คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 601
ส่วนผมก็คล้ายๆคุณ chatchai ครับ ตอนยังไม่ได้แต่งงาน ยัง
ไม่มีลูกก็ลุยแหลกครับ ช้อนทองเก๊เกือบหักมาสองรอบ
(ดีที่แค่เกือบ)
ตอนนี้มีการเก็บ ห่านทองคำ ไว้มากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ยิ่งมีข่าว
เชิงลบออกมามากๆเข้า เมื่อวานก็เลยตัดสินใจขายช้อนมา
ซื้อห่านเพิ่ม
แต่นิสัยเก่าตายยากครับ ตอนนี้ถือช้อนงอๆ เตรียมจ้วงอีกแล้ว
เดี๋ยวรอพี่เจ๋งกลับ (เย็นนี้) พรุ่งนี้หุ้นจะต้องตกระเบิดเถิด
เทิงแน่ๆ ท่านดัชนีไทยทำนาย "เจ๋งอินเด็กซ์" เอาไว้ครับ
ก้นบุหรี่เคยเก็บมาสูบบ้างสักมวนสองมวนครับ แต่ Super Stock
ผมไม่เคยได้เลย (แต่ภรรยาเคยได้ 1 ครั้งครับ) เหตุผลสำคัญ
คือความอดทนไม่มี ความดีเลยไม่ปรากฎ
เหมือนซื้อกล้องดิจิตัลแหละครับ ถ้าเจอรุ่นถูกใจถูกสเป็คแล้ว
ล่ะก้อ ผมซื้อทันทีที่ออกมาครับ แพงนิดแพงหน่อยไม่สนใจ
ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าช๊อปต่ออีกอาทิตย์สองอาทิตย์ จะได้ดีลที่ดีกว่า
พอไม่ถูกใจแล้วก็ขายเลยครับ ขายถูกหน่อยไม่เป็นไร เอา
เงินไปซื้อตัวใหม่ดีกว่า
หุ้นก็เหมือนกัน พอเจอหุ้นถูกใจก็อัดเต็มปอดเลยครับ แพงนิด
แพงหน่อยไม่เป็นไร พอไม่ถูกใจแล้วก็ขายทันทีครับ ไม่ค่อย
จะรอมัน rebound
ไม่มีลูกก็ลุยแหลกครับ ช้อนทองเก๊เกือบหักมาสองรอบ
(ดีที่แค่เกือบ)
ตอนนี้มีการเก็บ ห่านทองคำ ไว้มากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ยิ่งมีข่าว
เชิงลบออกมามากๆเข้า เมื่อวานก็เลยตัดสินใจขายช้อนมา
ซื้อห่านเพิ่ม
แต่นิสัยเก่าตายยากครับ ตอนนี้ถือช้อนงอๆ เตรียมจ้วงอีกแล้ว
เดี๋ยวรอพี่เจ๋งกลับ (เย็นนี้) พรุ่งนี้หุ้นจะต้องตกระเบิดเถิด
เทิงแน่ๆ ท่านดัชนีไทยทำนาย "เจ๋งอินเด็กซ์" เอาไว้ครับ
ก้นบุหรี่เคยเก็บมาสูบบ้างสักมวนสองมวนครับ แต่ Super Stock
ผมไม่เคยได้เลย (แต่ภรรยาเคยได้ 1 ครั้งครับ) เหตุผลสำคัญ
คือความอดทนไม่มี ความดีเลยไม่ปรากฎ
เหมือนซื้อกล้องดิจิตัลแหละครับ ถ้าเจอรุ่นถูกใจถูกสเป็คแล้ว
ล่ะก้อ ผมซื้อทันทีที่ออกมาครับ แพงนิดแพงหน่อยไม่สนใจ
ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าช๊อปต่ออีกอาทิตย์สองอาทิตย์ จะได้ดีลที่ดีกว่า
พอไม่ถูกใจแล้วก็ขายเลยครับ ขายถูกหน่อยไม่เป็นไร เอา
เงินไปซื้อตัวใหม่ดีกว่า
หุ้นก็เหมือนกัน พอเจอหุ้นถูกใจก็อัดเต็มปอดเลยครับ แพงนิด
แพงหน่อยไม่เป็นไร พอไม่ถูกใจแล้วก็ขายทันทีครับ ไม่ค่อย
จะรอมัน rebound
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 602
ก่อนอื่น ขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับ พรใดออกจากปากใคร ก็ขอให้กลับไปที่คนให้ด้วยครับ...
พูดถึงเรื่องแนวทางการลงทุน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างครับ เช่นความถนัด ทัศนคติ เวลา หรือแม้กระทั่งอายุ คงไม่มีถูกผิด หรือเด่นด้อยกว่ากัน ครับ...
ที่น่าดีใจคือ เราเริ่มจะสามารถแบ่ง VI ออกได้เป็นกลุ่มย่อยๆ ก็แสดงว่า การลงทุนแบบเน้นคุณค่าได้หยั่งรากลึก ในหมู่นักลงทุนในประเทศนี้พอสมควรแล้ว ตอนนี้ก็เลยแตกกิ่งก้านสาขาออกไป แนวทางต่างๆ ตามแต่ความถนัดแต่ละท่าน...
ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับท่าน ดร.นิเวศน์ และส่วนหนึ่งก็ต้องเป็นเวป TVI แห่งนี้ ครับ ที่สร้างนักลงทุนเ้น้นคุณค่า ได้หลายๆ ท่าน...
ส่วนตัวก็ลงทุนไปตามที่คิดครับ ไม่ได้เน้นด้านใดด้านหนึ่ง แต่พอคุณวิบูลย์ ให้ความเห็น ก็เริ่มฉุกคิดเหมือนกันครับ ว่าตัวเองชอบหุ้น Growth แต่อีกด้านนึง ก็ชอบหุ้นห่านทองคำ ครับ ตอนนี้ก็กำลังเก็บอยู่ตัวนึง...
ผมชอบปันผล เพราะมันเหมือน margin of sefety ครับ และหากมีปันผลดี และมี Growth ด้วยเนี่ย จะดีมากเลยครับ...
ตอนนี้เป็นนักลงทุนใน superstock แบบฝึกหัดอยู่ครับ กำลังเรียนรู้ แม้แต่ Stanly หุ้น superstock ผมก็เข้าไปซื้อที่ราคา 300 บาทแล้วครับ กำไรก็เลยน้อยครับ
แต่มีคนที่รู้จริงที่ซื้อที่ราคาต่ำๆ และยังถืออยู่ เช่น ดร.นิเวศน์ และคุณ milo ครับ... :lol:
พูดถึงเรื่องแนวทางการลงทุน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างครับ เช่นความถนัด ทัศนคติ เวลา หรือแม้กระทั่งอายุ คงไม่มีถูกผิด หรือเด่นด้อยกว่ากัน ครับ...
ที่น่าดีใจคือ เราเริ่มจะสามารถแบ่ง VI ออกได้เป็นกลุ่มย่อยๆ ก็แสดงว่า การลงทุนแบบเน้นคุณค่าได้หยั่งรากลึก ในหมู่นักลงทุนในประเทศนี้พอสมควรแล้ว ตอนนี้ก็เลยแตกกิ่งก้านสาขาออกไป แนวทางต่างๆ ตามแต่ความถนัดแต่ละท่าน...
ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับท่าน ดร.นิเวศน์ และส่วนหนึ่งก็ต้องเป็นเวป TVI แห่งนี้ ครับ ที่สร้างนักลงทุนเ้น้นคุณค่า ได้หลายๆ ท่าน...
ส่วนตัวก็ลงทุนไปตามที่คิดครับ ไม่ได้เน้นด้านใดด้านหนึ่ง แต่พอคุณวิบูลย์ ให้ความเห็น ก็เริ่มฉุกคิดเหมือนกันครับ ว่าตัวเองชอบหุ้น Growth แต่อีกด้านนึง ก็ชอบหุ้นห่านทองคำ ครับ ตอนนี้ก็กำลังเก็บอยู่ตัวนึง...
ผมชอบปันผล เพราะมันเหมือน margin of sefety ครับ และหากมีปันผลดี และมี Growth ด้วยเนี่ย จะดีมากเลยครับ...
ตอนนี้เป็นนักลงทุนใน superstock แบบฝึกหัดอยู่ครับ กำลังเรียนรู้ แม้แต่ Stanly หุ้น superstock ผมก็เข้าไปซื้อที่ราคา 300 บาทแล้วครับ กำไรก็เลยน้อยครับ
แต่มีคนที่รู้จริงที่ซื้อที่ราคาต่ำๆ และยังถืออยู่ เช่น ดร.นิเวศน์ และคุณ milo ครับ... :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 603
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
เมื่อกี้ตอนแรกผมหากระทู้นี้ไม่เจอ
เลื่อนลงไปข้างล่างตั้งนาน ก็ยังหาไม่เจอ
บอกกับตัวเองว่า หายไปไหน(ว่ะ)
เลยกลับมาที่ตั้งต้นใหม่
ปรากฎว่า มาโผล่เป็น"เรื่องด่วน"ซะแล้ว
เฮ้อ จะดีหรือเปล่าครับ
ผมว่ากระทู้นี้ไม่ใช่"เรื่องด่วน"นะ
เป็น"เรื่องเรื่อยๆ"มากกว่า
ไม่ได้รีบร้อนอะไร
ใครใคร่โพสก็โพส
ใครใคร่ตอบก็ตอบ
ผมถือว่า กระทู้นี้เป็นที่แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการลงทุนแล้วกันครับ
อยากให้ทุกท่านที่มีความคิดเห็นดีๆโพสเข้ามา
เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กัน
ความรู้นี้เรียนกันไม่หมดครับ
ยิ่งศึกษา ยิ่งเยอะ
น้องๆพี่ๆที่เข้ามาใหม่ๆจะได้เอาไว้เป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาเรื่องการลงทุน
ผมเลยมุมมิบเอาว่า คงชอบก้นบุหรี่
แต่เท่าที่ศึกษาติดตามสไตล์คุณมนมาพอสมควร
ผมยกให้คุณมนเป็นหนึ่งในเซียนขี้ยาครับ
เนื่องด้วยเก็บก้นบุหรี่ทีไร
ได้กำไรทุกที
ผมยังอิจฉาเล็กๆ ที่รู้จักก้นบุหรี่มานาน
แต่ไม่เคยลองสักที
เลยปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปหลายที
ก็เลยบอกกับตัวเองว่า
สถานการณ์อย่างนี้ หุ้นซุปเปอร์หายากยิ่งกว่าทองคำ
จะรอให้ตลาดถล่มอีกรอบคงอีกนาน
คงต้องหัดสูบบุหรี่กับเขาบ้างแล้ว
ไม่งั้นวิชาอาคมจะเสื่อมเอา
แต่ที่แน่ๆ คุณมนอย่าลืมที่สัญญาไว้
ว่ามีเวลาจะเล่าให้ฟังนะครับ
น้องๆ (โดยเฉพาะสาวๆ) กำลังรอฟังกันอยู่ อิ อิ
จากสามแสนเป็นยี่สิบล้านในห้าปีนี่
เขาไม่เรียก"ช้า"นะครับ
เขาเรียกว่า"ฝีมือ"ครับ
ขอกระซิบนิดนึงแล้วกันว่า
น้องๆคนไหนอยากมี"ฝีมือ"ระดับพี่Chatchai
ก็ศึกษาและไถ่ถามความรู้จากพี่เขาได้เลยนะครับ
พี่เขาใจดี ไม่เคยหวงวิชาครับ
ส่วนหนังสือเล่มที่ว่าข้างบน
ผมไม่เคยอ่านครับ
เคยอ่านอีกเล่มชื่อเรื่อง "Company Analysis and Stock Valuation" ของ Kahill, Prentice-Hall Publishing
ก็ดีใช้ได้เลยครับ
ซื้อที่ Aisia Book นี่เอง
เป็นสไตล์ลงทุนแบบ Foundamental เหมือน VI
ว่างๆเชิญพี่Chatchai แวะเวียนเข้ามาในกระทู้นี้บ่อยๆนะครับ
ตอบคำถามพี่ๆน้องๆเป็นวิทยาทาน
ช่วงหลังรู้สึกพี่จะหายไปนาน
ไม่ทราบว่า ย้ายบ้านเรียบร้อยหรือยังครับ
ก็ฝาก"ยินดี"ผ่านกระทู้นี้มาแล้วกันนะครับ
ของผมบ้านที่อยู่ปัจจุบันก็อยู่มาสามปีแล้ว
ตอนสร้างบ้านเหนื่อยมากเลยครับ
สร้างเสร็จหายเหนื่อย แต่หนี้บานตะไท เพราะกู้แบงค์มา
นี่เป็นเพราะอาศัยหลักการเก็บเงินเอามาลงทุนตามแนว VI หละครับ
ช่วยให้ผมมีเงินล้างหนี้บ้านได้หมด
เพราะเป็นการลงทุนแบบเสี่ยงน้อย
เงินที่ลงทุนก็ค่อยๆงอกเงยขึ้นมา
แต่ถ้าจะไปหวังได้กำไรในเวลาอันสั้น
ก็อาจจะขาดทุนได้ในเวลาอันสั้นเช่นเดียวกัน
ทุกวันนี้กินอิ่มนอนหลับ ผมก็พอใจแล้วครับ
เรียกว่า รวยช้าแต่รวยนานครับ
ไม่ว่ากันนะครับที่เอาเรื่องส่วนตัวมาโฆษณา แฮะ แฮะ
พี่CKนี่ต้องเป็นชาวสวนมาก่อนแน่ๆ
ผมเดาถูกจริงๆ
นี่ถ้าพี่เจ๋งกลับมาอ่านเจอกระทู้นี้
ก็จะกลายเป็น คู่สวน (ล้อเล่นนะครับ)
ไอ้เจ้าห่านตัวที่ผมมี
ออกแต่ไข่อย่างเดียวครับ
ไม่ค่อยโต (แต่ก็ไม่ตาย)
เรียกว่า ไม่ตายแต่ก็ไม่โต
ทุกวันนี้อยู่ในพอร์ตของผมได้เพราะเป็นเจ้าตลาด
เวลาไปซุปเปอร์มาร์เก็ตทีไร เห็นเสินค้าเจ้าห่านผมขายดี
ผมก็ดีใจภูมิใจทุกที เลยขายไม่ลง
ก็ปลอบใจตัวเองว่า เหมือนซื้อพันธบัตรแล้วถือไว้แล้วกัน
อย่างน้อยก็มี Capital Gain เป็นของแถม
เวลาตลาดลงมากๆ เจ้าห่านผมก็ไม่สะเทือน
ดูไปดูมา ดีกว่าซื้อพันธบัตรอีกครับ
ดังนั้น ผมก็เลยไม่ไปคาดคั้นให้เจ้าห่านผมต้องโตเอาโตเอาเหมือนชาวบ้าน
ก็เลยคิดได้ว่า ถ้าเรารู้ว่าเราซื้อหุ้นนี้มาเพื่ออะไร
ถ้าเพื่อปันผลก็ไม่ต้องไปสนใจCapital Gain มาก
ไม่งั้นจะกลุ้มใจไปเปล่าๆนะ...... จริงมั๊ยครับ
ส่วนหุ้นช้อนทองคำ
ผมไม่ค่อยได้ช้อนเท่าไหร่หรอกครับ
เพราะช้อนเล็ก
กลัวมันหักเอา
คงต้องอาศัย"ทัพพี"แบบพี่ปรัชญา
ถึงจะได้สมน้ำสมเนื้อหน่อย
แต่ก็พยายามทำใจดีาูสู้เสือในบางครั้ง
ที่แน่ๆตอนนี้หุ้นช่องสามกำลังร่วง
เพราะไตรภพย้ายวิก ใครจะกล้าช้อนบ้าง ยกมือขึ้น
ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี มันตื้นตันนะครับ
เพราะอย่างน้อยมีเวปนี้ขึ้นมา
ก็ทำให้ผมได้คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง
หลังจากที่โดนชาวบ้านหาว่า"บ้า"มานาน
ส่วนใหญ่จะหาว่าผมบ้าเพราะซื้อหุ้นแล้วไม่ยอมขาย
ประสาทหรือเปล่า ใครๆเขาก็ขายหุ้นเอากำไรไปใช้จ่ายทั้งนั้นหละ
จนถึงวันนี้ได้พิสูจน์แล้วครับ
ว่าผมไม่ได้บ้า
หรือถ้าผมบ้า ก็มีคนบ้าเหมือนผมอีกหลายคนในเวปนี้ ฮ่า ฮ่า
เพราะหุ้นที่ผมถืออยู่ มันขึ้นเอาๆแบบกู่ไม่กลับ
และมีพื้นฐานรองรับแบบไม่ต้องกลัวดอยสุเทพ
ไม่เคย"ขาดทุนกำไร"เลยครับ มีแต่"กำไร"ลูกเดียว
เพื่อนผมเจอกันเมื่อวันก่อน
เขาบอกว่า ผม"โชคดี"
ซื้อหุ้นแล้วหุ้นขึ้นพอดี
คราวที่แล้ว มันบอกผมว่าผมบ้า
เออ..อย่างน้อยเวลาก็พิสูจน์แล้วว่า
ความคิดเราไม่ผิด
เขาไม่รู้หรอกว่า ผมต้องอดทนแค่ไหนที่จะรอให้หุ้นที่ถืออยู่แสดงศักยภาพออกมา
ไม่ใช่ซื้อวันนี้แล้วพรุ่งนี้จะขึ้นมา 100% ได้ทันทีนะครับ จริงมั๊ย
เวลาที่หุ้นขึ้นไปสูงๆแล้วปรับฐานลงมาแรงๆ
ถ้าใจไม่นิ่งจริง ผมว่าปล่อยของแน่นอนเพราะกลัว"ขาดทุนกำไร"
การถือหุ้นซุปเปอร์ยาวๆก็เป็นการทดสอบจิตใจที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง
จริงไม่จริง น้องๆถามคุณลูกอีสานหรือคุณธันวาดูก็ได้ครับ อิ อิ
สวัสดีครับ
เมื่อกี้ตอนแรกผมหากระทู้นี้ไม่เจอ
เลื่อนลงไปข้างล่างตั้งนาน ก็ยังหาไม่เจอ
บอกกับตัวเองว่า หายไปไหน(ว่ะ)
เลยกลับมาที่ตั้งต้นใหม่
ปรากฎว่า มาโผล่เป็น"เรื่องด่วน"ซะแล้ว
เฮ้อ จะดีหรือเปล่าครับ
ผมว่ากระทู้นี้ไม่ใช่"เรื่องด่วน"นะ
เป็น"เรื่องเรื่อยๆ"มากกว่า
ไม่ได้รีบร้อนอะไร
ใครใคร่โพสก็โพส
ใครใคร่ตอบก็ตอบ
ผมถือว่า กระทู้นี้เป็นที่แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการลงทุนแล้วกันครับ
อยากให้ทุกท่านที่มีความคิดเห็นดีๆโพสเข้ามา
เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กัน
ความรู้นี้เรียนกันไม่หมดครับ
ยิ่งศึกษา ยิ่งเยอะ
น้องๆพี่ๆที่เข้ามาใหม่ๆจะได้เอาไว้เป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาเรื่องการลงทุน
แฮะ แฮะ พอดีผมเห็นคุณมนแวบไปอัดบุหรี่หลังอาหารกลางวันบ่อยๆMon Mney เขียน:คุณวิบูลย์จัดผมเป็นกลุ่มขี้ยาร่วมกับคุณฉัตรชัยหรือครับ ไม่รู้แกชอบสูบบุหรี่หรือเปล่านะ?
