ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 306
- ผู้ติดตาม: 0
ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักมาก
โพสต์ที่ 1
ผมทำธุรกิจขายสินค้าคงทนอยู่ต่างจังหวัด ก่อนหน้านี้ค้าขายดีออเดอร์เข้าวันละหลายรอบ แต่ช่วง 4 ปีมานี้ออเดอร์เริ่มลดลงเรื่อยๆและปีนี้เงียบสนิทเลยครับ อาศัยกินบุญเก่าใช้เงินที่เก็บสะสมในช่วงที่ค้าขายดีมาหมุนเวียนกิจการ เงินเก็บก็เริ่มลดลงเพราะรายจ่ายคงที่อาทิหนี้ธนาคารและเงินเดือนพนักงาน ถ้าเงียบแบบนี้ไปอีก 2 ปีเงินเก็บคงร่อยหรอ Supplier ที่ทำงานร่วมกันมาก็เจอสภาพเดียวกันกันหมด ธุรกิจอื่นๆของคนรู้จักที่ไม่ไช่สินค้าคงทนช่วงนี้ก็เงียบเหมือนกัน มีแต่คนบ่นอยากขายกิจการกันทั้งนั้น ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อยใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 2
ธุรกิจที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ กับธุรกิจจริง ธุรกิจ SMEs สถานการณ์ต่างอย่างสิ้นเชิง บางคนก็โทาการเมืองแบบนี้ รอเมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้ง บางก็บอกทำไมไม่ปรับตัว ทำไมไม่สู้ บางทีเทคโนโลยีมันเปลี่ยน เราปรับตัวกับมันหรือยัง เป็นกำลังใจให้ครับ
- neuhiran
- Verified User
- โพสต์: 815
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 3
ทศพร29 เขียน:ผมทำธุรกิจขายสินค้าคงทนอยู่ต่างจังหวัด ก่อนหน้านี้ค้าขายดีออเดอร์เข้าวันละหลายรอบ แต่ช่วง 4 ปีมานี้ออเดอร์เริ่มลดลงเรื่อยๆและปีนี้เงียบสนิทเลยครับ อาศัยกินบุญเก่าใช้เงินที่เก็บสะสมในช่วงที่ค้าขายดีมาหมุนเวียนกิจการ เงินเก็บก็เริ่มลดลงเพราะรายจ่ายคงที่อาทิหนี้ธนาคารและเงินเดือนพนักงาน ถ้าเงียบแบบนี้ไปอีก 2 ปีเงินเก็บคงร่อยหรอ Supplier ที่ทำงานร่วมกันมาก็เจอสภาพเดียวกันกันหมด ธุรกิจอื่นๆของคนรู้จักที่ไม่ไช่สินค้าคงทนช่วงนี้ก็เงียบเหมือนกัน มีแต่คนบ่นอยากขายกิจการกันทั้งนั้น ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อยใจ
ผมขออนุญาติแนะนำนะครับ ให้หาช่องทางขายสินค้ากับภาครัฐ อีกหนึ่งช่องทาง จะดีกว่านะเพราะว่า 1. เก็บเงินได้แน่นอน 2.รัฐเพิ่มงบประมาณทุกปี
สู้ๆๆนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 77
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 4
ผมเองก็ทำธุรกิจอยู่ต่างจังหวัดครับ ยอดขายก็ลดลงเช่นกันครับ ทำเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์และซ่อมบำรุง สินค้าพวกนี้เป็นสินค้าที่ต้องใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ ยอดก็ตกลงครับ
แต่ผมว่า ที่ยอดขายตกลงนี่ เกิดจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างรวมกันครับ คงไม่ใช่แค่ว่า GDP กระจุกกับส่งออกและท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว หรือ ราคาสินค้าเกษตรไม่ดี หลายปัจจัยล้วนเกี่ยวข้องกัน
