[ขำขัน] วิดีโอคลิป... ชีวิตลูกจ้าง

[MarginofSafety]

Click ที่ Link นะครับ ... :lol:

ไปทำงานวันจันทร์

วันศุกร์หลังเลิกงาน

[ดร.โหน่ง]

creative genius!        :B

[bluesky]

ผมมี Clip ดีๆอยากแนะนำครับ
แต่ผมไม่มีปัญญา
ไม่มีเว็บไซต์เหมือนพี่เฮชด้วย

งั้นพี่ๆก็คงอดดูของดีไปเยอะเลยครับ
น่าเคร้าใจที่ผมไม่มีบุญ

[กล้วยทอด]

พี่หวี เก็บกด  :lol:

[matrix]

[quote="กล้วยทอด"]

พี่หวี เก็บกด

[MarginofSafety]

ไม่เหมือนแล้ว ...  :lol:
(Refresh ดูนะครับ) ...  

[MarginofSafety]

รูปพี่กล้วยเหรอ...  อู้ฮู้ววววว....  :lol:
พี่ๆ เพื่อนๆ โดยเฉพาะ ดร.โหน่ง เข้ามาดูเร็วเข้า...  :lovl:

[ดร.โหน่ง]

ผมอีกแล้ว..........น้องเค้าน่ารักดี

            เห็นวัยรุ่นก็นึกถึงลูกสาว 2 คน  ผมเริ่มไว้หนวดแล้ว.....ฮ่า

[กล้วยทอด]

[quote="ดร.โหน่ง"]ผมอีกแล้ว..........น้องเค้าน่ารักดี

[por_jai]

[quote="HVI"]


รูปพี่กล้วยเหรอ...

[MarginofSafety]

ผมมี Clip ดีๆอยากแนะนำครับ
1.แต่ผมไม่มีปัญญา
2.ไม่มีเว็บไซต์เหมือนพี่เฮชด้วย
3.งั้นพี่ๆก็คงอดดูของดีไปเยอะเลยครับ
4.น่าเคร้าใจที่ผมไม่มีบุญ

เห็นคุณบลู Post ถามอยากให้สอนวิธีคิดที่เป็นระบบในกระทู้ข้างๆ
ผมเลยหยิบวิธีคิดของคุณบลูมาเป็นกรณีศึกษา แล้วลองพิจารณาตามนะครับ เรียนรู้ไปด้วยกัน
(ผมไม่แน่ใจว่าคุณบลูอายุเท่าไหร่ เพราะผมก็อายุยังไม่ถึง 30 เลยไม่กล้าเรียกใครน้อง)

1. แต่ผมไม่มีปัญญา
ลองขยายความและคิดหาคำตอบในประเด็นนี้ครับ
- คิดว่าความสามารถไม่มากพอ
- ไม่ใช่สิ่งที่มีความสนใจอยากทำ
- ไม่ชอบการค้นคว้าเพิ่มเติม
- ไม่ได้จับจ้องที่เป้าหมาย แต่ไปมองแต่อุปสรรค
- etc.

กระบวนการเรียนรู้ กระบวนการพัฒนาของมนุษย์ก็เริ่มจากความไม่รู้ก่อนเสมอครับ
การที่รู้ว่าเราไม่รู้ นั่นเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วครับ
เพราะมันสามารถต่อยอด เปลี่ยนจากไม่รู้เป็นความรู้
แต่การที่คิดว่าเรารู้ทุกอย่าง จะนำไปสู่การไม่ต่อยอดและพัฒนาทางความคิดอีกเลย
ปาฐกถาของ Steve Jobs ที่ให้ไว้กับนักศึกษา Standford U.
จบด้วยคำกล่าว "Stay hungry, Stay foolish"
ไม่ได้บอกว่าให้โง่อยู่อย่างนั้น และหิวอยู่อย่างนั้น
แต่ความโง่และหิว หรือความรู้สึกว่าขาดบางสิ่งบางอย่างที่ต้องหยิบจับนำไปคิด หรือพัฒนาต่อ
ซึ่งเป็นหนทางนำไปสู่ความสำเร็จและปัญญาครับ ... (มีต่อ)

[MarginofSafety]

