VI หาดใหญ่
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2911
อยากเล่น The Mask stock จัง
บอกชื่อหุ้นแต่ไม่รู้ว่าเป็นล็อกอินไหนบอก แล้วให้มาบอกสรรพคุณ
บอกชื่อหุ้นแต่ไม่รู้ว่าเป็นล็อกอินไหนบอก แล้วให้มาบอกสรรพคุณ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2912
เล่นด้วย เล่นด้วย..
แต่ต้องให้webmasterเล่นด้วยนะฮะ เปิดห้องthe mask stocks ขึ้นมาเลย
เข้าได้เฉพาะสมาชิก คนนอกเข้าไม่ได้ แล้วปิดชื่อlog in ได้ แล้ววิจารณ์+-voteกันแบบลงคะแนนลับ
จะได้เป็นที่รวมความรู้+ความเห็นดีๆตรงไปตรงมาสับแหลกที่ไม่bias เพราะไม่มีชื่อไงฮะ
ประชุมลับครั้งที่แล้ว ตรงกับวันเกิดอ.นิเวศน์ที่เคารพรักของพวกเราพอดี
กระผมในนามลูกศิษย์ห้องนั่งเล่นหาดใหญ่จึงขอกราบอวยพรให้อ.สุขภาพกายแข็งแรง อายุใจน้อยลงไปเรื่อยๆ
เป็นที่พึ่งทางความคิดจิตใจของลูกศิษย์และสมาชิกต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะไม่มีตลาดหุ้นนะฮะ
คนเกิดวันที่20 (หนังสือทำนายชีวิตจากตัวเลขวันเกิด : จุฑามาศ ณ สงขลา)
ชะตาเหมือนคนเกิดวันที่2 เพียงแต่มีเลข0 ดาวมฤตยูเพิ่มมา ทำให้ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิง ชะตาหักเหพลิกแพงต่างๆนานาเพิ่มมากด้วย
นิสัย
เพ้อฝัน ชอบปฏิรูปเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ดื้อรั้นเงียบๆ ทะเยอทะยาน
ใจตนเป็นใหญ่ ก้าวหน้ารึพลาดพลั้งก็เพราะใจตนเท่านั้น
กระตือรือร้น ไม่ชอบย่ำเท้าอยู่กับที่ กล้าพูดกล้าทำกล้าเสี่ยง ไม่เชื่อฟังความคิดใครถ้าตนไม่เชื่อตามนั้น
แต่หากนับถือใครจะชื่นชมศรัทธาอย่างจริงใจ บางครั้งจิตใจออกนอกลู่นอกทาง คิดวิปริต(ใช้คำนี้จริงๆฮะ)ผิดผู้อื่นได้ รึทำในสิ่งที่คนอื่นไม่คาดคิด
หากเกิดมาจนจะดิ้นรนจนสามารถทัดเทียมคนอื่นได้ เห็นอกเห็นใจคนแต่ไม่ชอบช่วยเหลือใครมากนัก
คิดมากคิดแยะแต่กลับละเลยบางเรื่อง ความคิดมักมีช่องโหว่ ชอบเก็บเนื้อเก็บตัวแต่ชอบทำตัวให้วงสังคมตัวเองรักใครชื่นชม
ไม่ชอบเป็นผู้นำใครมากนัก รักตัวเองไม่อยากเห็นตัวเองเจ็บช้ำ มีนิสัยชอบปกป้องตัวเองจนบางครั้งทำให้คนไกล้ชิดเสียใจจนแก้สถานการณ์ไม่ได้
สติปัญญา
ดี สนใจรอบรู้สิ่งต่างๆ ชอบพบปะพูดคุยกับผู้รู้ พากเพียรบากบั่นการเรียน แม้เกิดมาจนแต่ดิ้นรนเรียนสูงขึ้นไป
สนใจการศึกษาทั้งในและนอกระบบ ทะเยอทะยานในการเรียนทาก อยากให้ผู้อื่นยอมรับในสติปัญญาและความสมารถเสมอ
สนใจใคร่รู้ศิลปะ มีความคิดฝัน ถ้าเรียนช่างฝีมือรึการเขียนจะได้รับชื่อเสียงและการยอมรับจากผู้คน
เรียนรู้หลายๆด้านจะดีกว่าด้านเดียว มีมากที่เรียนด้านหนึ่งแต่ไปทำงานอีกด้าน มีพรสวรรค์เรียนรู้เร็ว การศึกษาจะให้ทุกสิ่งที์ต้องการได้
ยังจะเรียนไปเรื่อยๆจนตลอดชีวิต ถ้าสนใจรัฐศาสตร์การปกครองภาษาจะเรียนได้ดี ก้าหน้า สอบชิงทุนถ้าเตรียมพร้อมจะได้ทั้งนั้น
อาชีพ
ไม่เหมาะกับอาชีพอิสระเพราะลมเพลมพัด ถ้าไม่มีหลักยึดจะไม่ก้าวหน้า ไม่ควรเป็นเจ้าของกิจการด้วยตัวคนเดียว
เพราะดวงทำอะไรคนเดียวมักสำเร็จยาก ต้องมีเพื่อนช่วยเป็นฐานรากให้ หากทำงานตำแหน่งสูงๆต้องระวังลูกน้อง(ลูกศิษย์?)ให้มากๆเพราะอาจมีปัญหา แต่ถ้าได้บริวารดีก็ช่วยส่งเสริมการได้มากเช่นกัน
งานด้านการเขียน การพูด บันเทิง ทำได้ดี มีชื่อเสียงด้านธุรกิจสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุจะได้ผลดี มีคนเชื่อมั่นฝีมือ
บั้นปลายชีวิตจะยังทำงานที่ตัวเองรักไปได้เรื่อยๆ ไม่ค่อยเหนื่อยยาก แต่ควรระวังงานด้านการเมือง การปกครอง
เพราะอาจมีจุดหักเหได้ง่าย บางครั้งอาจมีความคิดหัวรุนแรง ชอบการปฏิรูป ปฏิวัติ หรือชอบการเปลี่ยนแปลงด้วยวิธีใหม่ๆ สนใจด้านวิศวกรรมอะไรประมาณนั้น
การเงิน
มีเงินไม่ค่อยมากนักในพื้นดวงชะตา(น่าจะแปลว่ามีก็เหมือนไม่มี..) เงินไม่ค่อยคล่องมือลื่นไหลอย่างใครอื่น
แต่เป็นคนมัธยัสถ์รู้จักใช้เงินมาก ทำให้มีเงินเก็บ รู้ค่าของเงิน ไม่ค่อยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเท่าไรนัก
แต่หากชอบใจสิ่งใดจะพยามเก็บเงินซื้อมาจนใด้ ชอบใช้ของดีมีราคา มีของน้อยชิ้นแต่ราคาแพง
จะไม่ค่อยเดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะจัดระบบการใช้จ่ายได้ดี ถึงจะมาจากครอบครัวยากจนก็สร้างตัวเองขึ้นมาใด้
ถึงจะไม่ร่ำรวยแต่ก็พอมีพอกินตลอดชีวิต เรื่องเงินต้องอาศัยคนอื่นเป็นแรงผลักดันหรือเป็นรากฐานชีวิต
ครอบครัว
แนบแน่นสนิทสนมเป็นพักๆ บางครั้งเย็นชาห่างเหิน บางครั้งไกล้ชิดแล้วแต่อารมณ์ความรู้สึกในช่วงนั้น
มีครอบครัวใหญ่ให้อบอุ่นคิดถึง แต่มักอยู่ห่างจากครอบครัวพ่อแม่พี่น้อง มีความคิดเห็นของตัวเองแตกต่างจากญาติพี่น้องคนอื่นๆ
จะได้ช่วยเหลือสนิทสนมกับคนในครอบครัวหลายๆคน มีมรดกจากพ่อแม่และบั้นปลายชีวิตจะได้กลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกับญาติพี่น้อง
ความรัก คู่ครอง
มีความรักดีงามแต่ไม่ค่อยมั่นคงนัก เพราะอารมณ์ตัวเองเป็นสำคัญ ไม่ค่อยพอใจกับความรักที่ตัวเองมี
ชอบแสวงหารักใหม่ๆอยู่ร่ำไป เจอรักแท้สักครั้งหนึ่งก็อาจรักษาไว้ไม่ได้
ไม่มีปัญหาใหญ่โตเรื่องความรัก แต่มีมากที่ดวงทำให้หย่าร้างเพราะจิตใจไม่ม้่่่นคงและอยู่โดดเดี่ยวในบั้นปลาย
มีความรักฝังใจอย่างยากจะให้อภัยตัวเอง คู่ครองจะช่วยสนับสนุนดวงชะตาได้มาก แต่มักเป็นคนปิดกั้นความรู้สึกเบื้องลึก มีมากที่ไม่ได้แต่งงานเพราะความรักมั่นกันแท้จริง บางคนรักคนนึงแต่แต่งกับอีกคนนึง
สุขภาพ
เป็นตนแข็งแรง แทบไม่ต้องพึ่งหมอรึโรงบาล แต่กลับเป็นหวัดง่ายแพ้อากาศ โรคประจำตัวคือกระเพาะอาหาร
นิสัยไม่ค่อยดูแลสุขภาพ มักคิดเองว่าเป็นเองก็หายเอง ไม่ค่อนสนใจออกกำลังกาย
บั้นปลายชีวิตต้องระวังรักษาอารมณ์ตัวเองให้มากๆเพื่อป้องกันโรคเครียด เหงา ขาดกำลังใจ
เพื่อนมิตรศัตรู
โชคดีที่มีมิตรแยะ ล้วนแต่เป็นมิตรที่ดี ช่วยเหลืองานต่างๆได้ เป็นคนที่เพื่อนๆรักใคร่ห่วงใยและมองเห็นความดีงามของคุณเสมอ
แต่บางเวลาก็เก็บตัวคบเพื่อนน้อย มีเพื่อนที่รู้จักตัวตนจริงๆไปถึงเรื่องส่วนตัวน้อยมาก
จะมีศัตรูเป็นเพศตรงข้าม ไม่มั่นคงไม่เข้าใจกันสูง ทำให้เข้าใจผิดและเป็นศัตรูกันได้
แต่ไม่ใด้ทำร้ายให้ร้ายอะไรมากมาย แค่ขัดขวางไม่ให้เด่นกว่ารึพูดจาใ่สร้ายป้ายสีบ้างเท่านั้น
แต่ศัตรูด้านความคิดจิตใจภายในตัวเองนี่แหละ สำคัญที่สุด
บริวาร
คนรอบข้างคบหาสมาคมกันมากมาย แต่ไม่ตกตำแหน่งบริวารท่าน เพราะเป็นดวงมีบริวารน้อย
ส่วนใหญ่แล้วลูกหลานญาติพี่น้องเท่านั้นที่เป็นดวงบริวาร ซึ่งจะต้องค่อยแก้ปัญหาสนับสนุนเงินและการศึกษาให้
ถ้ามีตำแหน่งใหญ่ บริวารอาจสร้างปัญหาให้ ควรใช้อำนาจบารมีปกครองบ้างจะดีขึ้น
โชคลาภ
ไม่ค่อยมีโชคลาภ ทั้งพนันรึฟลุคๆ ถ้าจะมีลาภก็โดยเสน่หาหรือผู้ใหญ่ให้มา มักเป็นที่ดินมากกว่าเงินทอง
ดวงชะตาขึ้นๆลงๆ ดังนั้นโชคลาภก็ลมเพลมพัดตามไปด้วย
โชคดีอย่างเดียวคือ มีเพื่อนรักมากมาย มีคนรักใคร่หวังดี ไม่ขาดผู้ใหญ่สนับสนุน
การเดินทาง
ชอบเดินทางแบบสมบุกสมบัน บุกป่าฝ่าดงมากกว่าท่องเที่ยวแบบทัวร์สะดวกสบาย
ชอบไปที่ๆไม่มีคนสนใจ มีการเดินทางเพื่อเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ด้านศิลปวัฒนธรรม
ไม่มีโชคลาภความสำเร็จจากการเดินทาง
จนถึงบั้นปลายชีวิตก็ยังรักการเดินทาง ไม่ได้เดินทางแล้วชีวิตจะอ้างว้างเงียบเหงามาก
ความเชื่อมงคล
สีเสื้อผ้า ครีม สีอ่อนๆจะเสริมสง่าราศี ไม่ควรสวมสีเข้ม
อัญมณีเน้นเพชร ทอง หินสีเทา วัตถุควรเป็นรูปดหลี่ยมขนมเปียกปูนและสวมใส่แหวนจะเสริมบารมี
รถยนต์สีขาวหรือครีมจะช่วยติดต่อการงานสะดวก
คนเกิด20สิงหาคม
รักก้าวหน้า ทะเยอทะยานไม่สิ้นสุด ไม่ค่อยพอใจในสิ่งที่มี ดื้อรั้นเงียบๆแต่ทำงานดี ฉลาดรอบรู้
ชอบแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดไปเรื่อยๆ ความรักก็เช่นกัน การเดินทางจะได้พบเพศตรงข้ามที่จะสานสัมพันธ์ได้บ่อยๆครั้ง
วีไอ(ลอกคำทำนาย)หมอดู แม่นระดับให้หมอดูมาทำนายหุ้น รายงาน
แต่ต้องให้webmasterเล่นด้วยนะฮะ เปิดห้องthe mask stocks ขึ้นมาเลย
เข้าได้เฉพาะสมาชิก คนนอกเข้าไม่ได้ แล้วปิดชื่อlog in ได้ แล้ววิจารณ์+-voteกันแบบลงคะแนนลับ
จะได้เป็นที่รวมความรู้+ความเห็นดีๆตรงไปตรงมาสับแหลกที่ไม่bias เพราะไม่มีชื่อไงฮะ
ประชุมลับครั้งที่แล้ว ตรงกับวันเกิดอ.นิเวศน์ที่เคารพรักของพวกเราพอดี
กระผมในนามลูกศิษย์ห้องนั่งเล่นหาดใหญ่จึงขอกราบอวยพรให้อ.สุขภาพกายแข็งแรง อายุใจน้อยลงไปเรื่อยๆ
เป็นที่พึ่งทางความคิดจิตใจของลูกศิษย์และสมาชิกต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะไม่มีตลาดหุ้นนะฮะ
คนเกิดวันที่20 (หนังสือทำนายชีวิตจากตัวเลขวันเกิด : จุฑามาศ ณ สงขลา)
ชะตาเหมือนคนเกิดวันที่2 เพียงแต่มีเลข0 ดาวมฤตยูเพิ่มมา ทำให้ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิง ชะตาหักเหพลิกแพงต่างๆนานาเพิ่มมากด้วย
นิสัย
เพ้อฝัน ชอบปฏิรูปเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ดื้อรั้นเงียบๆ ทะเยอทะยาน
ใจตนเป็นใหญ่ ก้าวหน้ารึพลาดพลั้งก็เพราะใจตนเท่านั้น
กระตือรือร้น ไม่ชอบย่ำเท้าอยู่กับที่ กล้าพูดกล้าทำกล้าเสี่ยง ไม่เชื่อฟังความคิดใครถ้าตนไม่เชื่อตามนั้น
แต่หากนับถือใครจะชื่นชมศรัทธาอย่างจริงใจ บางครั้งจิตใจออกนอกลู่นอกทาง คิดวิปริต(ใช้คำนี้จริงๆฮะ)ผิดผู้อื่นได้ รึทำในสิ่งที่คนอื่นไม่คาดคิด
หากเกิดมาจนจะดิ้นรนจนสามารถทัดเทียมคนอื่นได้ เห็นอกเห็นใจคนแต่ไม่ชอบช่วยเหลือใครมากนัก
คิดมากคิดแยะแต่กลับละเลยบางเรื่อง ความคิดมักมีช่องโหว่ ชอบเก็บเนื้อเก็บตัวแต่ชอบทำตัวให้วงสังคมตัวเองรักใครชื่นชม
ไม่ชอบเป็นผู้นำใครมากนัก รักตัวเองไม่อยากเห็นตัวเองเจ็บช้ำ มีนิสัยชอบปกป้องตัวเองจนบางครั้งทำให้คนไกล้ชิดเสียใจจนแก้สถานการณ์ไม่ได้
สติปัญญา
ดี สนใจรอบรู้สิ่งต่างๆ ชอบพบปะพูดคุยกับผู้รู้ พากเพียรบากบั่นการเรียน แม้เกิดมาจนแต่ดิ้นรนเรียนสูงขึ้นไป
สนใจการศึกษาทั้งในและนอกระบบ ทะเยอทะยานในการเรียนทาก อยากให้ผู้อื่นยอมรับในสติปัญญาและความสมารถเสมอ
สนใจใคร่รู้ศิลปะ มีความคิดฝัน ถ้าเรียนช่างฝีมือรึการเขียนจะได้รับชื่อเสียงและการยอมรับจากผู้คน
เรียนรู้หลายๆด้านจะดีกว่าด้านเดียว มีมากที่เรียนด้านหนึ่งแต่ไปทำงานอีกด้าน มีพรสวรรค์เรียนรู้เร็ว การศึกษาจะให้ทุกสิ่งที์ต้องการได้
ยังจะเรียนไปเรื่อยๆจนตลอดชีวิต ถ้าสนใจรัฐศาสตร์การปกครองภาษาจะเรียนได้ดี ก้าหน้า สอบชิงทุนถ้าเตรียมพร้อมจะได้ทั้งนั้น
อาชีพ
ไม่เหมาะกับอาชีพอิสระเพราะลมเพลมพัด ถ้าไม่มีหลักยึดจะไม่ก้าวหน้า ไม่ควรเป็นเจ้าของกิจการด้วยตัวคนเดียว
เพราะดวงทำอะไรคนเดียวมักสำเร็จยาก ต้องมีเพื่อนช่วยเป็นฐานรากให้ หากทำงานตำแหน่งสูงๆต้องระวังลูกน้อง(ลูกศิษย์?)ให้มากๆเพราะอาจมีปัญหา แต่ถ้าได้บริวารดีก็ช่วยส่งเสริมการได้มากเช่นกัน
งานด้านการเขียน การพูด บันเทิง ทำได้ดี มีชื่อเสียงด้านธุรกิจสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุจะได้ผลดี มีคนเชื่อมั่นฝีมือ
บั้นปลายชีวิตจะยังทำงานที่ตัวเองรักไปได้เรื่อยๆ ไม่ค่อยเหนื่อยยาก แต่ควรระวังงานด้านการเมือง การปกครอง
เพราะอาจมีจุดหักเหได้ง่าย บางครั้งอาจมีความคิดหัวรุนแรง ชอบการปฏิรูป ปฏิวัติ หรือชอบการเปลี่ยนแปลงด้วยวิธีใหม่ๆ สนใจด้านวิศวกรรมอะไรประมาณนั้น
การเงิน
มีเงินไม่ค่อยมากนักในพื้นดวงชะตา(น่าจะแปลว่ามีก็เหมือนไม่มี..) เงินไม่ค่อยคล่องมือลื่นไหลอย่างใครอื่น
แต่เป็นคนมัธยัสถ์รู้จักใช้เงินมาก ทำให้มีเงินเก็บ รู้ค่าของเงิน ไม่ค่อยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเท่าไรนัก
แต่หากชอบใจสิ่งใดจะพยามเก็บเงินซื้อมาจนใด้ ชอบใช้ของดีมีราคา มีของน้อยชิ้นแต่ราคาแพง
จะไม่ค่อยเดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะจัดระบบการใช้จ่ายได้ดี ถึงจะมาจากครอบครัวยากจนก็สร้างตัวเองขึ้นมาใด้
ถึงจะไม่ร่ำรวยแต่ก็พอมีพอกินตลอดชีวิต เรื่องเงินต้องอาศัยคนอื่นเป็นแรงผลักดันหรือเป็นรากฐานชีวิต
ครอบครัว
แนบแน่นสนิทสนมเป็นพักๆ บางครั้งเย็นชาห่างเหิน บางครั้งไกล้ชิดแล้วแต่อารมณ์ความรู้สึกในช่วงนั้น
มีครอบครัวใหญ่ให้อบอุ่นคิดถึง แต่มักอยู่ห่างจากครอบครัวพ่อแม่พี่น้อง มีความคิดเห็นของตัวเองแตกต่างจากญาติพี่น้องคนอื่นๆ
จะได้ช่วยเหลือสนิทสนมกับคนในครอบครัวหลายๆคน มีมรดกจากพ่อแม่และบั้นปลายชีวิตจะได้กลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกับญาติพี่น้อง
ความรัก คู่ครอง
มีความรักดีงามแต่ไม่ค่อยมั่นคงนัก เพราะอารมณ์ตัวเองเป็นสำคัญ ไม่ค่อยพอใจกับความรักที่ตัวเองมี
ชอบแสวงหารักใหม่ๆอยู่ร่ำไป เจอรักแท้สักครั้งหนึ่งก็อาจรักษาไว้ไม่ได้
ไม่มีปัญหาใหญ่โตเรื่องความรัก แต่มีมากที่ดวงทำให้หย่าร้างเพราะจิตใจไม่ม้่่่นคงและอยู่โดดเดี่ยวในบั้นปลาย
มีความรักฝังใจอย่างยากจะให้อภัยตัวเอง คู่ครองจะช่วยสนับสนุนดวงชะตาได้มาก แต่มักเป็นคนปิดกั้นความรู้สึกเบื้องลึก มีมากที่ไม่ได้แต่งงานเพราะความรักมั่นกันแท้จริง บางคนรักคนนึงแต่แต่งกับอีกคนนึง
สุขภาพ
เป็นตนแข็งแรง แทบไม่ต้องพึ่งหมอรึโรงบาล แต่กลับเป็นหวัดง่ายแพ้อากาศ โรคประจำตัวคือกระเพาะอาหาร
นิสัยไม่ค่อยดูแลสุขภาพ มักคิดเองว่าเป็นเองก็หายเอง ไม่ค่อนสนใจออกกำลังกาย
บั้นปลายชีวิตต้องระวังรักษาอารมณ์ตัวเองให้มากๆเพื่อป้องกันโรคเครียด เหงา ขาดกำลังใจ
เพื่อนมิตรศัตรู
โชคดีที่มีมิตรแยะ ล้วนแต่เป็นมิตรที่ดี ช่วยเหลืองานต่างๆได้ เป็นคนที่เพื่อนๆรักใคร่ห่วงใยและมองเห็นความดีงามของคุณเสมอ
แต่บางเวลาก็เก็บตัวคบเพื่อนน้อย มีเพื่อนที่รู้จักตัวตนจริงๆไปถึงเรื่องส่วนตัวน้อยมาก
จะมีศัตรูเป็นเพศตรงข้าม ไม่มั่นคงไม่เข้าใจกันสูง ทำให้เข้าใจผิดและเป็นศัตรูกันได้
แต่ไม่ใด้ทำร้ายให้ร้ายอะไรมากมาย แค่ขัดขวางไม่ให้เด่นกว่ารึพูดจาใ่สร้ายป้ายสีบ้างเท่านั้น
แต่ศัตรูด้านความคิดจิตใจภายในตัวเองนี่แหละ สำคัญที่สุด
บริวาร
คนรอบข้างคบหาสมาคมกันมากมาย แต่ไม่ตกตำแหน่งบริวารท่าน เพราะเป็นดวงมีบริวารน้อย
ส่วนใหญ่แล้วลูกหลานญาติพี่น้องเท่านั้นที่เป็นดวงบริวาร ซึ่งจะต้องค่อยแก้ปัญหาสนับสนุนเงินและการศึกษาให้
ถ้ามีตำแหน่งใหญ่ บริวารอาจสร้างปัญหาให้ ควรใช้อำนาจบารมีปกครองบ้างจะดีขึ้น
โชคลาภ
ไม่ค่อยมีโชคลาภ ทั้งพนันรึฟลุคๆ ถ้าจะมีลาภก็โดยเสน่หาหรือผู้ใหญ่ให้มา มักเป็นที่ดินมากกว่าเงินทอง
ดวงชะตาขึ้นๆลงๆ ดังนั้นโชคลาภก็ลมเพลมพัดตามไปด้วย
โชคดีอย่างเดียวคือ มีเพื่อนรักมากมาย มีคนรักใคร่หวังดี ไม่ขาดผู้ใหญ่สนับสนุน
การเดินทาง
ชอบเดินทางแบบสมบุกสมบัน บุกป่าฝ่าดงมากกว่าท่องเที่ยวแบบทัวร์สะดวกสบาย
ชอบไปที่ๆไม่มีคนสนใจ มีการเดินทางเพื่อเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ด้านศิลปวัฒนธรรม
ไม่มีโชคลาภความสำเร็จจากการเดินทาง
จนถึงบั้นปลายชีวิตก็ยังรักการเดินทาง ไม่ได้เดินทางแล้วชีวิตจะอ้างว้างเงียบเหงามาก
ความเชื่อมงคล
สีเสื้อผ้า ครีม สีอ่อนๆจะเสริมสง่าราศี ไม่ควรสวมสีเข้ม
อัญมณีเน้นเพชร ทอง หินสีเทา วัตถุควรเป็นรูปดหลี่ยมขนมเปียกปูนและสวมใส่แหวนจะเสริมบารมี
รถยนต์สีขาวหรือครีมจะช่วยติดต่อการงานสะดวก
คนเกิด20สิงหาคม
รักก้าวหน้า ทะเยอทะยานไม่สิ้นสุด ไม่ค่อยพอใจในสิ่งที่มี ดื้อรั้นเงียบๆแต่ทำงานดี ฉลาดรอบรู้
ชอบแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดไปเรื่อยๆ ความรักก็เช่นกัน การเดินทางจะได้พบเพศตรงข้ามที่จะสานสัมพันธ์ได้บ่อยๆครั้ง
วีไอ(ลอกคำทำนาย)หมอดู แม่นระดับให้หมอดูมาทำนายหุ้น รายงาน
samatah
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2913
เดี๋ยวผมปรึกษา เวปมาสเตอร์ดีกว่า เพราะบางทีเรามี bias ชื่อล็อกอิน
เหมือนเดิะมาส ซิงเกอร์นั่นหล่ะ ถ้าไม่รู้ว่าใครร้อง แต่เพลงเพราะมากๆ
เหมือนเดิะมาส ซิงเกอร์นั่นหล่ะ ถ้าไม่รู้ว่าใครร้อง แต่เพลงเพราะมากๆ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2914
หมอหนึ่ง ขอบคุณที่update ข่าวของคุณRomee
วันนี้คุณโจ จัดmeetingที่หาดใหญ่ คิดถึงอาจารย์โจ เลยมาดูเทปmoneytalkตอนอาจารย์มาเมื่อต้นเดือน กค
เลยสรุปมาฝากครับ
MoneyTalk ลงทุนหุ้นสไตด์คุณ โจ ลูกอีสาน
คุณโจได้ลดจำนวนหุ้นที่ลงทุนในไทยและต่างประเทศ
หุ้นที่ลงทุนในไทย ลดลงจาก 60 บริษัท เหลือ 40 บริษัท
หุ้นที่ลงทุนในต่างประเทศ ลดลงจาก 30 บริษัทในเวียดนามเหลือ 20 บริษัท ซึ่งลงทุนในเวียดนาม
และที่ฮ่องกงอีก1ประเทศ
อาจารย์โจได้เปิดเผยสาเหตุในการขายหุ้นออกไป โดยมีเหตุผลดังนี้
1. หุ้นที่ขายเพราะupside gain น้อยกว่าที่คาด
2. คิดผิด
3. สถานการณ์เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่สิ่งที่คาดคิดมาก่อน
เคยขายหมู แต่ยังดีที่ได้กำไร
ช่วงระยะหลัง หาหุ้นที่ดียากขึ้น เพราะคนเก่งเพิ่มขึ้น
ปัจจัยในการซื้อหุ้น
1. กำไรต้องเติบโต ยิ่งมากยิ่งดี สุดท้ายราคาหุ้นจะเติบโตตามกำไรที่โตต่อเนื่อง
2. บริษัทมีคุณภาพดี เช่น บริษัทเป็นผู้นำ ผู้บริหารเก่ง กระแสเงินสดดี งบการเงินดี
3. ราคาสมเหตุผล
มุมมองนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้มองหุ้นเป็นธุรกิจ เวลาเจอวิกฤตก็จะขาย จริงๆไม่ควรขาย
ถ้าเป็นธุรกิจที่ดี ไม่เจ็ง ก็จะกลับมาได้ในที่สุด
ผมผ่านมาหลายวิกฤต เลยมีประสบการณ์ รับมือได้ดีขึ้น
Q: ก่อนเป็นเซียน เคยซื้อหุ้นตามเซียนหรือไม่
A: ไม่เคยซื้อตามใคร แต่ถ้าทราบว่ามีเซียนซื้อหุ้นตัวเดียวกับที่เราซื้อก่อนหน้า
รู้สึกมั่นใจขึ้น บางครั้งก็ซื้อเพิ่มด้วย
บางทีมีคนที่รู้ว่าผมซื้อตัวไหน วันต่อมา ราคาหุ้นอาจขยับขึ้นบ้าง
แต่ราคาหุ้นแพงกว่ามูลค่าที่แท้จริงก็จะขาย สุดท้ายเจ้ามือที่แท้จริงคือกำไร
ผมแนะนำว่า ผมไม่เคยซื้อหุ้นตามใคร อยากเป็นเซียนจะไม่ตามคนอื่น ต้องคิดเอง
Q:สนใจซื้อหุ้นIPOหรือไม่
A:ส่วนใหญ่ถ้าได้จากโบรกเกอร์มา และ ราคาไม่แพงเกินไปก็จะซื้อ
กำไรจริงของport ได้มาจากส่วนหุ้นIPOน้อยมาก
เราสามารถหาข้อมูลได้จากหนังสือชี้ชวนสำหรับหุ้นIPO
วันนี้คุณโจ จัดmeetingที่หาดใหญ่ คิดถึงอาจารย์โจ เลยมาดูเทปmoneytalkตอนอาจารย์มาเมื่อต้นเดือน กค
เลยสรุปมาฝากครับ
MoneyTalk ลงทุนหุ้นสไตด์คุณ โจ ลูกอีสาน
คุณโจได้ลดจำนวนหุ้นที่ลงทุนในไทยและต่างประเทศ
หุ้นที่ลงทุนในไทย ลดลงจาก 60 บริษัท เหลือ 40 บริษัท
หุ้นที่ลงทุนในต่างประเทศ ลดลงจาก 30 บริษัทในเวียดนามเหลือ 20 บริษัท ซึ่งลงทุนในเวียดนาม
และที่ฮ่องกงอีก1ประเทศ
อาจารย์โจได้เปิดเผยสาเหตุในการขายหุ้นออกไป โดยมีเหตุผลดังนี้
1. หุ้นที่ขายเพราะupside gain น้อยกว่าที่คาด
2. คิดผิด
3. สถานการณ์เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่สิ่งที่คาดคิดมาก่อน
เคยขายหมู แต่ยังดีที่ได้กำไร
ช่วงระยะหลัง หาหุ้นที่ดียากขึ้น เพราะคนเก่งเพิ่มขึ้น
ปัจจัยในการซื้อหุ้น
1. กำไรต้องเติบโต ยิ่งมากยิ่งดี สุดท้ายราคาหุ้นจะเติบโตตามกำไรที่โตต่อเนื่อง
2. บริษัทมีคุณภาพดี เช่น บริษัทเป็นผู้นำ ผู้บริหารเก่ง กระแสเงินสดดี งบการเงินดี
3. ราคาสมเหตุผล
มุมมองนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้มองหุ้นเป็นธุรกิจ เวลาเจอวิกฤตก็จะขาย จริงๆไม่ควรขาย
ถ้าเป็นธุรกิจที่ดี ไม่เจ็ง ก็จะกลับมาได้ในที่สุด
ผมผ่านมาหลายวิกฤต เลยมีประสบการณ์ รับมือได้ดีขึ้น
Q: ก่อนเป็นเซียน เคยซื้อหุ้นตามเซียนหรือไม่
A: ไม่เคยซื้อตามใคร แต่ถ้าทราบว่ามีเซียนซื้อหุ้นตัวเดียวกับที่เราซื้อก่อนหน้า
รู้สึกมั่นใจขึ้น บางครั้งก็ซื้อเพิ่มด้วย
บางทีมีคนที่รู้ว่าผมซื้อตัวไหน วันต่อมา ราคาหุ้นอาจขยับขึ้นบ้าง
แต่ราคาหุ้นแพงกว่ามูลค่าที่แท้จริงก็จะขาย สุดท้ายเจ้ามือที่แท้จริงคือกำไร
ผมแนะนำว่า ผมไม่เคยซื้อหุ้นตามใคร อยากเป็นเซียนจะไม่ตามคนอื่น ต้องคิดเอง
Q:สนใจซื้อหุ้นIPOหรือไม่
A:ส่วนใหญ่ถ้าได้จากโบรกเกอร์มา และ ราคาไม่แพงเกินไปก็จะซื้อ
กำไรจริงของport ได้มาจากส่วนหุ้นIPOน้อยมาก
เราสามารถหาข้อมูลได้จากหนังสือชี้ชวนสำหรับหุ้นIPO
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2915
สัมมนา รวมพลนักลงทุนหุ้นในตลาดเวียดนาม 26 สค 17
Mr.Nguyen Duc Trong (Investment Advisory director, Hochiminh Securities Crop, นักลงทุนหุ้น VI ในเวียดนาม และเป็นผู้ถือหุ้น Berkshire Hattaway ร่วมประชุม AGM 4 ครั้ง)
คุณเชาว์ พูดถึงTrongว่า เขากับภรรยาชอบบริจาคเงินช่วยเหลือคนจนที่เวียดนาม
ในแง่การลงทุนในเวียดนาม เขาเคยกล่าว "It's not easy man, there are a bunch of smart people out there. Vietnamese learn quickly. The concept of value investing is a piece of cake."
