สนใจ SCC
-
- ผู้ติดตาม: 0
สนใจ SCC
โพสต์ที่ 1
SCC บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) สนใจเพราะมี DCA มี ฺฺBrand Royalty
และผู้บริหารโปร่งใส มีธรรมาภิบาล มีบริษัทในเครืออยู่ในกลุ่มปิโตรเคมี และ เยื่อกระดาษ
ผลประกอบการดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วง1-2 ปีข้างหน้านี้ ธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
โดยเฉพาะ ปิโตรเคมี วัสดุก่อสร้าง p/e ตอนนี้อยู่ประมาณ 12 เท่า แต่ปัจจัยด้านคุณภาพของบริษัท
เป็นตัวที่น่าสนใจมากกว่าปัจจัยทางด้านปริมาณ เพราะ SCC มี Premium ตามที่กล่าวข้างต้น ไม่ได้เชียร์
ให้ซื้อ แต่ถ้าต้องการลงทุนระยะยาว ผมว่าตัวนี้เป็นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ ปล.เคยแตกพาร์มาแล้ว 2-3 ครั้ง
เพราะราคาขึ้นไปมากกว่า 1 พันบาท
และผู้บริหารโปร่งใส มีธรรมาภิบาล มีบริษัทในเครืออยู่ในกลุ่มปิโตรเคมี และ เยื่อกระดาษ
ผลประกอบการดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วง1-2 ปีข้างหน้านี้ ธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
โดยเฉพาะ ปิโตรเคมี วัสดุก่อสร้าง p/e ตอนนี้อยู่ประมาณ 12 เท่า แต่ปัจจัยด้านคุณภาพของบริษัท
เป็นตัวที่น่าสนใจมากกว่าปัจจัยทางด้านปริมาณ เพราะ SCC มี Premium ตามที่กล่าวข้างต้น ไม่ได้เชียร์
ให้ซื้อ แต่ถ้าต้องการลงทุนระยะยาว ผมว่าตัวนี้เป็นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ ปล.เคยแตกพาร์มาแล้ว 2-3 ครั้ง
เพราะราคาขึ้นไปมากกว่า 1 พันบาท
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
สนใจ SCC
โพสต์ที่ 2
ไม่มีความคิดเห็นนะ SCC แต่ อ.วิกรม เกษมวุติ ถือตัวนี้อยู่ก็เลยนำบทความนี้มาให้อ่าน.....
ถ้าต้องเลือก ก็เลือกแต่หุ้นชั้นดีเพียงไม่กี่ตัว แล้วลงทุนให้ยาว
"ถ้าใช้หลักของท่านเซอร์จอห์น เทมเพิลตัน ท่านจะลงทุนหุ้นแต่ละตัวนานประมาณ 4.5 ปี" เขาอธิบายว่า การเลือกหุ้นที่ดีเยี่ยมแล้วลงทุนระยะยาวจะช่วยลดความเสี่ยงได้ดี
แต่บางครั้งวิกรมก็ลงทุนยาว...ว...ว จนใครๆ ต้องฉงนว่าชายผู้นี้ลงทุนนานขนาดนี้ได้ยังไง!
"หุ้นของปูนใหญ ่(SCC) ผมซื้อตั้งแต่ปี 2518 จนขณะนี้ก็ยังไม่เคยขาย (ถือมา 28 ปี) มีกำไรแล้วมหาศาล"
วิกรมบอกว่า เขาซื้อมาในราคา 167 บาท (พาร์ 100 บาท) พอแตกพาร์เหลือ 10 บาท ทำให้ต้นทุนของเขาลงมาเหลือหุ้นละ 16.70 บาท แต่ราคาในปัจจุบันซื้อขายที่ 1,200 บาท (มีกำไร 7,400%)
อีกไม่ช้าหุ้นปูนใหญ่จะแตกพาร์เหลือ 1 บาท นั่นแสดงว่าต้นทุนหุ้นของวิกรมจะลดลงมาเหลือเพียงหุ้นละ 1.67 บาทเท่านั้น ในขณะที่ราคาตลาดจะลงมาเหลือหุ้นละ 120 บาท
สิ่งที่เราสงสัยมากที่สุด ก็คือ....อาจารย์ถือได้ยังไง! ตั้ง 28 ปี
เขาให้เหตุผลว่า "ขายไปแล้วมันซื้อไม่ได้อีกแล้ว" ปรัชญาการลงทุนของวิกรม คือ นักลงทุนที่ชาญฉลาดควรวางเฉยกับการเต้นของราคาหุ้น ถึงแม้มันจะยั่วยวนและทำให้ตื่นเต้นบ้างในบางขณะ
"ถ้าท่านรู้สึกตื่นเต้นดีใจ หรือตกใจไปกับราคาหุ้นที่แกว่งขึ้นแกว่งลง จงหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่เช่นนั้นท่านจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ "ฝูงชน" ที่กำลังคลั่ง แล้วท่านอาจจะทำในสิ่งผิดพลาดเกินกว่าที่จะมานั่งเสียใจในภายหลัง"
วิกรม บอกว่า เราอาจจะจับสัญญาณได้ว่า ถ้าหุ้นบางตัวเริ่มตกต่ำลงกว่าระดับ "ปกติ" ในขณะที่ตลาดโดยทั่วไปไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ ให้ระวังหุ้นตัวนั้นให้ดี เพราะแสดงว่ามีอาการป่วยบางอย่างให้เห็นแล้ว
"จงพยายามค้นหาสาเหตุว่าทำไมหุ้นของเราตัวนี้ถึงตก ถ้าพบสาเหตุให้รีบขายหุ้นตัวนั้นทิ้งไป เพื่อจำกัดการขาดทุน (จำนวนมาก) โดยทันที"
สำหรับวิธีการคัดเลือกหุ้นของวิกรม เขาจะใช้หลัก "คัดข้าวสารออกจากแกลบ" ร่อนให้เหลือเฉพาะหุ้นดีเยี่ยมเพียงไม่กี่ตัว แล้ว "จงถือให้นาน"
นานจนกระทั่งผลกำไรตามไม่ทันราคาหุ้นที่วิ่งไปรอล่วงหน้า จึงค่อยตัดสินใจขาย
ถ้าต้องเลือก ก็เลือกแต่หุ้นชั้นดีเพียงไม่กี่ตัว แล้วลงทุนให้ยาว
"ถ้าใช้หลักของท่านเซอร์จอห์น เทมเพิลตัน ท่านจะลงทุนหุ้นแต่ละตัวนานประมาณ 4.5 ปี" เขาอธิบายว่า การเลือกหุ้นที่ดีเยี่ยมแล้วลงทุนระยะยาวจะช่วยลดความเสี่ยงได้ดี
แต่บางครั้งวิกรมก็ลงทุนยาว...ว...ว จนใครๆ ต้องฉงนว่าชายผู้นี้ลงทุนนานขนาดนี้ได้ยังไง!
"หุ้นของปูนใหญ ่(SCC) ผมซื้อตั้งแต่ปี 2518 จนขณะนี้ก็ยังไม่เคยขาย (ถือมา 28 ปี) มีกำไรแล้วมหาศาล"
วิกรมบอกว่า เขาซื้อมาในราคา 167 บาท (พาร์ 100 บาท) พอแตกพาร์เหลือ 10 บาท ทำให้ต้นทุนของเขาลงมาเหลือหุ้นละ 16.70 บาท แต่ราคาในปัจจุบันซื้อขายที่ 1,200 บาท (มีกำไร 7,400%)
อีกไม่ช้าหุ้นปูนใหญ่จะแตกพาร์เหลือ 1 บาท นั่นแสดงว่าต้นทุนหุ้นของวิกรมจะลดลงมาเหลือเพียงหุ้นละ 1.67 บาทเท่านั้น ในขณะที่ราคาตลาดจะลงมาเหลือหุ้นละ 120 บาท
สิ่งที่เราสงสัยมากที่สุด ก็คือ....อาจารย์ถือได้ยังไง! ตั้ง 28 ปี
เขาให้เหตุผลว่า "ขายไปแล้วมันซื้อไม่ได้อีกแล้ว" ปรัชญาการลงทุนของวิกรม คือ นักลงทุนที่ชาญฉลาดควรวางเฉยกับการเต้นของราคาหุ้น ถึงแม้มันจะยั่วยวนและทำให้ตื่นเต้นบ้างในบางขณะ
"ถ้าท่านรู้สึกตื่นเต้นดีใจ หรือตกใจไปกับราคาหุ้นที่แกว่งขึ้นแกว่งลง จงหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่เช่นนั้นท่านจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ "ฝูงชน" ที่กำลังคลั่ง แล้วท่านอาจจะทำในสิ่งผิดพลาดเกินกว่าที่จะมานั่งเสียใจในภายหลัง"
วิกรม บอกว่า เราอาจจะจับสัญญาณได้ว่า ถ้าหุ้นบางตัวเริ่มตกต่ำลงกว่าระดับ "ปกติ" ในขณะที่ตลาดโดยทั่วไปไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ ให้ระวังหุ้นตัวนั้นให้ดี เพราะแสดงว่ามีอาการป่วยบางอย่างให้เห็นแล้ว
"จงพยายามค้นหาสาเหตุว่าทำไมหุ้นของเราตัวนี้ถึงตก ถ้าพบสาเหตุให้รีบขายหุ้นตัวนั้นทิ้งไป เพื่อจำกัดการขาดทุน (จำนวนมาก) โดยทันที"
สำหรับวิธีการคัดเลือกหุ้นของวิกรม เขาจะใช้หลัก "คัดข้าวสารออกจากแกลบ" ร่อนให้เหลือเฉพาะหุ้นดีเยี่ยมเพียงไม่กี่ตัว แล้ว "จงถือให้นาน"
นานจนกระทั่งผลกำไรตามไม่ทันราคาหุ้นที่วิ่งไปรอล่วงหน้า จึงค่อยตัดสินใจขาย
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 10
- ผู้ติดตาม: 0
สนใจ SCC
โพสต์ที่ 3
ชอบคุณครับ คุณลูกอีสาน สำหรับข้อมูล กระทู้ข้างบนเป็นของผมเองครับ
ผมก็คิดเหมือนกันครับว่าจะซื้อและไม่ขาย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำใจได้เหมือนคุณวิกรม หรือเปล่า
ใครมีความคิดเห็นอะไรก็ช่วย ๆ กันหน่อยน่ะครับ ผมว่าตัวนี้มีอะไรสนใจให้ศึกษามากเลยครับ.
ผมก็คิดเหมือนกันครับว่าจะซื้อและไม่ขาย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำใจได้เหมือนคุณวิกรม หรือเปล่า
ใครมีความคิดเห็นอะไรก็ช่วย ๆ กันหน่อยน่ะครับ ผมว่าตัวนี้มีอะไรสนใจให้ศึกษามากเลยครับ.
หงส์แดง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
สนใจ SCC
โพสต์ที่ 4
เป็นข้อมูลที่ดีมากเลยครับ ถือมา 28 ปี กำไร คำนวณไม่ออกแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ ต้นทุน 1.67 ตอนนี้ 208
เท่ากับได้ 18.80 % ทบต้นทุกปี
แต่ยังไม่ได้นับปันผลย้อนหลังตลอดระยะเวลา 28 ปีนะครับ
ถ้าสมัยนั้นซื้อไว้ 1.67 ล้านบาท เท่ากับ ตอนนี้ เป็นเงิน 208 ล้านบาท
อืม คำนวณแล้ว แทบไม่น่าเชื่อครับ ว่าวอเรนทำได้ดีกว่านี้ คือประมาณ 23 เปอร์เซ็นต์
ลองคำนวณ ถ้าวอเรนซื้อ 1.67 บาท แล้วได้ 23 เปอร์เซ็นต์ ทบต้น ทุกปี 28 ปี
จะเท่ากับ 549.62 ล้านบาท
ที่เขียนมา เพราะ หุ้นที่ท่านเลือก มีความมั่นคง มีผลประกอบการณ์ที่ดี และต้นทุนของท่านก็ต่ำมากๆ
แต่ยังทำกำไรได้ไม่เท่าวอเรน หรือว่าเมืองไทยหาหุ้นดีๆแบบนี้ยากมาก
หุ้นดีๆที่ให้ผลตอบแทน มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ทบต้นทุกปี
.........................................................................................
การถือยาวแบบนี้ ผมเคยโดนแซวแนวคิดนี้ ว่า
พอวันหนึ่งข้างหน้ากลับใจ กดปุ่มขาย
พอกดปุ๋มขายปั๊บ
จะมีเสียงร้อง โอ๊ย
แล้วก็ ขาดใจตายทันที
ไม่ได้ใช้เงิน
อิอิ โดนเขาแซวมา
.........................................................................................
เท่ากับได้ 18.80 % ทบต้นทุกปี
แต่ยังไม่ได้นับปันผลย้อนหลังตลอดระยะเวลา 28 ปีนะครับ
ถ้าสมัยนั้นซื้อไว้ 1.67 ล้านบาท เท่ากับ ตอนนี้ เป็นเงิน 208 ล้านบาท
อืม คำนวณแล้ว แทบไม่น่าเชื่อครับ ว่าวอเรนทำได้ดีกว่านี้ คือประมาณ 23 เปอร์เซ็นต์
ลองคำนวณ ถ้าวอเรนซื้อ 1.67 บาท แล้วได้ 23 เปอร์เซ็นต์ ทบต้น ทุกปี 28 ปี
จะเท่ากับ 549.62 ล้านบาท
ที่เขียนมา เพราะ หุ้นที่ท่านเลือก มีความมั่นคง มีผลประกอบการณ์ที่ดี และต้นทุนของท่านก็ต่ำมากๆ
แต่ยังทำกำไรได้ไม่เท่าวอเรน หรือว่าเมืองไทยหาหุ้นดีๆแบบนี้ยากมาก
หุ้นดีๆที่ให้ผลตอบแทน มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ทบต้นทุกปี
.........................................................................................
การถือยาวแบบนี้ ผมเคยโดนแซวแนวคิดนี้ ว่า
พอวันหนึ่งข้างหน้ากลับใจ กดปุ่มขาย
พอกดปุ๋มขายปั๊บ
จะมีเสียงร้อง โอ๊ย
แล้วก็ ขาดใจตายทันที
ไม่ได้ใช้เงิน
อิอิ โดนเขาแซวมา
.........................................................................................
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
สนใจ SCC
โพสต์ที่ 5
ถ้ารวมปันผลด้วย อาจจะำมีทำกำไรทบต้นได้ดีกว่าวอร์เรน นะครับพี่เจ๋ง
แต่ผมไม่มีข้อมูลปันผลย้อนหลัง 28 ปี! ของปูนใหญ่....
แต่ อาจารย์วิกรม ท่านคงซื้อตอนราคาตกต่ำนะครับ ถ้าซื้อตอนกระทิงอย่างตอนนี้ คงทำผลตอบแทนได้น้อยกว่านี้..
แต่ผมไม่มีข้อมูลปันผลย้อนหลัง 28 ปี! ของปูนใหญ่....
แต่ อาจารย์วิกรม ท่านคงซื้อตอนราคาตกต่ำนะครับ ถ้าซื้อตอนกระทิงอย่างตอนนี้ คงทำผลตอบแทนได้น้อยกว่านี้..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 10
- ผู้ติดตาม: 0
สนใจ SCC
โพสต์ที่ 6
ตอนนี้ราคา 208 p/e 13 เท่า ผมคิดว่าสำหรับธุรกิจที่มี DCA และมีผลประกอบการดีเยี่ยมอย่างนี้
มันน่าสนใจมากครับ รวมทั้งธุรกิจทั้งเครือของ SCC กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นด้วย กำไรน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ผมก็กำลังรอให้ราคาลงมาต่ำกว่านี้ครับ แต่กลัวว่าจะเหมือน Stanly ที่ราคาวิ่งแล้ววิ่งเลย
ไม่ยอมลงมาให้เก็บง่าย ๆ เลย ครับ.
มันน่าสนใจมากครับ รวมทั้งธุรกิจทั้งเครือของ SCC กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นด้วย กำไรน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ผมก็กำลังรอให้ราคาลงมาต่ำกว่านี้ครับ แต่กลัวว่าจะเหมือน Stanly ที่ราคาวิ่งแล้ววิ่งเลย
ไม่ยอมลงมาให้เก็บง่าย ๆ เลย ครับ.
หงส์แดง
-
- ผู้ติดตาม: 0
สนใจ SCC
โพสต์ที่ 7
SCC วันนี้ทำยอดสูงสุดอีกแล้ว ตั้งแต่เข้าตลาดมา
ไม่ทราบว่าใครรู้ว่ามีหุ้นอะไรบ้างที่มียอดสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาด ที่ผมทราบคือ SCC และ Advanc
ไม่ทราบว่าใครรู้ว่ามีหุ้นอะไรบ้างที่มียอดสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาด ที่ผมทราบคือ SCC และ Advanc
-
- ผู้ติดตาม: 0
สนใจ SCC
โพสต์ที่ 8
ผมมีข้อมูลปี จากงบปี 2535 น่าสนใจ ดังนี้Boring Stock lover เขียน:SCC วันนี้ทำยอดสูงสุดอีกแล้ว ตั้งแต่เข้าตลาดมา
ไม่ทราบว่าใครรู้ว่ามีหุ้นอะไรบ้างที่มียอดสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาด ที่ผมทราบคือ SCC และ Advanc
SCC
==================================
ปี2535
captial = 1,200
net profits = 3,562
ปี2546
captial = 1,200
net profits = 18,000 (estimate)
อัตราการเติบโต net profit เทียบกับปี 2535 = 500%
โดยที่ไม่มีการเพิ่มทุน
===================================
advanc
ปี2535
captial = 750
net profits = 452
ปี2546
captial = 2,938
net profits = 16,400 (estimate)
อัตราการเติบโต net profit เทียบกับปี 2535 = 900%
(หักสัดส่วนการเพิ่มทุนออกแล้ว)
=====================================
stanly
ปี2535
captial = 175
net profits = 61
ปี2546
captial = 383
net profits = 900 (estimate)
อัตราการเติบโต net profit เทียบกับปี 2535 = 690%
(หักสัดส่วนการเพิ่มทุนออกแล้ว)
=====================================
se-ed
ปี2535
captial = 112
net profits = 13
ปี2546
captial = 214
net profits = 130 (estimate)
อัตราการเติบโต net profit เทียบกับปี 2535 = 523%
(หักสัดส่วนการเพิ่มทุนออกแล้ว)
=====================================
เรียงลำดับ net profit performance
1. advanc 900%
2. stanly 690%
3. se-ed 523%
4. scc 500%
ทีนี้รู้แล้วยังว่า ใครรวยที่สุดในประเทศไทย ! 555...