สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 31
AGM BANPU 19 Apr 16 13.00 Paragon Hall
ก่อนอื่น ขอกล่าวชื่มชมบริษัท บ้านปูมีธรรมาภิบาลสูง ได้CG score 5
ผลประกอบการขาดทุน เนื่องจาก บริษัทที่ออสเตรเลียถูกเก็บภาษีเพิ่มย้อนหลังปี 54-55
และขาดทุนจากการทำสัญญาอนุพันธ์ แต่ผลประกอบการก่อนภาษีและสัญญาอนุพันธ์ยังกำไร
ยังจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น และ ลดผลตอบแทนกรรมการลง 30% ขอปรบมือให้ครับ
เข้าสู่คำถามและคำตอบกันครับ
Q: วาระที่1 รับทราบรายงานการประชุม ควรให้ผู้ถือหุ้นรับรองรายงานการประชุมด้วยเหมือนบริษัทอื่น
A: ประเด็นนี้มีการถามมาหลายปีไม่ต่ำกว่า5-6 ครั้ง ขอชี้แจงไม่มีประเด็นไหนในข้อกฎหมายบอกว่าต้องรับรอง
การประชุม หรือ ผู้มาประชุมวันนี้อาจไม่มาในวันนั้น ครั้งที่แล้ว 3 เมย 58 ก็post ลง web เพื่อให้ผู้ถือหุ้น
ท้วงติงได้ในปีที่แล้ว ก็เลยให้แค่รับทราบ ข้อเสนอรับไว้พิจารณาเรื่องส่งรายงานไปให้ผู้ประชุม
และ ท้วงติงภายใน2สัปดาห์
วาระที่2
ดูจากslide มากกว่า 20 แผ่น ใน Facebook เป็น3หัวข้อหลัก
1.สภาวะอุตสาหกรรมถ่านหิน
ภาพรวม จีน ความผันผวนค่าเงินหยวนมีผลกระทบต่อความต้องการถ่านหินมาก และ ใช้ไฟน้อยลง
มีผลกระทบต่อบ้านปู
อินโดนีเซีย ส่งออกถ่านหินลดลง เป็นปัจจัยบวก ทำให้demend , supply สมดุลมากขึ้น
ออสเตรเลียค่าเงินออก แต่ปีนี้ค่าเงินผันผวนในทางแข็งแกร่งมากขึ้น ธุรกิจทั่วไปเน้นลดต้นทุนการแข่งขันให้ได้
ตะวันออกกลาง ราคาน้ำมันแตะ 30 $ ตอนนี้กลับมาที่ 40 $ ราคาน้ำมันลดลง ต้นทุนการผลิตถ่านหินลดลง
พลังงานแก๊ส ใช้ในอเมริกาตอนเหนือมากขึ้น ผลิตก็มากขึ้น ต้นทุนการผลิตที่ต่ำ
สภาวะแวดล้อมและแผนการพัฒนา Cop21 เติบโตในส่วนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง แต่ยังคงใช้ถ่านหินเป็นหลัก
มีการพัฒนาในทิศทางนั้นต่อไป
ดัชนีถ่านหินปรับตัวลดลง 64 $ไป 52.5 $ ต่อตัน ลดลง 16% แต่เราก็ลดลงในส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
เหมือนกัน เราพยายามทำธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เทคโนโลยีด้านพลังงาน ก้าวหน้าขึ้น เน้นใช้ถ่านหินแบบพลังงงานสะอาด
ปริมาณการผลิตถ่านหิน ถ้าอินโดผลิตน้อยลง ก็ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
2. ผลการดำเนินงานปี 2558 และ กลยุทธ์ในอนาคต
แผนการพัฒนา ยึดหลัก การสร้างผลตอบแทนต่อผู้มีส่วนได้เสีย ทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น
ถ่านหินและไฟฟ้าเป็นสัญญาระยะยาว กระจายความเสี่ยงไปหลายที่ อาศัยประสบการณ์อันยาวนาน
สามารถเชื่อมธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ฐานลูกค้าที่มีคุณภาพ ในที่เอเชียตอนเหนือ และ ญี่ปุ่น
เรามีสัญญาไฟฟ้าระยะยาว ทำให้มีกระแสเงินสดในระยะยาว ทำให้สอดคล้องกับธุรกิจถ่านหิน
เราระมัดระวังเรื่องหนี้สิน เป็นหลักการที่เรายึดถือกันมา มีการกำกับการบริหาร ดูแลสิ่งแวดล้อมที่ดี
เราเปิดเผยข้อมูลอย่างเปิดเผย เราอยู่ใน list ของ DJSI เป็นปีที่2 และ เป็นผู้นำในส่วน industry mover & Gold class 2559 และ ได้รับรางวัลจากตลาดหลักทรัพย์ด้วย รางวัล SET sustainability และ เข้าร่วมต่อต้านcorruptionด้วย
ภาพรวมธุรกิจถ่านหิน
ในอินโดนีเซีย เราได้ลดต้นทุนการผลิตลง 14% โดยลดสัดส่วนการเปิดหน้าดิน เราลดต้นทุนการผลิตไปที่ 49$ ต่อตัน
ออสเตรเลีย เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น เราได้รับการต่อสัญญาซื้อขายระยะยาวกับผู้ซื้อธุรกิจไฟฟ้า
ทำให้ราคาขายเฉลี่ยเป็น 70$ ต่อตัน
เหมืองถ่านหินที่ไหนที่มีต้นทุนสูงเราก็หยุดไว้ก่อน
ราคาขาย ลดลง 69$ เป็น 63 $ ลดลงแค่ 10% เทียบกับราคาอ้างอิง ซึ่งลดไปถึง 13%
จีน เราได้ขยายการผลิต 10 ล้านตันต่อปี เศรษฐกิจเติบโตลดลง
เราต้องปรับตัวต้นทุนให้สอดคล้องด้วย พัฒนาประสิทธิภาพด้านอื่นด้วย
ยังเป็นธุรกิจที่ไม่ใหญ่ แต่มีโอกาสเติบโตสูง
มองโกเลีย อยู่ในระยะการทดสอบ และ ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลครบถ้วน
เรามีแหล่งถ่านหินขนาดใหญ่3ที่แต่ยังไม่ได้เข้าสู่ตลาด
เหมืองซานอู กำลังทดลอง ว่าผันตัวเข้าสู่การขายเชิงพาณิชย์เมื่อไหร่
ภาพรวมของธุรกิจไฟฟ้า
ติดตั้ง solar farm 54 MW และ การเปิดจ่ายไฟฟ้าที่หงสา ประเทศลาว ทำแล้วเสร็จทั้ง 3 โครงการในปีนี้
จีน พลังงานไฟฟ้าและไอน้ำ นอกจากไอน้ำร้อนที่ขายหน้าหนาวแล้ว ยังมีไอน้ำหล่อเย็นขายในฤดูร้อน
ขยายเป็น 546MW ทำกำไรได้สูง 36 ล้าน$
ส่วนในไทย BLCP ถึงแม้หยุดซ่อม2ครั้ง กำไรที่ได้ยังอยู่ระดับที่ดี
โรงไฟฟ้าหงสา หน่วยที1 -2 เริ่มในเดือน มิย และ พย 15 และเปิดโรง3ในปีนี้ เมื่อเดือน มีค 59
ราคาแข่งขันได้เป็นประโยชน์แก่ไทย บางส่วนขายให้หลวงพระบาง ถือเป็นโครงการอาเซียน ซึ่งไทยเป็นหลัก
โรงไฟฟ้า ซานซีลู่กวง ใช้เทคโนโลยี HELE สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ปลายปี 2560 1,320 MW เราถือหุ้น 35% ร่วมกับ
Partner อีก 2 ราย ถือสัดส่วนใกล้เคียงกัน เริ่มก่อสร้าง และ ได้รับใบอนุญาตแล้ว ธนาคารในจีน 6 ที่ ไทย 1 ที่สนับสนุนด้านการเงิน เราใช้เทคโนโลยี High Efficiency Low Emission ( HELE )
โรงใหม่ๆจะใช้ HELE หรือ USC (Ultra-supercritical technology )
ญี่ปุ่น มีความเสี่ยงน้อยทางด้าน solar farm และ จะเติบโตขึ้นในอนาคต
กลยุทธ์ระยะยาว
พัฒนาเทคโนโลยี ใช้เวลากว่า2ปี เน้นจะเพิ่มคุณค่าในระยะยาว
สร้างความแข็งแกร่งกับธุรกิจถ่านหิน และ ก๊าซ ( Conventional energy )
ขยายไปในธุรกิจใหม่ เน้นนวัตกรรมทางพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พื้นฐานมาจากการความชำนาญในสินทรัพย์ ต่อยอดธุรกิจ ถ่านหินและไฟฟ้าเข้าด้วยกัน
ลงทุน solar farm เราได้เข้าไปลงทุน ธุรกิจก๊าซ เจาะสำรวจธุรกิจก๊าซ
แผนฉบับใหม่ เริ่มต้นจาก innovation ขยายเข้าภาคพื้นไหนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ เติบโตในระยะยาว
เรามีพื้นฐานด้านไหนที่เหมาะสมก็นำมาใช้ มีเงินทุนพร้อม เป็นแผน5ปีฉบับใหม่
เราเน้นลงทุนใช้ทุนไม่สูงเช่น solar farm , upstream conventional gas
ปี 2563 เติบโตด้วย นวัตกรรมและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แผนจะเสร็จในกลางปีนี้เพื่อนำเสนอกรรมการ
เรามองกำลังไฟ 2,400 MW ส่วนใหม่ที่เพิ่มคือธุรกิจต้นน้ำ ในอเมริกา ที่มีผู้ซื้อแน่นอน มีแนวโน้มที่เป็นบวก
การดูแลสิ่งแวดล้อม โดยใช้ Technology HELE
Logisitic ขนส่งsupply chain ผสม ถ่านหิน และ น้ำมันดีเซลในอินโดนีเซีย
กลยุทธ์ทางการเงิน RO ที่บริษัท บ้านปู , IPO ธุรกิจไฟฟ้า Banpu Power จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
โดย บ้านปู ยังถือหุ้นใหญ่อยู่
ผลประกอบการปี 2558
ยอดขายลดลง 7% ราคาขายเฉลี่ย 55 $ต่อตันลดลง 15% จากsupply เพิ่มขึ้น และ เศรษฐกิจที่จีนชะลอตัว
เราลดต้นทุน ค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง
อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ เงินสดมีมาก สามารถแข่งขันได้
โรงไฟฟ้า สร้างกระแสเงินสดได้ต่อเนื่อง
สินทรัพย์ ลดลง 5% จากหมวดที่ดิน และ อาคาร อุปกรณ์ จากการลงทุนเพิ่มในเหมือง 200ล้าน$ มีค่าเสื่อมเพิ่มขึ้น
ลูกหนี้การค้าลดลง จากปริมาณการขายลดลงในQ4
ส่วนผู้ถือหุ้นลดลง 13% มาจากการจ่ายปันผล และ แปลงค่าเงินจากบริษัทย่อย
รายได้จากการขาย ลดลง 21% มาจากราคาขายลดลง
กำไรขั้นต้น ลดลง 20%
ขาดทุนสุทธิ 1.7 cent ต่อหุ้น
หนี้สินต่อทุน เพิ่มจาก 1.18 เป็น 1.40 เท่า
ราคาถ่านหินลดลง จาก 132$ ไปที่ 62 $ ต่อตัน ถ้าราคาในอนาคตเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลต่อบริษัทดีขึ้น
Q: คุณวิชัย แนะนำอย่าไปสหรัฐลงทุนเลย ใครไปก็ขาดทุน และ ถ้ายังลงทุน ผมไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน
Q: คุณทรงวุฒิ ถามเรื่องรายงานประจำปีหน้า9 กำไรก่อนภาษี 82 ล้าน$ แต่ภาษีรายได้ 92ล้าน $ เลยขาดทุน
อยากทราบรายละเอียด และ มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่
อีกประเด็นเรื่องการแบ่งปันผลกำไร ปี58 ขาดทุนในผู้ถือหุ้นมีส่วนได้เสีย แต่กำไรในส่วนไม่มีส่วนได้เสีย
A: เรื่องภาษี 98 ล้านเหรียญ เป็นการประเมินภาษี ปี 55,54 ย้อนหลังของรัฐบาลอินโดนีเซียทำให้ภาษีเพิ่มขึ้นเป็น
98 ล้านเหรียญ ภาษีปัจจุบันอยู่ที่ 20-25%
กำไรใน ISRF non controlling เช่น ITM ถือ 65% เรารวมงบจะหักงบของเขาออกไป
พอเข้าปีที่แล้ว ตัวเลขกลายเป็น Banpu parent level ขาดทุน 43 ล้านเหรียญ มาจากบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และ อื่นๆ ส่วนผู้ถือหุ้นที่ไม่มีส่วนได้เสียได้กำไร
Q: คุณเดชา ถามเรื่องไฟฟ้า ปัจจุบัน รายได้ 169$ล้าน ไม่ถึง10% แผนห้าปีรายได้ไฟฟ้าจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่
รวมกับธุรกิจด้วย และ ถามเรื่องขาดทุนจากอนุพันธ์การเงิน มีทั้งขาดทุนและกำไร มีผลต่อกระแสเงินสดหรือไม่
A: ตัวไฟฟ้าที่นำมารวม consolidate คือ โรงไฟฟ้าในจีน 3 โรงเท่านั้นรวม รายได้ 120-150 ล้านเหรียญ ทำให้
สัดส่วนไฟฟ้าค่อนข้างต่ำ แต่ธุรกิจไฟฟ้าหลักอยู่ที่ อินโดนีเซีย และ ออสเตรเลีย
อยากให้มอง EBITDA 498 ล้านเหรียญ เป็นของไฟฟ้า 110 ล้านเหรียญ สามารถดูได้ไฟฟ้าเป็นสัดส่วน 25%
ในรูปกระแสเงินสด ส่วนตัวของโรงไฟฟ้าหงสา และ ที่ญี่ปุ่น ไม่ได้รวมเข้าไป จะมีรายได้เข้ามาปีนี้
ส่วนปีหน้า รายได้จากซานซีลู่กวงจะเข้ามาทำให้รายได้ธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 40% ในอนาคต 2,400 MW ในปี 2020
ส่วนการขาดทุนในตราสารอนุพันธ์ ถือว่าเป็นส่วนน้อยของบริษัท ปกติเป็นการขายล่วงหน้าเป็นสัดส่วนที่น้อย
ถ้าราคาขึ้น จะเป็นผลดีเพราะเราขายราคาจริงเป็นส่วนใหญ่
Q: ในที่ประชุมปีที่แล้ว บอกว่าจะให้ราคาถ่านหินเพิ่มยาก แต่ไปเร่งรายได้จากธุรกิจไฟฟ้า เลยอยากให้เร่งธุรกิจไฟฟ้าให้เร็วขึ้น เห็นมีวาระเพิ่มทุนไปสนับสนุนไฟฟ้า ก็สนับสนุน ในเรื่องแสงอาทิตย์และลม ซึ่งได้รายได้เร็วขึ้น
A: ขอรับไปพิจารณา
Q: คุณสมศักดิ์ ถามตรงๆบริษัทผลการดำเนินงานปีที่แล้วต่ำสุดใช่ไหม ปีนี้และปีหน้าเริ่มมีกำไรใช่ไหม
ราคาต้นทุนถ่านหินปัจจุบันราคาเท่าไหร่ครับ
A: ตอบได้ค่อนข้างยาก ปีที่แล้ว ถ้าหากดูเฉพาะกำไรจากดำเนินงานอยู่ 100 ล้านเหรียญ แต่เจอขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ และ ภาษีย้อนหลัง แต่ส่วนผู้ถือหุ้นไม่มีส่วนได้เสีย ยังกำไรอยู่
ตอนนี้พยายามลดค่าใช้จ่ายมากกว่า 10 ล้านเหรียญ ให้ดูผลประกอบการในเดือนหน้าดู(Q1 16 )
Q: คุณพิทักษ์ ถามว่าบ้านปู ลงทุนในธุรกิจก๊าซ อยากทราบต้นทุนเท่าไหร่ และ การเปิดธุรกิจก๊าซรวมน้ำมันหรือไม่
เทคนิคการขุดเจาะแบบใหม่ใช่ไหม ส่วนลงทุนโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น เป็นอย่างไรเทียบกับบ้านเรา
A: เราศึกษากว่าสองปี มีการสร้างทีมงานที่มีผู้บริหารที่มีประสบการณ์ทั้งคนไทยและอเมริกา มากกว่า 40ปี เราเพิ่งเข้าไป เป็นธุรกิจ upstream Shell gas ในแหล่งที่ดีที่สุดของอเมริกา เราเริ่มตัดสินใจลงทุนระดับแรก
เป็นassetที่ดีในราคาที่สมเหตุผล เราวางแผนที่จะสื่อสารเรื่องนี้ออกไป
ส่วน solar farm การ radiation 14% ในญี่ปุ่น แต่อาจได้ถึง 20% เมื่อเทียบกับไทยไม่แตกต่างมาก
Q: คุณจตุพร อยากถาม demand ที่เมืองจีนลดลง มาจากตัวเขาเองหรือคุณภาพของถ่านหินไม่ดี
ถ่านหินที่เราส่งให้จีน อยู่ใน levelไหน
รายงานการเงิน ยังมี cover exchange loss อยู่ อยากทราบว่า Loss เพราะอะไร
Q: คุณนิธิชัย 1. ถามธุรกิจไฟฟ้าที่ขยายไป ได้ IRR เท่าไหร่ ตอนนี้ EBIDA 110 ล้านเหรียญ จะได้เพิ่มเป็นเท่าไหร
2. ส่วนลงทุนในญี่ปุ่น ได้เป็น Fixed rate ในระยะยาว ถ้าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น จะขาดทุนในอนาคตไหม
ข้อ3 สภาวะถ่านหินในอนาคต มาจากการลดลงของdemand ของจีน ที่ใช้ไฟฟ้าลดลง ทำให้ import ลดลง
ท่านมองว่า ราคาถ่านหินจะอยู่ที่ระดับไหน
ข้อ4 ลงทุนใน ก๊าซ ใช้เทคโนโลยีมีความเป็นไปได้ในการทำกำไรได้ดีจริงหรือ
ข้อ5 ราคาถ่านหินมักจะผูกกับราคาน้ำมันใช่ไหม
A:
1. IRR 12% แต่บางครั้งมีเรื่อง gurantee ค่อนต่ำ เราต้องสร้าง upsize ได้ในระยะถัดๆไป ดูตัวอย่างใน BLCP ที่ได้ IRR สูงกว่าที่เราคาดการณ์ เชื่อว่าทุกโครงการจะสร้างมูลค่าเพิ่ม ปีหน้าจะมีหงสา เข้ามาด้วย
2. เราศึกษาแล้ว ต้นทุนในการผลิตในอนาคตจะลดลง แผงในอนาคตก็ราคาลดลงด้วย เราลงทุนเพื่อ Hedge กับธุรกิจถ่านหิน ต้องบริหารสัญญาให้ดี
ข้อ 4-5 ศึกษา และ รอผล ปัจจุบันมีแนวโน้มที่ดี ถ่านหินสามารถแปรเป็นแบบอื่นได้ แต่ยังไม่สามารถทำในเชิงพาณิชย์
ส่วนราคาถ่านหินผูกกับราคาน้ำมันในอดีต แต่ในช่วง3ปีที่ผ่านมา correlation ไม่ถึง 70% ราคาถ่านหินปรับตัวลดลง
ในปี 54,55 แต่ราคาน้ำมันจะนิ่ง แต่ในปี2558 ราคาถ่านหินนิ่งแต่น้ำมันลดลง
3 ความต้องการถ่านหินของจีน ลดลงด้วยมาจากเศรษฐกิจ ลดลง การถลุงเหล็กน้อยลง ทำให้การใช้ถ่านหินลดลง
ในช่วง2ปีที่ผ่านมาในจีน ความต้องการถ่านหินในจีนลดลง ราคาลดลง เขาแก้ไขโดยปิดเหมืองถ่านหินลง
ทำให้นำเข้าถ่านหินจากอินโด และ ออสเตรเลีย ลดลง
จีนมีการตั้งมาตรฐาน ห้ามนำเข้าถ่านหินที่มีความร้อนต่ำกว่า 5,500 กิโลแคลอรี่ แต่เราสูงกว่าคือ 6,350 ในอินโดนีเซีย
แต่ค่าขึ้เถ้าต่ำกว่า 5% ซึ่งลูกค้าชอบ จีนก็ชอบ
และ ที่ออสเตรเลีย ค่าความร้อน 6,700 ถือเป็นเกรดเอ สามารถส่งไปขายญี่ปุ่นได้ดี แต่มีค่าขี้เถ้ามากต้องดูแลกำจัดมาก
เราสามารถนำมาผสมกันขายเข้าไปที่ ญี่ปุ่น และ จีนได้
เรามีทีมงานติดตามในจีนดูแลธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้า เมื่อ3สัปดาห์ที่ผ่านมา มีความต้องการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยใน local
ยังอยู่ในภาวะที่บริหารได้
เราสามารถดูจาก การใช้เหล็ก , ถ่านหินได้ และ ดู ราคาน้ำมัน เช่นที่รัสเซีย และ ที่อินโดนีเซีย ถ้า supplyมาก ถ่านหินส่งออกน้อยลง เก็บไว้เอง แสดงว่าน่าจะดีขึ้น
ขอจบการสรุปการประชุมไว้แค่นี้ครับ
ก่อนอื่น ขอกล่าวชื่มชมบริษัท บ้านปูมีธรรมาภิบาลสูง ได้CG score 5
ผลประกอบการขาดทุน เนื่องจาก บริษัทที่ออสเตรเลียถูกเก็บภาษีเพิ่มย้อนหลังปี 54-55
และขาดทุนจากการทำสัญญาอนุพันธ์ แต่ผลประกอบการก่อนภาษีและสัญญาอนุพันธ์ยังกำไร
ยังจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น และ ลดผลตอบแทนกรรมการลง 30% ขอปรบมือให้ครับ
เข้าสู่คำถามและคำตอบกันครับ
Q: วาระที่1 รับทราบรายงานการประชุม ควรให้ผู้ถือหุ้นรับรองรายงานการประชุมด้วยเหมือนบริษัทอื่น
A: ประเด็นนี้มีการถามมาหลายปีไม่ต่ำกว่า5-6 ครั้ง ขอชี้แจงไม่มีประเด็นไหนในข้อกฎหมายบอกว่าต้องรับรอง
การประชุม หรือ ผู้มาประชุมวันนี้อาจไม่มาในวันนั้น ครั้งที่แล้ว 3 เมย 58 ก็post ลง web เพื่อให้ผู้ถือหุ้น
ท้วงติงได้ในปีที่แล้ว ก็เลยให้แค่รับทราบ ข้อเสนอรับไว้พิจารณาเรื่องส่งรายงานไปให้ผู้ประชุม
และ ท้วงติงภายใน2สัปดาห์
วาระที่2
ดูจากslide มากกว่า 20 แผ่น ใน Facebook เป็น3หัวข้อหลัก
1.สภาวะอุตสาหกรรมถ่านหิน
ภาพรวม จีน ความผันผวนค่าเงินหยวนมีผลกระทบต่อความต้องการถ่านหินมาก และ ใช้ไฟน้อยลง
มีผลกระทบต่อบ้านปู
อินโดนีเซีย ส่งออกถ่านหินลดลง เป็นปัจจัยบวก ทำให้demend , supply สมดุลมากขึ้น
ออสเตรเลียค่าเงินออก แต่ปีนี้ค่าเงินผันผวนในทางแข็งแกร่งมากขึ้น ธุรกิจทั่วไปเน้นลดต้นทุนการแข่งขันให้ได้
ตะวันออกกลาง ราคาน้ำมันแตะ 30 $ ตอนนี้กลับมาที่ 40 $ ราคาน้ำมันลดลง ต้นทุนการผลิตถ่านหินลดลง
พลังงานแก๊ส ใช้ในอเมริกาตอนเหนือมากขึ้น ผลิตก็มากขึ้น ต้นทุนการผลิตที่ต่ำ
สภาวะแวดล้อมและแผนการพัฒนา Cop21 เติบโตในส่วนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง แต่ยังคงใช้ถ่านหินเป็นหลัก
มีการพัฒนาในทิศทางนั้นต่อไป
ดัชนีถ่านหินปรับตัวลดลง 64 $ไป 52.5 $ ต่อตัน ลดลง 16% แต่เราก็ลดลงในส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
เหมือนกัน เราพยายามทำธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เทคโนโลยีด้านพลังงาน ก้าวหน้าขึ้น เน้นใช้ถ่านหินแบบพลังงงานสะอาด
ปริมาณการผลิตถ่านหิน ถ้าอินโดผลิตน้อยลง ก็ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
2. ผลการดำเนินงานปี 2558 และ กลยุทธ์ในอนาคต
แผนการพัฒนา ยึดหลัก การสร้างผลตอบแทนต่อผู้มีส่วนได้เสีย ทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น
ถ่านหินและไฟฟ้าเป็นสัญญาระยะยาว กระจายความเสี่ยงไปหลายที่ อาศัยประสบการณ์อันยาวนาน
สามารถเชื่อมธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ฐานลูกค้าที่มีคุณภาพ ในที่เอเชียตอนเหนือ และ ญี่ปุ่น
เรามีสัญญาไฟฟ้าระยะยาว ทำให้มีกระแสเงินสดในระยะยาว ทำให้สอดคล้องกับธุรกิจถ่านหิน
เราระมัดระวังเรื่องหนี้สิน เป็นหลักการที่เรายึดถือกันมา มีการกำกับการบริหาร ดูแลสิ่งแวดล้อมที่ดี
เราเปิดเผยข้อมูลอย่างเปิดเผย เราอยู่ใน list ของ DJSI เป็นปีที่2 และ เป็นผู้นำในส่วน industry mover & Gold class 2559 และ ได้รับรางวัลจากตลาดหลักทรัพย์ด้วย รางวัล SET sustainability และ เข้าร่วมต่อต้านcorruptionด้วย
ภาพรวมธุรกิจถ่านหิน
ในอินโดนีเซีย เราได้ลดต้นทุนการผลิตลง 14% โดยลดสัดส่วนการเปิดหน้าดิน เราลดต้นทุนการผลิตไปที่ 49$ ต่อตัน
ออสเตรเลีย เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น เราได้รับการต่อสัญญาซื้อขายระยะยาวกับผู้ซื้อธุรกิจไฟฟ้า
ทำให้ราคาขายเฉลี่ยเป็น 70$ ต่อตัน
เหมืองถ่านหินที่ไหนที่มีต้นทุนสูงเราก็หยุดไว้ก่อน
ราคาขาย ลดลง 69$ เป็น 63 $ ลดลงแค่ 10% เทียบกับราคาอ้างอิง ซึ่งลดไปถึง 13%
จีน เราได้ขยายการผลิต 10 ล้านตันต่อปี เศรษฐกิจเติบโตลดลง
เราต้องปรับตัวต้นทุนให้สอดคล้องด้วย พัฒนาประสิทธิภาพด้านอื่นด้วย
ยังเป็นธุรกิจที่ไม่ใหญ่ แต่มีโอกาสเติบโตสูง
มองโกเลีย อยู่ในระยะการทดสอบ และ ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลครบถ้วน
เรามีแหล่งถ่านหินขนาดใหญ่3ที่แต่ยังไม่ได้เข้าสู่ตลาด
เหมืองซานอู กำลังทดลอง ว่าผันตัวเข้าสู่การขายเชิงพาณิชย์เมื่อไหร่
