เพิ่งกลับมาจากไปนั่งสมาธิสิบวันมา รู้สึกดีจังครับ

[por_jai]

[quote="nano"]เฮียพอใจครับ

[MarginofSafety]

    เวลาขับรถไปเมื่อก่อนมีบ้างเหมือนกันนะครับ
    ที่วูบวาบอยากด่าหรือสบถรถคันอื่นที่ขับเฮงซวย
    พอขยันกำหนดนะครับ พอมันปาดเรา
    กำหนดเลยครับ ปาดหนอ
    กำหนดต่อที่ขาเลย เบรคหนอ
    อาการวูบวาบหายไปหมดเลย
    ถ้าขยันๆกำหนดให้ได้ตลอด
    จะไม่ทำอะไรเสียหายร้ายแรงหรือทำให้ตัวเองเสียใจได้แน่นอนเลยครับ อันนี้ผมรับรองเอง ไม่ต้องรอพระอาจารย์มายืนยัลล...

   

อ่านของพี่ por_jai แล้วสนุกดีครับ

การออกกำลังกายพร้อมกับการทำสมาธิถือเป็นเรื่องที่ดีมากครับ
ถือเป็นการยิงนกนัดเดียวได้กระต่ายสองตัว  :lovl:
และเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการออกกำลังกายแนวแอโรบิค
ซึ่งเป็นการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง และมีการหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
เช่นการว่ายน้ำ การวิ่ง jogging

เคยอ่านหนังสือของคุณหมอเฉก ก็มีการกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน
การออกกำลังกายแบบทำสมาธิไปด้วยนี้
กายก็ได้ประโยชน์ ใจก็ได้พักผ่อนด้วยสมาธิ
แถมยังมีสาร Adrenaline หลั่งออกมาอีก ซึ่งสารตัวนี้เป็นสารความสุข
หากซึมๆ เศร้าๆ แล้วไปวิ่งออกกำลังกายหรือว่ายน้ำ ต่อเนื่องซัก 30 นาที
ก็จะรู้สึกว่าเรารู้สึกดีขึ้น เพราะเจ้าสารตัวนี้
เพราะฉะนั้นผู้ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จึงมีอาการติดการออกกำลังกายไปด้วย
เพราะติดสารแห่งความสุขที่ว่านี้
(แต่สารตัวนี้ไม่มีโทษนะครับ)

ส่วนการทำสมาธิแบบที่พี่ por_jai ต้องการฝึก
เหมือนกับเป็นการฝึกสมาธิแบบสากล (Focus or Concentration)
(เช่นการฝึกสมาธิแบบ TM -Transcendental Meditation)
สามารถฝึกได้กับทุกชาติ ศาสนา หรือสามารถนำมาเป็นเครื่องมือบำบัดทางการแพทย์ได้

ชาวต่างชาติจำนวนมาก ที่ไม่เคยได้รู้จักสมาธิเลย พอได้สัมผัส
ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก หรือเรียกว่า "ตื่นสมาธิ"
เพราะชาติตะวันตกเขานิยมคิดเรื่องไกลตัว เช่น
ทำยังไงถึงจะบินได้เหมือนนก ทำยังไงถึงจะไปอวกาศได้
นักวิทยาศาสตร์เอกของจึงมักจะเกิดขึ้นแถบซีกโลกตะวันตก
ส่วนด้านตะวันออกมักจะคิดเรื่องใกล้ตัวหรือเรื่องจิตใจ เช่น
ทำอย่างไรถึงจะพ้นทุกข์ ชีวิตเราเกิดมาเพื่ออะไร แนวการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องควรจะเป็นอย่างไร
ศาสดาเอกของโลกจึงมักจะเกิดขึ้นแถบซีกโลกตะวันออก

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจุดมุ่งหมายของการฝึกจะเป็นอย่างไร
สมาธิก็มีประโยชน์ในตัวเอง ส่วนเราจะนำเครื่องมืออันทรงพลังนี้
ไปใช้ในการงานทางศาสนา การทำงาน
หรือใช้เป็นเครื่องพักผ่อนจิตใจ ก็ได้ประโยชน์ทั้งนั้นครับ

[Eyore]