ความจริงผมมีเกือบทุกรูปแบบครับ(ในสายตาผมคนเดียวนะครับ)
ในยามก้นบุหรี่มากมาย ก็ไม่ต้องซื้อสูบ
ในยามเจอของดีมีมูลค่าก็เอาเก็บซ่อนเลย
มีปันผลงามเอาไว้เป็นค่าเทอมลูก
สรุปว่ามีครบ แล้วแต่สถานการณ์ครับ มีเวลาผมจะเล่าให้ฟังว่าทำไง
ผมเลยมุมมิบเอาว่า คงชอบก้นบุหรี่
แต่เท่าที่ศึกษาติดตามสไตล์คุณมนมาพอสมควร
ผมยกให้คุณมนเป็นหนึ่งในเซียนขี้ยาครับ
เนื่องด้วยเก็บก้นบุหรี่ทีไร
ได้กำไรทุกที
ผมยังอิจฉาเล็กๆ ที่รู้จักก้นบุหรี่มานาน
แต่ไม่เคยลองสักที
เลยปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปหลายที
ก็เลยบอกกับตัวเองว่า
สถานการณ์อย่างนี้ หุ้นซุปเปอร์หายากยิ่งกว่าทองคำ
จะรอให้ตลาดถล่มอีกรอบคงอีกนาน
คงต้องหัดสูบบุหรี่กับเขาบ้างแล้ว
ไม่งั้นวิชาอาคมจะเสื่อมเอา
แต่ที่แน่ๆ คุณมนอย่าลืมที่สัญญาไว้
ว่ามีเวลาจะเล่าให้ฟังนะครับ
น้องๆ (โดยเฉพาะสาวๆ) กำลังรอฟังกันอยู่ อิ อิ
พี่Chatchai ครับChatchai เขียน:เคยสูบสมัยเรียนวิศวะนะครับ พอแต่งงานแล้วแฟนให้เลิก ก็เลยเลิกครับ เลิกมา 7-8 ปีแล้วมั๊งครับ
ขอบใจน้อง VIB007 นะที่ยกให้พี่เป็นเซียนก้นบหรี่
บังเอิญพี่ถนัดดงบเป็นหลักนะครับ แถมมีลกแล้วถึง 2 คน ชีวิตเลยต้องการความมั่นคงมากกว่าความร่ำรวยนะครับ รวยช้าไม่ว่าแต่เงินต้นอย่าหายเป็นสำคัญ เหมือนหลักการลงทน 2 ข้อ ของอาจารย์ Buffett นะครับ
ช่วงนี้พอดีซื้อหนังสือจาก www.amazon.com มาเล่มหนึ่ง ชื่อหนังสือ Investment Valuation ของ Damodaran นะครับ
มีใครเคยอ่านบ้างไหมครับ ผมเพิ่งอ่านผ่านๆ ผมว่าเนื้อหาการหามลค่ากิจการก็ครบถ้วนดีนะครับ เพื่อนๆลองดครับ
จากสามแสนเป็นยี่สิบล้านในห้าปีนี่
เขาไม่เรียก"ช้า"นะครับ
เขาเรียกว่า"ฝีมือ"ครับ
ขอกระซิบนิดนึงแล้วกันว่า
น้องๆคนไหนอยากมี"ฝีมือ"ระดับพี่Chatchai
ก็ศึกษาและไถ่ถามความรู้จากพี่เขาได้เลยนะครับ
พี่เขาใจดี ไม่เคยหวงวิชาครับ
ส่วนหนังสือเล่มที่ว่าข้างบน
ผมไม่เคยอ่านครับ
เคยอ่านอีกเล่มชื่อเรื่อง "Company Analysis and Stock Valuation" ของ Kahill, Prentice-Hall Publishing
ก็ดีใช้ได้เลยครับ
ซื้อที่ Aisia Book นี่เอง
เป็นสไตล์ลงทุนแบบ Foundamental เหมือน VI
ว่างๆเชิญพี่Chatchai แวะเวียนเข้ามาในกระทู้นี้บ่อยๆนะครับ
ตอบคำถามพี่ๆน้องๆเป็นวิทยาทาน
ช่วงหลังรู้สึกพี่จะหายไปนาน
ไม่ทราบว่า ย้ายบ้านเรียบร้อยหรือยังครับ
ก็ฝาก"ยินดี"ผ่านกระทู้นี้มาแล้วกันนะครับ
ของผมบ้านที่อยู่ปัจจุบันก็อยู่มาสามปีแล้ว
ตอนสร้างบ้านเหนื่อยมากเลยครับ
สร้างเสร็จหายเหนื่อย แต่หนี้บานตะไท เพราะกู้แบงค์มา
นี่เป็นเพราะอาศัยหลักการเก็บเงินเอามาลงทุนตามแนว VI หละครับ
ช่วยให้ผมมีเงินล้างหนี้บ้านได้หมด
เพราะเป็นการลงทุนแบบเสี่ยงน้อย
เงินที่ลงทุนก็ค่อยๆงอกเงยขึ้นมา
แต่ถ้าจะไปหวังได้กำไรในเวลาอันสั้น
ก็อาจจะขาดทุนได้ในเวลาอันสั้นเช่นเดียวกัน
ทุกวันนี้กินอิ่มนอนหลับ ผมก็พอใจแล้วครับ
เรียกว่า รวยช้าแต่รวยนานครับ
ไม่ว่ากันนะครับที่เอาเรื่องส่วนตัวมาโฆษณา แฮะ แฮะ
ผมเดาไม่ผิดว่าCK เขียน:ส่วนผมก็คล้ายๆคุณ chatchai ครับ ตอนยังไม่ได้แต่งงาน ยัง
ไม่มีลูกก็ลุยแหลกครับ ช้อนทองเก๊เกือบหักมาสองรอบ
(ดีที่แค่เกือบ)
ตอนนี้มีการเก็บ ห่านทองคำ ไว้มากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ยิ่งมีข่าว
เชิงลบออกมามากๆเข้า เมื่อวานก็เลยตัดสินใจขายช้อนมา
ซื้อห่านเพิ่ม
แต่นิสัยเก่าตายยากครับ ตอนนี้ถือช้อนงอๆ เตรียมจ้วงอีกแล้ว
เดี๋ยวรอพี่เจ๋งกลับ (เย็นนี้) พรุ่งนี้หุ้นจะต้องตกระเบิดเถิด
เทิงแน่ๆ ท่านดัชนีไทยทำนาย "เจ๋งอินเด็กซ์" เอาไว้ครับ
พี่CKนี่ต้องเป็นชาวสวนมาก่อนแน่ๆ
ผมเดาถูกจริงๆ
นี่ถ้าพี่เจ๋งกลับมาอ่านเจอกระทู้นี้
ก็จะกลายเป็น คู่สวน (ล้อเล่นนะครับ)
ไอ้เจ้าห่านตัวที่ผมมี
ออกแต่ไข่อย่างเดียวครับ
ไม่ค่อยโต (แต่ก็ไม่ตาย)
เรียกว่า ไม่ตายแต่ก็ไม่โต
ทุกวันนี้อยู่ในพอร์ตของผมได้เพราะเป็นเจ้าตลาด
เวลาไปซุปเปอร์มาร์เก็ตทีไร เห็นเสินค้าเจ้าห่านผมขายดี
ผมก็ดีใจภูมิใจทุกที เลยขายไม่ลง
ก็ปลอบใจตัวเองว่า เหมือนซื้อพันธบัตรแล้วถือไว้แล้วกัน
อย่างน้อยก็มี Capital Gain เป็นของแถม
เวลาตลาดลงมากๆ เจ้าห่านผมก็ไม่สะเทือน
ดูไปดูมา ดีกว่าซื้อพันธบัตรอีกครับ
ดังนั้น ผมก็เลยไม่ไปคาดคั้นให้เจ้าห่านผมต้องโตเอาโตเอาเหมือนชาวบ้าน
ก็เลยคิดได้ว่า ถ้าเรารู้ว่าเราซื้อหุ้นนี้มาเพื่ออะไร
ถ้าเพื่อปันผลก็ไม่ต้องไปสนใจCapital Gain มาก
ไม่งั้นจะกลุ้มใจไปเปล่าๆนะ...... จริงมั๊ยครับ
ส่วนหุ้นช้อนทองคำ
ผมไม่ค่อยได้ช้อนเท่าไหร่หรอกครับ
เพราะช้อนเล็ก
กลัวมันหักเอา
คงต้องอาศัย"ทัพพี"แบบพี่ปรัชญา
ถึงจะได้สมน้ำสมเนื้อหน่อย
แต่ก็พยายามทำใจดีาูสู้เสือในบางครั้ง
ที่แน่ๆตอนนี้หุ้นช่องสามกำลังร่วง
เพราะไตรภพย้ายวิก ใครจะกล้าช้อนบ้าง ยกมือขึ้น
ขอบคุณคุณลูกอีสานสำหรับคำอวยพรครับลูกอีสาน เขียน:ก่อนอื่น ขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับ พรใดออกจากปากใคร ก็ขอให้กลับไปที่คนให้ด้วยครับ...
พูดถึงเรื่องแนวทางการลงทุน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างครับ เช่นความถนัด ทัศนคติ เวลา หรือแม้กระทั่งอายุ คงไม่มีถูกผิด หรือเด่นด้อยกว่ากัน ครับ...
ที่น่าดีใจคือ เราเริ่มจะสามารถแบ่ง VI ออกได้เป็นกลุ่มย่อยๆ ก็แสดงว่า การลงทุนแบบเน้นคุณค่าได้หยั่งรากลึก ในหมู่นักลงทุนในประเทศนี้พอสมควรแล้ว ตอนนี้ก็เลยแตกกิ่งก้านสาขาออกไป แนวทางต่างๆ ตามแต่ความถนัดแต่ละท่าน...
ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับท่าน ดร.นิเวศน์ และส่วนหนึ่งก็ต้องเป็นเวป TVI แห่งนี้ ครับ ที่สร้างนักลงทุนเ้น้นคุณค่า ได้หลายๆ ท่าน...
ส่วนตัวก็ลงทุนไปตามที่คิดครับ ไม่ได้เน้นด้านใดด้านหนึ่ง แต่พอคุณวิบูลย์ ให้ความเห็น ก็เริ่มฉุกคิดเหมือนกันครับ ว่าตัวเองชอบหุ้น Growth แต่อีกด้านนึง ก็ชอบหุ้นห่านทองคำ ครับ ตอนนี้ก็กำลังเก็บอยู่ตัวนึง...
ผมชอบปันผล เพราะมันเหมือน margin of sefety ครับ และหากมีปันผลดี และมี Growth ด้วยเนี่ย จะดีมากเลยครับ...
ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี มันตื้นตันนะครับ
เพราะอย่างน้อยมีเวปนี้ขึ้นมา
ก็ทำให้ผมได้คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง
หลังจากที่โดนชาวบ้านหาว่า"บ้า"มานาน
ส่วนใหญ่จะหาว่าผมบ้าเพราะซื้อหุ้นแล้วไม่ยอมขาย
ประสาทหรือเปล่า ใครๆเขาก็ขายหุ้นเอากำไรไปใช้จ่ายทั้งนั้นหละ
จนถึงวันนี้ได้พิสูจน์แล้วครับ
ว่าผมไม่ได้บ้า
หรือถ้าผมบ้า ก็มีคนบ้าเหมือนผมอีกหลายคนในเวปนี้ ฮ่า ฮ่า
เพราะหุ้นที่ผมถืออยู่ มันขึ้นเอาๆแบบกู่ไม่กลับ
และมีพื้นฐานรองรับแบบไม่ต้องกลัวดอยสุเทพ
ไม่เคย"ขาดทุนกำไร"เลยครับ มีแต่"กำไร"ลูกเดียว
เพื่อนผมเจอกันเมื่อวันก่อน
เขาบอกว่า ผม"โชคดี"
ซื้อหุ้นแล้วหุ้นขึ้นพอดี
คราวที่แล้ว มันบอกผมว่าผมบ้า
เออ..อย่างน้อยเวลาก็พิสูจน์แล้วว่า
ความคิดเราไม่ผิด
เขาไม่รู้หรอกว่า ผมต้องอดทนแค่ไหนที่จะรอให้หุ้นที่ถืออยู่แสดงศักยภาพออกมา
ไม่ใช่ซื้อวันนี้แล้วพรุ่งนี้จะขึ้นมา 100% ได้ทันทีนะครับ จริงมั๊ย
เวลาที่หุ้นขึ้นไปสูงๆแล้วปรับฐานลงมาแรงๆ
ถ้าใจไม่นิ่งจริง ผมว่าปล่อยของแน่นอนเพราะกลัว"ขาดทุนกำไร"
การถือหุ้นซุปเปอร์ยาวๆก็เป็นการทดสอบจิตใจที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง
จริงไม่จริง น้องๆถามคุณลูกอีสานหรือคุณธันวาดูก็ได้ครับ อิ อิ
สวัสดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 67
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 604
ผมว่า พวกพี่ๆหลายคน นี่เขียนกันเก่งๆ ทั้งนั้นเลยครับ คือ ได้ความรู้ แต่ไม่เครียดมาก สงสัยว่า ไปหน้าดำคร่ำเครียดตอนวิเคราะห์เอง แต่พอมาอยู่หน้าเวป ซึ่งเป็นที่รวมของคนที่มีความคิดคล้ายๆกัน เหมือนคนคอเดียวกัน ก็เลย happy โพสแบบมีความสุข แม้ว่าราคาหุ้น ยังหัวเราะได้เลย
ผมว่า พี่วิบูลย์ออก pocket book ได้เลยนะเนี่ย ลองรวบรวมดูนะครับ
ผมว่า พี่วิบูลย์ออก pocket book ได้เลยนะเนี่ย ลองรวบรวมดูนะครับ
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 605
ผมเองไม่เคยได้ตอบกระทู้นี้มากนัก แต่ก้อติดตามอ่านมาโดยตลอด เป็นกระทู้ยอดฮิต และมีคุณค่ามากสำหรับ web นี้เลยครับ (มีคนอ่านตั้งเป็นหมื่น และคงถึง 2 หมื่นเร็วๆ นี้ แหมถ้าทำหนังสือขายแล้วขายได้สัก 2 หมื่นเล่ม ว้าว)
นิยมในหลักการของคุณวิบูลย์ครับ อ่านแล้วก้อมีกำลังใจยึดมั่นในหลักการเดิมที่ลงทุนตามพื้นฐานต่อไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้แหม มันยั่วยวนให้มาเล่นเกร็งกำไรมากเลยทีเดียว แหะ แหะ
ผมยังมือใหม่ แต่ก้อติดตามตลอด อิ อิ ลอกคุณ harry มาครับ
นิยมในหลักการของคุณวิบูลย์ครับ อ่านแล้วก้อมีกำลังใจยึดมั่นในหลักการเดิมที่ลงทุนตามพื้นฐานต่อไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้แหม มันยั่วยวนให้มาเล่นเกร็งกำไรมากเลยทีเดียว แหะ แหะ
ผมยังมือใหม่ แต่ก้อติดตามตลอด อิ อิ ลอกคุณ harry มาครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 606
ผมว่าคุณวิบูลย์มองผมในแง่ดีเกินไปครับ
ความจริงผมก็มีหุ้นผสมๆ กันไปครับ
ที่ผมต้องถือหุ้นที่ไม่หวือหวามากนัก
อาจจะเป็นเพราะสถานะการณ์บังคับ
ผมไม่ค่อยมีเวลาติดตามความเคลื่อนไหวของราคาระหว่างวัน
ผมเคยขาดทุนกับการลงทุนในกิจการที่ผมไม่รู้ ไม่เข้าใจมากก่อน
ขาดทุนเยอะครับ กัดฟันล้างพอร์ตมาสองครั้ง มีประสบการณ์ที่ไม่ดี
คราวนี้ เลยเปลี่ยนวิธี เป็นเต่า ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน
ต้องใจจะลงทุนตลอดไป บอกตรงว่า มันมีเสน่ห์ น่าติดตามครับ
พูดถึงเรื่องการลงทุน
อยากจะขอนำเรื่องที่เพื่อนลงทุนด้วยกันเล่าให้ฟัง
เขาบอกว่า...
