CHIC

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 31

โพสต์

“ชิค รีพับบลิค” เตรียม IPO 360 ล้านหุ้น เทรดตลาด mai ไตรมาส4 ปี61
Source - มันนี่แชนแนล (Th)

Wednesday, October 10, 2018 11:00

การเดินหน้าขยายโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายต่างๆ รวมไปถึงรถไฟรางคู่ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่ง หรือแม้กระทั่งของใช้ภายในบ้านปรับตัวคึกคักมากขึ้น ผู้ประกอบการต่างเร่งขยายธุรกิจรองรับการเติบโต เช่นเดียวกับผู้นำด้านโฮมแฟชั่นสโตร์ หรือศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน และของใช้ภายในบ้านแบบครบวงจรอย่าง บมจ.ชิค รีพับบลิค (CHIC) ที่เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ระดมทุนขยายสาขาเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน CHIC บอกว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุญาตแบบคำขอเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนของ CHIC แล้ว ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมตัวนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงไตรมาส 4/61 นี้
โดยปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 500 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ CHIC จะมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 680 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท ทั้งนี้บริษัทจะทำการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 360 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.47% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
ด้าน นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ CHIC ให้สัมภาษณ์ว่า การระดมทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทวางแผนที่จะลงทุนขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 5 สาขา ภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2561 จากปัจจุบันที่มีจำนวน 4 สาขา ในลักษณะ Stand Alone หรือร้านค้าเดี่ยวขนาดใหญ่ที่รวบรวมเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ภายในบ้านแบบครบวงจร (One Stop Shopping) ภายใต้ชื่อ “ชิค รีพับบลิค” และ “รีน่า เฮย์” พื้นที่เฉลี่ย 6,500 – 8,500 ตารางเมตร คาดใช้งบลงทุนต่อสาขาราว 200 ล้านบาท
โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการ 3 สาขา คือ - สาขาประเทศกัมพูชา ซึ่งจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 4/61 - สาขารามอินทรา คาดเปิดให้บริการภายในปี 2562 - สาขาอุดรธานีเปิดให้บริการภายในปี 2563 ส่วนอีก 2 สาขาอยู่ระหว่างการเลือกทำเลที่เหมาะสม
กรรมการผู้จัดการ CHIC บอกด้วยว่า ขณะเดียวกันบริษัทยังวางแผนที่จะเดินหน้าเพิ่มงานโครงการมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีงานในมือ (Backlog) 156 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 2563 ควบคู่ไปกับการทำตลาดแบบผสมผสาน Online to Offline เพื่อช่วยให้ลูกค้าค้นหาสินค้าได้สะดวกและง่ายมากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้ารักษาอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าปัจจุบัน
กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ CHIC
ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2558 – 2560) บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 747.93 ล้านบาท , 698.34 ล้านบาท และ 622.13 ล้านบาทตามลำดับ โดยที่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) อยู่ที่ 54.80%, 49.81% และ 57.77% ตามลำดับ ขณะที่ในช่วง H1/61 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 229.09 ล้านบาท และ Gross Margin 65.33%

ที่มา: http://www.moneychannel.co.th
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 32

โพสต์

*(เพิ่มเติม) "ชิค รีพับบลิค"เตรียมเสนอขายหุ้น IPO 360 ล้านหุ้น พร้อมเข้าตลาด mai ใน Q4/61
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (Th)

Tuesday, October 09, 2018 16:51


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ต.ค. 61)--นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.ชิค รีพับบลิค (CHIC) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุญาตแบบคำขอเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนของ CHIC แล้ว ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมตัวนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงไตรมาส 4/61 นี้
สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ลงทุนขยายสาขา รองรับฐานลูกค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ชำระคืนหนี้กับสถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ทั้งนี้บริษัทดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกในการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน โคมไฟตกแต่ง ที่นอนและเครื่องนอนอย่างครบวงจร ในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวภายใต้แบรนด์ "ชิค รีพับบลิค" (CHIC) และ "ริน่า เฮย์" (RINA HEY)
ปัจจุบัน CHIC มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 500 ล้านบาท และภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ CHIC จะมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 680 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท ทั้งนี้บริษัทจะทำการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 360 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.47% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
"CHIC เป็นร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ที่มีความโดดเด่นเน้นความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดีไซน์สวยงาม ตรงต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และมีโอกาสในการขยายสาขาเข้าไปในหัวเมืองต่างๆที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกเป็นจำนวนมาก ถือเป็นโฮมแฟชั่นสโตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีความเชี่ยวชาญ มีมาตรฐานการดำเนินงานยาวนานมากกว่า 10 ปี" นายวิชากล่าว
ขณะที่ นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ CHIC เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้บริษัทมีแผนจะนำไปใช้ในการขยายสาขา 5 สาขาใน 5 ปี โดยตั้งงบลงทุนเฉลี่ยราว 250 ล้านบาทต่อสาขา และอีกส่วนหนึ่งบริษัทจะนำไปชำระหนี้สถาบันการเงินที่มีอยู่ราว 300 ล้านบาท รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
สำหรัลแผนการขยายสาขา 5 สาขาภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี 61 โดยรวม 3 สาขาที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ อันได้แก่ 1) สาขาประเทศกัมพูชา โดยจะเปิดบริการในห้างสรรพสินค้า Aeon Mall 2 Sen Sok City กรุงพนมเปญ คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 4/61 2) สาขารามอินทรา คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 62 และ 3) สาขาอุดรธานี คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 63
นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการเปิดสาขาใหม่ในหัวเมืองใหญ่ของภูมิภาคต่างๆ ของประเทศทั้งภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ และภาคใต้ เช่น ภูเก็ต หรือ หาดใหญ่ เป็นต้น ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสาขารวม 4 แห่ง ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ เป็นศูนย์กลางของชุมชนเมืองขนาดใหญ่ โดยมีสาขาในกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ประดิษฐ์มนูธรรม บางนา ราชพฤกษ์ ส่วนสาขาต่างจังหวัด ได้แก่ พัทยา
สำหรับเป้าหมายการเติบโตบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 ทรงตัวจากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 629.61 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นในปี 62 เนื่องจาก มองแนวโน้มกำลังซื้อปรับตัวดีขึ้น ประกอบการงานโครงการขยายตัวเพิ่มขึ้น ณ มิ.ย.61 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) 156 ล้านบาท จากลูกค้าผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำหลายราย โดยจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 63
นายกิจจา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีแผนมุ่งเน้นการเข้าร่วมประมูลงานตกแต่งภายในของฐานลูกค้า ในโครงการของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น ตามการฟื้นตัวของตลาดแนวสูง หรือคอนโดมิเนียม จาก 2-3 ปีที่ผ่านมามีการชะลอตัวลง ประกอบกับคาดว่ายอดขายสินค้าหน้าร้าน (ค้าปลีก) จะเติบโตราว 5%
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าขยายสาขาในประเทศกลุ่ม CLMV เป็นหลัก ปัจจุบันมีความชัดเจนในการขยายสาขาในกัมพูชาแล้วในกรุงพนมเปญ เนื่องจากผู้บริโภคในกัมพูชาที่มีกำลังซื้อมีพฤติกรรมใกล้เคียงคนไทย อีกทั้งมองว่าธุรกิจเฟอร์นิเจอร์จะเติบโตได้ดีตามการขยายตัวของธุรกิจร้านกาแฟในกัมพูชาด้วย
บริษัทยังตั้งงบการตลาดไว้ที่ 3% ของยอดขาย โดยมุ่งเน้นการทำการตลาดแบบ O2O (Online-to-Offline Marketing) เป็นหลัก อีกทั้งบริษัทยังทำการตลาดผ่านป้ายโฆษณาบิลบอร์ด, ใบปลิว, และการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้มีจำนวนลูกค้าที่สนใจสินค้าของบริษัทเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายเฉลี่ยต่อบิลสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดด้วย


