ถามพี่ๆผู้รู้และมีประสบการณ์ทุกท่าน

[bluesky]

ผมอยากรู้ว่า
มีท่านใดเคยรู้สึกว่าได้เปรียบ หรือ เสียเปรียบอะไร
จากคนที่คบเป็นแฟน
หรือไม่ครับ

ประมาณว่าเป็นความรู้สึกแวบๆ
ตอนก่อนคบรู้สึกเสียเปรียบไหมครับ
คบเป็นแฟนแล้วเคยคิดแวบๆบ้างไหมครับ
แล้วพอแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน
ยังมีแวบสักนิดไหมครับที่คิดว่าเราเสียเปรียบ

คนที่คบกันแล้วคิดแบบนี้
ผมว่าถ้าคบต่อไป คงมีปัญหา
หรือเป็นเรื่องปกติครับ

พี่ๆมีวิธีประยุกต์การลงทุน
หรือบริหารเงินอย่างไรต่อ
ชีวิตคู่(แฟนและภรรยา)กันบ้าง
ช่วยแชร์หน่อยครับ

เช่น แบ่งหน้าที่กันอย่างไร
มีท่านใดรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด
แล้วภรรยาเป็นแม่บ้านเฉยๆไหมครับ
อยากทราบว่า รู้สึกว่าเราเหนื่อยคนเดียวบ้างไหมครับ

ขอออกตัวนะครับ เดี๋ยวพี่เอช มาแซวผมอีก
ถามเพราะมีเพื่อนมาปรึกษาหนะครับ

[bluesky]

บาปบริสุทธิ์-----คาราบาว

......อันคนเราหญิงชายทั้งหลายแหล่
ต่างมีดีมีแย่อยู่พอๆ กัน
ถึงเมื่อคราวแรกเจอกันมักหวานชื่น
ต่างหยิบยื่นความดีให้แก่กัน

ผมเป็นสุภาพบุรุษนะครับ
ฉันเป็นสุภาพสตรีค่ะ
ผมไม่กินเหล้าไม่สูบยานะ
ฉันก็ไม่ยุ่งไม่ขี้บ่น

วันเวลาผันไปช่างหวานชื่น
ต่างหยิบยื่นไมตรีดีต่อกัน
ความรักความงดงามช่างยิ่งใหญ่
จึงตกลงปลงใจไปแต่งงานกัน

ผมยังกลับบ้านตรงเวลานะ
ฉันเป็นแม่บ้านที่ดีค่ะ
ผมให้เงินเดือนคุณหมดเลยนะ
ฉันจะใช้สอยอย่างประหยัดค่ะ

วันเวลาผันไปแหมชักเบื่อ
ต่างไม่เหลือสิ่งดีมาอวดกัน
ต่างคนต่างเริ่มทําในสิ่งใหม่
เริ่มกระทําตามใจที่ต้องการ

ผมไปกินเหล้ากับเพื่อนมานะ
ฉันไปงานเสี้ยงที่ทํางานย่ะ
ผมเหลือเงินให้คุณแค่นี้พอนะ
ฉันก็มีภาระใช้มากกว่าเก่า

ยามเมื่อความอดทนถึงที่สุด
จึงต้องหยุดไว้ตรงเลิกรากัน
มันจึงเป็นผลงานที่แสนห่วย
คนที่ซวยก็คือตัวลูกน้อย

[MarginofSafety]

ขอออกตัวนะครับ เดี๋ยวพี่เอช มาแซวผมอีก
ถามเพราะมีเพื่อนมาปรึกษาหนะครับ

กลัวผมแซวขนาดนั้นเลย  

ทำแบบนี้ดีมั้ยครับ
สำหรับคู่ที่ทำงานทั้งคู่
ก็ตั้งกองทุนขึ้นมา (ขอตั้งชื่อว่ากองทุน"เราสอง")
เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ร่วมกัน
สมมติว่าคุณผู้ชายมีรายได้เดือนละ 3 หมื่น
คุณผู้หญิงรายได้ เดือนละ 1 หมื่น