เขานั่งขับรถไปตามท้องถนน รถรามากมาย
บางคนก็ขับอยู่เลนเดียวไปเรื่อย ๆ ตามถนน
ส่วนบางคัน ก็ขับเร็วกว่า บ้างก็เบียดซ้าย แซงขวา
หลายๆ ครั้งเขาเห็นว่า
รถคันกล่าว ก็ไม่ได้ไปเร็วกว่า เขาเท่าไหร่นัก
หรืออย่างเก่งก็ 4-5 นาที ถ้าเราไม่ขับช้ามากนัก
ใครจะไปรู้ บางครั้งขับเร็วมาก อาจประสบอุบัติเหตุ
ถึงช้าเข้าไปอีก...
การลงทุนอาจจะมีส่วนคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง
ยอมขับที่ความเร็วพอดี ไม่เบียดซ้าย แซงขวา
ขับไป ชมวิวข้างไป สบายใจ (นอนหลับฝันดี)
ในที่สุด ก็ถึงจุดหมายเหมือนกัน
บางครั้ง รวยเร็วเกินไปก็ลำบากเหมือนกัน
เพราะเงินส่วนเกินที่รวยเร็วขึ้นมา ก็ไม่รู้จะไปใช้อะไร
เพื่อนๆ อ่านดูอาจจะไม่เห็นด้วยก็ไม่ว่าอะไรครับ
การลงทุนของผมไม่ได้ดีเหมือนกับที่คุณวิบูลย์มองมากนัก
เพียงแต่เลือก ให้มั่นใจ มี margin of safety เยอะอย่างที่คุณอิสานว่า
ในเมื่อเราเข้าใจดี ความเสียงก็น้อย (อย่างที่คุณ วิบูลย์ว่า)
คราวนี้ เราก็กล้าที่จะลงทุนทีละมาก (ความจริงพอร์ตผมไม่ใหญ่ เดี๋ยวเข้าใจกันผิด)
การลงทุนแบบนี้ จิตใจต้องนิ่งพอสมควรเหมือนกัน
บางครั้งผมต้องคุยกับเพื่อนที่ลงทุนคล้ายๆกัน
ให้ช่วยเตือนสติ เนื่องจากราคาสูงขึ้นมามาก
ตอนนี้ผมมี IRC และ TCB ในราคาที่ไม่สูงมาก
กะว่า STANLY จะเป็นเช่นกันในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ยอมรับครับ ว่าตื่นสาย มองแล้วมองอีก
แต่ก็เป็นเสี่ยง้าง ก็เลยต้องมีราคาสูงอย่างนี้
ส่วน PTTEP ก็เริ่มสะสมไม่นานมานี้
กะว่าจะเป็นหุ้นเกรด A ที่ต้องการถือยาวววววว ตัวหนึ่งเหมือนกันครับ
หุ้นห่านทองคำผมก็มีนะครับ กะว่าห่าน MBK น่าจะไข่ให้ผมได้ดีที่สุด
หุ้นก้นบุหรี่ผมก็มีครับ แต่ก้นบุหรีผมยาวหน่อยสักหนึ่งปี ก็ซื้อ NPC ไว้ครับ
ปัญหาที่มีอยู่ก็คือ มีกิจการที่ดีหลายอย่างที่น่าจะเป็นเจ้าของร่วม
เลยต้องพยายามลดจำนวนตัวลง หวังไว้ว่าซักวันจะถือแค่ 5-6 ตัวเท่านั้นครับ กำลังจัดพอร์ตอยู่ครับ
วันนี้ ขออนุญาติใช้โควต้าเยอะเลยครับ ไม่ว่ากันนะครับ
ความจริงผมก็มีหุ้นผสมๆ กันไปครับ
ที่ผมต้องถือหุ้นที่ไม่หวือหวามากนัก
อาจจะเป็นเพราะสถานะการณ์บังคับ
ผมไม่ค่อยมีเวลาติดตามความเคลื่อนไหวของราคาระหว่างวัน
ผมเคยขาดทุนกับการลงทุนในกิจการที่ผมไม่รู้ ไม่เข้าใจมากก่อน
ขาดทุนเยอะครับ กัดฟันล้างพอร์ตมาสองครั้ง มีประสบการณ์ที่ไม่ดี
คราวนี้ เลยเปลี่ยนวิธี เป็นเต่า ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน
ต้องใจจะลงทุนตลอดไป บอกตรงว่า มันมีเสน่ห์ น่าติดตามครับ
พูดถึงเรื่องการลงทุน
อยากจะขอนำเรื่องที่เพื่อนลงทุนด้วยกันเล่าให้ฟัง
เขาบอกว่า...
เขานั่งขับรถไปตามท้องถนน รถรามากมาย
บางคนก็ขับอยู่เลนเดียวไปเรื่อย ๆ ตามถนน
ส่วนบางคัน ก็ขับเร็วกว่า บ้างก็เบียดซ้าย แซงขวา
หลายๆ ครั้งเขาเห็นว่า
รถคันกล่าว ก็ไม่ได้ไปเร็วกว่า เขาเท่าไหร่นัก
หรืออย่างเก่งก็ 4-5 นาที ถ้าเราไม่ขับช้ามากนัก
ใครจะไปรู้ บางครั้งขับเร็วมาก อาจประสบอุบัติเหตุ
ถึงช้าเข้าไปอีก...
การลงทุนอาจจะมีส่วนคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง
ยอมขับที่ความเร็วพอดี ไม่เบียดซ้าย แซงขวา
ขับไป ชมวิวข้างไป สบายใจ (นอนหลับฝันดี)
ในที่สุด ก็ถึงจุดหมายเหมือนกัน
บางครั้ง รวยเร็วเกินไปก็ลำบากเหมือนกัน
เพราะเงินส่วนเกินที่รวยเร็วขึ้นมา ก็ไม่รู้จะไปใช้อะไร
เพื่อนๆ อ่านดูอาจจะไม่เห็นด้วยก็ไม่ว่าอะไรครับ
การลงทุนของผมไม่ได้ดีเหมือนกับที่คุณวิบูลย์มองมากนัก
เพียงแต่เลือก ให้มั่นใจ มี margin of safety เยอะอย่างที่คุณอิสานว่า
ในเมื่อเราเข้าใจดี ความเสียงก็น้อย (อย่างที่คุณ วิบูลย์ว่า)
คราวนี้ เราก็กล้าที่จะลงทุนทีละมาก (ความจริงพอร์ตผมไม่ใหญ่ เดี๋ยวเข้าใจกันผิด)
การลงทุนแบบนี้ จิตใจต้องนิ่งพอสมควรเหมือนกัน
บางครั้งผมต้องคุยกับเพื่อนที่ลงทุนคล้ายๆกัน
ให้ช่วยเตือนสติ เนื่องจากราคาสูงขึ้นมามาก
ตอนนี้ผมมี IRC และ TCB ในราคาที่ไม่สูงมาก
กะว่า STANLY จะเป็นเช่นกันในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ยอมรับครับ ว่าตื่นสาย มองแล้วมองอีก
แต่ก็เป็นเสี่ยง้าง ก็เลยต้องมีราคาสูงอย่างนี้
ส่วน PTTEP ก็เริ่มสะสมไม่นานมานี้
กะว่าจะเป็นหุ้นเกรด A ที่ต้องการถือยาวววววว ตัวหนึ่งเหมือนกันครับ
หุ้นห่านทองคำผมก็มีนะครับ กะว่าห่าน MBK น่าจะไข่ให้ผมได้ดีที่สุด
หุ้นก้นบุหรี่ผมก็มีครับ แต่ก้นบุหรีผมยาวหน่อยสักหนึ่งปี ก็ซื้อ NPC ไว้ครับ
ปัญหาที่มีอยู่ก็คือ มีกิจการที่ดีหลายอย่างที่น่าจะเป็นเจ้าของร่วม
เลยต้องพยายามลดจำนวนตัวลง หวังไว้ว่าซักวันจะถือแค่ 5-6 ตัวเท่านั้นครับ กำลังจัดพอร์ตอยู่ครับ
วันนี้ ขออนุญาติใช้โควต้าเยอะเลยครับ ไม่ว่ากันนะครับ
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 607
เนื่องจากกระทู้นี้มีคนเข้ามาอ่านกันมาก จึงจะขอถามหน่อยว่าหนังสือภาษาอังกฤษที่ซื้อจาก amazon.com นั้นจะให้ช่วยสั่งซื้อเนี่ยได้มั้ยครับ เอ่อ แบบจ่ายเงินก่อนก็ได้ครับ แบบมาเจอกันก่อน ผมจ่ายเงินให้ครึ่งหนึ่งโดยประมาณ พอของมาก็เอามารับเงินส่นที่เหลือ
แล้วพอดีผมเห็นที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯมีบริการสั่งซื้อให้ ก็เลยมาถามว่าจะได้ราคาถูกบ้างมั้ยครับ เพราะลองดูหนังสือบางเล่มราคาเป็นดอลล่าร์ที่คำนวนเป็นเงินบาทแล้วกับราคาที่ติดไว้เป็นเงินบาท มันห่างกันมากเลย
ผมอยู่กทม.ครับ อยุ่ใจกลางเมืองเลย ถ้าใครที่จะให้ผมรบกวนได้ ก็ขออยู่ใกล้ๆแล้วกันครับ อ้อ! ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอกครับ ที่อยากได้เพราะว่าเป็นหนังสือเล่มๆ จะได้เก็บไว้อ่านดีๆครับ เอ่อ แล้วที่ asia book ล่ะครับ มีบริการสั่งหรือว่ามีหนังสือพวกนี้ในร้านที่ราคาถูกกว่าหรือเปล่าครับ
แล้วพอดีผมเห็นที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯมีบริการสั่งซื้อให้ ก็เลยมาถามว่าจะได้ราคาถูกบ้างมั้ยครับ เพราะลองดูหนังสือบางเล่มราคาเป็นดอลล่าร์ที่คำนวนเป็นเงินบาทแล้วกับราคาที่ติดไว้เป็นเงินบาท มันห่างกันมากเลย
ผมอยู่กทม.ครับ อยุ่ใจกลางเมืองเลย ถ้าใครที่จะให้ผมรบกวนได้ ก็ขออยู่ใกล้ๆแล้วกันครับ อ้อ! ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอกครับ ที่อยากได้เพราะว่าเป็นหนังสือเล่มๆ จะได้เก็บไว้อ่านดีๆครับ เอ่อ แล้วที่ asia book ล่ะครับ มีบริการสั่งหรือว่ามีหนังสือพวกนี้ในร้านที่ราคาถูกกว่าหรือเปล่าครับ
Expecto Patronum!!!!!!
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 608
ถูกกว่าหรือเปล่าไม่ทราบครับ แต่ผมเคยถามที่ AsiaBook คนขายharry เขียน: เอ่อ แล้วที่ asia book ล่ะครับ มีบริการสั่งหรือว่ามีหนังสือพวกนี้ในร้านที่ราคาถูกกว่าหรือเปล่าครับ
บอกว่าถ้าหนังสือที่ไม่มีวางขายในร้าน เขายินดีสั่งให้ครับ ใช้เวลา
ประมาณเดือนสองเดือน (เห็นบอกว่าสั่งจากสิงค์โปร์)
- moo
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 609
อ่านกระทู้นี้แล้ว มีความสุขมากครับ ทุกครั้งต้องเข้ามาอ่าน นับไปนับมาก็ร่วมกว่า 3 เดือนแล้ว ได้รับความรู้ทางหลักวิชาการ ความรู้รอบตัวและมุมมองที่ดีๆ ตามเก็บเกี่ยวประสพการณ์ทางกระทู้นี้มาตลอด แต่ยังไม่เคยรบกวนสอบถามอะไรเลย วันนี้ขอเรียนถามพี่วิบูลย์และท่านอื่นๆด้วยนะครับ คำถามเกี่ยวกับค่า PE และค่าP/BV ครับ
คือว่า โดยปกติแล้วหุ้นที่น่าสนใจควรมีค่าทั้ง 2 ตัวนี้ต่ำ และหลายๆตัวที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนั้น แต่ผมยังไม่เข้าใจว่ามีหุ้นอีกหลายๆตัวที่มีค่า PE ค่อนข้างต่ำมากๆ แต่กลับมีค่า P/BV สูง เช่น PTT ณ วันที่ 18/12/2546 ที่ผ่านมา ค่า PE 9.99 (พอลงทุนได้) แต่มาดูค่า P/BV กลับมาค่าที่ 3.49 ซึ่งน่าจะถือว่าสูง(หรือไม่) ทำให้ที่ผ่านมาไม่กล้าซื้อลงทุน เพราะว่ารู้สึกว่าราคาค่อนข้างสูง ( ส่วนปันผลพอรับได้)
อยากทราบว่าเราควรอ่านค่าลักษณะนี้อย่างไรครับ ค่าเหล่านี้เป็นองค์ประกอบแรกๆที่ต้องพิจารณาหรือให้ดูค่าอื่น แนวโน้มอื่นก่อนครับ
ขอบคุณครับ
คือว่า โดยปกติแล้วหุ้นที่น่าสนใจควรมีค่าทั้ง 2 ตัวนี้ต่ำ และหลายๆตัวที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนั้น แต่ผมยังไม่เข้าใจว่ามีหุ้นอีกหลายๆตัวที่มีค่า PE ค่อนข้างต่ำมากๆ แต่กลับมีค่า P/BV สูง เช่น PTT ณ วันที่ 18/12/2546 ที่ผ่านมา ค่า PE 9.99 (พอลงทุนได้) แต่มาดูค่า P/BV กลับมาค่าที่ 3.49 ซึ่งน่าจะถือว่าสูง(หรือไม่) ทำให้ที่ผ่านมาไม่กล้าซื้อลงทุน เพราะว่ารู้สึกว่าราคาค่อนข้างสูง ( ส่วนปันผลพอรับได้)
อยากทราบว่าเราควรอ่านค่าลักษณะนี้อย่างไรครับ ค่าเหล่านี้เป็นองค์ประกอบแรกๆที่ต้องพิจารณาหรือให้ดูค่าอื่น แนวโน้มอื่นก่อนครับ
ขอบคุณครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 610
เห็นพี่วิบูลย์ยังไม่เข้ามาตอบ ผมขอตอบเท่าที่ทราบไปก่อนนะครับ
บริษัทที่มีธุรกิจเดียวกัน ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ศักยภาพและระดับ
ความเสี่ยงเท่าๆกันครับ
แม้แต่การใช้ในการเปรียบเทียบบริษัทเดียวกันแต่คนละปี ความถูก
หรือความแพงก็จะแตกต่างกันได้ครับ เพราะสภาพธุรกิจที่เปลี่ยน
แปลงไป และความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง BV ครับ บริษัทประเภท trading company คือ
ซื้อมาขายไป จะมี BV ที่ต่ำกว่า earning มากๆ ทำให้ P/BV ดูสูง
ครับ
สำหรับผมแล้ว PTT เป็นเทรดดิ้งคอมปะนีครับ และเป็น holding
ด้วย ไม่ใช่พลังงานแท้ๆ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องสนใจ P/BV มากนัก
ก็ได้
ประโยชน์สูงสุดของ P/BV สำหรับผมคือการควบกิจการ การ
take over และการ delist ครับ
ด้านอื่นๆกรุณารอผู้เชี่ยวชาญตัวจริงครับ
การเปรียบเทียบตัวเลขเหล่านี้จะใช้ได้ผลดีในการเทียบระหว่างสองmoo เขียน:คือว่า โดยปกติแล้วหุ้นที่น่าสนใจควรมีค่าทั้ง 2 ตัวนี้ต่ำ และหลายๆตัวที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนั้น แต่ผมยังไม่เข้าใจว่ามีหุ้นอีกหลายๆตัวที่มีค่า PE ค่อนข้างต่ำมากๆ แต่กลับมีค่า P/BV สูง เช่น PTT ณ วันที่ 18/12/2546 ที่ผ่านมา ค่า PE 9.99 (พอลงทุนได้) แต่มาดูค่า P/BV กลับมาค่าที่ 3.49 ซึ่งน่าจะถือว่าสูง(หรือไม่) ทำให้ที่ผ่านมาไม่กล้าซื้อลงทุน เพราะว่ารู้สึกว่าราคาค่อนข้างสูง ( ส่วนปันผลพอรับได้)
อยากทราบว่าเราควรอ่านค่าลักษณะนี้อย่างไรครับ ค่าเหล่านี้เป็นองค์ประกอบแรกๆที่ต้องพิจารณาหรือให้ดูค่าอื่น แนวโน้มอื่นก่อนครับ
บริษัทที่มีธุรกิจเดียวกัน ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ศักยภาพและระดับ
ความเสี่ยงเท่าๆกันครับ
แม้แต่การใช้ในการเปรียบเทียบบริษัทเดียวกันแต่คนละปี ความถูก
หรือความแพงก็จะแตกต่างกันได้ครับ เพราะสภาพธุรกิจที่เปลี่ยน
แปลงไป และความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง BV ครับ บริษัทประเภท trading company คือ
ซื้อมาขายไป จะมี BV ที่ต่ำกว่า earning มากๆ ทำให้ P/BV ดูสูง
ครับ
สำหรับผมแล้ว PTT เป็นเทรดดิ้งคอมปะนีครับ และเป็น holding
ด้วย ไม่ใช่พลังงานแท้ๆ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องสนใจ P/BV มากนัก
ก็ได้
ประโยชน์สูงสุดของ P/BV สำหรับผมคือการควบกิจการ การ
take over และการ delist ครับ
ด้านอื่นๆกรุณารอผู้เชี่ยวชาญตัวจริงครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 611
พอดีเข้ามาดูทีหัวข้อ"เรื่องด่วน"
ปรากฎว่า หากระทู้นี้ไม่เจอ
พอคุ้ยๆดูลงไป
ไปเจอที่ด้านล่างของเวปบอร์ด
ก็งงๆเหมือนกัน
ตกลงจะเอาไว้ไหนดีเนี่ย
เดี๋ยวจะเสนอเจ้าของเวปให้ไว้ที่เรื่องด่วนเหมือนเดิมแล้วกัน
ถ้าไม่ถือว่าเป็นการโฆษณาชื่อตัวเองนะครับ
ใครไปใครมาจะได้ดูได้โพสเข้ามาได้ง่ายๆ
บางทีผมไม่ได้เข้ามาตอบหลายวัน
กลัวกระทู้หลุดไป หากันไม่เจอ