--อินโฟเควสท์ โดย วิทวัส โพธิ์มูล/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 33

โพสต์

`ชิค รีพับบลิค(CHIC)` คาดเคาะราคา IPO ปลายพ.ย.เทรด mai ต้น ธ.ค.นี้

  บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC เผยในงานสัมภาษณ์กลุ่ม คาดเคาะราคาไอพีโอปลายเดือนนี้ พร้อมเข้าเทรด mai ต้น ธ.ค. การันตีธุรกิจแกร่ง โบรกฯ ให้ราคาเหมาะสม 1.68 บาท โดยมี นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ, นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และนายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะผู้รับประกันการจัดจำหน่าย เป็นผู้ให้ข้อมูล โดยมีสาระสำคัญดังนี้
  - คาดกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ช่วงปลายเดือนนี้ และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้
  "เราได้รับการอนุมัติไฟลิ่งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว คาดว่าช่วงปลายเดือนนี้หรือราววันที่ 20+/- น่าจะกำหนดราคาได้ และจะเข้าซื้อขายช่วงต้นเดือน ธ.ค." นายประเสริฐ กล่าว
  - ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินราคาเป้าหมายที่ 1.68 บาทต่อหุ้น คิดจาก Forward P/E ปี 62 ราว 20 เท่า
  - สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ จะนำเงินไปลงทุนขยายสาขา รองรับฐานลูกค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และจะชำระคืนหนี้แก่สถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
  - CHIC มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 500 ล้านบาท และภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ CHIC จะมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 680 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท ทั้งนี้ บริษัทจะทำการเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 360 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.47% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
  “CHIC เป็นร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ที่มีความโดดเด่นเน้นความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดีไซน์สวยงาม ตรงต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และมีโอกาสในการขยายสาขาเข้าไปในหัวเมืองต่างๆ ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกเป็นจำนวนมาก ถือเป็นโฮมแฟชั่นสโตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีความเชี่ยวชาญ มีมาตรฐานการดำเนินงานยาวนานมากกว่า 10 ปี” นายวิชากล่าว
  - บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 5 แห่ง ช่วงปี 62-66 โดยปัจจุบันเปิดดำเนินการแล้ว 4 สาขา จะเริ่มเน้นกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ และภาคใต้ เช่น ภูเก็ต หรือ หาดใหญ่ เป็นต้น
  - สำหรับรายได้ปีนี้คาดว่าจะทรงตัวจากปีก่อนหน้า เนื่องจากการรับรู้รายได้จากงานโครงการส่วนใหญ่จะรับรู้รายได้ในปี 62-63 โดยบริษัทมีงานในมือ ( Backlog) 156 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งคาดหวังจะได้งานประมาณ 50-70%
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 34

โพสต์

CHIC คาดเคาะราคาไอพีโอ ราว20 พ.ย.นี้ ก่อนลงเทรดmai ช่วงต้นเดือนธ.ค.61
Source - หุ้นอินไซด์รายวัน (Th)

Wednesday, November 07, 2018 17:20


CHIC คาดเคาะราคาไอพีโอ ราว20 พ.ย.นี้ ก่อนลงเทรดmai ช่วงต้นเดือนธ.ค.61 บล.ฟิลลิป ที่ปรึกษาทางการเงิน การันตีจุดเด่นธุรกิจโฮมแฟชั่น สโตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย มั่นใจธุรกิจโตต่อเนื่องหลังระดมทุน ด้าน"กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ"แม่ทัพใหญ่CHIC ตั้งเป้า 5 ปี ขยาย 5 สาขาทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเล็งปีหน้าประมูลงานโครงการมูลค่าราว 500 ลบ.
นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน)ในฐานะผู้รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC เปิดเผยว่า คาดจะสามารถกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO) หุ้นCHIC จำนวน 360 ล้านหุ้น ได้ประมาณวันที่20 พฤศจิกายนนี้ และจะเปิดจองซื้อหุ้นIPO ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน จากนั้นคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)ได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2561
ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ได้มีการจัดทำบทวิเคราะห์หุ้น CHIC โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 1.68 บาทต่อหุ้น ส่วนโบรกเกอร์อื่นๆ ประมาณการราคาเป้าหมายเกิน 1.60 บาท ขณะที่Forward P/E ปีหน้าอยู่ที่ประมาณ20 เท่า
ด้านนายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุญาตแบบคำขอเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมตัวนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai
สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ลงทุนขยายสาขา รองรับฐานลูกค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ชำระคืนหนี้กับสถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ทั้งนี้บริษัทดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกในการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน โคมไฟตกแต่ง ที่นอนและเครื่องนอนอย่างครบวงจร ในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวภายใต้แบรนด์ "ชิค รีพับบลิค" (CHIC) และ "ริน่า เฮย์" (RINA HEY)
ปัจจุบัน CHIC มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 500 ล้านบาท และภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ CHIC จะมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 680 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท ทั้งนี้บริษัทจะทำการเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 360 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.47 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้"CHIC เป็นร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ที่มีความโดดเด่นเน้นความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดีไซน์สวยงาม ตรงต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และมีโอกาสในการขยายสาขาเข้าไปในหัวเมืองต่างๆที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกเป็นจำนวนมาก ถือเป็นโฮมแฟชั่นสโตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีความเชี่ยวชาญ มีมาตรฐานการดำเนินงานยาวนานมากกว่า 10 ปี" นายวิชากล่าว
ขณะที่นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้านและของใช้ในบ้านในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวภายใต้แบรนด์ "ชิค รีพับบลิค" (CHIC) และ"ริน่า เฮย์" (RINA HEY) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนการขยายสาขาให้ได้อีก 5 สาขา ภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี 61 โดยรวม 3 สาขาที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ อันได้แก่ 1) สาขาประเทศกัมพูชา โดยจะเปิดบริการในห้างสรรพสินค้า Aeon Mall 2 Sen Sok City กรุงพนมเปญ คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 4/61 2) สาขารามอินทรา คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 62 และ 3) สาขาอุดรธานี คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 63
นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการเปิดสาขาใหม่ในหัวเมืองใหญ่ของภูมิภาคต่างๆ ของประเทศทั้งภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ และภาคใต้ เช่น ภูเก็ต หรือ หาดใหญ่ เป็นต้น ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสาขารวม 4 แห่ง ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ เป็นศูนย์กลางของชุมชนเมืองขนาดใหญ่ โดยมีสาขาในกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ประดิษฐ์มนูธรรม บางนา ราชพฤกษ์ ส่วนสาขาต่างจังหวัด ได้แก่ พัทยา
สำหรับเป้าหมายการเติบโตบริษัทฯ คาดรายได้ปี 61 ทรงตัวจากปีก่อนหน้า เนื่องจากการรับรู้รายได้จากงานโครงการส่วนใหญ่จะรับรู้รายได้ในปี2562 ถึงปี2563
อย่างไรก็ตามการเติบโตของรายได้มีแนวโน้มเติบโตขึ้นในปี 2562 เนื่องจาก มองแนวโน้มกำลังซื้อปรับตัวดีขึ้น ประกอบการงานโครงการขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงมองว่าเป็นโอกาสที่บริษัทจะได้รับงานมากขึ้นตามไปด้วย และ CHIC ยังมีโครงการพัฒนาเว็บไซต์ของบริษัทสำหรับการขายแบบ E-Commerce ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ในไตรมาส 2/61 เพื่อสนับสนุนช่องทางขายออนไลน์และส่งเสริมกลยุทธ์ Online to Offline ที่จะช่วยให้ลูกค้าค้นหาสินค้าของ CHIC ได้ง่ายขึ้นนอกจากนี้บริษัทยังมีการให้บริการพื้นที่เช่าสำหรับร้านค้าภายในสาขาต่างๆ เพื่อเป็นการดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาในสาขาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ขณะที่สัดส่วนค้าปลีกและงานโครงการเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง (58 - 60) ค้าปลีก 68% งานโครงการ 32% และตั้งเป้าเพิ่มงานโครงการให้มากขึ้น โดยงานโครงการ ณ มิ.ย.61 บริษัทมีงานในมือ ( Backlog ) 156 ล้านบาท จากลูกค้าผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำหลายราย โดยจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 63
นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทฯจะประมูลงานโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนประมูลงานมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาจากการยื่นประมูลงานบริษัทได้งานประมาณ50-70%
--- หุ้นอินไซด์ ฉบับวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 35

โพสต์

CHIC จับมือ Ashley พันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่จากอเมริกา แบรนด์ดังระดับโลก โชว์จุดเด่นสินค้าตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่น อเมริกันสไตล์ดีไซน์เรียบหรูมีเอกลักษณ์ พร้อมส่งผลิตภัณฑ์บุกโชว์รูมทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ มั่นใจกระแสตอบรับดี เผยธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้าน โตต่อเนื่อง กำลังซื้อเพิ่ม โครงการ Hi-end เปิดตัว หนุนธุรกิจโต
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้านและของใช้ในบ้านในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวภายใต้แบรนด์ “ชิค รีพับบลิค” (CHIC) และ“ริน่า เฮย์” (RINA HEY) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรจากสหรัฐอเมริกา “Ashley” (แอชลีย์) แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ที่สุดที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้เฟอร์นิเจอร์ของแอชลีย์ที่นำเข้ามาจำหน่ายภายใต้ Concept Store ว่า “Ashley Furniture Home Store” สะท้อน Lifestyle ที่มีความทันสมัยแบบอเมริกันสไตล์ ประกอบไปด้วยสไตล์ต่างๆ อาทิ Vintage Casual, Mane+Mason, Urbanology, Contemporary Living, New Traditions, Family Space เน้นการดีไซน์สวยหรู มีเอกลักษณ์แบบอเมริกันสไตล์ ด้วยกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานสูง จึงสามารถมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และยังสามารถตอบโจทย์การตกแต่ง การใช้งานภายในบ้านได้อย่างลงตัว อาทิ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น โฮมออฟฟิศ ห้องอเนกประสงค์ ห้องเด็ก ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้องน้ำ ลานกลางแจ้ง เป็นต้น มีกลุ่มผลิตภัณฑ์มากกว่า 10 กลุ่มผลิตภัณฑ์ อาทิ เตียง ตู้ ชั้นวาง โต๊ะทำงาน โต๊ะรับประทานอาหาร โซฟา ลิ้นชัก ชั้นวางทีวี ฯลฯ
เบื้องต้น CHIC จะนำผลิตภัณฑ์เข้ามาวางจำหน่ายใน 2 ช่องทาง ประกอบด้วย 1.เว็บไซต์ (Web order) Website: www.chicrepublicthai.com<http://www.chicrepublicthai.com> 2. ลูกค้าสามารถเลือกชมสินค้าได้ทั้ง 4 สาขา ( Offline) ได้แก่ สาขาบางนา สาขาประดิษฐ์มนูธรรม สาขาราชพฤกษ์ และสาขาพัทยา ซึ่ง CHIC ได้ปรับพื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตร ในทุกสาขาให้เป็นโซนแสดงสินค้าเฉพาะของแอชลีย์ สำหรับแผนการตลาดเบื้องต้นบริษัทจะเน้นการทำตลาดและโปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้จัก
“ภาพรวมธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ในช่วงที่เหลือของปี 61 ตลอดจนถึงปีหน้า คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน เนื่องจากผู้บริโภคในกลุ่มนี้มีความมั่นใจในการใช้จ่ายมากขึ้น โครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับ Hi-end ทั้งแนวราบและแนวสูงคาดว่าจะเปิดตัวมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นโอกาสที่ดีในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งบริษัทได้มีการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการเลือกซื้อของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ”นายกิจจากล่าว
Mr. Todd Wanek ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ashley กล่าวว่า บริษัทมองเห็นโอกาสการเติบโตทางธุรกิจของตลาดในประเทศไทย ที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มความต้องการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ในอัตราที่สูง รวมไปถึงมีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยความร่วมมือในครั้งนี้กับ CHIC ถือว่าเป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพ ด้วยรูปแบบของสาขาที่เป็นโฮมแฟชั่นสโตร์ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ และมีฐานลูกค้าตรงกัน จึงเป็นการช่วยส่งเสริมการขยายตลาดใหม่ให้เกิดการตอบรับที่ดี
โดย ASHLEY ร่วมมือกับ CHIC เพื่อนำสินค้าขยายตลาดในประเทศไทย ตามแผนขยายการเติบโตของ CHIC เชื่อว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูงในแบบอเมริกันสไตล์ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน จนสามารถเพิ่มยอดขายให้เติบโตได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ASHLEY มีประสบการณ์ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์และได้รับการยอมรับของประเทศทั่วโลก มายาวนานกว่า 70 ปี ปัจจุบันมีสาขาครอบคลุมกว่า 850 สาขาทั่วโลก สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ashleyfurniture.com
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 36

โพสต์

ลงทุนในความชิค ลงทุนในหุ้น CHIC Republic

CHIC Republic
CHIC หรือ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) คือ ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์สแตนอะโลนซึ่งถือเป็นโฮมแฟชั่นสโตร์รายแรก และรายเดียวในประเทศไทย ปัจจุบันมีทั้งหมด 5 สาขา ได้แก่ สาขาประดิษฐ์มนูธรรม พัทยา บางนา ราชพฤกษ์ และสาขาใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งเปิดดำเนินการในเดือนตุลาคม 2561 นั่นคือ สาขาที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในห้างสรรพสินค้า Aeon Mall 2 Sen Sok City ซึ่งถือเป็นสาขาต่างประเทศแห่งแรกของ CHIC อีกด้วย โดยปัจจุบัน CHIC Republic กำลังจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เพื่อนำเงินที่ได้ไปลงทุนในสาขาใหม่เพิ่มเติม ชำระคืนเงินกู้กับสถาบันการเงิน และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

CHIC Republic

CHIC ประกอบธุรกิจหลักแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน

1 การขายสินค้าผ่านหน้าร้านของบริษัท

CHIC มีสาขาของตนเองทั้งหมด 5 สาขาดังที่ได้กล่าวข้างต้น โดยมีขนาดพื้นที่ประมาณ 6,500 – 12,000 ตารางเมตรต่อสาขาในประเทศไทย (ยกเว้นสาขาที่กัมพูชาที่มีขนาดพื้นที่ขายประมาณ 3,003 ตารางเมตร เนื่องจากตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า) ลักษณะเหมือนห้างค้าปลีกสไตล์ Category Killers แบบตะวันตกที่จะมีลักษณะเป็นเหมือนห้างที่ตั้ง stand alone แต่จะขายสินค้าเฉพาะประเภทอย่าง CHIC Republic ก็จะขายสินค้าจำพวกเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้าน เป็นหลัก ลักษณะภายในร้านจะตกแต่งแบบมีเอกลักษณ์แต่ทันสมัย ภายในร้านมีการจัดสินค้าเป็นห้องตัวอย่างซึ่งผสมผสานการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ได้อย่างน่าสนใจ เพื่อให้ผู้ที่มาเดินเลือกซื้อของเกิดจินตนาการในการตกแต่งที่อยู่อาศัยของตนเอง โดยจุดเด่นที่ค่อนข้างชัดของ CHIC คือ มีการนำเสนอสินค้าใหม่ทุก 4 – 6 เดือน เรียกว่ากลับไปเดินกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เพราะมีเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ หมุนเวียนมาให้เลือกซื้อตลอดทุกช่วงเวลา

สำหรับสาขากัมพูชาที่เพิ่งเปิดดำเนินการ จะมีรูปแบบสาขาแตกต่างกับสาขาอื่นๆ ในกรุงเทพ กล่าวคือ สาขากัมพูชา จะตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า AEON MALL 2 SEN SOK CITY ซึ่งเป็นห้างขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกรุงพนมเปญ เปรียบได้กับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 3 ในประเทศไทย ทำให้สาขาดังกล่าวมีขนาดพื้นที่เล็กกว่าสาขาอื่นๆ อยู่ที่ 3,003 ตารางเมตร แต่แลกมาด้วยกับทำเลชั้นเยี่ยมและจำนวนลูกค้าที่มาเยี่ยมชมสินค้ามากขึ้นซึ่งจากการเปิดตัวในช่วงที่ผ่านมา เรียกได้ว่าได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีเลยทีเดียว

สินค้าที่วางขายอยู่ใน CHIC Republic จะมี 2 ประเภท คือ สินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทเอง (แบรนด์ CHIC และ RINA HEY) ส่วนนี้บริษัทจะมีการออกแบบและจ้างผลิต (ODM) ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโรงงานต่างประเทศ และสินค้าภายใต้แบรนด์ของคู่ค้าอื่นในลักษณะของสินค้าฝากขาย ซึ่ง CHIC ก็จะทำธุรกิจเหมือนบริษัทค้าปลีกอื่นที่จะมีพื้นที่ ให้แบรนด์อื่นวางสินค้าสำหรับขาย โดยจะมีการแบ่งกำไรกันตามข้อตกลงเหมือนบริษัทค้าปลีกทั่วไป โดยบริษัทจะมีสัดส่วนการขายระหว่างสินค้าแบรนด์ตนเองกับแบรนด์คู่ค้าอื่น (คิดจากยอดขายรวมซึ่งไม่ได้หักต้นทุนขาย) อยู่ที่ประมาณ 65 : 35 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ บริษัทยังมีกลยุทธ์ในการปรับพื้นที่ค้าปลีกภายในร้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของพื้นที่ขายและเพิ่มรายได้ โดยจะปรับพื้นที่ขายประมาณ 1,000 ตารางเมตรในทุกสาขา เพื่อขายสินค้าแบรนด์ Ashely แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกาในรูปแบบ Shop in shop เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรูปแบบสินค้า เพื่อตอบรับกับรสนิยมของผู้บริโภคที่หลากหลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ จะเพิ่มการขายเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะมากขึ้น

CHIC Republic

2 การขายงานโครงการ

CHIC มีการรับงานโครงการตกแต่งภายในให้กับโครงการคอนโดมิเนียมหลากหลายโครงการ เช่นกัน โดยลูกค้าของ CHIC ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทชั้นนำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ แสนสิริ พฤกษา ออริจิ้น เป็นต้น โดย CHIC จะให้บริการทั้งการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แบบสำเร็จรูป และ Built-in สำหรับโครงการใหม่ หรือรวมถึงการตกแต่งภายในห้องชุดบางยูนิต สำหรับโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว เพื่อเร่งการขายห้องชุด เป็นต้น

โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 CHIC มีงานโครงการในมือที่รอส่งมอบ (Backlog) รวมเท่ากับ 156 ล้านบาท และมีงานที่จะเข้าร่วมประมูลที่เหลือในปี 2561 ประมาณ 502 ล้านบาท ซึ่งหากอ้างอิงจากข้อมูลในอดีต CHIC จะมีอัตราการได้งานจากการประมูลสูงถึงประมาณ 47%

3 การให้บริการพื้นที่เช่า

นอกจากนี้ CHIC Republic ยังเป็นร้านค้าปลีกที่แบ่งพื้นที่บางส่วนให้กับผู้ประกอบการอื่นมาเช่าด้วย ซึ่งมีประโยชน์ ทั้งในแง่การเพิ่มรายได้ และเป็นเสมือนแม่เหล็ก (Magnet) ในการดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาเดินชมสินค้าที่ร้านมากขึ้นซึ่งผู้ประกอบการที่จะมาเปิด จะผ่านการคัดเลือกจาก CHIC มาเป็นอย่างดี โดยคัดเลือกร้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เหมาะสมกับคอนเซปต์ของ CHIC คือ มีสไตล์ มีรสนิยม มีดีไซน์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร เช่น สตาร์บัคส์ แมคโดนัลด์ ร้านอาหารลูกไก่ทอง ร้านอาหารญี่ปุ่นมากูโระ ร้านสเต็กกล่องชา 24 ของคุณป๋อ ณัฐวุฒิ เป็นต้น

CHIC Republic

4 การส่งออก

ในอนาคต CHIC ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่ายเพิ่มเติมอีกหนึ่งช่องทาง คือ การส่งออกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านไปขายให้กับลูกค้าซึ่งเป็นผู้จำหน่ายปลีกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ในแถบเอเชีย โดยจะเริ่มดำเนินการในปี 2561 และคาดว่าจะขยายการเติบโตของส่วนนี้มากขึ้นในอนาคต

วิเคราะห์ภาพรวมรายได้จากช่วง 2558 – 2560 ที่ผ่านมา

เหตุผลที่รายได้ของบริษัทลดลงในปี 2559 เนื่องจากบริษัทมีการปิดสาขาบางสาขาในปีก่อนหน้า โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานสาขาที่มีศักยภาพ และคงเอกลักษณ์ของความเป็น Stand-alone shop และในปี 2560 แม้ว่ารายได้การขายหน้าร้านจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากมีการเปิดสาขาที่ราชพฤกษ์ในช่วงปลายปี 2559 แต่ก็มีรายได้ในส่วนของการขายงานโครงการที่ลดลง เนื่องจากในช่วงปี 2559 – 2560 CHIC ได้เน้นการให้บริการลูกค้างานโครงการเฉพาะเจาะจงเพียงบางราย รายได้จากการขายงานโครงการจึงมีความผันผวน ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว โดยเพิ่มจำนวนลูกค้าและงานโครงการให้หลากหลายยิ่งขึ้น อีกทั้งลูกค้าโครงการในปัจจุบันของบริษัทยังเป็นผู้ประกอบการชั้นนำที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากการให้บริการพื้นที่เช่ามาชดเชยรายได้จากส่วนอื่นๆ ที่หายไป โดยรายได้จากการให้บริการพื้นที่เช่าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่ทำให้มีพื้นที่เช่าและรายได้มากขึ้นไปตามสัดส่วน อีกทั้งยังช่วยกระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

CHIC Republic

CHIC Republic

วิเคราะห์ภาพรวมงบกำไรขาดทุนจากช่วง 2558 – 2560 ที่ผ่านมา

แนวโน้มของกำไรเป็นไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มของรายได้ที่มีลักษณะหดตัวลง ในช่วงปี 2559 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นหดตัวลง เนื่องจาก CHIC มีสัดส่วนการขายงานโครงการที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งงานโครงการจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าการขายสินค้าหน้าร้าน อย่างไรก็ตามในปี 2560 และครึ่งปี 2561 อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนตามรายได้การขายหน้าร้านที่เริ่มฟื้นตัวจากปี 2559 ในขณะที่งานโครงการปรับตัวลง แม้ว่าโดยรวมแล้ว CHIC จะมีกำไรสุทธิลดลง แต่ CHIC ยังมีอัตรากำไรขั้นต้น และคาดว่าจะรักษาระดับนี้ได้อย่างต่อเนื่อง

CHIC Republic

แนวโน้มของ CHIC จะเป็นอย่างไรต่อไป

สาขาใหม่ทั้งในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่

หลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ CHIC มีแผนจะนำเงินทุนไปขยายสาขาเป็นหลัก ซึ่งรวมถึงสาขาในกรุงเทพฯ ได้แก่ สาขารามอินทราในปี 2562 และสาขาในหัวเมืองใหญ่ เช่น สาขาอุดรธานี ในปี 2563 โดยสาขาทั้งหมดจะมีลักษณะเป็นร้านค้า stand alone นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะขยายตัวไปยังหัวเมืองใหญ่อื่นๆ ที่มีกำลังซื้อสูงตามภูมิภาคต่างๆ ด้วย เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ตหรือหาดใหญ่ เป็นต้น โดยบริษัทตั้งเป้าจะขยายสาขาให้ได้ 5 สาขาในเวลา 5 ปี ซึ่งบริษัทได้บรรลุเป้าหมายแล้วหนึ่งสาขา นั่นคือ สาขาประเทศกัมพูชาที่เพิ่งเปิดตัวไปนั่นเอง

เข้าสู่ยุค E-commerce เพื่อเชื่อมต่อ O2O

บริษัทได้ขยายการขายสินค้าผ่านทาง e-commerce เพิ่มเติมอีกด้วย โดยนำ RINA HEY มาเป็นเรือธงในการขายสินค้าออนไลน์ โดยจุดเด่นของแบรนด์ คือ จะมีราคาไม่แพง เข้าถึงได้ เหมาะกับการใช้ในคอนโดมิเนียมที่กำลังขยายตัวเรื่อยๆ ในปัจจุบัน กลยุทธ์ O2O จึงกลายมาเป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจของบริษัท เพราะค้าปลีกในยุคปัจจุบันต่างพากันเน้นไปที่การเชื่อมโยงประสบการณ์แบบ Online และ Offline เข้าด้วยกัน ซึ่งบริษัทก็มุ่งเน้นตรงนี้เป็นอย่างดี ทั้งการสร้างประสบการณ์ในการใช้เว็บไซต์และโซเชียลมีเดียที่จะเชื่อมไปสู่การไปเดินชมเฟอร์นิเจอร์จริงที่หน้าร้าน เรียกได้ว่าขยายช่องทางของประสบการณ์และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อให้กว้างขึ้น

เติบโตด้วย Backlog และงานประมูล

บริษัทก็มีแนวโน้มที่จะมีรายได้จากงานโครงการเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จากยอด Backlog กว่า 156 ล้านบาท ในช่วงกลางปี 2561 และมูลค่าโครงการที่เหลืออีกกว่า 502 ล้านบาทที่บริษัทจะเข้าประมูลในปีนี้ ยังไม่รวมถึงงานโครงการที่มีโอกาสเข้ามาเพิ่มเติมในปีถัดๆ ไป จากยอด Backlog ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นลูกค้าของ CHIC ที่ยังแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มเติบโตดี

สรุป

ในแง่ของภาพรวมการเติบโตของรายได้นั้น นักลงทุนควรจะต้องพิจารณาควบคู่ไปกับการเติบโตของกำลังซื้อภายในประเทศที่มีความสัมพันธ์กับยอดขายหน้าร้าน และการเติบโตของภาคพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการขายงานโครงการ ทั้งนี้ CHIC ถือเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นและ Degree of Operating Leverage ที่สูง ส่งผลให้การเติบโตของรายได้จากการขยายสาขาและฐานลูกค้างานโครงการ การขายสินค้าออนไลน์ และการทำการตลาดแบบรุกหนักจะผลักดันกำไรสุทธิของ CHIC ให้เติบโตอย่างรวดเร็วจากการประหยัดต่อขนาด

CHIC Republic

CHIC Republic

บริษัทจะเสนอขายหุ้นจำนวนทั้งสิ้น 360 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 26.47 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้

บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาแนะนำซื้อ ถือ หรือขายหลักทรัพย์ เพียงแต่สรุปข้อมูลที่ปรากฎอยู่ในหนังสือชี้ชวนเพื่อให้นักลงทุนสะดวกต่อการใช้เป็นข้อมูลในการลงทุนเท่านั้น หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://market.sec.or.th/public/ipos/IPO ... sID=175783

ลงทุนศาสตร์ – Investerest
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 37

โพสต์

CHIC : บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน)
ประเภทธุรกิจ
ศูนย์รวมจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน โคมไฟตกแต่ง และที่นอนและเครื่องนอน อย่างครบวงจร (One Stop Shopping) ในรูปแบบ “Stand Alone” หรือ ร้านค้าเดี่ยวขนาดใหญ่ ภายใต้ชื่อ “ชิค รีพับบลิค (CHIC)” และ “ริน่า เฮย์ (RINA HEY)”
ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
กลุ่มอุตสาหกรรม
บริการ
สถานะ Approved
จำนวนหุ้นที่ IPO
360,000,000 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 26.47 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดภายหลังการเสนอขาย ) แบ่งเป็น
1) เสนอขายต่อประชาชน 270,000,000 หุ้น
2) เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณบริษัท 54,000,000 หุ้น
3) เสนอขายต่อบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทและพนักงานบริษัท 36,000,000 หุ้น
ระยะเวลาเสนอขายหุ้น n/a
ราคา IPO n/a
ราคา PAR 0.50 บาท
วันที่เริ่มซื้อขาย n/a
ที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ข้อมูล Filing www.chicrepublicthai.com
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 38

โพสต์



CHIC รุกขยายทุกช่องทางเพิ่มสาขาใน-ตปท.บุกอีคอมเมิร์ซ พร้อมชิงงานโครงการสร้างความยั่งยืน
Published on Nov 18, 2018

ผู้ให้สัมภาษณ์:
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชิค รีพับบลิค (CHIC)

รายงานโดยสำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ย. 61)

บมจ.ชิค รีพับบลิค (CHIC) พร้อมเดินหน้าลุยขยายทุกช่องทางขาย เพิ่มบมจ.ชิค รีพับบลิค (CHIC) พร้อมเดินหน้าลุยขยายทุกช่องทางขาย เพิ่มสาขาหัวเมืองใหญ่หวังกวาดลูกค้าต่างจังหวัด และประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกันมองหาโอกาสบุกตลาดต่างประเทศเพิ่มทั้งใน CLMV และนอกกลุ่มหลังประเดิมเปิดสาขากัมพูชาเป็นสาขาแรกได้ผลตอบรับดีกว่าคาด ดันรายได้หลักจากการขายหน้าร้าน พร้อมโดดชิงงานโครงการเพิ่มเพื่อสร้างรายได้ล็อตใหญ่ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสต็อก เปิดช่องทางขายออนไลน์สร้างการรับรู้ในแบรนด์

นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ ของ CHIC เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 360 ล้านหุ้นภายในปีนี้เพื่อนำเงินส่วนใหญ่มาขยายสาขา CHIC Republic โดยตั้งเป้าอย่างน้อย 5 สาขาภายใน 5 ปี ตั้งงบลงทุนเฉลี่ย 250 ล้านบาทต่อสาขา

สำหรับสาขาที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ 1) สาขา Aeon Mall 2 Sen Sok City ประเทศกัมพูชา ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 บนพื้นที่ 3,500 ตารางเมตร งบลงทุน 30 ล้านบาท ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 2) สาขารามอินทรา งบลงทุน 250 ล้านบาทได้รับสัญญาเช่าที่ดินแล้ว อยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงสร้างหลัก คาดว่าจะเปิดให้บริการในครึ่งหลังปี 62 และ 3) สาขาอุดรธานี งบลงทุน 196 ล้านบาท ได้รับอนุมัติการก่อสร้างแล้วสัญญาเช่าที่ดิน 30 ปี คาดเปิดให้บริการปี 63
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 39

