* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 31

โพสต์

Raphin Phraiwal เขียน:
ต้องมี จริยธรรม ด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Raphin Phraiwal
Verified User
โพสต์: 1342
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 32

โพสต์

Raphin Phraiwal เขียน: เมื่อคืนกำลังอ่านอยู่ พอดีไฟดับเลยปิดคอมพ์ขึ้นนอนครับ
ส่วนไฟดับนี่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือเป็นเพราะภรรยาหมั่นไส้แล้วแอบสับคัตเอาท์ก็ไม่รู้ครับ  :lol:
รักในหลวงครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Raphin Phraiwal
Verified User
โพสต์: 1342
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 33

โพสต์

[quote="matrix"]
แฮ่ะ ๆ
รักในหลวงครับ
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 34

โพสต์

มาถึงทำ Algebra 1 ข้อ และอ่านภาษาฝรั่งเศสให้อธิการ John ฟัง ท่านก็รับเข้าชั้น ม.6 เลย ทั้งๆที่ข้าพเจ้ามิได้สอบ ม.4 ม.5

โรงเรียนเซนต์คาเบรียลได้อนุเคราะห์รับให้เข้าเรียน เพราะเห็นแก่บาทหลวงปีโอ ซึ่งคงจะอ้างเหตุผลว่า เมื่อจบแล้วจะได้ให้เป็นครู และช่วยวัด ช่วยโรงเรียนของวัดที่สองพี่น้อง
ที่แท้..  ท่านก็เป็นเด็กเส้นจากสุพรรณ..นี่เอง
ถ้าเกิดเหตุถึงกับต้องถูกไล่ออก! สิ่งที่มิได้คาดฝันนี้ก็ได้เกิดขึ้นเพราะนิสัยเสียของข้าพเจ้าเอง
หา..  เรามาลองทายดูสิครับว่า.. ท่านจะถูกไล่ออก  ด้วยเรื่องอะไร..
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 35

โพสต์

[quote="Raphin Phraiwal"][quote="matrix"]
แฮ่ะ ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Raphin Phraiwal
Verified User
โพสต์: 1342
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 36

โพสต์

[quote="matrix"]ไม่อาว.. คุณระพินจะหลอกพาผมไปดูที่..
รักในหลวงครับ
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 37

โพสต์

Raphin Phraiwal เขียน:
ส่วนไฟดับนี่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือเป็นเพราะภรรยาหมั่นไส้แล้วแอบสับคัตเอาท์ก็ไม่รู้ครับ
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 38

โพสต์

ขอพัก Break ทานน้ำชาแบบอังกฤษ หน่อยครับ..  คุณระพิน ตั้งประเด็นใหม่ๆ อะไรบ้างครับ..เชิญ
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 39

โพสต์

ระหว่างที่ผมนั่งจิบน้ำชาอยู่นั้น..  อยู่ๆก็นึกความหมายของคำว่า " JARIYATAT "
ฉบับของคุณระพิน  เข้าท่าแฮะ..  ฝรั่งมันคงต้องมา Take Course กะคุณระพิน  
ที่สมุย อืมม.. นับถือจริงๆ.. :lol:
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 40

โพสต์

นักปราชญ์โบราณชื่อ " MATR IX " กล่าวไว้ว่า  " VIRTUS SOLA  NOBILITAT AN DE MORALITAT " (คุณธรรม และ จริยธรรม เท่านั้น ที่ทำให้มนุษย์มีเกียรติ)

และนักปราชญ์ชาว SAM UI กล่าวไว้เช่นกันว่า " VIRTUS SOLA JARIYATAT " (จริยธรรมอย่างเดียวเท่านั้นที่ทำให้มนุษย์มีเกียรติ)


จะเชื่อนักปราชญ์ไหนดี น้อ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Raphin Phraiwal
Verified User
โพสต์: 1342
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 41

โพสต์

[quote="matrix"]นักปราชญ์โบราณชื่อ " MATR IX " กล่าวไว้ว่า
รักในหลวงครับ
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 42

โพสต์

นักปราชญ์ ที่ชื่อ   มาเตออุส ที่ 9   ไม่น่าจะใช่นักปราชญ์นะครับ  น่าจะเป็นนักโวหารคดีมากกว่า ..

ส่วน นักปราชญ์ที่ชื่อ  ซาเมอ อุส   น่าเชื่อถือกว่านะผมว่า..    มาต่อกันดีกว่าครับ..


เรื่องมีอยู่ว่า บ่ายวันอาทิตย์วันหนึ่ง ข้าพเจ้าขอลาบราเดอร์ที่ดูแลนักเรียนประจำไปบางลำภูบราเดอร์ สั่งให้กลับให้ทันเวลาอาบน้ำ ทานข้าว  ข้าพเจ้าขึ้นรถรางและยืนชมทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ทั้งสองข้างทางด้วยความเพลิดเพลิน ผ่านสี่เสาเทเวศร์ - บางขุนพรหม - บางลำภู - สนามหลวง - เฉลิมกรุง จนเลยมาถึงโอเดี้ยน เห็นว่าเลยบางลำภูมาไกลมากและอยากลงชม Poster ข้างโรงหนังโอเดี้ยน แล้วก็เดินลอยชายเรื่อยเปื่อยไปแถวเยาวราชจนเพลิน มารู้สึกตัวต้องรีบกลับโรงเรียนแล้ว นั่งรถรางกลับ กลับเข้าประตูโรงเรียน และเห็นบราเดอร์เกร๊ก ผู้ควบคุมนักเรียนประจำนั่งคอยที่ม้านั่งโรงเล่น ท่านกวักมือเรียกให้เข้าไปหาและถามว่า "ทำไมมาช้า" ด้วยสีหน้าเฉยๆ ข้าพเจ้าตอบอย่างไม่ยี่หระด้วยความจองหองว่า "บราเดอร์อย่ามายุ่งกับผม" แล้วข้าพเจ้าก็เดินเรื่อยไปห้องอาหาร ข้าพเจ้าเหลือบเห็นบราเดอร์ยืนขึ้น ริมฝีปากสั่น หน้าซีด ข้าพเจ้ารู้สึกเฉย ๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในค่ำวันนั้น และเช้าวันรุ่งขึ้น อันที่จริงข้าพเจ้าน่าจะกราบขอโทษที่มาช้า และขอบพระคุณที่ผู้ใหญ่เฝ้าเป็นห่วง เพราะข้าพเจ้าเพิ่งมาจากบ้านนอก อาจจะหลงทาง หรือเกิดอันตรายอะไรก็ไม่ทราบได้ มาคิดดูแล้วว่าวัยรุ่นนี่ (คนนี้) ช่างไร้สมองสิ้นดี แถมยังยะโสอีกด้วย ทั้งๆที่สอบได้คะแนนที่3 ตลอดปี อีก 2 เดือนต่อมา ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม วันพระบรมรูปทรงม้า เมื่อรับประทานอาหารเย็นแล้ว ทางโรงเรียนก็ปล่อยให้นักเรียนประจำทั้ง 80 คน ออกเดินไปเที่ยวสวนอัมพร กำหนดให้กลับไม่เกิน 5 ทุ่มครึ่ง ทุกท่านคงทราบว่า งานตอนค่ำที่สวนอัมพรช่างน่าเสน่หาสักเท่าไร น้ำพุหลากสีพุ่งขึ้น และม้วนตัวกลับเป็นฝอยช่อ ชั้น เชิงต่างๆ ช่างเป็นทัศนียภาพที่ทำให้จิตใจเบิกบานชุ่มชื่น และเกิดมโนภาพ อันรื่นรมย์ยิ่งนัก แต่สิ่งที่ติดอกติดใจมากกว่าน้ำพุก็คือวงดุริยางค์ classic ของกองทัพเรือ กองทัพบก กองทัพอากาศ ตำรวจ และศิลปากร ล้วนแต่ดึงดูดจิตใจที่ใฝ่ฝัน ความตื่นเต้นระทึก สุดจะบรรยาย แถมลำตัดที่เรียกเสียงฮาแทบจะหุบปากไม่ลงของแต่ละเวที แต่ในบัดดลความสุขก็อันตรธานไป เมื่อเกิดนึกขึ้นได้ว่าถึงเวลาต้องกลับตามคำสั่งของบราเดอร์ว่า 5 ทุ่มครึ่ง ตอนนี้ก็เกือบตี 1 เข้าไปแล้ว
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 43

โพสต์

นั่งรถรางกลับ กลับเข้าประตูโรงเรียน และเห็นบราเดอร์เกร๊ก ผู้ควบคุมนักเรียนประจำนั่งคอยที่ม้านั่งโรงเล่น ท่านกวักมือเรียกให้เข้าไปหา
มีใคร..ในนี้เกิดทัน ได้นั่ง รถราง มั่ง    พี่พอใจไม่ต้องเกาหัว...เลย
"บราเดอร์อย่ามายุ่งกับผม" แล้วข้าพเจ้าก็เดินเรื่อยไปห้องอาหาร ข้าพเจ้าเหลือบเห็นบราเดอร์ยืนขึ้น ริมฝีปากสั่น หน้าซีด
ผมว่า..  ท่านคงเห็นเงามัจจุราชเดินตามท่าน..   เลยหน้าซีด ปากสั่น เพราะสวดมนต์มากกว่า...
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 44

โพสต์

งานสวนอัมพร  หรืองานกาชาด ส่วนใหญ่จะจัดในช่วงที่ฝนหยุดต่อกับ  หน้าหนาว  
อากาศเย็นสบาย  คนในสมัยก่อนถือเป็นงานรื่นเริงที่ ชื่นชอบและตั้งหน้าตั้งตาคอย....
ในงานจะมี " สอยดาว  สาวเดือน" " เมียงู " บูธนี้คนตรึม  คนเชียร์จะพูดโทรโข่งว่า
" เชิญ..เลย ครับชิญ เลย แต่แวะก่อนครับ  สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้ามาเลยครับ
มาพิสูจน์กันว่า  หญิงสาวสวยนางนี้  เป็นเมียงูยังไง.. เชิญเลยครับ เชิญเลย " ให้ทายครับ
ว่าบูธนี้ผู้ชายจะเยอะขนาดไหน มีแต่คนอยากพิสูจน์ ว่าคนเป็นเมียงูยังไง  แค่นึกภาพก็
" เสียว " ซะแล้ว.. บูธต่อไปก็คนทำบาป  ด่าพ่อด่าแม่  " คน ปาก เท่ารูเข็ม " และที่น่าดู
อีกบูธนึงก็คือ สาวน้อยตกน้ำป๋อมแป๋ม คงไม่ต้องอธิบายนะครับ.. ส่วนขนมก็มี " โรตี สาย
ไหม " ตังเม เป่าเป็นรูปสัตว์ ต่างๆ เช่นลิงเกาะไม้ลูกชิ้น ส่วนข้างบนทำเป็นใบมะพร้าว ,ไก่
นก ฯ ส่วนผู้หญิงจะแต่งชุดที่สวยที่สุดที่สั่งตัดใหม่มางานนี้โดยเฉพาะ..พร้อมกับผ้าพันคอสี
สวย  เป็นอดีตที่น่าประทับใจอีกฉากหนึ่งครับ..
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 45

โพสต์

ข้าพเจ้าไม่รอช้า มาถึงประตูโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ประตูปิดสนิท ได้เรียกแขกยามนานกว่าจะโผล่มาตรงช่องรั้วต้นมะขามเทศว่า "อธิการสั่งไม่ให้เข้านี่!" อาบัง! จะให้ยืนข้างนอกอย่างนี้จนถึงเช้าหรือ "อธิการสั่งนี่ ข้าพเจ้าต้องอ้อนวอนแขกยามอาบังอยู่ 15 นาที อาบังถึงยอมเปิดประตูให้เข้าไปในรั้วโรงเรียน "เปิดประตูให้ฉันขึ้นตึกนอนหน่อย" "ไม่ได้นี่ อธิการไม่ให้เปิด " ตกลงต้องนั่งคุยกับอาบังจนตี 4 และเดินไปห้องอาหารเพื่อนอนบนม้าทานอาหาร ยิ่งมียุงมาก เพราะสมัยนั้นยังไม่มีมุ้งลวด รู้สำนึกตัวแล้วว่าทำผิดระเบียบมาก หลังอาหารเช้า ข้าพเจ้าได้เข้าพบท่านอธิการ Brother Theophane สารภาพขอโทษ ท่านพูดว่า "จัดของกลับบ้านได้"ข้าพเจ้ายืนงง สักครู่จึงกราบลงขอความกรุณาว่า "อธิการโปรดเฆี่ยนผมกี่โหลก็ยอมครับ อย่าให้ผมกลับบ้านเลย ขอได้โปรดเถิดครับ" จิตใจข้าพเจ้าเสียใจและเป็นทุกข์ที่สุดเหลือจะบรรยาย ที่โดนไล่ออกจากโรงเรียนและต้องกลับไปอยู่บ้าน อยู่เป็นคนว่างงานอาศัยวัดเป็นที่พักพิง หมดทุกอย่างที่หวังและภาคภูมิใจ ข้าพเจ้าคุกเข่าประณมมือหมุนตามท่านอธิการ Theophane ซึ่งร่างสูง ศีรษะล้าน น่าเกรงขามเป็นที่สุด ปากคาบกล้องยาสูบ มือขวาถือประคองอยู่ มือซ้ายเท้าสะเอว ยืนคุยกับบราเดอร์ 3-4 คน ขณะที่ทยอยออกจากห้องอาหาร บราเดอร์ทุกคนเหลือบมองดูข้าพเจ้า คงนึกสมน้ำหน้าที่ เมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว"จองหอง"นัก !


ข้าพเจ้าถูกทรมานใจดุจอยู่ในนรกสักครู่หนึ่ง (อันที่จริงไม่เคยไปนรก) แล้วอธิการก็หันมาสำทับว่า ไป! เย็นนี้มาพบอีกที 10 กว่าชั่วโมงแห่งความทรมานด้วยการรอคอยคำพิพากษาที่แสนจะน่ากลัวที่สุดแก่จำเลย! หลังอาหารค่ำ ข้าพเจ้าเข้าไปกราบท่านอธิการ ได้ยินเสียงว่า "ไป และอย่าทำผิดอีก" เป็นประโยคเดียวกับพระเยซูตรัสว่า MARIA MAGDALENA ประโยคนี้กระมัง ที่เมล็ดพืชนี้ได้งอกขึ้น เป็นโรงเรียนเซนต์จอห์น และบังเกิดต้นไม้ที่นับไม่ถ้วนจากเมล็ดพืชเมล็ดนี้ ดังสุภาษิตบทหนึ่งที่กล่าวว่า "เมื่อท่านเห็นต้นไม้ ท่านสามารถนับจำนวนต้นไม้ได้ แต่ถ้าท่านเห็นเมล็ดพืช เมล็ดหนึ่งท่านไม่สามารถนับจำนวนต้นไม้ในเมล็ดพืชนั้นได้" When you see trees, you can count the number of trees, but when you see a seed, yor cannot count the number of terrs in that seed."
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 46

โพสต์

เมื่อ พ.ศ. 2498 ข้าพเจ้าอายุ 32 ปี เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล สอบเข้าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แผนกภาษาฝรั่งเศส ปีที่ 3 เรียนภาษาไทยเป็นวิชาเอก วิชาบังคับเรียนคือ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย บาลี สันสกฤต และเขมร ข้าพเจ้าเป็นนักศึกษาภายนอก ไม่มีสิทธิ์เข้าฟังการบรรยาย ต้องช่วยตัวเองเรื่องการสอบไล่ซึ่งใช้ข้อสอบเดียวกันกับนิสิตภายใน ข้าพเจ้าไม่หนักใจเพราะมีอาชีพครูมาเป็นเวลา 15 ปี ตั้งแต่อายุ 17 จนถึง 32 ปี รู้ทิศทางขวนขวายหาความรู้ด้วยตนเอง จาก ม.6 ถึงอนุปริญญาทำงานด้วยเรียนด้วย เก็บตกรายวิชา พ.ป. พ.ม.จนมีสิทธิ์เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เข้าจุฬาฯ ต้องสอบเข้าธรรมศาสตร์ไม่ต้องสอบ ข้าพเจ้าสมัครทั้งจุฬาและธรรมศาสตร์เข้าเรียนกฎหมายและสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์ ปี 3 เข้าเรียนอักษรศาสตร์ปี 3 ที่จุฬาฯ เช่นเดียวกัน


การที่ไม่มีโอกาสได้สิทธิฟังการบรรยาย จำเป็นต้องใฝ่หาวิถีทางต่าง ๆ เพื่อทราบแนวการออกข้อสอบ ทางหนึ่ง คือการเข้าหาอาจารย์ผู้บรรยายวิชานั้น ๆ อีกทางหนึ่งคือขอยืมโน้ตจากนิสิตภายใน อีกทางหนึ่งคือ หาหนังสือมาอ่าน มาเรียนด้วยตัวเอง


ข้าพเจ้าเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ได้รับตารางสอน16 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ต้องหารายได้พิเศษด้วยการสอนพิเศษในตอนเย็น แบ่งเวลาอยู่กับครอบครัวบ้าง เพราะแต่งงานมีลูกแล้ว 1 คน


ข้าพเจ้าโชคดีที่ได้พบอาจารย์ผู้มีน้ำใจดี อันที่จริงก็ใจดีทุกคน แต่ ดร.จิตต์เกษม สีบุญเรือง เป็นอาจารย์ที่ข้าพเจ้าเข้าไปขอคำแนะนำ และได้ผลเกินคาด เพราะท่านใส่ใจและเห็นอกเห็นใจเป็นพิเศษทั้งถ้อยคำและการกระทำ (Words and Actions) มีวาจาอันนุ่มนวลที่ทำให้เกิดความกระตือรือร้น (Enthusiastic) และเกิดกำลังใจ "คุณสมัย (เรียกชื่อทุกคำ) เชิญนั่ง คุณสมัยก็เป็นผู้ใหญ่ มีบุตร มีครอบครัว เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ยังอุตสาห์มาเรียนมาแสวงหา ดิฉันจะแนะนำให้ เอ้า! นี่อาจารย์มหาเกษม บุญศรี สอนภาษาบาลีสัปดาห์ละครั้งที่บ้านตอนเช้าวันอาทิตย์" พูดพลางเขียนนามบัตร ชื่อ นามสกุล และที่อยู่ของอาจารย์มหาเกษม บุญศรี อยู่เสาชิงช้า "โรงเรียนซิกซ์นี้อีกท่านหนึ่ง อาจารย์สอนภาษาเขมร อยู่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติข้างสนามหลวง"


"นี่อาจารย์อีกท่านหนึ่งสอนภาษาอังกฤษ อ้อ! แต่อาจารย์คนนี้ไม่สอน ภรรยาสอน อยู่ตรงข้ามสถานฑูตอังกฤษ" พลางเขียน Address อย่างละเอียดและยื่นให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารับนามบัตรทุกครั้ง พร้อมประณมมือไหว้ขอบพระคุณ "มีอาจารย์ภาษาฝรั่งเศส 2 ท่านชื่อคุณพ่อ Boninge และคุณพ่อ Denis" พลางเขียนชื่อคุณพ่อทั้ง 2 พร้อม Address ที่ศูนย์บ้าน Xavier อนุสาวรีย์ และยื่นให้ข้าพเจ้า


"อีก 2 ท่านสอนประจำที่นี่ อาจารย์จินตนา ยศสุนทร และอาจารย์ประคิณ ชุมสาย โปรดไปกราบท่านเองและเรียนแนะนำตัวด้วยและถามแนวทางการสอนและการออกข้อสอบ" ข้าพเจ้าควักผ้าเช็ดหน้าสีขาวจากกระเป๋ากางเกงของข้าพเจ้า และซับน้ำตาพลางกลืนน้ำลายด้วยความตื้นตันใจ


"อีกท่านหนึ่งที่สอนภาษาสันสกฤต คือท่านอาจารย์ ม.ล.จิรายุ นพวงศ์ " อ้อ! คุณสมัย มีลูกศิษย์จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียลคนหนึ่ง เรียนอยู่อักษรศาสตร์ปี 3 ชื่อคุณประจิตต์ โรจนพฤกษ์ รู้จักไหม" ข้าพเจ้าเรียนตอบว่า "ลูกศิษย์ผมเอง ผมสอนเมื่อเขาอยู่ชั้น ม.2 " "ดีแล้ว ดิฉันจะเรียกคุณประจิตต์ให้ช่วยคุณสมัย ให้ยืมโน้ตที่จดจากอาจารย์ที่บรรยายตลอดทั้งวัน วิชาใดก็ตามที่คุณประจิตต์ไม่ได้ฟังคำบรรยาย ก็ขอยืมจากเพื่อนนำมาฝากให้คุณสมัยลอกด้วย" ข้าพเจ้าเฝ้าไปยืมโน้ตจากคุณประจิตต์ตอนค่ำ และคืนตอนเช้าเสมอทุกวันมิได้ขาดตลอดเวลา 2 ปี จนสอบได้อักษรศาสตร์บัณฑิต


ส่วนการไปเรียนพิเศษภาษาบาลีกับท่านอาจารย์มหาเกษม บุญศรี ที่ทุ่งมหาเมฆก็ไปเรียนวันอาทิตย์เช้าถึงเที่ยง นั่งพับเพียบเรียนด้วยกันกับอาจารย์สาว ๆ หลายท่าน ซึ่งเป็นอาจารย์โรงเรียนรัฐบาลทั้งนั้นเรียนเสร็จถึงตอนกลางวัน ภรรยาอาจารย์เกษมก็นำข้าวต้มไข่เจียวปลาเค็มทอดมาเลี้ยง เป็นที่อิ่มหนำสำราญทั้งกายและใจตลอดปี ฟรีทั้งเรียนและข้าวต้ม พวกเราเป็นครู แต่จิตใจก็เหมือนนักเรียน รู้สึกเต็มตื้นไปด้วยความยินดีและปลื้มใจแทนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่มีอาจารย์ช่างใจดีเช่นนี้ทุกท่าน


จนปี พ.ศ. 2500 ข้าพเจ้าได้บุตรชายคนที่ 2 จิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความกตัญญูรู้คุณ จึงพยายามคิดชื่อลูกให้เป็นอนุสรณ์แด่ท่านดร.จิตต์เกษม ว่าเด็กชาย "จุฬาเกษม" ชินะผา


เด็กๆที่รักโรงเรียนนั้น ไม่ใช่รักตึกหรูหราหรอก แต่รักจิตใจของครูที่มีความรักต่อลูกศิษย์ เราจึงได้เรียกว่า "ติดใจ" ไม่ใช่ "ติดตึก" หรือ "ติดสถานที่" โรงเรียนเซนต์จอห์น มีอุดมการณ์ประการดังกล่าวนี้ จึงได้บรรยายไว้เป็นคำกลอนอันไพเราะ เขียนโดยอาจารย์ประสงค์

ตึกโอฬาร ปานเทพนฤมิต คือแหล่งผลิตเยาวชนให้พ้นเขลา เสริมสร้างวิทยาการ คืองานเราช่วยแบ่งเบาภาระรัฐมาจัดทำ

ตึกโอฬารปานใดก็ไร้ค่า ถ้าหากว่าไร้รักและสุขสันต์ ตึกจะมัวปานใดไม่สำคัญ ถ้าตึกนั้นไร้สิ่งความจริงใจ

ในตึกนี้เรามีสิ่งล้ำค่า คือบรรดาความรักอันยิ่งใหญ่ ครูรักศิษย์ ศิษย์รักครูคู่กันไป รักนี้ไซร้ย่อมเห็นได้ในเซนต์จอห์น

อนึ่งคุณประจิตต์ โรจนพฤกษ์ ที่ให้โน้ตคำบรรยายวิชาต่าง ๆ แก่ข้าพเจ้ายืมมาลอกนั้น เมื่อจบอักษรศาสตร์ปี พ.ศ. 2500 ปีนั้นก็จบนิติศาสตร์ด้วย ข้าพเจ้าทราบว่า เข้าทำงานกระทรวงการต่างประเทศ และไปทำปริญญาเอก Docteur Endroit ที่ฝรั่งเศส ต่อมาเป็นฑูตที่ Russia ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยพบคุณประจิตต์ เราคำนับกันแบบลูกศิษย์กับครู และแบบเอกอัครราชฑูต อันทรงเกียรติสูงสุดที่ครูปลื้มใจภายในเงียบ ๆ นับเป็นรางวัลสูงสุดที่สวรรค์โปรดแก่คนที่มีอาชีพ "ครู"

                                                                      จบ



ปัจจุบันโรงเรียนในเครือเซนต์จอห์นประกอบด้วย

 -  อนุบาลเซนต์จอห์น

 -  เซนต์จอห์นสามัญ

 -  เซนต์จอห์นโปลีเทคนิค

 -  เซนต์จอห์นเทคโนโลยี

 -  เซนต์จอห์นคอมเมริส์

 -  St.John's International

 -  St.John's Matriculation

 -  มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น

อาณาบริเวณพื้นที่ประมาณ 50 ไร่ ย่านใจกลางเมือง กรุงเทพมหานคร

Matrix.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Raphin Phraiwal
Verified User
โพสต์: 1342
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 47

โพสต์

ขอขอบคุณพี่ matrix มากครับ

อาจารย์ท่านนี้เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นสูงมากครับ น่านับถือมากครับ
รักในหลวงครับ
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

* * * ประวัติ เซนต์จอห์น * * *

โพสต์ที่ 48

โพสต์

ขอบคุณ พี่ matrix ครับ ตอนแรก ผมนึกว่าเป็นประวัติโรงเรียน ตั้งแต่ก่อตั้ง จนถึง ปัจจุบัน ว่ามีการพัฒนาอย่างไร

กลายเป็น ประวัติ อาจารย์ผู้ก่อตั้ง แต่ก็ดีครับ ประวัตินักสู้ อ่านเพลินดี