ความจริงพี่ por_jai ก็มีวิธีฝึกสมาธิแบบของตัวเองแล้วนี่ครับ
คือ วิ่งสมาธิ
ถ้าต้องการแค่สมาธิ ก็ไม่เห็นต้องไปหาที่อื่นอีก
ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในกัมมัฐฐาน 40 วิธี ก็นับเป็นวิธีที่ 41 แล้วกัน

แต่ถ้ายังติดใจเรื่องนิมิต อยากจะศึกษาต่อก็ทำด้วยตัวเองก็ได้นะครับ ท่านพุทธทาสท่านว่าเป็นการเล่นกับนิมิต
1.ทำสมาธิด้วยวิธีตามถนัด
2.เมื่อจิตรวมเป็นสมาธิ และเกิดนิมิตขึ้นมาแล้ว ให้ควบคุมนิมิตนั้นให้อยู่ตลอดเวลา
3.เมื่ออยู่ตลอดเวลาแล้ว ให้เราทำกับนิมิตราวกับว่ามันเป็นวัตถุอย่างหนึ่ง จะพลิกซ้ายพลิกขวา เคลื่อนบนล่าง ทำให้ใหญ่เล็กดังใจ เปลี่ยนรูปร่างทุกลักษณะ
4.ทำให้หายไป ทำให้กลับมาได้ทุกเวลาที่ต้องการ
5.ถ้าทำได้ถึงขั้นนี้แล้ว เรียกว่าปฏิภาคนิมิต แต่อย่าลืมว่า นิมิตนั้นเป็นแค่"ของเล่น" ของจิต อย่าได้คิดว่ามันเป็นของจริง
ข้อนี้หลวงปู่ดุลย์ก็ยืนยันไว้ว่า ที่เห็นน่ะเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นนั้นไม่จริง

ถ้ามีปัญหาเรื่องปวด ก็เปลี่ยนจากพิจารณาขาซ้ายขวา,ลมหายใจ(กาย) เป็นพิจารณาความเจ็บปวด(เวทนา) แทน

เขียนมาตั้งยาว ไม่ใช่ว่าจะทำได้หรอกนะครับ อย่าเข้าใจผิด แค่พอมีความรู้อยู่บ้าง

[por_jai]

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจุดมุ่งหมายของการฝึกจะเป็นอย่างไร
สมาธิก็มีประโยชน์ในตัวเอง ส่วนเราจะนำเครื่องมืออันทรงพลังนี้
ไปใช้ในการงานทางศาสนา การทำงาน
หรือใช้เป็นเครื่องพักผ่อนจิตใจ ก็ได้ประโยชน์ทั้งนั้นครับ

8) มันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังจริงๆหรือ
    ผมไม่ได้ลองภูมินะ
    แต่เรื่องละเอียดอ่อนพวกนี้
    ช่างไกลจากความรู้ความเข้าใจของผมเสียจริง
    ผมวิ่งโดยอาศัยการกำหนดมาเป็นสิบปีแล้ว
    ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้สึกว่าคุมสติได้ตลอดเลย
    มันวิ่งไปวิ่งมา ยิ่งกว่าลิงอีก
    บางทีเรื่องในอดึตหลายสิบปี
    ยังโผล่มาทักทายตลอด
    จริงๆแล้วมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆนะ
    แต่ถ้าคิด growthเนี่ยต่ำมากๆเลย
   
    อย่าจริงจังมากนะคุยกันดู ขำ ขำ...

[por_jai]

เขียนมาตั้งยาว ไม่ใช่ว่าจะทำได้หรอกนะครับ อย่าเข้าใจผิด แค่พอมีความรู้อยู่บ้าง

8) พี่โยเร ครับ
    ขอบคุณมากๆเลยที่อุตส่าห์มาเล่าเรื่องนิมิตให้ฟัง
    ผมจะลองดู ได้ผลอย่างไร จะมาเล่าให้ฟัง
    ผมชอบมากนะ นิมิตเนี่ย
    ต้องลองดูซักพักจนเข้าใจ
    พระชอบสอนว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องธรรม
    ธรรมก็คือธรรมชาติ
    บางเรื่องพิสูจน์ได้ บางเรื่องก็ไม่ได้ (อธิบายว่าเป็นธรรมซะงั้น)
    จะให้ผมเชื่อเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ หรือเรื่องที่อธิบายไม่ได้
    ให้เชื่อตามๆกันไป
    ผมขอเลือกเรื่องที่ผมพิสูจน์ได้ หรือถ้าพิสูจน์ไม่ได้
    อย่างน้อยก็ให้ผมเข้าใจมันด้วยตัวเองได้ ก็ยังดี

