แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3227
ผู้ติดตาม: 4

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 271

โพสต์

miracle เขียน:
nut776 เขียน:รบกวน อธิบาย กรรมฐาน กับ วิปัสนา
ในมุม ของ พี่มิ ให้ฟังหน่อยคับ
กรรมฐานเป็นการฝึกสมาธิ คือ นั่งสมาธิ โดยที่ไม่พิจารณาถึงเวทนา สังขาร ที่เกิดขึ้น และดับหายไป
อะไรเกิดขึ้นตัดอย่างเดียว ให้จิตตั้งไว้ที่ลมหายใจ หรือตั้งไว้ที่เราเพ่งอย่างเดียว
เมื่อฝึกถึงระดับหนึ่งแล้ว จะมีฤทธิ์ (เช่น อ่านใจคน แยกรูปและนามออกจากกันได้ เป็นต้น)
แต่เมื่อฝึกไปแล้ว ไม่ดับกิเลส มีกิเลส ยังอยู่เวียนว่ายตายเกิดอยู่

วิปัสสนา คือ การพิจารณาเห็นว่า เกิดดับ ในขณะที่เราปฏิบัติ โดย วิปัสสนานั้น พิจารณาสิ่งที่เราเป็น
เป็นอาการ แต่มันพิจารณาได้ต้องมีกำลังของสมาธิในระดับต้น เพื่อแยกว่า อะไรคือรูปอะไรคือ อาการออกจากกัน
วิปัสสนาขาดกรรมฐานไม่ได้ เพราะกรรมฐานคือสมาธิ เมื่อฝึกวิปัสสนาไปแล้ว บางที่ก็มีฤทธิ์ หรือไม่มีก็ได้ แต่ปลายทางคือ
ดับกิเลส ไม่เกิดในวัฏจักรสงสารอีกได้

วิธีการของวิปัสสนากรรมฐาน ให้เดินจงกรมก่อนนั่งสมาธิ
การเดินจงกรม ให้เรารู้สติ ว่ามีอาการอะไรเกิดขึ้นบ้างในการเดิน ดูลักษณะท่าทางการเดินจงกรม (การเดินจงกรมเป็นหนึ่งลักษณะ ซึ่งอยู่ในการยืน เดิน นั่ง และนอน)
การเดินจงกรมก็มีการพิจารณาการยืน และการเดิน การเดินก็มีย่างหนอ เป็นหยาบจนถึงละเอียดเลย
เป็นการฝึกกำลังสติ ถ้าใครอ่อนสติให้เดินจงกรมมากๆ (อย่างเช่นผม เพราะ ผมนั่งแต่สมาธิมาก ต้องเดินจงกรมมากๆ)
เมื่อเดินเสร็จก็มานั่งสมาธิ โดยระยะเวลาการเดินจงกรมให้เท่ากับการนั่งสมาธิ
ตอนนั้นสมาธิ อย่าไปตัด เวทนา สังขาร ที่เกิดขึ้น ให้พิจารณา มันจะเห็นการเกิด และ ดับ
มันก็มีข้อยกเว้นว่าตัดได้ เห็น เสียงมันดังตลอดเวลา ก็ตัด แต่ไม่ใช่ว่าเสียงนกบินผ่านไป ไม่รับรู้ว่ามีการเกิดขึ้นและดับไป อย่างนี้ไม่ใช่ละ

การนั่งสมาธินี้ ถ้าหากนั่งนานๆ จะมีอาการ เห็นโน้นเห็นนี้ในสมอง ก็ให้กำหนดว่าเห็นภาพหนอ เดี๋ยวภาพหายไป ต่างกันกรรมฐานที่เห็นภาพปุ๊บก็ตัดเลย เหมือนปิดไฟในห้องที่เปิดไฟอยู่ทันที
:)
พี่มิทำแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ? อยากจะเอามาทำต่อในชีวิตประจำวันบ้างไหมครับ?
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 272

โพสต์

picatos เขียน: พี่มิทำแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ? อยากจะเอามาทำต่อในชีวิตประจำวันบ้างไหมครับ?
ตอบคำถามคุณ Picatos
ข้อแรกก่อน :พี่มิทำแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ?
ทำแล้วเมื่ยมากๆครับ สำหรับเดินจงกรม
อีกประการที่พบคือ เดินแล้วเซครับ ซึ่งกำหนดความละเอียดมากไป
ถ้าเป็นแบบนี้ต้องลดลง แล้วทำให้นานขึ้นครับ

อีกอย่างคือ ทำแล้ว รู้สึกนิ่งขึ้น เห็นความไวของจิต

อีกข้อคือ :อยากจะเอามาทำต่อในชีวิตประจำวันบ้างไหมครับ?
สามารถทำได้เท่าเวลาอำนวย เพราะชีวิตของประชาชนทั่วไปนั้น รวดเร็วกว่าพระสงฆ์
แถมเรื่องที่เป็นห่วงมากมายไม่น้อยทีเดียว ดังนั้นถ้าให้ดี เข้าคอร์สระยะ 7-10 วันได้น้ำได้เนื้อแน่นอน
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 273

โพสต์

ดอกเบี้ยติดลบ

ภาวะดอกเบี้ยติดลบนั้น มีเกิดขึ้นไม่บ่อยมาในโลกนี้
สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจก่อนว่า ภาวะดอกเบี้ยติดลบไม่กระทบต่อประชาชนในวงกว้าง แต่กระทบกับธนาคารพาณิชย์เท่านั้น
ซึ่งเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจ กระทบอย่างไรละ
ธนาคารพาณิชย์เอาเงินสภาพคล่องส่วนเกินไปลงทุน โดยมีส่วนหนึ่งฝากไว้ที่ ธนาคารกลางของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นที่ปลอดภัยที่สุด เพราะ ธนาคารกลางของแต่ละประเทศเป็นที่พึ่งสุดท้ายของธนาคารพาณิชย์ของประเทศนั้นๆ ไม่ว่าเสริมสภาพคล่องให้
ปล่อยกู้ให้ เป็นต้น
เมื่อธนาคารกลาง ประกาศภาระดอกเบี้ยติดลบขึ้น ใครที่ฝากที่ธนาคารกลางบ้าง นั้นคือ ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมาตราการนี้โดยตรง

แล้วทำไมธนาคารกลางต้องทำแบบนี้ เห็นว่า สภาพคล่องส่วนเกินมันไหลกับมาที่ ธนาคารกลาง ซึ่งธนาคารกลางก็อัดเงินโดยผ่านการทำ QE ไปแล้ว แต่ธนาคารพาณิชย์นั้น ไม่ยอมเอาเงินไปปล่อยกู้ หรือลงทุน กลับนำเงินมาฝากไว้ที่ธนาคารกลาง
แล้วแบบนี้จึงดักหลังว่า เมื่อธนาคารพาณิชย์ฝากเงินในวันนี้ 100 บาท แล้วอีก 1 ปีข้างหน้า ธนาคารพาณิชย์ถอนเงินที่ฝากไว้จะได้เงินเหลือ 100+(-x) บาทเท่านั้น โดย x คืออัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางประกาศติดลบไว้นั้นเอง

แล้วผลกระทบต่อการลงทุนแล้ว เมือเป็นเช่นนี้ แล้ว ธนาคารพาณิชย์ ก็ต้องหาทางปล่อยกู้หรือลงทุนให้พอดีกับเงินที่ได้มา ไม่ให้เกิดสภาพคล่องส่วนเกินจนต้องนำไปฝากไว้ที่ธนาคารกลาง
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หากธนาคารพาณิชย์มองว่า ลงทุนในประเทศไม่ได้ ก็ปล่อยกู้ให้แก่ต่างชาติหรือสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนผลตอบแทนของการฝากไว้ที่ธนาคารกลาง เดี๋ยวได้เกิดการดำเนินการ Carry trade โดยใช้สกุลเงินที่มีภาวะดอกเบี้ยติดลบอย่างสนุกสนาน และต้องระวังเรื่องอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาสูงขึ้น เนื่องจากไม่มีที่ลงทุน ก็ไปปั่นราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจนเป็นฟองสบู่ที่พร้อมที่แตกในอนาคตละกัน
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 274

โพสต์

สนามเขียวสู่ Sky Lane รอบสนามบินสุวรรณภูมิ
การปิดสนามเขียว ปรับปรุงเป็น sky lane นั้น
ทำให้เกิดปรากฏการณ์รวมตัวของประชาชนที่ชื่นชอบการปั่นจักรยานมาปั่นส่งท้าย ณ สนามเขียว
และเมื่อปิดปรับปรุง ก็ทำให้นักปั่นมีกิจกรรมการปั่นระดับชาติ คือ Bike for mom และ Bike for dad
ตามมาด้วยการเปิดตัว Sky lane ที่เดิมของสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นสนามที่สวยงาม (วิวสวยงาม)
ไม่เพียงเท่านั้น คุณภาพของ Sky lane เทียมเท่าระดับโลกเลยทีเดียว
แต่ทว่า สิ่งที่พบเจอะเจอใน sky lane คือ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในส่วนของ km ที่ 10-20
เป็นอุบัติเหตุเล็กบ้างร้ายแรงบ้าง มีตั้งแต่ล้ม ได้แผลถลอก จนกระทั่งกระดูกหัก เจ้าหน้าที่ที่ดูแลก็ได้จัด
หน่วยปฐมพยาบาล โดยการสนับสนุนของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
Stand by ไว้รอ แถวทางเข้า และ มีจุดของเจ้าหน้าที่พร้อมรถกระบะรอไว้เลยว่า หากมีเหตุได้เข้าไปช่วยเหลือได้เลย
อีกอย่างที่พบเจอะเจอใน Sky lane คือห้องน้ำที่สะอาดมากๆ เข้าไปใช้บริการได้ในระยะ 5,10 ,15 km และทางเข้าเท่านั้น
ส่วนร้านค้าไม่มีในสนาม ไม่มีจุดให้น้ำ แต่ทางเข้ามีแจกเกลือแร่อยู่

สิ่งหนึ่งที่น่าจะพูดถึงคือ SNAP ซึ่งใช้หลักการ RFID ตัวนี้แหละที่คาดว่า
ข้อมูลของนักปั่นที่ใช้บริการ Sky lane น่าจะมีทำเป็นประวัติการใช้ Sky lane ว่าไปใช้บริการเมื่อไร บ้าง
มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่นี้หรือเปล่า และที่สำคัญคือ เป็น Model ที่เอาไปใช้กับสนามปั่นจักรยานอื่นๆ ทั้งที่เสียเงินและไม่เสียเงิน
ทั้งของราชการและเอกชน เพราะอะไรหรือ จะได้รู้ว่า ประชาชนคนไหนไปปั่นบ้าง นั้นเอง
นั้นนี้แหละที่น่าสนใจและน่าเอาไปต่อยอดได้อีกมากมาย

อีกอย่างที่เห็นพบเจอ คือ ป้าย น้อยไปหน่อย ว่าสนามอยู่ที่ไหน
ทำป้ายบอกหน่อยก็ดี ไหนๆ โครงการนี้ก็ดำเนินการแล้ว ก็ชี้เป้าหมายไปเลยว่าอยู่ไหน ในสนามบิน

สิ่งหนึ่งที่น่าจะต่อยอดได้สำหรับ Sky lane คือ การจัดปั่นจักรยานทั้งของผู้สนับสนุนทุกราย น่าจะจัดรายการปั่นทั้งที่ให้รางวัลและการกุศล หรือ ให้พนักงานมาปั่นเรียกความฟิตของร่างกายนั้นเอง

แล้วต่อไป หลังจาก Sky lane แล้ว จะมีโครงการไหนที่สร้างสนามปั่นจักรยานอีกไหมหนอ ให้ได้มาตราฐานแบบนี้
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 275

โพสต์

ช่องทาง
เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ
เจอเจอะสิ่งหนึ่งในร้านสะดวกซื้อคือ การย้ายค่ายของมือถือ ปลายทางเป็นของค่ายหนึ่งได้
เรียกได้ว่า กวาดคนเข้าระบบ เพราะย้ายเสร็จสามารถได้มือถือได้อีกต่างหาก

เมื่อเวลาผ่านไป ตอนนี้ค่ายที่เหลือก็พบว่า ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ ไม่สามารถรองรับการย้ายค่ายของเจ้าอื่นได้
เนื่องจาก Capacity ของร้านสะดวกซื้อเต็ม (เอ๋ทำไมตอนนั้นยังย้ายได้ ละ)
งานนี้ต้องร้องเพลงรอหน่วยงานที่รับผิดชอบว่าอย่างไรละ เปิดเสรีให้ย้ายได้ในร้านสะดวกซื้อ
หรือ ไม่ให้ร้านสะดวกซื้อเป็นช่องทางในการย้ายค่าย วัดใจกันละตอนนี้
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 276

โพสต์

งูกินช้างภาคอุตสาหกรรมไปหาช่องทางจำหน่าย
เกิดปรากฏการณ์งูกินช้าง แต่รอบนี้เกิดกับอุตสาหกรรมการผลิต ไปซื้อกิจการช่องทางจำหน่าย
แต่ที่สงสัยดีลนี้คือ คนขายประกาศมาหลายวันแล้วว่าขายที่ราคา xxx.xx บาท โดยคิดเป็นสกุลเงินต่างประเทศ
และมีเงื่อนไขว่าทำธุรกรรมเมื่อไรด้วย แต่ทว่าผู้ซื้อตามที่แจ้งนั้น ไม่ได้ดำเนินการเลยทันที
ทิ้งระยะหนึ่งค่อยประกาศ โดยแผนการซื้อคือ กู้เงินระยะสั้น 12 เดือนมาซื้อ และตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นจากรายอื่นๆด้วย
ของของผู้ซื้อตาม market cap ต่อบริษัทเป้าหมายที่ประกาศนั้น 1:4 (เล็กกว่า 4 เท่าโดยประมาณ)
ดีลนี้ต้องดูว่า อีก 12 เดือนข้างหน้าต้นทุนดอกเบี้ยจากระยะสั้นเป็นระยะยาวจะเป็นเท่าไร
งานนี้จะเหมือนรอบที่แล้ว คือธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวไม่สามารถปล่อยกู้ได้ แถมเงินในประเทศสภาพคล่องที่รองรับดีลนี้
ก็น้อยลงกว่าช่วงก่อนหน้านี้ เพราะว่าธนาคารพาณิชย์มีภาระ เรื่อง ผู้ประกอบกิจการดิจิตอลทีวี ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่
ทั้งผู้ประมูล 1800 และ 900 ต่างก็ใช้สินเชื่อทั้งนั้น
อาจจะเป็นสาเหตุที่ช่วงที่ประกาศดีลนี้ ค่าเงินแข็งค่าอย่างมากๆ จาก 35.7x-35.8x ลงไปถึง 35.2x - 35.3x ต่อ $1 เลยทีเดียว
มันก็น่าแปลกว่าค่าเงินไหลเร็วมากๆ ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เหมือน เงินร้อนไหลเข้ามาหรือไม่ต้องติดตามดูกันไปด้วย

อีกสิ่งหนึ่งคือ การออกหุ้นกู้เมื่อแปลงร่างจากเงินกู้ระยะสั้นก็ดี หรือ จะออกแบบhybid bond คือ สภาพเป็นหุ้นกู้แต่สามารถแปลงสภาพได้ ทั้งสองแบบนั้นต้องดูว่า หุ้นกู้ตัวนี้ใช้ราคาหุ้นตัวไหนค้ำประกันหุ้นกู้ด้วย เดี๋ยวหาว่าไม่ได้บอกกัน
มันสำคัญในการมองเกมต่อไปในอนาคต
ไปดีกว่าเดี๋ยวมีคนมาดักตีหัวเอา
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 277

