ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
- pongo
- Verified User
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 1
ประเทศไทยพึ่งพาการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนที่มากของ GDP ใช่ไหมครับ ถ้า ธปท ดำเนินนโยบายให้ค่าเงินบาทอ่อนค่ามากกว่าที่ควรจะเป็น
เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก จะมีผลกระทบดี ไม่ดีในด้านอะไรบ้างครับ
ทั้งในด้านการค้าและการลงทุนอ่ะครับ
เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก จะมีผลกระทบดี ไม่ดีในด้านอะไรบ้างครับ
ทั้งในด้านการค้าและการลงทุนอ่ะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 2
ผมไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ครับ
ให้ธปท.ขายเงินบาท ค่าเงินบาทจะได้อ่อนค่าลงมากกว่าความเป็นจริง เพื่อเป็นการช่วยเหลือการส่งออก
เพราะการทำให้ค่าเงินบาทอ่อน เปรียบเสมือนค่าขายสินค้าลดราคา
แล้วเราต้องลดค่าเงินบาทไปอีกนานเท่าไรครับ ผู้ส่งออกจะช่วยเหลือตัวเองหรือไม่
ประชาชนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้น
ให้ธปท.ขายเงินบาท ค่าเงินบาทจะได้อ่อนค่าลงมากกว่าความเป็นจริง เพื่อเป็นการช่วยเหลือการส่งออก
เพราะการทำให้ค่าเงินบาทอ่อน เปรียบเสมือนค่าขายสินค้าลดราคา
แล้วเราต้องลดค่าเงินบาทไปอีกนานเท่าไรครับ ผู้ส่งออกจะช่วยเหลือตัวเองหรือไม่
ประชาชนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 4
ในความคิดผม ถ้าเงินบาทอ่อนค่ากว่าที่ควรจะเป็น มันก็เป็นผลดีกับผู้ส่งออกครับ แต่แน่นอนว่า ผู้นำเข้าก็หน้าซีดครับ ทีนี้ จะเกิดปัญหาการเพิ่มของราคาสินค้ากันเป็นทอด ๆ ยกตัวอย่างเห็นชัด ๆ ก็คือนำเข้าน้ำมันต้องเสียเงินบาทมากขึ้น ค่ารถ ค่าแก๊ส ค่าข้าว ก็เพิ่ม ตายกันหมด เป็นปัญหาเงินเฟ้อเพราะอุปสงค์มีต้นทุนสูงขึ้นครับ ถ้าเกิดขึ้นในระยะยาวนะ เพราะปัจจัยสำคัญหลาย ๆ อย่างเราก็นำเข้ามาเหมือนกัน แต่ถ้าเกิดระยะสั้นไม่น่าจะมีผลอะไรมากมาย
ไม่แน่ใจว่านอกจากการส่งออกจะเพิ่มขึ้น ด้านการลงทุน จะเกิดการไหลเข้าของเงินทุนมาลงทุนในประเทศมากขึ้นด้วย ก็ช่วยเพิ่ม GDP สร้างงานสร้างรายได้ น่ะนะ แต่ถ้าเกิดไหลเข้ามามากเกินจนเกิดการเก็งกำไร แทนที่จะเป็นการลงทุนที่แท้จริง ก็อาจมีปัญหาภายหลัง
ตอบไปเรื่อย ๆ นะครับ อาจจะผิดก็ได้
ไม่แน่ใจว่านอกจากการส่งออกจะเพิ่มขึ้น ด้านการลงทุน จะเกิดการไหลเข้าของเงินทุนมาลงทุนในประเทศมากขึ้นด้วย ก็ช่วยเพิ่ม GDP สร้างงานสร้างรายได้ น่ะนะ แต่ถ้าเกิดไหลเข้ามามากเกินจนเกิดการเก็งกำไร แทนที่จะเป็นการลงทุนที่แท้จริง ก็อาจมีปัญหาภายหลัง
ตอบไปเรื่อย ๆ นะครับ อาจจะผิดก็ได้
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 6
อยากรู้เหมือนกันครับ .. แล้วอย่างจีนนี่ที่เค้าพยายามทำให้ค่าเงินตัวเองอ่อนกว่าความเป็นจริงมานาน เค้าทำได้ยังไงครับ แล้วผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นยังไง แล้วอนาคตจะมีปัญหารึเปล่า :?:
เรื่อง Macro นี่ผมไม่รู้เรื่องเอาซะเลยจริงๆ
เรื่อง Macro นี่ผมไม่รู้เรื่องเอาซะเลยจริงๆ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 7
ในอดีตช่วงเวลาที่คนในประเทศอยู่ดีกินดีเป็นช่วงเวลาที่ค่าเงินบาทแข็งทั้งนั้น คนอเมริกันอยู่ดีกินดีมาตลอดเพราะเงินของเขามีอำนาจซื้อสูงกว่าความเป็นจริง เรากลัวขายของไม่ได้ก็เลยยอมขายขาดทุน (ทำบาทให้อ่อน) เราส่งออกได้เพราะยอมขายขาดทุน อย่างนี้ก็เหมือนกับเอาทรัพยากรของเราไปให้คนอื่นเขาใช้ เราควรหันมาคิดว่า ทำอย่างไรเราถึงจะขายของได้ "แพงๆ" มากกว่า ทำไมประเทศที่เจริญแล้วเขาขายของแพงๆ แล้วพวกเรายังแย่งกันซื้อ ยิ่งแพงยิ่งซื้อ