จำ wording ไม่ได้แน่นอน แต่น่าจะประมาณนี้ ถ้าเราคิดว่าคนเวียดนามยังใหม่ในการลงทุน ผมว่าเราเข้าใจผิดครับ
คนเวียดนามเก่งครับ อย่างคุณ Trung นี่ได้ทุนเรียนฟรีจนจบที่ UC Berkeley
Trung เก่งและรวยมาก แต่ใช้ชีวิตติดดิน สักวันคงเป็น Warren Buffett of Vietnam
เริ่มเข้าสู่หัวข้อสัมมนา
ถามคุณTrongว่า อุตสาหกรรมไหนน่าสนใจ
ตอบ ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นตลาดชายขอบ ไม่เหมือนไทย (Emerging Market) หรือ อเมริกา(Develop Market)
คุณTrong เริ่มลงทุนแนววีไอตั้งแต่ปี 2006
ควรใช้วิธี Bottom up โดยศึกษา company
ส่วนวิธีTop down มันยากในการทำนาย
พิธีกรถามคุณTrong share มุมมองของvi ที่Vietnam
คุณ Trong ตอบว่า
Ask myself,if I can not answer question, bye
เขาพูดด้วยpassion เขาจริงจังในการลงทุน
เราต้องมีอิสรภาพทางความคิด ไม่ต้องมีเงื่อนไข
กฏในการคัดเลือกหุ้นของคุณTrong
1.ธรรมาภิบาลผู้บริหาร
2 ดูคุณภาพของบริษัทใน 5-10 ปีข้างหน้า
3 มีป้อมปราการ สร้างกำแพงป้องกันคู่แข่ง (Competitive advantage)
4 ดูราคาเป็นปัจจัยสุดท้าย
3ข้อแรก ถ้าไม่ผ่านคุณTrongจะไม่ดูข้อที่4 คือราคา
คุณTrongบอกว่าการลงทุนนอกจาก IQ ยังต้องมี EQ ด้วย
ข้างบน
ตอบกลับโพส
Mr.Nguyen Duc Trong (Investment Advisory director, Hochiminh Securities Crop, นักลงทุนหุ้น VI ในเวียดนาม และเป็นผู้ถือหุ้น Berkshire Hattaway ร่วมประชุม AGM 4 ครั้ง)
คุณเชาว์ พูดถึงTrongว่า เขากับภรรยาชอบบริจาคเงินช่วยเหลือคนจนที่เวียดนาม
ในแง่การลงทุนในเวียดนาม เขาเคยกล่าว "It's not easy man, there are a bunch of smart people out there. Vietnamese learn quickly. The concept of value investing is a piece of cake."
จำ wording ไม่ได้แน่นอน แต่น่าจะประมาณนี้ ถ้าเราคิดว่าคนเวียดนามยังใหม่ในการลงทุน ผมว่าเราเข้าใจผิดครับ
คนเวียดนามเก่งครับ อย่างคุณ Trung นี่ได้ทุนเรียนฟรีจนจบที่ UC Berkeley
Trung เก่งและรวยมาก แต่ใช้ชีวิตติดดิน สักวันคงเป็น Warren Buffett of Vietnam
เริ่มเข้าสู่หัวข้อสัมมนา
ถามคุณTrongว่า อุตสาหกรรมไหนน่าสนใจ
ตอบ ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นตลาดชายขอบ ไม่เหมือนไทย (Emerging Market) หรือ อเมริกา(Develop Market)
คุณTrong เริ่มลงทุนแนววีไอตั้งแต่ปี 2006
ควรใช้วิธี Bottom up โดยศึกษา company
ส่วนวิธีTop down มันยากในการทำนาย
พิธีกรถามคุณTrong share มุมมองของvi ที่Vietnam
คุณ Trong ตอบว่า
Ask myself,if I can not answer question, bye
เขาพูดด้วยpassion เขาจริงจังในการลงทุน
เราต้องมีอิสรภาพทางความคิด ไม่ต้องมีเงื่อนไข
กฏในการคัดเลือกหุ้นของคุณTrong
1.ธรรมาภิบาลผู้บริหาร
2 ดูคุณภาพของบริษัทใน 5-10 ปีข้างหน้า
3 มีป้อมปราการ สร้างกำแพงป้องกันคู่แข่ง (Competitive advantage)
4 ดูราคาเป็นปัจจัยสุดท้าย
3ข้อแรก ถ้าไม่ผ่านคุณTrongจะไม่ดูข้อที่4 คือราคา
คุณTrongบอกว่าการลงทุนนอกจาก IQ ยังต้องมี EQ ด้วย
ข้างบน
ตอบกลับโพส
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2916
สัมมนา วันรวมพลคนลงทุนหุ้นเวียดนาม
ช่วงบ่าย ตอน กลยุทธ์การลงทุนหุ้นเวียดนามปี2017
วิทยากร:
- ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร (ปรมาจารย์การลงทุนหุ้น VI ผู้จุดประกายการลงทุนหุ้นเวียดนาม)
- Mr.Nguyen Duc Trong (Investment Advisory director, Hochiminh Securities Crop, นักลงทุนหุ้น VI ในเวียดนาม และเป็นผู้ถือหุ้น Berkshire Hattaway ร่วมประชุม AGM 4 ครั้ง)
พิธีกรได้เริ่มต้นสอบถามดร นิเวศน์ ว่าได้ข่าวว่าให้หลานเรียกปาปา แทนคุณตาใช่ไหมครับ
ดร นิเวศน์ตอบว่าใช่ครับ ผมเกิดเป็นนักเลือก ไม่ตามกระแส เราสอนหลานได้ แต่ไม่ได้บังคับ
ยีนส์เป็นตัวบ่งบอกตัวตนของมนุษย์ ถ้ามีโอกาสชนะ เราก็เลือก
ก่อนไปลงทุนในเวียดนาม ก็ไปมาหลายประเทศ ไปจบที่เวียดนามที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
เวียดนามอยู่ใกล้บ้านเรา วัฒนธรรมก็ใกล้เคียงกัน
ตอนนี้ลงทุน10กว่า%ของPort คงไม่ได้ลงทุนเยอะมากไปกว่านี้
ค่าเงินของเวียดนามลดค่าลง7% เราลงทุนหุ้นตัวเล็กperformanceแพ้ดัชนีของตลาดเวียดนาม
ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่
ซึ่งเหมือนกับประเทศไทย การลงทุนหุ้นตัวเล็กบางครั้งแพ้ตลาด แต่เราก็ลงทุนซื้อไป
เวลาหุ้นบูม หุ้นที่เราลงทุนไว้ก็สามารถเอาคืนได้
ตอนนี้ลงทุนแบบเบลอๆมาพูดกับเขา ความรู้เรื่องหุ้นเวียดนามน้อย
มาแบบไม่ค่อยมีความสามารถ
ถ้าฟังแค่นี้อย่าด่วนสรุป เพราะอาจารย์นิเวศน์ท่านจะบอกเรื่องที่สำคัญกว่านั้น
มาลองติดตามต่อครับ
ผมเป็นนักเลือก ก่อนลงทุน ก็เลือกวิธีการลงทุน
ผมไม่เอาweaknessของตัวเองมาแข่ง เราไม่เลือกหุ้นแข่งกับเขาซึ่งเชี่ยวชาญกว่าเรา
แต่หากลยุทธ์ที่ไม่ทำให้เสียเปรียบเยอะ
เราขอแค่โตไปกับตลาดหุ้นเวียดนามในระยะยาว
เคยมีคนวิจัยว่ากลยุทธ์แบบไหนได้ผลตอบแทนดีสุด
ใน20ปี กลยุทธ์ เหวี่ยงแห โดยใช้ Algorithms แบบหาหุ้นราคาถูก
หรือ ลงทุนแบบmagic formula ดีกว่าลงทุนแบบVI
ถ้าrepeatแบบไทย นาทีนี้ดูเวียดนาม โตเร็ว เราอยากรวยเร็วเหมือนวีไอรุ่นก่อน
ทำอะไรก็ตาม อย่าตั้งความหวังมากเดี๋ยวผิดหวัง
ส่วนตัวอาจารย์ตอนนี้ลงทุน100กว่าตัว รอบแรก 60 กว่าตัว รอบสอง 30 กว่าตัว
รอบที่สาม เลือกหุ้นด้วยตัวเอง 20 กว่าตัวปรากฏว่าเจ๊ง
รอบแรกดีที่สุด ตอนนั้นมีเงินสดเหลือเยอะ ลงตามสูตรเลยไม่มีการคัดหุ้นอีกที
รอบที่สองใช้ magic formular ผ่านไป1ปีไม่ไปไหน เลิกพูดหุ้นเวียดนาม
พอปีที่สองกำไร40%กว่า เลยกลับมาพูดใหม่ แสดงว่าโดยเฉลี่ยดีกว่าตลาดหุ้นไทย
เลยเอาเงินมาลงทุนรอบที่สาม
การเลือกหุ้นเอง บางทีมีคนเชียร์ หุ้นบรรทุกคนไปตามเกาะ
กะว่าดีแน่ เกือบเป็นเจ้าใหญ่ marginดีมาก ปรากฏว่าซื้อแล้วขาดทุนไป 40%
รอบแรก ใช้ระบบเลือกให้ บางตัวหุ้นน้ำตาลดูไม่น่าซื้อ แต่ก็ซื้อตามสูตร
แต่ปรากฏว่าน้ำตาลราคาดีขึ้นมา100%
รอบที่สอง ได้หุ้นมา และscreenอีกรอบ หุ้นตัวที่ตัดออกเช่น น้ำตาลผลตอบแทนกลับดี
รอบที่สาม ได้หุ้นเหล็กออกมาตัดทิ้งปรากฏว่าขึ้นมากๆ
ดังนั้นสรุปบทเรียนว่าscreenออกมาแล้วห้ามตัดทิ้ง
เราไม่ยอมซื้อหุ้นpremium เกิน 7% สุดท้ายหุ้นที่ไม่มีpremium ไม่ค่อยดี
แต่หุ้นที่ซื้อแบบpremiumเกิน7% ปรากฏว่าขึ้นดีมาก
ถ้าเราลงทุนในภาพใหญ่ถูกต้อง ก็รวยได้
ที่เวียดนาม ซื้อแล้วเก็บ จริงๆต้องขาย ตอนหลังก็ร่วมหัวจมท้ายกับหุ้นเวียดนาม
เพราะถ้าเราขายและเก็บบางตัว จะทำให้ภาพใหญ่ที่คิดไว้ไม่ตรง
ทริปที่ไปเวียดนามเดือน พย ก็น่าขอวีซ่าที่บ้านได้
อยากเลือกหุ้น แต่ก็รอไปเรื่อยๆ มีโอกาสก็อยากลงทุนอีก เพราะได้ปันผลมาเยอะ
ตอนนี้มีเยอะสุด คือ โรงไฟฟ้าที่เวียดนามไม่เหมือนกับไทย ไม่ค่อยโต ไม่กำไรเยอะ
ถ้ากำไรเยอะ ก็โดนรัฐเอาคืน ถ้าขาดทุนรัฐชดเชยให้
เป็นปัญหาใหญ่ของเวียดนาม บริษัทส่วนใหญ่ถือหุ้นโดยรัฐบาล
บริษัทที่ผมถือ กำไรโตทุกตัว มีจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า5%
หลายท่านมีลงทุนเวียดนามอาจได้มากกว่าผม
บางคนลงทุนแล้วได้ของแถมเป็นคนกลับมาด้วย 555
ห้องสัมมนานี้ ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แสดงว่าการลงทุนเป็นเรื่องท้าทาย เป็นรุ่นบุกเบิก
คนที่มาทีหลัง ก็จะได้น้อย
ตลาดเวียดนามเปรียบเทียบกับไทยเมื่อ20ปี หมายถึงอีก20ปีจะแซงไทย
เวียดนามคล้ายเกาหลี การศึกษาดี ทรัพยากรดีพอ มีโอกาสที่จะไป
ตัวเลขของเวียดนาม สะท้อนคล้ายประเทศไทยสมัยก่อนที่ผมทำงานFinance
Broker ส่งรายงานมาให้อ่านประจำ การเติบโต10กว่า% เป็นเรื่องปกติ
เวียดนามเป็นแบบไทย การท่องเที่ยว โต 20กว่า% ไทยโตน้อยกว่า
ทุกอย่างเหมือนกันหมด
ภาพเล็ก เช่น แรงจูงใจของบริษัทจะน้อยกว่าของไทย เพราะเขาไม่ใช้เจ้าของ เป็นแค่ผู้บริหาร
คนของเขาก็พร้อม ได้คะแนนดีจากการทดสอบจากต่างประเทศ
ถามคุณTrong อยากให้แชร์กระบวนการความคิด
ตอบ สไตล์การลงทุน ขึ้นกับการตัดสินใจของตัวเอง
ยกตัวอย่าง ที่ล้มเหลวในการลงทุน และ ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนมา
ดร นิเวศน์เสริม หุ้นร้อนแรงมีความเสี่ยงมีโอกาสกำไรเหมือนคนที่ซื้อมาก่อนมันยาก
มันเหมือนประเทศไทยสมัยก่อนหุ้นธนาคารมีforeign premiumสูง ฝรั่งซื้อเยอะ
ไม่ควรเข้าไปยุ่ง เพราะผลประกอบการก็ไม่ดี
ตอนนี้ขนาดก็ไม่เล็กแล้ว โอกาสโตเยอะๆยาก super stock จะขึ้นอีกสิบเท่าโอกาสเป็นไปได้น้อย
อีกประเด็น หุ้นVinamilk ถ้ามาอยู่เมืองไทย ดูไม่ค่อยมีอนาคต เรามานั่งนึกดู
ขายนมเมจิ ก็ดูใหญ่ใช้ได้ แต่ช่วงนึงนมยี่ห้อต่างๆเข้ามาตอนช่วงเปิดประเทศ
ดังนั้นที่เวียดนาม ถ้าคู่แข่งเข้ามาเช่น โฟรโมสต์ เนสเล่ อะไรจะเกิดขึ้น
อีกบริษัทขายไอติมที่คนเวียดนามกินกันทั่วประเทศ
พอมีของใหม่มา คนสมัยใหม่ก็จะมากิน เลยไม่รู้เวียดนามจะเหมือนหรือชาตินิยม
กินแต่ยี่ห้อเดิม
อย่างไอติมวอลล์ หรือ เบียร์ คนอาจติดมากกว่า ชอบรสชาติดั้งเดิม
ส่วนเหล้า สมัยก่อนชอบแม่โขง แต่สมัยนี้คนรุ่นใหม่ไม่กินแม่โขง แต่กินยี่ห้อเดิมที่ชอบ
เวลาลงทุนใหม่ ที่เวียดนามผมซื้อหุ้นที่มีกำไรแน่นอน และ ปันผล7-8%
พอดอกเบี้ยลงไปเรื่อยๆ ถึงวันนึงคนเริ่มเข้าในตลาดหุ้น ค่าPE 7-8เท่าไป 20เท่า
เหมือนเมืองไทยสมัยก่อน ฝรั่งเข้ามาทำให้PEสูงขึ้น
สุดท้ายดอกเบี้ยลดลง
กลยุทธ์ในสามปีข้างหน้า ไม่อยากเพิ่มสัดส่วนในหุ้นเวียดนามอีก
อยู่เฉยๆรอลาภลอยมา แต่อาจมีทำอะไรบ้าง ปล่อยไปแบบนี้
กิจกรรมผม คือมาพูดไม่ได้ลงทุน
ตลาดหุ้นเวียดนาม ได้แค่ 10%ก็พอใจได้ แต่ลดความคาดหวังลงไป
การลงทุนโดยใช้magic formula คือซื้อขายทุกปี แต่ดรไม่ได้ทำตาม
ซื้อครั้งแรกและทิ้งไว้ เพราะหุ้นไม่มีสภาพคล่อง ขายไม่ได้ ดังนั้นการเลือกถือหุ้นดีกว่า
สุดท้ายขอขอบคุณ ดร นิเวศน์ และ MR Trongมากครับ
ช่วงบ่าย ตอน กลยุทธ์การลงทุนหุ้นเวียดนามปี2017
วิทยากร:
- ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร (ปรมาจารย์การลงทุนหุ้น VI ผู้จุดประกายการลงทุนหุ้นเวียดนาม)
- Mr.Nguyen Duc Trong (Investment Advisory director, Hochiminh Securities Crop, นักลงทุนหุ้น VI ในเวียดนาม และเป็นผู้ถือหุ้น Berkshire Hattaway ร่วมประชุม AGM 4 ครั้ง)
พิธีกรได้เริ่มต้นสอบถามดร นิเวศน์ ว่าได้ข่าวว่าให้หลานเรียกปาปา แทนคุณตาใช่ไหมครับ
ดร นิเวศน์ตอบว่าใช่ครับ ผมเกิดเป็นนักเลือก ไม่ตามกระแส เราสอนหลานได้ แต่ไม่ได้บังคับ
ยีนส์เป็นตัวบ่งบอกตัวตนของมนุษย์ ถ้ามีโอกาสชนะ เราก็เลือก
ก่อนไปลงทุนในเวียดนาม ก็ไปมาหลายประเทศ ไปจบที่เวียดนามที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
เวียดนามอยู่ใกล้บ้านเรา วัฒนธรรมก็ใกล้เคียงกัน
ตอนนี้ลงทุน10กว่า%ของPort คงไม่ได้ลงทุนเยอะมากไปกว่านี้
ค่าเงินของเวียดนามลดค่าลง7% เราลงทุนหุ้นตัวเล็กperformanceแพ้ดัชนีของตลาดเวียดนาม
ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่
ซึ่งเหมือนกับประเทศไทย การลงทุนหุ้นตัวเล็กบางครั้งแพ้ตลาด แต่เราก็ลงทุนซื้อไป
เวลาหุ้นบูม หุ้นที่เราลงทุนไว้ก็สามารถเอาคืนได้
ตอนนี้ลงทุนแบบเบลอๆมาพูดกับเขา ความรู้เรื่องหุ้นเวียดนามน้อย
มาแบบไม่ค่อยมีความสามารถ
ถ้าฟังแค่นี้อย่าด่วนสรุป เพราะอาจารย์นิเวศน์ท่านจะบอกเรื่องที่สำคัญกว่านั้น
มาลองติดตามต่อครับ
ผมเป็นนักเลือก ก่อนลงทุน ก็เลือกวิธีการลงทุน
ผมไม่เอาweaknessของตัวเองมาแข่ง เราไม่เลือกหุ้นแข่งกับเขาซึ่งเชี่ยวชาญกว่าเรา
แต่หากลยุทธ์ที่ไม่ทำให้เสียเปรียบเยอะ
เราขอแค่โตไปกับตลาดหุ้นเวียดนามในระยะยาว
เคยมีคนวิจัยว่ากลยุทธ์แบบไหนได้ผลตอบแทนดีสุด
ใน20ปี กลยุทธ์ เหวี่ยงแห โดยใช้ Algorithms แบบหาหุ้นราคาถูก
หรือ ลงทุนแบบmagic formula ดีกว่าลงทุนแบบVI
ถ้าrepeatแบบไทย นาทีนี้ดูเวียดนาม โตเร็ว เราอยากรวยเร็วเหมือนวีไอรุ่นก่อน
ทำอะไรก็ตาม อย่าตั้งความหวังมากเดี๋ยวผิดหวัง
ส่วนตัวอาจารย์ตอนนี้ลงทุน100กว่าตัว รอบแรก 60 กว่าตัว รอบสอง 30 กว่าตัว
รอบที่สาม เลือกหุ้นด้วยตัวเอง 20 กว่าตัวปรากฏว่าเจ๊ง
รอบแรกดีที่สุด ตอนนั้นมีเงินสดเหลือเยอะ ลงตามสูตรเลยไม่มีการคัดหุ้นอีกที
รอบที่สองใช้ magic formular ผ่านไป1ปีไม่ไปไหน เลิกพูดหุ้นเวียดนาม
พอปีที่สองกำไร40%กว่า เลยกลับมาพูดใหม่ แสดงว่าโดยเฉลี่ยดีกว่าตลาดหุ้นไทย
เลยเอาเงินมาลงทุนรอบที่สาม
การเลือกหุ้นเอง บางทีมีคนเชียร์ หุ้นบรรทุกคนไปตามเกาะ
กะว่าดีแน่ เกือบเป็นเจ้าใหญ่ marginดีมาก ปรากฏว่าซื้อแล้วขาดทุนไป 40%
รอบแรก ใช้ระบบเลือกให้ บางตัวหุ้นน้ำตาลดูไม่น่าซื้อ แต่ก็ซื้อตามสูตร
แต่ปรากฏว่าน้ำตาลราคาดีขึ้นมา100%
รอบที่สอง ได้หุ้นมา และscreenอีกรอบ หุ้นตัวที่ตัดออกเช่น น้ำตาลผลตอบแทนกลับดี
รอบที่สาม ได้หุ้นเหล็กออกมาตัดทิ้งปรากฏว่าขึ้นมากๆ
ดังนั้นสรุปบทเรียนว่าscreenออกมาแล้วห้ามตัดทิ้ง
เราไม่ยอมซื้อหุ้นpremium เกิน 7% สุดท้ายหุ้นที่ไม่มีpremium ไม่ค่อยดี
แต่หุ้นที่ซื้อแบบpremiumเกิน7% ปรากฏว่าขึ้นดีมาก
ถ้าเราลงทุนในภาพใหญ่ถูกต้อง ก็รวยได้
ที่เวียดนาม ซื้อแล้วเก็บ จริงๆต้องขาย ตอนหลังก็ร่วมหัวจมท้ายกับหุ้นเวียดนาม
เพราะถ้าเราขายและเก็บบางตัว จะทำให้ภาพใหญ่ที่คิดไว้ไม่ตรง
ทริปที่ไปเวียดนามเดือน พย ก็น่าขอวีซ่าที่บ้านได้
อยากเลือกหุ้น แต่ก็รอไปเรื่อยๆ มีโอกาสก็อยากลงทุนอีก เพราะได้ปันผลมาเยอะ
ตอนนี้มีเยอะสุด คือ โรงไฟฟ้าที่เวียดนามไม่เหมือนกับไทย ไม่ค่อยโต ไม่กำไรเยอะ
ถ้ากำไรเยอะ ก็โดนรัฐเอาคืน ถ้าขาดทุนรัฐชดเชยให้
เป็นปัญหาใหญ่ของเวียดนาม บริษัทส่วนใหญ่ถือหุ้นโดยรัฐบาล
บริษัทที่ผมถือ กำไรโตทุกตัว มีจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า5%
หลายท่านมีลงทุนเวียดนามอาจได้มากกว่าผม
บางคนลงทุนแล้วได้ของแถมเป็นคนกลับมาด้วย 555
ห้องสัมมนานี้ ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แสดงว่าการลงทุนเป็นเรื่องท้าทาย เป็นรุ่นบุกเบิก
คนที่มาทีหลัง ก็จะได้น้อย
ตลาดเวียดนามเปรียบเทียบกับไทยเมื่อ20ปี หมายถึงอีก20ปีจะแซงไทย
เวียดนามคล้ายเกาหลี การศึกษาดี ทรัพยากรดีพอ มีโอกาสที่จะไป
ตัวเลขของเวียดนาม สะท้อนคล้ายประเทศไทยสมัยก่อนที่ผมทำงานFinance
Broker ส่งรายงานมาให้อ่านประจำ การเติบโต10กว่า% เป็นเรื่องปกติ
เวียดนามเป็นแบบไทย การท่องเที่ยว โต 20กว่า% ไทยโตน้อยกว่า
ทุกอย่างเหมือนกันหมด
ภาพเล็ก เช่น แรงจูงใจของบริษัทจะน้อยกว่าของไทย เพราะเขาไม่ใช้เจ้าของ เป็นแค่ผู้บริหาร
คนของเขาก็พร้อม ได้คะแนนดีจากการทดสอบจากต่างประเทศ
ถามคุณTrong อยากให้แชร์กระบวนการความคิด
ตอบ สไตล์การลงทุน ขึ้นกับการตัดสินใจของตัวเอง
ยกตัวอย่าง ที่ล้มเหลวในการลงทุน และ ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนมา
ดร นิเวศน์เสริม หุ้นร้อนแรงมีความเสี่ยงมีโอกาสกำไรเหมือนคนที่ซื้อมาก่อนมันยาก
มันเหมือนประเทศไทยสมัยก่อนหุ้นธนาคารมีforeign premiumสูง ฝรั่งซื้อเยอะ
ไม่ควรเข้าไปยุ่ง เพราะผลประกอบการก็ไม่ดี
ตอนนี้ขนาดก็ไม่เล็กแล้ว โอกาสโตเยอะๆยาก super stock จะขึ้นอีกสิบเท่าโอกาสเป็นไปได้น้อย
อีกประเด็น หุ้นVinamilk ถ้ามาอยู่เมืองไทย ดูไม่ค่อยมีอนาคต เรามานั่งนึกดู
ขายนมเมจิ ก็ดูใหญ่ใช้ได้ แต่ช่วงนึงนมยี่ห้อต่างๆเข้ามาตอนช่วงเปิดประเทศ
ดังนั้นที่เวียดนาม ถ้าคู่แข่งเข้ามาเช่น โฟรโมสต์ เนสเล่ อะไรจะเกิดขึ้น
อีกบริษัทขายไอติมที่คนเวียดนามกินกันทั่วประเทศ
พอมีของใหม่มา คนสมัยใหม่ก็จะมากิน เลยไม่รู้เวียดนามจะเหมือนหรือชาตินิยม
กินแต่ยี่ห้อเดิม
อย่างไอติมวอลล์ หรือ เบียร์ คนอาจติดมากกว่า ชอบรสชาติดั้งเดิม
ส่วนเหล้า สมัยก่อนชอบแม่โขง แต่สมัยนี้คนรุ่นใหม่ไม่กินแม่โขง แต่กินยี่ห้อเดิมที่ชอบ
เวลาลงทุนใหม่ ที่เวียดนามผมซื้อหุ้นที่มีกำไรแน่นอน และ ปันผล7-8%
พอดอกเบี้ยลงไปเรื่อยๆ ถึงวันนึงคนเริ่มเข้าในตลาดหุ้น ค่าPE 7-8เท่าไป 20เท่า
เหมือนเมืองไทยสมัยก่อน ฝรั่งเข้ามาทำให้PEสูงขึ้น
สุดท้ายดอกเบี้ยลดลง
กลยุทธ์ในสามปีข้างหน้า ไม่อยากเพิ่มสัดส่วนในหุ้นเวียดนามอีก
อยู่เฉยๆรอลาภลอยมา แต่อาจมีทำอะไรบ้าง ปล่อยไปแบบนี้
กิจกรรมผม คือมาพูดไม่ได้ลงทุน
ตลาดหุ้นเวียดนาม ได้แค่ 10%ก็พอใจได้ แต่ลดความคาดหวังลงไป
การลงทุนโดยใช้magic formula คือซื้อขายทุกปี แต่ดรไม่ได้ทำตาม
ซื้อครั้งแรกและทิ้งไว้ เพราะหุ้นไม่มีสภาพคล่อง ขายไม่ได้ ดังนั้นการเลือกถือหุ้นดีกว่า
สุดท้ายขอขอบคุณ ดร นิเวศน์ และ MR Trongมากครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2917
Q2 60 meetingVIหาดใหญ่ ครั้งที่33 8ปี+1Q
สมาชิกมาจากพะเยา(ขับรถไปเชียงราย ขึ้นเรือบินมาค้่างหาดใหญ่)เชียงใหม่,มารถเข็นก็มี
ขนาดอ.randomเวลาจองก็แล้ว เปลี่ยนวันจองก็แล้ว (คงเบื่อพวกหน้าเก่าๆ)
จองเต็มใน1นาที ผมเกือบไม่ได้ไป พี่K-TAW ,ท่านเปรี้ยวและอีกหลายท่านพยามเกลี้ยกล่อมเล้าโลม อ.ให้รับเพิ่ม
ขอเรียนเสนอว่า
1. พวกเก่าๆที่อ.เบื่อหน้าแล้ว ให้สี่สิบที่เหมือนเดิม(ให้มันแย่งจองให้แหลกกันไปข้าง..)ให้นั่งแถวหลังด้วย ไกลๆเลย
2. ให้โควต้าคนมาครั้งแรก รวมทั้งหน้าใหม่ยังไม่เป็นสมาชิกสมาคมยี่สิบที่ นั่งแถวหน้าเลย ให้เตรียมคำถามมาด้วย
3. ให้สิทธิสุภาพสตรีวีไอหญิง(เพื่อความแช่มชื่นหัวใจ อันนี้ทำให้มี้ตติ้งหาดใหญ่สดชื่นกว่าทางกรุงเทพ)อีกยี่สิบที่
(จะให้เด็ก,คนชรา,รึอื่นๆเพิ่มก็แล้วแต่นะฮะ)
เพื่อทำสถิติสมนาหุ้นที่จองเต็มเร็วสุด บริจาคได้มากสุด เป็นกันเองสนุกและได้ความรู้ที่สุดฮะ
Q2 ปีนี้งบไม่ดี หุ้นหลายตัวปราบทั้งเซียนทั้งเม่า โลก,ใหญ่,เย็น,ปั๊มปีเตอร์
สรุปว่าจะอยู่รอด ไม่ง่าย ต้องมี ความตั้งใจจริง ไม่"เล่น"หุ้น
1. ถ้าจะเป็น fulltime investor ต้องขยัน จึงจะเลือกหุ้นได้หลากหลาย
2. ถ้าทำงานไปด้วย เป็นparttime investorอาจเลือกหุ้น ท่าไม่ยากมากนัก กำไรน้อยกว่า แต่ปลอดภัย
ตลาดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น จะกำไรต้องขยันขึ้น (แต่หลักการเหมือนเดิม)
ไม่ต้องหล่อ ไม่ต้องรวย ไม่ต้องฉลาดมาก แต่เลือกวิธีลงทุนให้ถูกต้อง แค่นี้เอง
ถูกบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการพลาดหนักๆ(ถือหุ้นน้อยตัวแล้วผิด)
A: หุ้นลงเยอะน่าช้อนมั้ย
Q: หุ้นลงเยอะๆ แล้วเราเห็นต่างจากมวลชน โดยมีเหตุผลว่าหุ้นยังดีเหมือนเดิม ก็น่าซื้อ
แต่ บางตัวลงมาเพราะเน่าจริงๆก็อย่าไปยุ่ง
หุ้นหลักๆของผอร์ตควรจะชัวร์ อย่าถือหุ้นวัดดวง
หุ้นgrowth พีอีสูงๆ ตัวเล็กๆ ตลาดลงก็ร่วงเยอะ เพราะสิ่งที่ค้ำราคาคือการเติบโต ไม่โตก็..
พวกหุ้นปันผล5-7% สิ่งที่ค้ำราคาคือปันผล จะไม่ลงมากตามตลาด
A: ตัวที่มั่นใจ ขาดทุน ตัวที่งงๆ ดันกำไร?
