ธุรกิจอะไรที่คาดว่าน่าจะมาแรงในอนาคต

เสาร์ มิ.ย. 17, 2006 12:47 pm

อยากทราบความเห็นจากเพื่อนๆในบอร์ดนี้ว่าธุรกิจอะไรที่น่าจะมาแรงในอนาคต...

:D :D

ที่ผมสังเกตุเห็นในปัจจุบันก็มี Spa, Fitness, Heathty food, Insurance และที่เกี่ยวข้องกับ hi-speed internet นี่แหละที่มาแรงและยังพอมี room ให้เติบโตได้อีกโดยเฉพาะสำหรับชีวิตคนเมือง... :lol: :lol: :lol:

ส่วนในอนาคตน่าจะเป็นพวก service apartment, car rent, health care service ทั้งหลาย, พวกตู้น้ำดื่ม เป็นต้น...

:shock: :shock:

ไม่ทราบว่าใครมีความเห็นแตกต่างบ้าง...อยากรวบรวมความคิดหลายๆคนไว้ไปประมวลเป็นความรู้...

:roll: :roll:

เสาร์ มิ.ย. 17, 2006 7:49 pm

ผมว่าธุระกิจ

ที่ขายความฝัน ความรวย

จะรุ่งคับ

เสาร์ มิ.ย. 17, 2006 7:58 pm

ผมเสียดายช่วงเหล็กโลกกำลังขึ้นราคาครับ
ถ้าเมืองไทยไม่เป็นแบบนี้ ผมว่าน่าจะดีครับ
8)

เสาร์ มิ.ย. 17, 2006 10:43 pm

ยางครับ
ฝนตกหนักอย่างนี้ ต้องยางแน่นอน

เสาร์ มิ.ย. 17, 2006 11:39 pm

ธุรกิจเกี่ยวกับ รัก โลภ โกรธ หลง ครับ

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 12:07 am

ธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับคอมพิวเตอร์
คนขายคอม
คนวางระบบคอม
คนที่ใช้คอมเพื่อให้บริการ เช่น พวกกลุ่ม solution provider
ธุรกิจโต เค้กโต แต่ต้องดูด้วยว่ามีคนแย่งเค้กเพิ่มขึ้นด้วยรึเปล่า ..
ธุรกิจอาจจะโตแต่คู่แข่งเยอะ บริษัทก็ไม่น่าสนใจ

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 3:51 pm

hi speed internet, รับจ้างวางระบบคอม ถือว่าเป็นธุรกิจดาดๆครับ ใครๆก็ทำได้ซึ่งจะแข่งขันตัดราคากัน

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 4:38 pm

ผมว่า ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆครับ
ตรงนี้รวมถึง Healthcare, spa, fitness, supplementary food, healthy food, และรวมถึงพวก Biotech และ life science ครับ

ส่วนเมืองไทยจะทำได้ดีแค่ไหน หรือจะไปสู้เขาตรงไหนได้บ้าง อันนี้ผมไม่รู้ ที่พูดมาหมายถึง global trend เลย

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 4:41 pm

ถ้าจะเอาธุรกิจที่เกี่ยวกับ รัก โลภ โกรธ หลง เนี่ย
ลงทุนในกิเลส ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้เลยครับ

http://www.amazon.com/gp/product/031232 ... e&n=283155

"Investing in Vice" by Dan Ahrens ครับ

พูดถึงการเลือกลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับ น้ำเมา บุหรี่ การพนัน และธุรกิจบันเทิงสำหรับผุ้ใหญ่ครับ

หึหึ 8)

บอกแล้ว ให้เอารัชดาเข้าตลาด พร้อมกับเบียร์ช้างไปเลย

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 4:43 pm

Muffin เขียน:ถ้าจะเอาธุรกิจที่เกี่ยวกับ รัก โลภ โกรธ หลง เนี่ย
ลงทุนในกิเลส ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้เลยครับ

http://www.amazon.com/gp/product/031232 ... e&n=283155

"Investing in Vice" by Dan Ahrens ครับ

พูดถึงการเลือกลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับ น้ำเมา บุหรี่ การพนัน และธุรกิจบันเทิงสำหรับผุ้ใหญ่ครับ

หึหึ 8)

บอกแล้ว ให้เอารัชดาเข้าตลาด พร้อมกับเบียร์ช้างไปเลย

เหอๆ รู้นะว่าธุรกิจอะไร :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: :twisted: :twisted:

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 5:02 pm

ธุรกิจเกี่ยวกับ Logistics น่าจะมีความสำคัญมากในอนาคตนะครับ
ที่ต่างประเทศทำมานานแล้ว ในเมืองไทย ต้นทุนสินค้า 100 บาท
เป็นค่าขนส่งซะ 20-30 บาทเข้าไปแล้ว ยิ่งในยุคน้ำมันแพงแบบนี้
ถ้าลดส่วนนี้ลงได้ ก็จะเพิ่มกำไรได้อีกมาก

ตอนนี้ที่ทำกันจริงจังก็คงมีแต่พวกค้าปลีก BIGC Lotus 7-11 ซึ่งทำกันเอง
ภายในบริษัท นอกนั้นก็ยังไม่เห็นชัดเจน อนาคตน่าจะมีบริษัทที่รับดูแลจัดการ
เรื่องนี้โดยเฉพาะ เท่าที่เห็นน่าสนใจคงเป็น Cement Thai Logistics: CTL
ไม่รู้จะเข้าตลาดรึเปล่า เห็นเริ่มรับจัดการให้บริษัทภายนอกด้วย เช่น shell
SSC เห็นว่าตอนนี้จะปรับธุรกิจมาให้บริการกระจายสินค้าเพิ่มขึ้น ก็น่าจะ work นะ WIN-WIN solution
TICON บอกจะทำ Logistics park ไม่รู้คืออะไร

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 6:20 pm

[quote="uI7J3w"][quote="Muffin"]ถ้าจะเอาธุรกิจที่เกี่ยวกับ รัก โลภ โกรธ หลง เนี่ย
ลงทุนในกิเลส ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้เลยครับ

http://www.amazon.com/gp/product/031232 ... e&n=283155

"Investing in Vice" by Dan Ahrens ครับ

พูดถึงการเลือกลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับ น้ำเมา บุหรี่ การพนัน และธุรกิจบันเทิงสำหรับผุ้ใหญ่ครับ

หึหึ

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 6:33 pm

Eyore เขียน:ธุรกิจเกี่ยวกับ Logistics น่าจะมีความสำคัญมากในอนาคตนะครับ
ที่ต่างประเทศทำมานานแล้ว ในเมืองไทย ต้นทุนสินค้า 100 บาท
เป็นค่าขนส่งซะ 20-30 บาทเข้าไปแล้ว ยิ่งในยุคน้ำมันแพงแบบนี้
ถ้าลดส่วนนี้ลงได้ ก็จะเพิ่มกำไรได้อีกมาก

ตอนนี้ที่ทำกันจริงจังก็คงมีแต่พวกค้าปลีก BIGC Lotus 7-11 ซึ่งทำกันเอง
ภายในบริษัท นอกนั้นก็ยังไม่เห็นชัดเจน อนาคตน่าจะมีบริษัทที่รับดูแลจัดการ
เรื่องนี้โดยเฉพาะ เท่าที่เห็นน่าสนใจคงเป็น Cement Thai Logistics: CTL
ไม่รู้จะเข้าตลาดรึเปล่า เห็นเริ่มรับจัดการให้บริษัทภายนอกด้วย เช่น shell
SSC เห็นว่าตอนนี้จะปรับธุรกิจมาให้บริการกระจายสินค้าเพิ่มขึ้น ก็น่าจะ work นะ WIN-WIN solution
TICON บอกจะทำ Logistics park ไม่รู้คืออะไร

งั้นผมมอง SST อีกตัวครับ

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 8:55 pm

ใช่ครับ...ธุรกิจLogistics ก็น่าสนใจครับ...บริษัทที่นำเข้าส่งออกสินค้าโดยเฉพาะบริษัทต่างประเทศเค้าให้ความสำคัญกับบริการ Logistics นี้มาก...แต่จริงๆแล้วผมก็ยังไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้ซักเท่าไหร่...รู้แต่ว่าตัวบุคคลากรที่ทำงานเกี่ยวข้องในด้านนี้มีรายได้ที่ดีมาก...

:roll: :roll:

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 9:01 pm

ธุรกิจที่ให้บริการเรื่องรับฝากรถ หรือ ที่จอดรถก็น่าสนใจ...เคยเห็นเค้าทำกันเป็นล่ำเป็นสันที่ ฟิลิปปินส์...ที่สิงคโปรค์ด้วยหรือปล่าวไม่แน่ใจ... เด๋วนี้เวลาไป siam paragon หาที่จอดรถแทบไม่ได้...พอคนรู้ว่าจอดฟรี...ก็แห่ไปจอดกัน...บางคันจอดกันเป็นวัน...

