#อีกหนึ่งวิกฤตของค้าปลีกอเมริกา - Bed Bath & Beyond (BBBY)
การเรียนรู้โมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาลงจะช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกหุ้นได้ประสบความสำเร็จมากขึ้น
วันนี้เรามาทำความรู้จัก Bed Bath & Beyond (BBBY) กันดีกว่า
BBBY ถูกก่อตั้งในปี 1971 โดยนาย Warren Eisenberg เป็นร้านค้าปลีกขายอุปกรณ์ตกแต่งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องอาหาร ยอดขาย 400,000 ล้านบาทต่อปี เป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ใน Fortune 500
ปัจจุบันมีร้านค้าทั้งหมด 1,530 สาขาใน 50 รัฐของอเมริกาและสาขาในแคนนาดา
#แล้วเกิดอะไรขึ้นกับบริษัท ทำให้ราคาหุ้นลดลงไปถึง 56% จากต้นปี 2017?
สาเหตุหลักที่ราคาหุ้นลดลงไปเยอะขนาดนั้นคงหนีไม่พ้นกำไรสุทธิที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญเนื่องด้วยเหตุผลสองประการดังนี้
1. บริษัทได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจาก Amazon แม้ว่าบริษัทจะพยายามปรับตัวโดยขยายช่องทางการขายอีคอมเมิร์ซ แต่ด้วยขนาดและความสามารถในการแข่งขันเปรียบเทียบกับ Amazon แล้วก็ยังไม่สามารถต่อสู้ได้
2. ต้นทุนสินค้าและค่าใช้จ่ายทางการขายและการตลาดตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้จึงทำให้กำไรสุทธิลดลงถึง 18.5% ในปี 2017 (จาก 841 ล้านดอลล่าร์ลงมาเป็น 685 ล้านดอลล่าร์ในปี 2017)
สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือโมเดลธุรกิจค้าปลีกได้รับผลกระทบโดยตรงจากอีคอมเมิร์ซเป็นอย่างมาก หลายๆกิจการทยอยตัวปิดตัวลง เช่น Sears Kmart ToysRus เป็นต้น
ดังนั้นนักลงทุนต้องหมั่นติดตามผลดำเนินงานของธุรกิจอย่างสม่ำเสมอเพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากปัจจัยภายนอกว่ารุนแรงแค่ไหน เป็นผลกระทบชั่วคราวหรือเป็นผลกระทบแบบถาวรเพื่อปรับกลยุทธ์ในการลงทุนครับ