Q: แง่ดีคือหักลบกันได้แล้วเจ๊ากันก็ดีไป
คนที่กำไรคือ กำไร40-50% แต่ขาดทุนแค่5-10% ถ้าทำงี้ได้ระยะยาวก็รวย
ตัวที่ถือเยอะๆ ถ้าเป็นหุ้นเติบโต ต้อง"แน่นอน"สูง
A: ประกาศงบแล้ว วีไอควรทำอย่างไร
Q: ดีกว่าคาด ซื้อเพิ่ม
ผิดคาด.ไม่ใช่แล้ว ขาย
คิดผิด ยอมขาดทุนน้อยๆดีกว่าปล่อยให้ร่วงลง50-60%
แต่ส่วนใหญ่มักไม่ทำอะไรนะ งบออกก็เหมือนเฉลยข้อสอบ
งบคือคำตอบ แต่ถ้าตลาดover react ก็น่าสนใจ
ดูงบ กำไรสุทธิสำคัญที่สุด กำไรพิเศษเป็นตัวเสริมความมั่นใจ
หนี้สิน สต็อค แล้วแต่ธรรมชาติกิจการ
บางธุรกิจcashflow ติดลบแปลว่าโต ดี เช่นปล่อนกู้ ค้าปลีก เป็นบวกเมื่อไร ขายทิ้ง
หุ้นขาดทุนซ้ำซาก โอกาสเจ๊งสูง สุริยะ(หนี้ต่ำแต่ไม่มีใครปล่อยกู้ให้,เพิ่มทุนก็ไม่ได้),ตึกแหว่ง,E4L
A: เลือกหุ้นอย่างไร
Q: 1. ต้องโต(หุ้นดี)
2. ราคาวันนี้ไม่แพงเกิน(ราคาถูก)
3. ถ้าไม่โต ต้องถูกมากๆ
งบดี ปันผลดี (เป็นตัวค้ำราคาหุ้น)
A : หุ้นโต ดูยังไง
Q : ขยายสาขา เปิดร้านเยอะขึ้น
เพิ่มสินค้า บริการ
โต ก้าวไปข้างหน้า แต่ระวังของเดิมหายไปด้วย เช่นproduct เก่าที่เสื่อมความนิยม สัมปทานที่จะหมด
A: 2008รอดมาได้ไง
Q: นักลงทุนคิดแต่กำไร แต่ตลาดเอาแน่นอนไม่ได้ ขึ้นสูงๆแล้วร่วงเอาคืนหนักๆได้
2008 กำไร3% แต่ ขาดทุน(กำไรหาย)จากตอนpeak 60%
เพราะต้นปีกำไรแล้ว66% ร่วงลงมา60% แล้วเด้งกลับไป48% แค่กำไรหาย
พูดตลอดว่า"บางปีพอร์ทอาจหายไปครึ่งนึงได้"
ไม่ใช่ให้cut เพราะไม่มีใครคาดเดาตลาดได้
ไม่ใช่ให้timing แค่เพียง
1. ถือหุ้นดี ราคาไม่แพงไว้ก่อน เพราะลงได้ก็เด้งกลับได้ หรืออาจไม่ลงเพราะปันผลค้ำไว้
2. ห้ามขายหุ้นตอนวิกฤติ(ตลาดล่ม)
3. อดทนให้ได้ เพราะทุกอย่างจะบีบคั้นอารมณ์ กดดัน ตอน300จุดมีแต่ข่าววิกฤติอีกระลอก
4. ตอนนั้นพลาดที่ไม่ได้ใช้margin ที่400จุดคืนมาร์จิ้นหมด เสียดาย,รู้งี้
แต่อ.นิเวศน์ท่านเก๋าเกมส์ งัดมาร์จิ้นมาใช้
ตอนนั้นบริหารเงินให้เพื่อนล้านห้า หุ้นตกเหลือหกแสน เพื่อนล้างผอร์ท อธิบายอยู่นานให้สู้ใหม่ ให้เก็บสอง แสนไว้ เอาสี่แสนมาลงทุนอยู่หกเจ็ดปี เป็นสิบเอ็ดล้านก็คืนให้ไปยืนบนขาตัวเองบริหารต่อ
นักรบต้องมีบาดแผล แต่อยากให้เป็นแผลคนอื่นมากกว่า ฮา
A: หุ้นร่วง50% สวิทช์ดีมั้ย
Q: ทำบ่อยตอนวิกฤติ หุ้นพวกsuperstock หุ้นแข็งแกร่งมักลงไม่มาก เช่นโชวห่วย ลงแค่10%ขายไปรับตัวที่ลง80% = เทคนิคขึ้นจรวดบั้งไฟ ดังนั้นถือหุ้นแข็งๆไว้บ้าง ขายตัวลงน้อยไปซื้อตัวลงเยอะและมีโอกาสเด้งสูง
A: เข้าหุ้นเป็นกลุ่มหรือเป็นตัวๆไป
Q: ถ้าดูหุ้นเยอะ จะรู้เร็วว่าตัวไหนราคาไหนเรียกว่าถูกมากๆ
ซินเทคตอนนี้ห้าบาท ตอนสับพรามจากแปดสิบตังค์ เหลือ11สตางค์ดูแล้วรู้เลยว่าโดนฟอร์สเซลล์
ก็ซื้อๆไป ความรู้ที่สะสมไว้อาจเป็นประโยชน์ในวันหลัง
A: ช่วงหลังๆมา เห็นใครๆก็ถือเงินสดไว้เยอะ
Q: คบเพื่อนมากก็จะกังวล ไม่เกี่ยวกับเรา เจอหุ้นดีก็ซื้อไปสิ ยกเว้นไม่มีหุ้นน่าสนใจก็ถือเงินสดได้
ตอนนี้ยังไม่เห็นตลาดเป็นฟองสบู่ ยังมีหุ้นvalue ไม่คิดว่าจะมีวิกฤติ
A: วีไอถือหุ้นยาวนานแค่ไหน
Q: ในหลักวีไอสี่ข้อ ไม่ได้พูดถึงเวลา ขึ้นกับมองอนาคตได้ไกลแค่ไหน ถ้าหุ้นยังดีก็ถือไปเรื่อยๆ
อ.นิเวศน์ยังถือโชวห่วย เพราะยังดี โตได้เรื่อยๆ
สมาชิกมาจากพะเยา(ขับรถไปเชียงราย ขึ้นเรือบินมาค้่างหาดใหญ่)เชียงใหม่,มารถเข็นก็มี
ขนาดอ.randomเวลาจองก็แล้ว เปลี่ยนวันจองก็แล้ว (คงเบื่อพวกหน้าเก่าๆ)
จองเต็มใน1นาที ผมเกือบไม่ได้ไป พี่K-TAW ,ท่านเปรี้ยวและอีกหลายท่านพยามเกลี้ยกล่อมเล้าโลม อ.ให้รับเพิ่ม
ขอเรียนเสนอว่า
1. พวกเก่าๆที่อ.เบื่อหน้าแล้ว ให้สี่สิบที่เหมือนเดิม(ให้มันแย่งจองให้แหลกกันไปข้าง..)ให้นั่งแถวหลังด้วย ไกลๆเลย
2. ให้โควต้าคนมาครั้งแรก รวมทั้งหน้าใหม่ยังไม่เป็นสมาชิกสมาคมยี่สิบที่ นั่งแถวหน้าเลย ให้เตรียมคำถามมาด้วย
3. ให้สิทธิสุภาพสตรีวีไอหญิง(เพื่อความแช่มชื่นหัวใจ อันนี้ทำให้มี้ตติ้งหาดใหญ่สดชื่นกว่าทางกรุงเทพ)อีกยี่สิบที่
(จะให้เด็ก,คนชรา,รึอื่นๆเพิ่มก็แล้วแต่นะฮะ)
เพื่อทำสถิติสมนาหุ้นที่จองเต็มเร็วสุด บริจาคได้มากสุด เป็นกันเองสนุกและได้ความรู้ที่สุดฮะ
Q2 ปีนี้งบไม่ดี หุ้นหลายตัวปราบทั้งเซียนทั้งเม่า โลก,ใหญ่,เย็น,ปั๊มปีเตอร์
สรุปว่าจะอยู่รอด ไม่ง่าย ต้องมี ความตั้งใจจริง ไม่"เล่น"หุ้น
1. ถ้าจะเป็น fulltime investor ต้องขยัน จึงจะเลือกหุ้นได้หลากหลาย
2. ถ้าทำงานไปด้วย เป็นparttime investorอาจเลือกหุ้น ท่าไม่ยากมากนัก กำไรน้อยกว่า แต่ปลอดภัย
ตลาดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น จะกำไรต้องขยันขึ้น (แต่หลักการเหมือนเดิม)
ไม่ต้องหล่อ ไม่ต้องรวย ไม่ต้องฉลาดมาก แต่เลือกวิธีลงทุนให้ถูกต้อง แค่นี้เอง
ถูกบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการพลาดหนักๆ(ถือหุ้นน้อยตัวแล้วผิด)
A: หุ้นลงเยอะน่าช้อนมั้ย
Q: หุ้นลงเยอะๆ แล้วเราเห็นต่างจากมวลชน โดยมีเหตุผลว่าหุ้นยังดีเหมือนเดิม ก็น่าซื้อ
แต่ บางตัวลงมาเพราะเน่าจริงๆก็อย่าไปยุ่ง
หุ้นหลักๆของผอร์ตควรจะชัวร์ อย่าถือหุ้นวัดดวง
หุ้นgrowth พีอีสูงๆ ตัวเล็กๆ ตลาดลงก็ร่วงเยอะ เพราะสิ่งที่ค้ำราคาคือการเติบโต ไม่โตก็..
พวกหุ้นปันผล5-7% สิ่งที่ค้ำราคาคือปันผล จะไม่ลงมากตามตลาด
A: ตัวที่มั่นใจ ขาดทุน ตัวที่งงๆ ดันกำไร?
Q: แง่ดีคือหักลบกันได้แล้วเจ๊ากันก็ดีไป
คนที่กำไรคือ กำไร40-50% แต่ขาดทุนแค่5-10% ถ้าทำงี้ได้ระยะยาวก็รวย
ตัวที่ถือเยอะๆ ถ้าเป็นหุ้นเติบโต ต้อง"แน่นอน"สูง
A: ประกาศงบแล้ว วีไอควรทำอย่างไร
Q: ดีกว่าคาด ซื้อเพิ่ม
ผิดคาด.ไม่ใช่แล้ว ขาย
คิดผิด ยอมขาดทุนน้อยๆดีกว่าปล่อยให้ร่วงลง50-60%
แต่ส่วนใหญ่มักไม่ทำอะไรนะ งบออกก็เหมือนเฉลยข้อสอบ
งบคือคำตอบ แต่ถ้าตลาดover react ก็น่าสนใจ
ดูงบ กำไรสุทธิสำคัญที่สุด กำไรพิเศษเป็นตัวเสริมความมั่นใจ
หนี้สิน สต็อค แล้วแต่ธรรมชาติกิจการ
บางธุรกิจcashflow ติดลบแปลว่าโต ดี เช่นปล่อนกู้ ค้าปลีก เป็นบวกเมื่อไร ขายทิ้ง
หุ้นขาดทุนซ้ำซาก โอกาสเจ๊งสูง สุริยะ(หนี้ต่ำแต่ไม่มีใครปล่อยกู้ให้,เพิ่มทุนก็ไม่ได้),ตึกแหว่ง,E4L
A: เลือกหุ้นอย่างไร
Q: 1. ต้องโต(หุ้นดี)
2. ราคาวันนี้ไม่แพงเกิน(ราคาถูก)
3. ถ้าไม่โต ต้องถูกมากๆ
งบดี ปันผลดี (เป็นตัวค้ำราคาหุ้น)
A : หุ้นโต ดูยังไง
Q : ขยายสาขา เปิดร้านเยอะขึ้น
เพิ่มสินค้า บริการ
โต ก้าวไปข้างหน้า แต่ระวังของเดิมหายไปด้วย เช่นproduct เก่าที่เสื่อมความนิยม สัมปทานที่จะหมด
A: 2008รอดมาได้ไง
Q: นักลงทุนคิดแต่กำไร แต่ตลาดเอาแน่นอนไม่ได้ ขึ้นสูงๆแล้วร่วงเอาคืนหนักๆได้
2008 กำไร3% แต่ ขาดทุน(กำไรหาย)จากตอนpeak 60%
เพราะต้นปีกำไรแล้ว66% ร่วงลงมา60% แล้วเด้งกลับไป48% แค่กำไรหาย
พูดตลอดว่า"บางปีพอร์ทอาจหายไปครึ่งนึงได้"
ไม่ใช่ให้cut เพราะไม่มีใครคาดเดาตลาดได้
ไม่ใช่ให้timing แค่เพียง
1. ถือหุ้นดี ราคาไม่แพงไว้ก่อน เพราะลงได้ก็เด้งกลับได้ หรืออาจไม่ลงเพราะปันผลค้ำไว้
2. ห้ามขายหุ้นตอนวิกฤติ(ตลาดล่ม)
3. อดทนให้ได้ เพราะทุกอย่างจะบีบคั้นอารมณ์ กดดัน ตอน300จุดมีแต่ข่าววิกฤติอีกระลอก
4. ตอนนั้นพลาดที่ไม่ได้ใช้margin ที่400จุดคืนมาร์จิ้นหมด เสียดาย,รู้งี้
แต่อ.นิเวศน์ท่านเก๋าเกมส์ งัดมาร์จิ้นมาใช้
ตอนนั้นบริหารเงินให้เพื่อนล้านห้า หุ้นตกเหลือหกแสน เพื่อนล้างผอร์ท อธิบายอยู่นานให้สู้ใหม่ ให้เก็บสอง แสนไว้ เอาสี่แสนมาลงทุนอยู่หกเจ็ดปี เป็นสิบเอ็ดล้านก็คืนให้ไปยืนบนขาตัวเองบริหารต่อ
นักรบต้องมีบาดแผล แต่อยากให้เป็นแผลคนอื่นมากกว่า ฮา
A: หุ้นร่วง50% สวิทช์ดีมั้ย
Q: ทำบ่อยตอนวิกฤติ หุ้นพวกsuperstock หุ้นแข็งแกร่งมักลงไม่มาก เช่นโชวห่วย ลงแค่10%ขายไปรับตัวที่ลง80% = เทคนิคขึ้นจรวดบั้งไฟ ดังนั้นถือหุ้นแข็งๆไว้บ้าง ขายตัวลงน้อยไปซื้อตัวลงเยอะและมีโอกาสเด้งสูง
A: เข้าหุ้นเป็นกลุ่มหรือเป็นตัวๆไป
Q: ถ้าดูหุ้นเยอะ จะรู้เร็วว่าตัวไหนราคาไหนเรียกว่าถูกมากๆ
ซินเทคตอนนี้ห้าบาท ตอนสับพรามจากแปดสิบตังค์ เหลือ11สตางค์ดูแล้วรู้เลยว่าโดนฟอร์สเซลล์
ก็ซื้อๆไป ความรู้ที่สะสมไว้อาจเป็นประโยชน์ในวันหลัง
A: ช่วงหลังๆมา เห็นใครๆก็ถือเงินสดไว้เยอะ
Q: คบเพื่อนมากก็จะกังวล ไม่เกี่ยวกับเรา เจอหุ้นดีก็ซื้อไปสิ ยกเว้นไม่มีหุ้นน่าสนใจก็ถือเงินสดได้
ตอนนี้ยังไม่เห็นตลาดเป็นฟองสบู่ ยังมีหุ้นvalue ไม่คิดว่าจะมีวิกฤติ
A: วีไอถือหุ้นยาวนานแค่ไหน
Q: ในหลักวีไอสี่ข้อ ไม่ได้พูดถึงเวลา ขึ้นกับมองอนาคตได้ไกลแค่ไหน ถ้าหุ้นยังดีก็ถือไปเรื่อยๆ
อ.นิเวศน์ยังถือโชวห่วย เพราะยังดี โตได้เรื่อยๆ
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2918
Q: คอมเม้นท์หุ้น"โลก"หน่อย
A: โดนไปสองสามล้าน(สมาชิกฮือ..รู้สึกจะฮาเบาๆ) หุ้นลงจากสี่ห้าบาท สองฟลอร์เหลือสองบาท
ดูงบก็พอใช้ได้ แต่เห็นมัน"แปลกๆ"มานาน โหงวเฮ้ง(ใครไม่รู้)ก็แปลกๆ ให้ข่าวว่ามีฟอร์สเซลล์ก็คิดว่าน่าจะเด้ง
ต่อมาเห็นผบห.ขายตลอด หุ้นก็ไม่เด้ง คัทไปครั้งนึง พอรู้ว่าจ่ายหนี้ไม่ได้ คัทที่ฟลอร์เลย
กิจการที่ใช้working capเยอะๆ ถ้าเจ้าหนี้รุมทึ้งก็พังทันที งานนี้ไม่เสียหายมากเพราะ"จำกัดความเสี่ยง"
ลากเด้ง"มันจบแล้วนาย"เมื่อโดนsp (ตลาดเค้าทำถูกแล้วใช่มั้ยฮะ เห็นหล่นลงพื้น(floor)ก็เก็บขึ้นมาเอาไปแขวน(suspend)ให้..)
รู้ว่าจะตายที่ไหนก็อย่าไปหาที่ตายตรงนั้น เสียดายที่ไม่เข้าไปยุ่งดีกว่าเสียใจ กำไรยี่สิบครั้งแต่เจ๊งหมดในครั้งที่21ทีเดียวก็มี
โชคช่วยในระยะสั้น แต่ระยะยาวต้องมีฝีมือ มีความรู้คู่ความรั้น ยืนยันความคิดที่ถูกต้อง ยืนหยัดสวนนายตลาด
Q: หุ้นเน่าๆ ขาดทุนสะสม แล้วมีรายใหญ่ต่างชาติเทคโอเวอร์ เพิ่มทุนเยอะ ไดลูทเยอะ จะซื้อรึจะรอดี?
A: pbv 0.6 น่าสนใจ ถ้าใส่ทุนลงมาเยอะ เช่นใส่เงินสองพัน มาร์เก็ตแคปสัก700
อย่ามองภาพใหญ่รอบนอกมากไป อย่าซื้อแล้วหวังว่าจะดี
Q: ธ.ชาติควบคุมบัตรเครดิต?
A: ลูกค้าเก่าไม่กระทบ แต่ลูกค้าใหม่ยากขึ้น จะค่อยๆเห็นผลกระทบมาช้าๆ
Q: (อ.ลูกอิสาน เดินมาไกล้ผม : นี่จะมารอลอกหุ้นเหมือนเดิม?ไม่มีคำถามอะไรเหรอ)
A: ครับ.. (ตอบสั้นๆอย่างซื่อๆ..)
มีคำถามจากท่านลูกหิน ครั้งที่แล้วไม่ได้ถามในประชุมลับ ครั้งนี้เลยขอมาถามนะฮะ
ทำอย่างไรถึงจะป้องกันไม่ให้มีใครแทรกซึมผ่านช่องทางธรรมชาติ(คำนี้กำลังฮิต)มาปั่นหุ้นในสมาคมได้?
(ก้มหน้าถามพร้อมเหลือบมองเท้าว่าง้างอยู่หรือเปล่า..)
A: (ตบหัว เอ๊ย บ่าเบาๆแบบให้กำลังใจ พร้อมกับถอนหายใจยาวๆ)
ยังไงก็ ทำให้ทุกคนเป็นคนดีไม่ได้ เราก็เริ่มจากตัวเราเป็นคนดีก่อน อย่าไปคบคนปั่นหุ้น
เงินทำให้คนโลภ ไม่เคยพอ สิ่งที่ไม่ถูกต้องแม้ได้กำไร สง่างามไม่เท่ากับรวยช้าๆเพียงพอ แบบไม่เดือดร้อนคน อื่นและตัวเองนะ..
Q: ให้ อ.worapong (เพิ่งมีทายาท น้องอชิตะ (บาลีแปลว่า"ผู้ไม่แพ้ "ญี่ปุ่นแปลว่า"พรุ่งนี้")อ.webกับท่านเลขาว่าที่นายกmarioอย่าแพ้นะฮะ บึ้ดจ้ำบึ้ด ฮึบฮึ่ยฮึบเข้าไป..ไม่ต้องให้ใครมาช่วยดันก้น..)ช่วยเล่าแนวทางลงทุนหน่อย
A: ล่าสุดขับรถไปกทม.งานbabymart เห็นรถช้าชิดขวาตลอด พวกขับสวนเลน แล้วเครียด ขับไปหลายๆครั้งก็ปลงมากขึ้น
เข้าใจมากขึ้นว่าแซงซ้ายผ่านไปใด้ ไม่ต้องสนใจคนอื่น ไปเจอคนแย่ๆ ผบห.โกงๆ บ.ไม่ค่อยดี ก็รับรู้สิ่งที่เป็น
เข้าใจและยอมรับเรื่องร้ายทุกเรื่อง ไปด่าทอก็ไร้ประโยชน์ เปลี่ยนตัวเองง่ายกว่าไปเปลี่ยนโลก
ตอนนี้เงินสดเตรียมไว้ใช้3-4ปี หุ้นไทย10% us ส่วนใหญ่ ช่วงกลางปีเงินบาทแข็ง ต้นปีมักอ่อน เอาเงินกลับมาตอนต้นปี หลังๆลงทุนเองไม่ชนะตลาด เลยเปลี่ยนความคิดไปลงทุนง่ายๆแบบอ.buffettแนะนำ คือindex funds&p500(vanguard500) แค่เสมอตลาดก็ได้10%ต่อปี แต่ถ้าใครชนะตลาดได้ก็ไม่ต้องมาทำแบบนี้
Dollar cost average index fund ง่ายกว่าเยอะ อายุ30ปี เก็บเงินมาลงทุนเดือนละห้าพัน ครบสามปี เกษียณอายุ60 ได้สิบล้าน!!สบายๆ
ส่วนหุ้นเบญจภาคี google (สองสามปีที่แล้วราคาร่วงเพราะมัวแต่ไปลงทุนside projectเปลี่ยนโลกจนกำไรไม่ขึ้น ตอนหลังคุมงบเปลี่ยนโลกถึงดีขึ้น) facebook alibaba(ฝรั่งมองว่าทำอะไรน่าสงสัยหลายอย่าง)amazon nvdia ไม่ได้ลงทุน
อ.ลูกอิสานเสริมว่า ถ้าเบื่อหาหุ้นแล้วจะไปซื้อ US index fund (เมกาเท่านั้น ไอเดียนี้ประชุมลับครั้งที่แล้ว มีสมาชิกท่านนึงเอาด้วย จะล้างผอร์ทไปซื้อหมดผอร์ท)
เพราะเงินทั้งโลกไหลไปเมกา สังเกตจากมีศูนย์การค้าใหญ่มาเปิดหาดใหญ่ ทำเอาทั้งตลาดซบเซาไปเลย ทุกคนเอาเงินไปใช้จ่ายในนั้น เงินไหลไปกรุงเทพหมด
อ.บัฟเคยท้าเห็ดฟันสิบปีที่แล้ว ปีแรกสับพรามมา อินเด็กซ์ฟันร่วง50% แพ้เห็ดซึ่งร่วง20% หลังจากนั้นชนะตลอด
Indexได้85%/10ปี hedgeที่เก่งสุดได้22%/10ปี แต่indexfundไม่น่าจะเวิร์คในเมืองไทย เพราะไทยอาจแพ้สงครามพัฒนาประเทศ
เท่านี้ก่อนฮะ รอท่านAnieLeeกับท่านอื่นๆมาเสริมต่อ..
A: โดนไปสองสามล้าน(สมาชิกฮือ..รู้สึกจะฮาเบาๆ) หุ้นลงจากสี่ห้าบาท สองฟลอร์เหลือสองบาท
ดูงบก็พอใช้ได้ แต่เห็นมัน"แปลกๆ"มานาน โหงวเฮ้ง(ใครไม่รู้)ก็แปลกๆ ให้ข่าวว่ามีฟอร์สเซลล์ก็คิดว่าน่าจะเด้ง
ต่อมาเห็นผบห.ขายตลอด หุ้นก็ไม่เด้ง คัทไปครั้งนึง พอรู้ว่าจ่ายหนี้ไม่ได้ คัทที่ฟลอร์เลย
กิจการที่ใช้working capเยอะๆ ถ้าเจ้าหนี้รุมทึ้งก็พังทันที งานนี้ไม่เสียหายมากเพราะ"จำกัดความเสี่ยง"
ลากเด้ง"มันจบแล้วนาย"เมื่อโดนsp (ตลาดเค้าทำถูกแล้วใช่มั้ยฮะ เห็นหล่นลงพื้น(floor)ก็เก็บขึ้นมาเอาไปแขวน(suspend)ให้..)
รู้ว่าจะตายที่ไหนก็อย่าไปหาที่ตายตรงนั้น เสียดายที่ไม่เข้าไปยุ่งดีกว่าเสียใจ กำไรยี่สิบครั้งแต่เจ๊งหมดในครั้งที่21ทีเดียวก็มี
โชคช่วยในระยะสั้น แต่ระยะยาวต้องมีฝีมือ มีความรู้คู่ความรั้น ยืนยันความคิดที่ถูกต้อง ยืนหยัดสวนนายตลาด
Q: หุ้นเน่าๆ ขาดทุนสะสม แล้วมีรายใหญ่ต่างชาติเทคโอเวอร์ เพิ่มทุนเยอะ ไดลูทเยอะ จะซื้อรึจะรอดี?
A: pbv 0.6 น่าสนใจ ถ้าใส่ทุนลงมาเยอะ เช่นใส่เงินสองพัน มาร์เก็ตแคปสัก700
อย่ามองภาพใหญ่รอบนอกมากไป อย่าซื้อแล้วหวังว่าจะดี
Q: ธ.ชาติควบคุมบัตรเครดิต?
A: ลูกค้าเก่าไม่กระทบ แต่ลูกค้าใหม่ยากขึ้น จะค่อยๆเห็นผลกระทบมาช้าๆ
Q: (อ.ลูกอิสาน เดินมาไกล้ผม : นี่จะมารอลอกหุ้นเหมือนเดิม?ไม่มีคำถามอะไรเหรอ)
A: ครับ.. (ตอบสั้นๆอย่างซื่อๆ..)
มีคำถามจากท่านลูกหิน ครั้งที่แล้วไม่ได้ถามในประชุมลับ ครั้งนี้เลยขอมาถามนะฮะ
ทำอย่างไรถึงจะป้องกันไม่ให้มีใครแทรกซึมผ่านช่องทางธรรมชาติ(คำนี้กำลังฮิต)มาปั่นหุ้นในสมาคมได้?
(ก้มหน้าถามพร้อมเหลือบมองเท้าว่าง้างอยู่หรือเปล่า..)
A: (ตบหัว เอ๊ย บ่าเบาๆแบบให้กำลังใจ พร้อมกับถอนหายใจยาวๆ)
ยังไงก็ ทำให้ทุกคนเป็นคนดีไม่ได้ เราก็เริ่มจากตัวเราเป็นคนดีก่อน อย่าไปคบคนปั่นหุ้น
เงินทำให้คนโลภ ไม่เคยพอ สิ่งที่ไม่ถูกต้องแม้ได้กำไร สง่างามไม่เท่ากับรวยช้าๆเพียงพอ แบบไม่เดือดร้อนคน อื่นและตัวเองนะ..
Q: ให้ อ.worapong (เพิ่งมีทายาท น้องอชิตะ (บาลีแปลว่า"ผู้ไม่แพ้ "ญี่ปุ่นแปลว่า"พรุ่งนี้")อ.webกับท่านเลขาว่าที่นายกmarioอย่าแพ้นะฮะ บึ้ดจ้ำบึ้ด ฮึบฮึ่ยฮึบเข้าไป..ไม่ต้องให้ใครมาช่วยดันก้น..)ช่วยเล่าแนวทางลงทุนหน่อย
A: ล่าสุดขับรถไปกทม.งานbabymart เห็นรถช้าชิดขวาตลอด พวกขับสวนเลน แล้วเครียด ขับไปหลายๆครั้งก็ปลงมากขึ้น
เข้าใจมากขึ้นว่าแซงซ้ายผ่านไปใด้ ไม่ต้องสนใจคนอื่น ไปเจอคนแย่ๆ ผบห.โกงๆ บ.ไม่ค่อยดี ก็รับรู้สิ่งที่เป็น
เข้าใจและยอมรับเรื่องร้ายทุกเรื่อง ไปด่าทอก็ไร้ประโยชน์ เปลี่ยนตัวเองง่ายกว่าไปเปลี่ยนโลก
ตอนนี้เงินสดเตรียมไว้ใช้3-4ปี หุ้นไทย10% us ส่วนใหญ่ ช่วงกลางปีเงินบาทแข็ง ต้นปีมักอ่อน เอาเงินกลับมาตอนต้นปี หลังๆลงทุนเองไม่ชนะตลาด เลยเปลี่ยนความคิดไปลงทุนง่ายๆแบบอ.buffettแนะนำ คือindex funds&p500(vanguard500) แค่เสมอตลาดก็ได้10%ต่อปี แต่ถ้าใครชนะตลาดได้ก็ไม่ต้องมาทำแบบนี้
Dollar cost average index fund ง่ายกว่าเยอะ อายุ30ปี เก็บเงินมาลงทุนเดือนละห้าพัน ครบสามปี เกษียณอายุ60 ได้สิบล้าน!!สบายๆ
ส่วนหุ้นเบญจภาคี google (สองสามปีที่แล้วราคาร่วงเพราะมัวแต่ไปลงทุนside projectเปลี่ยนโลกจนกำไรไม่ขึ้น ตอนหลังคุมงบเปลี่ยนโลกถึงดีขึ้น) facebook alibaba(ฝรั่งมองว่าทำอะไรน่าสงสัยหลายอย่าง)amazon nvdia ไม่ได้ลงทุน
อ.ลูกอิสานเสริมว่า ถ้าเบื่อหาหุ้นแล้วจะไปซื้อ US index fund (เมกาเท่านั้น ไอเดียนี้ประชุมลับครั้งที่แล้ว มีสมาชิกท่านนึงเอาด้วย จะล้างผอร์ทไปซื้อหมดผอร์ท)
เพราะเงินทั้งโลกไหลไปเมกา สังเกตจากมีศูนย์การค้าใหญ่มาเปิดหาดใหญ่ ทำเอาทั้งตลาดซบเซาไปเลย ทุกคนเอาเงินไปใช้จ่ายในนั้น เงินไหลไปกรุงเทพหมด
อ.บัฟเคยท้าเห็ดฟันสิบปีที่แล้ว ปีแรกสับพรามมา อินเด็กซ์ฟันร่วง50% แพ้เห็ดซึ่งร่วง20% หลังจากนั้นชนะตลอด
Indexได้85%/10ปี hedgeที่เก่งสุดได้22%/10ปี แต่indexfundไม่น่าจะเวิร์คในเมืองไทย เพราะไทยอาจแพ้สงครามพัฒนาประเทศ
เท่านี้ก่อนฮะ รอท่านAnieLeeกับท่านอื่นๆมาเสริมต่อ..
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2919
^
เพิ่มเติมนิดนึง พอดีสอดคล้องกับที่คุณ amornkowa โพสเรื่องหุ้นเวียตนาม
อ.โจ ลูกอิสาน เล่าให้ฟังว่า ปีที่แล้ว กำไรหุ้นที่เวียตนามประมาณ 20%
แต่โดนค่าเงินบาทที่แข็งค่า (แข็งฆ่า?) เล่นงานไป ถ้าคิดเป็นเงินบาท
ก็จะเหลือกำไร 5% ตอนนี้ลงทุนในเวียตนามประมาณ 10% ของพอร์ต
ยังไม่คิดจะเพิ่ม
เพิ่มเติมนิดนึง พอดีสอดคล้องกับที่คุณ amornkowa โพสเรื่องหุ้นเวียตนาม
อ.โจ ลูกอิสาน เล่าให้ฟังว่า ปีที่แล้ว กำไรหุ้นที่เวียตนามประมาณ 20%
แต่โดนค่าเงินบาทที่แข็งค่า (แข็งฆ่า?) เล่นงานไป ถ้าคิดเป็นเงินบาท
ก็จะเหลือกำไร 5% ตอนนี้ลงทุนในเวียตนามประมาณ 10% ของพอร์ต
ยังไม่คิดจะเพิ่ม
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2920
ขอบคุณหมอหนึ่งมากๆครับ ไว้หาโอกาสไปบ้าง จะได้นั่งแถวหน้าเเน่ๆdr1 เขียน:Q2 60 meetingVIหาดใหญ่ ครั้งที่33 8ปี+1Q
สมาชิกมาจากพะเยา(ขับรถไปเชียงราย ขึ้นเรือบินมาค้่างหาดใหญ่)เชียงใหม่,มารถเข็นก็มี
ขนาดอ.randomเวลาจองก็แล้ว เปลี่ยนวันจองก็แล้ว (คงเบื่อพวกหน้าเก่าๆ)
จองเต็มใน1นาที ผมเกือบไม่ได้ไป พี่K-TAW ,ท่านเปรี้ยวและอีกหลายท่านพยามเกลี้ยกล่อมเล้าโลม อ.ให้รับเพิ่ม
ขอเรียนเสนอว่า
1. พวกเก่าๆที่อ.เบื่อหน้าแล้ว ให้สี่สิบที่เหมือนเดิม(ให้มันแย่งจองให้แหลกกันไปข้าง..)ให้นั่งแถวหลังด้วย ไกลๆเลย
2. ให้โควต้าคนมาครั้งแรก รวมทั้งหน้าใหม่ยังไม่เป็นสมาชิกสมาคมยี่สิบที่ นั่งแถวหน้าเลย ให้เตรียมคำถามมาด้วย
3. ให้สิทธิสุภาพสตรีวีไอหญิง(เพื่อความแช่มชื่นหัวใจ อันนี้ทำให้มี้ตติ้งหาดใหญ่สดชื่นกว่าทางกรุงเทพ)อีกยี่สิบที่
(จะให้เด็ก,คนชรา,รึอื่นๆเพิ่มก็แล้วแต่นะฮะ)
เพื่อทำสถิติสมนาหุ้นที่จองเต็มเร็วสุด บริจาคได้มากสุด เป็นกันเองสนุกและได้ความรู้ที่สุดฮะ
Q2 ปีนี้งบไม่ดี หุ้นหลายตัวปราบทั้งเซียนทั้งเม่า โลก,ใหญ่,เย็น,ปั๊มปีเตอร์
สรุปว่าจะอยู่รอด ไม่ง่าย ต้องมี ความตั้งใจจริง ไม่"เล่น"หุ้น
1. ถ้าจะเป็น fulltime investor ต้องขยัน จึงจะเลือกหุ้นได้หลากหลาย
2. ถ้าทำงานไปด้วย เป็นparttime investorอาจเลือกหุ้น ท่าไม่ยากมากนัก กำไรน้อยกว่า แต่ปลอดภัย
ตลาดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น จะกำไรต้องขยันขึ้น (แต่หลักการเหมือนเดิม)
ไม่ต้องหล่อ ไม่ต้องรวย ไม่ต้องฉลาดมาก แต่เลือกวิธีลงทุนให้ถูกต้อง แค่นี้เอง
ถูกบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการพลาดหนักๆ(ถือหุ้นน้อยตัวแล้วผิด)
A: หุ้นลงเยอะน่าช้อนมั้ย
Q: หุ้นลงเยอะๆ แล้วเราเห็นต่างจากมวลชน โดยมีเหตุผลว่าหุ้นยังดีเหมือนเดิม ก็น่าซื้อ
แต่ บางตัวลงมาเพราะเน่าจริงๆก็อย่าไปยุ่ง
หุ้นหลักๆของผอร์ตควรจะชัวร์ อย่าถือหุ้นวัดดวง
หุ้นgrowth พีอีสูงๆ ตัวเล็กๆ ตลาดลงก็ร่วงเยอะ เพราะสิ่งที่ค้ำราคาคือการเติบโต ไม่โตก็..
พวกหุ้นปันผล5-7% สิ่งที่ค้ำราคาคือปันผล จะไม่ลงมากตามตลาด
A: ตัวที่มั่นใจ ขาดทุน ตัวที่งงๆ ดันกำไร?