- คู่แข่งที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากtrend ที่คนไม่อยากเป็นลูกจ้าง อยากทำธุรกิจส่วนตัว ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กมีคู่แข่งอย่างมหาศาล
- การมาของรายใหญ่ ตัวอย่างนี้ชัดมากครับ กับธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง ร้านmodern tradeก่อสร้างที่เปิดมากขึ้นในต่างจังหวัด ทำให้ร้านเดิมขายได้น้อยลง ที่สำคัญ คือ ยอดขายต่อบิลน้อยลง
- internet ผมว่าสำคัญมากที่สุด และจะค่อยๆ เปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตเรา ตอนนี้ แม้กระทั่งธุรกิจบริการยังถูกไล่ล่าด้วยสินค้าออนไลน์ครับ เช่น ซื้อยางรถยนต์จากonline มาเปลี่ยน กับอู่ที่ให้บริการ
ส่วนตัวผมเอง คิดว่า เราเองต้อง changeและพัฒนาอย่างตลอดเวลาครับ หากจะอยู่ในการแข่งขัน
แต่ผมว่า ที่ยอดขายตกลงนี่ เกิดจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างรวมกันครับ คงไม่ใช่แค่ว่า GDP กระจุกกับส่งออกและท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว หรือ ราคาสินค้าเกษตรไม่ดี หลายปัจจัยล้วนเกี่ยวข้องกัน
- คู่แข่งที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากtrend ที่คนไม่อยากเป็นลูกจ้าง อยากทำธุรกิจส่วนตัว ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กมีคู่แข่งอย่างมหาศาล
- การมาของรายใหญ่ ตัวอย่างนี้ชัดมากครับ กับธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง ร้านmodern tradeก่อสร้างที่เปิดมากขึ้นในต่างจังหวัด ทำให้ร้านเดิมขายได้น้อยลง ที่สำคัญ คือ ยอดขายต่อบิลน้อยลง
- internet ผมว่าสำคัญมากที่สุด และจะค่อยๆ เปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตเรา ตอนนี้ แม้กระทั่งธุรกิจบริการยังถูกไล่ล่าด้วยสินค้าออนไลน์ครับ เช่น ซื้อยางรถยนต์จากonline มาเปลี่ยน กับอู่ที่ให้บริการ
ส่วนตัวผมเอง คิดว่า เราเองต้อง changeและพัฒนาอย่างตลอดเวลาครับ หากจะอยู่ในการแข่งขัน
-
- Verified User
- โพสต์: 138
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 5
เทรนคนรุ่นใหม่ไม่นิยมหาอะไหล่ข้างนอกด้วยครับ ขับอย่างเดียวเสียเรียกศุนย์ ศูนย์ก็จะให้ข้อมูลว่า ให้ทำที่ศูนย์นะทำข้างนอกจะพัง ถ้าเงินถึงผมก็อยากเปิดศูนย์รถบางเจ้าเลยครับX-man เขียน:ผมเองก็ทำธุรกิจอยู่ต่างจังหวัดครับ ยอดขายก็ลดลงเช่นกันครับ ทำเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์และซ่อมบำรุง สินค้าพวกนี้เป็นสินค้าที่ต้องใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ ยอดก็ตกลงครับ