[MarginofSafety]

[quote="por_jai"]
8) มันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังจริงๆหรือ

[por_jai]

[*]อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)

ส่วนเรื่องสมาธินี้ จะทรงพลังหรือไม่ก็ดูง่ายๆจากการทดลองใช้กระดาษตัดตะเกียบก็ได้ครับ
หากฝึกมาดี และจิตใจจดจ่ออยู่กับการกระทำนั้น แม้กระดาษก็สามารถตัดตะเกียบได้

สำหรับผมแล้ว ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า สมาธิ เป็นเครื่องมืออันทรงพลังอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีความก้าวหน้าในการปฏิบัตินัก และไม่ได้ปฏิบัติบ่อยเท่าที่ควร

8) ข้อ7นี่อ่านแล้วอูยย...
    คิดตรองตามแนวเหตุผลก็ไม่ได้หรือครับ

    ประโยชน์ข้อนึงที่ผมอยากได้จากสมาธิมาก
    คือที่เขาว่าพักผ่อนในสมาธิใช้เวลาน้อย
    แต่สดชื่นมากกว่านอนหลับสนิททั้งคืนเสียอีก
    มีความรู้ทางนี้ไหมครับ
    เล่าให้ฟังบ้างสิ
   
    ข้อที่พี่HVI เชื่อเรื่องสมาธิว่ามีพลัง นี้นะ
    อยากถามว่าใช้หลักกาลามสูตร ข้อไหนบ้างครับ

[Jeng]

พี่พอใจ ผมเป็นภูมิแพ้เหมือนกัน คือ จามทั้งวัน น้ำมูกไหลตลอด กินแอ๊กติเฟ็ค คุณหมอจ่ายให้ทีละ 1 เดือน

ผมเผลอลืมดูแลตัวเองทั้งๆที่เรียนมา และเอาตัวไม่รอด

สมัยก่อนเป็นหวัดบ่อยมาก

วิธีแก้

1. ที่พี่ออกำลังกายสุดยอดแล้ว

2. พี่สังเกตุดิเวลาเข้าวัดนาน ๆ พี่จะไม่ค่อยไอ หรือจาม อีก 20 % ที่พี่เป็นจะลดลง เมื่อ ไม่เครียด และทำสมาธิ

3. เรื่องหลับสนิทต้องใช้การแผ่เมตตา ครับ คือ เป็นการตั้งจิต อุทิศให้กับทุกสิ่ง พี่เป็นคริส ก็ขอบคุณพระเจ้า และอธิฐานให้ทุกชีวิต บนโลกมีความสุข จากพลังของพระเจ้าละกัน เดี๋ยวพี่จะหลับสนิทเลย

.......................................................................

มาถึงตัวเสริม ผมเองกินวิตามิน ACE และ b รวม ของ black more ครับ พี่ไปซื้อมากินดิ

ช่วยให้ร่างกายพี่เผาผลาญแล้วเกิด ของเสียน้อย

ทำให้เวลานอน จะหลับสนิท

สมัยก่อนตามผมจาม น้ำมูกไหลมากๆ กินวิตามิน หายเลย แต่ก็กลับมาเป็นอีก ตอนไม่ได้กิน

และตอนเข้าวัดก็หายเลย โดยไม่ต้องกินวิตามินครับ

เพราะฉะนั้นผมเอาหมดครับ

1. กินวิตามิน
2. เข้าวัด
3. เดินจงกรม นั่งมาธิ

4. กินเบียร์ สูบบุหรี่

55555

[MarginofSafety]

[quote="por_jai"]

[por_jai]

2. พี่สังเกตุดิเวลาเข้าวัดนาน ๆ พี่จะไม่ค่อยไอ หรือจาม อีก 20 % ที่พี่เป็นจะลดลง เมื่อ ไม่เครียด และทำสมาธิ

3. เรื่องหลับสนิทต้องใช้การแผ่เมตตา ครับ คือ เป็นการตั้งจิต อุทิศให้กับทุกสิ่ง พี่เป็นคริส ก็ขอบคุณพระเจ้า และอธิฐานให้ทุกชีวิต บนโลกมีความสุข จากพลังของพระเจ้าละกัน เดี๋ยวพี่จะหลับสนิทเลย

.......................................................................