อันนี้ก็แล้วแต่เวปมาสเตอร์จะกรุณาแล้วกันครับ
ผมลองติดตามเล่นๆพบว่า
กระทู้นี้เริ่มเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2546 โดยคุณธันวา
ผ่านการอ่าน 10,000 ครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2546
ใช้เวลาทั้งสิ้น 48 วัน
เฉลี่ยอ่านวันละ 209 ครั้ง
หลังจากนั้นอีก 63 วัน
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2546
กระทู้นี้มีการอ่าน 20,000 ครั้ง
รอบนี้มีการอ่านเฉลี่ย 159 ครั้งต่อวัน
ช่วงแรกมีการอ่านต่อวันมากกว่าช่วงสองถึง 31%
อาจเป็นไปได้ว่า มีการถามตอบกันมากกว่า
หลังๆผมก็เข้ามากระทู้นี้น้อยกว่าเดิม
เพราะเวลาน้อยลง
แต่ก็ขอบคุณแฟนๆทุกท่านที่ยังให้การสนับสนุนครับ
การอ่านเป็นหมื่นๆครั้งในกระทู้เดียว
ผมไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียวได้
ทุกอย่างมาจากการที่หลายๆท่านในที่นี้
ช่วยกันทำให้เกิดขึ้นมาได้ครับ
ผมขอยกเครดิตทั้งหมดกับทุกท่านที่โพสเข้ามา
รวมทั้งทุกท่านที่ตอบคำถามของสมาชิกอย่างไม่เหน็ดเนื่อย
ส่วนที่คุณayethebing อยากจะไปเก็งกำไร
ผมขอบอกก่อนแล้วกันนะครับ
ว่ามุมมองของผมนั้น
ผมมองว่า"การเก็งกำไร" ไม่ใช่ความผิดอะไรนะครับ
เพียงแต่ถ้าอยากจะเป็นนักเก็งกำไรก็ต้องมีหลักการเก็งกำไรครับ
ผมอยากจะบอกนักลงทุนมือใหม่ทั้งหลายว่า
อย่าเข้าตลาดหุ้นเพีียงแค่เพราะีมีเงินและอยากได้กำไรมากๆ
คุณต้องมีอีกสามสี่อย่างครับ
นั่นคือต้องมี หลักการ ความรู้ ข้อมูล และประสบการณ์
ไม่งั้นผมว่าโอกาสรอดจากกับดักของแมงมุมยาก
ส่วนผมยังคงตั้งหน้าตั้งตาลงทุนตามพื้นฐานต่อไป
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ฝนจะตก แดดจะออก โลกจะแตก
เพราะผมคิดว่าวิธีการนี้เหมาะกับผมที่สุด (อาจจะไม่เหมาะกับบางคนนะ)
และเป็นวิธีที่ทำให้เราอยู่ในตลาดได้นานที่สุด
ถ้าหุ้นพื้นฐานไม่ดี ราคาขึ้นสูงๆ สุดท้ายใครๆเขาก็รู้หละครับว่าหุ้นตัวนั้นของจริงหรือของปลอม
ถ้าซื้อหุ้นพื้นฐานดี ราคาวันนี้ไม่ขึ้น สักวันใครๆเขาก็รู้เองหละครับว่าหุ้นตัวนี้"เจ๋ง"แค่ไหน
อย่าลืมว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ครับในตลาดหุ้น
พรุ่งนี้หุ้นอาจจะตกร้อยจุดก็ได้ไม่มีใครรู้
ดังนั้น เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับทุกสถานการณ์ครับ
อย่างที่ Warren Buffet บอกไว้หลังจากเหตุการณ์ 9-11 หละครับที่ว่า
"ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดหรือไม่เกิดขึ้น
ก็ไม่มีผลอะไรกับหลักการหรือวิธีการที่ผมใช้ในการลงทุน
มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงหลักการที่ผมใช้ในการซื้อกิจการอะไรเลย"
ผมก็อยากจะเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้สักเรื่องเหมือนกัน
เรื่องมีอยู่ว่า
มีผู้รู้ท่านนึงบอกไว้ว่า
การลงทุนก็เหมือนกับการเดินทาง
เราต้องมีการวางแผน
เราต้องรู้ว่าเราจะไปที่ไหน
และเราจะต้องรู้ว่าเราจะไปถึงที่นั่นได้อย่างไร
และสิ่งสำคัญคือเราต้องเดินไปตามทางที่เราวางแผนไว้
ไม่ออกนอกลู่นอกทาง
แต่การทำตามแผนการที่เราวางไว้
บางครั้งมันจะน่าเบื่อ ไม่น่าตื่นเต้น
ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ระหว่างการดำเนินตามแผน
คนส่วนใหญ่เลยลืมแผนของตัวเองไป
แล้วหลงไปกับสิ่งที่เข้ามากระตุ้นที่น่าตื่นเต้นให้เราหลุดออกจากแผนที่เราวางไว้
สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกแผนการนั้นไป
แล้วกับไปเริ่มต้นใหม่
เขาเปรียบการวางแผนการลงทุนเหมือนขับรถทางไกล
เช่น เราวางแผนว่าเราจะขับรถไปเชียงใหม่
เราต้องมีแผนที่และรู้เส้นทางที่เราจะไป
แล้วเราก็ออกเดินทาง
แต่ระหว่างทางบางครั้งการขับรถไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่กำหนด
มันอาจจะน่าเบื่อ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
ดังนั้น ระหว่างทางอาจเกิดมีอะไรน่าตื่นเต้นเกิดขึ้น
เช่น อยู่ๆมีกวางฝูงนึงออกมาวิ่งเล่นอยู่ข้างถนน
คนส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า
"โน่นดูโน่นซิ กวางอยู่ข้างทาง เราลงไปดูมันสักหน่อย.
ว่าแล้วเขาก็ขับรถลงไปไล่ตามกวางตัวนั้น
หลุดออกจากเส้นทางที่วางไว้
แล้วเขาก็หาทางกลับไม่เจอ
หรือกว่าจะเจอ เขาต้องเสียเวลาไปหลายเหมือนกัน
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี่ก็เพื่อแสดงไห้เห็นว่า
การที่เรามีแผนแต่ไม่ทำตามแผนที่วางไว้
เพราะบางครั้งการทำตามแผนมันน่าเบื่อ
เลยหาอะไรน่าตื่นเต้นทำแทน
เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถมีอิสรภาพทางการเงินได้เสียที
ผมรู้สึกว่า คนที่พูดเรื่องนี้คือ โรเบิร์ต คิโยซากิ นะครับ ถ้าจำไม่ผิด
ผมคิดว่าเป็นเรื่องจริงทีเดียว
เพราะบางครั้ง ผมก็ยังรู้สึกว่า การทำตามแผนการลงทุนที่เราวางไว้
มันช่างน่าเบื่อเสียนี่กระไร
อยากจะหาอะไรที่มันตื่นเต้นทำดูบ้าง เช่น เก็งกำไร
แต่มาคิดดูอีกที ก็นึกถึงคำพูดของคิโยซากิและท่านอาจารย์ทั้งสามได้
ก็เลยมีสติ กลับเข้ามาตั้งหน้าตั้งตาลงทุนตามพื้นฐานเหมือนเดิม
เงินลงทุนผมก็งอกเงยขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่หวือหวา
ผลตอบแทนอาจจะไม่มากเท่านักเก็งกำไร
แต่ผมก็คิดว่า นี่คือแผนการลงทุนที่ผมวางไว้
เราต้องไปให้ถึงจุดหมายระยะยาวที่ตั้งไว้
มากกว่าที่จะหลุดออกจากเส้นทางเพื่อผลตอบแทนระยะสั้นที่ยั่วยวน
ไม่ได้บ่นนะครับ เพียงแต่อยากเล่าให้ฟังเฉยๆ
อ้อ คุณธันวาไม่ต้องห่วง
ผมถือหุ้นบริษัทที่ว่าเป็นเพื่อนแน่นอนอยู่แล้วครับ
แล้วก็ดีใจมากครับที่เขียนใช้โค้วต้ากันเยอะๆ ผมจะได้ไม่ได้พล่ามอยู่คนเดียว อิ อิ
สั่งที่ Amazon.com นั้นง่ายมากเลยครับ
ผมแนะนำให้สั่งเอง
เพียงแค่มีเครดิตการ์ดใบเดียวก็ใช้ได้แล้วครับ
เลือกๆหนังสือที่เราอยากได้
แล้วก็คลิก Proceed to Checkout ไอคอน
จากนั้นก็ใส่เบอร์เครดิตการ์ด และที่อยู่
จากนั้นเเครื่องจะคำนวณค่าส่งให้
ถ้าโอเคก็ตอบตกลง
หลังจากนั้น สองอาทิตย์ก็ได้ของครับ
แต่ถ้าสั่งที่เอเซียบุ๊คต้องใช้เวลาถึงสองเดือน
ไม่ทันกินแน่นอน
ส่วนราคาของอเมซอน ผมว่าใกล้เคียงกับซื้อเมืองไทนยะครับ
อาจจะแพงกว่านิดหน่อย ก็ไม่เป็นไร สะดวกดี
ผมใช้บริการอเมซอนแล้วชอบมาก
ถ้าหาหนังสือเล่มไหนไม่ได้ในเมืองไทย ผมก็สั่งทางเนตทุกที
เรื่องโกงเครดิตการ์ด ยังไม่เคยเกิดขึ้นครับ ค่อนข้างไว้ใจได้
ถ้าจะซื้อห่านทองคำ ผมมีบทความของคุณเทพใน SETTRADE มาฝากครับ
ผมว่าตอบปัญหาของคุณ CEO ได้ค่อนข้างชัดแจ้งแดงแจ๋ ลองอ่านดูข้างล่างครับ
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... thep2.html
ถ้าเป็นผม ผมก็จะดูว่า
เจ้าห่านที่ผมจะเลือกนั้น มันออกใข่ใบใหญ่หรือเปล่า (Dividend Yield)
แล้วใข่ที่ออก มันจะออกมั่งไม่ออกมั่งหรือไม่
ถ้าให้ดีต้องออกไข่มาตลอดหลายปีที่ผ่านมาีนี้
ถ้าเลือกได้ก็ต้องเลือกที่ออกไข่ใบใหญ่เรื่อยๆ (แต่หายาก)
ที่สำคัญ ต้องมั่นใจว่า เจ้าของห่านมีใข่ให้ออกได้ตลอด (มีเงินสดมากพอจ่ายปันผล)
ถ้ากะถือยาว ก็ต้องดูผู้บริหารว่าไว้ใจได้หรือเปล่า หรือชอบเอาเงินบริษัทไปทำอะไรอย่างอื่นเล่นหรือไม่
สินค้าถ้าเป็นเจ้าตลาดก็เยี่ยม เพราะมั่นใจว่าของขายได้ตลอดแน่
ส่วนที่เหลือก็ให้คุณMonตัวจริงมาตอบแล้วกันครับ
ปัญหานี้เป็นปัญหาโลกแตกครับ
คือไม่มีใครตอบได้ถูกต้อง 100%
การหามูลค่าหุ้นนี่ขึ้นกับมุมมองของเราต่อบริษัทอย่างแท้จริงครับ
ให้คนสิบคนมาดูบริษัทเดียวกัน
มุมมองก็ไม่เหมือนกัน
การดูแค่ค่า PE PB แล้วลงทุนโดยไม่เข้าใจพื้นฐานธุรกิจนั้น
ผมไม่รับประกันความปลอดภัยครับ
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเราเข้าใจธุรกิจนั้นมากแค่ไหน
ถ้าเอาสั้นๆง่ายๆ
มีผู้รู้บอกว่า P/E ต่ำกว่า 10 ก็น่าลงทุนได้
เรื่อง P/B นั้นถ้าเป็นธุรกิจ Commodity ก็ไม่ควรเกิน 1
ถ้า P/B มากกว่าหนึ่ง แสดงว่า เราจ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับค่าความนิยมและการเติบโตครับ
ไว้มีเวลาผมจะมาอธิบายให้ละเอียดนะครับ
ตอนนี้เจ้านายเรียก
สวัสดีครับ
ปรากฎว่า หากระทู้นี้ไม่เจอ
พอคุ้ยๆดูลงไป
ไปเจอที่ด้านล่างของเวปบอร์ด
ก็งงๆเหมือนกัน
ตกลงจะเอาไว้ไหนดีเนี่ย
เดี๋ยวจะเสนอเจ้าของเวปให้ไว้ที่เรื่องด่วนเหมือนเดิมแล้วกัน
ถ้าไม่ถือว่าเป็นการโฆษณาชื่อตัวเองนะครับ
ใครไปใครมาจะได้ดูได้โพสเข้ามาได้ง่ายๆ
บางทีผมไม่ได้เข้ามาตอบหลายวัน
กลัวกระทู้หลุดไป หากันไม่เจอ
อันนี้ก็แล้วแต่เวปมาสเตอร์จะกรุณาแล้วกันครับ
กระทู้นี้ผ่านสองหมื่นครั้งไปแล้วครับayethebing เขียน:ผมเองไม่เคยได้ตอบกระทู้นี้มากนัก แต่ก้อติดตามอ่านมาโดยตลอด เป็นกระทู้ยอดฮิต และมีคุณค่ามากสำหรับ web นี้เลยครับ (มีคนอ่านตั้งเป็นหมื่น และคงถึง 2 หมื่นเร็วๆ นี้ แหมถ้าทำหนังสือขายแล้วขายได้สัก 2 หมื่นเล่ม ว้าว)
นิยมในหลักการของคุณวิบูลย์ครับ อ่านแล้วก้อมีกำลังใจยึดมั่นในหลักการเดิมที่ลงทุนตามพื้นฐานต่อไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้แหม มันยั่วยวนให้มาเล่นเกร็งกำไรมากเลยทีเดียว แหะ แหะ
ผมยังมือใหม่ แต่ก้อติดตามตลอด อิ อิ ลอกคุณ harry มาครับ
ผมลองติดตามเล่นๆพบว่า
กระทู้นี้เริ่มเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2546 โดยคุณธันวา
ผ่านการอ่าน 10,000 ครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2546
ใช้เวลาทั้งสิ้น 48 วัน
เฉลี่ยอ่านวันละ 209 ครั้ง
หลังจากนั้นอีก 63 วัน
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2546
กระทู้นี้มีการอ่าน 20,000 ครั้ง
รอบนี้มีการอ่านเฉลี่ย 159 ครั้งต่อวัน
ช่วงแรกมีการอ่านต่อวันมากกว่าช่วงสองถึง 31%
อาจเป็นไปได้ว่า มีการถามตอบกันมากกว่า
หลังๆผมก็เข้ามากระทู้นี้น้อยกว่าเดิม
เพราะเวลาน้อยลง
แต่ก็ขอบคุณแฟนๆทุกท่านที่ยังให้การสนับสนุนครับ
การอ่านเป็นหมื่นๆครั้งในกระทู้เดียว
ผมไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียวได้
ทุกอย่างมาจากการที่หลายๆท่านในที่นี้
ช่วยกันทำให้เกิดขึ้นมาได้ครับ
ผมขอยกเครดิตทั้งหมดกับทุกท่านที่โพสเข้ามา
รวมทั้งทุกท่านที่ตอบคำถามของสมาชิกอย่างไม่เหน็ดเนื่อย
ส่วนที่คุณayethebing อยากจะไปเก็งกำไร
ผมขอบอกก่อนแล้วกันนะครับ
ว่ามุมมองของผมนั้น
ผมมองว่า"การเก็งกำไร" ไม่ใช่ความผิดอะไรนะครับ
เพียงแต่ถ้าอยากจะเป็นนักเก็งกำไรก็ต้องมีหลักการเก็งกำไรครับ
ผมอยากจะบอกนักลงทุนมือใหม่ทั้งหลายว่า
อย่าเข้าตลาดหุ้นเพีียงแค่เพราะีมีเงินและอยากได้กำไรมากๆ
คุณต้องมีอีกสามสี่อย่างครับ
นั่นคือต้องมี หลักการ ความรู้ ข้อมูล และประสบการณ์
ไม่งั้นผมว่าโอกาสรอดจากกับดักของแมงมุมยาก
ส่วนผมยังคงตั้งหน้าตั้งตาลงทุนตามพื้นฐานต่อไป
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ฝนจะตก แดดจะออก โลกจะแตก
เพราะผมคิดว่าวิธีการนี้เหมาะกับผมที่สุด (อาจจะไม่เหมาะกับบางคนนะ)
และเป็นวิธีที่ทำให้เราอยู่ในตลาดได้นานที่สุด
ถ้าหุ้นพื้นฐานไม่ดี ราคาขึ้นสูงๆ สุดท้ายใครๆเขาก็รู้หละครับว่าหุ้นตัวนั้นของจริงหรือของปลอม
ถ้าซื้อหุ้นพื้นฐานดี ราคาวันนี้ไม่ขึ้น สักวันใครๆเขาก็รู้เองหละครับว่าหุ้นตัวนี้"เจ๋ง"แค่ไหน
อย่าลืมว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ครับในตลาดหุ้น
พรุ่งนี้หุ้นอาจจะตกร้อยจุดก็ได้ไม่มีใครรู้
ดังนั้น เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับทุกสถานการณ์ครับ
อย่างที่ Warren Buffet บอกไว้หลังจากเหตุการณ์ 9-11 หละครับที่ว่า
"ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดหรือไม่เกิดขึ้น
ก็ไม่มีผลอะไรกับหลักการหรือวิธีการที่ผมใช้ในการลงทุน
มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงหลักการที่ผมใช้ในการซื้อกิจการอะไรเลย"
ไหนๆคุณธันวาก็เล่าเรื่องการลงทุนกับการเดินทางแล้วThanwa เขียน:พูดถึงเรื่องการลงทุน
อยากจะขอนำเรื่องที่เพื่อนลงทุนด้วยกันเล่าให้ฟัง
เขาบอกว่า...