แต่ผมว่า ที่ยอดขายตกลงนี่ เกิดจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างรวมกันครับ คงไม่ใช่แค่ว่า GDP กระจุกกับส่งออกและท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว หรือ ราคาสินค้าเกษตรไม่ดี หลายปัจจัยล้วนเกี่ยวข้องกัน
- คู่แข่งที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากtrend ที่คนไม่อยากเป็นลูกจ้าง อยากทำธุรกิจส่วนตัว ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กมีคู่แข่งอย่างมหาศาล
- การมาของรายใหญ่ ตัวอย่างนี้ชัดมากครับ กับธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง ร้านmodern tradeก่อสร้างที่เปิดมากขึ้นในต่างจังหวัด ทำให้ร้านเดิมขายได้น้อยลง ที่สำคัญ คือ ยอดขายต่อบิลน้อยลง
- internet ผมว่าสำคัญมากที่สุด และจะค่อยๆ เปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตเรา ตอนนี้ แม้กระทั่งธุรกิจบริการยังถูกไล่ล่าด้วยสินค้าออนไลน์ครับ เช่น ซื้อยางรถยนต์จากonline มาเปลี่ยน กับอู่ที่ให้บริการ
ส่วนตัวผมเอง คิดว่า เราเองต้อง changeและพัฒนาอย่างตลอดเวลาครับ หากจะอยู่ในการแข่งขัน
- SawScofield
- Verified User
- โพสต์: 236
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 6
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลความจริงครับ
Respect, Persistence then Deserve
- KentaII
- Verified User
- โพสต์: 382
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 7
การทำธุรกิจที่เป็นลักษณะพ่อค้าคนกลาง นับวันจะถูกบีบขึ้นเรื่อยๆ ครับ จากเทคโนโลยีการสื่อสารที่พัฒนามากขึ้น ทำให้การ sourcing ของลูกค้าทำได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งคงเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร พ่อค้า SME ในปัจจุบันส่วนใหญ่เหนื่อยหมดครับ ขนาดรายกลางยังเหนื่อย จะให้ธุรกิจเดิมอยู่รอดก็ต้องปรับตัวหา business model ใหม่ๆ ขึ้นมารองรับอันเก่าที่กำลังถดถอยลง
หรือไม่งั้นถ้ามันกินบุญเก่า ทำแล้วขาดทุนก็คงต้องเลิกทำ แล้วหารายได้จากทางอื่นทดแทน ครับ
หรือไม่งั้นถ้ามันกินบุญเก่า ทำแล้วขาดทุนก็คงต้องเลิกทำ แล้วหารายได้จากทางอื่นทดแทน ครับ
ผู้ใดบอกว่าตัวเองเป็น "แมงเม่า" เขาผู้นั้นมักไม่ใช่แมงเม่า...แต่ผู้ใดบอกว่าตัวเองเป็น "เซียน" เขาผู้นั้น จะกลายเป็น แมงเม่าในไม่ช้า เพราะเขา "หยุดพัฒนาตนเอง"
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 8
E-motion มาก่อนเหตุผล สำหรับกลุ่มผู้ซื้อ
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป จากเดิม ที่เลือกด้วยเหตุและผล แต่เดียวนี้ เพือนมีเราก็มีบ้าง
ใช้เงินในอนาคต แบบว่ายังไม่ออกเลย ใช้ก่อนแล้ว ไม่คิดว่า เวลาจ่ายมีเงินจ่ายหรือไม่
ส่วนผู้ขาย จากเดิมที่เป็น Physical แต่กลายเป็นว่า Physical เอาไว้ แสดงสินค้าให้จับๆ ลองๆ
แล้วไปขายที่ Online คิดว่า สินค้าของเราก็ขายเหมือนกัน ทั้ง Physical และ online
แต่อย่างไรเสีย Physical ก็ยังอยู่ ไม่ใช่ว่า ไป Online ทั้งหมด แต่ แค่บางสินค้าเท่านั้น
ตอนนี้ที่ซื้อ online ไม่ได้ คือ เหล็กปูนหิน พวกนี้ยังต้อง Physical อยู่ แต่ปัญหาของพวกนี้คือ รายใหญ่กำลังชนะเด็ดขาดเหมือนครั้นที่ ร้านสะดวกซื้อไล่บี้ ร้ายโชห่วย ให้ถอยรนไปเรื่อย ร้านโชห่วยก็ไม่ตาย แต่คนรุ่นใหม่ไม่อยากทำ
ถ้ามุมมองของรัฐ คือ คืนพื้นที่ให้แก่ประชาชนทั่วไป คืนทางเดินเท้าให้แก่ประชาชน ให้เดินสะดวก
แล้วคนขายก็ไปเช่าพื้นที่ของห้างเอกชน ที่ร้างเอง หรือเลิกเลย นั้นเอง
อันนี้มีตัวอย่างเช่น คลองโอ่งอ่าง/สะพานเหล็ก คลองถม หน้าห้างลาดพร้าว แต่ไปห้างแล้วดันเจอเจอะปัญหาว่าคนไม่เดิน อันนี้สุดท้ายก็ตาย อีก
คำถามต่อไปที่น่าถามคือ ในเมืองเป็น Physical และ Online ควบคู่กันไป หน้าร้านมิใช่แหล่งที่ขายจริง แต่เป็น online ที่ขายจริงทดแทน แล้วนักลงทุนปรับตัวอย่างไร
บอกก่อนว่า Online มิใช่กินได้ 100% ของตลาด ตลาด online มิใช่เริ่มต้นมา วันสองวันและเริ่มมา 10 กว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่ก่อนปี 2000 ก็ได้ยินข่าวกันเรื่อยมา แต่กระแสมันมาช่วงนี้
กระแสมันคือ E-motion นั้นเอง ซึ่งทำให้เกิดความกลัว ความกลัว นั้นคือ เครื่องมือหนึ่งในการปกครองตามหลักรัฐศาสตร์ แต่เกมนี้มีผู้ที่ได้ผลประโยชน์ และเสียผลประโยชน์
อีกอย่างเรื่อง ทั้งหมด เกิดจากจุดเริ่มต้นคือ ปี 2008 ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ลองไปดูกันดีๆละกัน
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป จากเดิม ที่เลือกด้วยเหตุและผล แต่เดียวนี้ เพือนมีเราก็มีบ้าง
ใช้เงินในอนาคต แบบว่ายังไม่ออกเลย ใช้ก่อนแล้ว ไม่คิดว่า เวลาจ่ายมีเงินจ่ายหรือไม่
ส่วนผู้ขาย จากเดิมที่เป็น Physical แต่กลายเป็นว่า Physical เอาไว้ แสดงสินค้าให้จับๆ ลองๆ
แล้วไปขายที่ Online คิดว่า สินค้าของเราก็ขายเหมือนกัน ทั้ง Physical และ online
แต่อย่างไรเสีย Physical ก็ยังอยู่ ไม่ใช่ว่า ไป Online ทั้งหมด แต่ แค่บางสินค้าเท่านั้น
ตอนนี้ที่ซื้อ online ไม่ได้ คือ เหล็กปูนหิน พวกนี้ยังต้อง Physical อยู่ แต่ปัญหาของพวกนี้คือ รายใหญ่กำลังชนะเด็ดขาดเหมือนครั้นที่ ร้านสะดวกซื้อไล่บี้ ร้ายโชห่วย ให้ถอยรนไปเรื่อย ร้านโชห่วยก็ไม่ตาย แต่คนรุ่นใหม่ไม่อยากทำ
ถ้ามุมมองของรัฐ คือ คืนพื้นที่ให้แก่ประชาชนทั่วไป คืนทางเดินเท้าให้แก่ประชาชน ให้เดินสะดวก
แล้วคนขายก็ไปเช่าพื้นที่ของห้างเอกชน ที่ร้างเอง หรือเลิกเลย นั้นเอง
อันนี้มีตัวอย่างเช่น คลองโอ่งอ่าง/สะพานเหล็ก คลองถม หน้าห้างลาดพร้าว แต่ไปห้างแล้วดันเจอเจอะปัญหาว่าคนไม่เดิน อันนี้สุดท้ายก็ตาย อีก
คำถามต่อไปที่น่าถามคือ ในเมืองเป็น Physical และ Online ควบคู่กันไป หน้าร้านมิใช่แหล่งที่ขายจริง แต่เป็น online ที่ขายจริงทดแทน แล้วนักลงทุนปรับตัวอย่างไร
บอกก่อนว่า Online มิใช่กินได้ 100% ของตลาด ตลาด online มิใช่เริ่มต้นมา วันสองวันและเริ่มมา 10 กว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่ก่อนปี 2000 ก็ได้ยินข่าวกันเรื่อยมา แต่กระแสมันมาช่วงนี้
กระแสมันคือ E-motion นั้นเอง ซึ่งทำให้เกิดความกลัว ความกลัว นั้นคือ เครื่องมือหนึ่งในการปกครองตามหลักรัฐศาสตร์ แต่เกมนี้มีผู้ที่ได้ผลประโยชน์ และเสียผลประโยชน์
อีกอย่างเรื่อง ทั้งหมด เกิดจากจุดเริ่มต้นคือ ปี 2008 ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ลองไปดูกันดีๆละกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 494
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 9
ธุรกิจที่ผมทำอยู่ยังไปได้ดี ในขณะคู่แข่งลูกค้าลด(จริงๆผมไปแข่งเขา เพราะผมมาทีหลัง) ผมว่าน่าจะเกิดจาก การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคเปล่าครับ ลองปรับตัวหากลยุทธใหม่ดู หรืออย่าอยู่กับที่ในขณะคนอื่นเขาวิ่งกัน
อย่าไปมองว่าเศรษฐกิจไม่ดี หรือ กำลังซื้อหาย ให้นึกว่า งานศพข้าวต้มยังขายได้ นะครับ
สู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
อย่าไปมองว่าเศรษฐกิจไม่ดี หรือ กำลังซื้อหาย ให้นึกว่า งานศพข้าวต้มยังขายได้ นะครับ
สู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 10
ธุรกิจช่วงนี้ เหนื่อยจริง เท่าที่ขับรถสำรวจหลายๆจังหวัด พร้อม จินตนาการว่าเกิดอะไรขึ้น
1. ภาคเกษตร สาหัส ราคาเกษตรไม่ดีสักอย่าง ยกเว้นผลไม้บางชนิด
2. แรงงานต่างชาติ อย่างเยอะ พวกนี้ อนาคตเขาอยู่ที่ประเทศเขา ไม่เอาเงินมาใช้อะไรมากกว่า ค่ากินอยู่ไปวันๆ
3. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ของคนกลุ่มอายุ 35-60 ปี กลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงสุด และปรับตัวได้ดีสุด ไวต่อข่าว
สารมากสุด คิดถึง อนาคตมากสุด ภาระเยอะสุด ในภาวะอย่างนี้อย่างนี้กลุ่มนี้ ลดการใช้จ่ายลงแทบ ทั้งนั้น
4.ตลาดโดยทั่วไปขึ้นอยู่บน internet หมดแล้ว รวมทั้งพวก second hand ด้วย ถ้าไม่เด็ดจริง(หมายถึง ราคาจะถูก
อ้างอิงจากราคาใน internet อย่างมีนัยยะ) อยู่ยาก
5. การส่งต่อพฤติกรรมการซื้อ หรือ ใช้บริการ ของคนรุ่น ต่อๆ ไป มีแนวโน้นจะเสร็จยักษ์ใหญ่ เป็นต้นว่าถ้าเป็นรถ
ก็เข้าศูนย์ ถ้าเป็นค้าปลีกส่งก็ makro อะไรประมาณนี้ ร้านค้าแบบดั้งเดิมอยู่ยาก
เท่าที่คิดได้ก็ประมาณนี้ ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รัฐมีส่วนอย่างมากในการจักสรร ทรัพยากร อย่างเท่าทัน และเป็นธรรม ซึ่งไม่น่าเกิด