มาถึงตัวเสริม ผมเองกินวิตามิน ACE และ b รวม ของ black more ครับ พี่ไปซื้อมากินดิ

ช่วยให้ร่างกายพี่เผาผลาญแล้วเกิด ของเสียน้อย

ทำให้เวลานอน จะหลับสนิท

8) ที่คุณเจ๋งบอกเห็นจะจริงซะเป็นส่วนใหญ่
    ตอนอยู่วัดผา ตอนเช้าผมไม่จามเลย
    แต่ผมไม่ทราบว่าเป็นเพราะสมาธิ
    ความจริงผมก็แปลกใจนะ แต่ดันไปคิดว่า
    เป็นเพราะอากาศมันสะอาดกว่ากรุงเทพเยอะๆ
    ขอบคุณมากที่บอกให้เข้าใจเสียใหม่

    เรื่องแผ่เมตตาแล้วหลับสนิท
    ผมจะลองทำดู
    เพราะทางวัดก็ให้บทสวดมาแล้ว
    ไม่ต้องไปทำแบบคริสต์หรอกครับ
    เอาแบบพุทธนี่แหละ ตรงๆดี
    ส่วนขั้นแอ๊ดว๊านซ์กว่านี้ไว้ว่ากันอีกที

    เรื่องวิตามินนี่ก็เคยทำอยู่บ้าง
    แต่ผมว่าสู้ออกกำลังกายไม่ได้ครับ

    แต่คุณเจ๋งซัดแอ็กทีเฟ็ด เป็นเดือนนี่ไม่มึนตึ๊บหรือ
    ไอ้ยาบ้าตัวนี้มันแรงมากนะสำหรับผม
    เวลาซัดเข้าไป
    ต่อให้มีวงมโหรี(เสียงกรน)หลายๆวงมาขับกล่อม
    ตอนที่ต้องไปนอนรวมกันหลายๆคน ตอนอยู่วัดยังหลับสบายเลย

[por_jai]

อันนี้ต้องลองพิสูจน์กันดูครับ

8) ผมเคยท่องพุทโธในใจอยู่ประมาณ3ชั่วโมง
    แฮ่..แฮ่..  ไม่หลับครับ
    ต้องลงไปชั้นล่างนอนดูยูบีซีแทนอ่ะครับ

[MarginofSafety]

สวัสดีครับพี่ por_jai
เพิ่งกลับจากพักผ่อนวันหยุดเหรอครับ

[por_jai]

8) สวัสดีปีใหม่ไทย ด้วยเหมือนกันครับ
    ผมไประยองมา
    คนเยอะและทิ้งเศษขยะ ไว้เยอะมหาศาล
    ตอนเช้าที่ชอบไปวิ่งริมหาด เลยไปวิ่งไม่ไหว
    สกปรกโคตรๆ
    เลยไปว่ายน้ำที่รีสอร์ท
    โผล่-พุท ดำ-โท แทนวิ่งซะเลย
    ติดๆกับรีสอร์ทมีบาร์เจ้าของเป็นคนสวีเดน
    ฝรั่งเยอะดี
    เลยไปนั่งกินเบียร์ คุยกะแหม่มมาสนุกดี
    แรกๆคุยไม่ออกครับ
    พอได้ไฮเนเก้นไปซักขวด2ขวด คุยคล่องเลย
    ลูกโตแล้ว จะไปไหนก็ไปได้
    นี่เห็นอีกกระทู้ในมิสซิลแลเนียสเนี่ย
    คุณปุยมาถามเรื่องลูก3ขวบ
    ไม่รู้จะช่วยยังไง
    ลืมไปหมดแล้ว...

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ผมเคยท่องพุทโธในใจอยู่ประมาณ3ชั่วโมง 
    แฮ่..แฮ่..  ไม่หลับครับ 
    ต้องลงไปชั้นล่างนอนดูยูบีซีแทนอ่ะครับ

ธรรมชาติของจิต อยากหลับ ก็ไปพยายามหลับ ก็ไม่หลับ

อยากตื่นก็ไปพยายามตื่น ก็ง่วงและหลับไปเอง

ต้องหลอกหน่อย

เช่นอยากหลับ ก็ไม่ต้องพยายามหลับ แต่ไปหาหนังสือธรรมะมานั่งอ่าน

อยากตื่นก็ไม่ต้องพยายามตื่น แต่ให้เปลี่ยนอิริยาบทสี่ คือยืน เดิน นั่ง นอน

นั่งแล้วง่วง ลุกมาเดิน เดินแล้วง่วงก็ไป ลองยืน

หลับตาแล้วง่วง ก็ลองเปิดตา นั่งสมาธิดู ปรับให้ไม่ง่วง ก็ปฎิบัติได้นาน

แถมหน่อย แต่เรืองเมื่อยขา เจ็บขา ไม่ต้องไปปรับนะ

มองเฉยๆ เดี๋ยวหายเอง

ปล่อยมันเจ็บไปแบบนั้นแหละ จะทำให้ตื่น ไม่ง่วง

[por_jai]

ธรรมชาติของจิต อยากหลับ ก็ไปพยายามหลับ ก็ไม่หลับ

อยากตื่นก็ไปพยายามตื่น ก็ง่วงและหลับไปเอง

ต้องหลอกหน่อย

8) ใช่ๆคุณเจ๋ง
    ผมลงมานั่งดูยูบีซี พักเดียวครับ
    หลับสนิทเลย
   
    ต้องหลอกหน่อยมีความหมายครับ...

[nano]

เฮ้อ.... โพสต์ไม่เข้า     คลิ๊กไปคลิ๊กมา  ลบหายหมดเลย     เอาใหม่

.......................

        ไม่ได้เข้ามาซะหลายวัน    มัวแต่ทาสีฝ้าเพดานที่ห้องคอมนี้แหละ    ยังไม่เรียบร้อยดีเลย

         เห็นเฮียมีความเพียรในการวิ่งออกกำลังกาย    ต้องยอมซูฮกเลย     ที่ว่าเคยวิ่งงานเปิดสะพานที่ไหนหรือครับ     ผมเคยไปวิ่ง  21 กิโลในงานเปิดสะพานพระรามเก้า     ใช้เวลาฝึกซ้อมร่วมหกเดือน     ช่วงฝึกผมก็ทำวิ่งสมาธิเหมือนกัน     ได้เรียนรู้หลายๆอย่างจากการวิ่ง     แต่ปัจจุบันหยุดวิ่งแล้ว    หลังจากที่ยกของหนักผิดจังหวะ     ทำให้เส้นเอ็นที่หัวเข่าซ้ายลั่นดังปึด     เลยเป็นปัญหาจนทุกวันนี้     นี่ก็ว่าจะใช้วิธีขี่จักรยานแทนเหมือนกัน    แต่รู้สึกว่าจะสู้วิ่งไม่ได้

          สมาธิ  ในอิริยาบท  แบ่งเป็น 4    คือ   ยืน  เดิน  นั่ง  นอน
          สมาธิเคลื่อนไหว------เดิน   วิ่ง(เพิ่มกันเอง)
          สมาธิสงบนิ่ง-----ยืน   นั่ง   นอน

และครูอาจารย์บางท่านเรียกแบ่งเป็นสมาธิลืมตา   และ   สมาธิหลับตาก็มี    

           ความหมาย  สมาธิ   คือ   สะมะ+อธิ    สะมะ--สม่ำเสมอ    อธิ--ยิ่งๆขึ้นไป      ผู้ที่จะทำสมาธิได้ผลดีต้องทำโดยสม่ำเสมอต่อเนื่องไม่ขาดตอน

           การฝึกสมาธิ  แบ่งได้เป็นสามระดับ   ๑.เบื้องต้น    ๒.ระดับกลาง    ๓.ระดับสูง

      ๑. เบื้องต้น----เน้นการฝึกกาย     เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง    รักษาโรคภัยไข้เจ็บ      ด้วยการฝึกลมปราณ     ที่เรียกว่าจักรวาลน้อย      จักรวาลใหญ่

      ๒. ระดับกลาง----ฝึกใจให้สงบ     มีพละกำลัง    ไม่ฟุ้งซ่าน   หลับง่าย   ไม่ฝันเลอะเทอะ

      ๓. ระดับสูง-----มีสติปัญญาที่ดี    สามารถแก้ปัญหาด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่     พึ่งพาตนเอ็งได้     มีสติสัมปชัญญะที่ดีในการควบคุมใจ    รู้เท่าทันอารมณ์     ไม่เป็นทาสของอารมณ์    ใจเย็นไม่โกรธง่าย     ดำรงค์ชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท     จนถึงที่สุดแห่งธรรมโดยการดับแล้วซึ่งกิเลส    ตัณหา    อุปาทาน   และอวิชชา  

       แล้วค่อยมาคุยต่อ     ขอนอนละครับ

................................

  คุณ HVI   พอจะเล่าเรื่อง TM  ให้ฟังคร่าวๆบ้างได้ไหมครับ     เพราะไม่เข้าใจว่าเขาปฏิบัติกันอย่างไร     ขอบคุณครับ

.................................

[MarginofSafety]

[quote="nano"]

[por_jai]

[quote="nano"]

[por_jai]

เพิ่งทราบว่าพิมพ์มา 34 ครั้งแล้ว
สมัยผมอ่านหากจำไม่ผิดก็คงเป็นครั้งที่ 10 ต้นๆ
เป็นหนังสือที่ยอดเยี่ยมมากเล่มหนึ่งครับ
กล่าวถึงตั้งแต่ การออกกำลังกาย การทำสมาธิ
การชะลอความชรา แม้กระทั่งหลักปฏิบัติด้านการกุ๊กกิ๊ก

หากโอกาสอำนวยจะไปค้นคว้ามาให้อ่านเพิ่มเติมนะครับ...

8) ผมก็อ่านเล่มนี้ด้วย
    เป็นสิบปีมาแล้วกระมังครับ
    เป็นเล่มแรกๆที่ทำให้คนหันมาสนใจสุขภาพกันมากมายเลย
    ท่านหมอเฉก เองก็เป็นหนุ่ม2พันปีไม่ยอมแก่
    แถมยังดูดีมากๆอีกตะหาก
    คนเลยให้ความสนใจกัน
    อยากเป็นหนุ่มแบบหมอเฉกท่าน
    ทุกวันนี้ก็ยังอยู่บนชั้นหนังสือ
    แต่กระดาษเหลืองอ๋อยเลย

[nano]

เดือนที่แล้ว ไปงานพิธีไหว้ครู มีเพือนอยู่คนเป็นคริสต์เหมือนกัน เขาเล่าว่าได้ไปฝึกสมาธิแบบ TM เขาจัดกันที่โรงแรม เสียดายมีเวลาน้อย เลยไม่มีโอกาสคุยรายละเอียดกัน

ผมสนใจตำราเอกสารการฝึกชี่กงของเฮีย ถ้ามีก็ส่งมาให้ด้วยละกัน ขอบคุณมากครับ แล้วจะส่งที่อยู่ทาง PM ให้ครับ

การฝึกสมาธิไม่ว่าจะมีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร แต่องค์ประกอบหลักหนีไม่พ้นระหว่างกายกับใจ(หรือจิตก็เรียก) ตัวเชื่อมหลักที่ขาดไม่ได้ คือ ลมหายใจเข้าออก คนเราทุกวันนี้โดยส่วนใหญ่ แม้กระทั่งหายใจก็ยังไม่ถูกวิธี เมื่อตอนเป็นเด็กผมจำได้ว่า ครูสอนเมื่อหายใจเข้า ทรวงอกขยายออก เมื่อหายใจออก หน้าอกจะยุบ แต่หลังจากได้อ่านหนังสือที่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ได้แปลไว้ ชื่อเล่มว่า วิทยาศาสตร์การหายใจ ถึงได้เข้าใจว่า ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่หายใจผิดวิธีฝืนธรรมชาติกันมาก ทำให้มีผลถึงเม็ดเลือดที่ลำเลียงอ๊อกซิเจนไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้ไม่สมบูรณ์เต็มที่เท่าที่ควร ซึ่งเป็นผลต่อสุขภาพของร่างกาย ทำให้เสื่อมเร็วก่อนวัยอันควรฯ

ถ้าเราสังเกตุดูให้ดี ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่อย่างพวกเรานี่แหละ เมื่อยามจะนอน ใจต้องผ่อนคลายสบายใจก่อนถึงจะหลับได้ เมื่อเราสบายใจ การหายใจกลับคืนสู่ความเป็นธรรมชาติ สังเกตุดูเมื่อหายใจเข้า ท้องจะขยายออก เมื่อหายใจออก ท้องจะยุบเข้า และถ้าได้ผ่านการฝึกยุบหนอ พองหนอมาก่อนยิ่งจะสังเกตุง่ายขึ้นว่าเราหายใจถูกวิธีหรือเปล่า แต่ถ้าผู้ที่ไม่ได้ผ่านการฝึกการหายใจแบบถูกวิธี คนส่วนใหญ่หายใจเข้าท้องยุบ หายใจออกท้องจะพอง

สาเหตุหลักคือ การหายใจ เราจะแบ่งปอดออกเป็นสามส่วน--- ส่วนบน ส่วนกลาง ส่วนล่าง โดยทั่วไปคนเราจะหายใจเข้าแค่ปอดส่วนกลาง ซึ่งทำให้ทรวงอกขยาย ท้องยุบ แต่ถ้าเราหายใจเข้าไปถึงปอดส่วนล่าง เมื่อปอดส่วนล่างขยายตัวไปดันกระบังลมเคลื่อนลงล่าง ทำให้ช่องท้องขยายตัวออก ซึ่งที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "หายใจเข้าท้อง" นั่นเอง เมื่อหายใจออก ปอดจะแฟบทำให้กระบังลมเคลื่อนตัวขึ้นบน ท้องจะยุบ

อยากทราบว่าเฮียหายใจถูกวิธีหรือเปล่าครับ


........................

[nano]

ขอบคุณครับ คุณ HVI เรื่องหนังสือ ผมจะลองไปค้นดู

[por_jai]

8) ผมเคยหายใจแบบเข้าท้องยุบมาก่อนครับ
แต่หายใจถูกต้องแบบที่พี่ว่า มานานแล้วครับ
ได้จากคุณหมอที่เชียงรายอยู่ท่านนึง
ผมอ่านเจอในอินเตอวิว ของหนังสือ จีเอ็ม
ท่านมาสอนเรื่องหายใจนี่แหละครับ
ท่านเขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่ง ผมไปหาซื้อมาอ่าน
ดีมั่กๆเลย
อยู่บนชั้นหนังสือ ว่างๆก็หยิบมาอ่านเรื่อยๆ
แต่ตอนที่ตอบพี่นาโน ไม่ได้เล่นเน็ตอยู่ที่บ้าน
แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง

เอกสารเรื่องชี่กง
ผมจะส่งไปให้นะครับ
ผมได้รับพีเอ็มของพี่นาโนแล้ว

เรื่องพักผ่อนโดยอาศัยสมาธิ
วิธีของคุณเจ๋ง เยี่ยมมาก
ง่ายๆไม่น่าเชื่อเหมือนกัน
ลองย้อนอ่านดูในกระทู้นี้แหละครับ
ผมปฏิบัติแล้วได้ผลครับ ได้ผล
ต้องเรียก จารย์เจ๋ง แล้วกระมัง....

[MarginofSafety]

ติดคุณ nano เรื่องสมาธิแบบ TM ไว้
วันนี้โอกาสอำนวยแล้ว เลยไปค้นมาให้ครับ  :D

2. TM กับ โยคะ คืออะไร


 TM ย่อจาก Transcendental Meditation ที่ถูกนำไปเผยแผ่โดยมหาฤๅษี วิธีการของ TM คือ การท่อง มนตรา  (Muntra) ซึ่งจะท่องซ้ำ ๆ ในใจ ให้เกิดความผ่อนคลาย และถือเป็นอุบายในการทำให้จิตนิ่ง ซึ่งการท่องมนตรานี้จะไม่มีการเปิดเผยให้ทราบ ขึ้นอยู่กับครูผู้ฝึกสอนจะเป็นผู้กำหนดให้

   โยคะ คือ กลุ่มที่มีการฝึกสมาธิที่มีมานานก่อนพุทธกาล โดยใช้วิธีการบริหารร่างกาย ซึ่งมีหลักการคือ สุขภาพทางกายเป็นรากฐานของสุขภาพทางจิต ดังนั้นในกลุ่มคนที่ฝึกโยคะจะมีการออกกำลังกายและส่งใจไปตามส่วนต่างๆของร่างกายให้เกิดความผ่อนคลาย โดยเน้นเรื่องของการกำหนดลมหายใจ หรือปราณ ซึ่งเชื่อว่า มีความสัมพันธ์กับจิตอย่างแนบแน่น  

(ตัดมาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับ TM)

อ่านบทความนี้เต็มๆ Click