Q: แง่ดีคือหักลบกันได้แล้วเจ๊ากันก็ดีไป
คนที่กำไรคือ กำไร40-50% แต่ขาดทุนแค่5-10% ถ้าทำงี้ได้ระยะยาวก็รวย
ตัวที่ถือเยอะๆ ถ้าเป็นหุ้นเติบโต ต้อง"แน่นอน"สูง
A: ประกาศงบแล้ว วีไอควรทำอย่างไร
Q: ดีกว่าคาด ซื้อเพิ่ม
ผิดคาด.ไม่ใช่แล้ว ขาย
คิดผิด ยอมขาดทุนน้อยๆดีกว่าปล่อยให้ร่วงลง50-60%
แต่ส่วนใหญ่มักไม่ทำอะไรนะ งบออกก็เหมือนเฉลยข้อสอบ
งบคือคำตอบ แต่ถ้าตลาดover react ก็น่าสนใจ
ดูงบ กำไรสุทธิสำคัญที่สุด กำไรพิเศษเป็นตัวเสริมความมั่นใจ
หนี้สิน สต็อค แล้วแต่ธรรมชาติกิจการ
บางธุรกิจcashflow ติดลบแปลว่าโต ดี เช่นปล่อนกู้ ค้าปลีก เป็นบวกเมื่อไร ขายทิ้ง
หุ้นขาดทุนซ้ำซาก โอกาสเจ๊งสูง สุริยะ(หนี้ต่ำแต่ไม่มีใครปล่อยกู้ให้,เพิ่มทุนก็ไม่ได้),ตึกแหว่ง,E4L
A: เลือกหุ้นอย่างไร
Q: 1. ต้องโต(หุ้นดี)
2. ราคาวันนี้ไม่แพงเกิน(ราคาถูก)
3. ถ้าไม่โต ต้องถูกมากๆ
งบดี ปันผลดี (เป็นตัวค้ำราคาหุ้น)
A : หุ้นโต ดูยังไง
Q : ขยายสาขา เปิดร้านเยอะขึ้น
เพิ่มสินค้า บริการ
โต ก้าวไปข้างหน้า แต่ระวังของเดิมหายไปด้วย เช่นproduct เก่าที่เสื่อมความนิยม สัมปทานที่จะหมด
A: 2008รอดมาได้ไง
Q: นักลงทุนคิดแต่กำไร แต่ตลาดเอาแน่นอนไม่ได้ ขึ้นสูงๆแล้วร่วงเอาคืนหนักๆได้
2008 กำไร3% แต่ ขาดทุน(กำไรหาย)จากตอนpeak 60%
เพราะต้นปีกำไรแล้ว66% ร่วงลงมา60% แล้วเด้งกลับไป48% แค่กำไรหาย
พูดตลอดว่า"บางปีพอร์ทอาจหายไปครึ่งนึงได้"
ไม่ใช่ให้cut เพราะไม่มีใครคาดเดาตลาดได้
ไม่ใช่ให้timing แค่เพียง
1. ถือหุ้นดี ราคาไม่แพงไว้ก่อน เพราะลงได้ก็เด้งกลับได้ หรืออาจไม่ลงเพราะปันผลค้ำไว้
2. ห้ามขายหุ้นตอนวิกฤติ(ตลาดล่ม)
3. อดทนให้ได้ เพราะทุกอย่างจะบีบคั้นอารมณ์ กดดัน ตอน300จุดมีแต่ข่าววิกฤติอีกระลอก
4. ตอนนั้นพลาดที่ไม่ได้ใช้margin ที่400จุดคืนมาร์จิ้นหมด เสียดาย,รู้งี้
แต่อ.นิเวศน์ท่านเก๋าเกมส์ งัดมาร์จิ้นมาใช้
ตอนนั้นบริหารเงินให้เพื่อนล้านห้า หุ้นตกเหลือหกแสน เพื่อนล้างผอร์ท อธิบายอยู่นานให้สู้ใหม่ ให้เก็บสอง แสนไว้ เอาสี่แสนมาลงทุนอยู่หกเจ็ดปี เป็นสิบเอ็ดล้านก็คืนให้ไปยืนบนขาตัวเองบริหารต่อ
นักรบต้องมีบาดแผล แต่อยากให้เป็นแผลคนอื่นมากกว่า ฮา
A: หุ้นร่วง50% สวิทช์ดีมั้ย
Q: ทำบ่อยตอนวิกฤติ หุ้นพวกsuperstock หุ้นแข็งแกร่งมักลงไม่มาก เช่นโชวห่วย ลงแค่10%ขายไปรับตัวที่ลง80% = เทคนิคขึ้นจรวดบั้งไฟ ดังนั้นถือหุ้นแข็งๆไว้บ้าง ขายตัวลงน้อยไปซื้อตัวลงเยอะและมีโอกาสเด้งสูง
A: เข้าหุ้นเป็นกลุ่มหรือเป็นตัวๆไป
Q: ถ้าดูหุ้นเยอะ จะรู้เร็วว่าตัวไหนราคาไหนเรียกว่าถูกมากๆ
ซินเทคตอนนี้ห้าบาท ตอนสับพรามจากแปดสิบตังค์ เหลือ11สตางค์ดูแล้วรู้เลยว่าโดนฟอร์สเซลล์
ก็ซื้อๆไป ความรู้ที่สะสมไว้อาจเป็นประโยชน์ในวันหลัง
A: ช่วงหลังๆมา เห็นใครๆก็ถือเงินสดไว้เยอะ
Q: คบเพื่อนมากก็จะกังวล ไม่เกี่ยวกับเรา เจอหุ้นดีก็ซื้อไปสิ ยกเว้นไม่มีหุ้นน่าสนใจก็ถือเงินสดได้
ตอนนี้ยังไม่เห็นตลาดเป็นฟองสบู่ ยังมีหุ้นvalue ไม่คิดว่าจะมีวิกฤติ
A: วีไอถือหุ้นยาวนานแค่ไหน
Q: ในหลักวีไอสี่ข้อ ไม่ได้พูดถึงเวลา ขึ้นกับมองอนาคตได้ไกลแค่ไหน ถ้าหุ้นยังดีก็ถือไปเรื่อยๆ
อ.นิเวศน์ยังถือโชวห่วย เพราะยังดี โตได้เรื่อยๆ
เห็นด้วยที่ให้นักลงทุนหญิงเยอะๆหน่อย
ตอนมาประชุมที่ กท ไม่มีเลย หายไปไหนหมด555
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2921
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2922
ขอบคุณครับ พี่หมอหนึ่งdr1 เขียน:Q: คอมเม้นท์หุ้น"โลก"หน่อย
A: โดนไปสองสามล้าน(สมาชิกฮือ..รู้สึกจะฮาเบาๆ) หุ้นลงจากสี่ห้าบาท สองฟลอร์เหลือสองบาท
ดูงบก็พอใช้ได้ แต่เห็นมัน"แปลกๆ"มานาน โหงวเฮ้ง(ใครไม่รู้)ก็แปลกๆ ให้ข่าวว่ามีฟอร์สเซลล์ก็คิดว่าน่าจะเด้ง
ต่อมาเห็นผบห.ขายตลอด หุ้นก็ไม่เด้ง คัทไปครั้งนึง พอรู้ว่าจ่ายหนี้ไม่ได้ คัทที่ฟลอร์เลย
กิจการที่ใช้working capเยอะๆ ถ้าเจ้าหนี้รุมทึ้งก็พังทันที งานนี้ไม่เสียหายมากเพราะ"จำกัดความเสี่ยง"
ลากเด้ง"มันจบแล้วนาย"เมื่อโดนsp (ตลาดเค้าทำถูกแล้วใช่มั้ยฮะ เห็นหล่นลงพื้น(floor)ก็เก็บขึ้นมาเอาไปแขวน(suspend)ให้..)
รู้ว่าจะตายที่ไหนก็อย่าไปหาที่ตายตรงนั้น เสียดายที่ไม่เข้าไปยุ่งดีกว่าเสียใจ กำไรยี่สิบครั้งแต่เจ๊งหมดในครั้งที่21ทีเดียวก็มี
โชคช่วยในระยะสั้น แต่ระยะยาวต้องมีฝีมือ มีความรู้คู่ความรั้น ยืนยันความคิดที่ถูกต้อง ยืนหยัดสวนนายตลาด
Q: หุ้นเน่าๆ ขาดทุนสะสม แล้วมีรายใหญ่ต่างชาติเทคโอเวอร์ เพิ่มทุนเยอะ ไดลูทเยอะ จะซื้อรึจะรอดี?
A: pbv 0.6 น่าสนใจ ถ้าใส่ทุนลงมาเยอะ เช่นใส่เงินสองพัน มาร์เก็ตแคปสัก700
อย่ามองภาพใหญ่รอบนอกมากไป อย่าซื้อแล้วหวังว่าจะดี
Q: ธ.ชาติควบคุมบัตรเครดิต?
A: ลูกค้าเก่าไม่กระทบ แต่ลูกค้าใหม่ยากขึ้น จะค่อยๆเห็นผลกระทบมาช้าๆ
Q: (อ.ลูกอิสาน เดินมาไกล้ผม : นี่จะมารอลอกหุ้นเหมือนเดิม?ไม่มีคำถามอะไรเหรอ)
A: ครับ.. (ตอบสั้นๆอย่างซื่อๆ..)
มีคำถามจากท่านลูกหิน ครั้งที่แล้วไม่ได้ถามในประชุมลับ ครั้งนี้เลยขอมาถามนะฮะ
ทำอย่างไรถึงจะป้องกันไม่ให้มีใครแทรกซึมผ่านช่องทางธรรมชาติ(คำนี้กำลังฮิต)มาปั่นหุ้นในสมาคมได้?
(ก้มหน้าถามพร้อมเหลือบมองเท้าว่าง้างอยู่หรือเปล่า..)
A: (ตบหัว เอ๊ย บ่าเบาๆแบบให้กำลังใจ พร้อมกับถอนหายใจยาวๆ)
ยังไงก็ ทำให้ทุกคนเป็นคนดีไม่ได้ เราก็เริ่มจากตัวเราเป็นคนดีก่อน อย่าไปคบคนปั่นหุ้น
เงินทำให้คนโลภ ไม่เคยพอ สิ่งที่ไม่ถูกต้องแม้ได้กำไร สง่างามไม่เท่ากับรวยช้าๆเพียงพอ แบบไม่เดือดร้อนคน อื่นและตัวเองนะ..
Q: ให้ อ.worapong (เพิ่งมีทายาท น้องอชิตะ (บาลีแปลว่า"ผู้ไม่แพ้ "ญี่ปุ่นแปลว่า"พรุ่งนี้")อ.webกับท่านเลขาว่าที่นายกmarioอย่าแพ้นะฮะ บึ้ดจ้ำบึ้ด ฮึบฮึ่ยฮึบเข้าไป..ไม่ต้องให้ใครมาช่วยดันก้น..)ช่วยเล่าแนวทางลงทุนหน่อย
A: ล่าสุดขับรถไปกทม.งานbabymart เห็นรถช้าชิดขวาตลอด พวกขับสวนเลน แล้วเครียด ขับไปหลายๆครั้งก็ปลงมากขึ้น
เข้าใจมากขึ้นว่าแซงซ้ายผ่านไปใด้ ไม่ต้องสนใจคนอื่น ไปเจอคนแย่ๆ ผบห.โกงๆ บ.ไม่ค่อยดี ก็รับรู้สิ่งที่เป็น
เข้าใจและยอมรับเรื่องร้ายทุกเรื่อง ไปด่าทอก็ไร้ประโยชน์ เปลี่ยนตัวเองง่ายกว่าไปเปลี่ยนโลก
ตอนนี้เงินสดเตรียมไว้ใช้3-4ปี หุ้นไทย10% us ส่วนใหญ่ ช่วงกลางปีเงินบาทแข็ง ต้นปีมักอ่อน เอาเงินกลับมาตอนต้นปี หลังๆลงทุนเองไม่ชนะตลาด เลยเปลี่ยนความคิดไปลงทุนง่ายๆแบบอ.buffettแนะนำ คือindex funds&p500(vanguard500) แค่เสมอตลาดก็ได้10%ต่อปี แต่ถ้าใครชนะตลาดได้ก็ไม่ต้องมาทำแบบนี้
Dollar cost average index fund ง่ายกว่าเยอะ อายุ30ปี เก็บเงินมาลงทุนเดือนละห้าพัน ครบสามปี เกษียณอายุ60 ได้สิบล้าน!!สบายๆ
ส่วนหุ้นเบญจภาคี google (สองสามปีที่แล้วราคาร่วงเพราะมัวแต่ไปลงทุนside projectเปลี่ยนโลกจนกำไรไม่ขึ้น ตอนหลังคุมงบเปลี่ยนโลกถึงดีขึ้น) facebook alibaba(ฝรั่งมองว่าทำอะไรน่าสงสัยหลายอย่าง)amazon nvdia ไม่ได้ลงทุน
อ.ลูกอิสานเสริมว่า ถ้าเบื่อหาหุ้นแล้วจะไปซื้อ US index fund (เมกาเท่านั้น ไอเดียนี้ประชุมลับครั้งที่แล้ว มีสมาชิกท่านนึงเอาด้วย จะล้างผอร์ทไปซื้อหมดผอร์ท)
เพราะเงินทั้งโลกไหลไปเมกา สังเกตจากมีศูนย์การค้าใหญ่มาเปิดหาดใหญ่ ทำเอาทั้งตลาดซบเซาไปเลย ทุกคนเอาเงินไปใช้จ่ายในนั้น เงินไหลไปกรุงเทพหมด
อ.บัฟเคยท้าเห็ดฟันสิบปีที่แล้ว ปีแรกสับพรามมา อินเด็กซ์ฟันร่วง50% แพ้เห็ดซึ่งร่วง20% หลังจากนั้นชนะตลอด
Indexได้85%/10ปี hedgeที่เก่งสุดได้22%/10ปี แต่indexfundไม่น่าจะเวิร์คในเมืองไทย เพราะไทยอาจแพ้สงครามพัฒนาประเทศ
เท่านี้ก่อนฮะ รอท่านAnieLeeกับท่านอื่นๆมาเสริมต่อ..
ตั้งแต่กลับมา ยังไม่ได้พิมพ์สรุปเลยครับ ฮ่าๆๆๆๆ
โชคดีที่กลับมาถึง กทม. ระหว่างรอกลับ ไฟลท์ SL713 ซึ่งมีผู้ที่มามีทติ้ง โดยสารกลับเที่ยวนี้เยอะ เป็น ผู้ร่วมชะตากรรม เครื่องออกช้า เพราะมีปัญหา จนต้องมีการเปลี่ยนเครื่อง. ดีที่เกิดตอนเครื่องยังไม่ออก ถ้าออกไปแล้ว เครื่องมีปัญหาตอนอยู่บนฟ้า มีทติ้งหาดใหญ่รอบหน้าคงขาดคนมาแย่งจองอย่างแน่นอน (และตอบสนองนโยบาย อ.โจ ทางอ้อม ที่อยากให้มีคนหน้าใหม่มามากๆ ฮ่าๆๆๆๆ เนื่องจากตายระหว่าเดินทางกลับ 5555)
ไว้มีเวลา จะมาสรุปข้อมูลมีทติ้งสั้นๆ ให้ครับ ^ ^
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2923
(เสริม) มีทติ้งวีไอหาดใหญ่ Q2/2560
• หลักการสำคัญในการลงทุน ต้องถูกบ่อยๆ พลาดน้อยๆ ห้ามพลาดหนักๆ / ควรที่จะต้องมีการบริหารความเสี่ยง อย่าถือหุ้นตัวเดียวมากๆ เช่น 70-80% ของพอร์ต เป็นต้น ควรคิด 2 ด้านเสมอ ทั้งด้านความเสี่ยงและด้านกำไร
• ราคาหุ้นที่ลงมามากๆ มีวิธีการดูอย่างไรว่า ควรจะเข้าไป เมื่อไร อย่างไร
- หากคนส่วนใหญ่คิดเหมือนกัน ไม่ว่าราคาลงมาหรือขึ้นไป ถ้าหากว่า เราเห็นแย้งว่า คนส่วนใหญ่มองไม่ถูกต้อง เราก็มีโอกาสได้เงิน แต่ควรมีเหตุผลที่ถูกต้อง ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็ต้องช้อนซื้อ แต่ก็ไม่แน่เสมอไป บางตัว ก็อาจจะเน่าจริงๆ ก็ได้
- ตัวอย่างเช่น หุ้นปั้มปีเตอร์ที่ลงมาถึง 16 บาท คนส่วนใหญ่อาจมองว่า ค่าการตลาดไม่ดี ที่อาจเป็นปัญหาชั่วคราวก็ได้ และราคาลงมามากไป ก็เป็นโอกาสซื้อ แต่บางตัว ก็เน่าจริงๆ เช่น "ตึกมหานคร" ที่งบการเงินเน่ามากๆ อีกตัวหนึ่ง "ใหญ่" ที่ราคาลงมามากๆ ต้องคิดว่า กล้อง คนจะซื้อบ่อยๆ หรือ ไม่น่ามีการซื้อซ้ำบ่อยๆ ที่ผ่านมา น่าเป็นกระแสความนิยมกล้อง Mirrorless ในปัจจุบัน เศรษฐกิจก็ไม่ดี เลยมองว่า ราคาน่า peak ไปแล้ว แต่ถ้าหากว่า P/E ลงมาสัก 7x ก็น่ามีความสนใจ
• หุ้นที่น่าสงสัย แปลกๆ แต่ราคาหุ้นลงมามากๆ ถ้าเข้าไปเล่นเก็งกำไร ควรที่จะ Limit Size ในการลงทุน และต้องคอยสังเกตุด้วยเพื่อเตรียมทางหนีด้วย
• รู้ว่าจะตายที่ไหนก็อย่าไปหาที่ตายตรงนั้น เสียดายที่ไม่เข้าไปยุ่งดีกว่าเสียใจ กำไรยี่สิบครั้งแต่เจ๊งหมดในครั้งที่21ทีเดียวก็มี / โชคช่วยในระยะสั้น แต่ระยะยาวต้องมีฝีมือ มีความรู้ ยืนยันความคิดที่ถูกต้อง
• หลักการวีไอ (โดนอาจารย์ให้บอกว่า มีอะไรบ้าง)
- มองหุ้นให้เป็นธุรกิจ
- ประเมินมูลค่าหุ้น
- มีส่วนเผื่อความปลอดภัย (Margin of Safety) – โอกาสที่จะเจอหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่า ไม่ได้มีบ่อยมาก
- ไม่หวั่นไหวต่อความผันผวนของ Mr. Market – นักลงทุนที่ดี ควรที่จะกล้าสวนกับคนส่วนใหญ่ (การแยกออกจากนายตลาดได้ เราต้องมีความรู้)
• หุ้นเน่าๆ ที่มีขาดทุนสะสม และเพิ่งมีกลุ่มทุนต่างชาติรายใหญ่เข้ามาเทคโอเวอร์ พร้อมเพิ่มทุนไปแล้ว ควรซื้อดักหรือรอ
- ถ้า P/BV ต่ำกว่า 0.5 จะน่าสนใจ
- มีความไม่แน่นอนสูง
- กรณีหุ้นอสังหาฯ ควรพิจารณาดูยอด Backlog ว่า มีเท่าไร แทนการดูภาพใหญ่มาก อย่าซื้อแล้วหวังว่าดี
- เวลาซื้อหุ้น ควรชัวร์แน่ๆ ว่า จะกำไร มากกว่าที่จะลงทุนในหุ้นที่ไม่มีความแน่นอน แบบ 50/50
มีทติ้งช่วงเช้า รวมของพี่หมอหนึ่ง ก็น่าหมดแล้วครับ
ไว้มาต่อด้วยหุ้นรายตัวในโพสต่อๆ ไปครับ...
• หลักการสำคัญในการลงทุน ต้องถูกบ่อยๆ พลาดน้อยๆ ห้ามพลาดหนักๆ / ควรที่จะต้องมีการบริหารความเสี่ยง อย่าถือหุ้นตัวเดียวมากๆ เช่น 70-80% ของพอร์ต เป็นต้น ควรคิด 2 ด้านเสมอ ทั้งด้านความเสี่ยงและด้านกำไร
• ราคาหุ้นที่ลงมามากๆ มีวิธีการดูอย่างไรว่า ควรจะเข้าไป เมื่อไร อย่างไร
- หากคนส่วนใหญ่คิดเหมือนกัน ไม่ว่าราคาลงมาหรือขึ้นไป ถ้าหากว่า เราเห็นแย้งว่า คนส่วนใหญ่มองไม่ถูกต้อง เราก็มีโอกาสได้เงิน แต่ควรมีเหตุผลที่ถูกต้อง ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็ต้องช้อนซื้อ แต่ก็ไม่แน่เสมอไป บางตัว ก็อาจจะเน่าจริงๆ ก็ได้
- ตัวอย่างเช่น หุ้นปั้มปีเตอร์ที่ลงมาถึง 16 บาท คนส่วนใหญ่อาจมองว่า ค่าการตลาดไม่ดี ที่อาจเป็นปัญหาชั่วคราวก็ได้ และราคาลงมามากไป ก็เป็นโอกาสซื้อ แต่บางตัว ก็เน่าจริงๆ เช่น "ตึกมหานคร" ที่งบการเงินเน่ามากๆ อีกตัวหนึ่ง "ใหญ่" ที่ราคาลงมามากๆ ต้องคิดว่า กล้อง คนจะซื้อบ่อยๆ หรือ ไม่น่ามีการซื้อซ้ำบ่อยๆ ที่ผ่านมา น่าเป็นกระแสความนิยมกล้อง Mirrorless ในปัจจุบัน เศรษฐกิจก็ไม่ดี เลยมองว่า ราคาน่า peak ไปแล้ว แต่ถ้าหากว่า P/E ลงมาสัก 7x ก็น่ามีความสนใจ
• หุ้นที่น่าสงสัย แปลกๆ แต่ราคาหุ้นลงมามากๆ ถ้าเข้าไปเล่นเก็งกำไร ควรที่จะ Limit Size ในการลงทุน และต้องคอยสังเกตุด้วยเพื่อเตรียมทางหนีด้วย
• รู้ว่าจะตายที่ไหนก็อย่าไปหาที่ตายตรงนั้น เสียดายที่ไม่เข้าไปยุ่งดีกว่าเสียใจ กำไรยี่สิบครั้งแต่เจ๊งหมดในครั้งที่21ทีเดียวก็มี / โชคช่วยในระยะสั้น แต่ระยะยาวต้องมีฝีมือ มีความรู้ ยืนยันความคิดที่ถูกต้อง
• หลักการวีไอ (โดนอาจารย์ให้บอกว่า มีอะไรบ้าง)
- มองหุ้นให้เป็นธุรกิจ
- ประเมินมูลค่าหุ้น
- มีส่วนเผื่อความปลอดภัย (Margin of Safety) – โอกาสที่จะเจอหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่า ไม่ได้มีบ่อยมาก
- ไม่หวั่นไหวต่อความผันผวนของ Mr. Market – นักลงทุนที่ดี ควรที่จะกล้าสวนกับคนส่วนใหญ่ (การแยกออกจากนายตลาดได้ เราต้องมีความรู้)
• หุ้นเน่าๆ ที่มีขาดทุนสะสม และเพิ่งมีกลุ่มทุนต่างชาติรายใหญ่เข้ามาเทคโอเวอร์ พร้อมเพิ่มทุนไปแล้ว ควรซื้อดักหรือรอ
- ถ้า P/BV ต่ำกว่า 0.5 จะน่าสนใจ
- มีความไม่แน่นอนสูง
- กรณีหุ้นอสังหาฯ ควรพิจารณาดูยอด Backlog ว่า มีเท่าไร แทนการดูภาพใหญ่มาก อย่าซื้อแล้วหวังว่าดี
- เวลาซื้อหุ้น ควรชัวร์แน่ๆ ว่า จะกำไร มากกว่าที่จะลงทุนในหุ้นที่ไม่มีความแน่นอน แบบ 50/50
มีทติ้งช่วงเช้า รวมของพี่หมอหนึ่ง ก็น่าหมดแล้วครับ
ไว้มาต่อด้วยหุ้นรายตัวในโพสต่อๆ ไปครับ...
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2924
มีทติ้งวีไอหาดใหญ่ Q2/2560
• คำถามเกี่ยวกับมาตราฐานบัญชีและการตรวจสอบ / มีคนยกตัวอย่างเคสของ หุ้นตึกมหานคร และ หุ้นโลก ว่า ผู้ตรวจสอบฯ เป็นเครื่องมือของกลุ่มคนที่เข้ามาสร้างราคาหุ้น
o มาตราฐานการบัญชีของบ้านเรา ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี มีการลงรายละเอียดมากขึ้น
o เคส หุ้นมหานคร น่าเป็นผู้บริหารและที่ปรึกษาทางการเงินชงเรื่องขึ้นมา ในขณะที่ผู้ตรวจสอบงบฯ มีการท้วงติง จึงเขียนหมายเหตุประกอบงบไว้
o เคส หุ้นโลก ไม่น่าเกี่ยวกับผู้ตรวจสอบบัญชีฯ โดยตัวธุรกิจของมันเอง เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเยอะ / สาเหตุที่มีหนี้โผล่มาเยอะ อาจเกิดจากการที่ไป commit กับลูกค้า และไม่สามารถส่งมอบได้ เลยโดนฟ้องจากลูกค้า จึงต้องชดใช้ค่าเสียหาย
• เวลาเลือกลงทุน ต้องเลือกที่ชัวร์หน่อย ไม่ใช่ฟังไปทั่ว สุดท้าย จะมีหลายแนวที่ตีกัน จนไม่ได้ดีสักอย่างและกลายเป็นมวยวัดไป วิธีที่เราใช้ (วีไอ) น่าพิสูจน์แล้วว่า สามารถประสบความสำเร็จได้ ก็ขึ้นกับว่า คุณจะเลือกแนวทางไหน
• หุ้นวาโปรับ ควรติดตามรายได้การจัดการโครงการน้ำของนิคมฯ ที่มีรายได้ต่อเนื่อง มีมาร์จิ้นที่ดีหรือไม่ / ปีก่อน อาจดีเกินไป เพราะน้ำมันถูก ราคาวัตถุดิบลงด้วย แต่พอมาปีนี้ น้ำมันขึ้น ราคาวัตถุดิบขึ้น มาร์จิ้นยังจะดีหรือไม่
• หุ้นชื่อน้ำมันพืช ปีที่แล้ว ก็กำไรดีเกินไป เพราะวัตถุดิบราคาตกต่ำ พอมาปีนี้ กำไรก็เริ่มตกต่ำ เพราะปีนี้ วัตถุดิบราคาขึ้น / เวลากำไรดีขึ้น ต้องหาสาเหตุให้ได้ว่า กำไรดีขึ้นเพราะเหตุใด ถ้าไม่รุ้ ก็มีความเสี่ยง
• หุ้นกิ๊กเก่าตัวแรกๆของอ.โจ เป็นหุ้น Commodities ต้องระมัดระวัง บางช่วง มันจะดีเกินจริงตอนที่มีมาร์จิ้นสูงๆ เวลาเราไปซื้อตอนที่มันดีเกินจริง จะมีความเสี่ยงมาก
• เวลาคิดมูลค่าของหุ้น ให้คิดไปในอนาคตเสมอ 1-2 ปีข้างหน้า อย่าใช้ตัวเลขย้อนหลัง / ราคาหุ้นจะสะท้อนราคาอนาคตเสมอ / พองบออกปุ๊ป ราคาจะสะท้อนไปในตอนนั้นทันที แต่หลังจากนั้น มันก็จะตอบสนองกับปัจจัยในอนาคตเท่านั้น
• หุ้นซอส ควรพิจารณาว่า กำลังการผลิตที่ขยายมาแล้ว จะขายให้ใคร / ถ้าขยายกำลังการผลิตแล้ว ขายได้ ก็จะดีมาก / ประเด็นของ หุ้นซอส คือ ขยายกำลังการผลิตมาแล้ว ขายได้หรือไม่ / ขายต่างประเทศด้วย ค่อนข้างดูยากหน่อยว่า จะขายได้หรือไม่
• สุดท้าย ราคาหุ้น จะสะท้อนตามผลประกอบการเสมอ ดังนั้น หน้าที่นักลงทุน ต้องทำนายผลประกอบการของกิจการให้ได้
• โรงไฟฟ้า หลายปีที่ผ่านมา พลังงานทดแทนมีความนิยมมาก แต่ว่า ทำไมมีหุ้นโรงไฟฟ้าบางตัว PE ต่ำ บางตัว PE สูง ตลาดให้ไม่เท่ากัน
o หุ้นแสงแดดยุคแรก ที่มี Adder มากๆ แต่ PE ต่ำ เพราะระยะเวลาที่ได้ Adder ใกล้หมดอายุแล้ว เหลืออีก 1-2 ปีเท่านั้น พอ Adder หมด กำไรจะตกมาก
o โรงไฟฟ้า มีการลงทุนสูงในช่วงต้นๆ ควรมี DE ต่ำ เพราะสามารถขยายการเติบโตได้
o ข้อดี/ข้อเสียของรูปแบบ
- แดด ไม่มีต้นทุน แต่ผลิตได้ไม่กี่ชั่วโมง / ต้นทุนโดยรวม แพงกว่า ต้นทุนค่าไฟฐาน / อินเดีย มีต้นทุนแดดต่ำมาก เพราะต้นทุนที่ดินต่ำ เนื่องจากใช้พื้นที่ทะเลทราย
- ลม ชั่วโมงการผลิตค่อนข้างสูง แต่ประเทศไทย มีกระแสลมที่พอผลิตน้อยมาก มีพื้นที่สำหรับทำพลังงานลมไม่มาก (หาที่ทำเล ยาก)
- ชีวมวล ปัญหาหลักคือ วัตถุดิบ ที่มีราคาสูง / ควรมีแหล่งวัตถุดิบป้อนตลอดเวลา
- น้ำ ไม่มีต้นทุนวัตถุดิบ แต่ต้องลงทุนสูงมากๆ และต้องระวังการต่อต้านจากชาวบ้าน
- ขยะ ปัญหาของไทยคือ ไม่มีการแยกขยะแบบต่างประเทศ ทำให้มีปัญหาต้องหาคนมาแยกขยะ มีปัญหาด้านความชื้น (จากถุงแกง) / มีหุ้นตัวหนึ่งที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีเข้ามาแก้ไขปัญหาในการผลิตไฟฟ้าได้สูงจากขยะ มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการลดความชื้นได้ ปัจจุบัน มีกำลังการผลิต 200MW ในอนาคต มีโอกาสเพิ่มได้อีก 300MW แง่การคิดมูลค่า มองว่า PE สิ้นปีนี้ ราว 23-24x ส่วนปีหน้า น่าจะราวๆ 8-11x
• หุ้นหนัง น่าแปลกใจที่กำไรดีขึ้นจากการมีลูกค้ารายใหญ่มาจากจีน / Order จากจีน มีระยะเวลา 2 ปี แต่ไม่แน่ใจเรื่อง Order จากจีนในอนาคตหลัง 2 ปี / น่ายังมีความไม่แน่นอนสูง
• หุ้นขายลูกช่วยชีวิต ธุรกิจ startup ที่เริ่มเมื่อ 10 ปีก่อน และประสบความสำเร็จจนเข้าตลาดหุ้นได้ ข้อดี คือ รายได้ที่เกิดจาก Software เป็น Transaction base (เป็น Recurring Income) ต่างกับ ควายหนุ่ม ที่ขายขาด ตอนนี้ กำลังมีโปรดักส์ใหม่ e-DLT ที่ให้บริการต่อทะเบียนรถ / แง่ต้นทุน แทบไม่เพิ่มเท่าไร ในขณะที่เพิ่มโปรดักส์ใหม่ และสร้างรายได้ยั่งยืนมาก
ขอแค่นี้ก่อนครับ
ไว้มาต่อใหม่โพสถัดไปครับ
• คำถามเกี่ยวกับมาตราฐานบัญชีและการตรวจสอบ / มีคนยกตัวอย่างเคสของ หุ้นตึกมหานคร และ หุ้นโลก ว่า ผู้ตรวจสอบฯ เป็นเครื่องมือของกลุ่มคนที่เข้ามาสร้างราคาหุ้น
o มาตราฐานการบัญชีของบ้านเรา ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี มีการลงรายละเอียดมากขึ้น
o เคส หุ้นมหานคร น่าเป็นผู้บริหารและที่ปรึกษาทางการเงินชงเรื่องขึ้นมา ในขณะที่ผู้ตรวจสอบงบฯ มีการท้วงติง จึงเขียนหมายเหตุประกอบงบไว้
o เคส หุ้นโลก ไม่น่าเกี่ยวกับผู้ตรวจสอบบัญชีฯ โดยตัวธุรกิจของมันเอง เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเยอะ / สาเหตุที่มีหนี้โผล่มาเยอะ อาจเกิดจากการที่ไป commit กับลูกค้า และไม่สามารถส่งมอบได้ เลยโดนฟ้องจากลูกค้า จึงต้องชดใช้ค่าเสียหาย
• เวลาเลือกลงทุน ต้องเลือกที่ชัวร์หน่อย ไม่ใช่ฟังไปทั่ว สุดท้าย จะมีหลายแนวที่ตีกัน จนไม่ได้ดีสักอย่างและกลายเป็นมวยวัดไป วิธีที่เราใช้ (วีไอ) น่าพิสูจน์แล้วว่า สามารถประสบความสำเร็จได้ ก็ขึ้นกับว่า คุณจะเลือกแนวทางไหน
• หุ้นวาโปรับ ควรติดตามรายได้การจัดการโครงการน้ำของนิคมฯ ที่มีรายได้ต่อเนื่อง มีมาร์จิ้นที่ดีหรือไม่ / ปีก่อน อาจดีเกินไป เพราะน้ำมันถูก ราคาวัตถุดิบลงด้วย แต่พอมาปีนี้ น้ำมันขึ้น ราคาวัตถุดิบขึ้น มาร์จิ้นยังจะดีหรือไม่
• หุ้นชื่อน้ำมันพืช ปีที่แล้ว ก็กำไรดีเกินไป เพราะวัตถุดิบราคาตกต่ำ พอมาปีนี้ กำไรก็เริ่มตกต่ำ เพราะปีนี้ วัตถุดิบราคาขึ้น / เวลากำไรดีขึ้น ต้องหาสาเหตุให้ได้ว่า กำไรดีขึ้นเพราะเหตุใด ถ้าไม่รุ้ ก็มีความเสี่ยง
• หุ้นกิ๊กเก่าตัวแรกๆของอ.โจ เป็นหุ้น Commodities ต้องระมัดระวัง บางช่วง มันจะดีเกินจริงตอนที่มีมาร์จิ้นสูงๆ เวลาเราไปซื้อตอนที่มันดีเกินจริง จะมีความเสี่ยงมาก
• เวลาคิดมูลค่าของหุ้น ให้คิดไปในอนาคตเสมอ 1-2 ปีข้างหน้า อย่าใช้ตัวเลขย้อนหลัง / ราคาหุ้นจะสะท้อนราคาอนาคตเสมอ / พองบออกปุ๊ป ราคาจะสะท้อนไปในตอนนั้นทันที แต่หลังจากนั้น มันก็จะตอบสนองกับปัจจัยในอนาคตเท่านั้น
• หุ้นซอส ควรพิจารณาว่า กำลังการผลิตที่ขยายมาแล้ว จะขายให้ใคร / ถ้าขยายกำลังการผลิตแล้ว ขายได้ ก็จะดีมาก / ประเด็นของ หุ้นซอส คือ ขยายกำลังการผลิตมาแล้ว ขายได้หรือไม่ / ขายต่างประเทศด้วย ค่อนข้างดูยากหน่อยว่า จะขายได้หรือไม่
• สุดท้าย ราคาหุ้น จะสะท้อนตามผลประกอบการเสมอ ดังนั้น หน้าที่นักลงทุน ต้องทำนายผลประกอบการของกิจการให้ได้
• โรงไฟฟ้า หลายปีที่ผ่านมา พลังงานทดแทนมีความนิยมมาก แต่ว่า ทำไมมีหุ้นโรงไฟฟ้าบางตัว PE ต่ำ บางตัว PE สูง ตลาดให้ไม่เท่ากัน
o หุ้นแสงแดดยุคแรก ที่มี Adder มากๆ แต่ PE ต่ำ เพราะระยะเวลาที่ได้ Adder ใกล้หมดอายุแล้ว เหลืออีก 1-2 ปีเท่านั้น พอ Adder หมด กำไรจะตกมาก
o โรงไฟฟ้า มีการลงทุนสูงในช่วงต้นๆ ควรมี DE ต่ำ เพราะสามารถขยายการเติบโตได้
o ข้อดี/ข้อเสียของรูปแบบ
- แดด ไม่มีต้นทุน แต่ผลิตได้ไม่กี่ชั่วโมง / ต้นทุนโดยรวม แพงกว่า ต้นทุนค่าไฟฐาน / อินเดีย มีต้นทุนแดดต่ำมาก เพราะต้นทุนที่ดินต่ำ เนื่องจากใช้พื้นที่ทะเลทราย
- ลม ชั่วโมงการผลิตค่อนข้างสูง แต่ประเทศไทย มีกระแสลมที่พอผลิตน้อยมาก มีพื้นที่สำหรับทำพลังงานลมไม่มาก (หาที่ทำเล ยาก)
- ชีวมวล ปัญหาหลักคือ วัตถุดิบ ที่มีราคาสูง / ควรมีแหล่งวัตถุดิบป้อนตลอดเวลา
- น้ำ ไม่มีต้นทุนวัตถุดิบ แต่ต้องลงทุนสูงมากๆ และต้องระวังการต่อต้านจากชาวบ้าน
- ขยะ ปัญหาของไทยคือ ไม่มีการแยกขยะแบบต่างประเทศ ทำให้มีปัญหาต้องหาคนมาแยกขยะ มีปัญหาด้านความชื้น (จากถุงแกง) / มีหุ้นตัวหนึ่งที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีเข้ามาแก้ไขปัญหาในการผลิตไฟฟ้าได้สูงจากขยะ มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการลดความชื้นได้ ปัจจุบัน มีกำลังการผลิต 200MW ในอนาคต มีโอกาสเพิ่มได้อีก 300MW แง่การคิดมูลค่า มองว่า PE สิ้นปีนี้ ราว 23-24x ส่วนปีหน้า น่าจะราวๆ 8-11x
• หุ้นหนัง น่าแปลกใจที่กำไรดีขึ้นจากการมีลูกค้ารายใหญ่มาจากจีน / Order จากจีน มีระยะเวลา 2 ปี แต่ไม่แน่ใจเรื่อง Order จากจีนในอนาคตหลัง 2 ปี / น่ายังมีความไม่แน่นอนสูง
• หุ้นขายลูกช่วยชีวิต ธุรกิจ startup ที่เริ่มเมื่อ 10 ปีก่อน และประสบความสำเร็จจนเข้าตลาดหุ้นได้ ข้อดี คือ รายได้ที่เกิดจาก Software เป็น Transaction base (เป็น Recurring Income) ต่างกับ ควายหนุ่ม ที่ขายขาด ตอนนี้ กำลังมีโปรดักส์ใหม่ e-DLT ที่ให้บริการต่อทะเบียนรถ / แง่ต้นทุน แทบไม่เพิ่มเท่าไร ในขณะที่เพิ่มโปรดักส์ใหม่ และสร้างรายได้ยั่งยืนมาก
ขอแค่นี้ก่อนครับ
ไว้มาต่อใหม่โพสถัดไปครับ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
- ไพลิน
- Verified User
- โพสต์: 919
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2925
หลังจากไปงานของ thaivi ที่ผ่านมา เจอพี่ๆหลายๆคน ฟังแล้วได้ความรู้มากครับ พี่ๆหลายๆคนก็อยู่ห้องนี้ประจำ
หลังจากกลับจากงานเริ่มคิดกลยุทธ์การลงทุนใหม่ เพราะทั้งห้องมีแต่ผู้ชาย จะหันไปลงทุนบ.ที่เจ้าของหรือลูกเจ้าของสวยๆแล้วครับ ผลตอบแทนน่าจะดีขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย
ช่วงกำลังลิสต์หุ้นแบบนี้อยู่ ขอทายหุ้นไปพลางๆก่อนนะครับ
หุ้นตึกมหานคร - pace
หุ้นโลก - earth
หุ้นวาโปรับ - wiik
หุ้นชื่อน้ำมันพืช - thip
หุ้นกิ๊กเก่าตัวแรกๆของอ.โจ - กิ๊กแกน่าจะหลายตัว เดาไม่ถูกเลยครับ (แซวเล่นนะครับ) ขอเดา swc แล้วกันครับ
หุ้นซอส - xo
หุ้นหนัง - ihl
หุ้นขายลูกช่วยชีวิต - mfec
ควายหนุ่ม - netbay
หลังจากกลับจากงานเริ่มคิดกลยุทธ์การลงทุนใหม่ เพราะทั้งห้องมีแต่ผู้ชาย จะหันไปลงทุนบ.ที่เจ้าของหรือลูกเจ้าของสวยๆแล้วครับ ผลตอบแทนน่าจะดีขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย
ช่วงกำลังลิสต์หุ้นแบบนี้อยู่ ขอทายหุ้นไปพลางๆก่อนนะครับ
หุ้นตึกมหานคร - pace
หุ้นโลก - earth
หุ้นวาโปรับ - wiik
หุ้นชื่อน้ำมันพืช - thip
หุ้นกิ๊กเก่าตัวแรกๆของอ.โจ - กิ๊กแกน่าจะหลายตัว เดาไม่ถูกเลยครับ (แซวเล่นนะครับ) ขอเดา swc แล้วกันครับ
หุ้นซอส - xo
หุ้นหนัง - ihl
หุ้นขายลูกช่วยชีวิต - mfec
ควายหนุ่ม - netbay
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2926
dusit168 เขียน:หลังจากไปงานของ thaivi ที่ผ่านมา เจอพี่ๆหลายๆคน ฟังแล้วได้ความรู้มากครับ พี่ๆหลายๆคนก็อยู่ห้องนี้ประจำ
หลังจากกลับจากงานเริ่มคิดกลยุทธ์การลงทุนใหม่ เพราะทั้งห้องมีแต่ผู้ชาย จะหันไปลงทุนบ.ที่เจ้าของหรือลูกเจ้าของสวยๆแล้วครับ ผลตอบแทนน่าจะดีขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย
ช่วงกำลังลิสต์หุ้นแบบนี้อยู่ ขอทายหุ้นไปพลางๆก่อนนะครับ
หุ้นตึกมหานคร - pace
หุ้นโลก - earth
หุ้นวาโปรับ - wiik
หุ้นชื่อน้ำมันพืช - thip
หุ้นกิ๊กเก่าตัวแรกๆของอ.โจ - กิ๊กแกน่าจะหลายตัว เดาไม่ถูกเลยครับ (แซวเล่นนะครับ) ขอเดา swc แล้วกันครับ ไม่ถูกครับ
หุ้นซอส - xo
หุ้นหนัง - ihl
หุ้นขายลูกช่วยชีวิต - mfec ไม่ถูกครับ
ควายหนุ่ม - netbay ไม่ถูกครับ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
-
- Verified User
- โพสต์: 1165
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2927
ลองดูครับ....อิอิ
COMANAnieLee เขียน:dusit168 เขียน:หลังจากไปงานของ thaivi ที่ผ่านมา เจอพี่ๆหลายๆคน ฟังแล้วได้ความรู้มากครับ พี่ๆหลายๆคนก็อยู่ห้องนี้ประจำ
หลังจากกลับจากงานเริ่มคิดกลยุทธ์การลงทุนใหม่ เพราะทั้งห้องมีแต่ผู้ชาย จะหันไปลงทุนบ.ที่เจ้าของหรือลูกเจ้าของสวยๆแล้วครับ ผลตอบแทนน่าจะดีขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย
ช่วงกำลังลิสต์หุ้นแบบนี้อยู่ ขอทายหุ้นไปพลางๆก่อนนะครับ
หุ้นตึกมหานคร - pace
หุ้นโลก - earth
หุ้นวาโปรับ - wiik
หุ้นชื่อน้ำมันพืช - thip
หุ้นกิ๊กเก่าตัวแรกๆของอ.โจ - กิ๊กแกน่าจะหลายตัว เดาไม่ถูกเลยครับ (แซวเล่นนะครับ) ขอเดา swc แล้วกันครับ ไม่ถูกครับ STA
หุ้นซอส - xo
หุ้นหนัง - ihl
หุ้นขายลูกช่วยชีวิต - mfec ไม่ถูกครับ Netbay
ควายหนุ่ม - netbay ไม่ถูกครับ
ควรทุ่มเทเจริญให้มาก..ในงานที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง..