2. ไม่มีเว็บไซต์เหมือนพี่เฮชด้วย
ลองขยายความและคิดหาคำตอบในประเด็นนี้ครับ
- จำเป็นต้องมี website ส่วนตัวหรือไม่ ถึงสามารถ Post วิดีโอคลิปได้
ถ้าใช่และเราต้องการมี website ส่วนตัว เราต้องทำอย่างไร
ถ้าไม่ใช่ มีวิธีอย่างไร ในการ Post วิดีโอคลิป
และเราจะเข้าถึงข้อมูล หรือวิธีการเหล่านั้นได้จากที่ไหน

คนฉลาดไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องจดจำทุกอย่างไว้ในสมอง
แต่เขารู้ว่าเขาสามารถหาสิ่งที่เขาต้องการรู้ได้จากที่ไหน
ไอสไตน์จำไม่ได้ว่าเสียงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าไหร่เมื่อถูกถาม
เค้าตอบว่า ถ้าเขาต้องการรู้เขาก็แค่หยิบหนังสือมาเปิดดู ...

ข้อมูลข่าวสารทุกวันนี้ อยู่รอบๆตัวเราเต็มไปหมดครับ
ยิ่งยุค Broadband Internet และมี Search Engine ทรงพลังอย่าง Google
มันก็เหมือนเรามีห้องสมุดขนาดยักษ์ที่เราสามารถค้นคว้าสิ่งที่เราต้องการทราบได้อย่างไม่มีวันจบ
ดังนั้นมันขึ้นอยู่ที่ว่าเรารู้จักใช้ประโยชน์จากมันหรือเปล่า

[MarginofSafety]

3.งั้นพี่ๆก็คงอดดูของดีไปเยอะเลยครับ
4.น่าเคร้าใจที่ผมไม่มีบุญ

ลองขยายความและคิดหาคำตอบในประเด็นนี้ครับ
- คิดในด้านลบ เนื่องจากเริ่มต้นจากกระบวนการคิดว่า "ไม่มีปัญญา"
สุดท้าย ทั้งๆที่อยากนำสิ่งดีๆมาแบ่งปัน แต่เนื่องจากเริ่มด้วยความคิดด้านลบ
จึงตัดสินใจและสรุปลงท้ายว่า "ไม่มีบุญ"

คุณบลูมีบุญครับ ที่มีความคิดดีๆ ที่อยากนำสิ่งดีๆมาแบ่งปัน
และการไม่รู้ว่าจะ Post วิดีโอคลิปอย่างไร มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณบลูไม่มีบุญ

ลองเริ่มต้นจากเป้าหมายสิครับ
"อืมม... วันนี้เราต้องหาวิธี Post วิดีโอคลิปให้ได้ ถ้าไม่ได้ ไม่เลิก"
เริ่มต้นด้วยเป้าหมายที่ท้าทาย  วิธีการเดี๋ยวมันตามมาเองครับ ...

แต่สิ่งที่สำคัญ เป้าหมายของเราต้องวางอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง
เหมือนเราเริ่มพาดบันไดไว้กับกำแพง ต้องแน่ใจว่าพาดถูกด้าน
ถ้าพาดผิดด้านพอปีนๆ ไปแล้ว เพิ่งมารู้ว่าพาดผิด
ก็ต้องปีนลงมา แล้วมาพาดใหม่ แล้วค่อยเริ่มไต่ขึ้นไปใหม่

ยกตัวอย่างเช่น หากนักการเมืองตั้งเป้าหมายในชีวิตว่า
"ฉันจะต้องเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในประเทศไทย
หรือฉันจะต้องรวยติดอันดับโลก"
จะเห็นได้ว่าเป้าหมายกับหลักการหรือหน้าที่ของอาชีพนักการเมืองมันขัดแย้งกัน
ซึ่งคนอาสามาเป็นนักการเมืองควรจะตั้งเป้าหมายว่า
"ฉันจะนำเอาความรู้ความสามารถที่ฉันมี
มาแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติบ้านเมือง เต็มกำลังความสามารถ"

[MarginofSafety]