คุณผู้ชายก็จ่ายเงินสมทบกองทุนเราสอง 3 เท่าของคุณผู้หญิง
เช่นคุณผู้ชายจ่ายสมทบกองทุนเดือนละ 6,000 คุณ ผู้หญิงก็จ่าย 2,000
รวมมีเงินสบทบกองทุนเราสอง 8,000 บาทต่อเดือน
กองทุนนี้ก็เอาไปใช้จ่ายทั่วไปที่เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากทั้งคู่
เป็นต้นว่า ค่าอาหาร ค่าดูหนัง ฟังเพลง และ อื่นๆ

ส่วนที่เหลือที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว แนะนำให้แยกกระเป๋าครับ

[MarginofSafety]

สมมติว่าทั้งคู่ ต้องมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่น เช่นตอบแทนบุพการี
ก็ใช้เงินในกระเป๋าตัวเอง จ่ายไปได้ตามอัธยาศัย โดยไม่กระทบเงินกองทุน "เราสอง"
ส่วนคุณผู้หญิงจะ เสริมสวยอาทิตย์ละ 5 วัน ก็แล้วแต่สตางค์ในกระเป๋า
คุณผู้ชายจะไป Drink อาทิตย์ละ 5 วันก็แล้วสตางค์ในกระเป๋า
(สมมติเฉยๆ นะครับ แต่อันที่จริงน่าจะช่วยกันออมเงิน สร้างเนื้อสร้างตัว)
แต่อย่าให้กระทบกระเทือนเงินกองทุน "เราสอง"
นอกจากนี้หากมีการวางแผนตกลงปลงใจ กันในอนาคต

อาจจะมีกองทุน "สองเรา" เก็บไว้ดาวน์บ้าน ดาวน์รถ (หากจำเป็น)
และส่งผ่อนค่าบ้าน ค่ารถ

กองทุน "สองเรา" กับกองทุน "เราสอง" อาจจะแยกกัน หรือ รวมกันเป็นกองทุนเดียวก็ได้ไม่ผิดกติกา
ส่วนวิธีการจ่ายก็ให้คงสัดส่วนรายได้ของทั้งคู่เป็นหลัก...

อ้อ... ส่วนเงินกองทุนก็ให้ฝ่ายหญิงจัดการ เพราะเธอค่อนข้างละเอียด และเก็บเงินเก่ง...

[ต.หยวนเปียว]

เป็นธรรมดาของมนุษย์ครับ  :D
อยู่ๆไป ค่อยๆปรับ(ปรุง)ตัว

หากมีนิสัย ไปในทางเดียวกันก็จะยิ่งง่าย  (แต่ไม่ถึงกับจำเป็น)
เช่น เป็นวีไอ เหมือนกัน  ทำตัวพอเพียงเหมือนกัน  ฯลฯ

ผมเองกระเป๋าเดียวกันกับภรรยา
ผมทำงานก่อน รายได้มากกว่า
จากนั้นรายได้สูสีกัน
และปัจจุบัน เมื่อจำเป็นต้องออกจากงานหนึ่งคน
ผมก็ออกมาเป็นพ่อบ้าน
เพราะภรรยาผม รักงานมากกว่าผมรักงาน
เรื่องเงินไม่เคยมีปัญหา เพราะ
ต่างฝ่ายต่างให้ ไม่เคยคิดแบ่ง
ซื้อของจำเป็นหรืออยู่ในงบ ก็จัดการได้เลย
รวมทั้งของชอบส่วนตัว  
ภรรยาผมก็เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า
ของผม เมื่อก่อน พระเครื่อง

ส่วนของใหญ่ๆ ของนอกงบ ก็ปรึกษากัน
ล่าสุดก็เปียนโน

อีกเรื่อง เงินให้พ่อแม่ ก็ควรให้ทั้งสองฝ่ายด้วยความยุติธรรม
และยามครอบครัวอีกฝ่ายเดือดร้อน ก็ควรเป็นฝ่ายเสนอหยิบยื่น
ช่วยเหลือก่อน โดยมีขอบเขตที่เห็นชอบทั้ง2ฝ่าย

เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็จะรู้ว่าความรักความเอาใจใส่กัน
มีค่ามากกว่าเงิน
เงินหมดหาเอาใหม่ยาก เอ๊ย หาเอาใหม่ได้
แต่เวลาหมดแล้วหมดไป
เวลาที่ได้อยู่ร่วมกับคนที่เรารัก มีค่าที่สุด  :)

[MarginofSafety]

หลังจากมีกองทุน "เราสอง" และกองทุน "สองเรา" แล้ว
ขั้นต่อไปอาจจะมีอีกกองทุนหนึ่ง ก็คือกองทุน "ลูกเรา"
กองทุนนี้เผื่อไว้เลี้ยงลก และสำหรับการศึกษาของลูก
วิธีการจับเก็บก็อาจจะเก็บตามสัดส่วนรายได้ เช่นเดียวกัน

หากทั้งคู่มีรายได้ดีพอสมควร หลังจากสมทบกองทุน "เราสอง" และ "สองเรา"
แล้วปรากฎว่ามีเงินเหลือ ก็สามารถสมทบกองทุน "ลูกเรา" ได้มาก
ก็สามารถมีลูกได้มากน้อยตามอัธยาศัย
แต่ถ้ากองทุน "ลูกเรา" เล็กหน่อย ก็วางแผนการมีบุตรให้เหมาะสม ... :lol:

[MarginofSafety]

หลังจากมีกองทุน "เราสอง" "สองเรา" และ "ลูกเรา" แล้ว
ต่อมาก็อาจจะจัดตั้งกองทุนอีกหนึ่งกอง เรียกว่ากองทุน "อนาคตเรา"
(มี 4 กองทุน แล้วนะ อู๊ยย... งง)

กองทุนนี้มีจุดประสงค์ในการลงทุนเป็นหลัก เพื่อวางแผนเกษียณในอนาคต
ส่วนผู้จัดการกองทุนนี้ ควรจะให้ผู้ที่มีความรู้ด้านการเงินที่ดีกว่าเป็นฝ่ายจัดการ

หลังจากผ่อนบ้านผ่อนรถหมดก็ยุบกองทุน "สองเรา" ได้
แล้วก็เอาไปเติมใส่เงินกองทุน "อนาคตเรา"
ยิ่งกองทุน "อนาคตเรา" โตเร็วเท่าไหร่ เราก็เกษียณเร็วเท่านั้น...

[bluesky]

หุหุ ถ้าผู้หญิงเงินเดือนเยอะกว่า
เธอจะยอมไหมครับเนี่ย

[bluesky]

อ้อ ยังไม่มีใครตอบผมเลยครับ
ว่าลึกๆแล้วในใจ
มีใครเคยคิดว่า
แฟนหรือคู่ชีวิตเอาเปรียบเรา
หรือเราได้เปรียบเค้า
บ้างไหมครับ

อย่างพี่เอชเนี่ย
รายได้มากๆจากการลงทุน
เคยคิดไหมครับว่า
หาเงินได้มากกว่า
ต้องออกเงินมากกว่า
เสียเปรียบจัง

หรือคุณ ต.หยวนเปียว
เคยรู้สึกอึดอัดไหมครับ
ที่ไม่ได้ทำงาน
รู้สึกว่าแฟนเค้าจะคิด
ว่าเสียเปรียบไหมครับ

[MarginofSafety]

หลักการจัดการเงิน มีขึ้นเพื่อลดปัญหา จากการรู้สึกว่ามีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเอารัดเอาเปรียบ เท่านั้น

แต่ที่สำคัญที่สุด คือความรัก ความเข้าใจ
และแต่ละฝ่ายมองอีกฝ่ายหนึ่ง ว่าเป็นมีคุณค่ามากที่สุดแล้ว