ภาพรวมของธุรกิจไฟฟ้า
ติดตั้ง solar farm 54 MW และ การเปิดจ่ายไฟฟ้าที่หงสา ประเทศลาว ทำแล้วเสร็จทั้ง 3 โครงการในปีนี้
จีน พลังงานไฟฟ้าและไอน้ำ นอกจากไอน้ำร้อนที่ขายหน้าหนาวแล้ว ยังมีไอน้ำหล่อเย็นขายในฤดูร้อน
ขยายเป็น 546MW ทำกำไรได้สูง 36 ล้าน$
ส่วนในไทย BLCP ถึงแม้หยุดซ่อม2ครั้ง กำไรที่ได้ยังอยู่ระดับที่ดี
โรงไฟฟ้าหงสา หน่วยที1 -2 เริ่มในเดือน มิย และ พย 15 และเปิดโรง3ในปีนี้ เมื่อเดือน มีค 59
ราคาแข่งขันได้เป็นประโยชน์แก่ไทย บางส่วนขายให้หลวงพระบาง ถือเป็นโครงการอาเซียน ซึ่งไทยเป็นหลัก
โรงไฟฟ้า ซานซีลู่กวง ใช้เทคโนโลยี HELE สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ปลายปี 2560 1,320 MW เราถือหุ้น 35% ร่วมกับ
Partner อีก 2 ราย ถือสัดส่วนใกล้เคียงกัน เริ่มก่อสร้าง และ ได้รับใบอนุญาตแล้ว ธนาคารในจีน 6 ที่ ไทย 1 ที่สนับสนุนด้านการเงิน เราใช้เทคโนโลยี High Efficiency Low Emission ( HELE )
โรงใหม่ๆจะใช้ HELE หรือ USC (Ultra-supercritical technology )
ญี่ปุ่น มีความเสี่ยงน้อยทางด้าน solar farm และ จะเติบโตขึ้นในอนาคต
กลยุทธ์ระยะยาว
พัฒนาเทคโนโลยี ใช้เวลากว่า2ปี เน้นจะเพิ่มคุณค่าในระยะยาว
สร้างความแข็งแกร่งกับธุรกิจถ่านหิน และ ก๊าซ ( Conventional energy )
ขยายไปในธุรกิจใหม่ เน้นนวัตกรรมทางพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พื้นฐานมาจากการความชำนาญในสินทรัพย์ ต่อยอดธุรกิจ ถ่านหินและไฟฟ้าเข้าด้วยกัน
ลงทุน solar farm เราได้เข้าไปลงทุน ธุรกิจก๊าซ เจาะสำรวจธุรกิจก๊าซ
แผนฉบับใหม่ เริ่มต้นจาก innovation ขยายเข้าภาคพื้นไหนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ เติบโตในระยะยาว
เรามีพื้นฐานด้านไหนที่เหมาะสมก็นำมาใช้ มีเงินทุนพร้อม เป็นแผน5ปีฉบับใหม่
เราเน้นลงทุนใช้ทุนไม่สูงเช่น solar farm , upstream conventional gas
ปี 2563 เติบโตด้วย นวัตกรรมและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แผนจะเสร็จในกลางปีนี้เพื่อนำเสนอกรรมการ
เรามองกำลังไฟ 2,400 MW ส่วนใหม่ที่เพิ่มคือธุรกิจต้นน้ำ ในอเมริกา ที่มีผู้ซื้อแน่นอน มีแนวโน้มที่เป็นบวก
การดูแลสิ่งแวดล้อม โดยใช้ Technology HELE
Logisitic ขนส่งsupply chain ผสม ถ่านหิน และ น้ำมันดีเซลในอินโดนีเซีย
กลยุทธ์ทางการเงิน RO ที่บริษัท บ้านปู , IPO ธุรกิจไฟฟ้า Banpu Power จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
โดย บ้านปู ยังถือหุ้นใหญ่อยู่
ผลประกอบการปี 2558
ยอดขายลดลง 7% ราคาขายเฉลี่ย 55 $ต่อตันลดลง 15% จากsupply เพิ่มขึ้น และ เศรษฐกิจที่จีนชะลอตัว
เราลดต้นทุน ค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง
อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ เงินสดมีมาก สามารถแข่งขันได้
โรงไฟฟ้า สร้างกระแสเงินสดได้ต่อเนื่อง
สินทรัพย์ ลดลง 5% จากหมวดที่ดิน และ อาคาร อุปกรณ์ จากการลงทุนเพิ่มในเหมือง 200ล้าน$ มีค่าเสื่อมเพิ่มขึ้น
ลูกหนี้การค้าลดลง จากปริมาณการขายลดลงในQ4
ส่วนผู้ถือหุ้นลดลง 13% มาจากการจ่ายปันผล และ แปลงค่าเงินจากบริษัทย่อย
รายได้จากการขาย ลดลง 21% มาจากราคาขายลดลง
กำไรขั้นต้น ลดลง 20%
ขาดทุนสุทธิ 1.7 cent ต่อหุ้น
หนี้สินต่อทุน เพิ่มจาก 1.18 เป็น 1.40 เท่า
ราคาถ่านหินลดลง จาก 132$ ไปที่ 62 $ ต่อตัน ถ้าราคาในอนาคตเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลต่อบริษัทดีขึ้น
Q: คุณวิชัย แนะนำอย่าไปสหรัฐลงทุนเลย ใครไปก็ขาดทุน และ ถ้ายังลงทุน ผมไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน
Q: คุณทรงวุฒิ ถามเรื่องรายงานประจำปีหน้า9 กำไรก่อนภาษี 82 ล้าน$ แต่ภาษีรายได้ 92ล้าน $ เลยขาดทุน
อยากทราบรายละเอียด และ มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่
อีกประเด็นเรื่องการแบ่งปันผลกำไร ปี58 ขาดทุนในผู้ถือหุ้นมีส่วนได้เสีย แต่กำไรในส่วนไม่มีส่วนได้เสีย
A: เรื่องภาษี 98 ล้านเหรียญ เป็นการประเมินภาษี ปี 55,54 ย้อนหลังของรัฐบาลอินโดนีเซียทำให้ภาษีเพิ่มขึ้นเป็น
98 ล้านเหรียญ ภาษีปัจจุบันอยู่ที่ 20-25%
กำไรใน ISRF non controlling เช่น ITM ถือ 65% เรารวมงบจะหักงบของเขาออกไป
พอเข้าปีที่แล้ว ตัวเลขกลายเป็น Banpu parent level ขาดทุน 43 ล้านเหรียญ มาจากบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และ อื่นๆ ส่วนผู้ถือหุ้นที่ไม่มีส่วนได้เสียได้กำไร
Q: คุณเดชา ถามเรื่องไฟฟ้า ปัจจุบัน รายได้ 169$ล้าน ไม่ถึง10% แผนห้าปีรายได้ไฟฟ้าจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่
รวมกับธุรกิจด้วย และ ถามเรื่องขาดทุนจากอนุพันธ์การเงิน มีทั้งขาดทุนและกำไร มีผลต่อกระแสเงินสดหรือไม่
A: ตัวไฟฟ้าที่นำมารวม consolidate คือ โรงไฟฟ้าในจีน 3 โรงเท่านั้นรวม รายได้ 120-150 ล้านเหรียญ ทำให้
สัดส่วนไฟฟ้าค่อนข้างต่ำ แต่ธุรกิจไฟฟ้าหลักอยู่ที่ อินโดนีเซีย และ ออสเตรเลีย
อยากให้มอง EBITDA 498 ล้านเหรียญ เป็นของไฟฟ้า 110 ล้านเหรียญ สามารถดูได้ไฟฟ้าเป็นสัดส่วน 25%
ในรูปกระแสเงินสด ส่วนตัวของโรงไฟฟ้าหงสา และ ที่ญี่ปุ่น ไม่ได้รวมเข้าไป จะมีรายได้เข้ามาปีนี้
ส่วนปีหน้า รายได้จากซานซีลู่กวงจะเข้ามาทำให้รายได้ธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 40% ในอนาคต 2,400 MW ในปี 2020
ส่วนการขาดทุนในตราสารอนุพันธ์ ถือว่าเป็นส่วนน้อยของบริษัท ปกติเป็นการขายล่วงหน้าเป็นสัดส่วนที่น้อย
ถ้าราคาขึ้น จะเป็นผลดีเพราะเราขายราคาจริงเป็นส่วนใหญ่
Q: ในที่ประชุมปีที่แล้ว บอกว่าจะให้ราคาถ่านหินเพิ่มยาก แต่ไปเร่งรายได้จากธุรกิจไฟฟ้า เลยอยากให้เร่งธุรกิจไฟฟ้าให้เร็วขึ้น เห็นมีวาระเพิ่มทุนไปสนับสนุนไฟฟ้า ก็สนับสนุน ในเรื่องแสงอาทิตย์และลม ซึ่งได้รายได้เร็วขึ้น
A: ขอรับไปพิจารณา
Q: คุณสมศักดิ์ ถามตรงๆบริษัทผลการดำเนินงานปีที่แล้วต่ำสุดใช่ไหม ปีนี้และปีหน้าเริ่มมีกำไรใช่ไหม
ราคาต้นทุนถ่านหินปัจจุบันราคาเท่าไหร่ครับ
A: ตอบได้ค่อนข้างยาก ปีที่แล้ว ถ้าหากดูเฉพาะกำไรจากดำเนินงานอยู่ 100 ล้านเหรียญ แต่เจอขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ และ ภาษีย้อนหลัง แต่ส่วนผู้ถือหุ้นไม่มีส่วนได้เสีย ยังกำไรอยู่
ตอนนี้พยายามลดค่าใช้จ่ายมากกว่า 10 ล้านเหรียญ ให้ดูผลประกอบการในเดือนหน้าดู(Q1 16 )
Q: คุณพิทักษ์ ถามว่าบ้านปู ลงทุนในธุรกิจก๊าซ อยากทราบต้นทุนเท่าไหร่ และ การเปิดธุรกิจก๊าซรวมน้ำมันหรือไม่
เทคนิคการขุดเจาะแบบใหม่ใช่ไหม ส่วนลงทุนโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น เป็นอย่างไรเทียบกับบ้านเรา
A: เราศึกษากว่าสองปี มีการสร้างทีมงานที่มีผู้บริหารที่มีประสบการณ์ทั้งคนไทยและอเมริกา มากกว่า 40ปี เราเพิ่งเข้าไป เป็นธุรกิจ upstream Shell gas ในแหล่งที่ดีที่สุดของอเมริกา เราเริ่มตัดสินใจลงทุนระดับแรก
เป็นassetที่ดีในราคาที่สมเหตุผล เราวางแผนที่จะสื่อสารเรื่องนี้ออกไป
ส่วน solar farm การ radiation 14% ในญี่ปุ่น แต่อาจได้ถึง 20% เมื่อเทียบกับไทยไม่แตกต่างมาก
Q: คุณจตุพร อยากถาม demand ที่เมืองจีนลดลง มาจากตัวเขาเองหรือคุณภาพของถ่านหินไม่ดี
ถ่านหินที่เราส่งให้จีน อยู่ใน levelไหน
รายงานการเงิน ยังมี cover exchange loss อยู่ อยากทราบว่า Loss เพราะอะไร
Q: คุณนิธิชัย 1. ถามธุรกิจไฟฟ้าที่ขยายไป ได้ IRR เท่าไหร่ ตอนนี้ EBIDA 110 ล้านเหรียญ จะได้เพิ่มเป็นเท่าไหร
2. ส่วนลงทุนในญี่ปุ่น ได้เป็น Fixed rate ในระยะยาว ถ้าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น จะขาดทุนในอนาคตไหม
ข้อ3 สภาวะถ่านหินในอนาคต มาจากการลดลงของdemand ของจีน ที่ใช้ไฟฟ้าลดลง ทำให้ import ลดลง
ท่านมองว่า ราคาถ่านหินจะอยู่ที่ระดับไหน
ข้อ4 ลงทุนใน ก๊าซ ใช้เทคโนโลยีมีความเป็นไปได้ในการทำกำไรได้ดีจริงหรือ
ข้อ5 ราคาถ่านหินมักจะผูกกับราคาน้ำมันใช่ไหม
A:
1. IRR 12% แต่บางครั้งมีเรื่อง gurantee ค่อนต่ำ เราต้องสร้าง upsize ได้ในระยะถัดๆไป ดูตัวอย่างใน BLCP ที่ได้ IRR สูงกว่าที่เราคาดการณ์ เชื่อว่าทุกโครงการจะสร้างมูลค่าเพิ่ม ปีหน้าจะมีหงสา เข้ามาด้วย
2. เราศึกษาแล้ว ต้นทุนในการผลิตในอนาคตจะลดลง แผงในอนาคตก็ราคาลดลงด้วย เราลงทุนเพื่อ Hedge กับธุรกิจถ่านหิน ต้องบริหารสัญญาให้ดี
ข้อ 4-5 ศึกษา และ รอผล ปัจจุบันมีแนวโน้มที่ดี ถ่านหินสามารถแปรเป็นแบบอื่นได้ แต่ยังไม่สามารถทำในเชิงพาณิชย์
ส่วนราคาถ่านหินผูกกับราคาน้ำมันในอดีต แต่ในช่วง3ปีที่ผ่านมา correlation ไม่ถึง 70% ราคาถ่านหินปรับตัวลดลง
ในปี 54,55 แต่ราคาน้ำมันจะนิ่ง แต่ในปี2558 ราคาถ่านหินนิ่งแต่น้ำมันลดลง
3 ความต้องการถ่านหินของจีน ลดลงด้วยมาจากเศรษฐกิจ ลดลง การถลุงเหล็กน้อยลง ทำให้การใช้ถ่านหินลดลง
ในช่วง2ปีที่ผ่านมาในจีน ความต้องการถ่านหินในจีนลดลง ราคาลดลง เขาแก้ไขโดยปิดเหมืองถ่านหินลง
ทำให้นำเข้าถ่านหินจากอินโด และ ออสเตรเลีย ลดลง
จีนมีการตั้งมาตรฐาน ห้ามนำเข้าถ่านหินที่มีความร้อนต่ำกว่า 5,500 กิโลแคลอรี่ แต่เราสูงกว่าคือ 6,350 ในอินโดนีเซีย
แต่ค่าขึ้เถ้าต่ำกว่า 5% ซึ่งลูกค้าชอบ จีนก็ชอบ
และ ที่ออสเตรเลีย ค่าความร้อน 6,700 ถือเป็นเกรดเอ สามารถส่งไปขายญี่ปุ่นได้ดี แต่มีค่าขี้เถ้ามากต้องดูแลกำจัดมาก
เราสามารถนำมาผสมกันขายเข้าไปที่ ญี่ปุ่น และ จีนได้
เรามีทีมงานติดตามในจีนดูแลธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้า เมื่อ3สัปดาห์ที่ผ่านมา มีความต้องการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยใน local
ยังอยู่ในภาวะที่บริหารได้
เราสามารถดูจาก การใช้เหล็ก , ถ่านหินได้ และ ดู ราคาน้ำมัน เช่นที่รัสเซีย และ ที่อินโดนีเซีย ถ้า supplyมาก ถ่านหินส่งออกน้อยลง เก็บไว้เอง แสดงว่าน่าจะดีขึ้น
ขอจบการสรุปการประชุมไว้แค่นี้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 32
https://www.facebook.com/amornkowa/post ... 6116765233
SlideประกอบการประชุมBanpuครับ
SlideประกอบการประชุมBanpuครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 820
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 33
AGM SAT 19 เมษายน 2559 10.00 น. ณ.สโมสรทหารบก
วาระที่ 2 รับทราบผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในรอบปี 2558
ปี 2558 มีรายได้ 8,817 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2557 เพิ่มขึ้น 638 ล้านบาท = 7.8% ส่วนนึงมาจาก sell by back เป็นชิ้นส่วนที่เอามาจากลูกค้าและเอามาทำเป็นสำเร็จรูปและขายคืนลูกค้า ถ้าไม่รวม sell by back ยอดขายก็จะอยู่ที่ 7,859 ล้านบาท ซึ่งจะลดลงอยู่ที่ 2.8% เรามีรายได้จากชิ้นส่วนใหม่ที่มีอยู่ 2 part ที่ส่งให้ โตโยต้าและ ฮีโน่ ยอดขายของชิ้นส่วนใหม่อยู่ที่ 200ล้านบาท
ต้นทุนขาย 7,392 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2557 เพิ่มขึ้น 726 ล้านบาท = 11% จากส่วนนึง เป็นค่าใช้จ่ายการเพิ่มสายการผลิต
ค่าใช้จ่าย SG&A 680 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 25 ล้านบาท จากการควบคุมค่าใช้จ่าย
กำไรขั้นต้น 1,252 ล้านบาท GP อยู่ที่ 19.5% ลดลงจากปีก่อน จากยอดขายที่ลดลง
กำไรสุทธิ 642 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 8 ล้านบาท ลดลง 1% จากการปริมาณการขายปรับลดลงในบางผลิตภัณฑ์
เงินลงทุน บริษัทอนุมัติเงินลงทุนทั้งสิ้น 391 ล้านบาท
บริษัทได้ขยายแนวร่วมต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นไปยังคู่ค้าเป็นจำนวน 78 บริษัท ในปีที่ผ่านมา และเมื่อต้นปี 2559
บริษัทSAT ก็ได้สนับสนุนให้บริษัทคู่ค้าของเราประกาศเข้าร่วมเจตนารมณ์กับคณะกรรมการปฏิบัติแนวร่วมของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น (CAC) เป็นจำนวนทั้งหมด 88 บริษัท
Q- 1.รายได้จากผลิตภัณฑ์เพลาข้างของเราลดลงมาตลอดในอนาคตแนวโน้มจะเป็นอย่างไร
2.ชิ้นส่วนจานเบรคและตัวเบรค เรามีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี มาจากเหตุใดอยากให้ท่านช่วยอธิบาย
3.ชิ้นส่วนเครื่องยนต์การเกษตรเพิ่มขึ้น 10% แต่ปีนี้มีภาวะภัยแล้ง ชี้นส่วนเครื่องยนต์ทางการเกษตรจะมีแนวโน้มอย่างไร.....
4.ชิ้นส่วนใหม่ของฮีโน่จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร
5.ยอดของ sell by back คืออะไร และจะเป็นรายการเฉพาะปีเดียวหรือว่าจะมีรายการนี้ทุกปีครับ
A-1.รายได้เพลาข้างเราลดลง สาเหตุหลักมาจากโมเดลของลูกค้า.คือ TOYOTA เพิ่งออกโมเดล ใหม่เมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้มีการชะลอตัวการผลิตเพื่อผลิตโมเดลใหม่ ทำให้order ของเพลาข้างลดลงไป
2.ตัวดุมหรือเบรคเป็นยอดของ sell by back ลูกค้าจะเอางานหล่อมาให้แล้วเราก็จะฉีด ในปีถัดไปหรือปีนี้ก็มีด้วยเช่นกัน
3.ยอดขายของคูโบต้าดีขึ้น ส่วนนึงจากคูโบต้ามีการประกอบเพื่อส่งออก ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
4. ปีที่แล้วเรามี part ใหม่อยู่ 2 part ด้วยกัน ขายให้กับ ฮีโน่ ฃึ่งเป็นรถบรรทุกใหญ่ ส่วนนึงใช้ในเมืองไทย อีกส่วนส่งไปให้ ฮีโน่ที่อินโดด้วย
5. sell by back คืออะไร คือ ชิ้นส่วนที่ลูกค้าส่งมาให้เราประกอบแล้วส่งขายกลับให้ลูกค้า
วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายและแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4.ของบริษัทฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน
เป็นโครงการที่ให้ ESOPกับกรรมการฝ่ายบริหาร
Q-ทำไมโครงการESOP ถึงได้ถูกยกเลิกไป เราทำได้ไม่ถึงเป้าหมายหรืออย่างไร
A- โครงการ ESOP เป็นโครงการที่ ผู้ถือหุ้นอนุมัติไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เราจะให้หุ้นแก่ผู้บริหารได้ เรามีตัว KPI มาวัดเราวัด KPI ใน 3 ปี เราได้เพียงขั้นต่ำ และอีก 2 ปีด้วยสภาพอุตสาหกรรมรถยนต์ชะลอตัว ทำให้เราทำได้ไม่ถึงเป้าหมาย เราจำเป็นที่จะต้องลดทุนจดทะเบียนจากที่ขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้
วาระที่ 10 พิจารณาเรื่องอื่นๆ(ถ้ามี)
Q-แนวโน้มและแผนงานในปีข้างหน้าเป็นอย่างไรบ้าง ความเสี่ยง
A-ในเชิงนโยบายคณะกรรมการมีความห่วงใยบริษัทมากๆ เราได้มีการวางแผนกลยุทธ์ เมื่อมีการเกิดวิกฤตอะไรก็มีการเรียกประชุมพิเศษ เรามีความห่วงใยอุตสาหกรรมทำอะไหล่ ในบริษัทที่เป็นคนไทยล้วน ที่มีคู่แข่งที่เป็นญี่ปุ่น เราอยู่ในฐานะที่ค่อนข้างลำบากมาก
คุณ ยงเกียรติ ยอดขายของ SAT ขายให้กับ
กลุ่ม ปิคอัพ มี Market share 65 %
คูโบต้า มี Market share 20 %
รถเก๋ง รวมถึง ECO CAR มี Market share 15 %
รถบรรทุกใหญ่ มี Market share 2 %
ในปี 2559 ที่ได้คุยกับลูกค้า ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ยากลำบาก อาจจะถึงปีหน้าอีกสักปี ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาภัยแล้ง ตัวเลขของการประกอบรถยนต์ ในหลายๆค่ายบอกว่าปีนี้ น่าจะได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา บางค่ายก็บอกว่าจะได้มากกว่าปีที่แล้ว ในส่วนของ SAT มองว่ายอดการประกอบรถยนต์ของปีนี้ วางยอดไว้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วตัวเลข เครื่องยนต์ทางการเกษตร คูโบต้า น่าจะโตกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่ยังเป็นห่วงยอดขายในประเทศเพราะมีปัญหาเรื่องภัยแล้งปัญหานี้จะยาวขนาดไหนมันยังไม่แน่นอนถ้ายอดขายในประเทศลดลงเยอะถึงยอดขายส่งออกเพิ่มขึ้น
SAT ก็ยังมองว่ายอดขายน่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ก็พยายามหา order ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติม ได้เข้าไปคุยกับลูกค้า มีอยู่ 2 project ที่ยังบอกไม่ได้
น่าจะได้คำตอบภายในไตรมาส 3 อีก project เป็นชิ้นส่วนที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น เป็น project ใหญ่ที่คุยกับลูกค้า อยู่ในช่วงของการพูดคุยกัน ภายในปีนี้ก็จะรู้ผล
Q-บริษัทได้ตั้งงบลงทุนปีนี้เท่าไหร่
A-งบลงทุนปี 2559 คงไม่มีงบลงทุนใหญ่ๆ เราได้ลงทุนใหญ่ไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
งบลงทุนปีนี้ประมาณ 200 ล้าน
วาระที่ 2 รับทราบผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในรอบปี 2558
ปี 2558 มีรายได้ 8,817 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2557 เพิ่มขึ้น 638 ล้านบาท = 7.8% ส่วนนึงมาจาก sell by back เป็นชิ้นส่วนที่เอามาจากลูกค้าและเอามาทำเป็นสำเร็จรูปและขายคืนลูกค้า ถ้าไม่รวม sell by back ยอดขายก็จะอยู่ที่ 7,859 ล้านบาท ซึ่งจะลดลงอยู่ที่ 2.8% เรามีรายได้จากชิ้นส่วนใหม่ที่มีอยู่ 2 part ที่ส่งให้ โตโยต้าและ ฮีโน่ ยอดขายของชิ้นส่วนใหม่อยู่ที่ 200ล้านบาท
ต้นทุนขาย 7,392 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2557 เพิ่มขึ้น 726 ล้านบาท = 11% จากส่วนนึง เป็นค่าใช้จ่ายการเพิ่มสายการผลิต
ค่าใช้จ่าย SG&A 680 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 25 ล้านบาท จากการควบคุมค่าใช้จ่าย
กำไรขั้นต้น 1,252 ล้านบาท GP อยู่ที่ 19.5% ลดลงจากปีก่อน จากยอดขายที่ลดลง
กำไรสุทธิ 642 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 8 ล้านบาท ลดลง 1% จากการปริมาณการขายปรับลดลงในบางผลิตภัณฑ์
เงินลงทุน บริษัทอนุมัติเงินลงทุนทั้งสิ้น 391 ล้านบาท
บริษัทได้ขยายแนวร่วมต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นไปยังคู่ค้าเป็นจำนวน 78 บริษัท ในปีที่ผ่านมา และเมื่อต้นปี 2559
บริษัทSAT ก็ได้สนับสนุนให้บริษัทคู่ค้าของเราประกาศเข้าร่วมเจตนารมณ์กับคณะกรรมการปฏิบัติแนวร่วมของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น (CAC) เป็นจำนวนทั้งหมด 88 บริษัท
Q- 1.รายได้จากผลิตภัณฑ์เพลาข้างของเราลดลงมาตลอดในอนาคตแนวโน้มจะเป็นอย่างไร
2.ชิ้นส่วนจานเบรคและตัวเบรค เรามีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี มาจากเหตุใดอยากให้ท่านช่วยอธิบาย
3.ชิ้นส่วนเครื่องยนต์การเกษตรเพิ่มขึ้น 10% แต่ปีนี้มีภาวะภัยแล้ง ชี้นส่วนเครื่องยนต์ทางการเกษตรจะมีแนวโน้มอย่างไร.....
4.ชิ้นส่วนใหม่ของฮีโน่จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร
5.ยอดของ sell by back คืออะไร และจะเป็นรายการเฉพาะปีเดียวหรือว่าจะมีรายการนี้ทุกปีครับ
A-1.รายได้เพลาข้างเราลดลง สาเหตุหลักมาจากโมเดลของลูกค้า.คือ TOYOTA เพิ่งออกโมเดล ใหม่เมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้มีการชะลอตัวการผลิตเพื่อผลิตโมเดลใหม่ ทำให้order ของเพลาข้างลดลงไป
2.ตัวดุมหรือเบรคเป็นยอดของ sell by back ลูกค้าจะเอางานหล่อมาให้แล้วเราก็จะฉีด ในปีถัดไปหรือปีนี้ก็มีด้วยเช่นกัน
3.ยอดขายของคูโบต้าดีขึ้น ส่วนนึงจากคูโบต้ามีการประกอบเพื่อส่งออก ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
4. ปีที่แล้วเรามี part ใหม่อยู่ 2 part ด้วยกัน ขายให้กับ ฮีโน่ ฃึ่งเป็นรถบรรทุกใหญ่ ส่วนนึงใช้ในเมืองไทย อีกส่วนส่งไปให้ ฮีโน่ที่อินโดด้วย
5. sell by back คืออะไร คือ ชิ้นส่วนที่ลูกค้าส่งมาให้เราประกอบแล้วส่งขายกลับให้ลูกค้า
วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายและแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4.ของบริษัทฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน
เป็นโครงการที่ให้ ESOPกับกรรมการฝ่ายบริหาร
Q-ทำไมโครงการESOP ถึงได้ถูกยกเลิกไป เราทำได้ไม่ถึงเป้าหมายหรืออย่างไร
A- โครงการ ESOP เป็นโครงการที่ ผู้ถือหุ้นอนุมัติไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เราจะให้หุ้นแก่ผู้บริหารได้ เรามีตัว KPI มาวัดเราวัด KPI ใน 3 ปี เราได้เพียงขั้นต่ำ และอีก 2 ปีด้วยสภาพอุตสาหกรรมรถยนต์ชะลอตัว ทำให้เราทำได้ไม่ถึงเป้าหมาย เราจำเป็นที่จะต้องลดทุนจดทะเบียนจากที่ขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้
วาระที่ 10 พิจารณาเรื่องอื่นๆ(ถ้ามี)
Q-แนวโน้มและแผนงานในปีข้างหน้าเป็นอย่างไรบ้าง ความเสี่ยง
A-ในเชิงนโยบายคณะกรรมการมีความห่วงใยบริษัทมากๆ เราได้มีการวางแผนกลยุทธ์ เมื่อมีการเกิดวิกฤตอะไรก็มีการเรียกประชุมพิเศษ เรามีความห่วงใยอุตสาหกรรมทำอะไหล่ ในบริษัทที่เป็นคนไทยล้วน ที่มีคู่แข่งที่เป็นญี่ปุ่น เราอยู่ในฐานะที่ค่อนข้างลำบากมาก
คุณ ยงเกียรติ ยอดขายของ SAT ขายให้กับ
กลุ่ม ปิคอัพ มี Market share 65 %
คูโบต้า มี Market share 20 %
รถเก๋ง รวมถึง ECO CAR มี Market share 15 %
รถบรรทุกใหญ่ มี Market share 2 %
ในปี 2559 ที่ได้คุยกับลูกค้า ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ยากลำบาก อาจจะถึงปีหน้าอีกสักปี ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาภัยแล้ง ตัวเลขของการประกอบรถยนต์ ในหลายๆค่ายบอกว่าปีนี้ น่าจะได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา บางค่ายก็บอกว่าจะได้มากกว่าปีที่แล้ว ในส่วนของ SAT มองว่ายอดการประกอบรถยนต์ของปีนี้ วางยอดไว้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วตัวเลข เครื่องยนต์ทางการเกษตร คูโบต้า น่าจะโตกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่ยังเป็นห่วงยอดขายในประเทศเพราะมีปัญหาเรื่องภัยแล้งปัญหานี้จะยาวขนาดไหนมันยังไม่แน่นอนถ้ายอดขายในประเทศลดลงเยอะถึงยอดขายส่งออกเพิ่มขึ้น
SAT ก็ยังมองว่ายอดขายน่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ก็พยายามหา order ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติม ได้เข้าไปคุยกับลูกค้า มีอยู่ 2 project ที่ยังบอกไม่ได้
น่าจะได้คำตอบภายในไตรมาส 3 อีก project เป็นชิ้นส่วนที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น เป็น project ใหญ่ที่คุยกับลูกค้า อยู่ในช่วงของการพูดคุยกัน ภายในปีนี้ก็จะรู้ผล
Q-บริษัทได้ตั้งงบลงทุนปีนี้เท่าไหร่
A-งบลงทุนปี 2559 คงไม่มีงบลงทุนใหญ่ๆ เราได้ลงทุนใหญ่ไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
งบลงทุนปีนี้ประมาณ 200 ล้าน
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 34
AGM AMATAV 20 APR 16 14.00
ผู้ถือหุ้นมาประชุมน้อยมาก ห้องเลยดูโหรงเหรงไปหน่อย ประธานกรรมการ ดร สุรินทร์ กล่าวเปิดงานประชุมครั้งแรก
คุณสมหะทัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแจ้งว่า บริษัทพึ่งเข้าตลาดอาจยังมาไม่มากนัก
หลังจากนั้นได้กล่าวถึง ความเป็นมาของบริษัท AMATAV เป็น Holding company (ซึ่ง AMATA ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่ 73% ) เข้าไปถือหุ้น อมตะเวียดนามเป็นสัดส่วน 90% (เข้าซื้อเพิ่มอีก 20%เมื่อ พค 15 ) ที่เหลือจะเป็นบริษัท Sonadizi ถือ บริษัท อมตะเวียดนามลงทุน 2 บริษัท คือ Amata Power (Bien Hoa) Ltd และ Amata City Long Thanh JSC
การลงทุนของบริษัท
มิย 15 ได้รับอนุมัติประกอบธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม Hitech ในเมือง Long Thanh ซึ่งอยู่ในเมืองดองไนท์ บนพื้นที่ 410 Hextor
กค 58 หลังได้รับอนุมัติ จัดตั้งบริษัท Amata city Long Thanh JSC ซึ่งยื่นขอใบอนุญาติจัดตั้ง2โครงการ
1. Service city Long Thanh 122 Hextor ภายใต้ Amata city Long Thanh
2. Amata Township Long Thanh 753 Hextor
ผลการดำเนินงาน
สามารถดูรายละเอียดจาก slide ประกอบได้ครับ
รายได้รวม เพิ่มจาก 656 เป็น 810 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% มาจากการขายที่ดิน เพิ่มขึ้น 21.2%
เวียดนามไม่สามารถขายที่ดินได้แต่เป็นการเช่า50ปีแทน
กำไรก่อนค่าใช้จ่าย 272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%
กำไรสุทธิ 121 ล้านบาท ลดลง 2.4%
เนื่องจากปี 58 บริษัทลูกไม่ได้ปันผล เนื่องมาจากมีการลงทุน ดังนั้น จึงเกิดการขาดทุน 50 ล้านบาท เลยของดปันผล
ส่วนต้นปี 59 บริษัทลูกได้ปันผลในช่วง Q1 16 ดังนั้นจึงจะมีการเรียกประชุมของ AMATAV ในเดือน พค 16
เพื่อพิจารณาจ่ายปันผลระหว่างกาลแทน และจะเก็บบางส่วนไปจ่ายปันผลในต้นปีหน้าอีกที
อัปเดทเพิ่มเติม หลังการประชุม
เวียดนามใต้เหมาะกับการลงทุน ท่านอดีตนายก อานันท์ได้ชวนไปลงทุน โดยคุยกับอดีตนายก เวียดนามสมัย 20ปีก่อน
เราเลยได้มาลงทุน ในฐานะต่างชาติเป็นเจ้าแรก ที่ตามมาคือ สิงคโปร์ ส่วนญี่ปุ่น เป็นเจ้าที่สามแต่ถูกขอให้ไปลงทุน ทีฮานอยแทน
ปี 2012 เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของภาคเหนือ ญี่ปุ่นลงทุนทำท่าเรือน้ำลึกที่ไฮฟอง เราก็ไปศึกษาเชิงลึกที่นั่น มา 4ปีแล้ว
เริ่มมองเห็นโอกาสที่ จังหวัด กว่างหนิง หรือ จังหวัดที่มี ฮาลองเบย์นั่นเอง คุยกับ Partner เพื่อพัฒนาพื้นที่ 36,000 ไร่
เราได้ master plan และ ได้รับอนุมัติขั้นตอนที่1 เรายังมองภาพระยะยาว ในปีหน้า ที่เห็น Amata ไปทางภาคเหนือ
ขอจบการประชุมครับ
ผู้ถือหุ้นมาประชุมน้อยมาก ห้องเลยดูโหรงเหรงไปหน่อย ประธานกรรมการ ดร สุรินทร์ กล่าวเปิดงานประชุมครั้งแรก
คุณสมหะทัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแจ้งว่า บริษัทพึ่งเข้าตลาดอาจยังมาไม่มากนัก
หลังจากนั้นได้กล่าวถึง ความเป็นมาของบริษัท AMATAV เป็น Holding company (ซึ่ง AMATA ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่ 73% ) เข้าไปถือหุ้น อมตะเวียดนามเป็นสัดส่วน 90% (เข้าซื้อเพิ่มอีก 20%เมื่อ พค 15 ) ที่เหลือจะเป็นบริษัท Sonadizi ถือ บริษัท อมตะเวียดนามลงทุน 2 บริษัท คือ Amata Power (Bien Hoa) Ltd และ Amata City Long Thanh JSC
การลงทุนของบริษัท
มิย 15 ได้รับอนุมัติประกอบธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม Hitech ในเมือง Long Thanh ซึ่งอยู่ในเมืองดองไนท์ บนพื้นที่ 410 Hextor
กค 58 หลังได้รับอนุมัติ จัดตั้งบริษัท Amata city Long Thanh JSC ซึ่งยื่นขอใบอนุญาติจัดตั้ง2โครงการ
1. Service city Long Thanh 122 Hextor ภายใต้ Amata city Long Thanh
2. Amata Township Long Thanh 753 Hextor
ผลการดำเนินงาน
สามารถดูรายละเอียดจาก slide ประกอบได้ครับ
รายได้รวม เพิ่มจาก 656 เป็น 810 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% มาจากการขายที่ดิน เพิ่มขึ้น 21.2%
เวียดนามไม่สามารถขายที่ดินได้แต่เป็นการเช่า50ปีแทน
กำไรก่อนค่าใช้จ่าย 272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%
กำไรสุทธิ 121 ล้านบาท ลดลง 2.4%
เนื่องจากปี 58 บริษัทลูกไม่ได้ปันผล เนื่องมาจากมีการลงทุน ดังนั้น จึงเกิดการขาดทุน 50 ล้านบาท เลยของดปันผล
ส่วนต้นปี 59 บริษัทลูกได้ปันผลในช่วง Q1 16 ดังนั้นจึงจะมีการเรียกประชุมของ AMATAV ในเดือน พค 16
เพื่อพิจารณาจ่ายปันผลระหว่างกาลแทน และจะเก็บบางส่วนไปจ่ายปันผลในต้นปีหน้าอีกที
อัปเดทเพิ่มเติม หลังการประชุม
เวียดนามใต้เหมาะกับการลงทุน ท่านอดีตนายก อานันท์ได้ชวนไปลงทุน โดยคุยกับอดีตนายก เวียดนามสมัย 20ปีก่อน
เราเลยได้มาลงทุน ในฐานะต่างชาติเป็นเจ้าแรก ที่ตามมาคือ สิงคโปร์ ส่วนญี่ปุ่น เป็นเจ้าที่สามแต่ถูกขอให้ไปลงทุน ทีฮานอยแทน
ปี 2012 เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของภาคเหนือ ญี่ปุ่นลงทุนทำท่าเรือน้ำลึกที่ไฮฟอง เราก็ไปศึกษาเชิงลึกที่นั่น มา 4ปีแล้ว
เริ่มมองเห็นโอกาสที่ จังหวัด กว่างหนิง หรือ จังหวัดที่มี ฮาลองเบย์นั่นเอง คุยกับ Partner เพื่อพัฒนาพื้นที่ 36,000 ไร่
เราได้ master plan และ ได้รับอนุมัติขั้นตอนที่1 เรายังมองภาพระยะยาว ในปีหน้า ที่เห็น Amata ไปทางภาคเหนือ
ขอจบการประชุมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 35
https://www.facebook.com/amornkowa/post ... 1646694680
Slide ประกอบการประชุม AMATAV
Slide ประกอบการประชุม AMATAV
-
- Verified User
- โพสต์: 338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 36
สรุปการประชุม AGM หุ้น MAKRO ประจำปี 2016
http://www.dojii.net/2016/04/makro-agm-y2016.html#more
ปี 2015 ขยายสาขาทั้งสิ้น 16 สาขา เป็นสาขาขนาดกลาง 9 สาขา สาขาขนาดเล็ก (1,000 - 2,000 ตร.ม.) 7 สาขา สิ้นปีมีสาขารวม 98 สาขา
ยอดขายเติบโต 9.4 %YoY กำไรสุทธิเติบโต 9.3 %YoY
ปลายปีที่แล้วสำนักงานใหญ่ดำเนินการเปลี่ยนระบบจัดการข้อมูลจากระบบดั้งเดิมที่ใช้มามากกว่า 20 ปี เป็น Oracle เฟสต่อไปทำที่ Store
เปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งที่ 3 ที่มหาชัย สมุทรสาคร เป็นศูนย์กระจายอาหารสดและอาหารแช่แข็ง
ระยะเวลาการคืนทุนของร้านค้าขนาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่ (10,000 ตร.ม.) ขนาดกลาง (7,000 ตร.ม.) หรือขนาดเล็ก (ต่ำกว่า 5,000 ตร.ม.) มีระยะเวลาคืนทุนใกล้เคียงกันคือประมาณ 8 - 10 ปี
ร้านค้าขนาดใหญ่ 10,000 ตร.ม. จะไม่สร้างแล้ว
สิ้นปี 2015 มีสาขาอยู่ระหว่างก่อสร้าง 6 สาขา ปี 2016 ตั้งเป้าเปิดสาขาขนาดกลาง 10 สาขา และเปิดสาขาขนาดเล็ก 10 - 13 สาขา สาขาขนาดเล็กสามารถเปิดได้ตั้งแต่พื้นที่ 500 ตร.ม. ขึ้นไป
การขยายสาขาไปต่างประเทศปัจจุบันมีข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ค่อนข้างมาก แต่ยังไม่ตัดสินใจคาดว่าจะตัดสินใจในอีกไม่นาน
การเพิ่ม Free Float ของหุ้น ปัจจุบันมีนักลงทุนสถาบันติดต่อ CPALL เข้ามาแต่ยังติดเรื่องราคา CPALL ไม่มีนโยบายขายหุ้นขาดทุน นอกจากนี้ CPALL ยังเตรียมแผนสำหรับ PO แต่ยังต้องรอเรื่องราคาและภาวะตลาด
เป้าการเติบโตปี 2016 ไม่สามารถให้เป็นตัวเลขได้เนื่องจากเกรงจะผิดกฎของ กลต. ให้ภาพกว้างๆ ไว้ที่ GDP + 1%
MAKRO ใช้นโยบายซื้อที่ดินเป็นทางเลือกแรกในการเปิดสาขา
ภาพรวมค้าปลีกซึมๆ มากกว่า 2 ปี ด้านอาหารยังพอไปได้
หุ้นกู้ที่ขออนุมัติในปีก่อนยังไม่ได้ใช้ เตรียมไว้สำหรับการขยายไปต่างประเทศ
http://www.dojii.net/2016/04/makro-agm-y2016.html#more
ปี 2015 ขยายสาขาทั้งสิ้น 16 สาขา เป็นสาขาขนาดกลาง 9 สาขา สาขาขนาดเล็ก (1,000 - 2,000 ตร.ม.) 7 สาขา สิ้นปีมีสาขารวม 98 สาขา
ยอดขายเติบโต 9.4 %YoY กำไรสุทธิเติบโต 9.3 %YoY
ปลายปีที่แล้วสำนักงานใหญ่ดำเนินการเปลี่ยนระบบจัดการข้อมูลจากระบบดั้งเดิมที่ใช้มามากกว่า 20 ปี เป็น Oracle เฟสต่อไปทำที่ Store
เปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งที่ 3 ที่มหาชัย สมุทรสาคร เป็นศูนย์กระจายอาหารสดและอาหารแช่แข็ง
ระยะเวลาการคืนทุนของร้านค้าขนาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่ (10,000 ตร.ม.) ขนาดกลาง (7,000 ตร.ม.) หรือขนาดเล็ก (ต่ำกว่า 5,000 ตร.ม.) มีระยะเวลาคืนทุนใกล้เคียงกันคือประมาณ 8 - 10 ปี
ร้านค้าขนาดใหญ่ 10,000 ตร.ม. จะไม่สร้างแล้ว
สิ้นปี 2015 มีสาขาอยู่ระหว่างก่อสร้าง 6 สาขา ปี 2016 ตั้งเป้าเปิดสาขาขนาดกลาง 10 สาขา และเปิดสาขาขนาดเล็ก 10 - 13 สาขา สาขาขนาดเล็กสามารถเปิดได้ตั้งแต่พื้นที่ 500 ตร.ม. ขึ้นไป
การขยายสาขาไปต่างประเทศปัจจุบันมีข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ค่อนข้างมาก แต่ยังไม่ตัดสินใจคาดว่าจะตัดสินใจในอีกไม่นาน
การเพิ่ม Free Float ของหุ้น ปัจจุบันมีนักลงทุนสถาบันติดต่อ CPALL เข้ามาแต่ยังติดเรื่องราคา CPALL ไม่มีนโยบายขายหุ้นขาดทุน นอกจากนี้ CPALL ยังเตรียมแผนสำหรับ PO แต่ยังต้องรอเรื่องราคาและภาวะตลาด
เป้าการเติบโตปี 2016 ไม่สามารถให้เป็นตัวเลขได้เนื่องจากเกรงจะผิดกฎของ กลต. ให้ภาพกว้างๆ ไว้ที่ GDP + 1%
MAKRO ใช้นโยบายซื้อที่ดินเป็นทางเลือกแรกในการเปิดสาขา
ภาพรวมค้าปลีกซึมๆ มากกว่า 2 ปี ด้านอาหารยังพอไปได้
หุ้นกู้ที่ขออนุมัติในปีก่อนยังไม่ได้ใช้ เตรียมไว้สำหรับการขยายไปต่างประเทศ
-
- Verified User
- โพสต์: 820
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 37
always24 เขียน:AGM SAT 19 เมษายน 2559 10.00 น. ณ.สโมสรทหารบก
วาระที่ 2 รับทราบผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในรอบปี 2558
ปี 2558 มีรายได้ 8,817 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2557 เพิ่มขึ้น 638 ล้านบาท = 7.8% ส่วนนึงมาจาก sell buy back เป็นชิ้นส่วนที่เอามาจากลูกค้าและเอามาทำเป็นสำเร็จรูปและขายคืนลูกค้า ถ้าไม่รวม sell buy back ยอดขายก็จะอยู่ที่ 7,859 ล้านบาท ซึ่งจะลดลงอยู่ที่ 2.8% เรามีรายได้จากชิ้นส่วนใหม่ที่มีอยู่ 2 part ที่ส่งให้ โตโยต้าและ ฮีโน่ ยอดขายของชิ้นส่วนใหม่อยู่ที่ 200ล้านบาท
ต้นทุนขาย 7,392 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2557 เพิ่มขึ้น 726 ล้านบาท = 11% จากส่วนนึง เป็นค่าใช้จ่ายการเพิ่มสายการผลิต
ค่าใช้จ่าย SG&A 680 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 25 ล้านบาท จากการควบคุมค่าใช้จ่าย
กำไรขั้นต้น 1,252 ล้านบาท GP อยู่ที่ 19.5% ลดลงจากปีก่อน จากยอดขายที่ลดลง
กำไรสุทธิ 642 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 8 ล้านบาท ลดลง 1% จากการปริมาณการขายปรับลดลงในบางผลิตภัณฑ์
เงินลงทุน บริษัทอนุมัติเงินลงทุนทั้งสิ้น 391 ล้านบาท
บริษัทได้ขยายแนวร่วมต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นไปยังคู่ค้าเป็นจำนวน 78 บริษัท ในปีที่ผ่านมา และเมื่อต้นปี 2559
บริษัทSAT ก็ได้สนับสนุนให้บริษัทคู่ค้าของเราประกาศเข้าร่วมเจตนารมณ์กับคณะกรรมการปฏิบัติแนวร่วมของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น (CAC) เป็นจำนวนทั้งหมด 88 บริษัท
Q- 1.รายได้จากผลิตภัณฑ์เพลาข้างของเราลดลงมาตลอดในอนาคตแนวโน้มจะเป็นอย่างไร
2.ชิ้นส่วนจานเบรคและตัวเบรค เรามีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี มาจากเหตุใดอยากให้ท่านช่วยอธิบาย
3.ชิ้นส่วนเครื่องยนต์การเกษตรเพิ่มขึ้น 10% แต่ปีนี้มีภาวะภัยแล้ง ชี้นส่วนเครื่องยนต์ทางการเกษตรจะมีแนวโน้มอย่างไร.....
4.ชิ้นส่วนใหม่ของฮีโน่จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร
5.ยอดของ sell buy back คืออะไร และจะเป็นรายการเฉพาะปีเดียวหรือว่าจะมีรายการนี้ทุกปีครับ
A-1.รายได้เพลาข้างเราลดลง สาเหตุหลักมาจากโมเดลของลูกค้า.คือ TOYOTA เพิ่งออกโมเดล ใหม่เมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้มีการชะลอตัวการผลิตเพื่อผลิตโมเดลใหม่ ทำให้order ของเพลาข้างลดลงไป
2.ตัวดุมหรือเบรคเป็นยอดของ sell buy back ลูกค้าจะเอางานหล่อมาให้แล้วเราก็จะฉีด ในปีถัดไปหรือปีนี้ก็มีด้วยเช่นกัน
3.ยอดขายของคูโบต้าดีขึ้น ส่วนนึงจากคูโบต้ามีการประกอบเพื่อส่งออก ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
4. ปีที่แล้วเรามี part ใหม่อยู่ 2 part ด้วยกัน ขายให้กับ ฮีโน่ ฃึ่งเป็นรถบรรทุกใหญ่ ส่วนนึงใช้ในเมืองไทย อีกส่วนส่งไปให้ ฮีโน่ที่อินโดด้วย
5. sell buy back คืออะไร คือ ชิ้นส่วนที่ลูกค้าส่งมาให้เราประกอบแล้วส่งขายกลับให้ลูกค้า
วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายและแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4.ของบริษัทฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน
เป็นโครงการที่ให้ ESOPกับกรรมการฝ่ายบริหาร
Q-ทำไมโครงการESOP ถึงได้ถูกยกเลิกไป เราทำได้ไม่ถึงเป้าหมายหรืออย่างไร
A- โครงการ ESOP เป็นโครงการที่ ผู้ถือหุ้นอนุมัติไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เราจะให้หุ้นแก่ผู้บริหารได้ เรามีตัว KPI มาวัดเราวัด KPI ใน 3 ปี เราได้เพียงขั้นต่ำ และอีก 2 ปีด้วยสภาพอุตสาหกรรมรถยนต์ชะลอตัว ทำให้เราทำได้ไม่ถึงเป้าหมาย เราจำเป็นที่จะต้องลดทุนจดทะเบียนจากที่ขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้
วาระที่ 10 พิจารณาเรื่องอื่นๆ(ถ้ามี)
Q-แนวโน้มและแผนงานในปีข้างหน้าเป็นอย่างไรบ้าง ความเสี่ยง
A-ในเชิงนโยบายคณะกรรมการมีความห่วงใยบริษัทมากๆ เราได้มีการวางแผนกลยุทธ์ เมื่อมีการเกิดวิกฤตอะไรก็มีการเรียกประชุมพิเศษ เรามีความห่วงใยอุตสาหกรรมทำอะไหล่ ในบริษัทที่เป็นคนไทยล้วน ที่มีคู่แข่งที่เป็นญี่ปุ่น เราอยู่ในฐานะที่ค่อนข้างลำบากมาก
คุณ ยงเกียรติ ยอดขายของ SAT ขายให้กับ
กลุ่ม ปิคอัพ มี Market share 65 %
คูโบต้า มี Market share 20 %
รถเก๋ง รวมถึง ECO CAR มี Market share 15 %
รถบรรทุกใหญ่ มี Market share 2 %
ในปี 2559 ที่ได้คุยกับลูกค้า ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ยากลำบาก อาจจะถึงปีหน้าอีกสักปี ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาภัยแล้ง ตัวเลขของการประกอบรถยนต์ ในหลายๆค่ายบอกว่าปีนี้ น่าจะได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา บางค่ายก็บอกว่าจะได้มากกว่าปีที่แล้ว ในส่วนของ SAT มองว่ายอดการประกอบรถยนต์ของปีนี้ วางยอดไว้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วตัวเลข เครื่องยนต์ทางการเกษตร คูโบต้า น่าจะโตกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่ยังเป็นห่วงยอดขายในประเทศเพราะมีปัญหาเรื่องภัยแล้งปัญหานี้จะยาวขนาดไหนมันยังไม่แน่นอนถ้ายอดขายในประเทศลดลงเยอะถึงยอดขายส่งออกเพิ่มขึ้น
SAT ก็ยังมองว่ายอดขายน่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ก็พยายามหา order ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติม ได้เข้าไปคุยกับลูกค้า มีอยู่ 2 project ที่ยังบอกไม่ได้
น่าจะได้คำตอบภายในไตรมาส 3 อีก project เป็นชิ้นส่วนที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น เป็น project ใหญ่ที่คุยกับลูกค้า อยู่ในช่วงของการพูดคุยกัน ภายในปีนี้ก็จะรู้ผล
Q-บริษัทได้ตั้งงบลงทุนปีนี้เท่าไหร่
A-งบลงทุนปี 2559 คงไม่มีงบลงทุนใหญ่ๆ เราได้ลงทุนใหญ่ไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
งบลงทุนปีนี้ประมาณ 200 ล้าน
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 38
AGM SE-ED 21 APR 16 14.00
วันนี้ ทางซีเอ็ดได้นำสินค้า non book มาโชว์ในงานประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งปีทีแล้วโตกว่า 20% คุณทนง หวังไว้อยากโต 100%เลยมาลุ้นปีนี้ว่าโตได้อย่างที่หวังหรือเปล่า Long term คุณทนง อยากให้สัดส่วน Non book เป็น 40%
สินค้าที่มาโชว์ ในงานประชุมผู้ถือหุ้น
ขนมกรอบ ได้แก่ คางกุ้ง รสชาติใช้ได้เลย โดยเอาส่วนหัว แต่ตัดส่วนบนออกมาทอด ต่อมาก็เป็น ฟองเต้าหู้ ยังไม่ได้ชิม
ไว้หาโอกาสไปซื้อที่ร้านมาชิมบ้าง
สินค้าที่คนไทยคิดและผลิตที่จีน ได้แก่หมอนหนุนนอน หมอนใส่safety belt หมอนรองนั่งแก้ปวดหลัง เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่น เช่น เครื่องปลูกผักปลอดสารพิษ ที่charge batt รถยนต์ Mouseสุขภาพ เป็นต้น
ต้องคอยลุ้นนะครับปีนี้สินค้าที่อยู่ในใจของลูกค้า
ผมได้ฟังผู้จัดการบัญชีชี้แจงเรื่อง ค่าเช่าของร้านหนังสือ มี2รูปแบบ
แบบแรก Fixed ค่าเช่า ซึ่งได้แก่ร้านค้าในห้าง Central เป็นต้น ลูกค้าเข้าร้านเยอะ คุ้มค่าเช่า
ค่าเช่าขึ้นทุกปี ตอนนี้ค่าเช่าในห้างcentral ที่ต่างจังหวัดที่พึ่งเปิดใหม่ราคาเช่าแพงกว่าในกรุงเทพ
ก็แจ้งไปว่าไม่สนใจ เพราะมี B2Sอยู่แล้ว เเต่ทางห้างอยากให้เราไป ก็เลยต่อรองราคาได้
แบบที่สอง GP หมายถึง จ่ายตามยอดขาย โดยจ่ายเป็น GP ของยอดขาย มีตั้งแต่ 7-15% ส่วนใหญ่อยู่ที่ Lotus, BigC
ร้านค้าคนเข้าไม่เยอะเลยเจรจาตามยอดขาย
กำไรจากการขายหนังสือ จริงๆต้องdrop เยอะจากการจัดโปรโมชั่นลดราคาหน้าร้าน แต่มีการขายหนังสือเรียนไปให้กับ
สถาบันการศึกษาซึ่งได้กำไรดีกว่า ทำให้กำไรลดไม่มาก
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ ลดลง เนื่องจากการยกเลิกการเช่าคลังสินค้าเพราะเรามีของเราเองแล้ว
ส่วนที่รัฐบาลจัดรายการซื้อสินค้าช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม แล้วนำมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท
ทางซีเอ็ดไม่ได้รับประโยชน์เพราะ ไม่อยู่ในlistที่ลดหย่อนได้ และ บริษัทเตรียมตัวรับไม่ทัน
ปลายปีนี้ต้องเตรียมการณ์เพื่อรองรับการขาย ผมแนะให้นำสินค้า non book มาขายในพลาซ่าแทน
บริษัทค่อนข้างคุมเรื่องค่าใช้จ่าย ที่เห็น คือ ห้องที่จัดประชุม จ่ายแค่ประมาณ 3,000 บาท เอง IR เก่งในการต่อรองมาก
ปีที่แล้วได้เงินกู้ระยะยาวครบกำหนด จึงได้ขายเงินที่ลงทุนในกองทุนรวม 136.87 ล้านบาท ทำให้ asset ลดลง
และหนี้ก็ลดลงด้วย
ในที่ประชุม ได้มีการอนุมัติเพิ่มขอบเขตการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการทำธุรกรรมใหม่ด้วยครับ
ขอจบรายงานการประชุมไว้แค่นี้ครับ สามารถติดตามรายละเอียดของการประชุมจาก SE-ED
ซึ่งผมเคยอ่านละเอียดมากๆเลยครับ
วันนี้ ทางซีเอ็ดได้นำสินค้า non book มาโชว์ในงานประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งปีทีแล้วโตกว่า 20% คุณทนง หวังไว้อยากโต 100%เลยมาลุ้นปีนี้ว่าโตได้อย่างที่หวังหรือเปล่า Long term คุณทนง อยากให้สัดส่วน Non book เป็น 40%
สินค้าที่มาโชว์ ในงานประชุมผู้ถือหุ้น
ขนมกรอบ ได้แก่ คางกุ้ง รสชาติใช้ได้เลย โดยเอาส่วนหัว แต่ตัดส่วนบนออกมาทอด ต่อมาก็เป็น ฟองเต้าหู้ ยังไม่ได้ชิม
ไว้หาโอกาสไปซื้อที่ร้านมาชิมบ้าง
สินค้าที่คนไทยคิดและผลิตที่จีน ได้แก่หมอนหนุนนอน หมอนใส่safety belt หมอนรองนั่งแก้ปวดหลัง เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่น เช่น เครื่องปลูกผักปลอดสารพิษ ที่charge batt รถยนต์ Mouseสุขภาพ เป็นต้น
ต้องคอยลุ้นนะครับปีนี้สินค้าที่อยู่ในใจของลูกค้า
ผมได้ฟังผู้จัดการบัญชีชี้แจงเรื่อง ค่าเช่าของร้านหนังสือ มี2รูปแบบ
แบบแรก Fixed ค่าเช่า ซึ่งได้แก่ร้านค้าในห้าง Central เป็นต้น ลูกค้าเข้าร้านเยอะ คุ้มค่าเช่า
ค่าเช่าขึ้นทุกปี ตอนนี้ค่าเช่าในห้างcentral ที่ต่างจังหวัดที่พึ่งเปิดใหม่ราคาเช่าแพงกว่าในกรุงเทพ
ก็แจ้งไปว่าไม่สนใจ เพราะมี B2Sอยู่แล้ว เเต่ทางห้างอยากให้เราไป ก็เลยต่อรองราคาได้
แบบที่สอง GP หมายถึง จ่ายตามยอดขาย โดยจ่ายเป็น GP ของยอดขาย มีตั้งแต่ 7-15% ส่วนใหญ่อยู่ที่ Lotus, BigC
ร้านค้าคนเข้าไม่เยอะเลยเจรจาตามยอดขาย
กำไรจากการขายหนังสือ จริงๆต้องdrop เยอะจากการจัดโปรโมชั่นลดราคาหน้าร้าน แต่มีการขายหนังสือเรียนไปให้กับ
สถาบันการศึกษาซึ่งได้กำไรดีกว่า ทำให้กำไรลดไม่มาก
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ ลดลง เนื่องจากการยกเลิกการเช่าคลังสินค้าเพราะเรามีของเราเองแล้ว
ส่วนที่รัฐบาลจัดรายการซื้อสินค้าช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม แล้วนำมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท
ทางซีเอ็ดไม่ได้รับประโยชน์เพราะ ไม่อยู่ในlistที่ลดหย่อนได้ และ บริษัทเตรียมตัวรับไม่ทัน
ปลายปีนี้ต้องเตรียมการณ์เพื่อรองรับการขาย ผมแนะให้นำสินค้า non book มาขายในพลาซ่าแทน
บริษัทค่อนข้างคุมเรื่องค่าใช้จ่าย ที่เห็น คือ ห้องที่จัดประชุม จ่ายแค่ประมาณ 3,000 บาท เอง IR เก่งในการต่อรองมาก
ปีที่แล้วได้เงินกู้ระยะยาวครบกำหนด จึงได้ขายเงินที่ลงทุนในกองทุนรวม 136.87 ล้านบาท ทำให้ asset ลดลง
และหนี้ก็ลดลงด้วย
ในที่ประชุม ได้มีการอนุมัติเพิ่มขอบเขตการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการทำธุรกรรมใหม่ด้วยครับ
ขอจบรายงานการประชุมไว้แค่นี้ครับ สามารถติดตามรายละเอียดของการประชุมจาก SE-ED
ซึ่งผมเคยอ่านละเอียดมากๆเลยครับ
- TBJTBT
- Verified User
- โพสต์: 404
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 39
AGM MODERN
วันนี้ไป มา ซึ่งเปลี่ยนสถานที่เป็นครั้งแรก จากเดิมจะประชุมที่ตึกของ MODERN เอง มาเป็นประชุมที่โรงแรม Dusit Princess แทนในครั้งนี้ สถานที่กว้างขวางพอสมควร แต่ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
สรุปรวมๆ สิ่งที่ผู้บริหารพูด และ ถามตอบในห้องประชุม (ลำดับอาจไม่เรียงนะครับ)
- ครึ่งปีแรกตัวเลขผลประกอบการอาจยังไม่ดีนัก จากภาวะเศรษฐกิจ และการรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานที่ล่าช้า ซึ่งจะไปรับรู้ช่วงครึ่งปีหลังมากขึ้น
- จะพยายามรักษายอดขายไม่ให้ตกลง ตอนนี้ Backlog ประมาน 2700-2800 ล้าน ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อยที่ 3000 ล้าน แต่ปัจจุบันธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ Office มีการเสนอขายเยอะขึ้น และมีโปรเจกใหญ่ที่ยังไม่เซ็นต์สัญญา
- GPM ลดลงจากปัญหาทางด้านการแข่งขัน ช่วงนี้เศรษฐกิจยังไม่ค่อยดี จึงต้องเน้นไปที่การบริหารต้นทุนเป็นหลัก เพื่อรักษา GPM ไม่ให้ลดลงมากไปกว่านี้ แต่คุณทักษะก็ยอมรับว่าแนวโน้มยังอาจจะยังคงลดลงได้อีก
- เฟอร์นิเจอร์กลุ่มที่อยู่อาศัย ผลประกอบการจะมีแนวโน้มไปกับกลุ่มอสังหา ส่วนเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ผลประกอบการจะมีแนวโน้มไปพร้อมกับการลงทุน
- หนี้สูญต่ำมาก และที่คิดว่าสงสัยจะสูญก็ตั้งสำรองไว้เต็มจำนวนแล้ว สำหรับลูกค้าปัจจุบันก็จะระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ลูกค้าต้องทำแบงค์การันตี, เรียกเก็บเงินมัดจำล่วงหน้า 10-30% รับมัดจำมาแค่ไหนทำงานแค่นั้น (ปัจจุบันรับมัดจำมาแล้ว 600 ล้าน)
- ธุรกิจที่ไป joint venture กับ ITOKI ก็มีรายได้เข้ามาแล้ว แต่ยังไม่ทำกำไร ต้นทุนยังสูงอยู่ ใช้สินค้าจาก MODERN 80% ที่เหลือนำเข้ามาจาก ตปท เช่น จีน
- ยังคงมีความพยายามขยายธุรกิจไปยังกลุ่ม CLMV ปัจจุบันกำลังเจรจาขยายไปยังกัมพูชา ส่วนพม่ายังคงรอให้การเมืองนิ่งก่อน ซึ่งมีการเตรีมความพร้อมไว้แล้ว
- แต่งตั้งคุณ กิติพัฒก์ เป็นผู้จัดการใหญ่ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกกลุ่มธุรกิจ Health & Care และอยู่กับ MODERN มา 10 ปีแล้ว
- ธุรกิจการขายเฟอร์นิเจอร์แบบ Retail กระทบมากที่สุด ภาพรวมลดลง 20-30% โดยโชว์รูมของ MODERN ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ว่า MODERN เน้นงาน Project/โครงการ เป็นหลัก
- เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น MODERNFORM Health & Care จาก 60% เป็น 95% เพราะมองเห็นโอกาสในธุรกิจนี้ และ ลดปัญหาเรื่อง Conflict of interest จากการที่ ผบห คนใหม่มาจาก MHC
- ลงทุน 200 ล้าน ทำ outlet ที่นวนคร เพื่อการบริหาร Inventory และ ลดต้นทุน
- เรื่องปันผล คุณทักษะบอกว่าคงจะไม่น้อยไปกว่าปีก่อนๆ และจะพยายามจ่ายให้มากขึ้นอย่างสม่ำเสมอตามการเติบโตของบริษัท
- MHC ตั้งเป้าจะเติบโต 20-30% ในปี 59 นี้ มีการทำ M&A เพื่อดูแลลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลแบบต่อเนื่อง
แต่มีการแตกธุรกิจ Health & Care ออกไปในกลุ่มสินค้าอื่นๆมากขึ้น (Absolute Hygenic)
- MODERN คงจะไม่ขายหุ้นในบริษัทย่อยเพิ่มอีกแล้ว หลังจากขาย MFEC และ TPAC ออกไป
โดย MFEC นั้นขายได้ราคาดีมาก (ปัจจุบันยังถืออยู่เล็กน้อย)
TPAC แยกกันออกไปเติบโต ราคาที่ขายไปก็ได้ premium 40%
และคิดจะไปเติบโตต่อยังธุรกิจ Health Care และ Home Care
วันนี้ไป มา ซึ่งเปลี่ยนสถานที่เป็นครั้งแรก จากเดิมจะประชุมที่ตึกของ MODERN เอง มาเป็นประชุมที่โรงแรม Dusit Princess แทนในครั้งนี้ สถานที่กว้างขวางพอสมควร แต่ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
สรุปรวมๆ สิ่งที่ผู้บริหารพูด และ ถามตอบในห้องประชุม (ลำดับอาจไม่เรียงนะครับ)
- ครึ่งปีแรกตัวเลขผลประกอบการอาจยังไม่ดีนัก จากภาวะเศรษฐกิจ และการรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานที่ล่าช้า ซึ่งจะไปรับรู้ช่วงครึ่งปีหลังมากขึ้น
- จะพยายามรักษายอดขายไม่ให้ตกลง ตอนนี้ Backlog ประมาน 2700-2800 ล้าน ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อยที่ 3000 ล้าน แต่ปัจจุบันธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ Office มีการเสนอขายเยอะขึ้น และมีโปรเจกใหญ่ที่ยังไม่เซ็นต์สัญญา
- GPM ลดลงจากปัญหาทางด้านการแข่งขัน ช่วงนี้เศรษฐกิจยังไม่ค่อยดี จึงต้องเน้นไปที่การบริหารต้นทุนเป็นหลัก เพื่อรักษา GPM ไม่ให้ลดลงมากไปกว่านี้ แต่คุณทักษะก็ยอมรับว่าแนวโน้มยังอาจจะยังคงลดลงได้อีก
- เฟอร์นิเจอร์กลุ่มที่อยู่อาศัย ผลประกอบการจะมีแนวโน้มไปกับกลุ่มอสังหา ส่วนเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ผลประกอบการจะมีแนวโน้มไปพร้อมกับการลงทุน
- หนี้สูญต่ำมาก และที่คิดว่าสงสัยจะสูญก็ตั้งสำรองไว้เต็มจำนวนแล้ว สำหรับลูกค้าปัจจุบันก็จะระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ลูกค้าต้องทำแบงค์การันตี, เรียกเก็บเงินมัดจำล่วงหน้า 10-30% รับมัดจำมาแค่ไหนทำงานแค่นั้น (ปัจจุบันรับมัดจำมาแล้ว 600 ล้าน)
- ธุรกิจที่ไป joint venture กับ ITOKI ก็มีรายได้เข้ามาแล้ว แต่ยังไม่ทำกำไร ต้นทุนยังสูงอยู่ ใช้สินค้าจาก MODERN 80% ที่เหลือนำเข้ามาจาก ตปท เช่น จีน
- ยังคงมีความพยายามขยายธุรกิจไปยังกลุ่ม CLMV ปัจจุบันกำลังเจรจาขยายไปยังกัมพูชา ส่วนพม่ายังคงรอให้การเมืองนิ่งก่อน ซึ่งมีการเตรีมความพร้อมไว้แล้ว
- แต่งตั้งคุณ กิติพัฒก์ เป็นผู้จัดการใหญ่ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกกลุ่มธุรกิจ Health & Care และอยู่กับ MODERN มา 10 ปีแล้ว
- ธุรกิจการขายเฟอร์นิเจอร์แบบ Retail กระทบมากที่สุด ภาพรวมลดลง 20-30% โดยโชว์รูมของ MODERN ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ว่า MODERN เน้นงาน Project/โครงการ เป็นหลัก
- เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น MODERNFORM Health & Care จาก 60% เป็น 95% เพราะมองเห็นโอกาสในธุรกิจนี้ และ ลดปัญหาเรื่อง Conflict of interest จากการที่ ผบห คนใหม่มาจาก MHC
- ลงทุน 200 ล้าน ทำ outlet ที่นวนคร เพื่อการบริหาร Inventory และ ลดต้นทุน
- เรื่องปันผล คุณทักษะบอกว่าคงจะไม่น้อยไปกว่าปีก่อนๆ และจะพยายามจ่ายให้มากขึ้นอย่างสม่ำเสมอตามการเติบโตของบริษัท
- MHC ตั้งเป้าจะเติบโต 20-30% ในปี 59 นี้ มีการทำ M&A เพื่อดูแลลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลแบบต่อเนื่อง
แต่มีการแตกธุรกิจ Health & Care ออกไปในกลุ่มสินค้าอื่นๆมากขึ้น (Absolute Hygenic)
- MODERN คงจะไม่ขายหุ้นในบริษัทย่อยเพิ่มอีกแล้ว หลังจากขาย MFEC และ TPAC ออกไป
โดย MFEC นั้นขายได้ราคาดีมาก (ปัจจุบันยังถืออยู่เล็กน้อย)
TPAC แยกกันออกไปเติบโต ราคาที่ขายไปก็ได้ premium 40%
และคิดจะไปเติบโตต่อยังธุรกิจ Health Care และ Home Care
-
- Verified User
- โพสต์: 338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 40
สรุปการประชุม AGM หุ้น CPALL ประจำปี 2016
http://www.dojii.net/2016/04/cpall-agm-y2016.html#more
ปี 2015 รายได้เติบโต 9.3% YoY กำไรเติบโต 34.1% YoY
64% ของรายได้มาจากร้านสะดวกซื้อและบริษัทย่อย อีก 36% มาจาก MAKRO
จำนวนสาขา ณ สิ้นปี 2015 มีทั้งสิ้น 8,832 สาขา เพิ่มขึ้น 705 สาขาจากปี 2014 สาขาทั้งหมดอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 44% ต่างจังหวัด 56% เป็นรูปแบบที่บริษัททำเอง 44% โดยมีสาขาในปั๊ม ปตท. 14%
ยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 77,496 บาทต่อร้านต่อวัน SSSG +0.9% ยอดซื้อต่อราย 63 บาท จำนวนลูกค้า 1,261 คนต่อร้านต่อวัน เป็นจำนวนลูกค้าที่เข้าร้าน 7-11 สูงที่สุดในโลก
ระยะเวลาสินค้าคงคลัง 28 วัน ระยะเวลาชำระหนี้ 72.2 วัน วงจรเงินสด -44.2 วัน
Net Debt to EBITDA 5.1 เท่า Net Debt to Equity 4.0 เท่า ดีกว่าเงื่อนไขและข้อกำหนดของผู้ถือหุ้นกู้
ปี 2016 ตั้งเป้าเปิดสาขา 700 สาขา ภายในปี 2018 จะต้องมีสาขา 10,000 สาขา
เงินลงทุน 9,500 - 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินสำหรับขยายสาขา 3,000 - 3,200 ล้านบาท สำหรับปรับปรุงสาขา 1,300 - 1,400 ล้านบาท ลงทุนในบริษัทย่อยและศูนย์กระจายสินค้า 4,300 - 4,400 ล้านบาท ลงทุนในสินทรัพย์และระบบ IT 900 - 1,000 ล้านบาท
โครงการใหม่ปี 2016 ประกอบด้วย 1. E-Commerce และ E-Payment 2. มุมกาแฟ All Cafe 3. สินค้าสุขภาพและความงาม
หากเปรียบเทียบสัดส่วนประชากรต่อร้านสะดวกซื้อของประเทศพัฒนาแล้ว เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น ไต้หวัน จะอยู่ที่ประชากรประมาณ 2,000 คนต่อร้านสะดวกซื้อ 1 ร้าน ในขณะที่ประเทศไทยสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 4,000 คนต่อ 1 ร้าน ถ้ามองในสัดส่วนนี้ร้านสะดวกซื้อยังสามารถเติบโตได้อีก
http://www.dojii.net/2016/04/cpall-agm-y2016.html#more
ปี 2015 รายได้เติบโต 9.3% YoY กำไรเติบโต 34.1% YoY
64% ของรายได้มาจากร้านสะดวกซื้อและบริษัทย่อย อีก 36% มาจาก MAKRO
จำนวนสาขา ณ สิ้นปี 2015 มีทั้งสิ้น 8,832 สาขา เพิ่มขึ้น 705 สาขาจากปี 2014 สาขาทั้งหมดอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 44% ต่างจังหวัด 56% เป็นรูปแบบที่บริษัททำเอง 44% โดยมีสาขาในปั๊ม ปตท. 14%
ยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 77,496 บาทต่อร้านต่อวัน SSSG +0.9% ยอดซื้อต่อราย 63 บาท จำนวนลูกค้า 1,261 คนต่อร้านต่อวัน เป็นจำนวนลูกค้าที่เข้าร้าน 7-11 สูงที่สุดในโลก
ระยะเวลาสินค้าคงคลัง 28 วัน ระยะเวลาชำระหนี้ 72.2 วัน วงจรเงินสด -44.2 วัน
Net Debt to EBITDA 5.1 เท่า Net Debt to Equity 4.0 เท่า ดีกว่าเงื่อนไขและข้อกำหนดของผู้ถือหุ้นกู้
ปี 2016 ตั้งเป้าเปิดสาขา 700 สาขา ภายในปี 2018 จะต้องมีสาขา 10,000 สาขา
เงินลงทุน 9,500 - 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินสำหรับขยายสาขา 3,000 - 3,200 ล้านบาท สำหรับปรับปรุงสาขา 1,300 - 1,400 ล้านบาท ลงทุนในบริษัทย่อยและศูนย์กระจายสินค้า 4,300 - 4,400 ล้านบาท ลงทุนในสินทรัพย์และระบบ IT 900 - 1,000 ล้านบาท
โครงการใหม่ปี 2016 ประกอบด้วย 1. E-Commerce และ E-Payment 2. มุมกาแฟ All Cafe 3. สินค้าสุขภาพและความงาม
หากเปรียบเทียบสัดส่วนประชากรต่อร้านสะดวกซื้อของประเทศพัฒนาแล้ว เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น ไต้หวัน จะอยู่ที่ประชากรประมาณ 2,000 คนต่อร้านสะดวกซื้อ 1 ร้าน ในขณะที่ประเทศไทยสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 4,000 คนต่อ 1 ร้าน ถ้ามองในสัดส่วนนี้ร้านสะดวกซื้อยังสามารถเติบโตได้อีก
-
- Verified User
- โพสต์: 84
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 42
FORTH AGM @22 Apr 2016
- ธุรกิจของ Forth มีสี่ส่วน คือ EMS, Telecom, Tech-Related, Retail
- ส่วนของ EMS, Retail มีการเติบโตต่อเนื่อง
- ส่วนของ Telecom, Tech-Related ปีนี้โดยรวมดูดีขึ้น งานภาครัฐปีที่แล้วมีน้อยและอั้นมาออกปีนี้ เช่น งาน ERP การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 5000 ล้านและงาน Broadband ICT น่าจะมีการเติบโตได้
- Backlogตอนนี้มี 300 ล้าน แต่จะมีเข้าประมูลอีก 1500-2000 ล้านบาท
- ตู้บุญเติมตั้งเป้า 25000 ตู้ (Q1 ติดไปแล้ว 8000 ตู้)
- คู่แข่งที่จะเข้ามาแข่งกับตู้บุญเติมไม่ต้องห่วง ดูจากต้นทุนแล้วขายแพง คนซื้อไปน่าจะจ่ายไม่ไหว
- ตู้น้ำ RO ตอนนี้ 800 กว่าตู้ และ vending machine 200 กว่าตู้
- มองว่า vending machine จะเป็นตัว growth ตัวถัดไป เพราะว่าตอนนี้มีคนอยากขายน้ำเยอะ แต่เข้า 7-11 ไม่ได้เพราะว่าที่เต็ม แต่ที่ยังขยายตู้น้ำเยอะๆ ไม่ได้เพราะว่ามีปัญหาเรื่องการหาที่ เช่น จะไปตั้งตู้น้ำแล้วโดนร้านขายน้ำออกมาโวย หรือ ไปติดตามโรงเรียนแล้วไม่ให้ขายน้ำอัดลม
- เจ้าตลาดตู้ vending ตอนนี้ คือ 108 แต่ก็ยังมีไม่เยอะมาก ยังมีโอกาสอีกเยอะ
- มองอนาคตว่าจะติดตั้งตู่ vending machine ได้ 10000 ตู้
- ตู้น้ำมันตอนนี้ผลิตใกล้เสร็จแล้ว กำลังทดสอบอยู่
- ที่ชาร์จแบตเตอร์รี่ จะไปตั้งตามห้างสรรพสินค้า ชาร์จรถ E-hybrid 2-3 ชั่วโมง
- ส่วนธุรกิจ LED เป็นรับเหมาติดตั้ง ปีที่แล้วขาดทุนเพราะการแข่งขันสูง คาดว่าจะกำไรปีนี้
- บริการโอนเงินตอนนี้เป็น partner กับกรุงไทย เราได้ 10 บาท ต่อ transaction ถ้าโอนในกรุงไทย คนโอนเสีย 30 บาท แต่ถ้าโอนไปแบงค์อื่นเสีย 50-60 บาท
- ตู้เติมเงินที่ฟิลิปปิน กำลังซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นเดิม คิดว่าน่าจะเสร็จในครึ่งปีแรก และกำลังหาพาร์ทเนอร์ใหม่อยู่ มีปัญหาตรงการนำเข้าตู้บุญเติมจากไทยเข้าฟิลิปปิน ตอนนี้มีอยู่ 3000 กว่าตู้
- สัญญาณมือถือที่ฟิลิปปิน ไม่ค่อยเสถียรเท่าไร ถึงแม้ว่ามี 2 ซิมก็ยังมีดับบางช่วงเวลา
- ที่ฟิลลิปิน ตอนนี้ขาดทุนค่าเสื่อมอย่างเดียว ไม่ขาดทุนกระแสเงินสด
- National E-Payment มองว่าต้องใช้เวลานานและเกิดยาก ไม่ค่อยกังวลเท่าไร
- ธุรกิจของ Forth มีสี่ส่วน คือ EMS, Telecom, Tech-Related, Retail
- ส่วนของ EMS, Retail มีการเติบโตต่อเนื่อง
- ส่วนของ Telecom, Tech-Related ปีนี้โดยรวมดูดีขึ้น งานภาครัฐปีที่แล้วมีน้อยและอั้นมาออกปีนี้ เช่น งาน ERP การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 5000 ล้านและงาน Broadband ICT น่าจะมีการเติบโตได้
- Backlogตอนนี้มี 300 ล้าน แต่จะมีเข้าประมูลอีก 1500-2000 ล้านบาท
- ตู้บุญเติมตั้งเป้า 25000 ตู้ (Q1 ติดไปแล้ว 8000 ตู้)
- คู่แข่งที่จะเข้ามาแข่งกับตู้บุญเติมไม่ต้องห่วง ดูจากต้นทุนแล้วขายแพง คนซื้อไปน่าจะจ่ายไม่ไหว
- ตู้น้ำ RO ตอนนี้ 800 กว่าตู้ และ vending machine 200 กว่าตู้
- มองว่า vending machine จะเป็นตัว growth ตัวถัดไป เพราะว่าตอนนี้มีคนอยากขายน้ำเยอะ แต่เข้า 7-11 ไม่ได้เพราะว่าที่เต็ม แต่ที่ยังขยายตู้น้ำเยอะๆ ไม่ได้เพราะว่ามีปัญหาเรื่องการหาที่ เช่น จะไปตั้งตู้น้ำแล้วโดนร้านขายน้ำออกมาโวย หรือ ไปติดตามโรงเรียนแล้วไม่ให้ขายน้ำอัดลม
- เจ้าตลาดตู้ vending ตอนนี้ คือ 108 แต่ก็ยังมีไม่เยอะมาก ยังมีโอกาสอีกเยอะ
- มองอนาคตว่าจะติดตั้งตู่ vending machine ได้ 10000 ตู้
- ตู้น้ำมันตอนนี้ผลิตใกล้เสร็จแล้ว กำลังทดสอบอยู่
- ที่ชาร์จแบตเตอร์รี่ จะไปตั้งตามห้างสรรพสินค้า ชาร์จรถ E-hybrid 2-3 ชั่วโมง
- ส่วนธุรกิจ LED เป็นรับเหมาติดตั้ง ปีที่แล้วขาดทุนเพราะการแข่งขันสูง คาดว่าจะกำไรปีนี้
- บริการโอนเงินตอนนี้เป็น partner กับกรุงไทย เราได้ 10 บาท ต่อ transaction ถ้าโอนในกรุงไทย คนโอนเสีย 30 บาท แต่ถ้าโอนไปแบงค์อื่นเสีย 50-60 บาท
- ตู้เติมเงินที่ฟิลิปปิน กำลังซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นเดิม คิดว่าน่าจะเสร็จในครึ่งปีแรก และกำลังหาพาร์ทเนอร์ใหม่อยู่ มีปัญหาตรงการนำเข้าตู้บุญเติมจากไทยเข้าฟิลิปปิน ตอนนี้มีอยู่ 3000 กว่าตู้
- สัญญาณมือถือที่ฟิลิปปิน ไม่ค่อยเสถียรเท่าไร ถึงแม้ว่ามี 2 ซิมก็ยังมีดับบางช่วงเวลา
- ที่ฟิลลิปิน ตอนนี้ขาดทุนค่าเสื่อมอย่างเดียว ไม่ขาดทุนกระแสเงินสด
- National E-Payment มองว่าต้องใช้เวลานานและเกิดยาก ไม่ค่อยกังวลเท่าไร
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 43
AGM SYNEX 22 APR 16 10.00
ผมเดินทางมาถึงบริษัทประมาณ 9.30 พนักงานต้อนรับดีมากพาไปถึงลิฟท์ชั้น 1 พอออกจากลิฟท์ ก็มีคนพาต่อไปที่
ห้องลงทะเบียน สังเกตระหว่างเดิน ตอนอยู่ชั้น1 เห็น warehouse ขนาดใหญ่ sheftเก็บสินค้าสูงมาก เพราะที่นี่ใช้
Robot และ สายพานลำเลียง ในการเก็บและส่งสินค้า ส่วนชั้นบน เป็นห้องช่างที่มีการซ่อมคอมพิวเตอร์จากการสังเกต
พนักงานดูแลผู้สูงอายุดีมาก พาไปถึงที่นั่ง แถมยังช่วยหยิบที่วางของออกจากที่นั่งให้วางอาหารว่างอีกด้วย
ปีนี้บริษัทนำระบบการลงทะเบียนคล้ายกับที่Txxใช้ มาลงทะเบียนทั้งSynnexและTKS งบหลักหมื่น เป็นบริษัทในเครือ
เป็นผู้ทำให้ ดูทันสมัย และ ประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่ใช้กับTxx
Financial Highlight
รายได้บริษัทเมื่อปีที่แล้วเติบโต 12.7% เป็น 21,514.94 ล้านบาท
รายได้ ส่วนที่เติบโตมาจาก มือถือในส่วน consumer และ ส่วนของ commercial
Sales contribution มาจาก 9 ส่วนหลัก ดูจากสไลด์ สัดส่วนเยอะสุดคือ CDG 20%
GP growth 35% จาก 4.15% เป็น 4.98%
ค่าใช้จ่ายๆ เพิ่มขึ้น 21% ตามยอดขาย มาจากบุคลากร โดยจ้าง HR consultant มาอบรม
จัดการระบบองค์กร การพัฒนาคน เพิ่มผู้บริหารในบริษัทใหม่
EBIT เติบโต จาก 1.01% เป็น 1.74% คิดเป็นเงิน 373 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายด้าน Finance cost เพิ่มจาก 22 เป็น 32 ล้านบาท
กำไรสุทธิ (Net profit margin) เติบโตต่อเนื่องจาก Q1 1.52% ( 77 ล้านบาท ) เป็น 1.83% ( 99 ล้านบาท )
ใน Q4 16 ทำให้กำไรสุทธิของปีที่แล้ว เท่ากับ 1.63% (351.16 ล้านบาท)
DE Ratio ลดจาก 1.66 เท่า มาเป็น 1.37 เท่า
ROA เพิ่มขึ้นเป็น 8.55%
ROE เพิ่มจาก 8.7% เป็น 16.15%
Cash Cycle ขึ้นจาก 53 วัน มาเป็น 57 วัน เพราะเราจ่ายหนี้เร็วขึ้น ได้ส่วนลดคุ้มค่ากว่าดอกเบี้ยที่จ่าย
แสดงว่าเจ้าของแบรนด์อยากได้สภาพคล่องเลยยอมให้ส่วนลดกับ Synnex
จำนวนวันของสินค้าคงเหลือ เฉลี่ยลดลงจาก 33 วัน เป็น 31 วัน
Strategies 5 Pillars ซึ่งจะทำให้เราแตกต่างจาก Distributor รายอื่น
Focus ไปที่ 5 ส่วนดังนี้
1. People Excellence
จัดอบรม พัฒนาบุคลากร และ ศักยภาพ ผลตอบแทน การเติบโตในองค์กร
ปรับปรุงสำนักงาน ต่อเติม เพิ่มห้องประชุมมากขึ้น
2. Product & Service Excellence
ตลาดprojectปีนี้ นอกจากการเติบโตในส่วน commercial แล้ว ก็คัดเลือกสินค้าไปขายมากขึ้น
เราสร้าง Mr Synnex and the Gank ขึ้นมา ซึ่งแต่ละคนก็มีcharacter ที่มุ่งเน้นต่างกัน ถ้าใครเคยฟังoppdayจะเข้าใจครับ ทำกิจกรรมร่วมกับ dealer , program ด้านการขาย ทำอย่างไรจะให้ dealer ซื้อสินค้าเราได้
Service ทั้ง dealer และ end user เราได้รับคะแนนความพึงพอใจจากdealer สูงสุด , ประชุมกับ Vendor
3. Productivity ทำงานรวดเร็วมากขึ้น มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
4. Mergers and Acquisitions
5. Oversea Investment ตลาดพม่า โต 100% เรามองว่าปีนี้โตต่ออีก 50% ซึ่งมี project การศึกษาค่อนข้างเยอะ มองหาเป็นส่วนเพิ่มเติม ซึ่งไม่อยู่ในBudget ตอนนี้มามองที่เขมร ยังคุยกับ partner ซึ่งต้องใช้เวลา
Question& Answer
1. หนี้เสีย140บาทจากบริษัท Innertech ยังไม่มีความคืบหน้า
2. โครงการต่อต้านcorruption ตอนนี้ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากตลาดหลักทรัพย์ไปอบรมพนักงานไป3รุ่น
ยังอยู่ในการเตรียมการไปสู่level1 ก็คืบหน้าไปเรื่อยๆ
3. ส่วนเรื่องoperator ที่แจกมือถือไม่กระทบต่อบริษัท เพราะ มือถือที่แจกเป็นราคาถูก แต่สินค้าเรามีหลากหลาย
และตลาดมือถือใหญ่มาก
4. ส่วนบริษัท Prism ยอดขายได้เกือบถึงเป้า แต่ขาดทุนนิดหน่อย เราได้เปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่ ปรับโครงสร้าง เอาsolution สิ่งพิมพ์เข้าไปด้วย เป็น IT solution ไม่ใช่คู่แข่งของ TKS
5. ปีนี้บริษัทตั้งเป้าโต 8% เติบโตมากกว่าตลาด
6. สินค้าหัวเหว่ย นอกจากมือถือยังมีโอกาสขายสินค้าอื่นด้วยถือเป็นโอกาสที่ดี
ผมเสนอในที่ประชุมให้ติดต่อไปที่ไอทีซิตี้ ซึ่งผมไปฟังAGMมาว่าสนใจจะนำมือถือหัวเหว่ยไปขาย ทางคุณสุทธิดาก็บอกว่ากำลังคุยกันอยู่ ขอให้สำเร็จนะครับ
ปิดประชุม 11.30 บริษัทมีเลี้ยงข้างกลางวันให้กับผู้ถือหุ้นด้วยครับ ต้องขอบคุณมากครับ
ผมเดินทางมาถึงบริษัทประมาณ 9.30 พนักงานต้อนรับดีมากพาไปถึงลิฟท์ชั้น 1 พอออกจากลิฟท์ ก็มีคนพาต่อไปที่
ห้องลงทะเบียน สังเกตระหว่างเดิน ตอนอยู่ชั้น1 เห็น warehouse ขนาดใหญ่ sheftเก็บสินค้าสูงมาก เพราะที่นี่ใช้
Robot และ สายพานลำเลียง ในการเก็บและส่งสินค้า ส่วนชั้นบน เป็นห้องช่างที่มีการซ่อมคอมพิวเตอร์จากการสังเกต
พนักงานดูแลผู้สูงอายุดีมาก พาไปถึงที่นั่ง แถมยังช่วยหยิบที่วางของออกจากที่นั่งให้วางอาหารว่างอีกด้วย
ปีนี้บริษัทนำระบบการลงทะเบียนคล้ายกับที่Txxใช้ มาลงทะเบียนทั้งSynnexและTKS งบหลักหมื่น เป็นบริษัทในเครือ
เป็นผู้ทำให้ ดูทันสมัย และ ประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่ใช้กับTxx
Financial Highlight
รายได้บริษัทเมื่อปีที่แล้วเติบโต 12.7% เป็น 21,514.94 ล้านบาท
รายได้ ส่วนที่เติบโตมาจาก มือถือในส่วน consumer และ ส่วนของ commercial
Sales contribution มาจาก 9 ส่วนหลัก ดูจากสไลด์ สัดส่วนเยอะสุดคือ CDG 20%
GP growth 35% จาก 4.15% เป็น 4.98%
ค่าใช้จ่ายๆ เพิ่มขึ้น 21% ตามยอดขาย มาจากบุคลากร โดยจ้าง HR consultant มาอบรม
จัดการระบบองค์กร การพัฒนาคน เพิ่มผู้บริหารในบริษัทใหม่
EBIT เติบโต จาก 1.01% เป็น 1.74% คิดเป็นเงิน 373 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายด้าน Finance cost เพิ่มจาก 22 เป็น 32 ล้านบาท
กำไรสุทธิ (Net profit margin) เติบโตต่อเนื่องจาก Q1 1.52% ( 77 ล้านบาท ) เป็น 1.83% ( 99 ล้านบาท )
ใน Q4 16 ทำให้กำไรสุทธิของปีที่แล้ว เท่ากับ 1.63% (351.16 ล้านบาท)
DE Ratio ลดจาก 1.66 เท่า มาเป็น 1.37 เท่า
ROA เพิ่มขึ้นเป็น 8.55%
ROE เพิ่มจาก 8.7% เป็น 16.15%
Cash Cycle ขึ้นจาก 53 วัน มาเป็น 57 วัน เพราะเราจ่ายหนี้เร็วขึ้น ได้ส่วนลดคุ้มค่ากว่าดอกเบี้ยที่จ่าย
แสดงว่าเจ้าของแบรนด์อยากได้สภาพคล่องเลยยอมให้ส่วนลดกับ Synnex
จำนวนวันของสินค้าคงเหลือ เฉลี่ยลดลงจาก 33 วัน เป็น 31 วัน
Strategies 5 Pillars ซึ่งจะทำให้เราแตกต่างจาก Distributor รายอื่น
Focus ไปที่ 5 ส่วนดังนี้
1. People Excellence
จัดอบรม พัฒนาบุคลากร และ ศักยภาพ ผลตอบแทน การเติบโตในองค์กร
ปรับปรุงสำนักงาน ต่อเติม เพิ่มห้องประชุมมากขึ้น
2. Product & Service Excellence
ตลาดprojectปีนี้ นอกจากการเติบโตในส่วน commercial แล้ว ก็คัดเลือกสินค้าไปขายมากขึ้น
เราสร้าง Mr Synnex and the Gank ขึ้นมา ซึ่งแต่ละคนก็มีcharacter ที่มุ่งเน้นต่างกัน ถ้าใครเคยฟังoppdayจะเข้าใจครับ ทำกิจกรรมร่วมกับ dealer , program ด้านการขาย ทำอย่างไรจะให้ dealer ซื้อสินค้าเราได้
Service ทั้ง dealer และ end user เราได้รับคะแนนความพึงพอใจจากdealer สูงสุด , ประชุมกับ Vendor
3. Productivity ทำงานรวดเร็วมากขึ้น มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
4. Mergers and Acquisitions
5. Oversea Investment ตลาดพม่า โต 100% เรามองว่าปีนี้โตต่ออีก 50% ซึ่งมี project การศึกษาค่อนข้างเยอะ มองหาเป็นส่วนเพิ่มเติม ซึ่งไม่อยู่ในBudget ตอนนี้มามองที่เขมร ยังคุยกับ partner ซึ่งต้องใช้เวลา
Question& Answer
1. หนี้เสีย140บาทจากบริษัท Innertech ยังไม่มีความคืบหน้า
2. โครงการต่อต้านcorruption ตอนนี้ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากตลาดหลักทรัพย์ไปอบรมพนักงานไป3รุ่น
ยังอยู่ในการเตรียมการไปสู่level1 ก็คืบหน้าไปเรื่อยๆ
3. ส่วนเรื่องoperator ที่แจกมือถือไม่กระทบต่อบริษัท เพราะ มือถือที่แจกเป็นราคาถูก แต่สินค้าเรามีหลากหลาย
และตลาดมือถือใหญ่มาก
4. ส่วนบริษัท Prism ยอดขายได้เกือบถึงเป้า แต่ขาดทุนนิดหน่อย เราได้เปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่ ปรับโครงสร้าง เอาsolution สิ่งพิมพ์เข้าไปด้วย เป็น IT solution ไม่ใช่คู่แข่งของ TKS
5. ปีนี้บริษัทตั้งเป้าโต 8% เติบโตมากกว่าตลาด
6. สินค้าหัวเหว่ย นอกจากมือถือยังมีโอกาสขายสินค้าอื่นด้วยถือเป็นโอกาสที่ดี
ผมเสนอในที่ประชุมให้ติดต่อไปที่ไอทีซิตี้ ซึ่งผมไปฟังAGMมาว่าสนใจจะนำมือถือหัวเหว่ยไปขาย ทางคุณสุทธิดาก็บอกว่ากำลังคุยกันอยู่ ขอให้สำเร็จนะครับ
ปิดประชุม 11.30 บริษัทมีเลี้ยงข้างกลางวันให้กับผู้ถือหุ้นด้วยครับ ต้องขอบคุณมากครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 44
AGM ARROW Bitech Bangna
วันนี้ไปประชุมที่ไบเทค บางนาอีกครั้ง หลังจากไปประชุม M เมื่อศุกร์ที่แล้ว ได้เจอลุงขวดสมอย่างที่ตั้งใจซึ่งกำลังคุยกับ
คุณ ธานินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคต อยู่ ลุงขวดเลยแนะนำผมให้คุณ ธานินทร์รู้จัก หลังจากนั้น
คุณ เลิศชัย ประธานกรรมการบริหารเดินเข้ามาพอดี ลุงขวดก็แนะนำว่า เป็นมือปืนประจำคุณธานินทร์ สงสัยแซวเล่น
ลุงขวดกว้างขวางจริงๆ รู้จักผู้บริหารเยอะมากครับ เอาละมาเข้าเรื่องการประชุมเลยดีกว่า
คุณธานินทร์ แจ้งว่า โครงสร้างของทางบริษัทไม่เปลี่ยนแปลงนัก มีการเปิดบริษัท เมฆา-เอส ซึ่งทำรับเหมางานระบบในอาคาร ติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ เมื่อ ปี 2558
สินค้าหลัก ของบริษัท
1. ท่อร้อยสายไฟ คิดเป็น 68% ของรายได้ทั้งหมด
1.1. ท่อร้อยสายไฟ (EMT/IMC/RSC)
Non BOI กำลังการผลิต 16,850 ตัน ต่อปี คิดเป็น อัตราการใช้กำลังการผลิต 69.00%
BOI กำลังการผลิต 1,950 ตัน ต่อปี คิดเป็น อัตราการใช้กำลังการผลิต 92.44%
คุณธานินทร์แจ้งว่าบริษัทพยายามไปผลิตในโรงงานที่ยังมีBOI ให้เต็มกำลัง
1.2 ท่อร้อยสายไฟแบบอ่อน
กำลังการผลิต 1,000 ตัน คิดเป็น อัตราการใช้กำลังการผลิต 74.80%
1.3 ท่อร้อยสายไฟแบบอ่อนกันน้ำ
กำลังการผลิต 1,000 ตัน คิดเป็น อัตราการใช้กำลังการผลิต 74.80%
2. ท่อประปา (PP-R(80)) ไม่มีผลต่อรายได้มากนัก
3. ท่อระบายอากาศ ประเภท ท่อแข็ง ระบบลม
4. ท่อก่อสร้างระบบคอนกรีต เป็นรายแรกในไทยที่ทำธุรกิจเชิงพาณิชย์
กลยุทธ์ในการทำธุรกิจ
โครงสร้างรายได้เปลี่ยนแปลงไป มุ่งให้ตัวแทนจำหน่ายรับไปขายและบริการต่ออีกที ทำให้มีสัดส่วนรายได้ของตัวแทนจำหน่าย เป็น 66%
บริษัทรับเหมาก่อสร้าง 17%
OEM 9%
ต่างประเทศ 8%
จุดเด่น
เราเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ท่อร้อยสายไฟฟ้า เป็นที่น่าเชื่อถือ และ เป็นตัวเลือกในการทำโครงการต่างๆ
เราอยู่ในพื้นฐานของมาตรฐานสินค้า เราไม่ต้องการถูกเลือกด้วยวิธีที่ไม่ปกติ
นอกเหนือจากความเชื่อมั่น ใน สินค้า เรายังอาศัยตัวแทนจำหน่ายในการบริการ หรือ ขายสินค้า
กว่าจะก้าวมาเป็นผู้นำ ต้องให้ผู้ออกแบบ เชื่อใจต้องใช้เวลานานพอสมควร
ผลประกอบการ
รายได้รวม โต 20% , GP เพิ่ม 33.7% เติบโตอย่างสม่ำเสมอ
NP เป็นปีแรกที่โตเกิน 20% สูงสุดในกลุ่มบริษัทแปรรูปเหล็ก
เนื่องมาจากราคาเหล็กลงแรงในปีที่แล้ว และ Economy of Scale
ผมได้ขอให้พยายามรักษา NP 20%ให้ได้ ซึ่งผู้บริหาร คุณ ธานินทร์ ก็บอกว่าจะพยายามถึงแม้ปัจจัยบวกคือ
ราคาเหล็กที่ถูก ไม่มีแล้วก็ตาม งานหินครับ ขอเอาใจช่วยครับ
ต้นทุนลดลงจาก 74% เป็น 65%
กิจกรรม CSR ได้จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อให้พนักงานเรียนรู้การออม กำจัดภาระหนี้นอกระบบ ให้พนักงานอยู่
กับเราไปนานๆ
Q&A
Q: หน้า 97 หนี้เกิน12เดือน เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ขอทราบสาเหตุ
A: มาจากบริษัทรับเหมาซึ่งตัวแทนจำหน่ายไม่กล้าปล่อยให้ เลยต้องขายเองแต่เราสามารถควบคุมได้
ถ้ามีปัญหาเราก็หยุดให้เครดิต และ ใช้เงินสดซื้อคราวต่อไป เราไม่ได้ยกเป็นหนี้สงสัยจะสูญแต่ต้องตั้ง
สำรองไว้ในงบด้วย
Q: หน้า 104 เงินกู้ระยะสั้น 5 ล้านบาทจะครบกำหนด จะไปทำอะไรเพราะดอกเบี้ยสูงมาก
A: เป็นงบรวมจากบริษัทย่อย ซึ่งขอสินเชื่อยากเลยกู้จากกรรมการแทนครับ
Q: ราคาเหล็กเริ่มขึ้น เราจะรับมืออย่างไร
A: ต้องควบคุมราคาขาย การตั้งราคา ต้นปีได้ซื้อวัตถุดิบเก็บในinventoryมาพอสมควร
ดังนั้นจะรับมือกับorder ที่สั่งมาแล้วได้ แต่ถ้าเป็น order ใหม่ หรือ Projectใหม่ ก็จะขายในราคาใหม่ครับ
Q: โครงการเอาสายไฟลงดิน อยู่ในขั้นตอนไหน
A: ตอนนี้เราได้ผลิตสินค้าใหม่ เป็นท่อร้อยสายไฟใต้ดินสีส้ม เป็น stockแล้ว ส่วนขายอย่างไรติดตามจากผลประกอบการรายไตรมาส
จบการประชุม
วันนี้ไปประชุมที่ไบเทค บางนาอีกครั้ง หลังจากไปประชุม M เมื่อศุกร์ที่แล้ว ได้เจอลุงขวดสมอย่างที่ตั้งใจซึ่งกำลังคุยกับ
คุณ ธานินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคต อยู่ ลุงขวดเลยแนะนำผมให้คุณ ธานินทร์รู้จัก หลังจากนั้น
คุณ เลิศชัย ประธานกรรมการบริหารเดินเข้ามาพอดี ลุงขวดก็แนะนำว่า เป็นมือปืนประจำคุณธานินทร์ สงสัยแซวเล่น
ลุงขวดกว้างขวางจริงๆ รู้จักผู้บริหารเยอะมากครับ เอาละมาเข้าเรื่องการประชุมเลยดีกว่า
คุณธานินทร์ แจ้งว่า โครงสร้างของทางบริษัทไม่เปลี่ยนแปลงนัก มีการเปิดบริษัท เมฆา-เอส ซึ่งทำรับเหมางานระบบในอาคาร ติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ เมื่อ ปี 2558
สินค้าหลัก ของบริษัท
1. ท่อร้อยสายไฟ คิดเป็น 68% ของรายได้ทั้งหมด
1.1. ท่อร้อยสายไฟ (EMT/IMC/RSC)
Non BOI กำลังการผลิต 16,850 ตัน ต่อปี คิดเป็น อัตราการใช้กำลังการผลิต 69.00%
BOI กำลังการผลิต 1,950 ตัน ต่อปี คิดเป็น อัตราการใช้กำลังการผลิต 92.44%
คุณธานินทร์แจ้งว่าบริษัทพยายามไปผลิตในโรงงานที่ยังมีBOI ให้เต็มกำลัง
1.2 ท่อร้อยสายไฟแบบอ่อน
กำลังการผลิต 1,000 ตัน คิดเป็น อัตราการใช้กำลังการผลิต 74.80%
1.3 ท่อร้อยสายไฟแบบอ่อนกันน้ำ
กำลังการผลิต 1,000 ตัน คิดเป็น อัตราการใช้กำลังการผลิต 74.80%
2. ท่อประปา (PP-R(80)) ไม่มีผลต่อรายได้มากนัก
3. ท่อระบายอากาศ ประเภท ท่อแข็ง ระบบลม
4. ท่อก่อสร้างระบบคอนกรีต เป็นรายแรกในไทยที่ทำธุรกิจเชิงพาณิชย์
กลยุทธ์ในการทำธุรกิจ
โครงสร้างรายได้เปลี่ยนแปลงไป มุ่งให้ตัวแทนจำหน่ายรับไปขายและบริการต่ออีกที ทำให้มีสัดส่วนรายได้ของตัวแทนจำหน่าย เป็น 66%
บริษัทรับเหมาก่อสร้าง 17%
OEM 9%
ต่างประเทศ 8%
จุดเด่น
เราเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ท่อร้อยสายไฟฟ้า เป็นที่น่าเชื่อถือ และ เป็นตัวเลือกในการทำโครงการต่างๆ
เราอยู่ในพื้นฐานของมาตรฐานสินค้า เราไม่ต้องการถูกเลือกด้วยวิธีที่ไม่ปกติ
นอกเหนือจากความเชื่อมั่น ใน สินค้า เรายังอาศัยตัวแทนจำหน่ายในการบริการ หรือ ขายสินค้า
กว่าจะก้าวมาเป็นผู้นำ ต้องให้ผู้ออกแบบ เชื่อใจต้องใช้เวลานานพอสมควร
ผลประกอบการ
รายได้รวม โต 20% , GP เพิ่ม 33.7% เติบโตอย่างสม่ำเสมอ
NP เป็นปีแรกที่โตเกิน 20% สูงสุดในกลุ่มบริษัทแปรรูปเหล็ก
เนื่องมาจากราคาเหล็กลงแรงในปีที่แล้ว และ Economy of Scale
ผมได้ขอให้พยายามรักษา NP 20%ให้ได้ ซึ่งผู้บริหาร คุณ ธานินทร์ ก็บอกว่าจะพยายามถึงแม้ปัจจัยบวกคือ
ราคาเหล็กที่ถูก ไม่มีแล้วก็ตาม งานหินครับ ขอเอาใจช่วยครับ
ต้นทุนลดลงจาก 74% เป็น 65%
กิจกรรม CSR ได้จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อให้พนักงานเรียนรู้การออม กำจัดภาระหนี้นอกระบบ ให้พนักงานอยู่
กับเราไปนานๆ
Q&A
Q: หน้า 97 หนี้เกิน12เดือน เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ขอทราบสาเหตุ
A: มาจากบริษัทรับเหมาซึ่งตัวแทนจำหน่ายไม่กล้าปล่อยให้ เลยต้องขายเองแต่เราสามารถควบคุมได้
ถ้ามีปัญหาเราก็หยุดให้เครดิต และ ใช้เงินสดซื้อคราวต่อไป เราไม่ได้ยกเป็นหนี้สงสัยจะสูญแต่ต้องตั้ง
สำรองไว้ในงบด้วย
Q: หน้า 104 เงินกู้ระยะสั้น 5 ล้านบาทจะครบกำหนด จะไปทำอะไรเพราะดอกเบี้ยสูงมาก
A: เป็นงบรวมจากบริษัทย่อย ซึ่งขอสินเชื่อยากเลยกู้จากกรรมการแทนครับ
Q: ราคาเหล็กเริ่มขึ้น เราจะรับมืออย่างไร
A: ต้องควบคุมราคาขาย การตั้งราคา ต้นปีได้ซื้อวัตถุดิบเก็บในinventoryมาพอสมควร
ดังนั้นจะรับมือกับorder ที่สั่งมาแล้วได้ แต่ถ้าเป็น order ใหม่ หรือ Projectใหม่ ก็จะขายในราคาใหม่ครับ
Q: โครงการเอาสายไฟลงดิน อยู่ในขั้นตอนไหน
A: ตอนนี้เราได้ผลิตสินค้าใหม่ เป็นท่อร้อยสายไฟใต้ดินสีส้ม เป็น stockแล้ว ส่วนขายอย่างไรติดตามจากผลประกอบการรายไตรมาส
จบการประชุม
-
- Verified User
- โพสต์: 338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 45
สรุปการประชุม AGM หุ้น KAMART ประจำปี 2016
http://www.dojii.net/2016/04/kamart-agm-y2016.html#more
จ่ายปันผลเพิ่มขึ้นจาก 6 สตางค์ / ไตรมาส เป็น 7 สตางค์ ตั้งเป้าจ่ายปันผลสม่ำเสมอทุกไตรมาสจะพยายามรักษาระดับการจ่ายปันผลนี้ไว้และพยายามให้เพิ่มขึ้นในอนาคต
ปี 2558 ผิดจากที่คาดหวังที่ว่าจะมียอดขาย 1,300 - 1,400 ล้านบาทเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ธุรกิจเครื่องสำอางยังมีอัตราการเติบโตจึงทำให้บริษัทสามารถรักษาการเติบโตได้เกือบ 20%
ใช้กระแสเงินสดลงทุนในด้านอื่นๆ บ้าง ซื้อที่ดินเพิ่มขึ้น ลงทุนในหลักทรัพย์ที่ราคาต่ำๆ
ตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดี การขายทุกช่องทางเติบโตขึ้นยกเว้น KAMART SHOP แต่ Idol ของ KAMART เป็นในแบบบริษัทเครื่องสำอางระดับโลก
ทีมงานคาดหวังยอดขายปี 2559 ที่ 1,600 ล้านบาท โดยประเมินจากสินค้าที่ขายและช่องทางการจัดจำหน่าย แต่ประธานบริษัทคาดหวังยอดขายประมาณ 1,400 ล้านบาท
จะรักษา Gross Margin ให้ได้ในระดับนี้ต่อเนื่อง เชื่อว่าสามารถรักษาระดับปันผลไว้ได้
ไตรมาส 1 ยังคงพอใจในผลการดำเนินงาน
แบรนด์แต่ละแบรนด์จะมีโครงสร้างเฉพาะสำหรับแต่ละ Segment
แบรนด์รื่นรมย์ เจจูวิต้า ยังไม่อยู่ในการคำนวณรายได้หลักเนื่องจากยังมีสัดส่วนน้อย ไม่ใช่แบรนด์หลักของ KAMART
ตลาดส่งออก ไปแล้ว 10 ประเทศ การเติบโตจากต่างประเทศตั้งเป้า 200% เพราะช่วงต้นการไต่ยอดขายไม่ยาก ปี 2559 ไปเพิ่ม 2 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์และมาเลเซีย มาเลเซียเข้า Modern Trade ช่วงปลายปี 2558
เวียดนามจัดตั้งบริษัท Marketing อัตราการเติบโตดีแต่ไม่เท่าฟิลิปปินส์ คาดว่าในอีก 5 ปี เวียดนามจะเติบโตอย่างรวดเร็ว
วิธีการทำตลาดแต่ละประเทศแตกต่างกัน สินค้าที่เข้าไปแตกต่างกัน
จีน สินค้าจะเข้าไปทางนักท่องเที่ยวมากขึ้น
ตั้งเป้าบุกอาเซียนภายในปี 2020 เน้นแคธีดอล เดือนพฤษภาคมเปิดตัวที่ฟิลิปปินส์
สัดส่วนการขายมาจาก Traditional Trade 40% Modern Trade 40% ส่งออก 7 - 9% ที่เหลืออื่นๆ
ตลาดต่างประเทศเน้นเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย จีน เพราะมีประชากรมาก ประชากรอายุน้อยเยอะ เน้นประเทศที่มีภูมิอากาศ รสนิยม สีผิว ที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย
ธุรกิจเฟรนไชส์ของ KAMART แข่งขันยาก ปัจจุบันช่วย Subsidize สินค้าหลายชิ้น KAMART มุ่งเน้นในแนวทางของแบรนด์ระดับโลกมากกว่าการเปิด Shop เอง
ค่าใช้จ่ายการตลาดอยู่ประมาณ 7 - 10% ของยอดขาย พยายามควบคุมให้อยู่ในระดับเดียวกับแบรนด์ใหญ่ๆ
แบรนด์รื่นรมย์ ตั้ง Position คล้ายๆ OTOP แต่งตัววัยรุ่น กลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นและนักท่องเที่ยว
โรงงานที่ KAMART ทำเป็นเพียงการแบ่งบรรจุ และทำไม่ถึง 1 ใน 3 ของปริมาณทั้งหมด
กำลังขายธุรกิจ My Bus ออก ธุรกิจเก่าน่าจะหมดแล้ว
ทุกวันนี้ซื้อสินค้านำเข้ามาเป็นเงินสดทำให้ซื้อได้ราคาถูก ตัวเลขเจ้าหนี้การค้าจึงน้อย
http://www.dojii.net/2016/04/kamart-agm-y2016.html#more
จ่ายปันผลเพิ่มขึ้นจาก 6 สตางค์ / ไตรมาส เป็น 7 สตางค์ ตั้งเป้าจ่ายปันผลสม่ำเสมอทุกไตรมาสจะพยายามรักษาระดับการจ่ายปันผลนี้ไว้และพยายามให้เพิ่มขึ้นในอนาคต
ปี 2558 ผิดจากที่คาดหวังที่ว่าจะมียอดขาย 1,300 - 1,400 ล้านบาทเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ธุรกิจเครื่องสำอางยังมีอัตราการเติบโตจึงทำให้บริษัทสามารถรักษาการเติบโตได้เกือบ 20%
ใช้กระแสเงินสดลงทุนในด้านอื่นๆ บ้าง ซื้อที่ดินเพิ่มขึ้น ลงทุนในหลักทรัพย์ที่ราคาต่ำๆ
ตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดี การขายทุกช่องทางเติบโตขึ้นยกเว้น KAMART SHOP แต่ Idol ของ KAMART เป็นในแบบบริษัทเครื่องสำอางระดับโลก
ทีมงานคาดหวังยอดขายปี 2559 ที่ 1,600 ล้านบาท โดยประเมินจากสินค้าที่ขายและช่องทางการจัดจำหน่าย แต่ประธานบริษัทคาดหวังยอดขายประมาณ 1,400 ล้านบาท
จะรักษา Gross Margin ให้ได้ในระดับนี้ต่อเนื่อง เชื่อว่าสามารถรักษาระดับปันผลไว้ได้
ไตรมาส 1 ยังคงพอใจในผลการดำเนินงาน
แบรนด์แต่ละแบรนด์จะมีโครงสร้างเฉพาะสำหรับแต่ละ Segment
แบรนด์รื่นรมย์ เจจูวิต้า ยังไม่อยู่ในการคำนวณรายได้หลักเนื่องจากยังมีสัดส่วนน้อย ไม่ใช่แบรนด์หลักของ KAMART
ตลาดส่งออก ไปแล้ว 10 ประเทศ การเติบโตจากต่างประเทศตั้งเป้า 200% เพราะช่วงต้นการไต่ยอดขายไม่ยาก ปี 2559 ไปเพิ่ม 2 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์และมาเลเซีย มาเลเซียเข้า Modern Trade ช่วงปลายปี 2558
เวียดนามจัดตั้งบริษัท Marketing อัตราการเติบโตดีแต่ไม่เท่าฟิลิปปินส์ คาดว่าในอีก 5 ปี เวียดนามจะเติบโตอย่างรวดเร็ว
วิธีการทำตลาดแต่ละประเทศแตกต่างกัน สินค้าที่เข้าไปแตกต่างกัน
จีน สินค้าจะเข้าไปทางนักท่องเที่ยวมากขึ้น
ตั้งเป้าบุกอาเซียนภายในปี 2020 เน้นแคธีดอล เดือนพฤษภาคมเปิดตัวที่ฟิลิปปินส์
สัดส่วนการขายมาจาก Traditional Trade 40% Modern Trade 40% ส่งออก 7 - 9% ที่เหลืออื่นๆ
ตลาดต่างประเทศเน้นเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย จีน เพราะมีประชากรมาก ประชากรอายุน้อยเยอะ เน้นประเทศที่มีภูมิอากาศ รสนิยม สีผิว ที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย
ธุรกิจเฟรนไชส์ของ KAMART แข่งขันยาก ปัจจุบันช่วย Subsidize สินค้าหลายชิ้น KAMART มุ่งเน้นในแนวทางของแบรนด์ระดับโลกมากกว่าการเปิด Shop เอง
ค่าใช้จ่ายการตลาดอยู่ประมาณ 7 - 10% ของยอดขาย พยายามควบคุมให้อยู่ในระดับเดียวกับแบรนด์ใหญ่ๆ
แบรนด์รื่นรมย์ ตั้ง Position คล้ายๆ OTOP แต่งตัววัยรุ่น กลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นและนักท่องเที่ยว
โรงงานที่ KAMART ทำเป็นเพียงการแบ่งบรรจุ และทำไม่ถึง 1 ใน 3 ของปริมาณทั้งหมด
กำลังขายธุรกิจ My Bus ออก ธุรกิจเก่าน่าจะหมดแล้ว
ทุกวันนี้ซื้อสินค้านำเข้ามาเป็นเงินสดทำให้ซื้อได้ราคาถูก ตัวเลขเจ้าหนี้การค้าจึงน้อย
-
- Verified User
- โพสต์: 2016
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 46
GOOD YEAR AGM 2016
โดยรวมปีที่ผ่านมาบริษัทเน้นอยู่ 5 กิจกรรม
1.กิจกรรมสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน GOOD YEAR มีพนักงานอยู่ 800 คน และให้ความ+สำคัญไปสู่ครอบครัวของพนักงานด้วย
2.ความปลอดภัยและชีวอนามัย
3.การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนจำหน่าย
+ขณะนี้ good year มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ 61 ร้านค้า
4.กิจกรรมทางการตลาด
+ปี 2558 good year ได้ออกproductใหม่ 2รุ่นด้วยกัน คือ
4.1 GoodYear assurance duraplus
จุดขายของ GoodYear Assurance Duraplus อยู่ที่การการันตีว่า สามารถ
ใช้งานได้นานถึง 100,000 กิโลเมตร เหตุผลที่ทำให้ยางมีอายุคงทนได้
ขนาดนี้ พวกเขาบอกว่า เป็นการนำ เทคโนโลยีที่ชื่อว่า “เทรดไลฟ์”
(TredLife Technology) มาใช้กับยางรุ่นนี้ เพื่อช่วยให้ยืดอายุการใช้งาน
พอๆกับการขับรถยนต์รอบโลกถึงสองเท่าครึ่ง
ยางนี้จะเหมาะกับรถ ECO CAR ถึงรถขนาดกลาง
4.2 CARGO MARATHON 2 (คาร์โก้ มาราธอน 2)
เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถกระบะและรถตู้ โดดเด่นเรื่องความทนทานของดอกยาง ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ และยังเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางรถยนต์ให้กับผู้ขับขี่รถกระบะ
5.ธุรกิจยางเครื่องบิน
+บริษัทได้เน้นลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น และปี 2559 ตลาดกลุ่มนี้ยังโตต่อเนื่อง
งบกำไร-ขาดทุน ปี 2558 ที่โตขึ้นมีสาเหตุมาจาก
1.สินค้าขายได้มากขึ้น 5%
2.ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย
3.จำนวน ECO CAR มากขึ้น จึงต้องการยางเพิ่มขึ้น
สัดส่วนการจัดหาวัตถุดิบ
ภายในประเทศ 44%
จำแนกเป็น
+ ยางธรรมชาติ 18%
+ ผงคาร์บอนแบล็ค 5%
+ เส้นใยสังเคราะห์ 13%
+ สารเคมี 9%
จัดหาจากต่างประเทศ 56%
จำแนกเป็น
+ เส้นลวดขอบยาง 3%
+ เส้นใยสังเคราะห์ 5%
+ ผงคาร์บอนแบล็ค 6%
+ เส้นใยสังเคราะห์ 4%
+ สารเคมี 11%
+ ยางสังเคราะห์ 22%
+ เส้นลวดโครงยาง 4%
โครงสร้างรายได้
จำหน่ายในประเทศ 44%
ส่งออก 56%
จำแนกเป็นกลุ่มลูกค้า
1.Replacement market คือซื้อยางมาเปลี่ยนยางเก่า
เริ่มฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย
มีการตัดราคามากขึ้น
2.OEM ตลาดโรงงานประกอบรถยนต์
ยังคงถดถอย หลังหมดนโยบาลรถคันแรก
***NEW project***
ความจัดเจนน่าจะภายในปีนี้ ท่านประธานกล่าว
จะมีการลงทุนอย่างเป็นนัยยะสำคัญ ผมแกะความได้ว่า น่าจะลงทุนขยายกำลังการผลิตในส่วนยางที่เป็นชนิด new performance ทางยางรถยนต์และยางเครื่องบิน
+ด้วย new project นี้บริษัทถึงได้ปันผลออกมาเท่าเดิมในทั้งๆที่กำไรเพิ่มขึ้น. คือ 20 บาท/หุ้น
โดยรวมปีที่ผ่านมาบริษัทเน้นอยู่ 5 กิจกรรม
1.กิจกรรมสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน GOOD YEAR มีพนักงานอยู่ 800 คน และให้ความ+สำคัญไปสู่ครอบครัวของพนักงานด้วย
2.ความปลอดภัยและชีวอนามัย
3.การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนจำหน่าย
+ขณะนี้ good year มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ 61 ร้านค้า
4.กิจกรรมทางการตลาด
+ปี 2558 good year ได้ออกproductใหม่ 2รุ่นด้วยกัน คือ
4.1 GoodYear assurance duraplus
จุดขายของ GoodYear Assurance Duraplus อยู่ที่การการันตีว่า สามารถ
ใช้งานได้นานถึง 100,000 กิโลเมตร เหตุผลที่ทำให้ยางมีอายุคงทนได้
ขนาดนี้ พวกเขาบอกว่า เป็นการนำ เทคโนโลยีที่ชื่อว่า “เทรดไลฟ์”
(TredLife Technology) มาใช้กับยางรุ่นนี้ เพื่อช่วยให้ยืดอายุการใช้งาน
พอๆกับการขับรถยนต์รอบโลกถึงสองเท่าครึ่ง
ยางนี้จะเหมาะกับรถ ECO CAR ถึงรถขนาดกลาง
4.2 CARGO MARATHON 2 (คาร์โก้ มาราธอน 2)
เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถกระบะและรถตู้ โดดเด่นเรื่องความทนทานของดอกยาง ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ และยังเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางรถยนต์ให้กับผู้ขับขี่รถกระบะ
5.ธุรกิจยางเครื่องบิน
+บริษัทได้เน้นลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น และปี 2559 ตลาดกลุ่มนี้ยังโตต่อเนื่อง
งบกำไร-ขาดทุน ปี 2558 ที่โตขึ้นมีสาเหตุมาจาก
1.สินค้าขายได้มากขึ้น 5%
2.ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย
3.จำนวน ECO CAR มากขึ้น จึงต้องการยางเพิ่มขึ้น
สัดส่วนการจัดหาวัตถุดิบ
ภายในประเทศ 44%
จำแนกเป็น
+ ยางธรรมชาติ 18%
+ ผงคาร์บอนแบล็ค 5%
+ เส้นใยสังเคราะห์ 13%
+ สารเคมี 9%
จัดหาจากต่างประเทศ 56%
จำแนกเป็น
+ เส้นลวดขอบยาง 3%
+ เส้นใยสังเคราะห์ 5%
+ ผงคาร์บอนแบล็ค 6%
+ เส้นใยสังเคราะห์ 4%
+ สารเคมี 11%
+ ยางสังเคราะห์ 22%
+ เส้นลวดโครงยาง 4%
โครงสร้างรายได้
จำหน่ายในประเทศ 44%
ส่งออก 56%
จำแนกเป็นกลุ่มลูกค้า
1.Replacement market คือซื้อยางมาเปลี่ยนยางเก่า
เริ่มฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย
มีการตัดราคามากขึ้น
2.OEM ตลาดโรงงานประกอบรถยนต์
ยังคงถดถอย หลังหมดนโยบาลรถคันแรก
***NEW project***
ความจัดเจนน่าจะภายในปีนี้ ท่านประธานกล่าว
จะมีการลงทุนอย่างเป็นนัยยะสำคัญ ผมแกะความได้ว่า น่าจะลงทุนขยายกำลังการผลิตในส่วนยางที่เป็นชนิด new performance ทางยางรถยนต์และยางเครื่องบิน
+ด้วย new project นี้บริษัทถึงได้ปันผลออกมาเท่าเดิมในทั้งๆที่กำไรเพิ่มขึ้น. คือ 20 บาท/หุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 365
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 47
สรุป AGM ประชุมผู้ถือหุ้น CMR : บริษัท เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ จำกัด (มหาชน)
สถานที่จัดการประชุม ห้องประชุมชั้น 9 อาคาร 1 โรงพยาบาลวิภาวดี
26 เม.ย. 2559 เวลา 11:00 น.
ใช้เวลารวมแค่ 1 ชม.นิดๆเท่านั้น แต่ละวาระ ผ่านอย่างรวดเร็วครับ
วาระที่สำคัญ
1. แตกพาร์เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง จากพาร์ 10 บาท เหลือพาร์ละ 0.10 บาท จากเดิมจะมีหุ้นหมุนเวียนจาก Free float แค่วันละ 6 ล้านหุ้นเท่านั้น เมื่อแตกพาร์แล้ว หุ้นหมุนเวียนจาก Free floatจะเพิ่มเป็น 600 ล้านหุ้น
2. อนุมัติขายที่ดิน เนื้อที่รวมทั้งสิ้น 11 ไร่ 3 งาน 18.2 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ในมูลค่า 386.90 ล้านบาท ให้บริษัทลูก โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม เพื่อนำไปพัฒนาเตรียมเปิดโครงการโพลีคลินิค
Q: ทำไมปี 58 สัดส่วนการปันผลเทียบจากกำไรสุทธิ น้อยกว่าสัดส่วนปันผลของปี 57
A: เนื่องจากต้องกันเงินไว้ลงทุนเปิดอาคารใหม่ของโรงพยาบาลลานนาเพิ่ม Capacity อาคารเดิม ค่อนข้างแน่นแล้ว
เพราะลูกค้าประกันสังคมเพิ่มขึ้นมากในปีที่ผ่านมา
Q: อยากทราบเป้ารายได้ของปี 59 และภายใน 3 ปี ข้างหน้า
A: เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 10%
Q: หลังจากเริ่มเปิด AEC แล้ว ตอนนี้สัดส่วนลูกค้าต่างชาติ มากน้อยแค่ไหน
A: สัดส่วนมีเพียงเล็กน้อย เนื่องจากไม่ได้เน้นลูกค้ากลุ่มนี้เหมือนทางกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ (จะมีแค่ในส่วนโพลีคลีนิค ของโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ที่จะเปิด ส.ค. 59 นี้ ที่อาจจะไว้รองรับ ลูกค้าต่างชาติ)
สถานที่จัดการประชุม ห้องประชุมชั้น 9 อาคาร 1 โรงพยาบาลวิภาวดี
26 เม.ย. 2559 เวลา 11:00 น.
ใช้เวลารวมแค่ 1 ชม.นิดๆเท่านั้น แต่ละวาระ ผ่านอย่างรวดเร็วครับ
วาระที่สำคัญ
1. แตกพาร์เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง จากพาร์ 10 บาท เหลือพาร์ละ 0.10 บาท จากเดิมจะมีหุ้นหมุนเวียนจาก Free float แค่วันละ 6 ล้านหุ้นเท่านั้น เมื่อแตกพาร์แล้ว หุ้นหมุนเวียนจาก Free floatจะเพิ่มเป็น 600 ล้านหุ้น
2. อนุมัติขายที่ดิน เนื้อที่รวมทั้งสิ้น 11 ไร่ 3 งาน 18.2 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ในมูลค่า 386.90 ล้านบาท ให้บริษัทลูก โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม เพื่อนำไปพัฒนาเตรียมเปิดโครงการโพลีคลินิค
Q: ทำไมปี 58 สัดส่วนการปันผลเทียบจากกำไรสุทธิ น้อยกว่าสัดส่วนปันผลของปี 57
A: เนื่องจากต้องกันเงินไว้ลงทุนเปิดอาคารใหม่ของโรงพยาบาลลานนาเพิ่ม Capacity อาคารเดิม ค่อนข้างแน่นแล้ว
เพราะลูกค้าประกันสังคมเพิ่มขึ้นมากในปีที่ผ่านมา
Q: อยากทราบเป้ารายได้ของปี 59 และภายใน 3 ปี ข้างหน้า
A: เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 10%
Q: หลังจากเริ่มเปิด AEC แล้ว ตอนนี้สัดส่วนลูกค้าต่างชาติ มากน้อยแค่ไหน
A: สัดส่วนมีเพียงเล็กน้อย เนื่องจากไม่ได้เน้นลูกค้ากลุ่มนี้เหมือนทางกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ (จะมีแค่ในส่วนโพลีคลีนิค ของโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ที่จะเปิด ส.ค. 59 นี้ ที่อาจจะไว้รองรับ ลูกค้าต่างชาติ)
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 48
AGM CI 27 APR 16 14.00
คุณศรีวรา ประธานกรรมการ กล่าวเปิดงาน ได้พูดถึงวิกฤตเศรษฐกิจไทยและของโลกทั้งอดีตเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
ส่งออกของไทยลดลง ภัยแล้งจากโลกร้อนก็กระทบต่อเกษตรกร รายได้ลดลง และกระทบไปถึง
คนที่รายได้ปานกลางและรายได้น้อย ภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยลงทุนเพิ่มขึ้น 30% แต่เอกชนลงทุนลดลง
มาตรการกระตุ้นด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำให้รายได้อสังหาเพิ่มขึ้น 4% ซึ่งมีผลต่อโครงการ Easy condo
เนื่องจากมีเสถียรภาพทางการเมืองทำให้ นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 20% ทำให้รายได้โต 14% ซึ่งรวมถึงโรงแรมศรีพันวา
รายได้ปี58 ส่วนของ Thew Talay Estate , Easy Condo 2,044 ล้านบาท ส่วนของโรงแรมศรีพันวา 466 ล้านบาท
ตอนนี้กำลังก่อสร้างโรงแรมอีก2ตึก ปิดห้องพักไปพอสมควร เพื่อไม่ให้รบกวนลูกค้า แต่ก็ทำให้รายได้โต 52 ล้านบาท
เรามีความสัมพันธ์กับจุนฟามานาน และ ได้รับเงินมาหมั้นหมาย 63 ล้านบาท ก่อตั้งบริษัท อิสระจุนฟา พัฒนาบาบ้าคลับ
ซึ่งอยู่ที่ ภูเก็ต พังงา ห่างจากสนามบินภูเก็ต 20นาทีรถวิ่ง เราขายที่ให้ทำให้บริษัทลูกรับรู้กำไร 200 ล้านบาท
ปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้เราขายได้น้อยกว่าที่เราอยากขาย บางบริษัทชะลอโครงการลง เราก็ชะลอแต่ยังมุ่งหน้าตามเดิม
โครงการ Easy condo Suksawad จับคนระดับกลางถึงรายได้น้อย ประมาณ 1ล้านบาท จะ โดนกระทบถึงแม้จะโอนไป
70-80% ห่วงว่าจะโอนได้หรือเปล่า ปีที่แล้วช่วง กย จัดงานให้ลูกค้าที่จองมาเยี่ยมชมโครงการ ซึ่งทำ lobby เสร็จแล้ว
พร้อมทั้งมีธนาคารหลายแห่งมาให้ข้อมูลการปล่อยสินเชื่อ ปรากฏว่าโอนได้ 700 กว่าล้านบาท ซึ่งลูกค้าก็ประหยัดค่าโอน
จากโครงการภาครัฐที่ช่วยเหลือ อันนี้เป็นโครงการแรกที่เล่นระดับกลางและล่าง
ส่วนระดับบน
Thew Talay Estate หัวหิน ชะอำ Q1-Q2 โอนไปกว่า 70% แล้ว
ส่วน Thew3 Blue เดินหน้าเต็มที่ไม่รอ ได้ผู้รับเหมาที่ดีคือ ITD
ลงทุนซื้อที่ดิน 20 ไร่ ติดถนนเพชรเกษม เพื่อให้ด้านหน้าโครงการได้ 150 เมตร
โรงแรมส่วนแรก เริ่ม operate Q2 2560
ร่วมทุนกับสหพัฒน์ และ ICC มีแนวโน้มที่ดีทั้งกรุงเทพ และ ต่างจังหวัด
โรงแรม ด้านริมทะเล Phase I ขนาดเล็กริมทะเล เริ่ม operate เดือน มีนาคม ปี 2560
Sri Tawan ปากช่อง ก็ไปช้าๆ แต่ไม่น่าห่วง สภาพคล่องยังดีอยู่
เราจะสร้างนำการขายไปหน่อย ไม่ได้ขึ้นตูมเต็มที่เลย
Issara เชียงใหม่ มีคนมาร่วมลงทุนคือ บริษัท เทียนหยวน construction ร่วมทุน 30%
แต่ยังไม่ให้ลงหุ้น ได้ค่าสินสอดมา 58 ล้านบาทในปีนี้ เขามาช่วยด้าน การตลาด การเงิน และ การก่อสร้างณ
Issara collection จะเสร็จใน Q1 2560
Issara resident พระราม9 และ บางนา จะเริ่มเปิดขาย กค 16
ปีที่แล้ว ใช้งบไปซื้อที่ดิน จำนวน 1,328 ล้านบาท
ปีนี้ งบ 1,500 ล้านบาท ใช้ไปซื้อ Thew Talay Estate 20 ไร่ 206 ล้านบาท
และ ศรีพันวา ภูเก็ต 5 ไร่ 30 ล้านบาท
และการเปลี่ยน Property fund มาเป็น RIET อีก 3 เดือนข้างหน้า
ผลประกอบการ
รายได้เพิ่มจาก 1,092 ล้านบาท เป็น 2,041 ล้านบาท
EBIT เพิ่มจาก 43 เป็น 374 ล้านบาท
Net Profit Margin 19 เป็น 293 ล้านบาท
DE Ratio เพิ่มจาก 2.04 เป็น 2.36
Book value 1.84 ล้านบาท
คุณศรีวรา ประธานกรรมการ กล่าวเปิดงาน ได้พูดถึงวิกฤตเศรษฐกิจไทยและของโลกทั้งอดีตเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
ส่งออกของไทยลดลง ภัยแล้งจากโลกร้อนก็กระทบต่อเกษตรกร รายได้ลดลง และกระทบไปถึง
คนที่รายได้ปานกลางและรายได้น้อย ภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยลงทุนเพิ่มขึ้น 30% แต่เอกชนลงทุนลดลง
มาตรการกระตุ้นด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำให้รายได้อสังหาเพิ่มขึ้น 4% ซึ่งมีผลต่อโครงการ Easy condo
เนื่องจากมีเสถียรภาพทางการเมืองทำให้ นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 20% ทำให้รายได้โต 14% ซึ่งรวมถึงโรงแรมศรีพันวา
รายได้ปี58 ส่วนของ Thew Talay Estate , Easy Condo 2,044 ล้านบาท ส่วนของโรงแรมศรีพันวา 466 ล้านบาท
ตอนนี้กำลังก่อสร้างโรงแรมอีก2ตึก ปิดห้องพักไปพอสมควร เพื่อไม่ให้รบกวนลูกค้า แต่ก็ทำให้รายได้โต 52 ล้านบาท
เรามีความสัมพันธ์กับจุนฟามานาน และ ได้รับเงินมาหมั้นหมาย 63 ล้านบาท ก่อตั้งบริษัท อิสระจุนฟา พัฒนาบาบ้าคลับ
ซึ่งอยู่ที่ ภูเก็ต พังงา ห่างจากสนามบินภูเก็ต 20นาทีรถวิ่ง เราขายที่ให้ทำให้บริษัทลูกรับรู้กำไร 200 ล้านบาท
ปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้เราขายได้น้อยกว่าที่เราอยากขาย บางบริษัทชะลอโครงการลง เราก็ชะลอแต่ยังมุ่งหน้าตามเดิม
โครงการ Easy condo Suksawad จับคนระดับกลางถึงรายได้น้อย ประมาณ 1ล้านบาท จะ โดนกระทบถึงแม้จะโอนไป
70-80% ห่วงว่าจะโอนได้หรือเปล่า ปีที่แล้วช่วง กย จัดงานให้ลูกค้าที่จองมาเยี่ยมชมโครงการ ซึ่งทำ lobby เสร็จแล้ว
พร้อมทั้งมีธนาคารหลายแห่งมาให้ข้อมูลการปล่อยสินเชื่อ ปรากฏว่าโอนได้ 700 กว่าล้านบาท ซึ่งลูกค้าก็ประหยัดค่าโอน
จากโครงการภาครัฐที่ช่วยเหลือ อันนี้เป็นโครงการแรกที่เล่นระดับกลางและล่าง
ส่วนระดับบน
Thew Talay Estate หัวหิน ชะอำ Q1-Q2 โอนไปกว่า 70% แล้ว
ส่วน Thew3 Blue เดินหน้าเต็มที่ไม่รอ ได้ผู้รับเหมาที่ดีคือ ITD
ลงทุนซื้อที่ดิน 20 ไร่ ติดถนนเพชรเกษม เพื่อให้ด้านหน้าโครงการได้ 150 เมตร
โรงแรมส่วนแรก เริ่ม operate Q2 2560
ร่วมทุนกับสหพัฒน์ และ ICC มีแนวโน้มที่ดีทั้งกรุงเทพ และ ต่างจังหวัด
โรงแรม ด้านริมทะเล Phase I ขนาดเล็กริมทะเล เริ่ม operate เดือน มีนาคม ปี 2560
Sri Tawan ปากช่อง ก็ไปช้าๆ แต่ไม่น่าห่วง สภาพคล่องยังดีอยู่
เราจะสร้างนำการขายไปหน่อย ไม่ได้ขึ้นตูมเต็มที่เลย
Issara เชียงใหม่ มีคนมาร่วมลงทุนคือ บริษัท เทียนหยวน construction ร่วมทุน 30%
แต่ยังไม่ให้ลงหุ้น ได้ค่าสินสอดมา 58 ล้านบาทในปีนี้ เขามาช่วยด้าน การตลาด การเงิน และ การก่อสร้างณ
Issara collection จะเสร็จใน Q1 2560
Issara resident พระราม9 และ บางนา จะเริ่มเปิดขาย กค 16
ปีที่แล้ว ใช้งบไปซื้อที่ดิน จำนวน 1,328 ล้านบาท
ปีนี้ งบ 1,500 ล้านบาท ใช้ไปซื้อ Thew Talay Estate 20 ไร่ 206 ล้านบาท
และ ศรีพันวา ภูเก็ต 5 ไร่ 30 ล้านบาท
และการเปลี่ยน Property fund มาเป็น RIET อีก 3 เดือนข้างหน้า
ผลประกอบการ
รายได้เพิ่มจาก 1,092 ล้านบาท เป็น 2,041 ล้านบาท
EBIT เพิ่มจาก 43 เป็น 374 ล้านบาท
Net Profit Margin 19 เป็น 293 ล้านบาท
DE Ratio เพิ่มจาก 2.04 เป็น 2.36
Book value 1.84 ล้านบาท
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 49
AGM SINGER 28 APR 16 10.00
Q&A
Q: ผมถามเรื่อง จากที่present บอกว่า สัดส่วนกำไรของสินค้าcommercial ลดลงจากปีที่แล้ว
มาจากกำไรลดลง ผมแย้งว่ามาจากการขายลดลงไม่ใช่หรือ ตอนนี้เห็นเน้นสินค้าconsumerมากๆ
เช่น ทีวี มือถือ แอร์ เป็นต้น ซึ่งกำไรน้อย ทำไมไม่เน้นสินค้าcommercialด้วย
A: คุณไพฑูรย์ CFO แจ้งว่า สินค้าcommercial ขายลดลง เพราะเรากังวลว่าจะเก็บเงินไม่ได้ เลยขายน้อยลง
แผนของบริษัท เราแก้ไขให้ขยายระยะเวลาการผ่อนให้นานขึ้น ค่างวดให้น้อยลง เพราะเดิมสินค้าที่มีปัญหาเช่นตู้แช่ ราคาสูง ทำให้ราคาผ่อนต่องวดเป็นหมื่น พอเศรษฐกิจไม่ดี ก็ผ่อนไม่ได้
ตู้เติมน้ำมัน คู่แข่งเยอะ เช่น ตู้บุญเติม หรือ AJD ก็จะเข้ามา
ดังนั้นวิธีการแก้ไข คือ ปรับระยะการผ่อนให้ยาวขึ้น ลดดาวน์ลง แต่ต้องมั่นใจว่าลูกค้ารายนั้นเก็บหนี้ได้
ซึ่งจะเริ่มใน Q2 16
ส่วนตู้แช่ เราดิวกับ Supplier โดยตรง ว่าเราจะขยายterm การผ่อนได้อย่างไร ปกติที่ห้าง จะมีsupplierมาช่วย
Q:ผมถามคุณอดิศักดิ์ต่อว่า JMART เข้ามาsupportกับSingerอย่างไร
A: Singerไม่มีเสียมีแต่ได้ ยกเคส เราได้ดีลพิเศษมาทดสอบขายที่สาขาของSinger ใน Q3,Q4
Samsung S6 2,000 ตัว ทุกเครื่องที่ขายให้กำไร 5,000 บาทต่อเครื่อง
ซึ่ง JMART consign เครื่องไปให้ Singer ดังนั้น ไม่ถือว่าเป็นเครื่องของ Singer ดังนั้นพอจบโครงการ
เหลือ60เครื่อง ก็ไปคืนJMART มือถือทุกรุ่นของSinger เป็น consign หมด
คุณอดิศักดิ์ แจ้งว่า เขาให้ก่อน แล้วค่อยรับทีหลัง
Q: เป็นห่วงการขาย มีการเรียกคืนสินค้าเท่าไหร่ Dealer มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากมีนโยบายเสียค่าปรับ
หลังจ่ายช้ากว่ากำหนด หรือ ยึดคืนหรือไม่
ถามคุณอดิศักดิ์ ยังรักน้องSingerอยู่อีกหรือเปล่า สินค้า Multibrandจะได้ราคาต่ำๆจากJMARTอีกหรือเปล่า
A: คุณไพฑูรย์ แจ้งว่า การยึดคืนเกิดเยอะจากเศรษฐกิจไม่ดี ถ้าจ่ายไม่ได้ก็ต้องยึดคืน ไปขายต่อที่ราคาBalance
เบี้ยปรับจากหลักหมื่น มาเป็น 800,000 กว่าบาทแล้ว มีการแอนตี้บ้าง ก็ไปอธิบายให้ฟัง
แต่เราก็มีโครงการตอบแทน สำหรับคนที่ชำระตรงเวลาก็จะลดค่างวดให้
ยอดคืนไม่เกิน 10% ตู้แช่ยอดคืนเพิ่มขึ้นแต่ก็ระบายได้เร็วกว่าเดิม
คุณอดิศักดิ์ กล่าวว่า Direct payment ที่นำมาใช้
ในอดีต เรามีระบบนี้ใช้มานาน มีข้อดีและข้อเสีย ส่วนสีเทาๆคือcollection ถ้าพนักงานขายเก็บเงินได้ ก็จะมีรายได้8%ของหนี้ที่เก็บ เราอยากให้พนักงานขายมีประสิทธิภาพ พยายามขายให้มากที่สุด
เราต้องปรับให้เป็นสากล Direct payment น่าจะทำให้ระบบแข็งแรงขึ้น เริ่มใช้ที่มือถือก่อน JMT มาช่วยเรื่องเก็บเงินคิดแค่ 3% ซึ่งถูกกว่าเดิมที่ต้องจ่าย 8%
ส่วน Multibrand เราอยู่ในตลาดเดียวกัน ใครบริการได้ดีกว่า ก็มีโอกาส
Q: ช่วยอัปเดทโครงสร้างของการบริหารงานบริษัทด้วยครับ
A: สมัยก่อนที่ทำ JMART ก็ได้ต้นแบบจาก Singer ก็เลยสนใจลงทุนในบริษัท เริ่มเข้ามาเมื่อ 13 สค 15
ได้แต่ดมกลิ่นถึงสิ้นปี คิดว่ามันควรต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่ต้องมีระยะเวลาและขั้นตอน
เห็นจุดต้องช่วยกันทำ ต้องไปต่ออย่างแข็งแรง อุปสรรค หรือ ปัญหา ก็แก้กันไป
จนคุณบุญยง อยากไปทำด้านอื่น ก็เลยลาออกไป
ทีมงานที่จะเข้ามาใหม่ ก็เป็นมืออาชีพ100% ผ่านร้อน หนาวมาเยอะ สามารถ deliver / commitment
เติบโตอย่างมีคุณภาพแน่นอน ภายใน 3 ปี ต้องมีกำไร 300 ล้านบาท เป็น commitment
Priority ช่วงนี้ไปเน้น ตู้เติมเงิน ซึ่งมีช่องว่างที่จะโตเยอะ เพราะตลาดใหญ๋
แค่เพิ่มขึ้นอีก1% ก็เยอะแล้วครับ
ปิดการประชุม 11.50 น
Q&A
Q: ผมถามเรื่อง จากที่present บอกว่า สัดส่วนกำไรของสินค้าcommercial ลดลงจากปีที่แล้ว
มาจากกำไรลดลง ผมแย้งว่ามาจากการขายลดลงไม่ใช่หรือ ตอนนี้เห็นเน้นสินค้าconsumerมากๆ
เช่น ทีวี มือถือ แอร์ เป็นต้น ซึ่งกำไรน้อย ทำไมไม่เน้นสินค้าcommercialด้วย
A: คุณไพฑูรย์ CFO แจ้งว่า สินค้าcommercial ขายลดลง เพราะเรากังวลว่าจะเก็บเงินไม่ได้ เลยขายน้อยลง
แผนของบริษัท เราแก้ไขให้ขยายระยะเวลาการผ่อนให้นานขึ้น ค่างวดให้น้อยลง เพราะเดิมสินค้าที่มีปัญหาเช่นตู้แช่ ราคาสูง ทำให้ราคาผ่อนต่องวดเป็นหมื่น พอเศรษฐกิจไม่ดี ก็ผ่อนไม่ได้
ตู้เติมน้ำมัน คู่แข่งเยอะ เช่น ตู้บุญเติม หรือ AJD ก็จะเข้ามา
ดังนั้นวิธีการแก้ไข คือ ปรับระยะการผ่อนให้ยาวขึ้น ลดดาวน์ลง แต่ต้องมั่นใจว่าลูกค้ารายนั้นเก็บหนี้ได้
ซึ่งจะเริ่มใน Q2 16
ส่วนตู้แช่ เราดิวกับ Supplier โดยตรง ว่าเราจะขยายterm การผ่อนได้อย่างไร ปกติที่ห้าง จะมีsupplierมาช่วย
Q:ผมถามคุณอดิศักดิ์ต่อว่า JMART เข้ามาsupportกับSingerอย่างไร
A: Singerไม่มีเสียมีแต่ได้ ยกเคส เราได้ดีลพิเศษมาทดสอบขายที่สาขาของSinger ใน Q3,Q4
Samsung S6 2,000 ตัว ทุกเครื่องที่ขายให้กำไร 5,000 บาทต่อเครื่อง
ซึ่ง JMART consign เครื่องไปให้ Singer ดังนั้น ไม่ถือว่าเป็นเครื่องของ Singer ดังนั้นพอจบโครงการ
เหลือ60เครื่อง ก็ไปคืนJMART มือถือทุกรุ่นของSinger เป็น consign หมด
คุณอดิศักดิ์ แจ้งว่า เขาให้ก่อน แล้วค่อยรับทีหลัง
Q: เป็นห่วงการขาย มีการเรียกคืนสินค้าเท่าไหร่ Dealer มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากมีนโยบายเสียค่าปรับ
หลังจ่ายช้ากว่ากำหนด หรือ ยึดคืนหรือไม่
ถามคุณอดิศักดิ์ ยังรักน้องSingerอยู่อีกหรือเปล่า สินค้า Multibrandจะได้ราคาต่ำๆจากJMARTอีกหรือเปล่า
A: คุณไพฑูรย์ แจ้งว่า การยึดคืนเกิดเยอะจากเศรษฐกิจไม่ดี ถ้าจ่ายไม่ได้ก็ต้องยึดคืน ไปขายต่อที่ราคาBalance
เบี้ยปรับจากหลักหมื่น มาเป็น 800,000 กว่าบาทแล้ว มีการแอนตี้บ้าง ก็ไปอธิบายให้ฟัง
แต่เราก็มีโครงการตอบแทน สำหรับคนที่ชำระตรงเวลาก็จะลดค่างวดให้
ยอดคืนไม่เกิน 10% ตู้แช่ยอดคืนเพิ่มขึ้นแต่ก็ระบายได้เร็วกว่าเดิม
คุณอดิศักดิ์ กล่าวว่า Direct payment ที่นำมาใช้
ในอดีต เรามีระบบนี้ใช้มานาน มีข้อดีและข้อเสีย ส่วนสีเทาๆคือcollection ถ้าพนักงานขายเก็บเงินได้ ก็จะมีรายได้8%ของหนี้ที่เก็บ เราอยากให้พนักงานขายมีประสิทธิภาพ พยายามขายให้มากที่สุด
เราต้องปรับให้เป็นสากล Direct payment น่าจะทำให้ระบบแข็งแรงขึ้น เริ่มใช้ที่มือถือก่อน JMT มาช่วยเรื่องเก็บเงินคิดแค่ 3% ซึ่งถูกกว่าเดิมที่ต้องจ่าย 8%
ส่วน Multibrand เราอยู่ในตลาดเดียวกัน ใครบริการได้ดีกว่า ก็มีโอกาส
Q: ช่วยอัปเดทโครงสร้างของการบริหารงานบริษัทด้วยครับ
A: สมัยก่อนที่ทำ JMART ก็ได้ต้นแบบจาก Singer ก็เลยสนใจลงทุนในบริษัท เริ่มเข้ามาเมื่อ 13 สค 15
ได้แต่ดมกลิ่นถึงสิ้นปี คิดว่ามันควรต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่ต้องมีระยะเวลาและขั้นตอน
เห็นจุดต้องช่วยกันทำ ต้องไปต่ออย่างแข็งแรง อุปสรรค หรือ ปัญหา ก็แก้กันไป
จนคุณบุญยง อยากไปทำด้านอื่น ก็เลยลาออกไป
ทีมงานที่จะเข้ามาใหม่ ก็เป็นมืออาชีพ100% ผ่านร้อน หนาวมาเยอะ สามารถ deliver / commitment
เติบโตอย่างมีคุณภาพแน่นอน ภายใน 3 ปี ต้องมีกำไร 300 ล้านบาท เป็น commitment
Priority ช่วงนี้ไปเน้น ตู้เติมเงิน ซึ่งมีช่องว่างที่จะโตเยอะ เพราะตลาดใหญ๋
แค่เพิ่มขึ้นอีก1% ก็เยอะแล้วครับ
ปิดการประชุม 11.50 น
-
- Verified User
- โพสต์: 820
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 50
AGM CFRESH 28/4/59
ปี 2558 รายได้จากการขาย 7,817.38 ล้านบาท ลดลง 573 ล้านบาท ลดลง 6.83% ผลจากประเทศไทยถูกตัด GSP ทำให้ภาษีจาก 7% เพิ่มเป็น 20%
กำไรสุทธิ 458.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49 ล้านบาท จาก
1.บริษัทและบริษัทย่อย มีGPM ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากโรคกุ้งตายด่วน EMS ดีขึ้น
2.มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
สัดส่วนการขาย ขายในยุโรป 74% , เอเชีย 12 % ,USA 13% , ออสเตรเลีย 1%
Q-แนวโน้มสถานการณ์โรคกุ้ง EMS และภัยแล้ง
A-โรค EMS ดีกว่าปีที่แล้ว คาดโต20% สภาพตลาดต้องต้องดูกันอีก ราคากุ้งของเราค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ลูกค้าไปหายังตลาดอื่น ปีนี้เริ่มคลี่คลาย แต่ตลาดก็มีสูญเสียไปบ้าง
Q-ในงบการเงินจะเห็นสต็อกสินค้าเพิ่มขึ้นมามาก วงจรเงินสดก็ยาวมากขึ้น
A-ปีที่แล้วกุ้งยังออกมาไม่เยอะ ทุกเดือน ธค - มีค เป็นช่วง low season กุ้งราคาถูก เราจึงเก็บสต็อกไว้ พอเดือน พค – มิย ก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
Q-สต็อกสินค้าเก็บได้นานแค่ไหน
A-เก็บได้ประมาณ 1 ปี
ตลาดต่างประเทศมองเติบโตได้ดี
ผบห มองเป้า 3 ปี โต 10-15% ก็พอใจแล้ว
ปี 2558 รายได้จากการขาย 7,817.38 ล้านบาท ลดลง 573 ล้านบาท ลดลง 6.83% ผลจากประเทศไทยถูกตัด GSP ทำให้ภาษีจาก 7% เพิ่มเป็น 20%
กำไรสุทธิ 458.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49 ล้านบาท จาก
1.บริษัทและบริษัทย่อย มีGPM ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากโรคกุ้งตายด่วน EMS ดีขึ้น
2.มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
สัดส่วนการขาย ขายในยุโรป 74% , เอเชีย 12 % ,USA 13% , ออสเตรเลีย 1%
Q-แนวโน้มสถานการณ์โรคกุ้ง EMS และภัยแล้ง
A-โรค EMS ดีกว่าปีที่แล้ว คาดโต20% สภาพตลาดต้องต้องดูกันอีก ราคากุ้งของเราค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ลูกค้าไปหายังตลาดอื่น ปีนี้เริ่มคลี่คลาย แต่ตลาดก็มีสูญเสียไปบ้าง
Q-ในงบการเงินจะเห็นสต็อกสินค้าเพิ่มขึ้นมามาก วงจรเงินสดก็ยาวมากขึ้น
A-ปีที่แล้วกุ้งยังออกมาไม่เยอะ ทุกเดือน ธค - มีค เป็นช่วง low season กุ้งราคาถูก เราจึงเก็บสต็อกไว้ พอเดือน พค – มิย ก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
Q-สต็อกสินค้าเก็บได้นานแค่ไหน
A-เก็บได้ประมาณ 1 ปี
ตลาดต่างประเทศมองเติบโตได้ดี
ผบห มองเป้า 3 ปี โต 10-15% ก็พอใจแล้ว
- sir.prince
- Verified User
- โพสต์: 263
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 51
ขออนุญาติแจมครับพึ่งเห็นกระทู้นี้
Mono agm 27-4-59
ขอสรุปเป็นจุดๆที่สนใจนะครับ
-คนดูช่องโมโนเฉลี่ย54นาที /วัน
-ปัจจุบัน(ข้อมูล ณ วันที่ 24 เมษายน)ขายโฆษณาเฉลี่ย นาทีละ 20,000บาท แต่ถ้าช่วงPrime18.00-22.00 นาทีละ 25,000บาท และช่วงnon-prime ประมาณ 16,000-18,000(อันนี้ไม่ชัวครับตัวnon-prime)
-ร่วมมือเมเจอร์ output deal คือหนังใหม่ชนโรงฉายเสร็จ 18เดือนโมโนได้สิทธิเจ้าเดียวของหนังใหม่ที่ผ่านเมเจอร์ เช่นแบทแมนvsซุปเปอร์แมนถ้าครบ18เดือนฉายในโมโนได้เลย
-มองรายรวม3,000ล้าน รายได้ทีวี1500ล้าน, รายได้Mobile 1,094ล้าน อื่นๆ497ล้าน
-เน้นผังรายการตัวL คือช่วงวันธรรมดาเวลา18.00-22.00และเสา-อาทิต คือตัวที่เน้นขายโฆษณาเป็นหลัก
-ขายโฆษณาวันละ180นาที มองเฉพาะช่วง18ช.ม. Utilizationเต็ม100% q3-58ตกเพราะแผนผิด ปีนี้มองยืนUtilization100%ตลอดทั้งปี (ช่วงมี.ค.59 มีบางวันUtilizationเกิน100และเรตติ้งถึง 0.8-0.9 2วัน)
มีคเกิน100%เพราะหนังคนดูเยอะ. เมษาปกติไม่ดีเท่าไรแต่100%
-สำรองเงินไว้จ่ายไลเซน ไม่มีปันผล ถ้าผลประกอบโดยรวมปีนี้ดีขึ้นเยอะจะกลับมาพิจารณา
-เคสคุณวิสูตร พูลวลักษณ์ ขอเพิ่มทุน 50ล้านหุ้นเพราะซื้อมาทำหนัง30เรื่องและบทหนัง29เรื่อง เป็นexecutive producer และให้ดูธุรกิจหนังของโมโน หุ้น50ล้านทุน2.03บาทแลกกะหนัง30เรื่อง
-เป้ารายได้3000ล้านเป็นไปได้ มองจากq1เป็นไปได้สูง
-Contentทำเองกับซื้อ สร้างเองคุ้มกว่ารีรันได้แต่ยอมรับต้องใช้เวลาเพราะเจ้าใหญ่ทำมานานมีความเชี่ยวชาญสูง
Mono agm 27-4-59
ขอสรุปเป็นจุดๆที่สนใจนะครับ
-คนดูช่องโมโนเฉลี่ย54นาที /วัน
-ปัจจุบัน(ข้อมูล ณ วันที่ 24 เมษายน)ขายโฆษณาเฉลี่ย นาทีละ 20,000บาท แต่ถ้าช่วงPrime18.00-22.00 นาทีละ 25,000บาท และช่วงnon-prime ประมาณ 16,000-18,000(อันนี้ไม่ชัวครับตัวnon-prime)
-ร่วมมือเมเจอร์ output deal คือหนังใหม่ชนโรงฉายเสร็จ 18เดือนโมโนได้สิทธิเจ้าเดียวของหนังใหม่ที่ผ่านเมเจอร์ เช่นแบทแมนvsซุปเปอร์แมนถ้าครบ18เดือนฉายในโมโนได้เลย
-มองรายรวม3,000ล้าน รายได้ทีวี1500ล้าน, รายได้Mobile 1,094ล้าน อื่นๆ497ล้าน
-เน้นผังรายการตัวL คือช่วงวันธรรมดาเวลา18.00-22.00และเสา-อาทิต คือตัวที่เน้นขายโฆษณาเป็นหลัก
-ขายโฆษณาวันละ180นาที มองเฉพาะช่วง18ช.ม. Utilizationเต็ม100% q3-58ตกเพราะแผนผิด ปีนี้มองยืนUtilization100%ตลอดทั้งปี (ช่วงมี.ค.59 มีบางวันUtilizationเกิน100และเรตติ้งถึง 0.8-0.9 2วัน)
มีคเกิน100%เพราะหนังคนดูเยอะ. เมษาปกติไม่ดีเท่าไรแต่100%
-สำรองเงินไว้จ่ายไลเซน ไม่มีปันผล ถ้าผลประกอบโดยรวมปีนี้ดีขึ้นเยอะจะกลับมาพิจารณา
-เคสคุณวิสูตร พูลวลักษณ์ ขอเพิ่มทุน 50ล้านหุ้นเพราะซื้อมาทำหนัง30เรื่องและบทหนัง29เรื่อง เป็นexecutive producer และให้ดูธุรกิจหนังของโมโน หุ้น50ล้านทุน2.03บาทแลกกะหนัง30เรื่อง
-เป้ารายได้3000ล้านเป็นไปได้ มองจากq1เป็นไปได้สูง
-Contentทำเองกับซื้อ สร้างเองคุ้มกว่ารีรันได้แต่ยอมรับต้องใช้เวลาเพราะเจ้าใหญ่ทำมานานมีความเชี่ยวชาญสูง
SKY Line
FBเพจอ่านมาแชร์และลงทุน
FBเพจอ่านมาแชร์และลงทุน
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 52
AGM IFEC 29 APR 16 เวลา 9.00 น.
วันนี้มีคนมาประชุมไม่มากเมื่อเทียบกับประชุมประจำปี เมื่อปีที่แล้ว มีคนขอให้ประชุมช้าเป็น 10.00 น เพราะ
มาไม่ทันประชุม คราวนี้มีแจกมาการอง ในกล่องน่ารักจากดาราเทวี ซึ่งพึ่งซื้อเข้ามาปลายปีที่แล้ว
ซึ่งอร่อยติดอันดับโลกด้วยครับ
คำถามและคำตอบจากที่ประชุม
Q: อยากทราบความคืบหน้าของผู้ที่ต้องการมาร่วมทุนกับดาราเทวี
A: มีคนแสดงตัวอยากมาร่วมทุนกับเราหลายเจ้า ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน ต้องติดตามต่อไปครับ
Q: ถาม ดร สุเมธ ว่า โครงการกังหันลม COD เมื่อปลายปี Performance เป็นอย่างไรในช่วง5 เดือนที่ผ่านมา
Capacity factor เท่าไหร่ครับ
A: เราจ่ายไฟร่วม 4-5 เดือน แต่ละเดือนก็ได้ไฟสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
Capacity 30กว่า% แต่ไม่ถึงปี คาดว่าจะได้ 25% ตอนครบปี ซึ่งดีกว่าที่เราคาดไว้แค 22%
สาเหตุจาก
1. อุปกรณ์กังหันลม ออกแบบเฉพาะกิจที่ใช้กับลมบก และ ลมทะเล ที่เป็นลมเบาแต่มีทุกวัน
2. พายุ มรสุมที่พัดเข้ามาแต่ละช่วง เราได้เผื่อriskการปรับเปลี่ยนทิศทางการพัดไว้แล้ว
3. แนวป้องกันชายฝั่ง ออกแบบบนพื้นฐานว่าเป็นน้ำทะเลในอนาคตก็อยู่ได้ นอกจากนี้ลมทะเลยัง
พัดเอาทรายเข้ามาทำให้เกิดพื้นที่มากขึ้น สอดคล้องกับสามารถออกโฉนดชายฝั่งทะเลได้
Q:ขอทราบรายละเอียด ที่ดิน40ไร่ของดาราเทวี โรงแรม สปา เดินต่ออย่างไร
IFEC จะเป็น Holding company จะมีโครงสร้างธุรกิจอื่นกี่ % ในอนาคต
A: พลังงานไฟฟ้าทดแทน ปัจจุบันเรามี
Solar 21 MW
Biomass 6.8 MW
Wind 10 MW
ขยะ 2 MW
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มลงทุนใน Solar ที่ญี่ปุ่นด้วย
ที่ดิน 40 ไร่ ร่วมทุนกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Highend ประมาณ 5,000 ล้านบาท ยังมีส่วนต่อขยายของโรงแรม
อีก 5,000 ล้านบาท ประมาณ 80 ห้อง โดยเอาทรัพย์สินบางส่วน Resident , Poll villa ขายออกไป
รอฟังคราวคืบหน้าจากที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์
เราได้นำที่ดินมาเป็นทุนทำjoint venture บริษัทพัฒนาเป็นทำfinance เอง
ดาราเทวีมี 155 ไร่ มีห้องพัก 123 ห้อง ซึ่งห้องพักเต็มตลอด แม้แต่คน IFEC จะไปพักหรือจัดสัมมนา ประชุมยังไม่ได้เลย
ส่วนตรงตลาดนั้น คาดว่าจะทำเป็นถนนคนเดิน เพื่อให้คน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ รู้จักดาราเทวีมากขึ้น
คนจีนที่มาพัก จะถ่ายรูปกลับไปอวดเพื่อนที่เมืองจีน เป็นความภูมิใจมากของเขา
Occupation rate การเข้าพัก ประมาณ 78% ซึ่งสูงมาก ปกติเกิน 50% ก็คือกำไรแล้ว
เราได้ผู้บริหารจากโรงแรมแชงกรีล่ามาบริหาร ยังสามารถต่อยอดธุรกิจได้อีกมาก
Q: สอบถาม เรื่องบริษัท Gowind ขอเข้าถือหุ้น 10% ในiWind
A: Gowind เป็นพันธมิตรสนับสนุนเรื่องกังหันลม โดยหลักการเขาตั้งเป้ามีโรงไฟฟ้าพลังงานลมปีละ 8000 MW
เขาอยากได้partnerในฝั่งเอเซีย ตอนนี้อยู่ในช่วงทำ valuation กันอยู่
Q: สอบถามความคืบหน้าของโครงการที่ กัมพูชา และ เกาหลีใต้
A: ดร สุเมธ พูดว่า Going on โครงการกัมพูชาล่าช้า เราพยายามหาซื้อพื้นที่ ซึ่งขึ้นเร็วมาก เป็นที่ของชาวนา
ถ้าเราซื้อที่แรก ราคาที่ที่สองขึ้นเท่าตัว แถมยังต้องจ่ายชดเชยให้เจ้าของคนแรกที่ขอซื้อด้วย
ส่วนที่เกาหลีใต้ พอดีเปลี่ยนประธานาธิบดีใหม่ ซึ่งเป็นคนละขั้วกับคนเดิมที่เราติดต่อ ก็เลยชะลอโครงการไป
แต่ที่ดินที่นั่นราคาขึ้นดีมาก รวมถึงค่าไฟก็ปรับขึ้นด้วย ต้องติดตามต่อไป
จบการประชุมประมาณ 11.15 น
วันนี้มีคนมาประชุมไม่มากเมื่อเทียบกับประชุมประจำปี เมื่อปีที่แล้ว มีคนขอให้ประชุมช้าเป็น 10.00 น เพราะ
มาไม่ทันประชุม คราวนี้มีแจกมาการอง ในกล่องน่ารักจากดาราเทวี ซึ่งพึ่งซื้อเข้ามาปลายปีที่แล้ว
ซึ่งอร่อยติดอันดับโลกด้วยครับ
คำถามและคำตอบจากที่ประชุม
Q: อยากทราบความคืบหน้าของผู้ที่ต้องการมาร่วมทุนกับดาราเทวี
A: มีคนแสดงตัวอยากมาร่วมทุนกับเราหลายเจ้า ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน ต้องติดตามต่อไปครับ
Q: ถาม ดร สุเมธ ว่า โครงการกังหันลม COD เมื่อปลายปี Performance เป็นอย่างไรในช่วง5 เดือนที่ผ่านมา
Capacity factor เท่าไหร่ครับ
A: เราจ่ายไฟร่วม 4-5 เดือน แต่ละเดือนก็ได้ไฟสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
Capacity 30กว่า% แต่ไม่ถึงปี คาดว่าจะได้ 25% ตอนครบปี ซึ่งดีกว่าที่เราคาดไว้แค 22%
สาเหตุจาก
1. อุปกรณ์กังหันลม ออกแบบเฉพาะกิจที่ใช้กับลมบก และ ลมทะเล ที่เป็นลมเบาแต่มีทุกวัน
2. พายุ มรสุมที่พัดเข้ามาแต่ละช่วง เราได้เผื่อriskการปรับเปลี่ยนทิศทางการพัดไว้แล้ว
3. แนวป้องกันชายฝั่ง ออกแบบบนพื้นฐานว่าเป็นน้ำทะเลในอนาคตก็อยู่ได้ นอกจากนี้ลมทะเลยัง
พัดเอาทรายเข้ามาทำให้เกิดพื้นที่มากขึ้น สอดคล้องกับสามารถออกโฉนดชายฝั่งทะเลได้
Q:ขอทราบรายละเอียด ที่ดิน40ไร่ของดาราเทวี โรงแรม สปา เดินต่ออย่างไร
IFEC จะเป็น Holding company จะมีโครงสร้างธุรกิจอื่นกี่ % ในอนาคต
A: พลังงานไฟฟ้าทดแทน ปัจจุบันเรามี
Solar 21 MW
Biomass 6.8 MW
Wind 10 MW
ขยะ 2 MW
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มลงทุนใน Solar ที่ญี่ปุ่นด้วย
ที่ดิน 40 ไร่ ร่วมทุนกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Highend ประมาณ 5,000 ล้านบาท ยังมีส่วนต่อขยายของโรงแรม
อีก 5,000 ล้านบาท ประมาณ 80 ห้อง โดยเอาทรัพย์สินบางส่วน Resident , Poll villa ขายออกไป
รอฟังคราวคืบหน้าจากที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์
เราได้นำที่ดินมาเป็นทุนทำjoint venture บริษัทพัฒนาเป็นทำfinance เอง
ดาราเทวีมี 155 ไร่ มีห้องพัก 123 ห้อง ซึ่งห้องพักเต็มตลอด แม้แต่คน IFEC จะไปพักหรือจัดสัมมนา ประชุมยังไม่ได้เลย
ส่วนตรงตลาดนั้น คาดว่าจะทำเป็นถนนคนเดิน เพื่อให้คน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ รู้จักดาราเทวีมากขึ้น
คนจีนที่มาพัก จะถ่ายรูปกลับไปอวดเพื่อนที่เมืองจีน เป็นความภูมิใจมากของเขา
Occupation rate การเข้าพัก ประมาณ 78% ซึ่งสูงมาก ปกติเกิน 50% ก็คือกำไรแล้ว
เราได้ผู้บริหารจากโรงแรมแชงกรีล่ามาบริหาร ยังสามารถต่อยอดธุรกิจได้อีกมาก
Q: สอบถาม เรื่องบริษัท Gowind ขอเข้าถือหุ้น 10% ในiWind
A: Gowind เป็นพันธมิตรสนับสนุนเรื่องกังหันลม โดยหลักการเขาตั้งเป้ามีโรงไฟฟ้าพลังงานลมปีละ 8000 MW
เขาอยากได้partnerในฝั่งเอเซีย ตอนนี้อยู่ในช่วงทำ valuation กันอยู่
Q: สอบถามความคืบหน้าของโครงการที่ กัมพูชา และ เกาหลีใต้
A: ดร สุเมธ พูดว่า Going on โครงการกัมพูชาล่าช้า เราพยายามหาซื้อพื้นที่ ซึ่งขึ้นเร็วมาก เป็นที่ของชาวนา
ถ้าเราซื้อที่แรก ราคาที่ที่สองขึ้นเท่าตัว แถมยังต้องจ่ายชดเชยให้เจ้าของคนแรกที่ขอซื้อด้วย
ส่วนที่เกาหลีใต้ พอดีเปลี่ยนประธานาธิบดีใหม่ ซึ่งเป็นคนละขั้วกับคนเดิมที่เราติดต่อ ก็เลยชะลอโครงการไป
แต่ที่ดินที่นั่นราคาขึ้นดีมาก รวมถึงค่าไฟก็ปรับขึ้นด้วย ต้องติดตามต่อไป
จบการประชุมประมาณ 11.15 น
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 53
AGM TPCH 28 APR 16 10.00
รายได้จากการขายไฟฟ้า 304 ล้านบาท กำไร 68 ล้านบาทเติบโต 60%
บริษัทเป็น Holding company ถือในบริษัทย่อยดังนี้
โครงการที่จำหน่ายไฟฟ้าได้แล้ว คือ CRB , MWE , MGP ซึ่งมีที่เดียวที่บริหารเองคือ MGP ที่เหลือจ้างSubบริหารให้
ส่วนใหญ่คือหุ้นส่วนที่เป็นเจ้าของเชื้อเพลิง
ส่วนโครงการ TSG , PGP , SGP อยู่ในระหว่างดำเนินการ สามารถอยู่รายละเอียดในslideได้
โครงการได้มีการเลื่อนออกCOD จากไตรมาสละโครงการ รวม 4 โครงการในปีนี้ เหลือแค่ 2 โครงการ
คุณหมอพงษ์ศักดิ์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า ถ้ามีการเลื่อนโครงการใดออกไป ควรนำโครงการอื่นมาแทน
ไม่ใช่เลื่อนไปทุกโครงการ เหมือนกับสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหาร ซึ่งทาง คุณเชิดศักดิ์รับไว้พิจารณา
ส่วนโครงการที่จะไปซื้ออยู่ในระหว่างต่อรองราคา ซึ่งคุณหมอได้ให้คำแนะนำว่า ถ้าต้องการโครงการดีๆส่วนใหญ่
ไม่ค่อยขาย ดังนั้นทางเลือกคือเข้าไปถือหุ้นส่วนน้อย น่าจะมีโอกาสมากกว่า และ อีกข้อที่เสนอแนะคือการทำ
ต้นทุนการผลิตให้ต่ำที่สุด ซึ่งก็คือจุดแข็งที่เราสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้
Net profit margin เติบโตค่อนข้างสูงในปีที่แล้ว จากไตรมาสสี่เป็น 35.19% เนื่องจากมีโครงการแม่วงศ์CODได้
ค่าใช้จ่ายของ Holding company ประมาณ 40 ล้านบาท ดังนั้นถ้าจะปันผลได้คือต้องกำไรจกบริษัทลูกเข้า
มาเกิน40ล้านบาท คาดว่าปีหน้ามีกำไร และ สามารถปันผลได้ในปี61 เพราะเรามีรายได้จาก ช้างแรก มหาชัย แม่วงศ์
เข้ามาเต็มปี เรายังได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำคือ MLR-2 มาในปีนี้ด้วยช่วยลดต้นทุนทางด้านการเงินลงอีก
เรามีข่าวดีคือ รอประกาศปรับเปลี่ยนค่าไฟจาก Adder เป็น FIT ทำให้โครงการช้างแรกปันผลมาให้เราได้มากขึ้น
Q: อยากสอบถามว่า เราใช้ subcontractor ทำไมเราไม่บริหารเอง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเราถ้าเทียบกับเจ้าอื่น
ไม่เช่นนั้นเราก็ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย
A: เราเริ่มใช้ Subcontractor โครงการแรก ที่ CRB, TSG ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เป็นเจ้าเดียวกันราคาแพงสุด
ต่อมาเราได้ GPG มาบริหาร MWE ซึ่งราคาถูกลงมา แต่ โครงการล่าสุด ราคาถูกสุด มาบริหาร PGP แต่ยังบอกไม่ได้
ถึงคนที่bidได้ เพราะยังไม่ประกาศ ซึ่งจะเห็นว่า เราพยายามทำให้ต้นทุนการบริหารต่ำที่สุด และ สามารถแข่งขัน
กับเจ้าอื่นได้ ที่บริหารเองเรามีที่ MGP มหาชัย เพราะใช้เทคโนโลยีใหม่
Q: เสนอแนะออกหุ้นกู้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย เหมือนกับ SPCG ทำ
สอบถามเพิ่ม ในส่วนที่ทำแล้ว และ ที่บอกว่าจะได้ครบ 100 MW อยากทราบรายละเอียด
A: เรามีโครงการ PTG ที่ปัตตานี แบ่งออกเป็น 2 phase (23/21MW)ในพื้นทีเดียวกัน
Phase I ได้จาก EGAT ขายไฟแบบ SPP ตอนนี้อยู่ระหว่างเริ่มก่อสร้างและจะสร้างเผื่อ Phase II ด้วย ถ้า ได้ก็แค่เอา
เครื่องจักรมาติดตั้งเท่านั้น
ส่วนอีก 50 MW ก็มาจากการประมูลในช่วง กค ประมาณ 36 MW ส่วนอีก 20 MW มีโครงการที่จะมาขายให้เรา
ส่วนในต่างประเทศ อีก 2-3 ปีจึงจะเข้าไปในรูปแบบการพัฒนามากกว่าการซื้อ
Q: แต่ละโรงงานสามารถเปลี่ยนวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้าได้ไหม ถ้าไม่พอจะแก้ปัญหาได้อย่างไร
A: โรงไฟฟ้าใช้ Multi Fuel สามารถใช้ไม้ยางพารา ปีกไม้ ปาล์มได้ถึงความชื้น 50% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐาน
จบการประชุม 11.30 น.
รายได้จากการขายไฟฟ้า 304 ล้านบาท กำไร 68 ล้านบาทเติบโต 60%
บริษัทเป็น Holding company ถือในบริษัทย่อยดังนี้
โครงการที่จำหน่ายไฟฟ้าได้แล้ว คือ CRB , MWE , MGP ซึ่งมีที่เดียวที่บริหารเองคือ MGP ที่เหลือจ้างSubบริหารให้
ส่วนใหญ่คือหุ้นส่วนที่เป็นเจ้าของเชื้อเพลิง
ส่วนโครงการ TSG , PGP , SGP อยู่ในระหว่างดำเนินการ สามารถอยู่รายละเอียดในslideได้
โครงการได้มีการเลื่อนออกCOD จากไตรมาสละโครงการ รวม 4 โครงการในปีนี้ เหลือแค่ 2 โครงการ
คุณหมอพงษ์ศักดิ์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า ถ้ามีการเลื่อนโครงการใดออกไป ควรนำโครงการอื่นมาแทน
ไม่ใช่เลื่อนไปทุกโครงการ เหมือนกับสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหาร ซึ่งทาง คุณเชิดศักดิ์รับไว้พิจารณา
ส่วนโครงการที่จะไปซื้ออยู่ในระหว่างต่อรองราคา ซึ่งคุณหมอได้ให้คำแนะนำว่า ถ้าต้องการโครงการดีๆส่วนใหญ่
ไม่ค่อยขาย ดังนั้นทางเลือกคือเข้าไปถือหุ้นส่วนน้อย น่าจะมีโอกาสมากกว่า และ อีกข้อที่เสนอแนะคือการทำ
ต้นทุนการผลิตให้ต่ำที่สุด ซึ่งก็คือจุดแข็งที่เราสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้
Net profit margin เติบโตค่อนข้างสูงในปีที่แล้ว จากไตรมาสสี่เป็น 35.19% เนื่องจากมีโครงการแม่วงศ์CODได้
ค่าใช้จ่ายของ Holding company ประมาณ 40 ล้านบาท ดังนั้นถ้าจะปันผลได้คือต้องกำไรจกบริษัทลูกเข้า
มาเกิน40ล้านบาท คาดว่าปีหน้ามีกำไร และ สามารถปันผลได้ในปี61 เพราะเรามีรายได้จาก ช้างแรก มหาชัย แม่วงศ์
เข้ามาเต็มปี เรายังได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำคือ MLR-2 มาในปีนี้ด้วยช่วยลดต้นทุนทางด้านการเงินลงอีก
เรามีข่าวดีคือ รอประกาศปรับเปลี่ยนค่าไฟจาก Adder เป็น FIT ทำให้โครงการช้างแรกปันผลมาให้เราได้มากขึ้น
Q: อยากสอบถามว่า เราใช้ subcontractor ทำไมเราไม่บริหารเอง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเราถ้าเทียบกับเจ้าอื่น
ไม่เช่นนั้นเราก็ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย
A: เราเริ่มใช้ Subcontractor โครงการแรก ที่ CRB, TSG ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เป็นเจ้าเดียวกันราคาแพงสุด
ต่อมาเราได้ GPG มาบริหาร MWE ซึ่งราคาถูกลงมา แต่ โครงการล่าสุด ราคาถูกสุด มาบริหาร PGP แต่ยังบอกไม่ได้
ถึงคนที่bidได้ เพราะยังไม่ประกาศ ซึ่งจะเห็นว่า เราพยายามทำให้ต้นทุนการบริหารต่ำที่สุด และ สามารถแข่งขัน
กับเจ้าอื่นได้ ที่บริหารเองเรามีที่ MGP มหาชัย เพราะใช้เทคโนโลยีใหม่
Q: เสนอแนะออกหุ้นกู้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย เหมือนกับ SPCG ทำ
สอบถามเพิ่ม ในส่วนที่ทำแล้ว และ ที่บอกว่าจะได้ครบ 100 MW อยากทราบรายละเอียด
A: เรามีโครงการ PTG ที่ปัตตานี แบ่งออกเป็น 2 phase (23/21MW)ในพื้นทีเดียวกัน
Phase I ได้จาก EGAT ขายไฟแบบ SPP ตอนนี้อยู่ระหว่างเริ่มก่อสร้างและจะสร้างเผื่อ Phase II ด้วย ถ้า ได้ก็แค่เอา
เครื่องจักรมาติดตั้งเท่านั้น
ส่วนอีก 50 MW ก็มาจากการประมูลในช่วง กค ประมาณ 36 MW ส่วนอีก 20 MW มีโครงการที่จะมาขายให้เรา
ส่วนในต่างประเทศ อีก 2-3 ปีจึงจะเข้าไปในรูปแบบการพัฒนามากกว่าการซื้อ
Q: แต่ละโรงงานสามารถเปลี่ยนวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้าได้ไหม ถ้าไม่พอจะแก้ปัญหาได้อย่างไร
A: โรงไฟฟ้าใช้ Multi Fuel สามารถใช้ไม้ยางพารา ปีกไม้ ปาล์มได้ถึงความชื้น 50% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐาน
จบการประชุม 11.30 น.
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 54
AGM THRE 22/04/2016
Cr:J Saran
แผนเติบโตในระยะ 3 ปี (ปี2016-2018)
- เพิ่มยอดเบี้ยรับรวม เฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 15% ในปี2018 จะมีเบี้ยรับรวมที่ 8,000 ลบ. โดยเบี้ยใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มส่วนใหญ่จะมาจากทาง Non-conventional (สินค้าใหม่ที่บริษัทร่วมพัฒนากับลูกค้าบริษัทประกันต่างๆ เป็นสินค้าขายในกลุ่ม health accident เป็นหลัก)
- พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆโดยรวมมือกับบริษัทประกันต่างๆ โดยว่างเป้าหมาย Combined Ratio อยู่ระดับ 90-95%, เบี้ยประกันภัยมาจากต่างประเทศ 5-10%
- เพิ่มช่องทางจำหน่ายอย่าง E-commerce รวมทั้งงานบริการต่างๆ ลงทุนในส่วนงานไอที ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลให้ดีขึ้น
- อัตราการจ่ายปันผลคาดจะอยู่ประมาณ 65-70% ของกำไรสุทธิ พยายามรักษาระดับ ROE ให้ได้ 10-12% (จากสมัยก่อนที่เคยทำได้ 15%)
บริษัทพยายามรักษาผลตอบแทนจากสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับ 3-4% ช่วงหลังบริษัทมีการเพิ่มสัดส่วนใน property fund มากขึ้น
CAR Ratio พยายามรักษาให้อยู่ในระดับ 300% เพื่อคงความได้เปรียบในการแข่งขันกับบริษัทประกันภัยต่อจากต่างชาติ ในการเสนอ Risk Charge ให้กับคู่ค้าได้ระดับต่ำสุด (การมี CAR Ratio 300% เทียบเท่ากับได้เรตติ้งระดับ AAA ซึ่งมีบริษัทไม่กี่แห่งที่ทำได้)
ปัจจุบันหลังจาก Fitch ได้ปรับ Rating มาที่ A- บริษัทประกันต่างชาติที่ไม่ได้ส่งงานตั้งแต่ภัยน้ำท่วมใหญ่ ได้เริ่มทยอยกลับมาส่งเบี้ยให้แล้ว รวมไปถึงการร่วมมือพัฒนาสินค้าประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ด้วยกัน ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักพักถึงเริ่มทำการตลาดได้
การได้ Rating A- ทำให้บริษัทเริ่มขยายงานไปต่างประเทศได้มากขึ้น บริษัทยังเน้นในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยร่วมมือกับบริษัทประกันท้องถิ่นเป็นหลัก
ปีที่ผ่านมาบริษัทมีการ Reinsurance ออกไปบางส่วนเพื่อ
- เป็นการ diversify portfolio เพื่อไม่ให้หนักไปทางด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป
- รักษาให้พอร์ตมีความ stable มากขึ้นจากสินค้าประกันภัยบางตัวที่เริ่มมีสัญญาณ loss ratio ปรับสูงขึ้น จึงทำการ reinsurance ออกไป
Cr:J Saran
แผนเติบโตในระยะ 3 ปี (ปี2016-2018)
- เพิ่มยอดเบี้ยรับรวม เฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 15% ในปี2018 จะมีเบี้ยรับรวมที่ 8,000 ลบ. โดยเบี้ยใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มส่วนใหญ่จะมาจากทาง Non-conventional (สินค้าใหม่ที่บริษัทร่วมพัฒนากับลูกค้าบริษัทประกันต่างๆ เป็นสินค้าขายในกลุ่ม health accident เป็นหลัก)
- พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆโดยรวมมือกับบริษัทประกันต่างๆ โดยว่างเป้าหมาย Combined Ratio อยู่ระดับ 90-95%, เบี้ยประกันภัยมาจากต่างประเทศ 5-10%
- เพิ่มช่องทางจำหน่ายอย่าง E-commerce รวมทั้งงานบริการต่างๆ ลงทุนในส่วนงานไอที ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลให้ดีขึ้น
- อัตราการจ่ายปันผลคาดจะอยู่ประมาณ 65-70% ของกำไรสุทธิ พยายามรักษาระดับ ROE ให้ได้ 10-12% (จากสมัยก่อนที่เคยทำได้ 15%)
บริษัทพยายามรักษาผลตอบแทนจากสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับ 3-4% ช่วงหลังบริษัทมีการเพิ่มสัดส่วนใน property fund มากขึ้น
CAR Ratio พยายามรักษาให้อยู่ในระดับ 300% เพื่อคงความได้เปรียบในการแข่งขันกับบริษัทประกันภัยต่อจากต่างชาติ ในการเสนอ Risk Charge ให้กับคู่ค้าได้ระดับต่ำสุด (การมี CAR Ratio 300% เทียบเท่ากับได้เรตติ้งระดับ AAA ซึ่งมีบริษัทไม่กี่แห่งที่ทำได้)
ปัจจุบันหลังจาก Fitch ได้ปรับ Rating มาที่ A- บริษัทประกันต่างชาติที่ไม่ได้ส่งงานตั้งแต่ภัยน้ำท่วมใหญ่ ได้เริ่มทยอยกลับมาส่งเบี้ยให้แล้ว รวมไปถึงการร่วมมือพัฒนาสินค้าประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ด้วยกัน ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักพักถึงเริ่มทำการตลาดได้
การได้ Rating A- ทำให้บริษัทเริ่มขยายงานไปต่างประเทศได้มากขึ้น บริษัทยังเน้นในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยร่วมมือกับบริษัทประกันท้องถิ่นเป็นหลัก
ปีที่ผ่านมาบริษัทมีการ Reinsurance ออกไปบางส่วนเพื่อ
- เป็นการ diversify portfolio เพื่อไม่ให้หนักไปทางด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป
- รักษาให้พอร์ตมีความ stable มากขึ้นจากสินค้าประกันภัยบางตัวที่เริ่มมีสัญญาณ loss ratio ปรับสูงขึ้น จึงทำการ reinsurance ออกไป
-
- Verified User
- โพสต์: 338
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 55
มีหลายบริษัท Up Load การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 (2016) ไว้บน
YouTube เลยขอบันทึก Link เอาไว้เพื่อความสะดวกในการติดตาม ทั้งนี้บางบริษัทอาจอัพแยกไว้หลายคลิป Link ที่บันทึกในนี้เป็น Link เริ่มต้นอาจต้องหา Link ต่อเนื่องกันเอง
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.เออาร์ไอพี (ARIP)
https://www.youtube.com/watch?v=LVSLKRMELtw
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป (SPA)
https://www.youtube.com/watch?v=ITvzy6FXGd0
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC)
https://www.youtube.com/watch?v=K7U94bUvOO4
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ลีซ อิท (LIT)
https://www.youtube.com/watch?v=V4GCGKbiDbM
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW)
https://www.youtube.com/watch?v=Z9a0fgRQZ2s
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.พรีบิลท์ (PREB)
https://www.youtube.com/watch?v=MNuQC8yfcPA
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ดีคอนโปรดักส์ (DCON)
https://www.youtube.com/watch?v=H2JVkDc4yfk
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.โฮม พอตเทอรี่ (HPT)
https://www.youtube.com/watch?v=IzP_d52Ms_Y
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.พรพรหมเม็ททอล (PPM)
https://www.youtube.com/watch?v=tXgM9LNMOVE
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ (PR)
https://www.youtube.com/watch?v=tVogNuDFjDI
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO)
https://www.youtube.com/watch?v=Oh_mVDG_9VE
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH)
https://www.youtube.com/watch?v=cBBnPY8wpCY
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED)
https://www.youtube.com/watch?v=koz7SclUhBg
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.พรีเมียร์มาร์เก็ตติ้ง (PM)
https://www.youtube.com/watch?v=y_HrSbLAAUo
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ (WINNER)
https://www.youtube.com/watch?v=CrEhPUPI3I0
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.พรีเมียร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ (PE)
https://www.youtube.com/watch?v=5rs8926kIkE
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง (AMANAH)
https://www.youtube.com/watch?v=wfLXQw4Y6r0
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.อินเตอร์ไฮด์ (IHL)
https://www.youtube.com/watch?v=w4jV4HpoONo
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ล่ำสูง (ประเทศไทย) (LST)
https://www.youtube.com/watch?v=4lNrDLq ... 9mL9yZZddz
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ฟิลเตอร์ วิชั่น (FVC)
https://www.youtube.com/watch?v=EM6TO0c1FZM
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC)
https://www.youtube.com/watch?v=2earyot8CCA
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT)
https://www.youtube.com/watch?v=dbIIDTBiRJI
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม (UPOIC)
https://www.youtube.com/watch?v=rb9MD4f ... nSlc3z-tLJ
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.เอ็ม.ซี.เอส. สตีล (MCS)
https://www.youtube.com/watch?v=cDmxvXeXjVM
YouTube เลยขอบันทึก Link เอาไว้เพื่อความสะดวกในการติดตาม ทั้งนี้บางบริษัทอาจอัพแยกไว้หลายคลิป Link ที่บันทึกในนี้เป็น Link เริ่มต้นอาจต้องหา Link ต่อเนื่องกันเอง
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.เออาร์ไอพี (ARIP)
https://www.youtube.com/watch?v=LVSLKRMELtw
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป (SPA)
https://www.youtube.com/watch?v=ITvzy6FXGd0
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC)
https://www.youtube.com/watch?v=K7U94bUvOO4
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ลีซ อิท (LIT)
https://www.youtube.com/watch?v=V4GCGKbiDbM
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW)
https://www.youtube.com/watch?v=Z9a0fgRQZ2s
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.พรีบิลท์ (PREB)
https://www.youtube.com/watch?v=MNuQC8yfcPA
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ดีคอนโปรดักส์ (DCON)
https://www.youtube.com/watch?v=H2JVkDc4yfk
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.โฮม พอตเทอรี่ (HPT)
https://www.youtube.com/watch?v=IzP_d52Ms_Y
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.พรพรหมเม็ททอล (PPM)
https://www.youtube.com/watch?v=tXgM9LNMOVE
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ (PR)
https://www.youtube.com/watch?v=tVogNuDFjDI
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO)
https://www.youtube.com/watch?v=Oh_mVDG_9VE
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH)
https://www.youtube.com/watch?v=cBBnPY8wpCY
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED)
https://www.youtube.com/watch?v=koz7SclUhBg
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.พรีเมียร์มาร์เก็ตติ้ง (PM)
https://www.youtube.com/watch?v=y_HrSbLAAUo
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ (WINNER)
https://www.youtube.com/watch?v=CrEhPUPI3I0
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.พรีเมียร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ (PE)
https://www.youtube.com/watch?v=5rs8926kIkE
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง (AMANAH)
https://www.youtube.com/watch?v=wfLXQw4Y6r0
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.อินเตอร์ไฮด์ (IHL)
https://www.youtube.com/watch?v=w4jV4HpoONo
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ล่ำสูง (ประเทศไทย) (LST)
https://www.youtube.com/watch?v=4lNrDLq ... 9mL9yZZddz
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.ฟิลเตอร์ วิชั่น (FVC)
https://www.youtube.com/watch?v=EM6TO0c1FZM
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC)
https://www.youtube.com/watch?v=2earyot8CCA
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT)
https://www.youtube.com/watch?v=dbIIDTBiRJI
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม (UPOIC)
https://www.youtube.com/watch?v=rb9MD4f ... nSlc3z-tLJ
ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 บมจ.เอ็ม.ซี.เอส. สตีล (MCS)
https://www.youtube.com/watch?v=cDmxvXeXjVM
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 56
EGM SF 3 Oct 16
วันนี้ มาลงคะแนนอนุมัติ คำเสนอซื้อหุ้นจาก Major ซื้อเพิ่มจาก 24.99 เป็น ไม่เกิน 49% ผ่านด้วยมติเอกฉันท์
ผมได้สรุปคำถาม และ คำตอบในที่ประชุม เผื่อคนที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมครับ
Q: การทำเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั่วไปหรือไม่
A: ซื้อจากผู้ถือหุ้นทั่วไป
Q: คำนวณจำนวนหุ้นที่จะซื้ออย่างไร
A: การเสนอซื้อหุ้นบางส่วน โดย เพิ่มจำนวนที่ถือจากเดิม 24.89% เป็น ไม่เกิน 49% ถ้ามีคนขายเกิน ก็จะทำการเฉลี่ยซื้อ
จากผู้ขาย ถ้าคนเสนอขายไม่ครบจำนวน ต้องรอไปสักพักจึงทำการซื้อจากตลาดในเวลาและ ราคาที่เหมาะสม
โดยราคากำหนดจากวันที่ประชุมเดือน สค วันที่11 ย้อนหลัง 15 วัน เฉลี่ยได้ที่ราคา 6.15 บาทต่อหุ้น เลยตั้งราคาซื้อที่
6.2 บาทต่อหุ้น หลังจากผู้ถือหุ้นอนุมัติ ก็จะส่งไปที่กลตใช้เวลาไม่เกิน30วัน และ มีเวลาอีก 25 วันในการทำเสนอซื้อหุ้น
จากผู้ถือหุ้นเดิม ดังนั้นเวลาในการเสนอซื้อหุ้นประมาณปลายเดือน ธค 16
ความคืบหน้าของโครงการ
Megaบางนา โต20%-25%ในส่วนของกำไร
ที่จอดรถเพิ่มเป็น1800คัน และเปิดที่ดินด้านหลังพัฒนาเป็น
Phase 2. เริ่มตอกเข็มเดือนพย 16 ใช้เวลา1ปีแล้วเสร็จ
ส่วนภาษีที่ดิน. คณะกรรมการขอไปศึกษาก่อน
ที่ดินบางใหญ่มีเสนอมารายนึงยังตกลงราคาไม่ได้
ส่วนที่รังสิต คณะกรรมการผังเมืองกำลังดูอยู่.
คอนโดคลองหนึ่งที่ร่วมทำกับLPN เขากับเรานั่งคุยกัน LPNต้องการเปิดเร็วแต่เรายังไม่พร้อม และสถานกาณ์ไม่ดี
เลยโอนลูกค้าไปให้เขา. แต่ไม่มีผลกระทบต่อรายได้เรา
ข่าวกองทุนsingapore. สนใจในมุมมองไหนที่แปะไว้ที่เวป
ประธานบอกว่า ผมไม่ได้ยินข่าวนี้เลย
Q: การที่ Major take over SF บางส่วน ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์อะไรบ้าง และ ราคาที่รับซื้อคิดมาได้อย่างไร
A: Major เป็นพันธมิตรกับ SF การถือคราวนี้มาจากการที่ Major ขายบริษัทที่อินเดีย และ มีกำไรพอสมควร เลย
สนใจนำเงินมาลงทุนเพิ่มเติมใน SF
ส่วนราคานั้นมาจากราคาย้อนหลัง15วัน ซึ่งกรรมการพิจารณาว่า ราคา 6.2 บาทที่เสนอซื้อเป็นราคายุติธรรม
ประมาณ 1.4-1.5 เท่าของ Book value
Q: คำถามจาก CIMB ว่าทำไมซื้อ50% แล้วไม่ delist ออกจากตลาดไป
A: Major ทำโรงหนังเป็นหลัก ไม่ใช่ทำ Property และทำธุรกิจอย่างระมัดระวัง ไม่มีเจตนาถือเกิน 50%
ราคาเสนอซื้อไป Fair value
Q: Major ถือ 50% จะขาย Mega บางนาออกไปหรือไม่
A: ตอนนี้ไม่มีความตั้งใจที่จะขายธุรกิจออกไป
จบประชุม 15.30
วันนี้ มาลงคะแนนอนุมัติ คำเสนอซื้อหุ้นจาก Major ซื้อเพิ่มจาก 24.99 เป็น ไม่เกิน 49% ผ่านด้วยมติเอกฉันท์
ผมได้สรุปคำถาม และ คำตอบในที่ประชุม เผื่อคนที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมครับ
Q: การทำเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั่วไปหรือไม่
A: ซื้อจากผู้ถือหุ้นทั่วไป
Q: คำนวณจำนวนหุ้นที่จะซื้ออย่างไร
A: การเสนอซื้อหุ้นบางส่วน โดย เพิ่มจำนวนที่ถือจากเดิม 24.89% เป็น ไม่เกิน 49% ถ้ามีคนขายเกิน ก็จะทำการเฉลี่ยซื้อ
จากผู้ขาย ถ้าคนเสนอขายไม่ครบจำนวน ต้องรอไปสักพักจึงทำการซื้อจากตลาดในเวลาและ ราคาที่เหมาะสม
โดยราคากำหนดจากวันที่ประชุมเดือน สค วันที่11 ย้อนหลัง 15 วัน เฉลี่ยได้ที่ราคา 6.15 บาทต่อหุ้น เลยตั้งราคาซื้อที่
6.2 บาทต่อหุ้น หลังจากผู้ถือหุ้นอนุมัติ ก็จะส่งไปที่กลตใช้เวลาไม่เกิน30วัน และ มีเวลาอีก 25 วันในการทำเสนอซื้อหุ้น
จากผู้ถือหุ้นเดิม ดังนั้นเวลาในการเสนอซื้อหุ้นประมาณปลายเดือน ธค 16
ความคืบหน้าของโครงการ
Megaบางนา โต20%-25%ในส่วนของกำไร
ที่จอดรถเพิ่มเป็น1800คัน และเปิดที่ดินด้านหลังพัฒนาเป็น
Phase 2. เริ่มตอกเข็มเดือนพย 16 ใช้เวลา1ปีแล้วเสร็จ
ส่วนภาษีที่ดิน. คณะกรรมการขอไปศึกษาก่อน
ที่ดินบางใหญ่มีเสนอมารายนึงยังตกลงราคาไม่ได้
ส่วนที่รังสิต คณะกรรมการผังเมืองกำลังดูอยู่.
คอนโดคลองหนึ่งที่ร่วมทำกับLPN เขากับเรานั่งคุยกัน LPNต้องการเปิดเร็วแต่เรายังไม่พร้อม และสถานกาณ์ไม่ดี
เลยโอนลูกค้าไปให้เขา. แต่ไม่มีผลกระทบต่อรายได้เรา
ข่าวกองทุนsingapore. สนใจในมุมมองไหนที่แปะไว้ที่เวป
ประธานบอกว่า ผมไม่ได้ยินข่าวนี้เลย
Q: การที่ Major take over SF บางส่วน ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์อะไรบ้าง และ ราคาที่รับซื้อคิดมาได้อย่างไร
A: Major เป็นพันธมิตรกับ SF การถือคราวนี้มาจากการที่ Major ขายบริษัทที่อินเดีย และ มีกำไรพอสมควร เลย
สนใจนำเงินมาลงทุนเพิ่มเติมใน SF
ส่วนราคานั้นมาจากราคาย้อนหลัง15วัน ซึ่งกรรมการพิจารณาว่า ราคา 6.2 บาทที่เสนอซื้อเป็นราคายุติธรรม
ประมาณ 1.4-1.5 เท่าของ Book value
Q: คำถามจาก CIMB ว่าทำไมซื้อ50% แล้วไม่ delist ออกจากตลาดไป
A: Major ทำโรงหนังเป็นหลัก ไม่ใช่ทำ Property และทำธุรกิจอย่างระมัดระวัง ไม่มีเจตนาถือเกิน 50%
ราคาเสนอซื้อไป Fair value
Q: Major ถือ 50% จะขาย Mega บางนาออกไปหรือไม่
A: ตอนนี้ไม่มีความตั้งใจที่จะขายธุรกิจออกไป
จบประชุม 15.30