ประเด็นที่น่าคิดประเด็นสุดท้าย
ก่อนหน้านี้ที่พูดมาทั้งหมด เป็นการคิดในเชิงตรรกะ หรือมีเหตุมีผล
แต่ผมเคยฟัง ท่าน ดร.อาจอง ผู้ที่มีส่วนร่วมในการนำยานอวกาศไปดาวอังคาร
ท่านบอกว่า บางทีมนุษย์เราสามารถหาวิธีการจากการหยั่งรู้ครับ
เช่น ไอสไตน์ สามารถค้นพบทฤษฎีสัมพันธภาพ มาจากการหยั่งรู้
ไม่ได้ใช้การคิดในเชิงตรรกะหรือการทดลองทางวิทยาศาสตร์
เซอร์ ไอแซค นิวตันที่ค้นพบกฎแรงโน้มถ่วงก็เช่นเดียวกัน
ไปนั่งใต้ต้นไม้ แล้วเกิดการหยั่งรู้ และเป็นรากฐานของฟิสิกส์สมัยใหม่
และประสบการณ์ที่เกิดกับท่านเอง ก็คือ
วิทยานิพนธ์ที่ทำให้ท่านจบ ดร. ก็มาจากการหยั่งรู้ หลังจากที่ท่านไปนั่งสมาธิ

ท่านอธิบายเหตุผลไว้ว่า ตัวเรานี้เหมือนคลื่นในมหาสมุทร แต่ถ้าเราเกิดภาวะหยั่งรู้ คลื่นกับมหาสมุทรก็เป็นเนื้อเดียวกัน
ก็จะเกิดปรากฎการณ์หยั่งรู้ขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับคำสอนด้านพุทธศาสนา
ดังนั้น เจริญ ศีล สมาธิ ให้มาก ปัญญาก็จะตามมาครับ ...

คำแนะนำทั้งหมด ผมไม่ได้แนะนำคุณบลูคนเดียว ผมแนะนำตัวเองด้วยครับ
หวังว่าคงมีประโยชน์นะครับ ...  

[por_jai]

"มีใจรัก พากเพียรทำ เอาจิตฝักใฝ่ ใช้ปัญญาสอบสวน"

8) motto ตรงกับสิ่งที่น้องหวีกะลังบอกน้องบลูเลย...

[เพื่อน]

โห...น้องหวี นี่ก้าวย่างทางความคิดไกลและเร็วดีจริงๆนะ...นับถือๆ

พูดถึง ดร.อาจอง  ผมก็นิยมในตัวท่านเหมือนกัน แต่ติดความสงสัยตรงที่ท่านเลื่อมใสท่านไสยบาบาเอามากๆ ความรู้สึกส่วนตัวของผมคิดว่าไม่น่ามีคนมหัศจรรย์แบบท่านไสยบาบาได้นะ ผมก็เลยสงสัยว่าท่านดร.อาจองเป็นผู้รู้มากมายขนาดนี้ ทำไมท่านถึงเลื่อมใสท่านไสยบาบาได้มากมายนัก....หรือตัวเรายังเข้าไม่ถึงความมหัศจรรย์นั้นแบบท่านจริงๆ


ป.ล. รูปคุณกล้วยทอดนี่ สวย+น่ารักมากเลย....เป็นนางฟ้ารึปล่าวครับ?

[nanchan]

เมื่อไม่มีสติปัญญา ระบบมันจึงไม่เกิด

เมื่อขาดระบบทางความคิด ความสับสนมันก็เกิด

เมื่อเกิดความสับสน ความคิดมันก็ผิดก็ถูกบ้างหรือส่วนมากจะผิด

เมื่อเกิดความคิดผิดๆ สติปัญญามันก็จึงไม่เกิด


วิธีสร้างสติปัญญาอย่างง่ายๆ

คือการมองโลก แบบสายกลางไว้ มองแง่ดีก็ไม่ใช่ แง่ร้ายก็ไม่ดีทีเดียว
ทำไม่ถึงมองโลกแง่ดีอย่างเดียวไม่ได้ ง่ายๆก็คือโลกนี้มีทั้งคนดีและไม่ดี
มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี ใช้เหตุผลในการคิดให้มากไว้

[nanchan]

ลืมพูดเรื่องลูกจ้างไป
ตอนแรกดูรูปแล้วก็งงนิดๆ
ว่าหัวเราะอะไร พอมาดูอีกทีถึงพอเข้าใจ

เข้าใจหารูปนะ รู้สึกจะชอบนกเพนกวินจริงๆเลย

จริงๆก็อยากจะหัวเราะด้วยเหมือนกัน
แต่ทำไม่ได้ เพราะอยู่ในสถานะตรงกันข้าม

:lol:  :lol:  :lol:
หัวเราะซะหน่อย เพราะว่าเป็นเหมือนกัน

[shanghai]