คุณผู้ชาย : "ผมช่างโชคดีที่มีคุณเป็นภรรยา"
คุณผู้หญิง : "ดิฉันช่างโชคดีเหลือเกินที่มีสามีเช่นคุณ"
(วู๊ยยย.... ผมดู series เกาหลีเยอะไปหน่อย ขออภัย)

ทรัพย์สินเงินทอง ก็ไม่สามารถมาแทนที่ได้
นั่นแหละ ถือว่าเราเลือกคู่ได้เหมาะสมแล้ว
วิธีการจัดการเงินทอง ก็ง่ายขึ้น
เพราะอยู่ด้วยกันด้วยความเกื้อกูลกัน
ไม่ใช่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องการมีคู่เพื่อหวังความสะดวกสบาย
หรือหวังทรัพย์สมบัติของอีกฝ่ายหนึ่ง...

กระทู้นี้ตั้งใจตอบให้คุณ bluesky โดยเฉพาะเลยนะเนี่ย...  

[MarginofSafety]

อย่างพี่เอชเนี่ย
รายได้มากๆจากการลงทุน
เคยคิดไหมครับว่า
หาเงินได้มากกว่า
ต้องออกเงินมากกว่า
เสียเปรียบจัง

ถ้าคิดแบบนี้ ก็อย่าคิดมีคู่เลย กะล่อนไปวันๆ ดีกว่า
อีกอย่าง รายได้จากการลงทุนผมยังไม่มากนะครับ
อย่าเข้าใจผิด ... อายุผมยังนำหน้าด้วยเลข 2 อยู่เลย อิอิ ...  :lol:

[bluesky]

[quote="HVI"]หลักการจัดการเงิน มีขึ้นเพื่อลดปัญหา จากการรู้สึกว่ามีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเอารัดเอาเปรียบ เท่านั้น

แต่ที่สำคัญที่สุด คือความรัก ความเข้าใจ
และแต่ละฝ่ายมองอีกฝ่ายหนึ่ง ว่าเป็นมีคุณค่ามากที่สุดแล้ว
กระทู้นี้ตั้งใจตอบให้คุณ bluesky โดยเฉพาะเลยนะเนี่ย...

[MarginofSafety]

หุหุ ถ้าผู้หญิงเงินเดือนเยอะกว่า
เธอจะยอมไหมครับเนี่ย

อันนี้ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับอุปนิสัยของฝ่ายหญิงนะ
กฎนี้ผมคิดขึ้นมาตอนจีบกันใหม่ๆ
เพราะรู้สึกว่าเราชวนเจ้าหล่อนไปโน่นไปนี่
และเงินเดือนเธอก็ไม่มากนัก

แต่เธอไม่ยอมให้ผมออกมากกว่า ทุกอย่างต้องหาร 2
ผมว่ามันไม่แฟร์สำหรับเธอ
ถ้าจะแฟร์ทุกอย่างต้องหารตามสัดส่วนรายได้
และผมเป็นคนชวนด้วย ไม่ใช่เธอเอ่ยปากชวน
ตื๊ออยู่นาน กว่าเธอจะยอม
สำหรับผม ผมว่าแฟร์ดีนะ

แต่ถ้าเธอมีรายได้มากกว่าผม
ผมคิดว่า เธอก็ยินดีที่จะจ่ายมากกว่าเช่นเดียวกัน...

[Capo]

อิ ๆ มาดูคนมีพันธะคุยกัน  :lol:   :lol:   :lol:

[BHT]

[quote="Capo"]อิ ๆ มาดูคนมีพันธะคุยกัน

[MarginofSafety]

[quote="Capo"]อิ ๆ มาดูคนมีพันธะคุยกัน

[ดร.โหน่ง]

คนละแก้วมา..... พี่เอช..... พี่ปุย...... น้องบลู

รูมนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและดูเป็นกันเอง
ท่านพี่เอชเติมเต็มอรรถรสรัฐศาสตร์แห่งความสุขอย่างรสเด็ดเผ็ดร้อน
อ่านแล้วเพลินใจ........ไม่มีกลิ่นคาวเลยสักนิด  
นั่งรับลมเย็นๆ จิบเบียร์ริมน้ำ  :drink:  อ่านกระทู้ คงไม่มีที่ไหนได้บรรยากาศเท่าที่นี่
ยิ่งในช่วงค่ำคืนที่สัมผัสกับคู่รัก...............

[ดร.โหน่ง]

กระผมเมาไปหน่อย เรียกพี่  กาโป เป็นพี่ปุย....ต่อสักแก้วพี่กาโป เชิญ!  :cheers:

[ต.หยวนเปียว]

ตกกระไดพลอยโจน  :lol:
ไหนๆก็เล่าแล้ว
ตอบคุณBluesky

ผมเคยคิดบ่อยๆนะ ว่าผมเอาเปรียบภรรยาในการหา
รายได้ และบางครั้งผมไม่ค่อยสบายใจ
แต่เท่าที่สังเกตุ  ภรรยาผมไม่เคยแสดงออกเลยว่า
ผมเอาเปรียบ

ผมก็พยายาม ออกค่าใช้จ่ายบางส่วนจากรายได้เงินปันผลหุ้น
เช่น ค่าเล่าเรียนลูก  ค่าเนต ค่าหนังสือ ค่าเงินแตะเอียพ่อแม่ ฯลฯ
คงเป็นวิธีที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น

แต่ในอีกทางหนึ่ง
การที่ผมไม่ได้ทำงาน ก็มีเวลาเป็นฝ่ายดูแลลูกๆเต็มที่
ซึ่งตอนที่ทำงานทั้งคู่ ต้องผลัดกันสละเวลางานมาดูแล
ในคราวจำเป็น
มันก็ลงตัวดี  แม้รายได้ของครอบครัวจะหายไปจม  :lol:

[ดร.โหน่ง]

โทษทีขอรับ พี่ ต. หยวนเปียว  
กระผมเริ่มเมา เอิ๊ก! ไม่ทันมอง
เอิ๊ก! ว่างหรือยังพี่   ทำกับข้าวให้ลูกอยู่หรือปล่าว เอิ๊ก!
กระผมวันนี้สบายหน่อย  เอิ๊ก! แม่ยายบุกมาเยี่ยม
สักแก้วพี่   ........เอิ๊ก!  :B

[ต.หยวนเปียว]

 :lol:  :cheers:  :drink:  :welcome:

[bluesky]

ผมว่า พี่ๆ ในบอร์ดนี้โชคดีกันนะครับ
ที่มีแฟนและภรรยาที่เข้าใจ
และก็แสนดี
เพื่อนที่มาปรึกษา
พบปัญหาประมาณว่า
ไปไหนๆ ออกมาก หรือ น้อย
ก็ต้องควัก ต้องจ่าย

สาวเจ้าก็เรียกร้อง
อยากได้โน่น อยากได้นี่
ซื้อมือถือใหม่มา
ก็ขอแลก แต่เพราะเป็นแฟนไม่ให้ก็ไม่ได้
พอคิดแล้วก็รู้สึกไม่ดี
ว่าเป็นแฟนกันไม่น่าจะคิดมาก

พอเป็นแบบนี้
ก็เลยไม่สบายใจว่า
ตัวเองคิดเล็กคิดน้อยไปหรือปล่าว

ถ้าเอาวิธีที่พี่เอช เสนอไป
ผมว่าเธอก็คงไม่ยอม
ดีไม่ดี อาจงอนไปเลยมั้ง
ผมว่าคนเคยได้นะ
อาจจะไปหาคนใหม่ที่ให้เธอได้

ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง
แต่ผมว่าวิธีที่พี่เอช แนะนำมาใช้ไม่ได้
กับเคสเพื่อนคนนี้ หึหึ
ไม่รู้แหละ ตัวใครตัวมัน

[chatchai]

ผมและภรรยาไม่ได้ทำงานประจำ

ภรรยาของผมเป็นแม่บ้านเต็มตัว

ส่วนตัวก็ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

ชื่อพอร์ตเป็นชื่อภรรยา

ชื่อทรัพย์สินทุกอย่าง  ยกเว้นรถยนต์  เป็นชื่อภรรยาครับ

ไม่เคยมีใครคิดเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบกันเลยครับ

ผมเหนื่อย  ภรรยาก็เหนื่อย  

การได้เปรียบเสียเปรียบ  ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่างานนั้นสร้างรายได้มากน้อยกว่ากันครับ

[CK]

หลักการที่ง่ายที่สุดของชีวิตคู่

คือคู่ชีวิตครับ

[MarginofSafety]

เพื่อนที่มาปรึกษา
พบปัญหาประมาณว่า
ไปไหนๆ ออกมาก หรือ น้อย
ก็ต้องควัก ต้องจ่าย

สาวเจ้าก็เรียกร้อง
อยากได้โน่น อยากได้นี่
ซื้อมือถือใหม่มา
ก็ขอแลก แต่เพราะเป็นแฟนไม่ให้ก็ไม่ได้
พอคิดแล้วก็รู้สึกไม่ดี
ว่าเป็นแฟนกันไม่น่าจะคิดมาก

พอเป็นแบบนี้
ก็เลยไม่สบายใจว่า
ตัวเองคิดเล็กคิดน้อยไปหรือปล่าว

ถ้าเอาวิธีที่พี่เอช เสนอไป
ผมว่าเธอก็คงไม่ยอม
ดีไม่ดี อาจงอนไปเลยมั้ง
ผมว่าคนเคยได้นะ
อาจจะไปหาคนใหม่ที่ให้เธอได้

ลอง Print เรื่องภรรยา 7 ในอีกกระทู้ ไปให้เพื่อนอ่านครับ
แล้วลองดูว่า แฟนเพื่อนคุณบลูน่ะ จัดอยู่ในประเภทไหน
เอาไปให้เพื่อนคุณบลูจัดกลุ่มเอง...

ถ้าอยู่ใน 3 ประเภทแรก แนะนำว่าคิดให้ดีๆ
ขนาดเป็นแฟนกันยังมีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆแล้ว
แต่งงานไปแล้ว จะอยู่ด้วยกันได้เหรอครับ
พยายามหาคำตอบว่า ถ้าเราไม่สามารถหาโน่นหานี่มาให้เจ้าหล่อน
เธอจะยังรักเพื่อนคุณบลู อยู่หรือเปล่า
ถ้าคำตอบคือไม่... แสดงว่าเธอไม่ได้รักเพื่อนคุณบลูหรอก
เธอแค่ต้องการมีความสามารถในการบริโภคที่มากขึ้นทางลัด แค่นั้นเอง...

ส่วนเพื่อนคุณบลู จะคิดอ่านประการใด
ก็เป็นเรื่องของเพื่อนคุณบลู ตัดสินใจเอง
คนนอกอย่างผมไม่เกี่ยว...

(ผมกลายเป็น ศิราณี ตอบปัญหาตั้งแต่เมื่อไหร่นี่ ... อิอิ)

[MarginofSafety]

[quote="ดร.โหน่ง"] คนละแก้วมา..... พี่เอช..... พี่ปุย...... น้องบลู

รูมนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและดูเป็นกันเอง
ท่านพี่เอชเติมเต็มอรรถรสรัฐศาสตร์แห่งความสุขอย่างรสเด็ดเผ็ดร้อน
อ่านแล้วเพลินใจ........ไม่มีกลิ่นคาวเลยสักนิด

[Capo]

สวัสดีครับท่านพี่ ดร.โหน่ง
ช่วงนี้ขัดสนขอรับ  :oops:
รัดเข็มขัดจนเอวกิ่ว

คงต้องอาศัยหยาดน้ำเมาที่แลกจากเงินในกระเป๋าท่านพี่โหน่งครับ  :drink:

[ดร.โหน่ง]

.......มากันเต็มห้องเลย! คนกันเองทั้งนั้น!