-
- Verified User
- โพสต์: 1165
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2928
เกล้า เขียน:ลองดูครับ....อิอิCOMANAnieLee เขียน:dusit168 เขียน:หลังจากไปงานของ thaivi ที่ผ่านมา เจอพี่ๆหลายๆคน ฟังแล้วได้ความรู้มากครับ พี่ๆหลายๆคนก็อยู่ห้องนี้ประจำ
หลังจากกลับจากงานเริ่มคิดกลยุทธ์การลงทุนใหม่ เพราะทั้งห้องมีแต่ผู้ชาย จะหันไปลงทุนบ.ที่เจ้าของหรือลูกเจ้าของสวยๆแล้วครับ ผลตอบแทนน่าจะดีขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย
ช่วงกำลังลิสต์หุ้นแบบนี้อยู่ ขอทายหุ้นไปพลางๆก่อนนะครับ
หุ้นตึกมหานคร - pace
หุ้นโลก - earth
หุ้นวาโปรับ - wiik
หุ้นชื่อน้ำมันพืช - thip
หุ้นกิ๊กเก่าตัวแรกๆของอ.โจ - กิ๊กแกน่าจะหลายตัว เดาไม่ถูกเลยครับ (แซวเล่นนะครับ) ขอเดา swc แล้วกันครับ ไม่ถูกครับ STA จริงๆอยากตอบ ptl อีกตัวเพราะคำใบ้มันกว้างไป
หุ้นซอส - xo
หุ้นหนัง - ihl
หุ้นขายลูกช่วยชีวิต - mfec ไม่ถูกครับ Netbay
ควายหนุ่ม - netbay ไม่ถูกครับ
ควรทุ่มเทเจริญให้มาก..ในงานที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง..
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2929
มีทติ้งวีไอหาดใหญ่ Q2/2560 (ต่อ)
• หุ้นให้คำปรึกษางานวิศวกรรม เป็นกิจการที่ได้รับผลดีจาก Mega Projects / งานมากขึ้น กำไรก็จะมากขึ้นด้วย / ราคาหุ้นก็ขึ้นไปเยอะพอสมควร
• กลุ่มเรือ ค่อนข้างติดตามยากพอสมควร / ติดตามเรื่องค่าระวางเรือ เช่น เรือเทกอง ก็ BDI เรือตู้ ก็มีอีกตัว เป็นต้น / ไตรมาสล่าสุด เหมือนดีขึ้น คงเป็นรอบย่อยๆมากกว่า คิดว่า ไม่น่าใช่รอบใหญ่ๆ แบบสมัยก่อน
• มุมมองเลือกหุ้นที่คิดว่า Bottom แล้ว หรือมีการไซฟ่อนเงิน ตัวอย่างเช่น หุ้นแลคเกอร์ เป็นต้น
o กรณีที่ หุ้นแลคเกอร์ มีโอกาสอยู่แล้วที่ทาง ร้านสะดวกซื้อ จะเบี้ยวหนี้
o ผู้บริหารที่ไม่ซื่อสัตย์ อย่าไปสนใจ
o หุ้นผลิตไฟฟ้าจากพลังงานใต้ภิภพ ก็เป็นอีกตัวที่ดูเสี่ยงๆ เช่นกัน ที่มีเกี่ยวข้องกันกับอีกบริษัทหนึ่ง
o หุ้นลูกอิสลาม ก็มีแนวโน้มไซฟ่อนเงินเช่นเดียวกัน
• <หุ้นที่มีแม่คนเดียวกันกับ IT> คล้าย Factoring ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นงานภาครัฐฯ ทำให้มีความเสี่ยงไม่มาก ปัญหาคือ PE สูง
• <หุ้นนักร้อง> เป็นบริษัทร่วมของ หุ้นมือถือ โดยทาง หุ้นมือถือ เอามือถือไปให้ทาง <หุ้นนักร้อง> ขาย แต่คิดว่า ไม่น่าจะดี เพราะมือถือราคาสูง แต่ไปขายให้ชาวนา ซึ่งไม่แมทกัน
• <หุ้นบริการรถบัสรับส่ง พนง> เป็นพวกรถรับส่งพนักงาน เป็นธุรกิจที่ไม่มี Barrier ทำให้กำไรไม่น่าจะสูงมาก และเป็นการลงทุนที่สูง ในขณะที่กำไรยังไม่มา / ผบห ก็ขายหุ้นด้วย
• <หุ้นทำดาต้าเซนเตอร์/คราวด์> ธุรกิจหลัก ขาดทุนมาก และมีการขายหุ้น <หุ้นสตาร์ทอัพ SaaS> ไปมากแล้ว จนบันทึกบัญชีจากบริษัทร่วมเป็นเงินลงทุนแล้ว ทำให้มีการตีราคามูลค่าตลาด เลยมีบันทึกกำไรมากมาย / ไม่แน่ใจว่า ธุรกิจหลัก อนาคตจะทำกำไรได้มากขนาดไหน นอกจากนี้ ธุรกิจ Cloud มีการแข่งขันสูง ทั้ง Microsoft Amazon เป็นต้น
• หุ้นสาหร่าย ที่กำไรมาก เพราะมีการบุกตลาดในจีน ส่วนในประเทศ น่าจบไปแล้ว พอพึ่งพาตลาดจีน เลยไม่แน่ใจว่า จะมีความยั่งยืนไหม / ความหวังคือ การเติบโตในตลาดต่างประเทศ
• อ.วรพงศ์ แชร์ข้อมูล
o เงินสดเตรียมไว้ใช้3-4ปี
o หุ้นไทย10% ส่วนใหญ่ ลงทุนใน us
o ช่วงกลางปีเงินบาทแข็ง ต้นปีมักอ่อน เอาเงินกลับมาตอนต้นปี หลังๆ ลงทุนเองไม่ชนะตลาด เลยเปลี่ยนความคิดไปลงทุนง่ายๆแบบ buffett แนะนำ คือ Index Fund S&P500 (vanguard500) แค่เสมอตลาดก็ได้10%ต่อปี แต่ถ้าใครชนะตลาดได้ก็ไม่ต้องมาทำแบบนี้
o หากอายุ30ปี เก็บเงินมาลงทุนเดือนละห้าพัน แบบ Dollar cost average index fund ง่ายกว่าเยอะ เกษียณอายุ60 ได้สิบล้าน!!สบายๆ
o ไม่ได้ลงทุนหุ้นเทคโนโลยีเลย (google, facebook, amazon, apple, nvdia) แต่ลงทุนใน Agoda / google สองสามปีที่แล้วราคาร่วงเพราะมัวแต่ไปลงทุนside project เปลี่ยนโลกจนกำไรไม่ขึ้น ตอนหลังคุมงบเปลี่ยนโลกถึงดีขึ้น
o อ.โจ เสริม หากเบื่อหาหุ้น จะลงทุนใน Index Fund ของ อเมริกา เพราะมีหุ้นที่สามารถดูดเงินจากประเทศอื่นๆ ได้ทั่วโลก แสดงว่า อเมริกาต้องรุ่งเรืองแน่นอน จึงคิดว่า ไปลงทุนแบบสบายๆ ใน Index Fund ของอเมริกา
• เลือกหุ้นลงทุนในเวียดนามอย่างไร
o ก็ใช้วิธีเดียวกันกับการลงทุนในไทย ที่เป็นวิธีที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว
o การหาข้อมูลกิจการ ค่อนข้างยาก / อ.โจ ใช้วิธีเข้าไปหาบทวิจัยของโบรคฯ ที่มีภาษาอังกฤษ ให้อ่าน มีเพียงแค่ 5 โบรคฯ จากโบรคฯ ทั้งหมด
o อ.โจ ลงทุนในเวียดนาม ไม่เกิน 10% เท่านั้น
วันนี้ทยอยอ่านแค่นี้กันก่อนครับ ไว้มาต่อพรุ่งนี้ครับ
ปล น่าทายชื่อหุ้นง่ายนะครับ
• หุ้นให้คำปรึกษางานวิศวกรรม เป็นกิจการที่ได้รับผลดีจาก Mega Projects / งานมากขึ้น กำไรก็จะมากขึ้นด้วย / ราคาหุ้นก็ขึ้นไปเยอะพอสมควร
• กลุ่มเรือ ค่อนข้างติดตามยากพอสมควร / ติดตามเรื่องค่าระวางเรือ เช่น เรือเทกอง ก็ BDI เรือตู้ ก็มีอีกตัว เป็นต้น / ไตรมาสล่าสุด เหมือนดีขึ้น คงเป็นรอบย่อยๆมากกว่า คิดว่า ไม่น่าใช่รอบใหญ่ๆ แบบสมัยก่อน
• มุมมองเลือกหุ้นที่คิดว่า Bottom แล้ว หรือมีการไซฟ่อนเงิน ตัวอย่างเช่น หุ้นแลคเกอร์ เป็นต้น
o กรณีที่ หุ้นแลคเกอร์ มีโอกาสอยู่แล้วที่ทาง ร้านสะดวกซื้อ จะเบี้ยวหนี้
o ผู้บริหารที่ไม่ซื่อสัตย์ อย่าไปสนใจ
o หุ้นผลิตไฟฟ้าจากพลังงานใต้ภิภพ ก็เป็นอีกตัวที่ดูเสี่ยงๆ เช่นกัน ที่มีเกี่ยวข้องกันกับอีกบริษัทหนึ่ง
o หุ้นลูกอิสลาม ก็มีแนวโน้มไซฟ่อนเงินเช่นเดียวกัน
• <หุ้นที่มีแม่คนเดียวกันกับ IT> คล้าย Factoring ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นงานภาครัฐฯ ทำให้มีความเสี่ยงไม่มาก ปัญหาคือ PE สูง
• <หุ้นนักร้อง> เป็นบริษัทร่วมของ หุ้นมือถือ โดยทาง หุ้นมือถือ เอามือถือไปให้ทาง <หุ้นนักร้อง> ขาย แต่คิดว่า ไม่น่าจะดี เพราะมือถือราคาสูง แต่ไปขายให้ชาวนา ซึ่งไม่แมทกัน
• <หุ้นบริการรถบัสรับส่ง พนง> เป็นพวกรถรับส่งพนักงาน เป็นธุรกิจที่ไม่มี Barrier ทำให้กำไรไม่น่าจะสูงมาก และเป็นการลงทุนที่สูง ในขณะที่กำไรยังไม่มา / ผบห ก็ขายหุ้นด้วย
• <หุ้นทำดาต้าเซนเตอร์/คราวด์> ธุรกิจหลัก ขาดทุนมาก และมีการขายหุ้น <หุ้นสตาร์ทอัพ SaaS> ไปมากแล้ว จนบันทึกบัญชีจากบริษัทร่วมเป็นเงินลงทุนแล้ว ทำให้มีการตีราคามูลค่าตลาด เลยมีบันทึกกำไรมากมาย / ไม่แน่ใจว่า ธุรกิจหลัก อนาคตจะทำกำไรได้มากขนาดไหน นอกจากนี้ ธุรกิจ Cloud มีการแข่งขันสูง ทั้ง Microsoft Amazon เป็นต้น
• หุ้นสาหร่าย ที่กำไรมาก เพราะมีการบุกตลาดในจีน ส่วนในประเทศ น่าจบไปแล้ว พอพึ่งพาตลาดจีน เลยไม่แน่ใจว่า จะมีความยั่งยืนไหม / ความหวังคือ การเติบโตในตลาดต่างประเทศ
• อ.วรพงศ์ แชร์ข้อมูล
o เงินสดเตรียมไว้ใช้3-4ปี
o หุ้นไทย10% ส่วนใหญ่ ลงทุนใน us
o ช่วงกลางปีเงินบาทแข็ง ต้นปีมักอ่อน เอาเงินกลับมาตอนต้นปี หลังๆ ลงทุนเองไม่ชนะตลาด เลยเปลี่ยนความคิดไปลงทุนง่ายๆแบบ buffett แนะนำ คือ Index Fund S&P500 (vanguard500) แค่เสมอตลาดก็ได้10%ต่อปี แต่ถ้าใครชนะตลาดได้ก็ไม่ต้องมาทำแบบนี้
o หากอายุ30ปี เก็บเงินมาลงทุนเดือนละห้าพัน แบบ Dollar cost average index fund ง่ายกว่าเยอะ เกษียณอายุ60 ได้สิบล้าน!!สบายๆ
o ไม่ได้ลงทุนหุ้นเทคโนโลยีเลย (google, facebook, amazon, apple, nvdia) แต่ลงทุนใน Agoda / google สองสามปีที่แล้วราคาร่วงเพราะมัวแต่ไปลงทุนside project เปลี่ยนโลกจนกำไรไม่ขึ้น ตอนหลังคุมงบเปลี่ยนโลกถึงดีขึ้น
o อ.โจ เสริม หากเบื่อหาหุ้น จะลงทุนใน Index Fund ของ อเมริกา เพราะมีหุ้นที่สามารถดูดเงินจากประเทศอื่นๆ ได้ทั่วโลก แสดงว่า อเมริกาต้องรุ่งเรืองแน่นอน จึงคิดว่า ไปลงทุนแบบสบายๆ ใน Index Fund ของอเมริกา
• เลือกหุ้นลงทุนในเวียดนามอย่างไร
o ก็ใช้วิธีเดียวกันกับการลงทุนในไทย ที่เป็นวิธีที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว
o การหาข้อมูลกิจการ ค่อนข้างยาก / อ.โจ ใช้วิธีเข้าไปหาบทวิจัยของโบรคฯ ที่มีภาษาอังกฤษ ให้อ่าน มีเพียงแค่ 5 โบรคฯ จากโบรคฯ ทั้งหมด
o อ.โจ ลงทุนในเวียดนาม ไม่เกิน 10% เท่านั้น
วันนี้ทยอยอ่านแค่นี้กันก่อนครับ ไว้มาต่อพรุ่งนี้ครับ
ปล น่าทายชื่อหุ้นง่ายนะครับ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2930
เกล้า เขียน:เกล้า เขียน:ลองดูครับ....อิอิCOMANAnieLee เขียน:dusit168 เขียน:หลังจากไปงานของ thaivi ที่ผ่านมา เจอพี่ๆหลายๆคน ฟังแล้วได้ความรู้มากครับ พี่ๆหลายๆคนก็อยู่ห้องนี้ประจำ
หลังจากกลับจากงานเริ่มคิดกลยุทธ์การลงทุนใหม่ เพราะทั้งห้องมีแต่ผู้ชาย จะหันไปลงทุนบ.ที่เจ้าของหรือลูกเจ้าของสวยๆแล้วครับ ผลตอบแทนน่าจะดีขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย
ช่วงกำลังลิสต์หุ้นแบบนี้อยู่ ขอทายหุ้นไปพลางๆก่อนนะครับ
หุ้นกิ๊กเก่าตัวแรกๆของอ.โจ - กิ๊กแกน่าจะหลายตัว เดาไม่ถูกเลยครับ (แซวเล่นนะครับ) ขอเดา swc แล้วกันครับ ไม่ถูกครับ STA จริงๆอยากตอบ ptl อีกตัวเพราะคำใบ้มันกว้างไป เหลือตัวนี้ ที่ยังทายกันไม่ถูกครับ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2931
ข้อมูล ส.กิจชัย ที่ อ.โจ กล่าวถึงในมีทติ้งรอบล่าสุดครับ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=61195
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=61195
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2932
มีทติ้งวีไอหาดใหญ่ Q2/2560 (ต่อ)
• หุ้นซื้อหนี้เสียมาบริหาร ราคาขึ้นไปมากแล้ว ตัวนี้ กำไรเพิ่มระเบิด เมื่อมีการเปลี่ยนนโยบายบัญชี / ต้องไปคุยกับผู้บริหาร ถึงจะรู้ข้อมูลชัดเจน
• กลุ่ม Leasing ควรพิจารณา ผบห ด้วยว่า มีนโยบายอย่างไร รวมทั้ง room ของ DE ว่า จะขยายได้อีกเท่าไร อย่าง หุ้นไทรอัมพ์คิงดอม ผบห ค่อนข้าง Conservative ก็จะไม่เติบโตมาก
• ต้องดูเรื่องปัจจัยคุณภาพหนี้ NPL ด้วยหรือไม่
o น่าเป็นปัจจัยรอง อย่าไปกังวลมาก เพราะบริษัทที่ดี ต่อให้มีการปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่ม NPL ก็น่าจะเหมือนเดิม เพราะมีระบบการปล่อยสินเชื่อก็เหมือนเดิม มีระบบควบคุมภายในเหมือนเดิม
o D/E ที่ต่ำ น่ามีประโยชน์มากกว่า NPL สูงหรือไม่สูง ดูจากตัวอย่างหุ้น สินเชื่อรถยนต์มือสอง และ สินเชื่อรถมอไซด์มือสอง ได้
o เพดานของ D/E
Bank 10 เท่าต้นๆ
Non Bank ที่มีบริษัทหนุนหลัง ราว 5-6 เท่า
ทั่วไปที่ไม่มีบริษัทหนุนหลัง ราว 3-4 เท่า
• มีหุ้นบางตัว เดือนก่อน มีพอร์ตสินเชื่อ 1.3 พันล้าน ตอนนี้ มีพอร์ตสินเชื่อง 2 พันกว่าล้าน / เพิ่งมีการเปลี่ยน ผบห ที่มาเทค มองว่า อนาคตกำไรของกิจการ น่าจะโตแน่ๆ แถมยังมี D/E ต่ำมาก ก็น่ามีโอกาสโตได้อีกหลายเท่า
• หุ้นผู้ชนะ ล่าสุด งบออกมาดีน้อยกว่าคาด รายได้ลดลง กำไรดูเหมือนเพิ่มขึ้น แต่ปีที่แล้วมีค่าใช้จ่ายพิเศษ เศรษฐกิจไม่ค่อยดีแบบนี้ คนบริโภคน่าจะน้อยลง / สินค้าของ Winner เป็นสินค้าพรีเมี่ยม พอเศรษฐกิจไม่ดี ก็มีการบริโภคน้อยลง
• หุ้นยางรถ ดูโอเค แต่กำไรตกไปมาก เดาว่า เพราะต้นทุนยางขึ้น คงต้องรอระบายสต๊อคยางที่ราคาแพงออกไป และลุ้นการเติบโตจากโรงงานใหม่ในอินโดฯ (ราคาปัจจุบัน ก่ำกึ่ง เสี่ยงๆ)
• หุ้นหวยชาเขียว นำกลยุทธ์หวยชาไปใช้ที่อินโดฯ ดูเหมือนได้ผลดี มีความเห็นอย่างไร
o อ.โจ ไม่ได้ติดตาม แค่เปรยว่า ก็น่าสนใจ ต้องไปดูในรายละเอียดว่า จริงหรือไม่ อย่างไร
วันนี้เอาแบบเบาๆ พอครับ แค่นี้ครับ ไว้ต่อใหม่
• หุ้นซื้อหนี้เสียมาบริหาร ราคาขึ้นไปมากแล้ว ตัวนี้ กำไรเพิ่มระเบิด เมื่อมีการเปลี่ยนนโยบายบัญชี / ต้องไปคุยกับผู้บริหาร ถึงจะรู้ข้อมูลชัดเจน
• กลุ่ม Leasing ควรพิจารณา ผบห ด้วยว่า มีนโยบายอย่างไร รวมทั้ง room ของ DE ว่า จะขยายได้อีกเท่าไร อย่าง หุ้นไทรอัมพ์คิงดอม ผบห ค่อนข้าง Conservative ก็จะไม่เติบโตมาก
• ต้องดูเรื่องปัจจัยคุณภาพหนี้ NPL ด้วยหรือไม่
o น่าเป็นปัจจัยรอง อย่าไปกังวลมาก เพราะบริษัทที่ดี ต่อให้มีการปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่ม NPL ก็น่าจะเหมือนเดิม เพราะมีระบบการปล่อยสินเชื่อก็เหมือนเดิม มีระบบควบคุมภายในเหมือนเดิม
o D/E ที่ต่ำ น่ามีประโยชน์มากกว่า NPL สูงหรือไม่สูง ดูจากตัวอย่างหุ้น สินเชื่อรถยนต์มือสอง และ สินเชื่อรถมอไซด์มือสอง ได้
o เพดานของ D/E
Bank 10 เท่าต้นๆ
Non Bank ที่มีบริษัทหนุนหลัง ราว 5-6 เท่า
ทั่วไปที่ไม่มีบริษัทหนุนหลัง ราว 3-4 เท่า
• มีหุ้นบางตัว เดือนก่อน มีพอร์ตสินเชื่อ 1.3 พันล้าน ตอนนี้ มีพอร์ตสินเชื่อง 2 พันกว่าล้าน / เพิ่งมีการเปลี่ยน ผบห ที่มาเทค มองว่า อนาคตกำไรของกิจการ น่าจะโตแน่ๆ แถมยังมี D/E ต่ำมาก ก็น่ามีโอกาสโตได้อีกหลายเท่า
• หุ้นผู้ชนะ ล่าสุด งบออกมาดีน้อยกว่าคาด รายได้ลดลง กำไรดูเหมือนเพิ่มขึ้น แต่ปีที่แล้วมีค่าใช้จ่ายพิเศษ เศรษฐกิจไม่ค่อยดีแบบนี้ คนบริโภคน่าจะน้อยลง / สินค้าของ Winner เป็นสินค้าพรีเมี่ยม พอเศรษฐกิจไม่ดี ก็มีการบริโภคน้อยลง
• หุ้นยางรถ ดูโอเค แต่กำไรตกไปมาก เดาว่า เพราะต้นทุนยางขึ้น คงต้องรอระบายสต๊อคยางที่ราคาแพงออกไป และลุ้นการเติบโตจากโรงงานใหม่ในอินโดฯ (ราคาปัจจุบัน ก่ำกึ่ง เสี่ยงๆ)
• หุ้นหวยชาเขียว นำกลยุทธ์หวยชาไปใช้ที่อินโดฯ ดูเหมือนได้ผลดี มีความเห็นอย่างไร
o อ.โจ ไม่ได้ติดตาม แค่เปรยว่า ก็น่าสนใจ ต้องไปดูในรายละเอียดว่า จริงหรือไม่ อย่างไร
วันนี้เอาแบบเบาๆ พอครับ แค่นี้ครับ ไว้ต่อใหม่
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2933
มีทติ้งวีไอหาดใหญ่ Q2/2560 (ต่อ)
• งบ Q2 ไม่ดี จะใช้กลยุทธ์ลงทุนอย่างไร
o ก็ใช้กลยุทธ์เหมือนเดิม พยายามหากิจการที่ไม่โดนกระทบจากเศรษฐกิจ
• หุ้นปล่อยกู้รถมือสอง เริ่มไปทำธุรกิจใหม่ บริหารและติดตามหนี้ ดีหรือไม่
o ให้ไปอ่านคำอธิบายของ Q2 ได้ มองว่า น่าจะดี เพราะเค้ามีประสบการณ์ในการเก็บหนี้อยู่แล้ว
• หุ้นปล่อยกู้รถมอไซด์ อัตราการเติบโตน้อย เพราะมีคู่แข่งมาก แต่ได้ผลดีจากยอดขายมอไซด์เพิ่มขึ้น
• หุ้นแบงค์ที่ดินและบ้าน ปัจจุบัน Dilute เต็มที่แล้ว เหลือแค่เอาเงินที่มีไปปล่อยสินเชื่อให้ได้กำไร / ให้ดู P/BV และไปเปรียบเทียบกับธุรกิจที่คล้ายกันเช่น แบงค์กลางที่เคยเป็นเงินทุนฯ เพื่อพิจารณาความถูกแพง
• หุ้นโรงกลั่นตราเสือ อ.โจ ไม่ได้ติดตาม (ผู้เข้าสัมมนา แชร์ข้อมูลที่ไป CV มาว่า มีกำลังผลิต 1.7 แสน ใช้ไป 1.2-1.3 แสน ในขณะที่ EV มา ก็ไม่น่ากระทบการใช้น้ำมัน น้ำมันก็มีโอกาสใช้เยอะต่อไป มีแผนล้างขาดทุนและจ่ายปันผล) อ.โจ ให้ความเห็นว่า มีหนี้สินค่อนข้างสูง
• หุ้นเหมืองแม่เมาะ มีข้อดีคือ มี Backlog สูง ยาวถึง 10 ปี ควรดู (1) รายได้ในอนาคตว่า ทำได้ไหม และ (2) การลงทุนยังมีอีกมากหรือไม่
• หุ้นยางรถ ไม่ได้มียางรถอย่างเดียวเหมือน หุ้นยางรถชื่อจีน แต่มียางรถอุตสาหกรรมด้วย แต่เหมือนหุ้นที่ตายแล้ว ไม่มีการเติบโตอะไร
• หุ้นส้ม 24 ลูก ตลาดมักมองส่วนแบ่งกำไรจากหุ้นยางลาดถนน ไม่ได้มองตัวธุรกิจหลักของตัวหุ้นส้ม 24 ลูก เอง
• หุ้นผลิตกระดาษ เพิ่มกำลังการผลิต แต่รอโรงไฟฟ้าเสร็จ จึงจะเพิ่มได้ แต่ปัญหาคือ มีลูกค้าเพิ่มหรือไม่ จากฐานลูกค้าเดิม 30% ส่วนที่เหลือ จะทำอย่างไร
พอแค่นี้ก่อนครับ ไว้มาต่อใหม่ครับ
• งบ Q2 ไม่ดี จะใช้กลยุทธ์ลงทุนอย่างไร
o ก็ใช้กลยุทธ์เหมือนเดิม พยายามหากิจการที่ไม่โดนกระทบจากเศรษฐกิจ
• หุ้นปล่อยกู้รถมือสอง เริ่มไปทำธุรกิจใหม่ บริหารและติดตามหนี้ ดีหรือไม่
o ให้ไปอ่านคำอธิบายของ Q2 ได้ มองว่า น่าจะดี เพราะเค้ามีประสบการณ์ในการเก็บหนี้อยู่แล้ว
• หุ้นปล่อยกู้รถมอไซด์ อัตราการเติบโตน้อย เพราะมีคู่แข่งมาก แต่ได้ผลดีจากยอดขายมอไซด์เพิ่มขึ้น
• หุ้นแบงค์ที่ดินและบ้าน ปัจจุบัน Dilute เต็มที่แล้ว เหลือแค่เอาเงินที่มีไปปล่อยสินเชื่อให้ได้กำไร / ให้ดู P/BV และไปเปรียบเทียบกับธุรกิจที่คล้ายกันเช่น แบงค์กลางที่เคยเป็นเงินทุนฯ เพื่อพิจารณาความถูกแพง
• หุ้นโรงกลั่นตราเสือ อ.โจ ไม่ได้ติดตาม (ผู้เข้าสัมมนา แชร์ข้อมูลที่ไป CV มาว่า มีกำลังผลิต 1.7 แสน ใช้ไป 1.2-1.3 แสน ในขณะที่ EV มา ก็ไม่น่ากระทบการใช้น้ำมัน น้ำมันก็มีโอกาสใช้เยอะต่อไป มีแผนล้างขาดทุนและจ่ายปันผล) อ.โจ ให้ความเห็นว่า มีหนี้สินค่อนข้างสูง
• หุ้นเหมืองแม่เมาะ มีข้อดีคือ มี Backlog สูง ยาวถึง 10 ปี ควรดู (1) รายได้ในอนาคตว่า ทำได้ไหม และ (2) การลงทุนยังมีอีกมากหรือไม่
• หุ้นยางรถ ไม่ได้มียางรถอย่างเดียวเหมือน หุ้นยางรถชื่อจีน แต่มียางรถอุตสาหกรรมด้วย แต่เหมือนหุ้นที่ตายแล้ว ไม่มีการเติบโตอะไร
• หุ้นส้ม 24 ลูก ตลาดมักมองส่วนแบ่งกำไรจากหุ้นยางลาดถนน ไม่ได้มองตัวธุรกิจหลักของตัวหุ้นส้ม 24 ลูก เอง
• หุ้นผลิตกระดาษ เพิ่มกำลังการผลิต แต่รอโรงไฟฟ้าเสร็จ จึงจะเพิ่มได้ แต่ปัญหาคือ มีลูกค้าเพิ่มหรือไม่ จากฐานลูกค้าเดิม 30% ส่วนที่เหลือ จะทำอย่างไร
พอแค่นี้ก่อนครับ ไว้มาต่อใหม่ครับ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2934
มีทติ้งวีไอหาดใหญ่ Q2/2560 (ต่อ)
• หุ้นโรงกลั่น โรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพมาก เป็นจุดเด่นของกิจการนี้ มีการจัดการแหล่งน้ำมันได้ดี มีหนี้สินต่ำมาก ทำให้มีกำไรมาเท่าไร สามารถจ่ายปันผลได้หมด ทำให้ dividend yield ค่อนข้างสูง ความเสี่ยงระยะยาว คือ การเข้ามาของ EV / เท่าที่อ่านมา โรงกลั่นใหม่ๆ มักเพิ่มส่วนปิโตรเคมีมากขึ้น น่ากระจายความเสี่ยงในอนาคตได้
• หุ้นถังแก๊ส ปัจจัยที่กระทบต่อกิจการคือ ต้นทุน ค่าเงิน คู่แข่งในการประมูล / ข้อดีคือ เป็นผู้ผลิตรายต้นๆ ของโลก / ควรมองหา Catalyst ที่ชัดๆ
• ธุรกิจเสาเข็ม ไม่มี Barrier ในการป้องกันคู่แข่ง ทำให้มีคู่แข่งมากมาย
• เครื่องสำอาง มีไม่กี่ตัวในตลาด / มีความไม่แน่นอนสูง / แบรนด์ไม่ค่อยแข็งเท่าไร / หุ้นค้าส่ง วางกลยุทธ์ผิดที่ไปทำค้าส่ง ทำให้ไม่สามารถควบคุณคุณภาพได้ แถมไม่มีอำนาจต่อรองกับลูกค้าได้ ต่างกับ หุ้นค้าปลีก ที่ทำค้าปลีก ที่สามารถควบคุมคุณภาพและยึดช่องทางการขายได้ด้วย แถมมีแผนการขยายไปต่างประเทศชัดเจนด้วย
• หุ้นยาง มีการเพิ่มทุน / คาดไม่ถึงว่าจะแย่ขนาดนี้ / กิจการมีการซื้อบริษัทร่วมจากฝรั่ง และฝรั่งมีการดึงลูกค้าออกไป แถมยังขาดทุนสต๊อคยาง 2 พันล้านอีกด้วย ทั้งๆ ที่อยู่ในธุรกิจนี้ ไม่น่าจะขาดทุนสต๊อคยางได้
• หุ้นมีชัย ราคาน่ายังแพงไป ณ PE ระดับนี้ แถมรายได้ยังมาจากงานประมูลพอสมควรด้วย และต้องไปแข่งขันกับคู่แข่งสำคัญจากมาเลเซียที่ค่าเงินมาเลเซียอ่อนลงอีกด้วย / ปล. การลงทุน ต้องบริหารความเสี่ยง มองให้รอบด้าน ตามความเป็นจริง
พอแค่นี้ครับ พรุ่งนี้ ต่อจนจบพอดีครับ
• หุ้นโรงกลั่น โรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพมาก เป็นจุดเด่นของกิจการนี้ มีการจัดการแหล่งน้ำมันได้ดี มีหนี้สินต่ำมาก ทำให้มีกำไรมาเท่าไร สามารถจ่ายปันผลได้หมด ทำให้ dividend yield ค่อนข้างสูง ความเสี่ยงระยะยาว คือ การเข้ามาของ EV / เท่าที่อ่านมา โรงกลั่นใหม่ๆ มักเพิ่มส่วนปิโตรเคมีมากขึ้น น่ากระจายความเสี่ยงในอนาคตได้
• หุ้นถังแก๊ส ปัจจัยที่กระทบต่อกิจการคือ ต้นทุน ค่าเงิน คู่แข่งในการประมูล / ข้อดีคือ เป็นผู้ผลิตรายต้นๆ ของโลก / ควรมองหา Catalyst ที่ชัดๆ
• ธุรกิจเสาเข็ม ไม่มี Barrier ในการป้องกันคู่แข่ง ทำให้มีคู่แข่งมากมาย
• เครื่องสำอาง มีไม่กี่ตัวในตลาด / มีความไม่แน่นอนสูง / แบรนด์ไม่ค่อยแข็งเท่าไร / หุ้นค้าส่ง วางกลยุทธ์ผิดที่ไปทำค้าส่ง ทำให้ไม่สามารถควบคุณคุณภาพได้ แถมไม่มีอำนาจต่อรองกับลูกค้าได้ ต่างกับ หุ้นค้าปลีก ที่ทำค้าปลีก ที่สามารถควบคุมคุณภาพและยึดช่องทางการขายได้ด้วย แถมมีแผนการขยายไปต่างประเทศชัดเจนด้วย
• หุ้นยาง มีการเพิ่มทุน / คาดไม่ถึงว่าจะแย่ขนาดนี้ / กิจการมีการซื้อบริษัทร่วมจากฝรั่ง และฝรั่งมีการดึงลูกค้าออกไป แถมยังขาดทุนสต๊อคยาง 2 พันล้านอีกด้วย ทั้งๆ ที่อยู่ในธุรกิจนี้ ไม่น่าจะขาดทุนสต๊อคยางได้
• หุ้นมีชัย ราคาน่ายังแพงไป ณ PE ระดับนี้ แถมรายได้ยังมาจากงานประมูลพอสมควรด้วย และต้องไปแข่งขันกับคู่แข่งสำคัญจากมาเลเซียที่ค่าเงินมาเลเซียอ่อนลงอีกด้วย / ปล. การลงทุน ต้องบริหารความเสี่ยง มองให้รอบด้าน ตามความเป็นจริง
พอแค่นี้ครับ พรุ่งนี้ ต่อจนจบพอดีครับ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2935
รายการเดาชื่อหุ้นก็มา ...
