จุดประกายความคิด พลิกชีวิตการลงทุน

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

จุดประกายความคิด พลิกชีวิตการลงทุน

โพสต์ที่ 1

โพสต์

จุดประกายความคิด พลิกชีวิตการลงทุน ช่วง เซียนมี๋

เซียนมี๋ ทิวา เริ่มจากครอบครัวขายโจ๊กตอนเด็ก มีอาม่ามักให้ทัศนคติที่ดีกับเขามาตลอด ไม่ว่าเขาจะเรียนไม่ดีในชั้น ประถม มัธยม แต่อาม่าให้กำลังใจมาตลอด บอกว่าถึงเรียนไม่เก่งแต่ทำงานก็จะเก่งเอง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของเราเท่านั้นเอง ช่วงที่ญาติมาเยี่ยมเป็นกลุ่มใหญ่ สังเกตว่าทุกคนรวยหมด ปัจจัยความรวยไม่ใช่มาจากโชคชะตา
เสียดาย ตอนผมเริ่มรวย อาม่าก็เสียแล้ว

ตอนจบม3 เรียนไม่เก่ง มีเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกัน มาชวนไปทำงานขี่มอเตอร์ไซด์ ส่งเอกสารตลอด เลยลองทำดู ชีวิตก็ดีขึ้น มีรายได้เข้ามาวันละเกือบพันบาท แต่พ่อไม่สบายใจเพราะพ่อทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของร้านอาหาร คุณพ่อเลยส่งไปเรียนที่จีน 2ปีครึ่ง กลับมาทำงาน เห็นพี่สมศักดิ์ซึ่งทำงานมา10ปีมีรายได้ 50,000 บาท ซึ่งใช้เวลานานไปไม่ตอบโจทย์ เลยไปทำธุรกิจดีกว่า
ซึ่งไม่เหมือนกับการลงทุน ที่บางทีตกใจตื่นมากลางดึกเพราะกลัวหุ้นตก
วันที่มาทำธุรกิจร้าน internet ตอนนั้นมีเครื่องคอมพิวเตอร์ 8 เครื่อง พ่อตาแม่ยายก็คัดค้าน บอกว่าธุรกิจไม่ดี แต่ตัวเองคิดว่าร้านเกมกำลังจะมา สุดท้ายได้เงินมาจากร้านเกม 10 กว่าล้านบาท ก็เอาเงินไปซื้อคอนโดมาปล่อยเช่าต่อ
ตอนนั้นคิดว่าตัวเองรวยมาก ไปเดินที่เอสพลานาด บังเอิญไปฟัง ดร นิเวศน์พูดเปิดตัวหนังสือพอดี มีคนฟังแค่ 2 คน
พึ่งรู้ว่า ยังมีคนรวยกว่า ดร มีเงิน 300-400 ล้านบาท เลยเสียความมั่นใจ แต่พอฟังไปเรื่อยๆ จับใจความได้ว่า

ควรกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน

สมมติเราต้องการ 50 ล้านบาท เรามีเงินต้น 1 ล้านบาท

ถ้าเราลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 26% ทุกๆ10ปี รวยขึ้น 10 เท่า

วิธีการชนะตลาดหุ้น

1. พยายามหาหุ้นที่มีโอกาสชนะตลาด และ ทำกำไรให้เหมาะสมในตัวที่ถูกต้อง
2. จำกัดการขาดทุนในการตัดสินใจที่ผิด
สมมติถ้าเราปล่อยให้ขาดทุน 90% เราต้องทำกำไร 900% ซึ่งไม่สามารถทำได้
3. ทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอ
4. ถามตัวเองทุกวัน ยังมั่นใจในหุ้นตัวที่เราถือไหมว่ายังเป็นหุ้นที่อยู่ในข่ายข้อ1
ถ้าไม่ใช่แล้ว ทำไมเรายังถือมันอยู่ เหตุผลในการซื้อยังอยู่ครบถ้วนไหม

สุดท้ายเป้าหมายความสำเร็จ วัดจากความสุขจากคนรอบข้างที่ได้รับต่างหาก

จุดประกายความคิด พลิกชีวิตการลงทุน ช่วง คุณ เคน โสรัตน์

คุณ เคน โสรัตน์ มาเล่าแรงบันดาลใจ และ ประสบการลงทุน เริ่มจากปี 1995 ขยายธุรกิจจาก 50 ล้าน มาเป็น 1,000 ล้านบาท ห้องทำงานขนาดไม่ใหญ่ แต่ แอร์เสียทุกเดือน เพราะว่ามีไฟในการทำงานแรงมาก
ปี1997 วิกฤตต้มยำกุ้ง หนี้เพิ่มมาอีกเท่าตัว ใช้เวลาจ่ายหนี้กว่า 38 ปีกว่าจะจ่ายหมด
ย้อนมาตอนเริ่มธุรกิจใหม่ การเป็นผู้นำในหน่วยย่อยของธุรกิจ หาทีมงานมาเป็นหน้าที่ของ CEO คือหาลูกน้องเก่งๆ
แต่เมื่อมาเป็นเจ้าของเต็มตัว เราต้องหา CEO เก่งๆมาบริหารงาน พออายุ 30 ปี อยากเป็นนักลงทุน หน้าที่ก็เปลี่ยนไป
คือการหา Business Owner ที่เก่ง ( Joint Winner ) นักลงทุนหากิจการที่กำไรในราคาที่ถูก ดีกว่าเปิดบริษัทเอง
มีโอกาส 7 ใน 10 ที่เจ้ง

หาหุ้นขนาดกลางและเล็ก ซึ่งกำไรจะก้าวกระโดด เราเรียนรู้หุ้นอย่างพิถีพิถันในการลดความเสี่ยง
เราสามารถค้นหาหุ้นที่เปลี่ยนชีวิตได้ซึ่งมีกำไรก้าวกระโดด เราต้องตั้งเป้าหมาย เช่น ตั้งเป้าโตอย่างน้อย 200%-300% ซึ่งอย่างน้อยถ้าได้ 100% ก็ยังดี แต่มีข้อเสียคือหาหุ้นได้น้อยลง หุ้นเปลี่ยนชีวิตที่เจอไม่เกิน 7 ตัว ในชีวิตที่ผ่านมาก็เพียงพอแล้ว เลือกหุ้น 15 ตัว และ คัดเหลือ 5 ตัวที่จะลงทุน

แชร์ประสบการณ์ครั้งแรกที่ลงทุน

ตอนแรกที่ลงทุน ใช้เงินต้นเยอะ โดยไม่ค่อยมีความรู้ด้านลงทุนมากนัก ผลตอบแทนตั้งไว้เยอะ เวลาเราเหลือเยอะ แต่ไปเล่น margin พยายามเบิ้ลportให้โตเร็ว เลยเจอวิกฤต Hamberger ขาดทุนเยอะ มีหนี้เยอะ เป็นประสบการณ์ รู้งี้ไม่ลงทุน รอวิกฤตดีกว่า

ดังนั้นแนะนำให้ลงทุนครั้งแรก ใช้ทุนน้อยๆ จะดีกว่า

คิดเสมอว่า ความสำเร็จนั้น วัดจาก เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากกำไร หรือ ขาดทุนที่ผ่านมา สิ่งสำคัญคือ เราได้เรียนรู้และมีประสบการณ์เพิ่ม บางคน เจอปัญหา เลยออกจากวิกฤต กลับไปทำงานเหมือนเดิม

ความเสียหายของportมหาศาล เป็นการเรียนรู้ เหมือนจ่ายค่าเทอมแพงมาก เราต้องกลับมา การขาดทุนในวันนี้แม้เสียหาย ก็เป็นเรื่องเล็กของวันพรุ่งนี้เสมอ ผมยังก้าวไปได้อีก เพราะเป้าหมายอนาคตมันใหญ่กว่า
การเรียนรู้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก รวยได้แต่อย่ารวยเร็ว เหมือนกับ ผมยาวตัดสั้นได้ แต่ผมสั้น จะให้ยาวต้องใช้เวลา
เปรียบกับ Port 2แสนบาท เป็นล้านบาท ต้องใช้เวลา นี้คือความสุขที่ได้รอเวลา

ทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ Portระดับพันล้าน แต่เป็นความผิดพลาดในการลงทุนกว่า 15 ปีที่จดบันทึกไว้ในสมุดและจะไม่กลับไปทำแบบนั้นอีก ซึ่งทำให้ผมประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา ผมจะสะสมข้อผิดพลาดไว้ในสมุดทุกปี เรียนรู้กับกำไรและขาดทุนที่เกิดขึ้น ผิดพลาดครั้งแรก เพราะเราไม่เรียนรู้ ครั้งที่2เพราะเราเรียนรู้ แต่ถ้าครั้งต่อไปยังผิดพลาด น่าจะออกจากตลาดไปดีกว่าเพราะไม่มีการปรับปรุง หรือ เรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่ผ่านมา

องค์ความรู้ที่ได้ จากportที่ใหญ่ขึ้น เป็นผล จริงๆคุณจะได้วิชาติดตัวจากการเรียนรู้กับข้อผิดพลาด
การได้มาของเงิน ต้องสร้างด้วยตนเอง คนรวยหมายถึง คนที่ให้เยอะกว่าคนอื่น
ภาพประจำตัวสมาชิก
neuhiran
Verified User
โพสต์: 815
ผู้ติดตาม: 0

Re: จุดประกายความคิด พลิกชีวิตการลงทุน

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากๆเลยครับ :D
โพสต์โพสต์