1  2  3 4 5 6 7  

กระผมจำได้เพียงเจ้าภาพเป็นน้องบลู1
ไม่ทันที่พี่ฉัตร  4 จะมา ก็เริ่มเมาเสียแล้ว
แล้วก็หลับมาตลอดทางคากระทู้ เหลืออาการปวดหัวนิดๆ
มาขอรับ ขอคะยั้นคะยอ อาสามอมเลี้ยงทุกคน :lovl:
นี่ลองดูขอรับพี่หยวนเปียว  5 .......เตกิลา Jose Cuero ของกระผม!
พี่บี  7.........คนละขวดขอรับ  เชิญทุกคนขอรับ


พี่กาโป 3 ไม่หยาดแล้ว........ นี่เป็นขวดแก้วไอเกาะเลย
กระผมโรยเกลือตามขอบให้แล้ว........ ถ้าไม่ชอบกลิ่น
มะนาวอยู่ในจานนี่นะขอรับ........ ช่วยกลบทั้งรสและกลิ่น มันจะบาดคอนิดหนึง
กรรมวิธี ดูดเกลือ กระดกขวด แล้วดูดมะนาวทั้งซีกตาม
หรือพี่จะเอาแบบกระผม............พร้อมยังขอรับ!

           หนึ่ง! สอง! สาม!


บีบมะนาวก่อนลงคอเลยขอรับ
กระดกเหล้า. ........นิ้วจิ้มเกลือ ....... ดูด!. ......ขอรับ  
เป็นไงพี่ พี่ซีเค.. 6 ...........พอไหวไหมขอรับ?
 

พี่เอช  2 เดี๋ยวไปเชียร์บอลด้วย..............
ดูก่อนว่ามีของสดอะไรเหลือในตู้เย็นหยิบติดไปได้
แหนม!.......
กระผมหั่นก่อน..............นี่ขนาดพอสวย
พริกขี้หนูหั่นตาม............ ต้นหอมสอย
ใส่ผักชีลาวสดๆ สับละเอียด.................. คลุกเคล้านิดหน่อย  
กลิ่นหอมอย่าบอกใครขอรับ
รอด้วยพี่เอช!.............

[drchatri]

สมาคมคนรักเมียกันจริงๆนะเนี่ย.. ของผมก็กระเป๋าเดียวกันครับ แต่ยังต้องช่วยกันทำมาหากินเพราะสียดายโอกาสในการหาเงินเก็บและลงทุน แต่ซักวันก็มีความหวังอยากเป็นอย่างพี่ฉัตรชัยเหมือนกันครับ ถึงเวลานั้นผมคงสามารถเป็นหมอด้วยความสุขใจอย่างที่สุด เรื่องเงินๆทองๆ ก็คงต้องคุยกันครับ แต่จริงๆแล้วก่อนเราจะตัดสินใจแต่งงานกันคงต้องรู้แล้วหล่ะครับว่าเราจะเข้ากันได้ไหม ไม่งั้นก็อาจมีปัญหาเหมือนกันครับ เห็นด้วยกับความคิดของพี่หยวนเปียวต้องดูแลทุกข์สุขกัน เอาใจใส่กันสม่ำเสมอ และดูแลครอบครับของทั้งสองผ่ายด้วย 8)

[por_jai]

เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็จะรู้ว่าความรักความเอาใจใส่กัน
มีค่ามากกว่าเงิน
เงินหมดหาเอาใหม่ยาก เอ๊ย หาเอาใหม่ได้
แต่เวลาหมดแล้วหมดไป
เวลาที่ได้อยู่ร่วมกับคนที่เรารัก มีค่าที่สุด  :)

8) วลีนี้ของพี่เต่าสุดยอดครับ
    ผมมาเพิ่มนิดนึง
    คือประโยคพวกนี้พูดง่ายเขียนก็ง่าย
    แต่เข้าใจและปฏิบัติไม่ง่าย
    ใครเข้าใจจริงๆ
    คนที่อยู่ด้วยมีความสุขมั่กถึงมั่กที่สุดเลยครับ