หุ้นไทรอัมพ์คิงดอม --> สินเชื่อมอไซ รายใหญ่ --> น่าจะเป็น TK
หุ้นผู้ชนะ --> อันนี้แปลกันตรงๆ --> the Winner มั้ง
หุ้นยางรถ --> ไม่ค่อยแน่ใจ --> ถ้ายางมอไซ น่าจะเป็น IRC
หุ้นหวยชาเขียว --> หุ้นนี้ดัง เจ้าของชอบเป็นพรีเซ็นเตอร์เอง --> อะไรตันๆ นี่แหละครับ
หุ้นผลิตกระดาษ --> ชื่อหน้าเหมือนชื่อหลังทีมฟุตบอล --> UTP
หุ้นเหมืองแม่เมาะ --> จะว่าไปจะเรียกแบบนี้ก็ไม่ค่อยจะถูกเพราะต่อไปน่าจะมีเหมืองอื่นๆ --> SQ
หุ้นปล่อยกู้รถมอไซด์ --> มีหลายตัว เดาๆ ว่า ตัวนี้น่าจะเป็นตัวที่ เจ้าของ/ผบห. แยกจาก GL --> S11
หุ้นไทรอัมพ์คิงดอม --> สินเชื่อมอไซ รายใหญ่ --> น่าจะเป็น TK
หุ้นผู้ชนะ --> อันนี้แปลกันตรงๆ --> the Winner มั้ง
หุ้นยางรถ --> ไม่ค่อยแน่ใจ --> ถ้ายางมอไซ น่าจะเป็น IRC
หุ้นหวยชาเขียว --> หุ้นนี้ดัง เจ้าของชอบเป็นพรีเซ็นเตอร์เอง --> อะไรตันๆ นี่แหละครับ
หุ้นผลิตกระดาษ --> ชื่อหน้าเหมือนชื่อหลังทีมฟุตบอล --> UTP
หุ้นเหมืองแม่เมาะ --> จะว่าไปจะเรียกแบบนี้ก็ไม่ค่อยจะถูกเพราะต่อไปน่าจะมีเหมืองอื่นๆ --> SQ
หุ้นปล่อยกู้รถมอไซด์ --> มีหลายตัว เดาๆ ว่า ตัวนี้น่าจะเป็นตัวที่ เจ้าของ/ผบห. แยกจาก GL --> S11
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2936
มีทติ้งวีไอหาดใหญ่ Q2/2560 (ต่อ - ถึงตอนจบแล้วครับ)
• หุ้นคอนโดเพลินจิต มีปัญหาหลักคือ ผู้ถือหุ้นใหม่ไม่ลงรอยกัน / โครงการใหญ่ เพลินจิต ขายไปเพียง 60% ที่เหลือ ต้องการเก็บไว้ขายตอนราคาแพง
• หุ้นผีเน่าฟื้นตัว กำไรหลักมาจาก ธุรกิจก่อสร้าง และ บ.ย่อย โรงไฟฟ้า / อนาคตของกิจการ เป็น โรงไฟฟ้าที่จะเพิ่มของบริษัทย่อย / ธุรกิจรับเหมา มีช่วงของการรับรู้รายได้ด้วย ช่วงกลางๆ อาจรับรู้รายได้มาก ช่วงปลายๆ อาจได้รับรู้รายได้น้อย / สิ่งที่น่ากังวลคือ การแปลงสภาพ Warrant ในปีหน้า ทำให้เกิด dilute ด้วย
• อ.วรพงศ์ แชร์แนวคิดที่เกิดจากการขับรถมากรุงเทพฯ มาเปรียบเทียบการลงทุน
o เวลาลงทุน อย่าไปคิดว่า ที่ถูกต้อง จะต้องเป็นอย่างไร ให้พยายามมองสภาพตามความเป็นจริงว่า บริษัทที่เราลงทุนเป็นอย่างไร ผู้บริหารเป็นอย่างไร แต่เราอย่าไปใช้อคติตอนเวลาถือหุ้นว่า ต้องทำอย่างไร เป็นอย่างไร เราต้องรับรู้ความเป็นจริงและมองว่าเป็นอย่างไรมากกว่า แล้วหาทางแก้ไขปัญหาของเรา ไม่ใช่ไปพยายามเปลี่ยนบริษัทหรือผู้บริหาร / อ.โจ เสริมว่า อย่าคิดฝืนธรรมชาติ เราไม่สามารถไปเปลี่ยนกิจการได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ หากเจอกิจการไม่ดี ก็หนีจากกิจการนั้น ไม่จำเป็นต้องไปฝังใจกับบริษัทใดๆ
• หุ้นโรงไฟฟ้านิคมฯ แง่ธุรกิจ ค่อนข้างมีความเสี่ยงต่ำ เพราะอยู่ในนิคมฯ ลูกค้าในนิคมฯ น่าซื้อบริการจากกิจการแน่นอน นอกจากไฟฟ้า ก็ยังมีน้ำอีกด้วย
• หุ้นตัวย่อออกเสียงคล้ายคำว่า "ฉลาด ในภาษาอังกฤษ แต่สะกดคนละตัว" ราคาหุ้นไม่ถูกเท่าไร ปีนี้ กิจการมี Growth เพราะไปซื้อบริษัทลูก แต่ปีหน้าจะเป็นอย่างไร และยังมีเรื่องของคู่แข่งอีก
• หุ้นเสาเข็มตอก กำไรไตรมาสล่าสุดเริ่มฟื้น ผลิตภัณฑ์ของกิจการก็มีใช้ใน Mega Projects บ้าง แต่ไม่แน่ใจเรื่องการเติบโตเท่าไร มีจุดเด่นตรงมีเงินสดมากๆ เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน
จบการสรุปมีทติ้งรอบนี้ครับ เย้ๆๆๆๆ
ขอให้ร่ำรวยทุกคนครับ
• หุ้นคอนโดเพลินจิต มีปัญหาหลักคือ ผู้ถือหุ้นใหม่ไม่ลงรอยกัน / โครงการใหญ่ เพลินจิต ขายไปเพียง 60% ที่เหลือ ต้องการเก็บไว้ขายตอนราคาแพง
• หุ้นผีเน่าฟื้นตัว กำไรหลักมาจาก ธุรกิจก่อสร้าง และ บ.ย่อย โรงไฟฟ้า / อนาคตของกิจการ เป็น โรงไฟฟ้าที่จะเพิ่มของบริษัทย่อย / ธุรกิจรับเหมา มีช่วงของการรับรู้รายได้ด้วย ช่วงกลางๆ อาจรับรู้รายได้มาก ช่วงปลายๆ อาจได้รับรู้รายได้น้อย / สิ่งที่น่ากังวลคือ การแปลงสภาพ Warrant ในปีหน้า ทำให้เกิด dilute ด้วย
• อ.วรพงศ์ แชร์แนวคิดที่เกิดจากการขับรถมากรุงเทพฯ มาเปรียบเทียบการลงทุน
o เวลาลงทุน อย่าไปคิดว่า ที่ถูกต้อง จะต้องเป็นอย่างไร ให้พยายามมองสภาพตามความเป็นจริงว่า บริษัทที่เราลงทุนเป็นอย่างไร ผู้บริหารเป็นอย่างไร แต่เราอย่าไปใช้อคติตอนเวลาถือหุ้นว่า ต้องทำอย่างไร เป็นอย่างไร เราต้องรับรู้ความเป็นจริงและมองว่าเป็นอย่างไรมากกว่า แล้วหาทางแก้ไขปัญหาของเรา ไม่ใช่ไปพยายามเปลี่ยนบริษัทหรือผู้บริหาร / อ.โจ เสริมว่า อย่าคิดฝืนธรรมชาติ เราไม่สามารถไปเปลี่ยนกิจการได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ หากเจอกิจการไม่ดี ก็หนีจากกิจการนั้น ไม่จำเป็นต้องไปฝังใจกับบริษัทใดๆ
• หุ้นโรงไฟฟ้านิคมฯ แง่ธุรกิจ ค่อนข้างมีความเสี่ยงต่ำ เพราะอยู่ในนิคมฯ ลูกค้าในนิคมฯ น่าซื้อบริการจากกิจการแน่นอน นอกจากไฟฟ้า ก็ยังมีน้ำอีกด้วย
• หุ้นตัวย่อออกเสียงคล้ายคำว่า "ฉลาด ในภาษาอังกฤษ แต่สะกดคนละตัว" ราคาหุ้นไม่ถูกเท่าไร ปีนี้ กิจการมี Growth เพราะไปซื้อบริษัทลูก แต่ปีหน้าจะเป็นอย่างไร และยังมีเรื่องของคู่แข่งอีก
• หุ้นเสาเข็มตอก กำไรไตรมาสล่าสุดเริ่มฟื้น ผลิตภัณฑ์ของกิจการก็มีใช้ใน Mega Projects บ้าง แต่ไม่แน่ใจเรื่องการเติบโตเท่าไร มีจุดเด่นตรงมีเงินสดมากๆ เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน
จบการสรุปมีทติ้งรอบนี้ครับ เย้ๆๆๆๆ
ขอให้ร่ำรวยทุกคนครับ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2937
สรุปสัมมนางานสังสรรค์ VI ประจำปี 2560 ครั้งที่ 2 - 9/9/60
หัวข้อแรก
Disrupt or be disrupted อนาคตของ VI จะเป็นอย่างไร เมื่อเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนโลก
วิทยากร
คุณลงทุนแมนที่เขียนบทความดีๆให้นักลงทุนอ่านมาตลอดห้าเดือน
คุณตู้ หรือ นายมานะ เจ้าของเพจSnowball และ กรรมการสมาคมนักลงทุนหุ้นคุณค่า ประเทศไทย
พิธีกร คุณบอล กรรมการสมาคมนักลงทุนหุ้นคุณค่า ประเทศไทย และ ผู้เชี่ยวชาญตลาดหุ้นเวียดนาม
หมายเหตุ ข้อความในวงเล็บเป็นการเสริมจากผู้สรุปเองครับ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมาณ ที่นี้ครับ
.ในช่วงที่คุณตู้พูด ผมได้นำบทความของคุณตู้ที่เคยเขียนมาเพิ่มเติม เพื่อสร้างความเข้าใจเนื้อหามากขึ้น
และมีLinkเพื่อจะได้ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนของคุณลงทุนแมนสามารถติดตามเพจของลงทุนแมนได้โดยตรงครับ
Q:มองเทคโนโลยีในอนาคตอย่างไร?
คุณตู้ออกตัวก่อนอธิบายว่าสิ่งที่จะพูดวันนี้เป็นเรื่องในอนาคต จึงอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ ถ้าไม่ถูกต้องขออภัยล่วงหน้า
เมื่อสองปี เคยบอกว่า Platform youtube , Facebook live ,Netflix จะทำให้ในอนาคต platform TV มี value ลดลง
แต่ตอนนั้นก็มีคนโต้แย้ง เพราะไม่มีตัวเลขมายืนยัน มาวันนี้ถ้าดูจากตัวเลข Market share ของ TV น่าจะเห็นว่าลดลงจากเดิมจริง
เมื่อ 2 ปีก่อน พูดเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าEVและรถยนต์ไร้คนขับAV
หลายคนก็ไม่เชื่อ บางคนบอกว่าเป็นเรื่องลวงโลก
บางคนไปเชื่อว่ารถไฮโดรเจนมีโอกาสมากกว่า แค่เติมน้ำก็วิ่งได้แล้ว
ตอนที่ผมพูด ไม่ค่อยมีคนพูด ผมอาจพูดเร็วเกินไป(พูดก่อนเวลาที่เกิด)
ตอนนี้พอพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าคนเชื่อมากขึ้น และ รู้จักอีรอน มัสก์กันมากขึ้นกว่าเดิมมาก
ปีก่อนพูดเรื่องAI ทำให้เกิดdisrupt แรงงานลดลงมหาศาล
และแรงงานถูกทดแทนด้วยRobot
มีคำถามโต้แย้งว่าร้อยปีที่ผ่านมา คนไม่เคยตกงาน เครื่องจักรยังไม่สามารถทดแทนคนได้
เคยโพสในwebboardthaiviว่ากล้องDSLRหรือ MLR อาจถูกทดแทนด้วยกล้องมือถือในอนาคตข้างหน้า
หลายคนไม่เชื่อ สรุปแล้วเรื่องในอนาคต มีโอกาสเกิดการโต้แย้งกันจนกว่าความจริงจะปรากฏ และที่พูดวันนี้ผมอาจจะผิดบ้างก็ได้
คำถามถึงคุณลงทุนแมนว่า
ความรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีจะเป็นอย่างไร จะเกิดขึ้นอย่างไร?
คุณลงทุนแมนเริ่มจากถามคนในห้องสัมมนาว่ามีใครไม่เล่นFacebookบ้าง ปรากฏว่าเล่นกันเกือบทุกคน
ผมโพสในFacebook 5 เดือน มีคนfollower2.6แสนคน
ไม่เคยมียุคไหนที่โชคดีแบบนี้มาก่อน
บริษัทของไทยอันดับหนึ่งคือ ปตท มีmarket capประมาณ 1 ล้านล้าน
แต่บริษัทใหญ่สุดในไทยอาจเป็นFacebook สาขาประเทศไทยหรือเปล่า
บริษัทWxxkมีmarket cap 35,000 ลบ แต่ให้เราคิดดูว่าเราดูFacebookหรือWxxkมากกว่ากัน
เนื้อหาที่เราชอบในwxxkจะเป็นแค่เกมโชว์เกี่ยวกับเพลง แต่ในFacebook มีทั้งมุมอาหาร ท่องเที่ยว ลงทุน
และเรื่องอื่นๆอีกมากมายที่เราชอบดู ดังนั้นFacebookในไทยน่าจะใหญ่กว่า 20 เท่า
ดังนั้นmarket cap น่าจะ500,000ลบ สิ่งที่มองไม่เห็นที่มาจากต่างประเทศจะค่อยๆกลืนเราไป
แต่ไม่ใช่มาจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย
Q: ถามคุณตู้กับคุณลงทุนแมนว่าเรื่องสไตล์การลงทุนไทยและต่างประเทศเป็นอย่างไร
A: คุณตู้ตอบว่า ผมลงทุนในไทย:ต่างประเทศ เป็นอัตราส่วน 70:30
ในไทย (น่าจะ)เกินกว่า 50% ใน 70% ที่ว่า เป็นแบบBargain hunting เป็นนักล่าส่วนต่าง คาดเดาผลประกอบการล่วงหน้า2-3ไตรมาสและเข้าซื้อกิจการก่อนผลประกอบการก้าวกระโดด
จะเรียกว่าวีไอหรือเปล่า แล้วแต่จะนิยาม เป็นวิธีการที่มีพื้นฐานมาจากแนวทางของอ.เกรแฮม แต่มีการเปลี่ยนคือโฟกัสมากขึ้น ทุกวันนี้ VI หลายคนก็น่าจะใช้กัน
ผมมองว่า super stock ที่น่าลงทุนในไทยหาได้ยากขึ้นทุกที เพราะจะเป็น super stock ต้องมีครบทั้งสามปัจจัยได้แก่
1. DCA (Durable Competitive Advantage)
2. Growth
3. ราคาหุ้นสมเหตุผล
ซึ่งในเมืองไทย ส่วนตัวผมว่าหุ้นที่มีทั้ง 3 ข้อหาได้ยาก ถ้ามี 2 ข้อแรก ราคาจะแพงมาก
ในขณะที่ DCA ของหุ้นในไทยก็ไม่ได้แกร่งเท่ากับหุ้นต่างประเทศ
ผมเคยเขียนบทความเรื่องปราการที่เปลี่ยนไป (มีทั้งหมดสองตอน)
พูดถึงDCAที่เริ่มเปลี่ยนไป
DCAประกอบไปด้วย (ตรงส่วนนี้ขออนุญาตนำบทความที่คุณตู้เขียนไว้เข้ามาเสริม โดย DCA ในนิยามของคุณตู้คือ 10 ปีขึ้นไป)
1. Brandที่แข็งแกร่งมากๆ
Brand ทำให้ลูกค้าไม่อยากเปลี่ยนซึ่งสำหรับผมแล้วมี Brand ที่เข้มแข็งระดับจะเป็น Durable แค่ 3 ประเภทคือ
1.1 (Very Very) Luxury Brand หรือสินค้าที่ไว้บ่งบอกสถานะอย่าง Hermes หรือ Rolex
1.2 Character Brand อาทิเช่น Brand ของดาราศิลปินตัวการ์ตูนหรือสโมสรฟุตบอล
1.3 Brand ที่เกี่ยวกับสุขภาพร่างกายเช่นโรงพยาบาลหมอศัลยกรรมหรือเครื่องสำอางจำพวก Skin Care
แบรนด์ประเภทอื่นๆที่เหลือผมว่าไม่ได้เข้มแข็งมากมายระดับเกิน 10 ปีลูกค้าพร้อมจะลองและเปลี่ยนได้เสมอ
2. Patent สิทธิบัตรหรือสัมปทาน สัมปทานข้อนี้ผมว่าชัดเจนสุดเลยคือเป็นอะไรที่เกี่ยวกับข้อกำหนดของรัฐทำให้คู่แข่งเข้ามาไม่ได้บริษัทในไทยได้แก่บริษัทที่บริหารท่าอากาศยาน
3. Market share & Economy of scaleข้อนี้มักจะเป็นข้อได้เปรียบในด้านของ First Mover คือมาจากการที่คนทำก่อนยึดครองตลาดได้รวดเร็วกว่าทำให้มี Market Share มากกว่าและส่งผลให้ต้นทุนต่ำกว่าอย่างไรก็ดีข้อนี้ต้องระวังเสมอ Kodak หรือ Nokia เองก็เคยเป็น Market Leader วันดีคืนดีอาจมี Disruptive Innovation มาทำลายล้างธุรกิจของเราก็ได้
4. Network effect เช่นบริษัทFacebook , Google ที่ผลิตOS android ขึ้นมา,Appleที่ผลิตIOSขึ้นมา
( ในส่วนนี้ความถี่ในการใช้เป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อคนใช้แล้วติด คนที่จะติดต่อด้วยก็ต้องใช้เหมือนๆกัน เช่น android ช่วงแรกคนใช้น้อยมาก แต่เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีแบบเปิด ทำให้มีการพัฒนาapplicationให้กับ androidมากขึ้น ถ้าคุณต้องการใช้แอปเหล่านี้ก็ต้องใช้มือถือที่ใช้ OS android
หรือ ตัวอย่างของ Microsoft windows & office คนใช้งานกันจนคุ้นเคยยิ่งมีคนใช้มากเท่าไหร่ ทำให้เกิดnetwork effect คนที่ต้องการติดต่อด้วยก็ต้องใช้officeเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาตัวอักษรไม่ตรงกัน หรืออ่านไม่รู้เรื่อง )
5. Experience effect คล้าย Learning curveซึ่งเป็นส่วนนึงของ Network effectเป็นสิ่งที่คนยังไม่ focus มันพัฒนาไปเรื่อยจนจุดหนึ่งคู่แข่งตามไม่ทัน ตัวอย่างชัดๆ คือพวก Big data เมื่อบริษัทมีข้อมูล/know how มากระดับหนึ่งแล้ว คู่แข่งใหม่จะเลียนแบบข้อมูลนั้น ทำไม่ได้ (เช่น Google search, Facebook, Intel)
(สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากLink ของ Snowball page https://goo.gl/4rn521 , https://goo.gl/tmTLvO)
ถ้าดูหุ้นในไทย ส่วนใหญ่ไม่เกินสามข้อ ข้อสี่และห้าหายากในบริษัทของไทย
ผมดูหุ้นต่างประเทศ เช่น Facebookมี 4 ข้อ ขาดแค่ข้อ patent ที่อาจมีบ้าง แต่ไม่ได้สำคัญอะไร
ถ้าดูข้อ 5. Experience effect จะเห็นว่า Facebookสะสมข้อมูลที่เราโพสเรื่อยๆเป็นสิบปีถือเป็นBig data
เป็น DCA ของ Facebook เป็นไปไม่ได้ที่จะไปขายข้อมูลนี้ให้คู่แข่ง
ดังนั้นหุ้นต่างประเทศบางตัวมีDCA ในนิยามของผมมากกว่าสามข้อ เยอะกว่าหุ้นในไทย
อย่าง Facebook คือมีทั้งDCA,Growthแต่ราคาเป็นอีกเรื่องนึง
หลายคนชอบถามว่าทำไมชอบไปลงทุนในต่างประเทศ
ผมตั้งคำถามตัวเอง อยากถามกลับว่าทำไมต้องลงทุนเฉพาะในไทย
ถ้าเรากรอบตัวเองเป็นนักลงทุนไทย ทำให้เราไม่มีแม้แต่จะโอกาสจะไปศึกษาเรื่อง bit coin ซึ่งราคาขึ้นมาถึง4-5000$ คิดเป็น 4-5 เท่าจากต้นปี
คุณบอล บอกว่าเป็นประเด็นที่ดี หุ้นที่เป็นsuperstockมีแต่ราคาในไทยแพงไปแล้ว
Q: คุณลงทุนแมนเป็นคนลงในตลาดหุ้นUSเมื่อ5ปีที่แล้ว ทำไมไปลงทุนที่นั่นครับ
A: แนวทางการลงทุน เราเข้าใจอะไร อยู่กับอะไร สังเกตรอบข้างว่าวันๆอยู่กับมือถือ
ก็เดาว่าทุกคนก็เหมือนๆกัน
ทุกคนใช้มือถือเปิดFacebook , Line , Instagramเพราะทุกคนอยากรู้อยากเห็น
เราก็ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจแต่สงสัยว่า lipstick no.9 ทำไมโต ไม่เข้าใจ
สมมติว่าPE&Growthเท่ากัน ก็น่าจะเลือกบริษัทที่เราเข้าใจในการเติบโต
เช่นซื้อFacebookเรายังเข้าใจกว่า ซื้อบริษัทค้าปลีกเครื่องสำอางในไทย
คนสามารถขายสินค้าในFacebook ได้กลายเป็นวงจรธุรกิจไป
ทำให้Facebookมีรายได้เข้ามาตลอดเวลา
สไตด์การลงทุนช่วง5ปีแรก portในต่างประเทศเล็กกว่าในประเทศ
แต่ตอนนี้มูลค่าหุ้นของต่างประเทศโตขึ้นทำให้ portในต่างประเทศโตกว่าในประเทศ
บริษัทใหญ่สุดในโลก5บริษัทเป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยี เมื่อก่อนmarket capเล็กกว่าGDP Thailand
แต่ตอนนี้ทุกบริษัทใหญ่กว่า GDP Thailand ทั้งหมด แปลว่าบริษัทพวกนี้โตเร็วกว่า
อันดับห้า Amazon มีmarket cap15 ล้านล้านบาท
เริ่มจากการขายหนังสือonline E-commerce Amazon web service
รายได้มาจาก ค้าปลีกonline 60%
Amazonมีลำโพงอัจฉริยะชื่อ echo สามารถใช้เสียงสามารถสั่งนมโดยไม่ต้องเดินไปซื้อจากหน้าปากซอย
ที่US supermarketห่างไกลจากบ้านมาก
AI ไม่ต้องใช้มือกด ใช้เสียงพูด
รายได้20% เป็นAmazon media
รายได้10%เป็น Amazon web service,
คนจะเช่าserverแทนการซื้อ ถ้าเราไม่มีwebsiteของตัวเองอาจไม่เห็นภาพ
อันดับสี่ Facebook market cap 16ล้านล้านบาท
97%ของรายได้มาจากโฆษณา อีก3%เป็นรายได้อื่นๆ
เขาFocus Adsมาก คนชอบโฆษณาเพราะสามารถtarget ไปที่เพศไหน อายุเท่าไหร่ก็ได้
FB มี AI look alikeสามารถcreate ลูกค้ากลุ่มใหม่ได้เลยจากข้อมูลลูกค้าเดิม
โดยไม่ต้องไปเปิดหน้าร้าน จะdisruptretail shop
ทุกคนคิดว่าdisrupt adsอย่างเดียว จริงๆdisrupt retail shopด้วย
รวมCokeด้วย คนเดินน้อยลง ทำให้หยอดเหรียญซื้อcokeน้อยลง
อันดับสาม บริษัทเก่าแก่ Microsoft 19 ล้านล้านบาท
สัดส่วนรายได้แต่ละproduct
Windows 9%, Microsoft office 28% ,
Microsoft server 22%
Xbox 11%
ไม่ได้ขายProgram เช่นMicrosoftถาวร แต่จ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี
แสดงว่าเราจ่ายไปโดยไม่รู้ตัว
Switching costสูงเพราะเราไม่เวลาไปเรียนรู้โปรแกรมอื่นแล้ว
อันดับสอง Alphabet เป็นบริษัทแม่ของGoogle market cap 21 ล้านล้านบาท
รายได้ 80% มาจากโฆษณาบนGoogleAbwords,Googleadsence, Youtube
รายได้ 11% มาจาก Google play, Pixel ,Android
ต่อไปคนไม่ต้องอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ เพราะในตลาดมีหนังสือเป็นล้านล้านเล่ม
เปลี่ยนวิธีการอ่านหนังสือ ชอบเรื่องไหนก็หาอ่านเป็นเรื่องๆไป
Google สาขาประเทศไทย เป็นอีก 1 บริษัทที่ถ้าอยู่ในตลาดหุ้นไทย จะใหญ่พอๆกับ Facebook สาขาประเทศไทย
บริษัทPricelineเจ้าของกิจการagoda/bookingยอมจ่ายเงินให้ googleไม่อั้นถ้ายังทำให้เขามีได้รายได้จากการจองโรงแรมจองท่องเที่ยว
สิ่งที่น่าสนใจ คือ pricelineไม่มีโรงแรมของตัวเอง
มีแต่ platform กลับสามารถทำรายได้มากกว่า 4 เชนโรงแรมใหญ่รวมกัน
อันดับหนึ่ง Apple 27ล้านล้านบาท ใหญ่กว่าGDP ไทย สองเท่า
ปีหน้าอาจไม่ใช่
สัดส่วนรายได้ของApple
Iphone 63%,mac 11%, ipad 10% ที่เหลือเป็น icloud
เคยเปรียบเทียบกับPTT แล้วพบว่าใช้สินทรัพย์น้อยกว่า เป็น Light asset
ปตท ต้องลงทุนสินทรัพย์เยอะ ทำให้บริษัทต่างชาติเข้ามายากในสมัยก่อน
LOCAL เลยสร้างขึ้นมาได้ในช่วงนั้น
แต่ตอนนี้ Facebook,Googleเข้ามาง่าย เติบโตเร็ว
บริษัท Saudi Aramcoมูลค่าใหญ่กว่าapple 2,000 ล้านล้านเหรียญ
ทำไมถึง IPO เพราะว่าเจ้าของมองว่าresourceในอนาคตจะไม่ใช่น้ำมันแล้วหรือเปล่า
อาจเป็นLithiumหรือเปล่า
Q: ถามคุณตู้ Resouceที่สำคัญที่สุดคืออะไร