เวลาต้องการ peg ค่าเงินไว้กับดอลล่าร์ ถ้ามีคนเอาเงินดอลล่าร์เข้ามาแลกหยวน ธนาคารกลางจีนจะต้องดูดซับเงินดอลล่าร์นั้นไว้ แล้วปล่อยเงินหยวนออกมาสู่ระบบเศรษฐกิจ ผลก็คือทุนสำรองจะเพิ่ม สภาพคล่องเงินหยวนในระบบเศรษฐกิจก็จะเพิ่มด้วย
การ peg ค่าเงินจะช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพราะพ่อค้าไม่ต้องเสี่ยงกับค่าเงินที่ผันผวน แต่จะทำให้ธนาคารกลางหมดเครื่องมือทางการเงินในการจัดการกับเศรษฐกิจภายในประเทศ เพราะ money supply ถูกนำไปใช้รักษาอัตราแลกเปลี่ยนเสียแล้ว และถ้ามีเงินไหลเข้ามามากเกินไป money supply จะเพิ่มสูงจนทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดสินทรัพย์ได้ ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับประเทศไทยในยุคชาติชาย
เวลาต้องการ peg ค่าเงินไว้กับดอลล่าร์ ถ้ามีคนเอาเงินดอลล่าร์เข้ามาแลกหยวน ธนาคารกลางจีนจะต้องดูดซับเงินดอลล่าร์นั้นไว้ แล้วปล่อยเงินหยวนออกมาสู่ระบบเศรษฐกิจ ผลก็คือทุนสำรองจะเพิ่ม สภาพคล่องเงินหยวนในระบบเศรษฐกิจก็จะเพิ่มด้วย
การ peg ค่าเงินจะช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพราะพ่อค้าไม่ต้องเสี่ยงกับค่าเงินที่ผันผวน แต่จะทำให้ธนาคารกลางหมดเครื่องมือทางการเงินในการจัดการกับเศรษฐกิจภายในประเทศ เพราะ money supply ถูกนำไปใช้รักษาอัตราแลกเปลี่ยนเสียแล้ว และถ้ามีเงินไหลเข้ามามากเกินไป money supply จะเพิ่มสูงจนทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดสินทรัพย์ได้ ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับประเทศไทยในยุคชาติชาย
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- pongo
- Verified User
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
ค่าเงินเราอ่อนกว่าความเป็นจริง ก็เหมือนกับว่าสินค้าเรามีราคาถูกในสายตาคนต่างชาติใช่ไหมครัิบ ตรงนี้จะช่วยให้เงินลงทุนในทางอ้อมของต่างชาติ เช่น ในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มมากขึ้นด้วยไหมครับ หรือว่าต่างชาติเค้าต้องดูแนวโน้มค่าเงินของเราในระยะยาวด้วย
ค่าเงินเราอ่อนกว่าความเป็นจริง ก็เหมือนกับว่าสินค้าเรามีราคาถูกในสายตาคนต่างชาติใช่ไหมครัิบ ตรงนี้จะช่วยให้เงินลงทุนในทางอ้อมของต่างชาติ เช่น ในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มมากขึ้นด้วยไหมครับ หรือว่าต่างชาติเค้าต้องดูแนวโน้มค่าเงินของเราในระยะยาวด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 9
ใช่ครับ อำนาจการซื้อ (Purchasing Power) ของเราจะลดลง ส่วนอำนาจการซื้อของสกุลเงินที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเราจะมากขึ้นpongo เขียน:ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
ค่าเงินเราอ่อนกว่าความเป็นจริง ก็เหมือนกับว่าสินค้าเรามีราคาถูกในสายตาคนต่างชาติใช่ไหมครัิบ
ค่าเงินอ่อนมากเกินไป ก็อาจจะมีเงินทุนไหลเข้า เนื่องจากสินทรัพย์ในประเทศจะมีราคาถูกลงตรงนี้จะช่วยให้เงินลงทุนในทางอ้อมของต่างชาติ เช่น ในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มมากขึ้นด้วยไหมครับ หรือว่าต่างชาติเค้าต้องดูแนวโน้มค่าเงินของเราในระยะยาวด้วย
หรืออาจจะมีการไหลเข้าของเงินทุนจากพวก Hedge Fund เพื่อเก็งกำไรค่าเงินก็ได้
ทำให้ค่าเงินมีแนวโน้มที่จะแข็งขึ้น ตามหลัก demand supply หากปล่อยให้เป็นไปโดยเสรี และไม่ถูกแทรกแซง
"Winners never quit, and quitters never win."
