที่ราคาถูกมากๆ เขาเลือกหาหุ้นที่มีราคา2/3ของ(สินทรัพย์หมุนเวียนหักด้วยหนี้สินทั้งหมด)
เช่น บริษัท A มีสินทรัพย์ทั้งหมด 2000 ลบ. สินทรัพย์หมุนเวียน 1000 ลบ. มีหนี้สินทั้งหมด 400 ลบ.
เมื่อมีคนเสนอขายหุ้นนี้ที่ราคา 400 ลบ. เกรแฮมก็จะซื้อ เพราะเขาถือว่าราคาซื้อขายเป็น 2/3ของ(สินทรัพย์หมุนเวียนหักด้วยหนี้สินทั้งหมดซึ่ง = 600 ลบ.) และที่ราคา400ลบ.นี้ คิดเป็น p/b = 400/1600 =0.25 เท่านั้นเอง
และถ้ายิ่งขายที่ราคาต่ำมากๆ เช่น ขายที่ราคา 300ลบ. หรือ 200ลบ. เขาคงจะกวาดเรียบ
วิธีนี้ของเกรแฮมสามารถทำกำไรได้มหาศาลจนเขาได้ชื่อว่าเป็นบิดาของ VI เลยทีเดียวครับ
แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า คลื่นลูกใหม่ไล่คลื่นลูกเก่า บัฟเฟตต์ซึ่งเป็นศิษย์เอกของเกรแฮมได้คิดค้นต่อยอดจากอาจารย์ และค้นพบวิธีที่ดีกว่าจนทำให้บัฟเฟตต์เป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกในด้านนักเล่นหุ้น
เกรแฮม.......ซื้อหุ้นที่มีคุณภาพปานกลางในราคาที่สุดยอด
บัฟเฟตต์........ซื้อหุ้นที่คุณภาพสุดยอดในราคาปานกลาง
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ขอทราบหลักการลงทุนแบบก้นบุหรี่ครับ
โพสต์ที่ 4
ในเวบนี้ ท่านหนึ่งที่ออกจะลงทุนคล้ายๆ แนวนี้อยู่เหมือนกันก็คือ คุณViewtiful :roll:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
ขอทราบหลักการลงทุนแบบก้นบุหรี่ครับ
โพสต์ที่ 5
หุ้นก้นบุหรี่ถ้าวัดตามกฏเกณ์การแบ่งหุ้นของปีเตอร์ ลินช์ น่าจะอยู่ในกลุ่มหุ้นทรัพย์สินมากครับ
ซึ่งลินช์เองนั้นชอบหุ้นนี้ในอันดับ 3-4 อันดับหนึ่งเขาชอบหุ้นเติบโต
ซึ่งลินช์เองนั้นชอบหุ้นนี้ในอันดับ 3-4 อันดับหนึ่งเขาชอบหุ้นเติบโต
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 186
- ผู้ติดตาม: 0
ขอเสริมครับ
โพสต์ที่ 6
น่าจะเพิ่มลักษณะการซื้อทำนองนี้ว่า
ก้นบุหรี่ แม้จะได้รสชาดเหมือนของใหม่ แต่สูบให้วาบขึ้นแล้วต้องทิ้งครับ
หุ้นกลุ่มนี้ เนื่องจากไม่ได้ประเมินคุณภาพเต็มที่ ทำให้ต้องซื้อมากๆตัว มาถัวกัน เพราะออาจมีบางตัว ลงแล้วลงเลย
และพอราคาขึ้น ต้องขายทำกำไรโดยไม่เสียดาย
ผมยังสงสัยว่า ระหว่างที่เรารอหุ้นเติบโต ที่กะจะถือไปตลอด แต่ราคายังไม่ลงมาให้ซื้อคุ้ม ในแง่การลงทุน
เราจะซื้อกลุ่มก้นบุหรี่ไปพลางๆก่อน จะทำให้ผลงานดีขึ้นหรือไม่
ก้นบุหรี่ แม้จะได้รสชาดเหมือนของใหม่ แต่สูบให้วาบขึ้นแล้วต้องทิ้งครับ
หุ้นกลุ่มนี้ เนื่องจากไม่ได้ประเมินคุณภาพเต็มที่ ทำให้ต้องซื้อมากๆตัว มาถัวกัน เพราะออาจมีบางตัว ลงแล้วลงเลย
และพอราคาขึ้น ต้องขายทำกำไรโดยไม่เสียดาย
ผมยังสงสัยว่า ระหว่างที่เรารอหุ้นเติบโต ที่กะจะถือไปตลอด แต่ราคายังไม่ลงมาให้ซื้อคุ้ม ในแง่การลงทุน
เราจะซื้อกลุ่มก้นบุหรี่ไปพลางๆก่อน จะทำให้ผลงานดีขึ้นหรือไม่
เดินให้ถึงจุดหมาย
อย่างมีความสุข
อย่างมีความสุข
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
ขอทราบหลักการลงทุนแบบก้นบุหรี่ครับ
โพสต์ที่ 7
ถูกต้องนะคร้าบบบบบบหุ้นกลุ่มนี้ เนื่องจากไม่ได้ประเมินคุณภาพเต็มที่ ทำให้ต้องซื้อมากๆตัว มาถัวกัน เพราะอาจมีบางตัว ลงแล้วลงเลย
กำลังจะเขียนแบบนี้พอดีคุณ suirya (หรือว่าsuriya)ลงมือไปก่อน
ตามความเห็นผมๆว่าไม่น่าครับ เพราะผมชอบเล่นโฟคัส ก้นบุหรี่ต้องมีหลายๆตัวถึงจะปลอดภัย และอีกอย่างหนึ่งถ้าขนาดหุ้นเติบโตยังลงมาให้เราซื้อ อ่า....ก็เป็นไปได้ว่าก้นบุหรี่เราก็ลงได้เหมือนกันนิ.....ผมยังสงสัยว่า ระหว่างที่เรารอหุ้นเติบโต ที่กะจะถือไปตลอด แต่ราคายังไม่ลงมาให้ซื้อคุ้ม ในแง่การลงทุน
เราจะซื้อกลุ่มก้นบุหรี่ไปพลางๆก่อน จะทำให้ผลงานดีขึ้นหรือไม่
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
ขอทราบหลักการลงทุนแบบก้นบุหรี่ครับ
โพสต์ที่ 8
เว้นเสียแต่ไปเจอก้นบุหรี่แบบมี เงื่อนไขพิเศษ ถึงจะน่าซื้อ
เมื่อตอนปู่บัฟยังอยู่กับปรมาจารย์เกรแฮม ตอนนั้นปู่ก็ซัดก้นบุหรี่บ่อยๆ กำไรมั่งขาดทุนมั่ง แต่ส่วนใหญ่จะกำไรเยอะเพราะซื้อไว้ทีละเยอะๆ
แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งปู่ซัดก้นบุหรี่เบิร์กไชค์ ฮาทาเวย์เกือบหมดแม็ค(โฟคัส) ตอนนั้นเบิร์กไชค์ยังทำสิ่งทออยู่ ครั้งนั้นปู่กับเพื่อนๆก็ทั้งบริหารเองทั้งจ้างมืออาชีพ แต่เข็นยังไงก็เข็นไม่ขึ้น ปู่ก็สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมไม่เวิร์ค ครั้นจะทิ้งไปก็เสียดายแม้จะซื้อมาถูกแสนถูก ครั้นจะว่าอาจารย์เกรแฮมสอนผิดก็ไม่ใช่ เพราะ margin of safety ที่อาจารย์สอนเป็นเรื่องที่ถูกต้องมากๆ คิดกี่ตลบก็ยังถูกต้องอยู่
ปู่อยู่กับก้นบุหรี่เบิร์กไชค์อย่างยาวนาน สุดท้ายก็ไม่ไหว ปู่เริ่มมองหาหุ้นก้นบุหรี่ที่มีเงื่อนไขพิเศษ เช่น ต้องมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นด้วย (เดิมทีอาจารย์เกรแฮมไม่สนใจแนวโน้มกิจการ เพราะหุ้นที่ถูกมากๆมักจะมีแนวโน้มไม่ดีอยู่แล้ว ถึงได้ถูกมากๆไงครับ) ต้องมีผลกำไรที่เห็นชัดๆแน่แล้ว ต้องมีผู้บริหารที่ดีๆ ต้องมีวัฏจักรที่จะกลับมารุ่งเรือง ฯลฯ
เอ๊ะ......พอใส่เงื่อนไขเหล่านี้เข้าไป อะไรๆเริ่มดีขึ้นนะ
และแล้วปู่ก็ค้นพบว่า เงื่อนไขเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นมาก โดยเฉพาะเงื่อนไข การได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน นั้นสุดยอดไปเลย เรื่องราคาเริ่มเป็นเรื่องรองแล้ว
สุดท้ายปู่จะซื้อเฉพาะ หุ้นที่คุณภาพสุดยอดในราคาปานกลางหรือยุติธรรมเท่านั้น
เมื่อตอนปู่บัฟยังอยู่กับปรมาจารย์เกรแฮม ตอนนั้นปู่ก็ซัดก้นบุหรี่บ่อยๆ กำไรมั่งขาดทุนมั่ง แต่ส่วนใหญ่จะกำไรเยอะเพราะซื้อไว้ทีละเยอะๆ
แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งปู่ซัดก้นบุหรี่เบิร์กไชค์ ฮาทาเวย์เกือบหมดแม็ค(โฟคัส) ตอนนั้นเบิร์กไชค์ยังทำสิ่งทออยู่ ครั้งนั้นปู่กับเพื่อนๆก็ทั้งบริหารเองทั้งจ้างมืออาชีพ แต่เข็นยังไงก็เข็นไม่ขึ้น ปู่ก็สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมไม่เวิร์ค ครั้นจะทิ้งไปก็เสียดายแม้จะซื้อมาถูกแสนถูก ครั้นจะว่าอาจารย์เกรแฮมสอนผิดก็ไม่ใช่ เพราะ margin of safety ที่อาจารย์สอนเป็นเรื่องที่ถูกต้องมากๆ คิดกี่ตลบก็ยังถูกต้องอยู่
ปู่อยู่กับก้นบุหรี่เบิร์กไชค์อย่างยาวนาน สุดท้ายก็ไม่ไหว ปู่เริ่มมองหาหุ้นก้นบุหรี่ที่มีเงื่อนไขพิเศษ เช่น ต้องมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นด้วย (เดิมทีอาจารย์เกรแฮมไม่สนใจแนวโน้มกิจการ เพราะหุ้นที่ถูกมากๆมักจะมีแนวโน้มไม่ดีอยู่แล้ว ถึงได้ถูกมากๆไงครับ) ต้องมีผลกำไรที่เห็นชัดๆแน่แล้ว ต้องมีผู้บริหารที่ดีๆ ต้องมีวัฏจักรที่จะกลับมารุ่งเรือง ฯลฯ
เอ๊ะ......พอใส่เงื่อนไขเหล่านี้เข้าไป อะไรๆเริ่มดีขึ้นนะ
และแล้วปู่ก็ค้นพบว่า เงื่อนไขเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นมาก โดยเฉพาะเงื่อนไข การได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน นั้นสุดยอดไปเลย เรื่องราคาเริ่มเป็นเรื่องรองแล้ว
สุดท้ายปู่จะซื้อเฉพาะ หุ้นที่คุณภาพสุดยอดในราคาปานกลางหรือยุติธรรมเท่านั้น
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 186
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นสุดยอดด ที่ราคาปานกลาง!!
โพสต์ที่ 9
คนที่มองออกต้องสุดยอดด้วยครับ
ไปฟังงาน วิศวกรกับการลงทุน (ทั้งที่ไม่ได้เป็นวิศวะ)
ท่านดร.นิเวศร์ เล่าเรื่องการมองหา รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดา
สำหรับผมเอง ถ้าถือว่าการลงทุนในหุ้นดีกว่าฝากแบ็งแน่ แต่ผลตอบแทนดีหรือไม่ จะใช้กลยุทธแบบไหนในการลงทุน
1 แบบก้นบุหรี่ ที่คุยๆกันแล้ว
2 มองแบบ หา หุ้นที่ไม่แพงกิจการเรื่อยๆ มีปันผลต่อเนื่อง พอไหว
3 แบบ กิจการกำลังจะมีกำไรเพิ่ม (กำลังหัดอ่านงบการเงินให้เก่ง)
แล้วมองเห็นล่วงหน้า ซื้อไว้ก่อน 1-2 ไตรมาศ ถือได้ 1-3 ปี ก็น่าจะพอไหว
4 มองเห็นหุ้นแข็งแกร่ง ถือได้นานกว่า 5 ปี model ธุรกิจไ้ด้เปรียบ เคยมีตัวอย่างในตปท. ว่าชนะในระยะยาว โดยคนอืนยังมองไม่ออก แล้วซื้อจำนวนมากไว้รอ เฝ้า ดูผลประกอบการไปเรื่อยๆ ว่ายังเป็นไปตามความคิดของเรา แล้วเมื่อทุกคนเห็น ราคาจะตามผลประกอบการขึ้นมาเอง ในชีวิตอาจมีโอกาสไม่ต้องมาก 20-30 ตัว
อันนี้ไม่แน่ใจตัวเองเลยครับ
ท่านสามัญชน ช่วยเพิ่มเติมด้วย แบบไหนดี หรือมีแบบอื่นอีก
ไปฟังงาน วิศวกรกับการลงทุน (ทั้งที่ไม่ได้เป็นวิศวะ)
ท่านดร.นิเวศร์ เล่าเรื่องการมองหา รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดา
สำหรับผมเอง ถ้าถือว่าการลงทุนในหุ้นดีกว่าฝากแบ็งแน่ แต่ผลตอบแทนดีหรือไม่ จะใช้กลยุทธแบบไหนในการลงทุน
1 แบบก้นบุหรี่ ที่คุยๆกันแล้ว
2 มองแบบ หา หุ้นที่ไม่แพงกิจการเรื่อยๆ มีปันผลต่อเนื่อง พอไหว
3 แบบ กิจการกำลังจะมีกำไรเพิ่ม (กำลังหัดอ่านงบการเงินให้เก่ง)
แล้วมองเห็นล่วงหน้า ซื้อไว้ก่อน 1-2 ไตรมาศ ถือได้ 1-3 ปี ก็น่าจะพอไหว
4 มองเห็นหุ้นแข็งแกร่ง ถือได้นานกว่า 5 ปี model ธุรกิจไ้ด้เปรียบ เคยมีตัวอย่างในตปท. ว่าชนะในระยะยาว โดยคนอืนยังมองไม่ออก แล้วซื้อจำนวนมากไว้รอ เฝ้า ดูผลประกอบการไปเรื่อยๆ ว่ายังเป็นไปตามความคิดของเรา แล้วเมื่อทุกคนเห็น ราคาจะตามผลประกอบการขึ้นมาเอง ในชีวิตอาจมีโอกาสไม่ต้องมาก 20-30 ตัว
อันนี้ไม่แน่ใจตัวเองเลยครับ
ท่านสามัญชน ช่วยเพิ่มเติมด้วย แบบไหนดี หรือมีแบบอื่นอีก
เดินให้ถึงจุดหมาย
อย่างมีความสุข
อย่างมีความสุข
-
- ผู้ติดตาม: 0
ขอทราบหลักการลงทุนแบบก้นบุหรี่ครับ
โพสต์ที่ 10
อะเด๊ะ ........ บัฟเฟตต์เหรอบัฟเฟตต์เป็นคนตั้งชื่อให้
ผมนึกว่าคุณมนตรีตั้งชื่อให้ซะอีก
เห็นพกติดปอดอยู่หลายแพ็ค
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
ขอทราบหลักการลงทุนแบบก้นบุหรี่ครับ
โพสต์ที่ 12
ตามความคิดผม ผมชอบเล่นโฟกัสดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหาสุดยอดหุ้น(ไว้กันเหนียว) เพราะจะหาหุ้นก้นบุหรี่และถือตัวเดียวนั้นเป็นการเสี่ยงเกินไปอย่างที่ท่าน suirya ว่า และการเลือกหุ้นสุดยอดแนว vi นั้น แม้ผมจะมองพลาดเพราะความอ่อนประสบการณ์หรือเพราะมองไม่ละเอียดพอ ก็ยังได้กำไรในเปอร์เซนต์ที่สูงอยู่ดี แม้จะไม่ได้กำไรเป็นหลายๆเท่าตัวตามที่หวัง
ก็เลยมองหาว่าปรมาจารย์แต่ละท่านนั้นคิดว่าหุ้นตัวไหนเป็น superstock
ปีเตอร์ ลินช์ เลือกเอา หุ้นเติบโต เป็นที่1.
บัฟเฟตต์เลือกหุ้นที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน เป็นที่ 1.
ส่วนท่านอื่นๆผมไม่ค่อยได้อ่าน และก็คิดว่าแค่สองท่านนี้ก็เพียงพอ อ้อ.....ลืมท่านเกรแฮมซึ่งเลือก หุ้นก้นบุหรี่เป็นที่ 1.อ้อ...และก็อีกท่านหนึ่งคือ ดร.นิเวศน์ท่านก็คิดคล้ายๆปีเตอร์ ลินช์ บัฟเฟตต์และมังเกอร์
ทั้งลินช์และบัฟเฟตต์แบ่งประเภทหุ้นไม่เหมือนกันจึงตั้งชื่อไม่เหมือนกัน แต่โดยลักษณะหุ้นแล้วมีความคล้ายกันมาก ซึ่งก็เป็นตัวยืนยันว่าทั้งสองท่านคิดคล้ายๆกันและเป็นแนวคิดที่อยู่ในทำนองเดียวกันผลลัพธ์จึงคล้ายกัน เป็นอัน ซตพ.
ขยายความว่าหุ้นได้เปรียบเชิงแข่งขันของปู่บัฟก็ย่อมจะสามารถเป็นหุ้นเติบโตได้โดยง่ายเพราะว่าเก่งกว่าใครๆ โดยมีข้อแม้ว่ายังไม่โตเต็มที่ และแม้โตเต็มที่แล้ว ด้วยความที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันก็ยังสามารถที่จะผูกขาดและขึ้นราคาได้ กำไรจึงยังคงเติบโตได้แม้ยอดขายอาจจะโตไม่มากเท่า
ส่วนหุ้นเติบโตของลินช์ก็คงจะมีคุณสมบัติได้เปรียบเชิงแข่งขันอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถรักษาการเติบโตสูงๆได้อย่างยาวนาน
เห็นดังนี้แล้ว ผมคงจะชอบหุ้นเติบโตเป็นแน่แท้ใช่หรือไม่
ปรากฏว่าใช่เป็นส่วนใหญ่ครับแต่ไม่ทั้งหมด
เพราะผมคิดว่าหุ้นในเมืองไทยนั้น จะหาบริษัทที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืนนั้น หาได้ยากมากครับ เพราะส่วนใหญ่บริษัทบ้านเราไม่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งพอ เพราะว่าการสร้างองค์กรให้เป็นองค์กรอมตะนั้นต้องการองค์ประกอบที่มากมายเหลือเกิน และส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถโตได้ถึงระดับโลกเหมือนหุ้นฝรั่งเขา อย่างเก่งเราก็โตเต็มประเทศแล้วก็หยุดโต ทำให้ scale ของการโตน้อยกว่าเขาเยอะ
ผมจึงชอบหุ้นวัฏจักรมากเป็นอันดับ1 ส่วนหุ้นเติบโตเป็นอันดับ 2.และหุ้นเติบโตนั้นมักจะเป็นบริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลางมากกว่าด้วย
ลองดูรายละเอียดในนี้เพิ่มเติมครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 5&start=30
ก็เลยมองหาว่าปรมาจารย์แต่ละท่านนั้นคิดว่าหุ้นตัวไหนเป็น superstock
ปีเตอร์ ลินช์ เลือกเอา หุ้นเติบโต เป็นที่1.
บัฟเฟตต์เลือกหุ้นที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน เป็นที่ 1.
ส่วนท่านอื่นๆผมไม่ค่อยได้อ่าน และก็คิดว่าแค่สองท่านนี้ก็เพียงพอ อ้อ.....ลืมท่านเกรแฮมซึ่งเลือก หุ้นก้นบุหรี่เป็นที่ 1.อ้อ...และก็อีกท่านหนึ่งคือ ดร.นิเวศน์ท่านก็คิดคล้ายๆปีเตอร์ ลินช์ บัฟเฟตต์และมังเกอร์
ทั้งลินช์และบัฟเฟตต์แบ่งประเภทหุ้นไม่เหมือนกันจึงตั้งชื่อไม่เหมือนกัน แต่โดยลักษณะหุ้นแล้วมีความคล้ายกันมาก ซึ่งก็เป็นตัวยืนยันว่าทั้งสองท่านคิดคล้ายๆกันและเป็นแนวคิดที่อยู่ในทำนองเดียวกันผลลัพธ์จึงคล้ายกัน เป็นอัน ซตพ.
ขยายความว่าหุ้นได้เปรียบเชิงแข่งขันของปู่บัฟก็ย่อมจะสามารถเป็นหุ้นเติบโตได้โดยง่ายเพราะว่าเก่งกว่าใครๆ โดยมีข้อแม้ว่ายังไม่โตเต็มที่ และแม้โตเต็มที่แล้ว ด้วยความที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันก็ยังสามารถที่จะผูกขาดและขึ้นราคาได้ กำไรจึงยังคงเติบโตได้แม้ยอดขายอาจจะโตไม่มากเท่า
ส่วนหุ้นเติบโตของลินช์ก็คงจะมีคุณสมบัติได้เปรียบเชิงแข่งขันอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถรักษาการเติบโตสูงๆได้อย่างยาวนาน
เห็นดังนี้แล้ว ผมคงจะชอบหุ้นเติบโตเป็นแน่แท้ใช่หรือไม่
ปรากฏว่าใช่เป็นส่วนใหญ่ครับแต่ไม่ทั้งหมด
เพราะผมคิดว่าหุ้นในเมืองไทยนั้น จะหาบริษัทที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืนนั้น หาได้ยากมากครับ เพราะส่วนใหญ่บริษัทบ้านเราไม่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งพอ เพราะว่าการสร้างองค์กรให้เป็นองค์กรอมตะนั้นต้องการองค์ประกอบที่มากมายเหลือเกิน และส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถโตได้ถึงระดับโลกเหมือนหุ้นฝรั่งเขา อย่างเก่งเราก็โตเต็มประเทศแล้วก็หยุดโต ทำให้ scale ของการโตน้อยกว่าเขาเยอะ
ผมจึงชอบหุ้นวัฏจักรมากเป็นอันดับ1 ส่วนหุ้นเติบโตเป็นอันดับ 2.และหุ้นเติบโตนั้นมักจะเป็นบริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลางมากกว่าด้วย
ลองดูรายละเอียดในนี้เพิ่มเติมครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 5&start=30
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
ขอทราบหลักการลงทุนแบบก้นบุหรี่ครับ
โพสต์ที่ 14
เห็นด้วยกับพี่ หมอ ครับ
ผมชอบเหมือนพี่ หมอเปี๊ยบเลยครับ
สาเหตุก็คือบมจบ้านเราโอกาศที่จะโตอย่างที่พี่หมอกล่าวนั้น
ยากมากอย่างมากก็ครองmarket shareในบ้าน แต่ บมจในusaนั้น
เค้าขยายไปทั่วโลก จึงทําให้growthได้เรื่อยๆราคาก็เด้งเป็น1 2 3 ...เท่า
เรื่อยๆ ฉะนั้นจะหาgrowth stock 5เด้งในบ้านเรานั้นยากมาก
ผมจึงสนใจหุ้น cyclicalเนื่องจากเมื่อcycleของมันเปลี่ยนราคาเพิ่มขึ้น
หลายเด้ง ตามdemand ที่เพิ่ม หรือ growth stock ที่มีราคาถูก
ส่วน asset play ก็สน(ที่บริษัทมีนโยบาย
จะขายสินทรัพย์นะและจ่ายปันผลนะ) เพราะถ้าเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์แล้ว
ไม่ขายทรัพย์นั้นออกเราก็ไม่มีทางได้เงินนนนน :D
ผมชอบเหมือนพี่ หมอเปี๊ยบเลยครับ

สาเหตุก็คือบมจบ้านเราโอกาศที่จะโตอย่างที่พี่หมอกล่าวนั้น
ยากมากอย่างมากก็ครองmarket shareในบ้าน แต่ บมจในusaนั้น
เค้าขยายไปทั่วโลก จึงทําให้growthได้เรื่อยๆราคาก็เด้งเป็น1 2 3 ...เท่า
เรื่อยๆ ฉะนั้นจะหาgrowth stock 5เด้งในบ้านเรานั้นยากมาก
ผมจึงสนใจหุ้น cyclicalเนื่องจากเมื่อcycleของมันเปลี่ยนราคาเพิ่มขึ้น
หลายเด้ง ตามdemand ที่เพิ่ม หรือ growth stock ที่มีราคาถูก
ส่วน asset play ก็สน(ที่บริษัทมีนโยบาย
จะขายสินทรัพย์นะและจ่ายปันผลนะ) เพราะถ้าเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์แล้ว
ไม่ขายทรัพย์นั้นออกเราก็ไม่มีทางได้เงินนนนน :D