รูปหมีเคยเห็นมาเเล้ว ก็เฉยๆ เเต่ชอบเจ้านกนี่สิ สุดยอดเหมือนคนเเถวๆตามผับตอนวันศุกร์วันเสาร์เลย

[nanchan]

[quote="HVI"]ประเด็นที่น่าคิดประเด็นสุดท้าย
ก่อนหน้านี้ที่พูดมาทั้งหมด เป็นการคิดในเชิงตรรกะ หรือมีเหตุมีผล
แต่ผมเคยฟัง ท่าน ดร.อาจอง ผู้ที่มีส่วนร่วมในการนำยานอวกาศไปดาวอังคาร
ท่านบอกว่า บางทีมนุษย์เราสามารถหาวิธีการจากการหยั่งรู้ครับ
เช่น ไอสไตน์ สามารถค้นพบทฤษฎีสัมพันธภาพ มาจากการหยั่งรู้
ไม่ได้ใช้การคิดในเชิงตรรกะหรือการทดลองทางวิทยาศาสตร์
เซอร์ ไอแซค นิวตันที่ค้นพบกฎแรงโน้มถ่วงก็เช่นเดียวกัน
ไปนั่งใต้ต้นไม้ แล้วเกิดการหยั่งรู้ และเป็นรากฐานของฟิสิกส์สมัยใหม่
และประสบการณ์ที่เกิดกับท่านเอง ก็คือ
วิทยานิพนธ์ที่ทำให้ท่านจบ ดร. ก็มาจากการหยั่งรู้ หลังจากที่ท่านไปนั่งสมาธิ

ท่านอธิบายเหตุผลไว้ว่า ตัวเรานี้เหมือนคลื่นในมหาสมุทร แต่ถ้าเราเกิดภาวะหยั่งรู้ คลื่นกับมหาสมุทรก็เป็นเนื้อเดียวกัน
ก็จะเกิดปรากฎการณ์หยั่งรู้ขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับคำสอนด้านพุทธศาสนา
ดังนั้น เจริญ ศีล สมาธิ ให้มาก ปัญญาก็จะตามมาครับ ...

คำแนะนำทั้งหมด ผมไม่ได้แนะนำคุณบลูคนเดียว ผมแนะนำตัวเองด้วยครับ
หวังว่าคงมีประโยชน์นะครับ ...

[MarginofSafety]

ป.ล. รูปคุณกล้วยทอดนี่ สวย+น่ารักมากเลย....เป็นนางฟ้ารึปล่าวครับ?

พี่เพื่อนครับ ผมมีความลับมาเล่าให้ฟัง
แต่ก่อนพี่กล้วยทอดรูปร่างท้วมครับ แบบนี้ ...  :shock:



จากนั้นดร.โหน่ง และ พี่กล้วยก็รู้จักกันที่กระทู้นี้ข้างล่างนี้ครับ
(ดร.พยายามเข้าทางคุณแม่)

Happy Birthday ครับ

แต่เหตุการณ์กลับตารปัตร เมื่อพี่กล้วยพบว่า ดร. มีลูก 2 คน
พี่กล้วยเลยรู้สึกอยากผอมขึ้นมา ดังกระทู้นี้

อยากผอม

ตอนท้ายกระทู้อยากผอม
พี่นานจัง Nanchan(g) กระทุ้งว่า
"อยากอย่างเดียว ไร้แรงบันดาลใจ ก็ไร้ผล" ...  :shock:

พี่กล้วยเลยฟิตจนหุ่นเพรียวอย่างที่เห็นนั่นแหละครับ
ก็เลยกลายเป็นน้องนางฟ้า อย่างที่พี่เพื่อนพูด แบบนี้



แต่ที่จริงแล้ว เรื่องไม่จบง่ายๆเช่นนั้นนะครับ
น้องนางฟ้าไม่ใช่พี่กล้วย แต่เป็นน้องสาวพี่กล้วย
พี่พอใจเป็นคนออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
พร้อมทั้งพี่คีนู ก็ยืนยันว่าเหมือน

ผมเพิ่งไปค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาแล้วครับ
รูปพี่กล้วยคือรูปนี้ครับ



เรื่องนี้เป็นความลับนะครับพี่เพื่อน จุ๊ๆๆๆ  :juju:
อย่าไปบอกให้พี่กล้วยรู้เป็นอันขาด ไม่งั้นผมโดนพี่กล้วยกับ ดร. ดักตีหัวแน่ครับ...