ขึ้นได้ ณ ห้วงเวลาแบบนี้
1. ภาคเกษตร สาหัส ราคาเกษตรไม่ดีสักอย่าง ยกเว้นผลไม้บางชนิด
2. แรงงานต่างชาติ อย่างเยอะ พวกนี้ อนาคตเขาอยู่ที่ประเทศเขา ไม่เอาเงินมาใช้อะไรมากกว่า ค่ากินอยู่ไปวันๆ
3. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ของคนกลุ่มอายุ 35-60 ปี กลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงสุด และปรับตัวได้ดีสุด ไวต่อข่าว
สารมากสุด คิดถึง อนาคตมากสุด ภาระเยอะสุด ในภาวะอย่างนี้อย่างนี้กลุ่มนี้ ลดการใช้จ่ายลงแทบ ทั้งนั้น
4.ตลาดโดยทั่วไปขึ้นอยู่บน internet หมดแล้ว รวมทั้งพวก second hand ด้วย ถ้าไม่เด็ดจริง(หมายถึง ราคาจะถูก
อ้างอิงจากราคาใน internet อย่างมีนัยยะ) อยู่ยาก
5. การส่งต่อพฤติกรรมการซื้อ หรือ ใช้บริการ ของคนรุ่น ต่อๆ ไป มีแนวโน้นจะเสร็จยักษ์ใหญ่ เป็นต้นว่าถ้าเป็นรถ
ก็เข้าศูนย์ ถ้าเป็นค้าปลีกส่งก็ makro อะไรประมาณนี้ ร้านค้าแบบดั้งเดิมอยู่ยาก
เท่าที่คิดได้ก็ประมาณนี้ ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รัฐมีส่วนอย่างมากในการจักสรร ทรัพยากร อย่างเท่าทัน และเป็นธรรม ซึ่งไม่น่าเกิด
ขึ้นได้ ณ ห้วงเวลาแบบนี้
Way of life is way of brain
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 11
KentaII เขียน:การทำธุรกิจที่เป็นลักษณะพ่อค้าคนกลาง นับวันจะถูกบีบขึ้นเรื่อยๆ ครับ จากเทคโนโลยีการสื่อสารที่พัฒนามากขึ้น ทำให้การ sourcing ของลูกค้าทำได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งคงเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร พ่อค้า SME ในปัจจุบันส่วนใหญ่เหนื่อยหมดครับ ขนาดรายกลางยังเหนื่อย จะให้ธุรกิจเดิมอยู่รอดก็ต้องปรับตัวหา business model ใหม่ๆ ขึ้นมารองรับอันเก่าที่กำลังถดถอยลง
หรือไม่งั้นถ้ามันกินบุญเก่า ทำแล้วขาดทุนก็คงต้องเลิกทำ แล้วหารายได้จากทางอื่นทดแทน ครับ
โลกไม่ได้กลมอีกต่อไป ตอนนี้มันแบน โรงงานขายตรงกับผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นด้วยคับ
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 12
คิดเหมือนกันครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ จขกท.
ตอนนี้ หลักการเล่นหุ้นผม ยิ่งต้องplay safeไว้ก่อนครับ ไม่ขาดทุนไว้ก่อนดีที่สุด
เงินทองกว่าจะหามาได้ ยากเย็นเหลือเกิน
ความรู้สึกผม เศรษฐกิจตอนนี้เหมือนวงไพ่ที่เจ้ามือที่มีเงินเยอะสุด ลุกออกจากวง แล้วคนในวงต้องกินเงินกันเอง ด้วยจำนวนเงินที่น้อยลง....
ตอนนี้ หลักการเล่นหุ้นผม ยิ่งต้องplay safeไว้ก่อนครับ ไม่ขาดทุนไว้ก่อนดีที่สุด
เงินทองกว่าจะหามาได้ ยากเย็นเหลือเกิน
ความรู้สึกผม เศรษฐกิจตอนนี้เหมือนวงไพ่ที่เจ้ามือที่มีเงินเยอะสุด ลุกออกจากวง แล้วคนในวงต้องกินเงินกันเอง ด้วยจำนวนเงินที่น้อยลง....
You only live once, but if you do it right, once is enough.
- mongkol
- Verified User
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 13
555 เห็นภาพเลยครับ ชอบๆromee เขียน:คิดเหมือนกันครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ จขกท.
ตอนนี้ หลักการเล่นหุ้นผม ยิ่งต้องplay safeไว้ก่อนครับ ไม่ขาดทุนไว้ก่อนดีที่สุด
เงินทองกว่าจะหามาได้ ยากเย็นเหลือเกิน
ความรู้สึกผม เศรษฐกิจตอนนี้เหมือนวงไพ่ที่เจ้ามือที่มีเงินเยอะสุด ลุกออกจากวง แล้วคนในวงต้องกินเงินกันเอง ด้วยจำนวนเงินที่น้อยลง....
เจ้ามือ (คนรวย) น่าจะไปเล่นวงอื่น ที่ดึงดูดกว่า... ขาเล็กๆ เลยอยู่ลำบาก
GDP มันวัดได้ แบบรวมๆ ทั้งเจ้ามือ แล้วก็ ขาเล็ก ขาน้อย เลขเลยยังสวยอยู่
รวยกระจุก จนกระจาย sme สายป่านสั้น อยู่ยากครับ
แก่นแท้ คือ "ความว่าง" นี่เอง
-
- Verified User
- โพสต์: 152
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 14
หลายท่านมองข้ามภาครัฐ คิดแต่ว่าขอแค่การเมืองนิ่งเอกชนก็ไปได้เองเรื่อยๆ แต่จริงๆภาครัฐมีส่วนอย่างมาก เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การส่งเสริมรายย่อยเช่นจัดงานแสดงสินค้าที่ราคาออกร้านต่ำๆ การโรดโชว์ชวนผู้ประกอบการรายย่อยไปต่างประเทศ การช่วยเหลือร้านค้าขายปลีกรายย่อยด้วยมาตรการต่างๆ (ช่วยแบบจริงๆไม่ใช่ออกเช็คช่วยชาติ แล้วก็ชี้หน้าบอกร้านนอกห้างว่าก็ดันไม่ยอมทำภาษีให้ถูกต้องเอง) เหล่านี้ถ้ารัฐไม่เข้ามาทำแมวที่ไหนจะทำ (แต่ไม่ได้หมายถึงว่ารัฐบาลนี้ไม่ทำนะครับ อย่าการเมือง แหะ แหะ)surapol เขียน:ธุรกิจช่วงนี้ เหนื่อยจริง เท่าที่ขับรถสำรวจหลายๆจังหวัด พร้อม จินตนาการว่าเกิดอะไรขึ้น
1. ภาคเกษตร สาหัส ราคาเกษตรไม่ดีสักอย่าง ยกเว้นผลไม้บางชนิด
2. แรงงานต่างชาติ อย่างเยอะ พวกนี้ อนาคตเขาอยู่ที่ประเทศเขา ไม่เอาเงินมาใช้อะไรมากกว่า ค่ากินอยู่ไปวันๆ
3. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ของคนกลุ่มอายุ 35-60 ปี กลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงสุด และปรับตัวได้ดีสุด ไวต่อข่าว
สารมากสุด คิดถึง อนาคตมากสุด ภาระเยอะสุด ในภาวะอย่างนี้อย่างนี้กลุ่มนี้ ลดการใช้จ่ายลงแทบ ทั้งนั้น
4.ตลาดโดยทั่วไปขึ้นอยู่บน internet หมดแล้ว รวมทั้งพวก second hand ด้วย ถ้าไม่เด็ดจริง(หมายถึง ราคาจะถูก
อ้างอิงจากราคาใน internet อย่างมีนัยยะ) อยู่ยาก
5. การส่งต่อพฤติกรรมการซื้อ หรือ ใช้บริการ ของคนรุ่น ต่อๆ ไป มีแนวโน้นจะเสร็จยักษ์ใหญ่ เป็นต้นว่าถ้าเป็นรถ
ก็เข้าศูนย์ ถ้าเป็นค้าปลีกส่งก็ makro อะไรประมาณนี้ ร้านค้าแบบดั้งเดิมอยู่ยาก
เท่าที่คิดได้ก็ประมาณนี้ ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รัฐมีส่วนอย่างมากในการจักสรร ทรัพยากร อย่างเท่าทัน และเป็นธรรม ซึ่งไม่น่าเกิด
ขึ้นได้ ณ ห้วงเวลาแบบนี้
เห็นด้วยกับท่านอย่างมากกว่าการจัดสรรทรัพยากรให้กับผู้ประกอบการอย่างเป็นธรรมจะช่วยเอื้อให้รายย่อยอยู่รอด
หลายปีแล้วที่รัฐบาลยุคหลังๆเอาใจนายห้างมากจนหลายๆท่านนึกว่ารัฐบาลใจดี แต่จริงๆคือทำให้รายย่อยค่อยๆตายต่างหาก
ถ้าอยากให้ร้านค้าย่อยๆเข้าระบบภาษีมีอีกหลายวิธีที่สามารถดึงเค้าเข้ามา แล้วก็ช่วยจัดเก็บภาษีแบบเห็นใจกันด้วยครับ
ค่าทำบัญชีสำหรับร้านเล็กๆแพงนะครับ รัฐน่าจะช่วยเหลือตรงนี้กันบ้าง
คนสมัยนี้คิดว่าดีสิพ่อค้าคนกลางจะได้หมดไป เกลียดพ่อค้าคนกลางกันมาก
ประเดี๋ยวพอเหลือแต่รายใหญ่ขายตรงจะร้องไม่ออก
ลองนึกภาพสินค้าต่างๆที่ไม่ต้องพึ่งคนอื่นในการขายของ เค้าจะมีพลังในการกำหนดราคาแค่ไหน อย่าไปนึกว่าเค้าจะขายถูกเพราะไม่ต้องแบ่งพ่อค้าคนกลาง ผิดมหันต์เลย
ไปดูญี่ปุ่นครับ บริษัทเล็กๆน้อยๆเยอะมากจริงๆ สากะเบือยันเรือรบ เค้าส่งเสริมกันจริงจัง ไม่ใช่ตัดตอนให้เหลือแต่เจ้าสัวเหมือนในไทย
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยทั้งหลาย พวกท่านเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจเกิดการกระจายตัวอย่างแท้จริง คนจบมอสาม มอหก ปวช จบมหาลัยไม่ดัง ได้มีงานเลี้ยงดูพ่อแม่ ลูกเมีย ก็เพราะมีงานจากบริษัทพวกท่านเนี่ยแหละครับ ขออวยพรจากใจเลยครับ
เราจะรวยแร้วววววววววว
-
- Verified User
- โพสต์: 300
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำธุรกิจช่วงนี้เหนื่อใจมากเลยครับ 4 ปีมานี้ยอดขายตกหนักม
โพสต์ที่ 15
ถ้าเปรียบประเทศเป็นบริษัท ผู้นำประเทศก็เหมือนผู้บริหารบริษัท ซึ่งปรกติผู้บริหารมืออาชีพก็มีความสามารถต่างกันอยู่แล้ว บริษัทจะเจริญก้าวหน้าได้ต่อเมื่อมีผู้บริหารที่"ใช่" แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ รปภ. ลุกขึ้นมาขอบริหารเอง ผลที่ตามมาย่อมคาดเดาได้อยู่แล้ว นี่ผมพูดในเชิงธุรกิจนะครับ การเมืองไม่เกี่ยว