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 11
MS office แท้ ขายราวๆ 13000 บาท
ข้าว 5 กก 80 ตก กก ละ 16 บาท
ดังนั้นเราต้องส่งออกข้าว 812.5 กก จึงจะได้ MS office 1 ชุดครับ
ข้าว 812.5 กก คงกินได้ราวๆ 1 ปี
ข้าว 5 กก 80 ตก กก ละ 16 บาท
ดังนั้นเราต้องส่งออกข้าว 812.5 กก จึงจะได้ MS office 1 ชุดครับ
ข้าว 812.5 กก คงกินได้ราวๆ 1 ปี
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 12
ไม่ใช่แผ่นละ 100 เหรอครับMO101 เขียน:MS office แท้ ขายราวๆ 13000 บาท
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 14
เดี๋ยวนี้หนักกว่านั้นอีกครับ ใช้ BitTorent ไปดูดมา
โปรแกรมไหนๆ พี่ไทยก็ฟรี ข้าวสักเมล็ดก็ไม่กระเด็น ... :lovl:
โปรแกรมไหนๆ พี่ไทยก็ฟรี ข้าวสักเมล็ดก็ไม่กระเด็น ... :lovl:
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 16
[quote="chatchai"][quote="HVI"]เดี๋ยวนี้หนักกว่านั้นอีกครับ ใช้ BitTorent ไปดูดมา
โปรแกรมไหนๆ พี่ไทยก็ฟรี ข้าวสักเมล็ดก็ไม่กระเด็น ...
โปรแกรมไหนๆ พี่ไทยก็ฟรี ข้าวสักเมล็ดก็ไม่กระเด็น ...
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 689
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรฐศาสตร์มหภาคและการส่งออกครับ
โพสต์ที่ 18
คิดเหมือนกันครับ...ปรับปรุงสินค้าส่งออกให้เกิดคุณภาพดีกว่า ดีกว่าที่จะลดค่าเงินลงมา...ปัจจัยแบบนี้มันแค่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรในระยะยาว... :roll: :roll: :roll:เราควรหันมาคิดว่า ทำอย่างไรเราถึงจะขายของได้ "แพงๆ" มากกว่า ทำไมประเทศที่เจริญแล้วเขาขายของแพงๆ แล้วพวกเรายังแย่งกันซื้อ ยิ่งแพงยิ่งซื้อ
ยกตัวอย่าง อาทิดก่อนเพิ่งจะซื้อสินค้าชนิด ถ้าอยู่เมืองไทยจะซื้อได้ในราคาประมาณ 60-70 บาท/ชิ้น แต่พอมาอยู่Australiaราคามันเพิ่มขึ้นไป 9Aud/ชิ้น ถามว่าถ้าถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพ คิดคุณจะซื้อมั๊ยครับ
อีกตัวอย่าง...เพื่อนน้องสาวผมซื้อ flash drive 8GB มาฝากจากเองจีน ราคาประมาณ 280 บาท แต่ใช้ได้ไม่กี่วันก็พัง...แบบนี้คุณคิดจะซื้อมาใช้อีกมั๊ยครับ... :shock: :shock: