ขอความรู้เรื่อง หุ้น 6 ประเภทของ peter lynch คับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความรู้เรื่อง หุ้น 6 ประเภทของ peter lynch คับ
โพสต์ที่ 1
ผมได้อ่านการจำแนกหุ้น6ประเภทของ Peter Lynch
1.หุ้นโตช้า
2.หุ้นแข็งแกร่ง
3.หุ้นโตเร็ว
4.หุ้นวัฎจักร
5.หุ้นฟื้นตัว
6.หุ้นทรัพย์สินมาก
ใครมีข้ออธิบายเพิ่มเติมของแต่ละกลุ่ม หรือมีตัวอย่างของหุ้นในปัจจุบันว่า หุ้นตัวใดอยู่กลุ่มไหนบ้างขอความรู้ด้วยครับ ปล. ผมรับปรึกษาปัญหาโรคเหงือกและฟันเป็นการตอบแทนทที่ห้องสุขภาพนะครับเชิญผู้สนใจเข้าไปถามได้คับ ขอบคุณคับ
1.หุ้นโตช้า
2.หุ้นแข็งแกร่ง
3.หุ้นโตเร็ว
4.หุ้นวัฎจักร
5.หุ้นฟื้นตัว
6.หุ้นทรัพย์สินมาก
ใครมีข้ออธิบายเพิ่มเติมของแต่ละกลุ่ม หรือมีตัวอย่างของหุ้นในปัจจุบันว่า หุ้นตัวใดอยู่กลุ่มไหนบ้างขอความรู้ด้วยครับ ปล. ผมรับปรึกษาปัญหาโรคเหงือกและฟันเป็นการตอบแทนทที่ห้องสุขภาพนะครับเชิญผู้สนใจเข้าไปถามได้คับ ขอบคุณคับ
- ikitten
- Verified User
- โพสต์: 30
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้เรื่อง หุ้น 6 ประเภทของ peter lynch คับ
โพสต์ที่ 4
ถามยากเลยนะครับ ผมว่ามุมมองของแต่ละคนในการจำแนกก็ต่างกันออกไปนะ
จะใช้อะไรจำแนกบ้าง? เติบโตคงที่ปีละ ...%? ปริมาณหนี้และความสามาารถในการชำระหนี้? ROA ROE? %กำไรสุทธิ?
อุตสาหกรรม? ความเป็นไปได้ในการขยายกิจการ?
ผมว่า Perter Lynch แบ่งไว้เพื่อความสะดวกของแกเองนะ ในหนังสือเองก็ไม่ได้บอกอย่างละเอียดว่าใช่อะไรเป็นปัจจัยจำแนกบ้าง 1 2 3 ...
จะใช้อะไรจำแนกบ้าง? เติบโตคงที่ปีละ ...%? ปริมาณหนี้และความสามาารถในการชำระหนี้? ROA ROE? %กำไรสุทธิ?
อุตสาหกรรม? ความเป็นไปได้ในการขยายกิจการ?
ผมว่า Perter Lynch แบ่งไว้เพื่อความสะดวกของแกเองนะ ในหนังสือเองก็ไม่ได้บอกอย่างละเอียดว่าใช่อะไรเป็นปัจจัยจำแนกบ้าง 1 2 3 ...
“I continue to think like an amateur as frequently as possible.” Peter Lynch
-
- Verified User
- โพสต์: 133
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้เรื่อง หุ้น 6 ประเภทของ peter lynch คับ
โพสต์ที่ 5
ผมเห็นว่าหัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่ดีมาก เพราะเท่าที่ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาไม่ต่ำกว่า 50 เล่ม ทั้งของคนไทย และหนังสือแปล
หนังสือ One up on the wall street เป็นหนังสือที่แนะนำการลงทุนในหุ้นได้ดีมากๆ ผมอ่านหนังสือเล่มนี้มาแล้ว 10 รอบ และว่างๆ ก็จะจับขึ้นมาอ่านเรื่อยๆ หาหุ้นได้ตามคำแนะนำของหนังสืออยู่ 6 ตัว เพราะผมต้องทำงานประจำ จึงไม่มีเวลามากพอที่จะติดตามหุ้นได้มาก
และอีกอย่างผมมีความเข้าในหนังสือเพียงบางเรื่องเท่านั้น บางเรื่องผมก็ไม่เข้าใจ ผมจึงหาหุ้นได้ไม่เยอะ เช่น
1. หุ้น Ford ที่ peter lynch ตัดสินใจซื้อ ซึ่งนักวิเคราะห์คนอื่นๆ บอกว่าเป็นหุ้นวัฏจักร
2. หุ้นที่มีค่า % of Growth/PE มากกว่า 2 อย่างต่อเนื่อง
3. หุ้นที่นักวิเคราะห์ไม่สนใจ
4. หุ้นที่มีหนี้ระยะยาวน้อยมาก หรือไม่มีเลย
5. หุ้นที่มีเรื่องที่น่าติดตามในอนาคต และสามารถทำให้กำไรในอนาคตเพิ่มขึ้น ถ้าเรื่องนั้นเกิดขึ้นจริง
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้เพื่อนๆ ช่วยถามสิ่งที่ยังไม่เข้าใจในหนังสือ และรบกวนผู้รู้ช่วยกันตอบเพื่อเป็นวิทยาทานกับผู้ไม่รู้ครับ
ปล. ผมเพิ่งเริ่มลงทุนในหุ้นเมื่อประมาณกลางปี 58 ความรู้และประสบการณ์ของผมยังอ่อนมากครับ ขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
หนังสือ One up on the wall street เป็นหนังสือที่แนะนำการลงทุนในหุ้นได้ดีมากๆ ผมอ่านหนังสือเล่มนี้มาแล้ว 10 รอบ และว่างๆ ก็จะจับขึ้นมาอ่านเรื่อยๆ หาหุ้นได้ตามคำแนะนำของหนังสืออยู่ 6 ตัว เพราะผมต้องทำงานประจำ จึงไม่มีเวลามากพอที่จะติดตามหุ้นได้มาก
และอีกอย่างผมมีความเข้าในหนังสือเพียงบางเรื่องเท่านั้น บางเรื่องผมก็ไม่เข้าใจ ผมจึงหาหุ้นได้ไม่เยอะ เช่น
1. หุ้น Ford ที่ peter lynch ตัดสินใจซื้อ ซึ่งนักวิเคราะห์คนอื่นๆ บอกว่าเป็นหุ้นวัฏจักร
2. หุ้นที่มีค่า % of Growth/PE มากกว่า 2 อย่างต่อเนื่อง
3. หุ้นที่นักวิเคราะห์ไม่สนใจ
4. หุ้นที่มีหนี้ระยะยาวน้อยมาก หรือไม่มีเลย
5. หุ้นที่มีเรื่องที่น่าติดตามในอนาคต และสามารถทำให้กำไรในอนาคตเพิ่มขึ้น ถ้าเรื่องนั้นเกิดขึ้นจริง
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้เพื่อนๆ ช่วยถามสิ่งที่ยังไม่เข้าใจในหนังสือ และรบกวนผู้รู้ช่วยกันตอบเพื่อเป็นวิทยาทานกับผู้ไม่รู้ครับ
ปล. ผมเพิ่งเริ่มลงทุนในหุ้นเมื่อประมาณกลางปี 58 ความรู้และประสบการณ์ของผมยังอ่อนมากครับ ขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
- theerasak24
- Verified User
- โพสต์: 614
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้เรื่อง หุ้น 6 ประเภทของ peter lynch คับ
โพสต์ที่ 6
ตามนี้เลยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=1WjC7C4EFwg
https://www.youtube.com/watch?v=1WjC7C4EFwg
"เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะยังคงทำสิ่งต่างๆ ต่อไปตราบใดที่มันยังให้ความรื่นรมย์และคุณก็ทำมันได้ดี"
-
- Verified User
- โพสต์: 133
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้เรื่อง หุ้น 6 ประเภทของ peter lynch คับ
โพสต์ที่ 7
ผมเชื่อว่าด้วยประสบการณ์ และผลงาน คุณโจคือผู้เข้าใจหลักการลงทุนของ One up on the wall street อย่างลึกซึ้ง ครับ
หากรายการ Money talk มีการจัดเสวนาเรื่อง One up on the wall street ก็ดีนะครับ โดยการนำแต่ละบทของหนังสือมาทำให้กระจ่างโดยผู้ที่เป็นแฟนพันธ์แท้ของหนังสือ One up on the wall street
ผมคิดว่านักลงทุน VI. ส่วนใหญ่ก็อ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนกันครับ
หากรายการ Money talk มีการจัดเสวนาเรื่อง One up on the wall street ก็ดีนะครับ โดยการนำแต่ละบทของหนังสือมาทำให้กระจ่างโดยผู้ที่เป็นแฟนพันธ์แท้ของหนังสือ One up on the wall street
ผมคิดว่านักลงทุน VI. ส่วนใหญ่ก็อ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนกันครับ
- XO
- Verified User
- โพสต์: 823
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอความรู้เรื่อง หุ้น 6 ประเภทของ peter lynch คับ
โพสต์ที่ 8
เพิ่งเริ่มลงทุน เมื่อกลางปี 58 แต่กลับอ่านหนังสือมาแล้วกว่า 50 เล่ม ขอนับถือในความมานะครับKrasapkan เขียน:ผมเห็นว่าหัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่ดีมาก เพราะเท่าที่ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาไม่ต่ำกว่า 50 เล่ม ทั้งของคนไทย และหนังสือแปล
หนังสือ One up on the wall street เป็นหนังสือที่แนะนำการลงทุนในหุ้นได้ดีมากๆ ผมอ่านหนังสือเล่มนี้มาแล้ว 10 รอบ และว่างๆ ก็จะจับขึ้นมาอ่านเรื่อยๆ หาหุ้นได้ตามคำแนะนำของหนังสืออยู่ 6 ตัว เพราะผมต้องทำงานประจำ จึงไม่มีเวลามากพอที่จะติดตามหุ้นได้มาก
และอีกอย่างผมมีความเข้าในหนังสือเพียงบางเรื่องเท่านั้น บางเรื่องผมก็ไม่เข้าใจ ผมจึงหาหุ้นได้ไม่เยอะ เช่น
1. หุ้น Ford ที่ peter lynch ตัดสินใจซื้อ ซึ่งนักวิเคราะห์คนอื่นๆ บอกว่าเป็นหุ้นวัฏจักร
2. หุ้นที่มีค่า % of Growth/PE มากกว่า 2 อย่างต่อเนื่อง
3. หุ้นที่นักวิเคราะห์ไม่สนใจ
4. หุ้นที่มีหนี้ระยะยาวน้อยมาก หรือไม่มีเลย
5. หุ้นที่มีเรื่องที่น่าติดตามในอนาคต และสามารถทำให้กำไรในอนาคตเพิ่มขึ้น ถ้าเรื่องนั้นเกิดขึ้นจริง
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้เพื่อนๆ ช่วยถามสิ่งที่ยังไม่เข้าใจในหนังสือ และรบกวนผู้รู้ช่วยกันตอบเพื่อเป็นวิทยาทานกับผู้ไม่รู้ครับ
ปล. ผมเพิ่งเริ่มลงทุนในหุ้นเมื่อประมาณกลางปี 58 ความรู้และประสบการณ์ของผมยังอ่อนมากครับ ขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
มาเล่นๆ ไม่ได้มาลงทุน
-
- Verified User
- โพสต์: 133
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้เรื่อง หุ้น 6 ประเภทของ peter lynch คับ
โพสต์ที่ 9
ขอบคุณครับ คุณ XO
ผมมีความคิดก่อนเริ่มการลงทุนในหุ้นว่าเป็นการพนันแบบหนึ่ง และไม่เคยคิดที่จะนำเงินที่เก็บสะสมมา มาลงทุนในหุ้น แต่ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเตี้ยติดดิน และไม่มีวี่แววที่จะเพิ่มขึ้น จึงเริ่มเข้าร้านหนังสือหาหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนอ่าน จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเล่มแรกที่อ่านคือหนังสืออะไร เริ่มจากเล่มเล็กๆ ที่ดูแล้วเข้าใจง่าย เขียนโดยคนไทย จากนั้นก็ค่อยๆ หาหนังสือที่ยากขึ้นมาอ่าน สุดท้ายก็มาชอบหนังสือแปลเล่มนี้ ซึ่งแปลโดย ดร.นิเวศน์ เมื่อได้อ่านแล้วก็คิดว่าการลงทุนในหุ้นไม่ใช่เรื่องยาก ขอให้มีวินัยในตนเอง และทำตามหลักการที่ตนเองเชื่อมั่น ครับ
เข้าห้างทีไรต้องแวะไปที่ร้านหนังสือทุกครั้ง เพื่อหาหนังสือใหม่ๆ อ่าน
ผมมีความคิดก่อนเริ่มการลงทุนในหุ้นว่าเป็นการพนันแบบหนึ่ง และไม่เคยคิดที่จะนำเงินที่เก็บสะสมมา มาลงทุนในหุ้น แต่ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเตี้ยติดดิน และไม่มีวี่แววที่จะเพิ่มขึ้น จึงเริ่มเข้าร้านหนังสือหาหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนอ่าน จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเล่มแรกที่อ่านคือหนังสืออะไร เริ่มจากเล่มเล็กๆ ที่ดูแล้วเข้าใจง่าย เขียนโดยคนไทย จากนั้นก็ค่อยๆ หาหนังสือที่ยากขึ้นมาอ่าน สุดท้ายก็มาชอบหนังสือแปลเล่มนี้ ซึ่งแปลโดย ดร.นิเวศน์ เมื่อได้อ่านแล้วก็คิดว่าการลงทุนในหุ้นไม่ใช่เรื่องยาก ขอให้มีวินัยในตนเอง และทำตามหลักการที่ตนเองเชื่อมั่น ครับ
เข้าห้างทีไรต้องแวะไปที่ร้านหนังสือทุกครั้ง เพื่อหาหนังสือใหม่ๆ อ่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 995
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้เรื่อง หุ้น 6 ประเภทของ peter lynch คับ
โพสต์ที่ 10
http://www.dekisugi.net/page/7
ไฟล์เสียงของคุณนรินทร์นะครับ ตอนนี้เปิดใหเฟังฟรีแล้ว
ไฟล์เสียงของคุณนรินทร์นะครับ ตอนนี้เปิดใหเฟังฟรีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้เรื่อง หุ้น 6 ประเภทของ peter lynch คับ
โพสต์ที่ 11
ผมไม่รู้นะ ว่า แบ่งกันไปทำไม สำหรับคนอื่น
แต่เท่าที่ผมอ่านแล้วตีความได้คือ
ลินช์ ใช้กำหนด ผลตอบแทน กับ วางกลยุทธ ในการจัดพอร์ท
และวางกรอบระยะเวลาในการถือครองหุ้นในแต่ละประเภท
ยกตัวอย่าง
ถ้าถือหุ้นบลูชิพ ลินช์ต้องการผลตอบแทน 20-30% ต่อปี
โดย ให้น้ำหนัก ในพอร์ท เกือบครึ่ง(ไปลองอ่านดูได้ สักบทนึง
ลินช์ พูดเองว่า คนมักมองเขาเป็นนักเล่น หุ้นเติบโต กับ turn around
แต่ในความเป็นจริง หุ้นกลุ่มนี้ เขาถือ ไม่ถึง 50%
และหุ้นที่ทำเงินได้มากสุด เป็นจำนวนรวมมากสุด ของลินช์
ก็เป็นกลุ่ม leasing and loan ไม่ใช่พวกวัฎจักร แบบรถ)
ถ้าเป็น growthหรือturn around ลินช์ จะมองผลตอบแทนมากกว่านั้น
เช่นเป็นเด้ง และมีระยะเวลาถือครองนาน แต่สัดส่วนไม่ได้ มากเป็น
70-80% พอร์ท
ส่วนท่านอื่น แบ่งไปทำไม เพื่ออะไร
ผมอยากทราบ กลยุทธเหมือนกันคับ
ขอบคุณคับ
ปล เฟรดดี้เม แฟนนี่แมค น่าจะเป็นหุ้นที่ทำเงินให้ลินช์มากสุด
อ้างอิง จาก beating the street สักบท แต่
story มันจบ ก่อน subprime ไม่งั้น พงศาวดารลินช์
จะเปลี่ยนไปยังไง ผมกะไม่รู้คับ
แต่เท่าที่ผมอ่านแล้วตีความได้คือ
ลินช์ ใช้กำหนด ผลตอบแทน กับ วางกลยุทธ ในการจัดพอร์ท
และวางกรอบระยะเวลาในการถือครองหุ้นในแต่ละประเภท
ยกตัวอย่าง
ถ้าถือหุ้นบลูชิพ ลินช์ต้องการผลตอบแทน 20-30% ต่อปี
โดย ให้น้ำหนัก ในพอร์ท เกือบครึ่ง(ไปลองอ่านดูได้ สักบทนึง
ลินช์ พูดเองว่า คนมักมองเขาเป็นนักเล่น หุ้นเติบโต กับ turn around
แต่ในความเป็นจริง หุ้นกลุ่มนี้ เขาถือ ไม่ถึง 50%
และหุ้นที่ทำเงินได้มากสุด เป็นจำนวนรวมมากสุด ของลินช์
ก็เป็นกลุ่ม leasing and loan ไม่ใช่พวกวัฎจักร แบบรถ)
ถ้าเป็น growthหรือturn around ลินช์ จะมองผลตอบแทนมากกว่านั้น
เช่นเป็นเด้ง และมีระยะเวลาถือครองนาน แต่สัดส่วนไม่ได้ มากเป็น
70-80% พอร์ท
ส่วนท่านอื่น แบ่งไปทำไม เพื่ออะไร
ผมอยากทราบ กลยุทธเหมือนกันคับ
ขอบคุณคับ
ปล เฟรดดี้เม แฟนนี่แมค น่าจะเป็นหุ้นที่ทำเงินให้ลินช์มากสุด
อ้างอิง จาก beating the street สักบท แต่
story มันจบ ก่อน subprime ไม่งั้น พงศาวดารลินช์
จะเปลี่ยนไปยังไง ผมกะไม่รู้คับ
show me money.