A: คุณตู้บอกว่าResouceที่สำคัญสุดคิดว่าคือข้อมูล คนที่มีdataสุดท้ายเป็นผู้ชนะ
แต่ถ้ามองเฉพาะธุรกิจด้านพลังงาน Lithiumอาจจะเป็นผู้ชนะก็ได้
คุณลงทุนแมนเสริมว่าราคาหุ้นNvidiaเพิ่มเป็น10เด้ง เนื่องจากการประมวลผล
ต้องใช้GPU ซึ่งnvidiaเป็นเจ้าตลาด
หรือ memory chipสำหรับเก็บข้อมูลSamsung ก็เป็นเจ้าตลาดอยู่
เจ้าตลาดอาจshiftไปเรื่อยๆ ไม่ใช่น้ำมันอีกต่อไป ไฟฟ้าอาจได้ฟรีๆจากพลังงานแสงอาทิตย์
Q: คุณบอลถามเกี่ยวกับสาเหตุที่ลงทุนในบริษัท Nvidiaซึ่งขึ้นมาเยอะแล้ว
A: คุณตู้กล่าวถึง AI Theme ก่อน
AI คือสมองจักรกล สมองเทียมที่สร้างขึ้นเลียนแบบคน
ดูจากAlpha Go เมื่อสองปีก่อน
ปีที่แล้วเอาชนะผู้เล่นอันดับที่สี่ของโลก ผ่านมา 1 ปีเอาชนะอันดับหนึ่ง
แต่ถ้าใครตามลึกๆ จะทราบว่านอกจาก Alpha Go จะเก่งขึ้นมาก ยังใช้พลังการประมวลผลน้อยลง10เท่าเมื่อเทียบกับพลังงานที่ต้องใช้เพื่อเอาชนะผู้เล่นอันดับที่4เมื่อปีก่อน
คุณลงทุนแมน เสริมว่าถ้ามองว่า Alpha Goไกลตัว
ก็หันมามองnews feed ดูข้อมูลอะไรที่สนใจ มันก็จะfeedกลับมาให้
คุณตู้กลับมาต่อว่า AI Themeประกอบด้วยปัจจัยสำคัญ 5 ข้อได้แก่
1.Dataยิ่งข้อมูลเยอะยิ่งฉลาด
2.chipประมวลผลด้านข้อมูล CPU/GPU
3.Time ต้องมีเวลาใครเริ่มก่อนได้เปรียบ
4.Engineer
5.Infrastructure platform
ขอเสริมข้อ 3 คือเรื่องเวลา ถือว่าน่าสนใจ
AI คล้ายสมองมนุษย์ ใครเริ่มก่อนเหมือนเด็กที่โตกว่าคนเริ่มทีหลัง
Phaseใหญ่ๆ มี 2 Phase คือการเรียนรู้ Training แล้วเป็นInferencing(Apply)
ตอนTraining ใช้เวลาเยอะ ใส่ Input ไปเยอะ แต่ได้ Output ออกมาน้อย เหมือนเด็ก
หลังเข้าที่แล้วใส่ Input น้อยลง แต่ได้ Output มากขึ้น เหมือนผู้ใหญ่
AI เรียนรู้ไปเรื่อยๆจนสุดท้ายใช้Input น้อยลงแต่จะฉลาดขึ้นแบบก้าวกระโดด
คุณลงทุนแมน บอกว่าวิวัฒนาการของAIคล้ายสมองมนุษย์
โลกผ่านมา4,500ล้านปี มนุษย์อยู่รอดเพียงเผ่าพันธุ์เดียว
เทคโนโลยีพัฒนามาใช้เวลาแค่200ปี
AI ไปเร็วกว่านั้นจากกฎของมัวร์การประมวลผลจะก้าวกระโดดทุกๆ14เดือน
จนถ้ามองไปอีก28ปีข้างหน้า
Singularity คือจุดที่สมองคอมพิวเตอร์ฉลาดขึ้นอีก 16 ล้านเท่า
ใครอายุ30-40ปี มีโอกาสมีชีวิตตลอดไป แต่จะเป็นอย่างไรต้องติดตามต่อไป
คุณตู้ บอกว่า Homo sapiensเกิดมาหนึ่งแสนปีแต่เทคโนโลยีเพิ่งพัฒนาจริงจังในช่วง 1-2 ร้อยปีที่ผ่านมา
คอมพิวเตอร์เร็วสุดเมื่อร้อยปีที่แล้วยังช้ากว่ามือถือของพวกเราในห้องนี้หลายเท่า
เมื่อ 200 ปีก่อนอายุคนเฉลี่ยยังอยู่แค่ราว40ปีอยู่เลย
การเกิดคอมพิวเตอร์ ไฟฟ้า รถยนต์เพียง100-200ปีทำให้ GDP เติบโตแบบก้าวกระโดด อายุเฉลี่ยคนก็สูงขึ้นเรื่อยๆ
ลองย้อนนึกสมัยก่อนมนุษย์อายุแค่40กว่าปีถ้ามีคนบอกว่าในอนาคตอาจถึง 100 ปี คนคงหาว่าบ้า
การพัฒนาเทคโนโลยีในทุกวันนี้มุ่งเน้นให้คนมีอายุยืนยาวขึ้นในอนาคตอาจเป็นอย่างที่คุณลงทุนแมนว่าก็ได้
คุณลงทุนแมน บอกว่าคนพิการไม่มีแขน แค่มีเครื่องช่วยในการสั่งการจากสมอง
สมองสามารถไปเก็บไว้ที่นึง และโคลนนิ่งข้อมูลในสมองไปอยู่อีกร่างนึง
เมื่อก่อนมี phone link ก็กลายเป็น Iphoneใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงน้อยลงเรื่อยๆ
มีกฏหนึ่ง เรียกว่า The Six D’s มี 6 Step
1.Digitalizationจะdisrupt กล้องถ่ายรูปธรรมดาหายไป เป็น กล้องดิจิตอล เช่นแปลงภาพเป็น .jpg
2.Deceptionก่อนสิ่งของจะหายไป คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้
รถไฟฟ้าไม่น่าจะมาแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันหรือ นิตรสารก็ถูกแทนด้วยFacebookไป
3.Disruption
( เป็นเทคโนโลยีที่มาทดแทนของเดิม เช่น UberจะdisruptTaxiแบบเดิม หรือ Instagram disrupt kodak)
4.Demonetizationเมื่อก่อนต้องเสียเงินค่าสมัครดูเคเบิ้ลทีวี ต่อไปไม่มีการเก็บเงิน สามารถดูจากช่องทางอื่นได้
5.Dematerializationของหลายอย่างจะหายไป เช่น กล้องDLSR จะหายไป
เครื่องคิดเลขก็หายไปรวมถึงแผนที่ ทุกอย่างอยู่ในมือถือ
ตัวเราเหมือนอยู่ในโลกเสมือนต่อไปเราก็จะหายไปด้วย
6.Democratizationทำให้ทุกอย่างเป็นประชาธิบไตย
เช่น Facebook, Uberรัฐบาลของแต่ละประเทศไม่สามารถเก็บภาษีจากบริษัทเหล่านี้ที่อยู่ต่างประเทศ
เวเนซูเอล่า มีเงินเฟ้อมาก คนเข้าไปขุดBitcoin แต่จะมีปัญหามากขึ้นจีนก็แบนไม่ยอมรับBit coin
จะสู้กันระหว่างเสรีนิยม กับ รัฐบาลที่บังคับให้อยู่ในกฎ
Etherliumเจ้าของอายุ23ปี เงินสกุลนี้ทำให้มีICO (เหมือนกับIPO คือออกเหรียญใหม่)สกุลเหรียญใหม่ขึ้นมาเช่น
Omiseเป็นบริษัทที่ร่วมลงทุนในไทย market cap 30,000 ลบ ซึ่งcreate value ขึ้นมาเร็วมาก
ตอนนี้จะเกิดในฝั่งตะวันออก technologyเร็วกว่าฝั่งตะวันตกซึ่งยังใช้บัตรเครดิตกันอยู่เลย
Q: อุตสาหกรรมไทยที่ถูกกระทบ และ กระทบอย่างไร
A: คุณตู้บอกว่าขอเล่าเรื่องหนึ่งก่อนจะตอบคำถามนี้
คนฟังอาจรู้สึกว่าที่พูดกันมานี่ไกลไปแล้วหรือเปล่าคงมี 2 คำถามเกิดขึ้นว่า 1. ที่พูดๆ กันจะเป็นจริงมั้ย2. จะเร็วแค่ไหน
มีกฏข้อหนึ่งชื่อ Law of accelerating returns
ทุกคนส่วนใหญ่คิดว่า
หนึ่ง อะไรที่เกิดขึ้นในอดีตก็เกิดในอนาคตเหมือนกัน
สอง การพัฒนาของเทคโนโลยีในอนาคตจะพัฒนาแบบเป็นเส้นตรง ใช้เวลาเท่ากันกับในอดีต
แต่จริงๆแล้วปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็วมาก การพัฒนาไม่ได้เป็น Linear แต่เป็นแบบ Exponential
รถยนต์Teslaไม่ต้องเปลี่ยนhardware แต่เปลี่ยนที่softwareก็สามารถเปลี่ยนความเร็วได้
ตัวอย่างในไทยขอเล่าประกฎการณ์ “ลำไยไหทองคำ”
คนเป็นนักร้อง สมัยก่อนต้องย้ายมากรุงเทพ อยู่แฟลต เป็นนักร้องตามคาเฟ่ บางคนเริ่มจากเป็นเด็กเสิร์ฟ
ร้องดี ร้องเพราะ มีคนบอกต่อ เริ่มมีแมวมองมาฟัง
ก็ไปออดิชั่นที่ค่ายเพลงโดยแมวมองชวน ถ้าผ่านก็ออกเทป และส่งขาย กว่าจะดังก็ต้องรอโปรโมทผ่านสถานีวิทยุ
แต่ลำไย ไหทองคำ ใช้แค่ตัวเอง มือถือ อินเตอร์เน๊ต ใช้เวลานิดเดียว ในการทำให้เพลงตัวเองมียอด view สูงสุดในประเทศ
ถามว่าปรากฏการณ์นี้มี party ไหนหายไปบ้าง
การเกิดtechnology&AIจะทำให้ตัวกลางส่วนใหญ่หายไป
ลองนึกๆ ว่าคนเราบริโภคอะไร
มี product , service content
Content เปลี่ยนแปลงเร็วทีสุด เพราะไม่ต้องใช้material
Product อาจช้ากว่า แต่เริ่มมีให้เห็นแล้ว
Amazon ในอนาคตอาจมีแค่supplierแล้วใช้ AI ส่งของ ไม่ต้องจ้าง DHL, Fedexแล้วก็ได้
สุดท้าย ตัวกลางที่จะถูกแทนที่ก็คือ “ตัวมนุษย์เอง”
AI เก่งเรื่องการทำซ้ำฟัง, เห็น, อ่าน, คิด ทุกวันนี้ AI ทำได้ดีกว่าคนหมดแล้ว
แค่ตอนนี้AI ยังไม่สามารถรวมความเก่งแต่ละเรื่องเข้าด้วยกัน
AI เข้าใจภาษา ,วาดรูป,เล่นโก๊ะ
มันจะโตขึ้นๆ สุดท้ายจะแทนที่คนแต่แค่ไม่สามารถรวมตัวกันเป็นอยู่ร่างเดียวกันในตอนนี้
Q: ถามคุณลงทุนแมน ร้านสะดวกซื้อ และ ห้างสรรพสินค้าจะถูกdisruptหรือไม่
A: Merry king เป็นตัวอย่าง เมื่อก่อนคู่มากับเซ็นทรัล
อยู่กับการปรับตัวได้เร็วก็อยู่ได้
ส่วนผู้ประกอบการใหม่ที่ไม่มีplatform เช่น Lazadaก็เข้าได้ง่าย
Product,contentดี ก็สามารถโตได้
ธุรกิจอาหาร สามารถขายonline ผ่านทาง Lineman
JQ ปูม้านึ่ง ใช้platform Facebook ยอดขาย 600 ลบต่อปี
บริษัท Wxxkเกิดได้จาก Facebookบอกต่อ และ contentดี
รายได้โต กำไรโต contentดีมาก แต่ช่องทีวีสนามเป้าไม่มีcontent หรือ Woodyดูดีกว่า อีก
แต่สถานีช่องที่มีละครที่คนกรุงเทพติดกันเมื่อก่อนมีcontent และ ผูกขาดทั้งด้านละครและข่าว
ตอนนี้ไม่ใช่ผูกขาด คนสมัยนี้ดูcontentมากกว่า
บางทีวัยรุ่นสมัยนี้ไปดูคนพากย์การเล่มเกมก็มี
คนที่มีcontent หรือ สินค้าที่ดีก็ขายได้ เช่น มาม่า อาจสั่งซื้อจากที่อื่นที่ไม่ใช่ห้างก็ได้
เราไปหาอะไรที่ดีแต่ถูกplatformที่ผูกขาดอยู่ พอถึงเวลาที่ไม่มีการผูกขาด ได้เวลาที่จะลงทุน
แต่ถ้าเป็นบริษัทที่เป็นตัวกลาง เราพยายามหลีกเลี่ยง
และหุ้นต้องเป็นuniverseมากขึ้น ทำให้เรามีตัวเลือกมากขึ้น
Forward PE 20-30 เท่าของFB,Googleเราก็สามารถเลือกได้
ยูนิโคล ซาร่า รองเท้าไนกี้ อดิดาส สตาร์บัคส์ เป็นแบรนด์ต่างประเทศที่อยู่รอบตัวเรา
ประเทศไทยเล่น Facebook 25ล้านราย มากสุดในโลก
เวลาทดสอบก็มาทดสอบในไทย เราจะรู้ก่อนว่าworkหรือไม่
Messenger จะเข้ามาบังคับว่า ต้องจ่ายในFBซึ่งจะdisruptธนาคารไป
แต่ผู้บริโภคได้รับประโยชน์
เมื่อก่อน จะส่งsmsจะคิดแล้วคิดอีกก่อนส่ง
เหมือนการโอนเงิน ถ้ามีใครทำได้ฟรีคนก็จะเทไปทางนั้น
Portionค่าธรรมเนียมลดลง ธนาคารอาจจะไปขายappหรืออื่นๆแทน
ROV เจ้าของคือ Garenaซึ่งเป็นเจ้าของAir pay ไว้เติมเงินเล่นเกม
ถือเป็นตลาดใหญ่มาก
เราต้องดูuniverseทั้งหมด
A: คุณตู้ฟังมาทั้งหมด ตอนนี้คนฟังคงมี 3 คำถามที่ต้องคิด
1. คุณตู้ AI จะมาแทน VI ไหม
2. หุ้นที่เราถือจะโดนdisruptหรือไม่
3. เราควรลงทุนในอะไร
คุณตู้บอกว่าข้อแรกข้ามไปก่อนเลย มันToo soon to tell ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดเพราะยังไงเราก็ลงทุนอยู่
ที่เราคุยกันอยู่คือข้อ 2 และ 3
AI จะกระทบธุรกิจ ธนาคาร ค้าปลีก mediaที่คุณลงทุนแมนพูดถึงก่อนหน้า
อีกอันที่ผมคิดว่าเป็นไปได้และน่าหยิบมาพูดคือโรงพยาบาล
อีกสัก10-20ปีข้างหน้า โรงพยาบาลซึ่งมี5ข้อFive Forceดีมาก อาจจะค่อยๆเปลี่ยนไป
แบ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เป็น 2 phase
Phase I ทุกวันนี้จะเป็นการleverageความสามารถ เช่นร้านอาหารเจ้าดัง มีคนช่วยส่ง ไม่มีหน้าร้าน
แม้แต่ FB , Youtubeก็มีการleverageไปต่างประเทศได้รวดเร็ว
ตอนนี้สมมติหมอหนึ่งคนรักษาคนไข้ได้ 10 คนต่อวัน ต่อไปอาจรักษาได้100คน
ตอนนี้อาจยังไม่เกิดปัญหาเพราะขาดแคลนหมออยู่
แต่ต่อไป หมอที่ไม่เก่งอาจจะมี value ลดลง
เปรียบหมอเหมือนโรงงานผลิตน้ำ
หมอเก่งทุกวันนี้เหมือนคนงานที่เก่งในกรอกน้ำ แบกน้ำจนมาวันนี้เครื่องจักรมาแทน
ในวันนั้นหน้าหมอเก่งก็อาจเป็นคนคุมเครื่องจักร คุม AI ไม่ต้องกรอกน้ำเองแล้ว
phase II เราถือหุ้นโรงพยาบาลPE 40 เท่าแต่growth 10-15% เราคงคาดหวังจะให้ โรงพยาบาลไม่เจ๊งตลอดไป
โลกของเรา ตอนนี้การรักษาตอนเป็นโรคแล้ว แต่อีก30-40ปีจะเป็นโลกของการpreventโรค
เช่น การขับเคลื่อนอัตโนมัติ สาเหตุที่errorส่วนใหญ่มาจากคนคนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ก็จะเปลี่ยน
Self driving car เกิดขึ้นเพื่อลดอุบัติเหตุ
โรงงานผลิตอาหารต่อไปก็ใช้robotหมดเพราะเน้นความสะอาด
ทุกวันนี้ มีเทคโนโลยีที่เรียกว่าCRISPR/Cas9
(รายละเอียดดูจาก https://www.youtube.com/watch?v=2pp17E4E-O8)
การตัดต่อพันธุกรรมหรือmappingยีน
จากราคาเป็นล้าน USD เหลือหลักพัน
ใช้เวลาน้อยลงจาก 1 ปีเหลือ 80 วัน หรือ ใช้นศแพทย์ ทำในห้องแลบธรรมดาก็ทำได้แล้ว
ร่างกายเรามียีนส์20,000 ตัว แต่ ยีนส์ที่ทำให้เกิดมะเร็ง อาจมีแค่ไม่กี่ตัวแค่ตัดทิ้งออกไปก็ป้องกันการเกิดมะเร็งได้แล้ว
ตอนนี้ทดลองกับหนู กับ ยุง
เราเปลี่ยนหนูสีขาวเป็นหนูสีดำ แค่เปลี่ยนยีนไม่กี่ตัว
โรคมาเลเรียฆ่าคนเยอะสุด สาเหตุจากยุงเป็นพาหะ
ก็เปลี่ยนพันธุกรรมไม่ให้เป็นโรคมาเลเรีย และเปลี่ยนตาเป็นสีแดงจะได้รู้ว่าเป็นตัวที่แก้ไขแล้ว
หลังจากนั้นก็ปล่อยให้อยู่กับยุงตาสีขาว ทำให้เกิดแผ่พันธุ์
สุดท้ายทำให้ยุงทั้งหมดตาสีแดง ไม่เกิดโรคมาเลเรีย
สุดท้ายโรงพยาบาลเลยอาจมี value ลดลงไปจากเดิม
คำถามอีกข้อคือเราจะลงทุนอะไรดี
เนื่องจากเวลาเหลือน้อย ขอยกตัวอย่างคร่าวๆ (ต้องไปศึกษาต่อเองไม่ใช่ลงทุนได้เลย)
1.ลงในตัวผู้สร้างAI ex Google, amazon ,FB
2.ลงทุนในผู้มีdata คล้ายกับกลุ่มแรก Baba, Tencent
3.ผู้ผลิตhardware เช่น mobileye,intel,nvidia
4.เจ้าของservice,product, content ที่ได้ประโยชน์จาก AI ex Disney, marvel, DC
5.เจ้าของservice,productทีไม่เสียประโยชน์ เช่น กระเป๋าHermes, Louis Vuitton (superstar economy)
Q: ถามคุณลงทุนแมน หุ้นต่างประเทศไกลตัวมาก หาข้อมูลอย่างไร
A: เอาสิ่งที่เราคุ้นเคย เราไม่ได้ใช้อะไรก็อย่าไปยุ่ง
หาข้อมูลจากgoogleเช่น search หา Amazon IR
การคัดเลือกหุ้น คาดเดายากว่าใครแพ้ใครชนะ ตัวอย่างเช่นsnapchatถูกรุมจากFacebook
ถ้าให้ปลอดภัยให้ลงใน5บริษัทที่ครองโลกแล้ว
Q: ถามต่อว่าการvaluationดูตรงไหนบ้างและจะทำvaluationอย่างไร
A: คุณลงทุนแมน ตอบว่าคล้ายกัน FBบางช่วงเดาง่าย ส่วนGoogleบางช่วงก็มีโอกาสลงตอนPE 20
ถ้าvaluationไม่ได้ เช่น Line กำไรยังไม่โผล่ ต้องbetว่ากำไรจะมาเมื่อไหร่
อาจลงแค่ส่วนนึงก็พอ คล้ายหุ้นไทย adaptอย่างไรก็ไปทำในต่างประเทศ
อีกประเด็น บางทีไม่ต้องหุ้นชนะ แต่ไปลงในหุ้นpanicทุกคนมองว่ามันแย่หมด
เช่น GM ผลิตรถ 10ล้านคัน PE5เท่า แต่ Teslaผลิตรถแค่หลักหมื่นคัน ไม่มีกำไร
อาจเป็นโอกาสหรือเปล่า
BMW PE 7 เท่าเอง เป็นเจ้าของbrand
ต่อให้มีคนใช้รถEVแต่ก็มีคนใช้รถพวกนี้เหมือนhermes
บริษัทประกัน คนคิดว่ารายได้ลดจาก รถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ทำให้อุบัติเหตุน้อยลง จะขายประกันได้น้อยลง PEเลยต่ำ ตลาดอาจจะกลัวเกินไป
A: คุณตู้บอกก่อนว่าการลงทุนในต่างประเทศ อาจไม่ใช่ว่าเหมาะกับทุกคน
อะไรที่คุ้นเคยและเห็นอนาคตในอีก3-5ปี ยังไม่เปลี่ยนแปลงเราควรลงทุน
แต่ทำใจยอมรับ ซื้อหุ้นsuper stockที่แพงแล้ว ยอมรับผลตอบแทนที่น้อยลง
ส่วนสินค้าทดแทน เราจะคิดเพิ่มว่าบริษัทที่เราลงทุนถูกทดแทนหรือเปล่า
เรื่องข้อมูลทุกวันนี้มีเยอะแยะมากมาย
เอาง่ายๆ แค่อ่านจากเพจลงทุนแมน อ่านครบหมดยัง
ต่างประเทศราคาหุ้นไปตามงบการเงินหุ้นBigcapดูfair gameกว่า
หาproductรอบตัวที่เราใช้ เราเห็นพัฒนาการ
อ่านจาก Seeking Alhpa Website เป็นwebsiteที่มีข้อมูลเยอะ รวมถึงoppdayของUSเป็นเฉพาะเสียง
(https://seekingalpha.com/)
Transformเป็นอักษรได้ด้วย มีคนมาวิจารณ์ด้วย
เรื่องvaluation หลีกเลี่ยงหุ้นที่valuationไม่ได้
Amazon ดู PE ไม่ได้เพราะมีcarpexเยอะ
Google , Facebook ดูforward PEแค่ 30 กว่าเท่า
Nvidia forward PE ปีหน้าก็แค่30กว่าเท่าคิดว่าคล้ายๆ ซื้อหุ้นอย่าง beauty เพราะ PE พอๆ กัน
ส่วนTesla จินตการระยะยาวยาก เพราะคู่แข่งก็พยายามพัฒนา ไม่ยอมแพ้tesla
คุณลงทุนแมนเชื่อว่า teslaจะมีแบรนด์รถหลายๆแบรนด์มาแข่ง เหมือนกระเป๋าแบรนด์เนม
Q: อยากให้ฝากข้อคิดกับนักลงทุน ควรปรับตัวอย่างไร หรือเคล็ดลับในการลงทุน
A: คุณลงทุนแมน บอกว่า หลับตามองรอบตัวเรา และตื่นมาที่ท้องถนนมีบริษัทอะไรบ้าง
ทุกคนใช้อะไรที่ร่วมกันบ้าง
คุณตู้ บอกว่า 2-3ปีที่ผ่านมาทำสิ่งหนึ่งที่ทำให้ตัวเองดี การปฏิบัติธรรม ทำให้เปลี่ยนแปลงการคิดวิเคราะห์
มีสติมากขึ้น ทุกข์น้อยลง ทุกวันนี้ทำมาปีกว่ามีผลมหาศาล
เริ่มแบบง่ายๆ เช่น แปรงฟันก็ให้รู้ตัวว่าแปรงฟัน สวดมนต์ก่อนนอน5-10นาที
หรือให้หลับตา เพื่ออยู่กับลมหายใจ อย่าฝืนทำให้ตรงกับจริตของเรา
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณลงทุนแมน คุณมานะ และ คุณบอลมากๆครับที่มาแชร์ความรู้ให้เราฟังครับ
Website บทความ หรือ คลิปที่แนบมา ต้องขอบคุณคุณมานะที่มาแชร์ด้วยครับ
หัวข้อแรก
Disrupt or be disrupted อนาคตของ VI จะเป็นอย่างไร เมื่อเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนโลก
วิทยากร
คุณลงทุนแมนที่เขียนบทความดีๆให้นักลงทุนอ่านมาตลอดห้าเดือน
คุณตู้ หรือ นายมานะ เจ้าของเพจSnowball และ กรรมการสมาคมนักลงทุนหุ้นคุณค่า ประเทศไทย
พิธีกร คุณบอล กรรมการสมาคมนักลงทุนหุ้นคุณค่า ประเทศไทย และ ผู้เชี่ยวชาญตลาดหุ้นเวียดนาม
หมายเหตุ ข้อความในวงเล็บเป็นการเสริมจากผู้สรุปเองครับ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมาณ ที่นี้ครับ
.ในช่วงที่คุณตู้พูด ผมได้นำบทความของคุณตู้ที่เคยเขียนมาเพิ่มเติม เพื่อสร้างความเข้าใจเนื้อหามากขึ้น
และมีLinkเพื่อจะได้ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนของคุณลงทุนแมนสามารถติดตามเพจของลงทุนแมนได้โดยตรงครับ
Q:มองเทคโนโลยีในอนาคตอย่างไร?
คุณตู้ออกตัวก่อนอธิบายว่าสิ่งที่จะพูดวันนี้เป็นเรื่องในอนาคต จึงอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ ถ้าไม่ถูกต้องขออภัยล่วงหน้า
เมื่อสองปี เคยบอกว่า Platform youtube , Facebook live ,Netflix จะทำให้ในอนาคต platform TV มี value ลดลง
แต่ตอนนั้นก็มีคนโต้แย้ง เพราะไม่มีตัวเลขมายืนยัน มาวันนี้ถ้าดูจากตัวเลข Market share ของ TV น่าจะเห็นว่าลดลงจากเดิมจริง
เมื่อ 2 ปีก่อน พูดเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าEVและรถยนต์ไร้คนขับAV
หลายคนก็ไม่เชื่อ บางคนบอกว่าเป็นเรื่องลวงโลก
บางคนไปเชื่อว่ารถไฮโดรเจนมีโอกาสมากกว่า แค่เติมน้ำก็วิ่งได้แล้ว
ตอนที่ผมพูด ไม่ค่อยมีคนพูด ผมอาจพูดเร็วเกินไป(พูดก่อนเวลาที่เกิด)
ตอนนี้พอพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าคนเชื่อมากขึ้น และ รู้จักอีรอน มัสก์กันมากขึ้นกว่าเดิมมาก
ปีก่อนพูดเรื่องAI ทำให้เกิดdisrupt แรงงานลดลงมหาศาล
และแรงงานถูกทดแทนด้วยRobot
มีคำถามโต้แย้งว่าร้อยปีที่ผ่านมา คนไม่เคยตกงาน เครื่องจักรยังไม่สามารถทดแทนคนได้
เคยโพสในwebboardthaiviว่ากล้องDSLRหรือ MLR อาจถูกทดแทนด้วยกล้องมือถือในอนาคตข้างหน้า
หลายคนไม่เชื่อ สรุปแล้วเรื่องในอนาคต มีโอกาสเกิดการโต้แย้งกันจนกว่าความจริงจะปรากฏ และที่พูดวันนี้ผมอาจจะผิดบ้างก็ได้
คำถามถึงคุณลงทุนแมนว่า
ความรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีจะเป็นอย่างไร จะเกิดขึ้นอย่างไร?
