เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
-
webmaster
- Verified User
- โพสต์: 25
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
เรื่อง พระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน 2549 เวลา18.19 น. ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระดำเนินออกกำลัง พระวรกาย ณ บริเวณถนนด้านหน้า ของพระตำหนักจิตรดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ทรงสะดุด และล้มลง ทรงยืนขึ้นด้วยพระองค์เอง จากนั้นก็ทรงพระดำเนินกลับขึ้นพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ทรงมีรอยถลอกที่พระฉวี (ผิวหนัง) 3 แห่ง ทรงมีรอยช้ำที่พระปฤษฎางค์ (หลัง) ด้านขวา พระอังสา(ไหล่) มีพระอาการเจ็บปวดพระวรกายขณะทรงเปลี่ยนพระอิริยาบถ และขณะทรงพระดำเนิน คณะแพทย์ได้ถวายเอกซเรย์พบรอยร้าวเล็กน้อยที่พระผาสุกัฐิ (กระดูกซี่โครง) ซี่ที่ 4 ด้านขวา คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถ พระอาการดีขึ้นเป็นลำดับ จึงถวายคำแนะนำให้ทรงพักผ่อนพระวรกายและให้ทรงงดพระราชกิจสักระยะหนึ่ง
จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
8 กรกฎาคม พุทธศักราช2549
http://www.nbtthai.com/previewnews.php? ... 61&tb=NEWS
-
jaychou
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอให้พระองค์ท่านทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของชาวไทยสืบไปพระพุทธเจ้าข้า
-
Jeng
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอสิ่งศักดิ์ทั้งหลายในสากลโลก ตลอดจนพระสยามเทวาทิราช ช่วยดลบันดาล ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย ทรงหายประชวรในเร็ววัน และมีพละกำลังแข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ
อยู่คู้ฟ้าเมืองไทย ตลอดกาลนานเทอญ
-
matrix
- Verified User
- โพสต์: 1717
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์..ที่มีอยู่ในจักวาล..สากลทั้งหลาย โปรด..ปกปักรักษา
ให้เจ้าเหนือหัว ในหลวงของเรา ที่ประเสริฐเลิศในพิภพหล้า จงหายจากประชวร
มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยยิ่งยืนนานตลอดไป
ด้วยเทอญ...
-
yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
-
Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอสิ่งศักสิทธ์ในโลกโปรดคุ้มครองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยเถิด
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
RR
- Verified User
- โพสต์: 113
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย
-
ElleT
- Verified User
- โพสต์: 30
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ครับ
Long Live The King

-
ElleT
- Verified User
- โพสต์: 30
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ครับ
Long Live The King

-
jaychou
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
เรื่อง การถวายการรักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (อ่านว่า-พระ-ปิ-ถิ-กัน-ถะ-กัด-ถิ) (กระดูกสันหลัง) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในปี พ.ศ.2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระอาการทรงก้าวพระบาทขวาไม่ถนัดขณะทรงพระดำเนินเป็นครั้งคราว คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ ได้ถวายการตรวจพระวรกายและตรวจด้วยเอกซเรย์ พบว่า พระปิฐิกัณฐกัฐิ (อ่านว่า-พระ-ปิ-ถิ-กัน-ถะ-กัด-ถิ) (กระดูกสันหลัง) ระดับบั้นพระองค์ (Lumbar spine) มีการเปลี่ยนแปลงตามพระชนมายุ การตรวจเส้นประสาทและกล้ามเนื้อด้วยกระแสไฟฟ้า พบว่ามีการกดทับเล็กน้อยของเส้นประสาทที่แยกออกจากไขสันหลังระดับบั้นพระองค์ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวในขณะที่ทรงพระดำเนิน คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถ พระอาการดีขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ.2546 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระดำเนินระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร มีพระอาการก้าวพระบาทข้างขวาไม่ถนัด คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ถวายตรวจพระวรกายและถวายตรวจทางรังสีวิทยา คลื่นสนามแม่เหล็ก (Magnetic Resonance Imaging-MRI.) และด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้รังสีเอกซ์ (Computerized Tomography-CT.) พบว่าช่องทางเดินของเส้นประสาทไขสันหลังระหว่างปล้องของพระปิฐิกัณฐกัฐิ (อ่านว่า-พระ-ปิ-ถิ-กัน-ถะ-กัด-ถิ) ตรงตำแหน่งดังกล่าวแคบลง (Lumbar spinal stenosis) ในปี พ.ศ.2548 คณะแพทย์ได้ปรึกษากันและได้ถวายการตรวจอีกครั้งหนึ่ง มีความเห็นว่าควรถวายการรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัดก่อน หากไม่ได้ผล ควรต้องพิจารณาวิธีรักษาด้วยการผ่าตัดขยายช่องทางเดินประสาท
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2549 คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลศิริราช และจากสถาบันการแพทย์อื่น ได้ร่วมประชุมปรึกษากันและเห็นพ้องต้องกันว่าควรถวายการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ในการนี้ต้องถวายพระโอสถก่อนการผ่าตัดสักระยะเวลาหนึ่ง และหลังจากการผ่าตัดจำเป็นต้องใช้เวลานานเพื่อการบริหารพระกล้ามเนื้อเพื่อเสริมสมรรถภาพ จึงเห็นสมควรถวายการผ่าตัดหลังจากงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี คณะแพทย์จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถวายการผ่าตัดขยายช่องทางเดินประสาทของพระปิฐิกัณฐกัฐิ (อ่านว่า-พระ-ปิ-ถิ-กัน-ถะ-กัด-ถิ) ระดับบั้นพระองค์ (Lumbar spine) โดยใช้กล้องจุลทัศน์ (Microsurgical decompresion) ณ โรงพยาบาลศิริราช ในวันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2549
จึงประกาศมาให้ทราบทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
17 กรกฎาคม พ.ศ.2549
-
naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอให้พระธาตุศรีสองรัก โปรดดูแลคุ้มครอง "พ่อหลวง" ให้สุขภาพแข็งแรงปลอดภัยด้วย ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
จาก E-mail ที่เพื่อนส่งมาครับ ใครอ่านแล้วก็อ่านอีกได้ จะได้ตอกย้ำความมั่นคงในจิตใจที่จะก้าวเดินตามพ่อไป ด้วยหัวใจ "รักผู้อื่น" อย่างเต็มที่ .....
ทุกคนคงทราบกันดีว่าในหลวงทรงมีพระอาการประชวรเรื้อรังในส่วนของพระหทัยเต้นผิดปกติ หากจำกันได้ในหลวงเคยต้องทรงรับการผ่าตัดใหญ่มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2538 ครั้งนั้นพสกนิกรทั้งแผ่นดินแทบไม่เป็นอันทำอะไร ใครๆก็รู้ว่าโรคหัวใจไม่ใช่โรคล้อกันเล่นๆได้ ทั้งสมัยนั้นการผ่าตัดหัวใจก็เสี่ยงพอดู แต่ทุกอย่างก็เป็นไปโดยเรียบร้อย ทราบกันหรือไม่ว่าสาเหตุของโรคพระหทัยเต้นผิดปกตินี้ มาจากอะไร?
ราวปี 2530 ในหลวงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนที่อำเภอสะเมิง
จังหวัดเชียงใหม่ ทรงพบว่าชาวบ้านจำนวนมากเป็นโรคคอพอก
ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทูลว่า มีการเอาเกลือเสริมไอโอดีนมาแจกประจำ แต่ชาวบ้านไม่ยอมใช้ เพราะไม่รู้จักก็กลัวจะเป็นอันตราย
ในหลวงจึงรับสั่งให้นำเกลือเสริมไอโอดีนมาแจกประชาชนด้วยพระหัตถ์ ชาวบ้านได้รับเกลือพระราชทาน จึงยอมเชื่อว่าเกลือชนิดนี้กินได้
จนแพร่หลายต่อๆมา ปัจจุบันไม่มีคนป่วยโรคคอพอกที่สะเมิงแล้ว
นอกจากนี้ยังทรงเสด็จขึ้น-ลงสะเมิงอีกหลายครั้งเพื่อติดตามแก้ปัญหาเรื่องน้ำและถนน จนชาวบ้านทำกินกันได้เป็นปกติสุขมีรายได้เลี้ยงชีพได้พอเพียง แล้วกลับเป็นพระองค์เองที่ทรงพระประชวร!ในหลวงทรงได้รับเชื้อไมโครพลาสม่า จากการเสด็จไปที่สะเมิงนี้เอง และเป็นสาเหตุของโรคพระหทัยเต้นผิดปกติเรื้อรังมาถึงปัจจุบันแม้คณะแพทย์จะพยายามเท่าใด ก็ไม่อาจถวายการรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงถวายพระโอสถประคองพระอาการมาตลอด จนกระทั่งต้องทรงรับการผ่าตัดใหญ่เมื่อปี 2538 ดังเล่ามาแล้ว
ในหลวงเคยมีพระราชกระแสเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า...
"ฉันขึ้น-ลงสะเมิงอยู่หลายปี จนได้รับเชื้อไมโครพลาสม่า
ซึ่งในที่สุดทำให้ฉันเป็นโรคหัวใจเต้นไม่ปกติ จนเกือบต้องเสียชีวิต"เป็นถ้อยรับสั่งที่แสนจะเรียบง่ายราวกับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยธรรมดาเสียเหลือเกิน!
อ่านแล้ว...อย่าแค่ผ่านเลยไป ช่วยกันจดกันจำเอาไว้ มีเพื่อนบอกเพื่อน มีครอบครัวขยายต่อให้ทราบทั่วกัน อีกหน่อยมีลูกมีหลานอย่าลืมเล่าให้พวกเขาฟังด้วยว่า...
"การรักผู้อื่นยิ่งกว่าชีวิตของตนเองนั้น... ยิ่งใหญ่อย่างไรและเพียงไหน "
ขอจงทรงพระเจริญ !
-
ดร.โหน่ง
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
กระผมสวดมนต์ภาวนาพร้อมส่งกำลังใจถวายพระพร
ให้พระองค์ท่านทรงหายจากอาการพระประชวร
-
Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็วด้วยเถิด
รักในหลวงครับ
-
jaychou
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
พระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯถึงโรงพยาบาลศิริราช ทรงฉายภาพประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 กรกฎาคม 2549 16:30 น.
-
bluesky
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ ๓.......
แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่องการถวายรักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉบับที่ 3
หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับอยู่ในห้องพักฟื้นเพื่อคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสังเกตพระอาการอย่างใกล้ชิดแล้ว ปรากฎว่าพระอาการดีขึ้นตามลำดับ คณะแพทย์จึงขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ เมื่อเวลา 22 นาฬิกา 24 นาที จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง 20 กรกฎาคม 2549
มีบางคนบอกว่า คนเราเกิดมาเพื่อตามหาอีกครึ่งหนึ่งของตัวเรา
-
bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 4
เรื่องการถวายการรักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันนี้นี้คณะแพทย์ได้ถวายการตรวจพระวรกายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อติดตามผลการผ่าตัดรักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) เมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม พ.ศ. 2549
ปรากฏว่ามีเพียงพระอาการเจ็บแผลส่วนอาการอื่นๆเช่น ระบบการหายใจ ความเข้มข้นของออกซิเจนในพระโลหิต หลังการหยุดถวายออกซิเจน ความดันพระโลหิต การทำงานของพระหทัย และการทำงานของพระอันตะ(ลำไส้) เป็นปกติ
จึงขอพระราชทานพระราชานุญาต หยุดใช้เครื่องมือบันทึกการตรวจสัญญาณชีพผ่านทางจอภาพ
คณะแพทย์ขอพระราชทานให้ทรงบรรทมหงาย และเปลี่ยนพระราชอิริยบท เป็นทรงบรรทมตะแคง เป็นครั้งคราวมีการถวายรักษาทางกายภาพบำบัดช่วยระบบหายใจและการถวายน้ำเกลือร่วมกับพระโอสถ
จึงขอประกาศมาให้ทราบทั่วกัน
21 กรกฏาคม พ.ศ.2549
สำนักพระราชวัง