โพสต์

ครอบครัวปัทมสัตยาสนธิ นำอินเด็กซ์เตรียมเข้าตลาดหุ้นตาม CHIC เช่นกัน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

*(เพิ่มเติม1) "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์"ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 105 ล้านหุ้นเข้า SET ใช้ขยายธุรกิจ-คืนเงินกู้
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (Th)

Thursday, December 06, 2018 11:35


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ธ.ค. 61)--บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 105 ล้านหุ้น คิดเป็น 20.79% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) โดยมี บล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อนำไปใช้ขยายธุรกิจ ทั้งการขยายสาขาร้าน Index LivingMall,ขยายสาขาคอมมูนิตี้มอลล์,ขยายสาขาเทคโนโลยี Younique, ขยายร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก รวมทั้งโครงการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงาน และโครงการอื่น อีกทั้งจะใช้เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
บริษัทประกอบธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ของบริษัทและแบรนด์อื่น ๆ ผ่านช่องทางหน้าร้านค้าปลีก งานโครงการ ตัวแทนจำหน่าย (Dealer) และออนไลน์ บริษัทยังให้สิทธิแฟรนไชส์กับผู้ประกอบการต่างประเทศเพื่อจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัทในประเทศนั้น ๆ และยังรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) ให้กับผู้ประกอบการในต่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประกอบธุรกิจให้เช่าและให้บริการพื้นที่เช่าภายใน Index Living Mall และรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ภายใต้แบรนด์ The Walk และ Little Walk
บริษัทมีแผนขยายสาขาร้านค้า Index Living Mall เพิ่ม 2-3 สาขาต่อปี ซึ่งภายในเดือน ก.พ.62 จะเปิดร้าน Index Living Mall สาขาชัยพฤกษ์ พื้นที่ขาย 3,200 ตารางเมตร และส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่เช่าสำหรับร้านค้าอื่น ๆ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 233 ล้านบาท และในปี 62 ขยาย 3 สาขา คือ สาขาจันทบุรี พื้นที่ขาย 3,500 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุน 160 ล้านบาท เปิดบริการ ก.ค.62 สาขาสุขาภิบาล 3 พื้นที่ขาย 3,500 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุน 160 ล้านบาท เปิดบริการ พ.ย.62 และสาขารามอินทรา พื้นที่ขายและพื้นที่ให้เช่า 9,200 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาท เปิดบริการ ธ.ค.62
ในปี 62 บริษัทมีแผนเปิดโครงการ Little Walk อย่างต่อเนื่องอีก 1 สาขา ได้แก่ สาขาถนน 345 โดยอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบโครงการคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท เปิดบริการ ธ.ค.62 และจะขยาย Younique เพิ่มเติมในสาขาร้าน Index Living Mall ใช้เงินลงทุน 70 ล้านบาท เปิดให้บริการ ธ.ค.62
บริษัทมีแผนจะขยายร้านค้าในรูปแบบดำเนินการและบริหารด้วยบริษัทฯ เอง (Company Owned Company Operated - COCO) ในรูปแบบ Standalone พื้นที่ขาย 1,000-1,700 ตารางเมตร ภายใต้ชื่อร้าน "Winner Furniture Center"จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ WINNER ซึ่งเป็นสินค้าที่มุ่งเน้นในการตอบโจทย์ลูกค้าระดับ Mass เป็นหลัก อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบร้านและจัดหาพื้นที่ โดยในปี 62 คาดว่าจะสามารถเปิดร้านค้าดังกล่าว 5 สาขา ใช้เงินลงทุน 72 ล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทมีแผนขยายการลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ที่ร้าน Index Living Mall อีกจำนวน 7 สาขาในปี 62 ได้แก่ 1) สาขารังสิต 2) สาขาภูเก็ต 3) สาขาอุดรธานี 4) สาขาหาดใหญ่ 5) สาขาเชียงใหม่ 6) สาขาพิษณุโลก และ 7) สาขาขอนแก่น โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งหมด 250 ล้านบาท
ส่วนโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานคาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 223 ล้านบาทแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.61 และโครงการอื่น ๆ มีแผนการลงทุนในโครงการย่อย ๆ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 213 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการของปบริษัทในช่วงปี 58-60 บริษัทมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายและรายได้จากการให้บริการ โดยในปี 58 และเท่ากับ 9,165.8 ล้านบาท ปี 59 เท่ากับ 9,362.3 ล้านบาท และปี 60 เท่ากับ 9,366.2 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิปี 58 อยู่ที่ 652.5 ล้านบาท ปี 59 อยู่ที่ 489.9 ล้านบาท และปี 60 อยู่ที่ 490.2 ล้านบาท
ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 60 มีรายได้รวม 6,913.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 428.3 ล้านบาท และ 9 เดือนแรกปี 61 เท่ากับ 7,176.8 ล้านบาท กำไรสุทธิ 176.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.1% และ 2.4% ของรายได้รวม ตามลำดับ
วันที่ 31 ก.ย.61 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 12,123.8 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 7,803.6 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 4,320.2 ล้านบาท โดยกลุ่มบริษัทมีสัญญาสนับสนุนทางการเงิน (Facility Agreement) กับธนาคารกรุงเทพ 3,372.4 ล้านบาท ใช้เงินกู้ดังกล่าวแล้ว 1,742.8 ล้านบาท
ก่อนการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด บริษัทมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จำนวน 2,000,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 20,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100.0 บาท ต่อมาที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2561 เมื่อวันที่ 30 พ.ค.61 มีมติอนุมัติให้แปลงมูลค่าที่ตราไว้เป็นหุ้นละ 5.0 บาท ทำให้หุ้นสามัญของบริษัทเพิ่มเป็น 400,000,000 หุ้น และเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 525,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 105,000,000 หุ้นจัดสรรเสนอขาย IPO ส่งผลให้บริษัทมีทุนจดทะเบียน 2,525,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 505,000,000 หุ้น โดยเป็นทุนชำระแล้ว 2,000,000,000 บาท และภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO จะมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วไม่เกิน 2,525,000,000 บาท
รายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทมีกลุ่มครอบครัวปัทมสัตยาสนธิถือหุ้น 91.% หลัง IPO จะลดสัดส่วนลงเหลือ 72.6% และกลุ่มครอบครัวอุดมมหันติสุขถือหุ้น 7.2% หลัง IPO จะลดสัดส่วนลงเหลือ 5.7%
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี


--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 40

โพสต์

IPO แหยง ที่ปรึกษาแนะเพิ่มส่วนลดราคา CHIC เลื่อนขายหุ้น

08/01/2019IPO
SAAM ทำขนหัวลุก ที่ปรึกษาทางการเงิน คาดไอพีโอชะลอแผนขายหุ้น นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ระบุหากจะขายต้องกำหนดราคาที่มีส่วนลดมากขึ้น สร้างแรงจูงใจ ส่วน “ชิค รีพับบลิค” บอร์ดนัดประชุมสัปดาห์หน้า รอภาวะตลาดเป็นใจ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้าตลาดยากขึ้น

บริษัท เอสเอเอเอ็ม เอ็นเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ (SAAM) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai)วันที่ 7 ม.ค. 2562 ประเดิมตัวแรกของปี 2562 สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้บริหารที่กำลังจะขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก(ไอพีโอ) เพราะราคาวันแรกทรุดต่ำกว่าราคาจองถึง 15.56% โดยปิดที่ 1.52 บาท ติดลบ 0.28 บาท จากราคาไอพีโอ 1.80 บาท แม้ว่าราคาหุ้นวันที่สองจะฟื้นขึ้นมาบวกเล็กน้อยได้ก็ตาม

ปัจจุบันมีหุ้นจำนวน 3 บริษัทที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ให้เสนอขายหุ้นไอพีโอได้แล้ว ส่วนบริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) หรือ CAZ กำลังเปิดขายหุ้นจำนวน 80 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.90 บาท ซึ่งไม่ใช่ราคาสูงสุดจากช่วงราคาที่กำหนด 3.60-4.10 บาท



นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค (CHIC )ประกอบธุรกิจเป็นศูนย์รวมจัดจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน และที่นอนและเครื่องนอน อย่างครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทเลื่อนการขายไอพีโอ จากเดิมวางแผนจะเสนอขายหุ้นจำนวน
360 ล้านหุ้นในปลายปีที่ผ่านมา เพื่อรอดูภาวะตลาดหุ้นหลังปีใหม่ แต่เมื่อเห็นราคาหุ้น SAAM ในวันแรก ก็จะต้องพิจารณาข้อมูลให้ดียิ่งขึ้น และจะต้องพิจารณาภาวะตลาดไอพีโอประกอบด้วย โดยคณะกรรมการบริษัทฯจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า ว่าจะเสนอขายหุ้นไอพีโอเมื่อใด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันที่แน่นอน

“ผมยังมีความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ยอดขายและรายได้ในเดือนพ.ย.และธ.ค. 2561 ยังคงดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม มีลูกค้าก่อสร้างจำนวน 3-4 โครงการ งานดีเลย์ ทำให้การรับมอบงานเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งต้องเลื่อนไปในไตรมาส 1/2562 ทำให้ผลประกอบการไตรมาสแรกเติบโตมาก ขณะที่ไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ทรงตัเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2560 “นายกิจจากล่าว

นายเล็ก สิงขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่หุ้นไอพีโอ ชะลอการขายหุ้น เนื่องจากต้องการรอดูภาวะตลาดหุ้นให้ชัดเจนก่อน โดยเฉพาะปัจจัยที่มีผลต่อภาวะการซื้อขายหุ้นไอพีโอ ได้แก่ การกำหนดวันเลือกตั้ง รวมถึงสงครามการค้าว่าจะเป็นอย่างไร

“มีความเป็นไปได้ที่หุ้นไอพีโอจะชะลอการขาย เห็นได้ว่ามีหุ้นบางบริษัทที่ได้รับการอนุมัติให้เสนอขายหุ้นได้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีการขายแต่อย่างใด”นายเล็ก กล่าว

กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส กล่าวว่า สาเหตุหนึ่งที่หุ้นไอพีโอเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ราคาต่ำกว่าราคาจองช่วงที่ผ่านมา เพราะหุ้นบางตัวมีการกำหนดราคาขายที่สูงเกินไป ขณะที่นักลงทุนสามารถที่จะเลือกหุ้นที่ทำธุรกิจเดียวกันที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว แต่ราคาถูกกว่าได้

นายเล็กกล่าวว่า ในปี 2562 บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส มีแผนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนประมาณ 4 บริษัท ขณะนี้ได้ยื่นไฟลิ่งไปแล้ว 4 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท อาบาเทก(เอเชีย) ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) , บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์, บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น และบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ เข้า mai โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต.

นายเล็ก กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นภายหลังจากได้รับอนุมัติจากก.ล.ต. จะต้องพิจารณาจัดลำดับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งยอมรับว่า บริษัทออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ และบริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น ที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการดูแลการปล่อยสินเชื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงต้องกำหนดเวลาให้เหมาะสม แต่เชื่อว่าหุ้นไอพีโอทั้ง 4 บริษัทจะเสนอขายได้ เพราะเป็นหุ้นที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ กล่าวว่า หุ้นไอพีโอที่จะเสนอขายในช่วงนี้ จะต้องกำหนดราคาที่ให้ส่วนลดกับนักลงทุนมากขึ้น เพื่อจูงใจในการลงทุน เพราะขณะนี้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นที่จะซื้อหุ้นไอพีโอ หากเข้าลงทุนก็จะมองถึงผลตอบแทนในระยะสั้น ไม่ได้มองปัจจัยพื้นฐานระยะยาว

“การกำหนดราคาหุ้นไอพีโอบนพื้นฐานของแนวโน้มผลประกอบการในอนาคตว่าจะเติบโตเท่าไหร่นั้น นักลงทุนไม่ได้มองแล้ว แต่จะมองผลตอบแทนที่จะได้ในระยะสั้นว่าเป็นอย่างไร”แหล่งข่าว กล่าว

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แหล่งข่าวกล่าวว่า จะไม่ได้รับความสนใจ เนื่องจากประเมินว่าผลประกอบการจะไม่ดี เพราะรับผลกระทบจากมาตรการของธปท. ซึ่งจะทำให้บริษัทบางแห่งที่ยังไม่ได้ยื่นแบบไฟลิ่ง แต่มีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ อาจต้องชะลอแผนไปก่อน เพราะผลประกอบการไม่ได้ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทจะชะลอแผนการขายหุ้นไอพีโอออกไปหรือไม่ อยู่ที่การตัดสินใจของบริษัท โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ประกอบด้วย ได้แก่ความพร้อมของข้อมูลของบริษัทที่จะขายหุ้น, ความจำเป็นจะต้องเร่งใช้เงินทุนในการขยายธุรกิจ และภาวะตลาดหุ้นโดยรวม

นายแมนพงศ์ กล่าวว่า บริษัทอาจจะชลอแผนการขายหุ้นไอพีโอไปก่อน หากมีความพร้อมในด้านข้อมูล แต่ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบใช้เงิน เพื่อรอให้ภาวะตลาดหุ้นกลับมาดีก่อนได้ แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้เงินขยายธุรกิจในขณะนี้ ก็อาจจะไม่ชะลอแผนแม้ตลาดหุ้นโดยรวมไม่ดี แต่ยอมรับว่าภาวะตลาดหุ้นนับเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อการตัดสินใจต่อการขายหุ้นไอพีโอ

“ยอมรับว่า หุ้นไอพีโอขณะนี้ที่ราคาปรับตัวลงมาต่ำกว่าจอง ส่วนหนึ่งมาจากภาวะตลาดหุ้นที่ไม่เอื้ออำนวย เพราะได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างประเทศ แต่ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นยังดี เพราะกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน 9 เดือนแรกของปี 2561 ก็ยังมีการเติบโตกว่า 10% และเชื่อว่ายังมีหุ้นไอพีโอ อีกหลายบริษัทที่เตรียมจะเข้ามาระดมทุนในปีนี้”นายแมนพงศ์ กล่าว
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 41

โพสต์

== เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ไหนกำไรดีกว่ากัน ==
..
วันก่อนเห็น ลงทุนแมนโพสต์รูปรายได้และกำไรของ SB Furniture กับ IKEA ทำให้นึกได้ว่า Index กับ Chic Republic กำลังทำ Filing เข้าตลาดหุ้น เลยขอไปแอบดูซักหน่อยว่าใครขายดีกว่ากัน สรุปผลที่เห็นจาก 4 แบรนด์นี้ตามตัวเลขนะครับ
..
1) ตลาดเฟอร์นิเจอร์ดูไม่เติบโตเอาซะเลย ดูจากรายได้ของแต่ละแบรนด์นี่ขึ้นแบบน้อยมาก บางแบรนด์ลดลงด้วยซ้ำ กำไรสุทธิก็เช่นกัน อยู่ในทางทรงไปถึงลงด้วยซ้ำ แต่ต้องบอกแบบนี้ว่าอาจจะมีผลมาจากการเปิดสาขาใหม่ เช่น IKEA บางใหญ่ Index และ SB ก็เห็นเปิดโชว์รูมกันเยอะ
.
2) IKEA มีแค่ 2 สาขา แต่สเกลใหญ่มาก ทำให้รายได้พอ ๆ กับ SB เลย ถ้าสามารถขยายได้เพิ่มขึ้นก็น่าสนใจไม่น้อย
.
3) SB กำไรปี 2560 เหลือ 7 ล้านบาทเอง เป็นไปได้หรอ ถ้าไปดูงบดุลก็จะเห็นว่า สินค้าคงเหลือลดลงมาก เป็นไปได้ว่า สินค้าตกรุ่น เคลียร์ของเก่า หรือว่าตัดเสื่อมสภาพ โละทิ้งไปเลย ทำให้กำไรหาย
.
4) กำไรของเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้สูงอย่างที่คิด NPM ประมาณ 5-7% เท่านั้นเอง คงเป็นเพราะมีพนักงานประจำร้านเยอะ และมีช่างติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ด้วย แบบนี้ IKEA อาจได้เปรียบเพราะพนักงานน้อย ให้ลูกค้าหยิบเอง ประกอบเอง
.
5) ดู GPM เห็นชัดกว่า ของ Index กับ Chic พอ ๆ กัน ประมาณ 40-45% ทีแรกนึกว่า Chic ขายแพงกว่า จะกำไรดีกว่าแต่ไม่ใช่นะ อ้อผู้บริหาร Chic เดิมเคยบริหารที่ Index มาก่อน เป็นญาติกัน นามสกุลเดียวกันเลย

สรุป เห็นรายได้และกำไรแบบนี้ ถึงว่าทำไมจะเข้าตลาดหุ้น ไว้เห็นราคา IPO ก่อนค่อยมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ ยังไม่อยากเดา กลัวจะเดาถูก
..
จาก Facebook Page วิตามินหุ้น Stockvictamins
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 42

โพสต์

D6DE202B-F0CF-46A8-B21A-5066A6C0B22B.jpeg
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 43

โพสต์

ชิครีพับบลิค น่าจะถอน filling แล้วนะครับ หลังครอบครัวปัทมสัตยาสนธิ นำอินเด็กซ์ เข้าตลาดหลักทรัพย์เดือนก.ค.นี้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์"เคาะราคา IPO ที่หุ้นละ 22 บาท ขาย 17-19 ก.ค. - Thunhoon

กรกฎาคม 15, 2019wirat wiratทันหุ้น Focusอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์

บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด(มหาชน) หรือ ILM ได้ระบุในแบบไฟลิ่งว่าได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่หุ้นละ 22 บาท โดยจะเสนอขายในวันที่ 17-19 ก.ค.นี้ ซึ่งหุ้นจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) โดยมีบล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน จะเสนอขายหุ้นจำนวนไม่เกิน 105 ล้านหุ้น คิดเป็น 20.8% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งหมด ซึ่งจะเสนอขายหุ้นให้บุคคลตามดลพินิจของผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายจำนวน 24.55 ล้านหุ้น หรือ 23.4%, เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน 70 ล้านหุ้น หรือ 66.7% ,ให้กับผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อยจำนวน 4.2 ล้านหุ้น หรือ 4%,ให้กับบุคคลที่มีความสัมพันธ์ซึ่งรวมถึงกรรมการ หรือผู้บริหารของบริษัท 4.72 ล้านหุ้น หรือ 4.5% และให้พนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย 1.53 ล้านหุ้น หรือ 1.5%

สำหรับราคาหุ้น IPO ที่ 22 บาทต่อหุ้น มาจากการกำหนดราคาโดยสำรวจความต้องการซื้อของนักลงทุนสถาบัน(Book Building) อยู่ระหว่างราคา 21-22 บาทต่อหุ้น

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปขยายธุรกิจ ซึ่งรวมถึงโครงการขยายสาขาร้าน Index Living Mall โครงการขยายร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก โครงการติดตั้งแผงโซลาณ์รูฟท็อป และโครงการอื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 450-530 ล้านบาท ในช่วงปี 2562-2564, นำไปชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน ประมาณ 1,650-1,700 ล้านบาท ในช่วงปี 2562-2563 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ประมาณ 14.4-144.4 ล้านบาท
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 44

โพสต์

phpBB [video]


MONEY TALK Special - CHIC REPUBLIC New Normal ของการตกแต่งบ้าน - 18 กันยายน 2563
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 45

โพสต์

"ชิค รีพับบลิค"ยื่นไฟลิ่งรอบใหม่ นำหุ้นเข้า SET ขาย IPO 360 ล้านหุ้น

บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด(มหาชน) กลับมายื่นไฟลิ่งรอบใหม่ โดยจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)เสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 360 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.47% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท ในราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งได้แต่งตั้งให้ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

บริษัท ชิค รีพับบลิค ประกอบธุรกิจเป็นศูนย์รวมจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้านของใช้ในบ้านและที่นอน และเครื่องนอนอย่างครบวงจรในรูปแบบ Stand Alone ภายใต้ชื่อ"ชิค รีพับบลิค" และ "รีน่า เฮย์" ได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าว

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทมีแผนจะนำไปเป็นแหล่งเงินทุนในการขยายสาขาแห่งใหม่, ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท

โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท จะมีกลุ่มครอบครัวนายกิจจา ปัทมสัตยาสินธิ ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 100% ภายหลังขายหุ้น IPO สัดส่วนจะลดเหลือ73.53%

ปัจจุบันบริษัทมีสาขาที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 6 สาขา แบ่งเป็นสาขาในประเทศ 5 สาขา ได้แก่สาขาประดิษฐ์มนูธรรม, สาขาพัทยา, สาขาบางนา, สาขาราชพฤกษ์, สาขารามอินทรา และสาขาต่างประเทศ 1 แห่ง ได้แก่สาขาที่กัมพูชา

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายสาขาแห่งใหม่ที่อุดรธานี ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินงานปรับปรุงพื้นที่ดินเพื่อเตรียมการก่อสร้างและได้รับใบอนุญาตการก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2566-2567
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 46

โพสต์

CHIC: บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน)
ประเภทธุรกิจ
ประกอบธุรกิจเป็นศูนย์รวมจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน ที่นอนและเครื่องนอน อย่างครบวงจร (One Stop Shopping) ในรูบแบบ Stand Alone ภายใต้ชื่อ “ชิค รีพับบลิค (CHIC)” และ “รีน่า เฮย์ (Rina Hey)”
ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
กลุ่มอุตสาหกรรม / หมวดธุรกิจ บริการ / พาณิชย์
สถานะ Filing
จำนวนหุ้นที่ IPO
จำนวนไม่เกิน 360,000,000 หุ้น คิดเป็น 26.47% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO
ระยะเวลาเสนอขายหุ้น
n/a
ราคา IPO
n/a
ราคา PAR
0.50 บาท
วันที่เริ่มซื้อขาย n/a
ที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ข้อมูล Filing
www.chicrepublicthai.com
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 47

โพสต์

https://market.sec.or.th/public/ipos/IP ... sID=338382

หนังสือชี้ชวนตราสารทุน
รายละเอียดตราสาร
ผู้ออกหลักทรัพย์ : บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน)
ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ : บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน)
วันที่ยื่น Filing version แรก : -
วันที่แก้ไข Filing ครั้งล่าสุด (วันที่นับ 1 Filing) : -
วันที่ Filing มีผลบังคับใช้ : -
วันที่เริ่มต้นการเสนอขาย : -
วันที่สิ้นสุดการเสนอขาย : -
ประเภทหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ
ประเภทการเสนอขาย : การเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน
ที่ปรึกษาทางการเงิน/ผู้ควบคุม : บริษัท หลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) / นาย ประเสริฐ ตันตยาวิทย์
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: CHIC

โพสต์ที่ 48

โพสต์

เคยยื่น filling ตั้งแต่ปี2560 ตอนนี้ปี2564 จนธุรกิจเครือญาติ คือ ILM (Index Living Mall) เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯมาก่อนแล้ว คงต้องดูว่า เข้าตลาดหลักทรัพย์ SET เหมือนกัน คงมีการเปรียบเทียบ