ก่อนจบผมแอบเก็บบทสนทนาบางอย่างไว้เป็นหลักฐาน ผมไม่ได้มั่วนะครับ
ถ้าพี่เพื่อนไม่เชื่อลองอ่านดูสิครับ รับรองไม่มีการปลอมแปลง
และผมก็ไม่กล้าโกหกหัวหน้าพรรคหรอกครับ ...  :lol:

นี่ช่วงที่รู้ว่า ดร.มีลูกครับ

เคยเห็น ดร. บอกว่ามีลูกสาววัยกำลังน่ารักครับ พี่มหา(ชน)

อ้าวพี่หวีเฉลยแล้ว..ยังงี้น้องกล้วย เอ๊ย..ดร.โหน่งก็ชวดน่ะสิคร้าบบบบบบ

ดร.แกเล่าให้ฟังเองครับ
   มีมุดๆอะไรด้วย

จากนั้นพี่กล้วยก็หายไปพักใหญ่เลยครับ

นี่ช่วงพบว่า น้องนางฟ้าไม่ใช่พี่กล้วยครับ แต่เป็นน้องสาวที่พลัดพรากจากกัน

ผมจะบอกให้
   กล้วยทอดน่ารักกว่าน้องคนนี้เยอะ

เห็นมะ.. ผมก็ว่าเหมือน

และสุดท้าย ขู่ว่าจะแอบตีหัวผมตอนเผลอ

พี่ก็ดักตีหัว ตอนทีเผลอเลยค่ะ
เดี๋ยวกล้วยทอดช่วยก็ได้ค่ะ

เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละครับ จบแล้ว...   :lovl:    

[กล้วยทอด]

[quote="HVI"]
พี่เพื่อนครับ ผมมีความลับมาเล่าให้ฟัง
แต่ก่อนพี่กล้วยทอดรูปร่างท้วมครับ แบบนี้ ...

[MarginofSafety]

ช้าไปแล้วค่ะพี่หวี  

โอย โอยยยย ... โดนทุบไม่หยุดเลย ตาปูดแถมตาดำกระเด้งด้วย
ยังกะพี่เหยินโดนตบโหมดออโต้ ยังไงยังงั้น

ส่วนชื่อพี่ Nanchan ผมเอามาสะกดแบบ "คาราโอเกะ" แค่นั้นเองครับ
เคยได้ยินมาเช่นเดียวกันครับว่า  ชื่อจีน หรือ ฮ่องกง
เวลาลงท้าย ด้วย "n" หรือ "น" แต่เวลาอ่านออกเสียง ออกเสียงเหมือน "ng" หรือ "ง"
เช่น Yan 's family หมายถึงตระกูล "หยาง"
Jackie Chan หรือ "เฉิน หลง" เราอ่านว่า "แจ๊คกี้ ชาง"
ดังนั้นชื่อพี่ Nanchan น่าจะอ่านว่า "นาน ชาง"
เป็นแบบนี้หรือเปล่าครับพี่กล้วย ...
แต่ผมก็ไม่ทราบอยู่ดีว่าทำไม เวลาเขียนภาษาอังกฤษ ไม่เขียนลงท้ายว่า "ng" ครับ
หากจะออกเสียงว่า "ชาง"
ถ้าพี่กล้วยทราบ รบกวนด้วยนะครับ
ผมขอตัวไปเอ็กซเรย์ กระโหลกศีรษะก่อน แล้วเดี๋ยวเข้ามาอ่านครับ... โอย ๆๆ

[shanghai]

เดาว่าภาษาญี่ปุ่นกะจีนคงคล้ายๆกัน เพราะตัว -n -ng  ออกเสียงต่างกันนิดเดียวเอง

[เพื่อน]

.... :lol:

ที่แท้เรื่องราวตำนาน แห่งฟามรักอันยิ่งใหญ่ เป็นอย่างนี้เอง

ดร.โหน่ง> The heart breaker!

กล้วยทอด> The broken heart!

HVI > Another broken heart from the broken heart!

เพื่อน > The handy man! ...ready to mend a broken heart (not for HVI...ok!).

.... :lol:

[ดร.โหน่ง]

อาเมน