:roll: :roll:

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 10:56 pm

ผมว่าก็คงเลียนแบบเมืองนอก ซึ่งคงเป็นพวกธุรกิจโลจิสติกส์ แหล่ะครับ

และอีกอย่างคือ พวกรับส่งสินค้าทางไปรษณีย์

เห็นเค้าบอกญี่ปุ่นฮิตกันมาก

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 9:28 am

น่าจะเกี่ยวกับ
แก่ เจ็บป่วย ตาย

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 9:36 am

Knowledge and Information services เหมือน Dr.Know ในภาพยนตร์เรื่อง AI ...ตั้งตู้หยอดเหรียญ หยอด 10 บาท ถามได้ 1 ข้อ ถ้าหยอด 50 บาท แถมอีก 1 ข้อ ฟรี :lol:

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 11:27 pm

วันนี้ไปแอบหาความรู้มาที่ห้องสมุดสยามพารากอน...

:shock: :shock:

ธุรกิจที่ให้บริการด้าน logistic นี่น่าสนใจจิงๆครับ...หรือบริษัทไหนที่แค่ให้ความใส่ใจในด้านlogisticก็ถือว่าบริษัทนั้นเป็นบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีแล้วครับ...

:D :D

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 8:43 am

พลังงาน และทรัพยากรธรรรมชาติ

jaychou · อังคาร มิ.ย. 20, 2006 9:17 am

ธุรกิจสุขภาพเฉพาทาง

พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติที่จริงเป็นธุรกิจวัฎจักรคับ ควรรวังดีๆ

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 9:58 am

สงสัยคุณchaiyos จะมองอนาคตไปไกลมาก เพราะว่าทรัพยากรธรมชาติจะร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ ถึงจุดหนึ่งก็จะหมดไปหรือหาเพิ่มได้น้อยเต็มทีไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ทองแดง แก๊ส น้ำมัน

เมื่อประชากรโลกเพิ่มขึ้นท่าตัวการบริโภคคงจะสูงขึ้นเรื่อยๆจนอุปทานตามไม่ทัน

เรื่องพลังงานอาจจะดิ้นรนหาพลังงานทดแทนอย่างอื่นได้ แต่โลหะคงหวังจากการ recycle เท่านั้นเอง เพราะตอนนั้นคงขุดมาใช้จนแทบหมดโลกแล้ว

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 6:30 pm

กระทู้ดีนะครับเนี่ยทำให้คนมองระยะยาว :D

ตกลงสรุปได้หรือยังว่าอะไรดีครับ รอฟังอยู่เหมือนกัน

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 6:58 pm

ขอเสนอ ธุรกิจจัดการกองทุนรวม

- ปัจจุบันเงินออมอยู่ในรูปของหุ้นไม่ถึง 1% ของเงินออมทั้งหมด ตลาดกว้างมี potentail customer เยอะ ยิ่งต่อไปรัฐบาลเลิกค้ำประกันเงินฝาก น่าจะได้เห็นเงินไหลออกจาก bank ไปตลาดอื่น
- คนมี Financial Literacy มากขึ้น ต้องมีการแบ่งสรรเงินออมไปยัง Asset แบบต่างๆ แต่ใครจะมีเวลามาจัดการเองทั้งหมดละ ก็ต้องจ้างมืออาชีพมาจัดการแล้วแบ่ง fee ให้
- ดูประเทศพัฒนาแล้วอย่าง USA เป็นแบบอย่างขอการพัฒนาทางการเงิน ธุรกิจนี้โตชัวร์

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 8:16 pm

ช่วงที่ผ่านมาผมก็ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน...

เพื่อรับกระแสการค้าเสรี ต้องหาธุรกิจอะไรที่เมื่องไทยได้เปรียบจริงๆ ผมก็เลยไปดูว่าประเทศจีนนำเข้าสินค้าอะไรจากไทยบ้าง เพราะถ้าจีนต้องนำเข้าจากไทยแสดงว่าเราต้องเจ๋งจริง

ผมพบว่าอันดับต้นๆ คือ แผงวงจรคอมฯ และอิเล็กทรอนิกส์ แต่เมื่อพิจารณาแล้วก็เห็นว่าเป็นการนำเข้าเพื่อ reexport เท่านั้น เพราะสินค้าส่งออกอันดับต้นๆ ของจีนก็คือ แผงวงจรคอมฯ และอิเล็กเช่นกัน

สินค้านำเข้าจากไทยส่วนใหญ่ของจีนในอันดับต้นๆ เป็นสินค้าที่นำเข้าเพื่อ reexport ทั้งนั้น จึงทำให้ไม่น่าสนใจ เพราะของที่ไทยน่าจะแข็งจริงๆ ต้องเป็นของที่จีนนำเข้าจากไทยเพื่อการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งปรากฎว่ามีอยู่แค่อย่างเดียวคือ ผักผลไม้ ซึ่งตัวเลขการนำเข้าก็ไม่สูงมาก

ในบรรดาของที่นำเข้าเพื่อ reexport นั้น จะมีอยู่อย่างเดียวที่ดูมีศักยภาพก็คือ น้ำยางดิบ เพราะจีนต้องนำเข้าจากไทยเป็นจำนวนมาก

สรุปแล้วก็เจออยู่สองอย่างนี่แหละครับคือ ผักผลไม้ กับน้ำยางดิบ

แต่ถ้าจะมามองหาหุ้นในตลาดที่ทำสองอย่างนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มี เพราะ ผักผลไม้ที่จีนนำเข้าจากไทยเป็นของสดไม่ใช่ของแปรรูป ส่วนบริษัทที่ทำเกี่ยวกับยางในตลาดหุ้นก็ดูเหมือนจะไม่ได้ทำในส่วนที่ต้นน้ำจริงๆ หรือเปล่าไม่แน่ใจ? :roll:

พุธ มิ.ย. 21, 2006 12:36 pm

เมื่อ manufacturing companies ของไทยไว้ใจไม่ได้ในตลาดการค้าเสรีภายหน้า ผมจึงหันมามองธุรกิจบริการแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจบริการที่ "locations matter" บริษัทพวกนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกันในตลาดหุ้นไทย

ธุรกิจค้าปลีก เป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าจะอยู่ได้สบายๆ ทำไมนะหรือ ก็ถ้าสินค้าจากประเทศไหนขายไม่ออก ก็เปลี่ยนมาขายสินค้าประเทศอื่นสิครับ ง่ายจะตาย ซื้อมาขายไปอยู่แล้ว แถมยังเป็นธุรกิจที่ location matter อีก เพราะไม่มีทางขน "ทำเล" จากต่างประเทศมาถล่มได้

แต่อย่างไรก็ตาม หุ้นค้าปลีกตอนนี้มีราคาแพงมาก คงต้องรอไปก่อนครับ

นอกจากค้าปลีกแล้วที่น่าสนใจยังมีอีกครับ เอาไว้จะมาต่อ...

พุธ มิ.ย. 21, 2006 2:58 pm

มารออ่านต่อครับ

พุธ มิ.ย. 21, 2006 3:08 pm

ปัจจัยสี่ ขายได้แน่นอน

อาหาร
ที่อยู่อาศัย
เครื่องนุ่งห่ม
ยารักษาโรค

สมัยนี้ชนะกันที่ ขนาด ความทันสมัย และการบริหารจัดการ อีกที

พุธ มิ.ย. 21, 2006 3:23 pm

ธุรกิจที่ตั้งอยู่บนองค์ความรู้ และเทคโนโลยี
เช่นการสร้างนวัตกรรม จาก Biotechnology, Nanotechnology
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)
และการให้บริการในการเข้าถึง ข้อมูล ข่าวสาร และ Solution
รวมทั้งธุรกิจที่ทำให้ชีวิตคนง่ายขึ้น...

ธุรกิจภาคบริการน่าจะมาแรงกว่าภาคการผลิตหรือ Real Sector ครับ

(Comment ตามคำถามนะครับ "มาแรงในอนาคต" และ "ไม่ได้ระบุเฉพาะประเทศไทย")

พุธ มิ.ย. 21, 2006 7:35 pm

ธุรกิจ ประเภท ให้คำปรึกษา อาทิ เช่น ปรึกษาการลงทุน ปรึกษาการทำงานคุณภาพต่างๆ ไม่ว่าเป็น HA,ISO,GMP,HACCP ปรึกษาธุรกิจ ปรึกษาการตลาด

ผมว่าเป็นธุรกิจที่น่าจะดีในอนาคต