คุณลงทุนแมนเริ่มจากถามคนในห้องสัมมนาว่ามีใครไม่เล่นFacebookบ้าง ปรากฏว่าเล่นกันเกือบทุกคน
ผมโพสในFacebook 5 เดือน มีคนfollower2.6แสนคน
ไม่เคยมียุคไหนที่โชคดีแบบนี้มาก่อน
บริษัทของไทยอันดับหนึ่งคือ ปตท มีmarket capประมาณ 1 ล้านล้าน
แต่บริษัทใหญ่สุดในไทยอาจเป็นFacebook สาขาประเทศไทยหรือเปล่า
บริษัทWxxkมีmarket cap 35,000 ลบ แต่ให้เราคิดดูว่าเราดูFacebookหรือWxxkมากกว่ากัน
เนื้อหาที่เราชอบในwxxkจะเป็นแค่เกมโชว์เกี่ยวกับเพลง แต่ในFacebook มีทั้งมุมอาหาร ท่องเที่ยว ลงทุน
และเรื่องอื่นๆอีกมากมายที่เราชอบดู ดังนั้นFacebookในไทยน่าจะใหญ่กว่า 20 เท่า
ดังนั้นmarket cap น่าจะ500,000ลบ สิ่งที่มองไม่เห็นที่มาจากต่างประเทศจะค่อยๆกลืนเราไป
แต่ไม่ใช่มาจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย
Q: ถามคุณตู้กับคุณลงทุนแมนว่าเรื่องสไตล์การลงทุนไทยและต่างประเทศเป็นอย่างไร
A: คุณตู้ตอบว่า ผมลงทุนในไทย:ต่างประเทศ เป็นอัตราส่วน 70:30
ในไทย (น่าจะ)เกินกว่า 50% ใน 70% ที่ว่า เป็นแบบBargain hunting เป็นนักล่าส่วนต่าง คาดเดาผลประกอบการล่วงหน้า2-3ไตรมาสและเข้าซื้อกิจการก่อนผลประกอบการก้าวกระโดด
จะเรียกว่าวีไอหรือเปล่า แล้วแต่จะนิยาม เป็นวิธีการที่มีพื้นฐานมาจากแนวทางของอ.เกรแฮม แต่มีการเปลี่ยนคือโฟกัสมากขึ้น ทุกวันนี้ VI หลายคนก็น่าจะใช้กัน
ผมมองว่า super stock ที่น่าลงทุนในไทยหาได้ยากขึ้นทุกที เพราะจะเป็น super stock ต้องมีครบทั้งสามปัจจัยได้แก่
1. DCA (Durable Competitive Advantage)
2. Growth
3. ราคาหุ้นสมเหตุผล
ซึ่งในเมืองไทย ส่วนตัวผมว่าหุ้นที่มีทั้ง 3 ข้อหาได้ยาก ถ้ามี 2 ข้อแรก ราคาจะแพงมาก
ในขณะที่ DCA ของหุ้นในไทยก็ไม่ได้แกร่งเท่ากับหุ้นต่างประเทศ
ผมเคยเขียนบทความเรื่องปราการที่เปลี่ยนไป (มีทั้งหมดสองตอน)
พูดถึงDCAที่เริ่มเปลี่ยนไป
DCAประกอบไปด้วย (ตรงส่วนนี้ขออนุญาตนำบทความที่คุณตู้เขียนไว้เข้ามาเสริม โดย DCA ในนิยามของคุณตู้คือ 10 ปีขึ้นไป)
1. Brandที่แข็งแกร่งมากๆ
Brand ทำให้ลูกค้าไม่อยากเปลี่ยนซึ่งสำหรับผมแล้วมี Brand ที่เข้มแข็งระดับจะเป็น Durable แค่ 3 ประเภทคือ
1.1 (Very Very) Luxury Brand หรือสินค้าที่ไว้บ่งบอกสถานะอย่าง Hermes หรือ Rolex
1.2 Character Brand อาทิเช่น Brand ของดาราศิลปินตัวการ์ตูนหรือสโมสรฟุตบอล
1.3 Brand ที่เกี่ยวกับสุขภาพร่างกายเช่นโรงพยาบาลหมอศัลยกรรมหรือเครื่องสำอางจำพวก Skin Care
แบรนด์ประเภทอื่นๆที่เหลือผมว่าไม่ได้เข้มแข็งมากมายระดับเกิน 10 ปีลูกค้าพร้อมจะลองและเปลี่ยนได้เสมอ
2. Patent สิทธิบัตรหรือสัมปทาน สัมปทานข้อนี้ผมว่าชัดเจนสุดเลยคือเป็นอะไรที่เกี่ยวกับข้อกำหนดของรัฐทำให้คู่แข่งเข้ามาไม่ได้บริษัทในไทยได้แก่บริษัทที่บริหารท่าอากาศยาน
3. Market share & Economy of scaleข้อนี้มักจะเป็นข้อได้เปรียบในด้านของ First Mover คือมาจากการที่คนทำก่อนยึดครองตลาดได้รวดเร็วกว่าทำให้มี Market Share มากกว่าและส่งผลให้ต้นทุนต่ำกว่าอย่างไรก็ดีข้อนี้ต้องระวังเสมอ Kodak หรือ Nokia เองก็เคยเป็น Market Leader วันดีคืนดีอาจมี Disruptive Innovation มาทำลายล้างธุรกิจของเราก็ได้
4. Network effect เช่นบริษัทFacebook , Google ที่ผลิตOS android ขึ้นมา,Appleที่ผลิตIOSขึ้นมา
( ในส่วนนี้ความถี่ในการใช้เป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อคนใช้แล้วติด คนที่จะติดต่อด้วยก็ต้องใช้เหมือนๆกัน เช่น android ช่วงแรกคนใช้น้อยมาก แต่เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีแบบเปิด ทำให้มีการพัฒนาapplicationให้กับ androidมากขึ้น ถ้าคุณต้องการใช้แอปเหล่านี้ก็ต้องใช้มือถือที่ใช้ OS android
หรือ ตัวอย่างของ Microsoft windows & office คนใช้งานกันจนคุ้นเคยยิ่งมีคนใช้มากเท่าไหร่ ทำให้เกิดnetwork effect คนที่ต้องการติดต่อด้วยก็ต้องใช้officeเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาตัวอักษรไม่ตรงกัน หรืออ่านไม่รู้เรื่อง )
5. Experience effect คล้าย Learning curveซึ่งเป็นส่วนนึงของ Network effectเป็นสิ่งที่คนยังไม่ focus มันพัฒนาไปเรื่อยจนจุดหนึ่งคู่แข่งตามไม่ทัน ตัวอย่างชัดๆ คือพวก Big data เมื่อบริษัทมีข้อมูล/know how มากระดับหนึ่งแล้ว คู่แข่งใหม่จะเลียนแบบข้อมูลนั้น ทำไม่ได้ (เช่น Google search, Facebook, Intel)
(สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากLink ของ Snowball page https://goo.gl/4rn521 , https://goo.gl/tmTLvO)
ถ้าดูหุ้นในไทย ส่วนใหญ่ไม่เกินสามข้อ ข้อสี่และห้าหายากในบริษัทของไทย
ผมดูหุ้นต่างประเทศ เช่น Facebookมี 4 ข้อ ขาดแค่ข้อ patent ที่อาจมีบ้าง แต่ไม่ได้สำคัญอะไร
ถ้าดูข้อ 5. Experience effect จะเห็นว่า Facebookสะสมข้อมูลที่เราโพสเรื่อยๆเป็นสิบปีถือเป็นBig data
เป็น DCA ของ Facebook เป็นไปไม่ได้ที่จะไปขายข้อมูลนี้ให้คู่แข่ง
ดังนั้นหุ้นต่างประเทศบางตัวมีDCA ในนิยามของผมมากกว่าสามข้อ เยอะกว่าหุ้นในไทย
อย่าง Facebook คือมีทั้งDCA,Growthแต่ราคาเป็นอีกเรื่องนึง
หลายคนชอบถามว่าทำไมชอบไปลงทุนในต่างประเทศ
ผมตั้งคำถามตัวเอง อยากถามกลับว่าทำไมต้องลงทุนเฉพาะในไทย
ถ้าเรากรอบตัวเองเป็นนักลงทุนไทย ทำให้เราไม่มีแม้แต่จะโอกาสจะไปศึกษาเรื่อง bit coin ซึ่งราคาขึ้นมาถึง4-5000$ คิดเป็น 4-5 เท่าจากต้นปี
คุณบอล บอกว่าเป็นประเด็นที่ดี หุ้นที่เป็นsuperstockมีแต่ราคาในไทยแพงไปแล้ว
Q: คุณลงทุนแมนเป็นคนลงในตลาดหุ้นUSเมื่อ5ปีที่แล้ว ทำไมไปลงทุนที่นั่นครับ
A: แนวทางการลงทุน เราเข้าใจอะไร อยู่กับอะไร สังเกตรอบข้างว่าวันๆอยู่กับมือถือ
ก็เดาว่าทุกคนก็เหมือนๆกัน
ทุกคนใช้มือถือเปิดFacebook , Line , Instagramเพราะทุกคนอยากรู้อยากเห็น
เราก็ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจแต่สงสัยว่า lipstick no.9 ทำไมโต ไม่เข้าใจ
สมมติว่าPE&Growthเท่ากัน ก็น่าจะเลือกบริษัทที่เราเข้าใจในการเติบโต
เช่นซื้อFacebookเรายังเข้าใจกว่า ซื้อบริษัทค้าปลีกเครื่องสำอางในไทย
คนสามารถขายสินค้าในFacebook ได้กลายเป็นวงจรธุรกิจไป
ทำให้Facebookมีรายได้เข้ามาตลอดเวลา
สไตด์การลงทุนช่วง5ปีแรก portในต่างประเทศเล็กกว่าในประเทศ
แต่ตอนนี้มูลค่าหุ้นของต่างประเทศโตขึ้นทำให้ portในต่างประเทศโตกว่าในประเทศ
บริษัทใหญ่สุดในโลก5บริษัทเป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยี เมื่อก่อนmarket capเล็กกว่าGDP Thailand
แต่ตอนนี้ทุกบริษัทใหญ่กว่า GDP Thailand ทั้งหมด แปลว่าบริษัทพวกนี้โตเร็วกว่า
อันดับห้า Amazon มีmarket cap15 ล้านล้านบาท
เริ่มจากการขายหนังสือonline E-commerce Amazon web service
รายได้มาจาก ค้าปลีกonline 60%
Amazonมีลำโพงอัจฉริยะชื่อ echo สามารถใช้เสียงสามารถสั่งนมโดยไม่ต้องเดินไปซื้อจากหน้าปากซอย
ที่US supermarketห่างไกลจากบ้านมาก
AI ไม่ต้องใช้มือกด ใช้เสียงพูด
รายได้20% เป็นAmazon media
รายได้10%เป็น Amazon web service,
คนจะเช่าserverแทนการซื้อ ถ้าเราไม่มีwebsiteของตัวเองอาจไม่เห็นภาพ
อันดับสี่ Facebook market cap 16ล้านล้านบาท
97%ของรายได้มาจากโฆษณา อีก3%เป็นรายได้อื่นๆ
เขาFocus Adsมาก คนชอบโฆษณาเพราะสามารถtarget ไปที่เพศไหน อายุเท่าไหร่ก็ได้
FB มี AI look alikeสามารถcreate ลูกค้ากลุ่มใหม่ได้เลยจากข้อมูลลูกค้าเดิม
โดยไม่ต้องไปเปิดหน้าร้าน จะdisruptretail shop
ทุกคนคิดว่าdisrupt adsอย่างเดียว จริงๆdisrupt retail shopด้วย
รวมCokeด้วย คนเดินน้อยลง ทำให้หยอดเหรียญซื้อcokeน้อยลง
อันดับสาม บริษัทเก่าแก่ Microsoft 19 ล้านล้านบาท
สัดส่วนรายได้แต่ละproduct
Windows 9%, Microsoft office 28% ,
Microsoft server 22%
Xbox 11%
ไม่ได้ขายProgram เช่นMicrosoftถาวร แต่จ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี
แสดงว่าเราจ่ายไปโดยไม่รู้ตัว
Switching costสูงเพราะเราไม่เวลาไปเรียนรู้โปรแกรมอื่นแล้ว
อันดับสอง Alphabet เป็นบริษัทแม่ของGoogle market cap 21 ล้านล้านบาท
รายได้ 80% มาจากโฆษณาบนGoogleAbwords,Googleadsence, Youtube
รายได้ 11% มาจาก Google play, Pixel ,Android
ต่อไปคนไม่ต้องอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ เพราะในตลาดมีหนังสือเป็นล้านล้านเล่ม
เปลี่ยนวิธีการอ่านหนังสือ ชอบเรื่องไหนก็หาอ่านเป็นเรื่องๆไป
Google สาขาประเทศไทย เป็นอีก 1 บริษัทที่ถ้าอยู่ในตลาดหุ้นไทย จะใหญ่พอๆกับ Facebook สาขาประเทศไทย
บริษัทPricelineเจ้าของกิจการagoda/bookingยอมจ่ายเงินให้ googleไม่อั้นถ้ายังทำให้เขามีได้รายได้จากการจองโรงแรมจองท่องเที่ยว
สิ่งที่น่าสนใจ คือ pricelineไม่มีโรงแรมของตัวเอง
มีแต่ platform กลับสามารถทำรายได้มากกว่า 4 เชนโรงแรมใหญ่รวมกัน
อันดับหนึ่ง Apple 27ล้านล้านบาท ใหญ่กว่าGDP ไทย สองเท่า
ปีหน้าอาจไม่ใช่
สัดส่วนรายได้ของApple
Iphone 63%,mac 11%, ipad 10% ที่เหลือเป็น icloud
เคยเปรียบเทียบกับPTT แล้วพบว่าใช้สินทรัพย์น้อยกว่า เป็น Light asset
ปตท ต้องลงทุนสินทรัพย์เยอะ ทำให้บริษัทต่างชาติเข้ามายากในสมัยก่อน
LOCAL เลยสร้างขึ้นมาได้ในช่วงนั้น
แต่ตอนนี้ Facebook,Googleเข้ามาง่าย เติบโตเร็ว
บริษัท Saudi Aramcoมูลค่าใหญ่กว่าapple 2,000 ล้านล้านเหรียญ
ทำไมถึง IPO เพราะว่าเจ้าของมองว่าresourceในอนาคตจะไม่ใช่น้ำมันแล้วหรือเปล่า
อาจเป็นLithiumหรือเปล่า
Q: ถามคุณตู้ Resouceที่สำคัญที่สุดคืออะไร
A: คุณตู้บอกว่าResouceที่สำคัญสุดคิดว่าคือข้อมูล คนที่มีdataสุดท้ายเป็นผู้ชนะ
แต่ถ้ามองเฉพาะธุรกิจด้านพลังงาน Lithiumอาจจะเป็นผู้ชนะก็ได้
คุณลงทุนแมนเสริมว่าราคาหุ้นNvidiaเพิ่มเป็น10เด้ง เนื่องจากการประมวลผล
ต้องใช้GPU ซึ่งnvidiaเป็นเจ้าตลาด
หรือ memory chipสำหรับเก็บข้อมูลSamsung ก็เป็นเจ้าตลาดอยู่
เจ้าตลาดอาจshiftไปเรื่อยๆ ไม่ใช่น้ำมันอีกต่อไป ไฟฟ้าอาจได้ฟรีๆจากพลังงานแสงอาทิตย์
Q: คุณบอลถามเกี่ยวกับสาเหตุที่ลงทุนในบริษัท Nvidiaซึ่งขึ้นมาเยอะแล้ว
A: คุณตู้กล่าวถึง AI Theme ก่อน
AI คือสมองจักรกล สมองเทียมที่สร้างขึ้นเลียนแบบคน
ดูจากAlpha Go เมื่อสองปีก่อน
ปีที่แล้วเอาชนะผู้เล่นอันดับที่สี่ของโลก ผ่านมา 1 ปีเอาชนะอันดับหนึ่ง
แต่ถ้าใครตามลึกๆ จะทราบว่านอกจาก Alpha Go จะเก่งขึ้นมาก ยังใช้พลังการประมวลผลน้อยลง10เท่าเมื่อเทียบกับพลังงานที่ต้องใช้เพื่อเอาชนะผู้เล่นอันดับที่4เมื่อปีก่อน
คุณลงทุนแมน เสริมว่าถ้ามองว่า Alpha Goไกลตัว
ก็หันมามองnews feed ดูข้อมูลอะไรที่สนใจ มันก็จะfeedกลับมาให้
คุณตู้กลับมาต่อว่า AI Themeประกอบด้วยปัจจัยสำคัญ 5 ข้อได้แก่
1.Dataยิ่งข้อมูลเยอะยิ่งฉลาด
2.chipประมวลผลด้านข้อมูล CPU/GPU
3.Time ต้องมีเวลาใครเริ่มก่อนได้เปรียบ
4.Engineer
5.Infrastructure platform
ขอเสริมข้อ 3 คือเรื่องเวลา ถือว่าน่าสนใจ
AI คล้ายสมองมนุษย์ ใครเริ่มก่อนเหมือนเด็กที่โตกว่าคนเริ่มทีหลัง
Phaseใหญ่ๆ มี 2 Phase คือการเรียนรู้ Training แล้วเป็นInferencing(Apply)
ตอนTraining ใช้เวลาเยอะ ใส่ Input ไปเยอะ แต่ได้ Output ออกมาน้อย เหมือนเด็ก
หลังเข้าที่แล้วใส่ Input น้อยลง แต่ได้ Output มากขึ้น เหมือนผู้ใหญ่
AI เรียนรู้ไปเรื่อยๆจนสุดท้ายใช้Input น้อยลงแต่จะฉลาดขึ้นแบบก้าวกระโดด
คุณลงทุนแมน บอกว่าวิวัฒนาการของAIคล้ายสมองมนุษย์
โลกผ่านมา4,500ล้านปี มนุษย์อยู่รอดเพียงเผ่าพันธุ์เดียว
เทคโนโลยีพัฒนามาใช้เวลาแค่200ปี
AI ไปเร็วกว่านั้นจากกฎของมัวร์การประมวลผลจะก้าวกระโดดทุกๆ14เดือน
จนถ้ามองไปอีก28ปีข้างหน้า
Singularity คือจุดที่สมองคอมพิวเตอร์ฉลาดขึ้นอีก 16 ล้านเท่า
ใครอายุ30-40ปี มีโอกาสมีชีวิตตลอดไป แต่จะเป็นอย่างไรต้องติดตามต่อไป
คุณตู้ บอกว่า Homo sapiensเกิดมาหนึ่งแสนปีแต่เทคโนโลยีเพิ่งพัฒนาจริงจังในช่วง 1-2 ร้อยปีที่ผ่านมา
คอมพิวเตอร์เร็วสุดเมื่อร้อยปีที่แล้วยังช้ากว่ามือถือของพวกเราในห้องนี้หลายเท่า
เมื่อ 200 ปีก่อนอายุคนเฉลี่ยยังอยู่แค่ราว40ปีอยู่เลย
การเกิดคอมพิวเตอร์ ไฟฟ้า รถยนต์เพียง100-200ปีทำให้ GDP เติบโตแบบก้าวกระโดด อายุเฉลี่ยคนก็สูงขึ้นเรื่อยๆ
ลองย้อนนึกสมัยก่อนมนุษย์อายุแค่40กว่าปีถ้ามีคนบอกว่าในอนาคตอาจถึง 100 ปี คนคงหาว่าบ้า
การพัฒนาเทคโนโลยีในทุกวันนี้มุ่งเน้นให้คนมีอายุยืนยาวขึ้นในอนาคตอาจเป็นอย่างที่คุณลงทุนแมนว่าก็ได้
คุณลงทุนแมน บอกว่าคนพิการไม่มีแขน แค่มีเครื่องช่วยในการสั่งการจากสมอง
สมองสามารถไปเก็บไว้ที่นึง และโคลนนิ่งข้อมูลในสมองไปอยู่อีกร่างนึง
เมื่อก่อนมี phone link ก็กลายเป็น Iphoneใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงน้อยลงเรื่อยๆ
มีกฏหนึ่ง เรียกว่า The Six D’s มี 6 Step
1.Digitalizationจะdisrupt กล้องถ่ายรูปธรรมดาหายไป เป็น กล้องดิจิตอล เช่นแปลงภาพเป็น .jpg
2.Deceptionก่อนสิ่งของจะหายไป คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้
รถไฟฟ้าไม่น่าจะมาแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันหรือ นิตรสารก็ถูกแทนด้วยFacebookไป
3.Disruption
( เป็นเทคโนโลยีที่มาทดแทนของเดิม เช่น UberจะdisruptTaxiแบบเดิม หรือ Instagram disrupt kodak)
4.Demonetizationเมื่อก่อนต้องเสียเงินค่าสมัครดูเคเบิ้ลทีวี ต่อไปไม่มีการเก็บเงิน สามารถดูจากช่องทางอื่นได้
5.Dematerializationของหลายอย่างจะหายไป เช่น กล้องDLSR จะหายไป
เครื่องคิดเลขก็หายไปรวมถึงแผนที่ ทุกอย่างอยู่ในมือถือ
ตัวเราเหมือนอยู่ในโลกเสมือนต่อไปเราก็จะหายไปด้วย
6.Democratizationทำให้ทุกอย่างเป็นประชาธิบไตย
เช่น Facebook, Uberรัฐบาลของแต่ละประเทศไม่สามารถเก็บภาษีจากบริษัทเหล่านี้ที่อยู่ต่างประเทศ
เวเนซูเอล่า มีเงินเฟ้อมาก คนเข้าไปขุดBitcoin แต่จะมีปัญหามากขึ้นจีนก็แบนไม่ยอมรับBit coin
จะสู้กันระหว่างเสรีนิยม กับ รัฐบาลที่บังคับให้อยู่ในกฎ
Etherliumเจ้าของอายุ23ปี เงินสกุลนี้ทำให้มีICO (เหมือนกับIPO คือออกเหรียญใหม่)สกุลเหรียญใหม่ขึ้นมาเช่น
Omiseเป็นบริษัทที่ร่วมลงทุนในไทย market cap 30,000 ลบ ซึ่งcreate value ขึ้นมาเร็วมาก
ตอนนี้จะเกิดในฝั่งตะวันออก technologyเร็วกว่าฝั่งตะวันตกซึ่งยังใช้บัตรเครดิตกันอยู่เลย
Q: อุตสาหกรรมไทยที่ถูกกระทบ และ กระทบอย่างไร
A: คุณตู้บอกว่าขอเล่าเรื่องหนึ่งก่อนจะตอบคำถามนี้
คนฟังอาจรู้สึกว่าที่พูดกันมานี่ไกลไปแล้วหรือเปล่าคงมี 2 คำถามเกิดขึ้นว่า 1. ที่พูดๆ กันจะเป็นจริงมั้ย2. จะเร็วแค่ไหน
มีกฏข้อหนึ่งชื่อ Law of accelerating returns
ทุกคนส่วนใหญ่คิดว่า
หนึ่ง อะไรที่เกิดขึ้นในอดีตก็เกิดในอนาคตเหมือนกัน
สอง การพัฒนาของเทคโนโลยีในอนาคตจะพัฒนาแบบเป็นเส้นตรง ใช้เวลาเท่ากันกับในอดีต
แต่จริงๆแล้วปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็วมาก การพัฒนาไม่ได้เป็น Linear แต่เป็นแบบ Exponential
รถยนต์Teslaไม่ต้องเปลี่ยนhardware แต่เปลี่ยนที่softwareก็สามารถเปลี่ยนความเร็วได้
ตัวอย่างในไทยขอเล่าประกฎการณ์ “ลำไยไหทองคำ”
คนเป็นนักร้อง สมัยก่อนต้องย้ายมากรุงเทพ อยู่แฟลต เป็นนักร้องตามคาเฟ่ บางคนเริ่มจากเป็นเด็กเสิร์ฟ
ร้องดี ร้องเพราะ มีคนบอกต่อ เริ่มมีแมวมองมาฟัง
ก็ไปออดิชั่นที่ค่ายเพลงโดยแมวมองชวน ถ้าผ่านก็ออกเทป และส่งขาย กว่าจะดังก็ต้องรอโปรโมทผ่านสถานีวิทยุ
แต่ลำไย ไหทองคำ ใช้แค่ตัวเอง มือถือ อินเตอร์เน๊ต ใช้เวลานิดเดียว ในการทำให้เพลงตัวเองมียอด view สูงสุดในประเทศ
ถามว่าปรากฏการณ์นี้มี party ไหนหายไปบ้าง
การเกิดtechnology&AIจะทำให้ตัวกลางส่วนใหญ่หายไป
ลองนึกๆ ว่าคนเราบริโภคอะไร
มี product , service content
Content เปลี่ยนแปลงเร็วทีสุด เพราะไม่ต้องใช้material
Product อาจช้ากว่า แต่เริ่มมีให้เห็นแล้ว
Amazon ในอนาคตอาจมีแค่supplierแล้วใช้ AI ส่งของ ไม่ต้องจ้าง DHL, Fedexแล้วก็ได้
สุดท้าย ตัวกลางที่จะถูกแทนที่ก็คือ “ตัวมนุษย์เอง”
AI เก่งเรื่องการทำซ้ำฟัง, เห็น, อ่าน, คิด ทุกวันนี้ AI ทำได้ดีกว่าคนหมดแล้ว
แค่ตอนนี้AI ยังไม่สามารถรวมความเก่งแต่ละเรื่องเข้าด้วยกัน
AI เข้าใจภาษา ,วาดรูป,เล่นโก๊ะ
มันจะโตขึ้นๆ สุดท้ายจะแทนที่คนแต่แค่ไม่สามารถรวมตัวกันเป็นอยู่ร่างเดียวกันในตอนนี้
Q: ถามคุณลงทุนแมน ร้านสะดวกซื้อ และ ห้างสรรพสินค้าจะถูกdisruptหรือไม่
A: Merry king เป็นตัวอย่าง เมื่อก่อนคู่มากับเซ็นทรัล
อยู่กับการปรับตัวได้เร็วก็อยู่ได้
ส่วนผู้ประกอบการใหม่ที่ไม่มีplatform เช่น Lazadaก็เข้าได้ง่าย
Product,contentดี ก็สามารถโตได้
ธุรกิจอาหาร สามารถขายonline ผ่านทาง Lineman
JQ ปูม้านึ่ง ใช้platform Facebook ยอดขาย 600 ลบต่อปี
บริษัท Wxxkเกิดได้จาก Facebookบอกต่อ และ contentดี
รายได้โต กำไรโต contentดีมาก แต่ช่องทีวีสนามเป้าไม่มีcontent หรือ Woodyดูดีกว่า อีก
แต่สถานีช่องที่มีละครที่คนกรุงเทพติดกันเมื่อก่อนมีcontent และ ผูกขาดทั้งด้านละครและข่าว
ตอนนี้ไม่ใช่ผูกขาด คนสมัยนี้ดูcontentมากกว่า
บางทีวัยรุ่นสมัยนี้ไปดูคนพากย์การเล่มเกมก็มี
คนที่มีcontent หรือ สินค้าที่ดีก็ขายได้ เช่น มาม่า อาจสั่งซื้อจากที่อื่นที่ไม่ใช่ห้างก็ได้
เราไปหาอะไรที่ดีแต่ถูกplatformที่ผูกขาดอยู่ พอถึงเวลาที่ไม่มีการผูกขาด ได้เวลาที่จะลงทุน
แต่ถ้าเป็นบริษัทที่เป็นตัวกลาง เราพยายามหลีกเลี่ยง
และหุ้นต้องเป็นuniverseมากขึ้น ทำให้เรามีตัวเลือกมากขึ้น
Forward PE 20-30 เท่าของFB,Googleเราก็สามารถเลือกได้
ยูนิโคล ซาร่า รองเท้าไนกี้ อดิดาส สตาร์บัคส์ เป็นแบรนด์ต่างประเทศที่อยู่รอบตัวเรา
ประเทศไทยเล่น Facebook 25ล้านราย มากสุดในโลก
เวลาทดสอบก็มาทดสอบในไทย เราจะรู้ก่อนว่าworkหรือไม่
Messenger จะเข้ามาบังคับว่า ต้องจ่ายในFBซึ่งจะdisruptธนาคารไป
แต่ผู้บริโภคได้รับประโยชน์
เมื่อก่อน จะส่งsmsจะคิดแล้วคิดอีกก่อนส่ง
เหมือนการโอนเงิน ถ้ามีใครทำได้ฟรีคนก็จะเทไปทางนั้น
Portionค่าธรรมเนียมลดลง ธนาคารอาจจะไปขายappหรืออื่นๆแทน
ROV เจ้าของคือ Garenaซึ่งเป็นเจ้าของAir pay ไว้เติมเงินเล่นเกม
ถือเป็นตลาดใหญ่มาก
เราต้องดูuniverseทั้งหมด
A: คุณตู้ฟังมาทั้งหมด ตอนนี้คนฟังคงมี 3 คำถามที่ต้องคิด
1. คุณตู้ AI จะมาแทน VI ไหม
2. หุ้นที่เราถือจะโดนdisruptหรือไม่
3. เราควรลงทุนในอะไร
คุณตู้บอกว่าข้อแรกข้ามไปก่อนเลย มันToo soon to tell ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดเพราะยังไงเราก็ลงทุนอยู่
ที่เราคุยกันอยู่คือข้อ 2 และ 3
AI จะกระทบธุรกิจ ธนาคาร ค้าปลีก mediaที่คุณลงทุนแมนพูดถึงก่อนหน้า
อีกอันที่ผมคิดว่าเป็นไปได้และน่าหยิบมาพูดคือโรงพยาบาล
อีกสัก10-20ปีข้างหน้า โรงพยาบาลซึ่งมี5ข้อFive Forceดีมาก อาจจะค่อยๆเปลี่ยนไป
แบ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เป็น 2 phase
Phase I ทุกวันนี้จะเป็นการleverageความสามารถ เช่นร้านอาหารเจ้าดัง มีคนช่วยส่ง ไม่มีหน้าร้าน
แม้แต่ FB , Youtubeก็มีการleverageไปต่างประเทศได้รวดเร็ว
ตอนนี้สมมติหมอหนึ่งคนรักษาคนไข้ได้ 10 คนต่อวัน ต่อไปอาจรักษาได้100คน
ตอนนี้อาจยังไม่เกิดปัญหาเพราะขาดแคลนหมออยู่
แต่ต่อไป หมอที่ไม่เก่งอาจจะมี value ลดลง
เปรียบหมอเหมือนโรงงานผลิตน้ำ
หมอเก่งทุกวันนี้เหมือนคนงานที่เก่งในกรอกน้ำ แบกน้ำจนมาวันนี้เครื่องจักรมาแทน
ในวันนั้นหน้าหมอเก่งก็อาจเป็นคนคุมเครื่องจักร คุม AI ไม่ต้องกรอกน้ำเองแล้ว
phase II เราถือหุ้นโรงพยาบาลPE 40 เท่าแต่growth 10-15% เราคงคาดหวังจะให้ โรงพยาบาลไม่เจ๊งตลอดไป
โลกของเรา ตอนนี้การรักษาตอนเป็นโรคแล้ว แต่อีก30-40ปีจะเป็นโลกของการpreventโรค
เช่น การขับเคลื่อนอัตโนมัติ สาเหตุที่errorส่วนใหญ่มาจากคนคนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ก็จะเปลี่ยน
Self driving car เกิดขึ้นเพื่อลดอุบัติเหตุ
โรงงานผลิตอาหารต่อไปก็ใช้robotหมดเพราะเน้นความสะอาด
ทุกวันนี้ มีเทคโนโลยีที่เรียกว่าCRISPR/Cas9
(รายละเอียดดูจาก https://www.youtube.com/watch?v=2pp17E4E-O8)
การตัดต่อพันธุกรรมหรือmappingยีน
จากราคาเป็นล้าน USD เหลือหลักพัน
ใช้เวลาน้อยลงจาก 1 ปีเหลือ 80 วัน หรือ ใช้นศแพทย์ ทำในห้องแลบธรรมดาก็ทำได้แล้ว
ร่างกายเรามียีนส์20,000 ตัว แต่ ยีนส์ที่ทำให้เกิดมะเร็ง อาจมีแค่ไม่กี่ตัวแค่ตัดทิ้งออกไปก็ป้องกันการเกิดมะเร็งได้แล้ว
ตอนนี้ทดลองกับหนู กับ ยุง
เราเปลี่ยนหนูสีขาวเป็นหนูสีดำ แค่เปลี่ยนยีนไม่กี่ตัว
โรคมาเลเรียฆ่าคนเยอะสุด สาเหตุจากยุงเป็นพาหะ
ก็เปลี่ยนพันธุกรรมไม่ให้เป็นโรคมาเลเรีย และเปลี่ยนตาเป็นสีแดงจะได้รู้ว่าเป็นตัวที่แก้ไขแล้ว
หลังจากนั้นก็ปล่อยให้อยู่กับยุงตาสีขาว ทำให้เกิดแผ่พันธุ์
สุดท้ายทำให้ยุงทั้งหมดตาสีแดง ไม่เกิดโรคมาเลเรีย
สุดท้ายโรงพยาบาลเลยอาจมี value ลดลงไปจากเดิม
คำถามอีกข้อคือเราจะลงทุนอะไรดี
เนื่องจากเวลาเหลือน้อย ขอยกตัวอย่างคร่าวๆ (ต้องไปศึกษาต่อเองไม่ใช่ลงทุนได้เลย)
1.ลงในตัวผู้สร้างAI ex Google, amazon ,FB
2.ลงทุนในผู้มีdata คล้ายกับกลุ่มแรก Baba, Tencent
3.ผู้ผลิตhardware เช่น mobileye,intel,nvidia
4.เจ้าของservice,product, content ที่ได้ประโยชน์จาก AI ex Disney, marvel, DC
5.เจ้าของservice,productทีไม่เสียประโยชน์ เช่น กระเป๋าHermes, Louis Vuitton (superstar economy)
Q: ถามคุณลงทุนแมน หุ้นต่างประเทศไกลตัวมาก หาข้อมูลอย่างไร
A: เอาสิ่งที่เราคุ้นเคย เราไม่ได้ใช้อะไรก็อย่าไปยุ่ง
หาข้อมูลจากgoogleเช่น search หา Amazon IR
การคัดเลือกหุ้น คาดเดายากว่าใครแพ้ใครชนะ ตัวอย่างเช่นsnapchatถูกรุมจากFacebook
ถ้าให้ปลอดภัยให้ลงใน5บริษัทที่ครองโลกแล้ว
Q: ถามต่อว่าการvaluationดูตรงไหนบ้างและจะทำvaluationอย่างไร
A: คุณลงทุนแมน ตอบว่าคล้ายกัน FBบางช่วงเดาง่าย ส่วนGoogleบางช่วงก็มีโอกาสลงตอนPE 20
ถ้าvaluationไม่ได้ เช่น Line กำไรยังไม่โผล่ ต้องbetว่ากำไรจะมาเมื่อไหร่
อาจลงแค่ส่วนนึงก็พอ คล้ายหุ้นไทย adaptอย่างไรก็ไปทำในต่างประเทศ
อีกประเด็น บางทีไม่ต้องหุ้นชนะ แต่ไปลงในหุ้นpanicทุกคนมองว่ามันแย่หมด
เช่น GM ผลิตรถ 10ล้านคัน PE5เท่า แต่ Teslaผลิตรถแค่หลักหมื่นคัน ไม่มีกำไร
อาจเป็นโอกาสหรือเปล่า
BMW PE 7 เท่าเอง เป็นเจ้าของbrand
ต่อให้มีคนใช้รถEVแต่ก็มีคนใช้รถพวกนี้เหมือนhermes
บริษัทประกัน คนคิดว่ารายได้ลดจาก รถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ทำให้อุบัติเหตุน้อยลง จะขายประกันได้น้อยลง PEเลยต่ำ ตลาดอาจจะกลัวเกินไป
A: คุณตู้บอกก่อนว่าการลงทุนในต่างประเทศ อาจไม่ใช่ว่าเหมาะกับทุกคน
อะไรที่คุ้นเคยและเห็นอนาคตในอีก3-5ปี ยังไม่เปลี่ยนแปลงเราควรลงทุน
แต่ทำใจยอมรับ ซื้อหุ้นsuper stockที่แพงแล้ว ยอมรับผลตอบแทนที่น้อยลง
ส่วนสินค้าทดแทน เราจะคิดเพิ่มว่าบริษัทที่เราลงทุนถูกทดแทนหรือเปล่า
เรื่องข้อมูลทุกวันนี้มีเยอะแยะมากมาย
เอาง่ายๆ แค่อ่านจากเพจลงทุนแมน อ่านครบหมดยัง
ต่างประเทศราคาหุ้นไปตามงบการเงินหุ้นBigcapดูfair gameกว่า
หาproductรอบตัวที่เราใช้ เราเห็นพัฒนาการ
อ่านจาก Seeking Alhpa Website เป็นwebsiteที่มีข้อมูลเยอะ รวมถึงoppdayของUSเป็นเฉพาะเสียง
(https://seekingalpha.com/)
Transformเป็นอักษรได้ด้วย มีคนมาวิจารณ์ด้วย
เรื่องvaluation หลีกเลี่ยงหุ้นที่valuationไม่ได้
Amazon ดู PE ไม่ได้เพราะมีcarpexเยอะ
Google , Facebook ดูforward PEแค่ 30 กว่าเท่า
Nvidia forward PE ปีหน้าก็แค่30กว่าเท่าคิดว่าคล้ายๆ ซื้อหุ้นอย่าง beauty เพราะ PE พอๆ กัน
ส่วนTesla จินตการระยะยาวยาก เพราะคู่แข่งก็พยายามพัฒนา ไม่ยอมแพ้tesla
คุณลงทุนแมนเชื่อว่า teslaจะมีแบรนด์รถหลายๆแบรนด์มาแข่ง เหมือนกระเป๋าแบรนด์เนม
Q: อยากให้ฝากข้อคิดกับนักลงทุน ควรปรับตัวอย่างไร หรือเคล็ดลับในการลงทุน
A: คุณลงทุนแมน บอกว่า หลับตามองรอบตัวเรา และตื่นมาที่ท้องถนนมีบริษัทอะไรบ้าง
ทุกคนใช้อะไรที่ร่วมกันบ้าง
คุณตู้ บอกว่า 2-3ปีที่ผ่านมาทำสิ่งหนึ่งที่ทำให้ตัวเองดี การปฏิบัติธรรม ทำให้เปลี่ยนแปลงการคิดวิเคราะห์
มีสติมากขึ้น ทุกข์น้อยลง ทุกวันนี้ทำมาปีกว่ามีผลมหาศาล
เริ่มแบบง่ายๆ เช่น แปรงฟันก็ให้รู้ตัวว่าแปรงฟัน สวดมนต์ก่อนนอน5-10นาที
หรือให้หลับตา เพื่ออยู่กับลมหายใจ อย่าฝืนทำให้ตรงกับจริตของเรา
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณลงทุนแมน คุณมานะ และ คุณบอลมากๆครับที่มาแชร์ความรู้ให้เราฟังครับ
Website บทความ หรือ คลิปที่แนบมา ต้องขอบคุณคุณมานะที่มาแชร์ด้วยครับ
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2938
สามารถเข้าฟังเรื่อง Smart City ในงาน Digital Thailand Big Bang ได้ครับ เมื่อเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น ความสะดวกสบายมากขึ้น โอกาสที่คนจะอายุยาวขึ้นก็เพิ่มตามด้วยครับ
https://www.digitalthailandbigbang.com
https://www.digitalthailandbigbang.com
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2939
แม้แต่สัตว์เลี้ยง ก็มีเทคโนโลยีออกมาให้ความสะดวกสบาย เพิ่มคุณภาพชีวิตมากขึ้นด้วยครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
- AnieLee
- Verified User
- โพสต์: 1436
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 2940
สุดท้ายก็ฝ่าด่าน 1650 จุดได้แล้ว ตลาดแรงจริงๆ ครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก