โพสต์
พิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว สื่อมวลชนไทยทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน์ ต่างพร้อมใจกันนำเสนอรายละเอียดพระราชพิธีที่เกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในรูปแบบต่าง ๆ นานา ทั้งข่าวเหตุการณ์ประจำวัน สารคดีเกี่ยวกับพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ ตลอดจนมีการจัดทำหน้าพิเศษขึ้น บ้างก็จัดทำออกมาในรูปเล่มพิเศษ เพื่อให้ประชาชนได้มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ครั้งนี้เก็บไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชมกันต่อไป ไม่เว้นแม้แต่สื่อต่างชาติก็ให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน
สื่อมวลชนจากต่างประ เทศต่างทยอยกันมาลงทะเบียนเข้าร่วมทำข่าวพระราชพิธีมาก ถึง 2,000 คน มีทั้งประเทศที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์และประเทศที่ไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ เกาะติดสถานการณ์ และรายงานข่าวกันอย่างถ้วนหน้า
สื่อยักษ์ใหญ่ อย่าง ซีเอ็นเอ็น ได้นำเสนอสารคดีพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเวลา 4 ชั่วโมง 16 นาที เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2549 ซึ่งเป็นวันที่สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และพระราชวงศ์ผู้แทนพระองค์ ทั้ง 25 ประเทศ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล โดยมีตอนหนึ่งระบุว่า ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ การณ์ความขัดแย้งขึ้นในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเข้ามาช่วยแก้ไขสถาน การณ์ทางการเมือง ยุติความขัดแย้งนำพาประเทศให้กลับมาเป็นปกติสุข มีการรายงานต่ออีกว่า ประเทศไทยมีการจัดงานเฉลิม ฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชยสมบัติ ครบ 60 ปี อย่างยิ่งใหญ่ และทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์นานที่สุดในโลก
ขณะที่ สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า คนไทยร่วมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งอาคาร บ้านเรือนต่างประดับประดาด้วยธงสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์ ด้านภาคธุรกิจและสถานเอกอัครราชทูตลงข้อความถวายพระพรตามหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่าง ๆ ในส่วนของจังหวัดต่าง ๆ พากันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งการประกอบพิธีทางศาสนา การแสดง คอนเสิร์ต นิทรรศการ การปลูกต้นไม้ รวมถึงจัดทำโครงการตามแนวพระราชดำริ อย่างโครงการเศรษฐกิจพอเพียง โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ การปล่อย พันธุ์ปลาต่าง ๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล นอกจากนั้นคนไทยทั้งประเทศยังร่วมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวัน พระราชสมภพ และสายข้อมือที่เขียนข้อความว่า เรารักพระเจ้าอยู่หัว
เอเอฟพี ยังระบุว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก อีกทั้งทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ มากมาย ทั้งในการช่วยเหลือผู้ยากไร้ และทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวไทยเมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง
ขณะเดียวกัน นิตยสารไทม์ ฉบับวันที่ 19 มิ.ย. 2006 ตีพิมพ์บทความเชิดชูพระเกียรติคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวชื่นชมทรงเป็นกษัตริย์ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสถาบันกษัตริย์ไม่ใช่เป็นเรื่องเทพนิยาย แต่ยังดำรงอยู่และมีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน ทรงเป็นพระประมุขผู้สร้างพลังสามัคคี นำพาประเทศเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง อย่างมั่นคง ผ่านปลายปากกาของ นายปิโก ไอเยอร์
ไทม์ ระบุว่า ในช่วง 25 ปี ที่ผ่านมา ประเทศที่ปกครองแบบสาธารณรัฐและประชาธิปไตยทั่วโลก มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 40 ชาติ เป็น 120 ชาติ ส่งผลให้สถาบันกษัตริย์ถูกมองว่าพ้นยุคพ้นสมัย และประชากรทั่วโลก เก้าในสิบคน มองว่าเรื่องกษัตริย์เป็นเหมือนเทพนิยาย แต่ในหลายชาติในเอเชีย สถาบันกษัตริย์ยังมีอยู่จริง มีบทบาท และดำรงอยู่อย่างมั่นคง ดังจะเห็นได้จากกรณีของพระมหากษัตริย์ไทย
พระมหากษัตริย์ไทยทรงมีบทบาทเป็นพระประมุขผู้สร้างสามัคคีภายในประเทศ ทรงนำพาประเทศผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่ ภายใต้การแสดงออกที่สะท้อนความหนักแน่น มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง ชาวไทยจัดงานเฉลิมฉลองการ ครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างยิ่งใหญ่ เป็นเวลา 5 วัน มีพระประมุขและพระราชวงศ์ร่วมถวายพระพรชัยมงคลจาก 25 ประเทศทั่วโลก
สื่อของ จอร์แดน นำเสนอภาพความประทับใจ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ สีหบัญชร และมีพระราชดำรัสต่อประชาชนชาวไทยที่ร่วมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี นับเป็นภาพที่สวยงามมากในสายตาของสื่อมวลชนต่างชาติ
สื่อมวลชนที่ไม่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่าง ประเทศจีน มี หนังสือพิมพ์ซินหัว เข้าร่วมรายงานข่าวในครั้งนี้ด้วยว่า ในงานเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี นั้น พระประมุข พระราชวงศ์ ผู้แทนพระองค์ จาก 25 ชาติ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมงานและทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธีอันยิ่งใหญ่เคลื่อนตัวไปตามลำน้ำเจ้าพระยา ซึ่ง เป็นภาพที่สวยงามและหาชมได้ยากนัก
สำนักข่าวทางการของจีน ยังนำเสนอพระราชดำรัสตอนหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาตีพิมพ์ มีใจความว่า
ข้าพเจ้าใคร่จะกล่าว แก่ทุกท่านว่า การทำนุบำรุงประเทศชาตินั้น มิใช่เป็นหน้าที่ของผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ หากเป็นภาระความรับผิดชอบของ คนไทยทุกคน ที่จะต้องขวนขวายกระทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อธำรงรักษาและพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญมั่นคงและผาสุกร่มเย็น ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง จึงมีภาระหน้าที่เช่นเดียวกันกับคนไทย ทั้งมวล จึงขอขอบใจทุก ๆ คนที่ต่างพยายามกระทำหน้าที่ของตนด้วยเต็มกำลังความสามารถ
ด้านสื่อเยอรมนี กล่าวว่า แม้ว่าประเทศของเขาไม่ได้ปกครองในระบอบกษัตริย์ แต่ก็ให้ความสนใจเดินทางมาทำข่าว การฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากประเทศไทยไม่เคย ตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกและมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น มายาวนานกับประเทศในยุโรป พร้อมกันนี้ประเทศไทยยังมีราชวงศ์ที่เข้มแข็ง และเป็นประเทศที่น่าภาคภูมิใจ ซึ่งนับได้ว่าไทยเป็นประเทศที่พัฒนามาก ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องในโอกาสพิเศษ นี้ได้สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา 60 ปี ถึงแม้ว่า มีเหตุ วุ่นวายเกิดขึ้นในประเทศ แต่ก็ ยุติลงได้นั่นอาจจะเป็นเพราะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรืออาจจะเป็นเพราะคนไทย โชคดีที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นกษัตริย์ของไทย
เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ทำให้พระนามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพล อดุลยเดช กึกก้องไปทั่วโลก.
ทีมวาไรตี้
บันทึกไม่สำเร็จ