เขานั่งขับรถไปตามท้องถนน รถรามากมาย
บางคนก็ขับอยู่เลนเดียวไปเรื่อย ๆ ตามถนน
ส่วนบางคัน ก็ขับเร็วกว่า บ้างก็เบียดซ้าย แซงขวา
หลายๆ ครั้งเขาเห็นว่า
รถคันกล่าว ก็ไม่ได้ไปเร็วกว่า เขาเท่าไหร่นัก
หรืออย่างเก่งก็ 4-5 นาที ถ้าเราไม่ขับช้ามากนัก
ใครจะไปรู้ บางครั้งขับเร็วมาก อาจประสบอุบัติเหตุ
ถึงช้าเข้าไปอีก...
การลงทุนอาจจะมีส่วนคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง
ยอมขับที่ความเร็วพอดี ไม่เบียดซ้าย แซงขวา
ขับไป ชมวิวข้างไป สบายใจ (นอนหลับฝันดี)
ในที่สุด ก็ถึงจุดหมายเหมือนกัน
บางครั้ง รวยเร็วเกินไปก็ลำบากเหมือนกัน
เพราะเงินส่วนเกินที่รวยเร็วขึ้นมา ก็ไม่รู้จะไปใช้อะไร
เพื่อนๆ อ่านดูอาจจะไม่เห็นด้วยก็ไม่ว่าอะไรครับ
ผมก็อยากจะเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้สักเรื่องเหมือนกัน
เรื่องมีอยู่ว่า
มีผู้รู้ท่านนึงบอกไว้ว่า
การลงทุนก็เหมือนกับการเดินทาง
เราต้องมีการวางแผน
เราต้องรู้ว่าเราจะไปที่ไหน
และเราจะต้องรู้ว่าเราจะไปถึงที่นั่นได้อย่างไร
และสิ่งสำคัญคือเราต้องเดินไปตามทางที่เราวางแผนไว้
ไม่ออกนอกลู่นอกทาง
แต่การทำตามแผนการที่เราวางไว้
บางครั้งมันจะน่าเบื่อ ไม่น่าตื่นเต้น
ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ระหว่างการดำเนินตามแผน
คนส่วนใหญ่เลยลืมแผนของตัวเองไป
แล้วหลงไปกับสิ่งที่เข้ามากระตุ้นที่น่าตื่นเต้นให้เราหลุดออกจากแผนที่เราวางไว้
สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกแผนการนั้นไป
แล้วกับไปเริ่มต้นใหม่
เขาเปรียบการวางแผนการลงทุนเหมือนขับรถทางไกล
เช่น เราวางแผนว่าเราจะขับรถไปเชียงใหม่
เราต้องมีแผนที่และรู้เส้นทางที่เราจะไป
แล้วเราก็ออกเดินทาง
แต่ระหว่างทางบางครั้งการขับรถไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่กำหนด
มันอาจจะน่าเบื่อ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
ดังนั้น ระหว่างทางอาจเกิดมีอะไรน่าตื่นเต้นเกิดขึ้น
เช่น อยู่ๆมีกวางฝูงนึงออกมาวิ่งเล่นอยู่ข้างถนน
คนส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า
"โน่นดูโน่นซิ กวางอยู่ข้างทาง เราลงไปดูมันสักหน่อย.
ว่าแล้วเขาก็ขับรถลงไปไล่ตามกวางตัวนั้น
หลุดออกจากเส้นทางที่วางไว้
แล้วเขาก็หาทางกลับไม่เจอ
หรือกว่าจะเจอ เขาต้องเสียเวลาไปหลายเหมือนกัน
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี่ก็เพื่อแสดงไห้เห็นว่า
การที่เรามีแผนแต่ไม่ทำตามแผนที่วางไว้
เพราะบางครั้งการทำตามแผนมันน่าเบื่อ
เลยหาอะไรน่าตื่นเต้นทำแทน
เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถมีอิสรภาพทางการเงินได้เสียที
ผมรู้สึกว่า คนที่พูดเรื่องนี้คือ โรเบิร์ต คิโยซากิ นะครับ ถ้าจำไม่ผิด
ผมคิดว่าเป็นเรื่องจริงทีเดียว
เพราะบางครั้ง ผมก็ยังรู้สึกว่า การทำตามแผนการลงทุนที่เราวางไว้
มันช่างน่าเบื่อเสียนี่กระไร
อยากจะหาอะไรที่มันตื่นเต้นทำดูบ้าง เช่น เก็งกำไร
แต่มาคิดดูอีกที ก็นึกถึงคำพูดของคิโยซากิและท่านอาจารย์ทั้งสามได้
ก็เลยมีสติ กลับเข้ามาตั้งหน้าตั้งตาลงทุนตามพื้นฐานเหมือนเดิม
เงินลงทุนผมก็งอกเงยขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่หวือหวา
ผลตอบแทนอาจจะไม่มากเท่านักเก็งกำไร
แต่ผมก็คิดว่า นี่คือแผนการลงทุนที่ผมวางไว้
เราต้องไปให้ถึงจุดหมายระยะยาวที่ตั้งไว้
มากกว่าที่จะหลุดออกจากเส้นทางเพื่อผลตอบแทนระยะสั้นที่ยั่วยวน
ไม่ได้บ่นนะครับ เพียงแต่อยากเล่าให้ฟังเฉยๆ
อ้อ คุณธันวาไม่ต้องห่วง
ผมถือหุ้นบริษัทที่ว่าเป็นเพื่อนแน่นอนอยู่แล้วครับ
แล้วก็ดีใจมากครับที่เขียนใช้โค้วต้ากันเยอะๆ ผมจะได้ไม่ได้พล่ามอยู่คนเดียว อิ อิ
คุณHarry ครับHarry เขียน: เนื่องจากกระทู้นี้มีคนเข้ามาอ่านกันมาก จึงจะขอถามหน่อยว่าหนังสือภาษาอังกฤษที่ซื้อจาก amazon.com นั้นจะให้ช่วยสั่งซื้อเนี่ยได้มั้ยครับ เอ่อ แบบจ่ายเงินก่อนก็ได้ครับ แบบมาเจอกันก่อน ผมจ่ายเงินให้ครึ่งหนึ่งโดยประมาณ พอของมาก็เอามารับเงินส่นที่เหลือ
แล้วพอดีผมเห็นที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯมีบริการสั่งซื้อให้ ก็เลยมาถามว่าจะได้ราคาถูกบ้างมั้ยครับ เพราะลองดูหนังสือบางเล่มราคาเป็นดอลล่าร์ที่คำนวนเป็นเงินบาทแล้วกับราคาที่ติดไว้เป็นเงินบาท มันห่างกันมากเลย
ผมอยู่กทม.ครับ อยุ่ใจกลางเมืองเลย ถ้าใครที่จะให้ผมรบกวนได้ ก็ขออยู่ใกล้ๆแล้วกันครับ อ้อ! ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอกครับ ที่อยากได้เพราะว่าเป็นหนังสือเล่มๆ จะได้เก็บไว้อ่านดีๆครับ เอ่อ แล้วที่ asia book ล่ะครับ มีบริการสั่งหรือว่ามีหนังสือพวกนี้ในร้านที่ราคาถูกกว่าหรือเปล่าครับ
สั่งที่ Amazon.com นั้นง่ายมากเลยครับ
ผมแนะนำให้สั่งเอง
เพียงแค่มีเครดิตการ์ดใบเดียวก็ใช้ได้แล้วครับ
เลือกๆหนังสือที่เราอยากได้
แล้วก็คลิก Proceed to Checkout ไอคอน
จากนั้นก็ใส่เบอร์เครดิตการ์ด และที่อยู่
จากนั้นเเครื่องจะคำนวณค่าส่งให้
ถ้าโอเคก็ตอบตกลง
หลังจากนั้น สองอาทิตย์ก็ได้ของครับ
แต่ถ้าสั่งที่เอเซียบุ๊คต้องใช้เวลาถึงสองเดือน
ไม่ทันกินแน่นอน
ส่วนราคาของอเมซอน ผมว่าใกล้เคียงกับซื้อเมืองไทนยะครับ
อาจจะแพงกว่านิดหน่อย ก็ไม่เป็นไร สะดวกดี
ผมใช้บริการอเมซอนแล้วชอบมาก
ถ้าหาหนังสือเล่มไหนไม่ได้ในเมืองไทย ผมก็สั่งทางเนตทุกที
เรื่องโกงเครดิตการ์ด ยังไม่เคยเกิดขึ้นครับ ค่อนข้างไว้ใจได้
ผมขอมั่วตอบแทนคุณMonแล้วกันครับCEO เขียน: ขอเรียนถามคุณ Mon ครับ
ว่าสำหรับหุ้นห่านทองคำนั้นพอจะบอกได้ไหมครับว่าคุณ Mon ให้ความสำคัญกับอะไรมากและรองลงมา
ถ้าจะซื้อห่านทองคำ ผมมีบทความของคุณเทพใน SETTRADE มาฝากครับ
ผมว่าตอบปัญหาของคุณ CEO ได้ค่อนข้างชัดแจ้งแดงแจ๋ ลองอ่านดูข้างล่างครับ
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... thep2.html
ถ้าเป็นผม ผมก็จะดูว่า
เจ้าห่านที่ผมจะเลือกนั้น มันออกใข่ใบใหญ่หรือเปล่า (Dividend Yield)
แล้วใข่ที่ออก มันจะออกมั่งไม่ออกมั่งหรือไม่
ถ้าให้ดีต้องออกไข่มาตลอดหลายปีที่ผ่านมาีนี้
ถ้าเลือกได้ก็ต้องเลือกที่ออกไข่ใบใหญ่เรื่อยๆ (แต่หายาก)
ที่สำคัญ ต้องมั่นใจว่า เจ้าของห่านมีใข่ให้ออกได้ตลอด (มีเงินสดมากพอจ่ายปันผล)
ถ้ากะถือยาว ก็ต้องดูผู้บริหารว่าไว้ใจได้หรือเปล่า หรือชอบเอาเงินบริษัทไปทำอะไรอย่างอื่นเล่นหรือไม่
สินค้าถ้าเป็นเจ้าตลาดก็เยี่ยม เพราะมั่นใจว่าของขายได้ตลอดแน่
ส่วนที่เหลือก็ให้คุณMonตัวจริงมาตอบแล้วกันครับ
ตอบคุณ MooMoo เขียน: อ่านกระทู้นี้แล้ว มีความสุขมากครับ ทุกครั้งต้องเข้ามาอ่าน นับไปนับมาก็ร่วมกว่า 3 เดือนแล้ว ได้รับความรู้ทางหลักวิชาการ ความรู้รอบตัวและมุมมองที่ดีๆ ตามเก็บเกี่ยวประสพการณ์ทางกระทู้นี้มาตลอด แต่ยังไม่เคยรบกวนสอบถามอะไรเลย วันนี้ขอเรียนถามพี่วิบูลย์และท่านอื่นๆด้วยนะครับ คำถามเกี่ยวกับค่า PE และค่าP/BV ครับ
คือว่า โดยปกติแล้วหุ้นที่น่าสนใจควรมีค่าทั้ง 2 ตัวนี้ต่ำ และหลายๆตัวที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนั้น แต่ผมยังไม่เข้าใจว่ามีหุ้นอีกหลายๆตัวที่มีค่า PE ค่อนข้างต่ำมากๆ แต่กลับมีค่า P/BV สูง เช่น PTT ณ วันที่ 18/12/2546 ที่ผ่านมา ค่า PE 9.99 (พอลงทุนได้) แต่มาดูค่า P/BV กลับมาค่าที่ 3.49 ซึ่งน่าจะถือว่าสูง(หรือไม่) ทำให้ที่ผ่านมาไม่กล้าซื้อลงทุน เพราะว่ารู้สึกว่าราคาค่อนข้างสูง ( ส่วนปันผลพอรับได้)
อยากทราบว่าเราควรอ่านค่าลักษณะนี้อย่างไรครับ ค่าเหล่านี้เป็นองค์ประกอบแรกๆที่ต้องพิจารณาหรือให้ดูค่าอื่น แนวโน้มอื่นก่อนครับ
ปัญหานี้เป็นปัญหาโลกแตกครับ
คือไม่มีใครตอบได้ถูกต้อง 100%
การหามูลค่าหุ้นนี่ขึ้นกับมุมมองของเราต่อบริษัทอย่างแท้จริงครับ
ให้คนสิบคนมาดูบริษัทเดียวกัน
มุมมองก็ไม่เหมือนกัน
การดูแค่ค่า PE PB แล้วลงทุนโดยไม่เข้าใจพื้นฐานธุรกิจนั้น
ผมไม่รับประกันความปลอดภัยครับ
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเราเข้าใจธุรกิจนั้นมากแค่ไหน
ถ้าเอาสั้นๆง่ายๆ
มีผู้รู้บอกว่า P/E ต่ำกว่า 10 ก็น่าลงทุนได้
เรื่อง P/B นั้นถ้าเป็นธุรกิจ Commodity ก็ไม่ควรเกิน 1
ถ้า P/B มากกว่าหนึ่ง แสดงว่า เราจ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับค่าความนิยมและการเติบโตครับ
ไว้มีเวลาผมจะมาอธิบายให้ละเอียดนะครับ
ตอนนี้เจ้านายเรียก
สวัสดีครับ
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 612
คุณวิบูลย์
เห็นด้วยกับพี่ CK เรื่อง PTT นะครับ โดยเฉพาะบริษัทที่มี spread ระหว่างค่าผลตอบแทนต่อส่วนของเงินลงทุนกับต้นทุนทางการเงินมากๆ จะมี P/BV สูงตามไปด้วยครับ
ผมเองก้อไม่ได้คิดว่าเก็งกำไรมันผิดหรอกครับ ก้อกังวลว่าผมจะเก็งกำไรไม่เป็นเพราะไม่มีความรู้เพียงพอ ไม่มีหลักการในการเก็งกำไร เก็งราคาหุ้นขึ้นลงไม่เป็น มันก้อเลยยังคิดว่ามันเสี่ยงเกินไปสำหรับตัวเองเท่านั้น คงจะต้องหาเวลาศึกษาเรื่องเทคนิคเคิล สำหรับการเล่นหุ้นแบบเกร็งกำไรก่อนที่จะได้ลงมือจริงๆ ซึ่งก้อไม่รู้จะมีเวลาตอนไหนเหมือนกันส่วนที่คุณayethebing อยากจะไปเก็งกำไร
ผมขอบอกก่อนแล้วกันนะครับ
ว่ามุมมองของผมนั้น
ผมมองว่า"การเก็งกำไร" ไม่ใช่ความผิดอะไรนะครับ
เพียงแต่ถ้าอยากจะเป็นนักเก็งกำไรก็ต้องมีหลักการเก็งกำไรครับ
ผมอยากจะบอกนักลงทุนมือใหม่ทั้งหลายว่า
อย่าเข้าตลาดหุ้นเพีียงแค่เพราะีมีเงินและอยากได้กำไรมากๆ
คุณต้องมีอีกสามสี่อย่างครับ
นั่นคือต้องมี หลักการ ความรู้ ข้อมูล และประสบการณ์
ไม่งั้นผมว่าโอกาสรอดจากกับดักของแมงมุมยาก
เห็นด้วยกับพี่ CK เรื่อง PTT นะครับ โดยเฉพาะบริษัทที่มี spread ระหว่างค่าผลตอบแทนต่อส่วนของเงินลงทุนกับต้นทุนทางการเงินมากๆ จะมี P/BV สูงตามไปด้วยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 613
กลับมาแล้วครับ
แต่มีเวลาไม่เยอะ
เพราะต้องออกไปข้างนอกต่อ
ขอบคุณพี่CKครับที่ช่วยตอบคำถามคุณMoo
ตอนนี้ผมมีเวลาน้อย
ต้องขอแรงคุณMon ช่วยตอบคำถามของคุณMooอีกแรงแล้วละครับ
คุณ ayethebing ครับ
พี่ชายผมเป็นนักเก็งกำไรเต็มตัว
เอาตัวรอดได้มาได้หลายครั้ง
เลิกเล่นหุ้นไปก็หลายที
ตอนนี้กลับมาได้เงินไปเยอะ
ผมบอกเขาว่าผมลงทุนยังไง
เขาตอบผมว่า
เขาถือรอให้หุ้นขึ้นไม่ไหว
เห็นหุ้นขึ้นๆก็ทนไม่ไหว
ต้องเก็งกำไรอย่างเดียวถึงจะเข้ากับบุคลิก
เขาไม่ได้ว่าผมผิด
ผมก็ไม่ได้ว่าเขาผิดอะไร
ใครถนัดอะไรก็ทำไปตามนั้นแล้วกันละครับ
เขาบอกผมว่า
กฎข้อที่หนึ่งของการเก็งกำไรคือ
"ต้อง Cutloss เป็น"
ดังนั้น ถ้าใครยังทำใจตัดขายขาดทุนไม่เป็น
อย่าเก็งกำไรเลยครับ
ขอบอกด้วยความหวังดี
เอาล่ะครับ
วันนี้ต้องรีบไป
มีนัดเลี้ยงปีใหม่กับเพื่อนๆ
ต้องขอตัวก่อนละคร้าบ
สวัสดีทุกท่านครับ
อ้อ คุณมน ผมได้รับเทปแล้วครับ
ขอบคุณมาก ไว้เดี๋ยวจะเอาไปฟังในรถดูซิว่า
เสียงใคร"หล่อ"กว่ากัน ฮ่า ฮ่า
แต่มีเวลาไม่เยอะ
เพราะต้องออกไปข้างนอกต่อ
ขอบคุณพี่CKครับที่ช่วยตอบคำถามคุณMoo
ตอนนี้ผมมีเวลาน้อย
ต้องขอแรงคุณMon ช่วยตอบคำถามของคุณMooอีกแรงแล้วละครับ
คุณ ayethebing ครับ
พี่ชายผมเป็นนักเก็งกำไรเต็มตัว
เอาตัวรอดได้มาได้หลายครั้ง
เลิกเล่นหุ้นไปก็หลายที
ตอนนี้กลับมาได้เงินไปเยอะ
ผมบอกเขาว่าผมลงทุนยังไง
เขาตอบผมว่า
เขาถือรอให้หุ้นขึ้นไม่ไหว
เห็นหุ้นขึ้นๆก็ทนไม่ไหว
ต้องเก็งกำไรอย่างเดียวถึงจะเข้ากับบุคลิก
เขาไม่ได้ว่าผมผิด
ผมก็ไม่ได้ว่าเขาผิดอะไร
ใครถนัดอะไรก็ทำไปตามนั้นแล้วกันละครับ
เขาบอกผมว่า
กฎข้อที่หนึ่งของการเก็งกำไรคือ
"ต้อง Cutloss เป็น"
ดังนั้น ถ้าใครยังทำใจตัดขายขาดทุนไม่เป็น
อย่าเก็งกำไรเลยครับ
ขอบอกด้วยความหวังดี
เอาล่ะครับ
วันนี้ต้องรีบไป
มีนัดเลี้ยงปีใหม่กับเพื่อนๆ
ต้องขอตัวก่อนละคร้าบ
สวัสดีทุกท่านครับ
อ้อ คุณมน ผมได้รับเทปแล้วครับ
ขอบคุณมาก ไว้เดี๋ยวจะเอาไปฟังในรถดูซิว่า
เสียงใคร"หล่อ"กว่ากัน ฮ่า ฮ่า
- moo
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 614
ขอบพระคุณพี่ CK และ พี่วิบูลย์มากครับ
รับความรู้และเข้าในเพิ่มขึ้นตามที่ท่านทั้งสองกรุณาแนะนำครับ
อันที่จริงโดยส่วนตัวแล้ว ก็ดูงบ บ/ช ต่างๆด้วยเหมือนกัน
แต่ความรู้ทาง บ/ช น้อยนิด และบังเอิญที่ผ่านมาก่อนจะเข้าไปดูงบ
ก็ไปดูค่า PE PVB ก่อนเลย เพราะตามหน้าหนังสือพิมพ์มีให้ดูง่ายๆ
ทำให้ผ่านหุ้นหลายๆตัวไปโดยไม่ได้ดูงบถ้าค่าเหล่านี้สูงๆ
แน่นอนว่าต่อไปคงต้องดูลักษณะของกิจการ ดูการเปรียบเทียบ
ลักษณะของสินค้าหรือบริการและอื่นๆควบคู่ไปด้วย
ยังคงอยากทราบอย่างละเอียดเพิ่มเติมครับ
รบกวนพี่วิบูลย์ พี่ MON และท่านอื่นด้วยครับ
ขอบพระคุณอีกครั้งครับ
รับความรู้และเข้าในเพิ่มขึ้นตามที่ท่านทั้งสองกรุณาแนะนำครับ
อันที่จริงโดยส่วนตัวแล้ว ก็ดูงบ บ/ช ต่างๆด้วยเหมือนกัน
แต่ความรู้ทาง บ/ช น้อยนิด และบังเอิญที่ผ่านมาก่อนจะเข้าไปดูงบ
ก็ไปดูค่า PE PVB ก่อนเลย เพราะตามหน้าหนังสือพิมพ์มีให้ดูง่ายๆ
ทำให้ผ่านหุ้นหลายๆตัวไปโดยไม่ได้ดูงบถ้าค่าเหล่านี้สูงๆ
แน่นอนว่าต่อไปคงต้องดูลักษณะของกิจการ ดูการเปรียบเทียบ
ลักษณะของสินค้าหรือบริการและอื่นๆควบคู่ไปด้วย
ยังคงอยากทราบอย่างละเอียดเพิ่มเติมครับ
รบกวนพี่วิบูลย์ พี่ MON และท่านอื่นด้วยครับ
ขอบพระคุณอีกครั้งครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 615
ผมขอเสริมที่คณ moo ถามเกี่ยวกับ P/E และ P/B นะครับ
ทั้ง P/E และ P/B นั้นก่อนเปรียบเทียบกันหรือเปรียบเทียบกับอดีต ควรที่จะพิจารณาถึงรายละเอียดในการคำนวณก่อนครับ
เช่น P/E นั้น เราควรที่จะพยายามหักรายการที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินงานออกก่อนครับ ซึ่งมีทั้งรายได้และรายจ่าย เพื่อที่จะได้คำนวณจากผลการดำเนินงานที่แท้จริง
รายได้มีอะไรบ้าง เช่น กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ กำไรจากการซื้อห้นก้คืน รายการบวกกลับจากการตั้งสำรองต่างๆ รายการปรับมลค่าสินทรัพย์ที่เคยด้อยค่า กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
ส่วนรายจ่ายก็มี การตั้งสำรองต่างๆ ค่าใช้จ่ายในการออกห้น การด้อยค่าของสินทรัพย์ ขาดทนจากอัตราแลกเปลี่ยน
รวมทั้งอัตราษี ที่บางบริษัทได้รับการลดหย่อน เนื่องจากยังมีผลขาดทนที่จะนำมาหักาษีเงินได้อย่ บริษัทเหล่านี้จะแสดงผลกำไรที่มากเกินปรกติครับ
ในขณะที่ค่า P/B นั้นตัวปัญหาก็คือ B นั้นเอง จะมีใครสามารถหาค่าส่วนผ้ถือห้นได้อย่างถกต้องครับ บางบริษัทลงมลค่าที่ดินเมื่อตอนซื้อมา 20 ปีก่อน กับบางบริษัทบันทึกมลค่าปัจจบัน การบันทึกหนี้สญของแต่ละบริษัทก็แตกต่างกันครับ
ทั้ง P/E และ P/B นั้นก่อนเปรียบเทียบกันหรือเปรียบเทียบกับอดีต ควรที่จะพิจารณาถึงรายละเอียดในการคำนวณก่อนครับ
เช่น P/E นั้น เราควรที่จะพยายามหักรายการที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินงานออกก่อนครับ ซึ่งมีทั้งรายได้และรายจ่าย เพื่อที่จะได้คำนวณจากผลการดำเนินงานที่แท้จริง
รายได้มีอะไรบ้าง เช่น กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ กำไรจากการซื้อห้นก้คืน รายการบวกกลับจากการตั้งสำรองต่างๆ รายการปรับมลค่าสินทรัพย์ที่เคยด้อยค่า กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
ส่วนรายจ่ายก็มี การตั้งสำรองต่างๆ ค่าใช้จ่ายในการออกห้น การด้อยค่าของสินทรัพย์ ขาดทนจากอัตราแลกเปลี่ยน
รวมทั้งอัตราษี ที่บางบริษัทได้รับการลดหย่อน เนื่องจากยังมีผลขาดทนที่จะนำมาหักาษีเงินได้อย่ บริษัทเหล่านี้จะแสดงผลกำไรที่มากเกินปรกติครับ
ในขณะที่ค่า P/B นั้นตัวปัญหาก็คือ B นั้นเอง จะมีใครสามารถหาค่าส่วนผ้ถือห้นได้อย่างถกต้องครับ บางบริษัทลงมลค่าที่ดินเมื่อตอนซื้อมา 20 ปีก่อน กับบางบริษัทบันทึกมลค่าปัจจบัน การบันทึกหนี้สญของแต่ละบริษัทก็แตกต่างกันครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 617
สวัสดีพี่ๆทุกคนครับ
อยากทราบว่าพวกหนังสือ Value Investor Made Easy(Thai version) หรือ Thailand Company Handbook และพวกหนังสือดีๆที่พี่ช่วยแนะนำเกี่ยวกับ Value Investor ว่าควรอ่านเล่มไหนบ้าง และหาซื้อที่ไหนได้บ้างครับ อย่าง 2เล่มแรกหาดูที่ Se-ed ไม่เห็นเจอเลยครับ
พึ่งเริ่มศึกษาเกี่ยวกับ Value Investor แต่ก่อนเคยแต่เล่นเกมหุ้นผ่านเน็ต
ขอบคุณมากครับ
อยากทราบว่าพวกหนังสือ Value Investor Made Easy(Thai version) หรือ Thailand Company Handbook และพวกหนังสือดีๆที่พี่ช่วยแนะนำเกี่ยวกับ Value Investor ว่าควรอ่านเล่มไหนบ้าง และหาซื้อที่ไหนได้บ้างครับ อย่าง 2เล่มแรกหาดูที่ Se-ed ไม่เห็นเจอเลยครับ
พึ่งเริ่มศึกษาเกี่ยวกับ Value Investor แต่ก่อนเคยแต่เล่นเกมหุ้นผ่านเน็ต
ขอบคุณมากครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 618
ต้องขอโทษคุณCEOก่อนที่ปล่อยให้ท่านอื่นตอบแทน
หุ้นห่านทองคำของคุณเทพแกยังไงผมไม่รู้แต่ของผมแม่ห่านต้องแข็งแรง ไข่ได้ใบโตๆ และหลายๆใบ ออกไข่ได้เลื่อยๆ ตัวใข่เองต้องมีประโยชน์ทุกส่วน เนื้อใข่ทำอาหารได้ เปลือกใข่ต้องเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วยครับ
ผมอีกคนหนึ่งที่ยืนยันนอนยันว่าเก็งกำไรไม่ผิด ถ้าไม่มีคนพวกนี้ไม่เกิดสภาพคล่องแน่นอน เป็นนักเก็งกำไรนะครับอย่าเป็นแมงเม่าเด็ดขาด รู้จักพอบ้างก็OK
คุณวิบูลย์และเพื่อนๆผมมาชวนคุยเรื่องITVในมุมมองของVIกันเถิด สนุกดีนะ ผมว่าเจ้าก้นกรองมวนนี้มันดูดมันเป็นบ้าเลย(ไม่ได้เชียหุ้นนะ อย่าเข้าใจผิด)
หุ้นห่านทองคำของคุณเทพแกยังไงผมไม่รู้แต่ของผมแม่ห่านต้องแข็งแรง ไข่ได้ใบโตๆ และหลายๆใบ ออกไข่ได้เลื่อยๆ ตัวใข่เองต้องมีประโยชน์ทุกส่วน เนื้อใข่ทำอาหารได้ เปลือกใข่ต้องเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วยครับ
ผมอีกคนหนึ่งที่ยืนยันนอนยันว่าเก็งกำไรไม่ผิด ถ้าไม่มีคนพวกนี้ไม่เกิดสภาพคล่องแน่นอน เป็นนักเก็งกำไรนะครับอย่าเป็นแมงเม่าเด็ดขาด รู้จักพอบ้างก็OK
คุณวิบูลย์และเพื่อนๆผมมาชวนคุยเรื่องITVในมุมมองของVIกันเถิด สนุกดีนะ ผมว่าเจ้าก้นกรองมวนนี้มันดูดมันเป็นบ้าเลย(ไม่ได้เชียหุ้นนะ อย่าเข้าใจผิด)
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 619
คือผมเงินเดือนไม่มากพอที่จะทำบัตรเครดิตได้อ่ะครับ มีแต่บัตรเดบิต visa electron เท่าที่รู้มามันซื้อไม่ได้อ่ะครับ เลยมาขอให้ท่นที่เคยซื้อช่วยอ่ะครับคุณHarry ครับ
สั่งที่ Amazon.com นั้นง่ายมากเลยครับ
ผมแนะนำให้สั่งเอง
เพียงแค่มีเครดิตการ์ดใบเดียวก็ใช้ได้แล้วครับ
เลือกๆหนังสือที่เราอยากได้
แล้วก็คลิก Proceed to Checkout ไอคอน
จากนั้นก็ใส่เบอร์เครดิตการ์ด และที่อยู่
จากนั้นเเครื่องจะคำนวณค่าส่งให้
ถ้าโอเคก็ตอบตกลง
หลังจากนั้น สองอาทิตย์ก็ได้ของครับ
แต่ถ้าสั่งที่เอเซียบุ๊คต้องใช้เวลาถึงสองเดือน
ไม่ทันกินแน่นอน
ส่วนราคาของอเมซอน ผมว่าใกล้เคียงกับซื้อเมืองไทนยะครับ
อาจจะแพงกว่านิดหน่อย ก็ไม่เป็นไร สะดวกดี
ผมใช้บริการอเมซอนแล้วชอบมาก
ถ้าหาหนังสือเล่มไหนไม่ได้ในเมืองไทย ผมก็สั่งทางเนตทุกที
เรื่องโกงเครดิตการ์ด ยังไม่เคยเกิดขึ้นครับ ค่อนข้างไว้ใจได้
Expecto Patronum!!!!!!
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 621
ขอบคุณครับพี่ ที่จะให้ยืมอ่าน แต่มันเป็นภาษาอังกฤษนี่ถ้าอ่านกันจริงจังนี่เป็นปีเลยมั้งครับ กว่าจะจบแบบเข้าใจจริงๆ คิดว่าไม่รบกวนดีกว่า เพราะว่าหนังสือดีๆผมก็เสียดายถ้าไปอยู่กับคนอื่น กลัวยับ กลัวขาด กลัวหายด้วย เอาเป็นว่าถ้าพี่เคยซื้อทางอเมซอน แล้วถ้าผมมีเงินพอซื้อแล้วจะมาบอกให้ช่วยซื้อให้แล้วกันครับ ส่วนเรื่องยืมอ่านนั้น ไม่แน่อาจเป็นขอดูว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยซื้อเป็นของตัวเองMon money เขียน:จะอ่านเรื่องอะไรครับ ถ้าผมมีอยู่ก็จะได้ให้ยืมอ่านครับคุณ Harry
Expecto Patronum!!!!!!
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 622
โทษทีครับ
หายไปหลายวัน
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าเนต
เพราะไม่ได้เข้าบริษัทเลยไม่ได้เข้าเวป
งานเลี้ยงก็ค่อนข้างชุม เลยไม่ค่อยมีเวลา
ถ้ามีใครโพสถามเข้ามา
ก็ต้องรบกวนพี่ๆที่ทราบคำตอบ
ช่วยกันตอบแทนแล้วกันครับ
ไม่ต้องรอผม
จะขอบพระคุณเป็นอย่างมากครับ
เป็นของ Brooker ลองโทรไปที่บริษัทดูแล้วกันครับ
THE BROOKER GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED 23/12/2003 13:41:08
Profile
Address : HARINDHORN BUILDING, FLOOR 16, 54 NORTH SATHORN ROAD, SILOM, BANG RAK Bangkok
Phone : 02-267-9222,02-632-1711
Fax : 02-632-2606
ส่วน Value Investor Made Easy(Thai version)
ผมซื้อที่ซีเอ็ดครับ
ลองไปสาขาที่คนไม่นิยมดู อาจจะยังมีเหลือครับ
ส่วนการเล่นเกมหุ้นกับการลงทุนจริง
ผมว่าต่างกันมาก
เพราะเกมส์หุ้นมีระยะเวลาที่สั้นกว่าการลงทุนแบบ VI มาก
ผมไม่เคยเล่นนะครับ
แต่เกมส์ก็คือเกมส์ ของจริงก็คือของจริง
ลองเซียนเกมส์ดังๆอย่าง Doom (ดังสมัยผม)
ลองเป็นของจริงแล้วเจอสัตว์ประหลาดจริงๆ
อาจจะยิงปืนไม่ออกเลยก็ได้ครับ
หรือ
เซียนเกมส์ฟุตบอลอาจจะเล่นฟุตบอลจริงๆไม่ได้เรื่องเลยก็ได้
ดังนั้น
ส่วนตัวผมคิดว่า เกมส์หุ้นคงไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนัก
สิ่งที่น่าเป็นประโยชน์แน่นอนก็คือ
สมุดรายงานประจำปี 56-1 และงบการเงินของบริษัท
น่าจะน่าสนใจกว่าเกมส์หุ้นเป็นแน่แท้
ลองเดินๆดูที่ Asiabook ทุกสาขา หรือ Kinokuniya สาขา Emporium และ Worldtrade
ผมได้หนังสือหลายเล่มจากที่นี่ครับ
ไม่ต้องรีบร้อน
ถ้ามีปัญหาอะไร ปรึกษาพี่ๆแถวนี้ได้ทุกคนครับ
ผมสูบไม่ลงครับ ก้นบุหรี่มวนนี้
มันแพงกว่าซิการ์มวนใหม่ๆที่ผมซื้อมาซะอีก
จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้นของ ITV
แสดงให้เห็นว่า ราคาหุ้นขึ้นกับความคาดหวังของนักลงทุนจริงๆ
ความจริงจะปรากฏสักวันว่า
พวกเขาสมหวังที่ตั้งใจไว้หรือไม่
มาดูกันเล่นๆนะครับ
ผมดูราคาหุ้นใน นสพ เมื่อวานนี้
ปิดที่ 27.25 บาท มูลค่าตลาด 32,400 ล้านบาท
ผลประกอบการ สิ้นงวด Q3'03 ขาดทุน (570) ล้านบาท
มีขาดทุนสะสม (4315) ล้านบาท
มีทรัพย์สินทั้งหมด 3175 ล้านบาท
มีเงินสดในมือ 139 ล้านบาท
มีหนี้สินระยะยาว 766 ล้านบาท
มีส่วนผู้ถือหุ้น 1507 ล้านบาท
ถ้าไม่มีการเพิ่มทุน คิดเป็น P/E=N/A, P/B=21.5
แต่ข่าวบอกว่า มีการเพิ่มทุนอีก 3000 ล้านบาท
คิดเป็นจำนวนหุ้น 300 ล้านหุ้น
จากเดิม 1155 ล้านหุ้น กลายเป็น 1455 ล้านหุ้น
เอาไปล้างขาดทุนสะสมเหลือ (1315) ล้านบาท
ส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 4507 ล้านบาท
คิดเป็น P/B=9.24 สูงดี
ส่วน P/E ก็ต้องมาลุ้นกันว่าจะทำกำไรได้เมื่อไหร่
แต่เท่าที่ดูในงบกำไรขาดทุน
จากต้นปีจนถึง 9/03
มีรายได้ 1212 ล้านบาท
มีรายจ่าย 1739 ล้านบาท
ขาดทุน 570 ล้านบาท
ในรายจ่ายทั้งหมดเป็นค่าสัมปทาน 625 ล้านบาท
คิดเป็น 52% ของรายได้
คิดเป็น 36% ของรายจ่ายทั้งหมด
ผมว่าสิ่งสำคัญของไอทีวีคือรายจ่ายสัมปทาน
จะกำไรไม่กำไรก็อยู่ที่ค่าใช้จ่ายตรงนี้
ในความเห็นของผม
นักลงทุนกำลังซื้ออนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่
ผมนึกถึงหุ้น Dotcom ของตลาด Nesdaq จริงๆ
ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นเพราะนักลงทุนคิดว่าบริษัทนี้จะเติบโตอย่างมหาศาล
ทั้งๆที่ยังไม่มีกำไรเลย
สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ ฟองสบู่Dotcom ก็แตกดังโพล๊ะ
นักลงทุนที่ออกไม่ทันก็เจ็บตัว
ผมชอบคำพูดของ Peter Lynch ครับ
ลอกมาจาก Value Investor Made Easy(Thai version)
ที่บอกว่า "รอให้บริษัทมีกำไรซะก่อน"
อยู่ในบทไหน จำไม่ได้ครับ
แต่ผมว่าดีมากเลยทีเดียว
กันตนาและไตรภพ จะเพิ่มรายได้ให้กับไอทีวีจนกำไรได้หรือไม่
ค่าสัมปทานจะต่อรองลดลงได้หรือไม่
ไม่มีใครตอบได้ครับตอนนี้
คงต้องลุ้นกันต่อไป
แต่ที่แน่ๆ
หุ้นที่มี Story นี่ มันน่าเกร็งกำไรจริงๆเลย
ราคาจาก 7.9 บาทมาเป็น 27.25 บาท
คิดเป็น 245% ภายในไม่กี่เดือน
ผมว่าคนที่แฮปปี้สุดๆ ก็น่าจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มากกว่า
เพราะราคาหุ้นขึ้นเป็นกอบเป็นกำ
ส่วนรายย่อยอย่างพวกเรา
ใครซื้อหุ้นตัวนี้ลงทุนไว้
ก็ต้องหูตาไวหน่อยนะครับ
จะมาซื้อแล้วเอามือซุกกระเป๋าคงไม่ได้นะครับ
ถ้าซื้อมาแล้วจะสูบสักปื้ดแล้วทั้งไปตอนไหน ก็ตามสะดวกนะครับ
ส่วนผมขอบาย รอมีกำไรก่อนดีกว่า
ถ้ามีกำไรแล้วดีจริง
ก็ไปเก็บตอนคุณตลาดกำลังอารมณ์บูดมากๆก็ยังไม่สาย
แล้วคุณมนและเพื่อนๆละครับ
มีมุมมองยังไงกันบ้าง เรื่องนี้
สวัสดีครับ
หายไปหลายวัน
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าเนต
เพราะไม่ได้เข้าบริษัทเลยไม่ได้เข้าเวป
งานเลี้ยงก็ค่อนข้างชุม เลยไม่ค่อยมีเวลา
ถ้ามีใครโพสถามเข้ามา
ก็ต้องรบกวนพี่ๆที่ทราบคำตอบ
ช่วยกันตอบแทนแล้วกันครับ
ไม่ต้องรอผม
จะขอบพระคุณเป็นอย่างมากครับ
Thailand Company Handbook ผมซื้อที่ร้านหนังสือที่ตลาดหลักทรัพย์ครับPrinchesy เขียน:สวัสดีพี่ๆทุกคนครับ
อยากทราบว่าพวกหนังสือ Value Investor Made Easy(Thai version) หรือ Thailand Company Handbook และพวกหนังสือดีๆที่พี่ช่วยแนะนำเกี่ยวกับ Value Investor ว่าควรอ่านเล่มไหนบ้าง และหาซื้อที่ไหนได้บ้างครับ อย่าง 2เล่มแรกหาดูที่ Se-ed ไม่เห็นเจอเลยครับ
พึ่งเริ่มศึกษาเกี่ยวกับ Value Investor แต่ก่อนเคยแต่เล่นเกมหุ้นผ่านเน็ต
ขอบคุณมากครับ
เป็นของ Brooker ลองโทรไปที่บริษัทดูแล้วกันครับ
THE BROOKER GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED 23/12/2003 13:41:08
Profile
Address : HARINDHORN BUILDING, FLOOR 16, 54 NORTH SATHORN ROAD, SILOM, BANG RAK Bangkok
Phone : 02-267-9222,02-632-1711
Fax : 02-632-2606
ส่วน Value Investor Made Easy(Thai version)
ผมซื้อที่ซีเอ็ดครับ
ลองไปสาขาที่คนไม่นิยมดู อาจจะยังมีเหลือครับ
ส่วนการเล่นเกมหุ้นกับการลงทุนจริง
ผมว่าต่างกันมาก
เพราะเกมส์หุ้นมีระยะเวลาที่สั้นกว่าการลงทุนแบบ VI มาก
ผมไม่เคยเล่นนะครับ
แต่เกมส์ก็คือเกมส์ ของจริงก็คือของจริง
ลองเซียนเกมส์ดังๆอย่าง Doom (ดังสมัยผม)
ลองเป็นของจริงแล้วเจอสัตว์ประหลาดจริงๆ
อาจจะยิงปืนไม่ออกเลยก็ได้ครับ
หรือ
เซียนเกมส์ฟุตบอลอาจจะเล่นฟุตบอลจริงๆไม่ได้เรื่องเลยก็ได้
ดังนั้น
ส่วนตัวผมคิดว่า เกมส์หุ้นคงไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนัก
สิ่งที่น่าเป็นประโยชน์แน่นอนก็คือ
สมุดรายงานประจำปี 56-1 และงบการเงินของบริษัท
น่าจะน่าสนใจกว่าเกมส์หุ้นเป็นแน่แท้
บางทีอาจจะไม่ต้องสั่งทางอเมซอนก็ได้ครับharry เขียน:ขอบคุณครับพี่ ที่จะให้ยืมอ่าน แต่มันเป็นภาษาอังกฤษนี่ถ้าอ่านกันจริงจังนี่เป็นปีเลยมั้งครับ กว่าจะจบแบบเข้าใจจริงๆ คิดว่าไม่รบกวนดีกว่า เพราะว่าหนังสือดีๆผมก็เสียดายถ้าไปอยู่กับคนอื่น กลัวยับ กลัวขาด กลัวหายด้วย เอาเป็นว่าถ้าพี่เคยซื้อทางอเมซอน แล้วถ้าผมมีเงินพอซื้อแล้วจะมาบอกให้ช่วยซื้อให้แล้วกันครับ ส่วนเรื่องยืมอ่านนั้น ไม่แน่อาจเป็นขอดูว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยซื้อเป็นของตัวเอง
ลองเดินๆดูที่ Asiabook ทุกสาขา หรือ Kinokuniya สาขา Emporium และ Worldtrade
ผมได้หนังสือหลายเล่มจากที่นี่ครับ
ส่วนของคุณMoo ก็ต้องค่อยๆศึกษาไปครับMoo เขียน:ขอบพระคุณพี่ CK และ พี่วิบูลย์มากครับ
รับความรู้และเข้าในเพิ่มขึ้นตามที่ท่านทั้งสองกรุณาแนะนำครับ
อันที่จริงโดยส่วนตัวแล้ว ก็ดูงบ บ/ช ต่างๆด้วยเหมือนกัน
แต่ความรู้ทาง บ/ช น้อยนิด และบังเอิญที่ผ่านมาก่อนจะเข้าไปดูงบ
ก็ไปดูค่า PE PVB ก่อนเลย เพราะตามหน้าหนังสือพิมพ์มีให้ดูง่ายๆ
ทำให้ผ่านหุ้นหลายๆตัวไปโดยไม่ได้ดูงบถ้าค่าเหล่านี้สูงๆ
แน่นอนว่าต่อไปคงต้องดูลักษณะของกิจการ ดูการเปรียบเทียบ
ลักษณะของสินค้าหรือบริการและอื่นๆควบคู่ไปด้วย
ยังคงอยากทราบอย่างละเอียดเพิ่มเติมครับ
รบกวนพี่วิบูลย์ พี่ MON และท่านอื่นด้วยครับ
ไม่ต้องรีบร้อน
ถ้ามีปัญหาอะไร ปรึกษาพี่ๆแถวนี้ได้ทุกคนครับ
คุณมนMon Money เขียน:คุณวิบูลย์และเพื่อนๆผมมาชวนคุยเรื่องITVในมุมมองของVIกันเถิด สนุกดีนะ ผมว่าเจ้าก้นกรองมวนนี้มันดูดมันเป็นบ้าเลย(ไม่ได้เชียหุ้นนะ อย่าเข้าใจผิด)
ผมสูบไม่ลงครับ ก้นบุหรี่มวนนี้
มันแพงกว่าซิการ์มวนใหม่ๆที่ผมซื้อมาซะอีก
จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้นของ ITV
แสดงให้เห็นว่า ราคาหุ้นขึ้นกับความคาดหวังของนักลงทุนจริงๆ
ความจริงจะปรากฏสักวันว่า
พวกเขาสมหวังที่ตั้งใจไว้หรือไม่
มาดูกันเล่นๆนะครับ
ผมดูราคาหุ้นใน นสพ เมื่อวานนี้
ปิดที่ 27.25 บาท มูลค่าตลาด 32,400 ล้านบาท
ผลประกอบการ สิ้นงวด Q3'03 ขาดทุน (570) ล้านบาท
มีขาดทุนสะสม (4315) ล้านบาท
มีทรัพย์สินทั้งหมด 3175 ล้านบาท
มีเงินสดในมือ 139 ล้านบาท
มีหนี้สินระยะยาว 766 ล้านบาท
มีส่วนผู้ถือหุ้น 1507 ล้านบาท
ถ้าไม่มีการเพิ่มทุน คิดเป็น P/E=N/A, P/B=21.5
แต่ข่าวบอกว่า มีการเพิ่มทุนอีก 3000 ล้านบาท
คิดเป็นจำนวนหุ้น 300 ล้านหุ้น
จากเดิม 1155 ล้านหุ้น กลายเป็น 1455 ล้านหุ้น
เอาไปล้างขาดทุนสะสมเหลือ (1315) ล้านบาท
ส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 4507 ล้านบาท
คิดเป็น P/B=9.24 สูงดี
ส่วน P/E ก็ต้องมาลุ้นกันว่าจะทำกำไรได้เมื่อไหร่
แต่เท่าที่ดูในงบกำไรขาดทุน
จากต้นปีจนถึง 9/03
มีรายได้ 1212 ล้านบาท
มีรายจ่าย 1739 ล้านบาท
ขาดทุน 570 ล้านบาท
ในรายจ่ายทั้งหมดเป็นค่าสัมปทาน 625 ล้านบาท
คิดเป็น 52% ของรายได้
คิดเป็น 36% ของรายจ่ายทั้งหมด
ผมว่าสิ่งสำคัญของไอทีวีคือรายจ่ายสัมปทาน
จะกำไรไม่กำไรก็อยู่ที่ค่าใช้จ่ายตรงนี้
ในความเห็นของผม
นักลงทุนกำลังซื้ออนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่
ผมนึกถึงหุ้น Dotcom ของตลาด Nesdaq จริงๆ
ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นเพราะนักลงทุนคิดว่าบริษัทนี้จะเติบโตอย่างมหาศาล
ทั้งๆที่ยังไม่มีกำไรเลย
สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ ฟองสบู่Dotcom ก็แตกดังโพล๊ะ
นักลงทุนที่ออกไม่ทันก็เจ็บตัว
ผมชอบคำพูดของ Peter Lynch ครับ
ลอกมาจาก Value Investor Made Easy(Thai version)
ที่บอกว่า "รอให้บริษัทมีกำไรซะก่อน"
อยู่ในบทไหน จำไม่ได้ครับ
แต่ผมว่าดีมากเลยทีเดียว
กันตนาและไตรภพ จะเพิ่มรายได้ให้กับไอทีวีจนกำไรได้หรือไม่
ค่าสัมปทานจะต่อรองลดลงได้หรือไม่
ไม่มีใครตอบได้ครับตอนนี้
คงต้องลุ้นกันต่อไป
แต่ที่แน่ๆ
หุ้นที่มี Story นี่ มันน่าเกร็งกำไรจริงๆเลย
ราคาจาก 7.9 บาทมาเป็น 27.25 บาท
คิดเป็น 245% ภายในไม่กี่เดือน
ผมว่าคนที่แฮปปี้สุดๆ ก็น่าจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มากกว่า
เพราะราคาหุ้นขึ้นเป็นกอบเป็นกำ
ส่วนรายย่อยอย่างพวกเรา
ใครซื้อหุ้นตัวนี้ลงทุนไว้
ก็ต้องหูตาไวหน่อยนะครับ
จะมาซื้อแล้วเอามือซุกกระเป๋าคงไม่ได้นะครับ
ถ้าซื้อมาแล้วจะสูบสักปื้ดแล้วทั้งไปตอนไหน ก็ตามสะดวกนะครับ
ส่วนผมขอบาย รอมีกำไรก่อนดีกว่า
ถ้ามีกำไรแล้วดีจริง
ก็ไปเก็บตอนคุณตลาดกำลังอารมณ์บูดมากๆก็ยังไม่สาย
แล้วคุณมนและเพื่อนๆละครับ
มีมุมมองยังไงกันบ้าง เรื่องนี้
สวัสดีครับ
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 623
อ่านแล้วเห็นด้วยจริงๆครับ รอกำไรก่อนดีกว่า ถึงราคาจะแพงไป แต่ก็ดีกว่าขาดทุนอยู่เหมือนเดิม มันเป็นการเก็งกำไรเพียงอย่างเดียวเลย แต่ไม่แน่ถ้าการมาของกันตนาและไตรภพ ทำให้รายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายที่รวมค่าสัมปทานที่ 625 ล้านบาทจริง ก็น่าจะเริ่มกำไรได้ และก็ต้องรอขาดทุนสะสมหมดไปจนเป็นกำไรสะสมด้วย ผมว่าคงอีกหลายปีพอดู แต่เร็วขึ้นแน่ถ้าค่าสัมปทานลดลงVIB007 เขียน:คุณมน
ผมสูบไม่ลงครับ ก้นบุหรี่มวนนี้
มันแพงกว่าซิการ์มวนใหม่ๆที่ผมซื้อมาซะอีก
จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้นของ ITV
แสดงให้เห็นว่า ราคาหุ้นขึ้นกับความคาดหวังของนักลงทุนจริงๆ
ความจริงจะปรากฏสักวันว่า
พวกเขาสมหวังที่ตั้งใจไว้หรือไม่
มาดูกันเล่นๆนะครับ
ผมดูราคาหุ้นใน นสพ เมื่อวานนี้
ปิดที่ 27.25 บาท มูลค่าตลาด 32,400 ล้านบาท
ผลประกอบการ สิ้นงวด Q3'03 ขาดทุน (570) ล้านบาท
มีขาดทุนสะสม (4315) ล้านบาท
มีทรัพย์สินทั้งหมด 3175 ล้านบาท
มีเงินสดในมือ 139 ล้านบาท
มีหนี้สินระยะยาว 766 ล้านบาท
มีส่วนผู้ถือหุ้น 1507 ล้านบาท
ถ้าไม่มีการเพิ่มทุน คิดเป็น P/E=N/A, P/B=21.5
แต่ข่าวบอกว่า มีการเพิ่มทุนอีก 3000 ล้านบาท
คิดเป็นจำนวนหุ้น 300 ล้านหุ้น
จากเดิม 1155 ล้านหุ้น กลายเป็น 1455 ล้านหุ้น
เอาไปล้างขาดทุนสะสมเหลือ (1315) ล้านบาท
ส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 4507 ล้านบาท
คิดเป็น P/B=9.24 สูงดี
ส่วน P/E ก็ต้องมาลุ้นกันว่าจะทำกำไรได้เมื่อไหร่
แต่เท่าที่ดูในงบกำไรขาดทุน
จากต้นปีจนถึง 9/03
มีรายได้ 1212 ล้านบาท
มีรายจ่าย 1739 ล้านบาท
ขาดทุน 570 ล้านบาท
ในรายจ่ายทั้งหมดเป็นค่าสัมปทาน 625 ล้านบาท
คิดเป็น 52% ของรายได้
คิดเป็น 36% ของรายจ่ายทั้งหมด
ผมว่าสิ่งสำคัญของไอทีวีคือรายจ่ายสัมปทาน
จะกำไรไม่กำไรก็อยู่ที่ค่าใช้จ่ายตรงนี้
ในความเห็นของผม
นักลงทุนกำลังซื้ออนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่
ผมนึกถึงหุ้น Dotcom ของตลาด Nesdaq จริงๆ
ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นเพราะนักลงทุนคิดว่าบริษัทนี้จะเติบโตอย่างมหาศาล
ทั้งๆที่ยังไม่มีกำไรเลย
สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ ฟองสบู่Dotcom ก็แตกดังโพล๊ะ
นักลงทุนที่ออกไม่ทันก็เจ็บตัว
ผมชอบคำพูดของ Peter Lynch ครับ
ลอกมาจาก Value Investor Made Easy(Thai version)
ที่บอกว่า "รอให้บริษัทมีกำไรซะก่อน"
อยู่ในบทไหน จำไม่ได้ครับ
แต่ผมว่าดีมากเลยทีเดียว
กันตนาและไตรภพ จะเพิ่มรายได้ให้กับไอทีวีจนกำไรได้หรือไม่
ค่าสัมปทานจะต่อรองลดลงได้หรือไม่
ไม่มีใครตอบได้ครับตอนนี้
คงต้องลุ้นกันต่อไป
แต่ที่แน่ๆ
หุ้นที่มี Story นี่ มันน่าเกร็งกำไรจริงๆเลย
ราคาจาก 7.9 บาทมาเป็น 27.25 บาท
คิดเป็น 245% ภายในไม่กี่เดือน
ผมว่าคนที่แฮปปี้สุดๆ ก็น่าจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มากกว่า
เพราะราคาหุ้นขึ้นเป็นกอบเป็นกำ
ส่วนรายย่อยอย่างพวกเรา
ใครซื้อหุ้นตัวนี้ลงทุนไว้
ก็ต้องหูตาไวหน่อยนะครับ
จะมาซื้อแล้วเอามือซุกกระเป๋าคงไม่ได้นะครับ
ถ้าซื้อมาแล้วจะสูบสักปื้ดแล้วทั้งไปตอนไหน ก็ตามสะดวกนะครับ
ส่วนผมขอบาย รอมีกำไรก่อนดีกว่า
ถ้ามีกำไรแล้วดีจริง
ก็ไปเก็บตอนคุณตลาดกำลังอารมณ์บูดมากๆก็ยังไม่สาย
แล้วคุณมนและเพื่อนๆละครับ
มีมุมมองยังไงกันบ้าง เรื่องนี้
สวัสดีครับ
แล้วตอนนี้แต่ละช่องจ่ายสัมปทานอย่างไร ให้ใครบ้างครับ
Expecto Patronum!!!!!!
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 624
คุณวิบูลย์วิเคราะห์ได้ตรงใจผมมากๆเลยครับ จริงๆการซื้อITVนี่เป็นการทำ Risk arbitrage ที่ต้องอาศัยการประเมินความน่าจะเป็นอย่างสูงทีเดียวครับ ซื้ออนาคตอย่างไกล อยู่ที่มุมคนจะมองว่าโอกาสจะออกหัวออกก้อย
Buffettใช้วิธีการRisk arbitrageกับการซื้อ well fargo เมื่อนานมาแล้วครับ ผมแค่เลียนแบบเอามาใช้บ้างเท่านั้นเอง แต่งานนี้ขอบอก มันเสี่ยงชะมัดเลย
หากสำเร็จผมจะเล่าประสบการณ์นี้ให้ฟัง ตอนนี้ไม่บอกเพราะยังไม่สำเร็จเดียวจะกลายเป็นการชี้นำครับ
Buffettใช้วิธีการRisk arbitrageกับการซื้อ well fargo เมื่อนานมาแล้วครับ ผมแค่เลียนแบบเอามาใช้บ้างเท่านั้นเอง แต่งานนี้ขอบอก มันเสี่ยงชะมัดเลย
หากสำเร็จผมจะเล่าประสบการณ์นี้ให้ฟัง ตอนนี้ไม่บอกเพราะยังไม่สำเร็จเดียวจะกลายเป็นการชี้นำครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 625
อะไรที่เราไม่รู้คือความเสี่ยง เมื่อเรารู้ก็ไม่เสี่ยงครับ ใครไม่รู้เคยพูดไว้Mon money เขียน:Buffettใช้วิธีการRisk arbitrageกับการซื้อ well fargo เมื่อนานมาแล้วครับ ผมแค่เลียนแบบเอามาใช้บ้างเท่านั้นเอง แต่งานนี้ขอบอก มันเสี่ยงชะมัดเลย
ตอนผมดู ITV เพื่อซื้อครั้งแรก ราคาอยู่ 5 บาทครับ ถูกกว่าราคา PP ที่ทาง
กลุ่มชินได้ไปเสียอีก เมื่อมองอนาคต ผมเห็น 12 บาทเป็นอย่างต่ำ ไม่นึก
เหมือนกันว่าจะมาถึงเกือบ 30 ได้ก่อนสิ้นปี 2003
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 626
ขอแจมเรื่อง ITV ด้วยคนครับ
สรุปคือ นอกจาก 300 ล้านที่ให้คุณไตรภพและกันตนาแล้ว ยังมีอีก 43 ล้านกว่าหุ้นที่สำรองไว้สำหรับ ESOP ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้มักมีให้กับผู้บริหารและพนักงาน
การที่มี ESOP นั้น สามารถมองได้ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ แต่หากมีมากเกินไปย่อมไม่เป็นการดีแน่ งานนี้ผู้ถือหุ้น ITV ก็ต้องคอยทำใจไว้ว่า วันดีคืนดี ก็จะมีอีก 43 ล้านหุ้น มาช่วย dilute EPS ลงมาอีก ต้องคิดดูให้ดีก่อนลงทุนครับ
1. การเพิ่มทุน
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เป็น 7,800 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 300 ล้านหุ้น เสนอขายแก่บุคคลโดยเฉพาะเจาะจง และจำนวน 43,231,000 หุ้น สำรองไว้เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิตามโครงการ ESOP มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท
สรุปคือ นอกจาก 300 ล้านที่ให้คุณไตรภพและกันตนาแล้ว ยังมีอีก 43 ล้านกว่าหุ้นที่สำรองไว้สำหรับ ESOP ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้มักมีให้กับผู้บริหารและพนักงาน
การที่มี ESOP นั้น สามารถมองได้ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ แต่หากมีมากเกินไปย่อมไม่เป็นการดีแน่ งานนี้ผู้ถือหุ้น ITV ก็ต้องคอยทำใจไว้ว่า วันดีคืนดี ก็จะมีอีก 43 ล้านหุ้น มาช่วย dilute EPS ลงมาอีก ต้องคิดดูให้ดีก่อนลงทุนครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 627
ฮ่า ฮ่าMon money เขียน:คุณวิบูลย์วิเคราะห์ได้ตรงใจผมมากๆเลยครับ จริงๆการซื้อITVนี่เป็นการทำ Risk arbitrage ที่ต้องอาศัยการประเมินความน่าจะเป็นอย่างสูงทีเดียวครับ ซื้ออนาคตอย่างไกล อยู่ที่มุมคนจะมองว่าโอกาสจะออกหัวออกก้อย
Buffettใช้วิธีการRisk arbitrageกับการซื้อ well fargo เมื่อนานมาแล้วครับ ผมแค่เลียนแบบเอามาใช้บ้างเท่านั้นเอง แต่งานนี้ขอบอก มันเสี่ยงชะมัดเลย
หากสำเร็จผมจะเล่าประสบการณ์นี้ให้ฟัง ตอนนี้ไม่บอกเพราะยังไม่สำเร็จเดียวจะกลายเป็นการชี้นำครับ
แสดงว่าคุณมนถือหุ้นตัวนี้อยู่แน่เลย
แต่ผมขอแก้ข่าวเรื่อง Well Fargo หน่อยแล้วกัน
เดี๋ยวพี่ๆน้องๆเข้าใจผิด
คือ Well Fargo เป็นแบงค์อยู่แถว California นะครับ
แล้วก็ทำกำไรมาได้ตลอดที่ตั้งบริษัทมาหลายสิบปี
ปรากฎว่า ช่วงปี 80 เกิดเหตุการณ์ Saving and Loan Crisis ที่California
เกิดจากแผ่นดินไหว และหนี้ไม่เกิดรายได้เหมือนบ้านเราตอนปี 97
ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นสถาบันการเงินที่ตั้งอยู่ในคาลิฟอร์เนียเป็นการใหญ่
อาจารย์บัฟเฟต์ก็เล็งหุ้นบริษัทที่สามารถทนทานต่อเหตุการณ์นี้ได้
และเก็บ"หุ้นช้อนทอง"คันนี้ไว้จำนวนมหาศาล
ผ่านไปสองปี ราคาWell Fargo ยังต่ำกว่าที่บัฟเฟตซื้อมาซะอีก
แต่บัฟเฟตบอกว่า ไม่สนใจราคาหุ้นระยะสั้น
ถ้าราคายิ่งต่ำยิ่งซื้อ แกก็เก็บหุ้นไว้
ผ่านไปสิบปี ราคาหุ้นขึ้นมาสิบเท่า
เพราะสถาบันการเงินของคาลิฟอร์เนียเล็กๆตายหมด
เหลือแค่ไม่กี่แบงค์เท่านั้นเอง
และWell Fargo ก็แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ
ก็อยากจะเปรียบเทียบกับ ITV หน่อย
ตรงที่ว่า ITV ยังไม่เคยทำกำไรได้เลย
ต่างจาก Well Fargo ที่มีกำไรและแข็งแกร่งมาโดยตลอด
ผมไม่แนะนำให้ซื้อหุ้น Turnaround หรอกครับ
นอกจากเราจะแน่ใจได้จริงๆว่า บริษัทฟื้นแล้วอย่างมั่นคง
พี่ชายผมซื้อหุ้น ATC ไว้ตอนที่บริษัทเริ่มมีกำไรเล็กน้อย
และยังถือมาอยู่จนทุกวันนี้
กำไรหลายสิบเท่าในเวลาไม่เท่าไหร่
ที่เขามั่นใจเพราะเขาทำงานในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีครับ
ส่วนท่านอื่นๆที่อยู่นอกวงการ
จะลองเสี่ยงกับ ITV บ้าง
ผมก็ไม่ห้ามครับ เพราะเรื่องอย่างนี้อยู่ที่ความพอใจส่วนตัว
สวัสดีครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 628
ดีครับช่วยกันคิดช่วยกันพูดเป็นข้อมูลและบทเรียนที่เป็นประโยชน์ในอนาคต
เหตุการลองของของผมครั้งนี้เกิดจากกรณี Well Fargoจริงๆครับ แต่สถานการณ์ต่างกันอย่างคุณวิบูลย์ชี้แจงไม่ผิดครับ
หากผมยึดเอาเหตุการที่เคยเกิดเป็นบรรทัดฐานผมคงไม่ลองของแน่นอน ผมเพียงนำเอาแนวคิดปัดฝุ่น ตีลังกาใช้ครับ แน่นอนเสี่ยงกว่าBuffettทำแน่นอน เพราะWell Fargo แกร่งกว่าจริงๆ ITVยังอีกไกล แต่ด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาข้อมูลแล้วโอกาสจะเกิดในมุมมองของผมสูงกว่าไม่เกิด(ไม่เกิดก็สูงครับ) จึงทำ Risk arbitrage อย่างน้อยผมจะได้Case Studyอีกหนึ่งCaseแน่นอนแล้วครับ ส่วนผลตอบแทนต้องดูว่าทำการครั้งนี้คาดการผิดมากน้อยอย่างไร
เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านและยังไม่มี ผมแนะนำให้นั่งดูที่Ring sideนะครับ แล้วผมจะเขียนCaseนี้ให้อ่านไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เหตุการลองของของผมครั้งนี้เกิดจากกรณี Well Fargoจริงๆครับ แต่สถานการณ์ต่างกันอย่างคุณวิบูลย์ชี้แจงไม่ผิดครับ
หากผมยึดเอาเหตุการที่เคยเกิดเป็นบรรทัดฐานผมคงไม่ลองของแน่นอน ผมเพียงนำเอาแนวคิดปัดฝุ่น ตีลังกาใช้ครับ แน่นอนเสี่ยงกว่าBuffettทำแน่นอน เพราะWell Fargo แกร่งกว่าจริงๆ ITVยังอีกไกล แต่ด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาข้อมูลแล้วโอกาสจะเกิดในมุมมองของผมสูงกว่าไม่เกิด(ไม่เกิดก็สูงครับ) จึงทำ Risk arbitrage อย่างน้อยผมจะได้Case Studyอีกหนึ่งCaseแน่นอนแล้วครับ ส่วนผลตอบแทนต้องดูว่าทำการครั้งนี้คาดการผิดมากน้อยอย่างไร
เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านและยังไม่มี ผมแนะนำให้นั่งดูที่Ring sideนะครับ แล้วผมจะเขียนCaseนี้ให้อ่านไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 629
เรื่องหุ้น turnaround ผมมองไว้ตัวหนึ่งครับ และ
ได้ซื้อไว้ด้วย เสียดายแต่ไม่สามารถทำตามแผน
ได้ตลอดรอดฝั่ง ขายไปเสียก่อน ไม่งั้นก็คงได้
5 ท่วมไปแล้วใน 6 เดือน
ตรง criteria ที่คุณวิบูลย์ว่ามาทุกอย่างครับ
1. เคยทำกำไรได้ดีในอดีต
2. เกิดวิกฤต ขาดทุนจนทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ
3. กลับมาทำกำไรได้แล้ว
4. อุตสาหกรรมผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และเกิดการโต
แบบก้าวกระโดด
ทีนี้ขอโยนคำถามกลับให้คุณวิบูลย์และคุณมนครับ
คิดอย่างไรกับประโยคที่ว่า
"เวลาขาย (หุ้น) อย่าดูต้นทุน"
ได้ซื้อไว้ด้วย เสียดายแต่ไม่สามารถทำตามแผน
ได้ตลอดรอดฝั่ง ขายไปเสียก่อน ไม่งั้นก็คงได้
5 ท่วมไปแล้วใน 6 เดือน
ตรง criteria ที่คุณวิบูลย์ว่ามาทุกอย่างครับ
1. เคยทำกำไรได้ดีในอดีต
2. เกิดวิกฤต ขาดทุนจนทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ
3. กลับมาทำกำไรได้แล้ว
4. อุตสาหกรรมผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และเกิดการโต
แบบก้าวกระโดด
ทีนี้ขอโยนคำถามกลับให้คุณวิบูลย์และคุณมนครับ
คิดอย่างไรกับประโยคที่ว่า
"เวลาขาย (หุ้น) อย่าดูต้นทุน"
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 630
ขายหุ้น ไม่ต้องดูต้นทุนหรอกครับ ดูพื้นฐานวันนี้กับในอนาคตว่าดีหรือไม่ดี ถ้าดีต่อเนื่องก็ถือต่อไป ถ้าไม่ดีจะด้วยเหตุผลอะไรก็ต้องพิจารณาก่อนว่าแก้ไขได้ไหม ถ้าแก้ได้ก็ไม่น่าขาย ดูหุ้นสุดโปรดของผมซิขายกันจังเลย