โพสต์

ดูละครย้อนมองดูสิ่งรอบตัว (ปดิวรัดา)
ละครเรื่องนี้ไม่ค่อยได้ดูเท่าไร แต่เมื่อไรดูแล้วก็ติดเลย (ละครน้ำดีแต่เวอร์ไปหน่อยนิดตามแบบฉบับละครไทย)
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้จากละครเรื่องนี้ที่โชว์ความเด่นออกมาคือ การส่งเสริมสถาบันครอบครัว ,การสอนการครองเรือนของหนุ่มและสาว ,ความยุติธรรมโดยภาครัฐปราบปรามเหล่าเสือ (ในเรื่องเป็นเสือขาว) ,สะท้อนความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์
ในเรื่องของการส่งเสริมสถาบันครอบครัวนี้ไม่ค่อยได้เห็นในละครไทยเท่าไร มีแต่เรื่องแย่งชิงทรัพย์สิน แต่ในเรื่องไม่มีเรื่องเหล่านี้มีเลย มีแต่เรื่องของการเชื่อใจกันของคนในครอบครัว
อีกสิ่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในเรื่องหากได้สังเกตคือการสัญจรของประชาชนในยุคนั้น
การสัญจรหลักๆในยุคนั้นเป็นรถไฟ ที่เชื่อมอำเภอ กับเมืองหลวงเข้าด้วยกัน กิจการรถบัสยังไม่มีเลยกระมั้งในเวลานั้น
ส่วนรถยนต์นั้นมีใช้เฉพาะครอบครัวที่มีมีฐานะ ส่วนใหญ่ใช้รถลาก หรือ สามล้อถีบในการสัญจรอยู่เลย
หากมองในเรื่องการเดินทาง จะเห็นได้ว่าการเดินทางได้พัฒนาอยู่เรื่อยๆ เจ้าตลาดเดิมก็ได้ถูกเจ้าใหม่ๆ มากลบแต่ยังไม่ได้
หายไปเลย นั้นคือ รถไฟ มาเป็นรถยนต์ และปัจจุบันเป็นรถไฟฟ้า ในส่วนของการเดินทาง
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นอะไรบ้างอย่างว่า การเปลี่ยนแปลงบ้างครั้งเราต้องมองย้อนกลับไป ในยุคก่อนว่า
ใช้ยานพาหนะเดินทางแล้วยุคนี้ใช้อะไรในการเดินทาง ลองเอาไปเปรียบเทียบกับสิ่งอื่นๆดูละกัน
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 278

โพสต์

ลอตตอรี่ 50 บาทต่อ 1 ใบ(1 คู่)
ปี 2559 งวด 1 มีนาคม 2559 นั้น เป็นอีก 1 งวดที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ประเทศไทยเลยทีเดียว
ว่าประชาชาชนสามารถซื้อ ลอตตอรี่ได้ในราคา 50 บาทต่อ 1 ใบ(50 บาทต่อ 1 คู๋)
ไม่ค่อยได้เห็นปรากฏการณ์นี้มานานมากแล้ว แต่หลายคนก็สงสัยว่าทำไมเกิดภาวะนี้ขึ้น
บอกได้เลย มันคือเรื่องของ Demand & Supply และพฤติกรรมของผู้บริโภค
ประการแรกที่ต้องบอกเลย Supply อยู่ในช่วงที่กองสลากมีอำนาจในการพิมพ์จำนวนสลากได้เพิ่มตาม
จำนวนที่พ่อค้าและแม่ค้าสลากทั้งหลายสั่งจองมา มันเลยทำให้ถ้าหากยอดจองมามาก กองสลากก็พิมพ์ออกมามาก
อันนี้เกิดจากการแก้ไข สลากเกินราคา พ่อค้าและแม่ค้าสลากขายเกินราคา และ แก้ไขปัญหาเรื่องยี่ปั้วและซาปั้ว หรือพวกเสือนอนกิน นั้นเอง เลยเกิดภาวะ Over supply หรือ Put supply เข้าระบบมากเกินไป

ส่วนเรื่องของ Demand นั้น งวดประมาณเดือน มีนาคม - เมษายน ของทุกปีเป็นช่วงที่ภาวะตลาดของลอตตอรี่ขายไม่ออกอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นช่วงที่ประชาชนเก็บเงินเพื่อใช้จ่ายในการกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเป็นช่วงที่เพิ่งจะสิ้นสุดเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนนั้นเอง มันถึงไม่น่าแปลกใจว่าเกิดในช่วงเวลาดังกล่าว

ต่อมาเรื่องของพฤติกรรมผู้ขายและผู้บริโภค นั้น มันต้องเข้าใจเบื้องหลังคือ Option ก่อนว่า ลอตตอรี่นั้น เป็น สัญญา Option ประเภทหนึ่ง คือ หากถูกรางวัลก็ได้เงิน แต่หากไม่ถูกเงินก็เสียเงินที่เป็นค่าลอตตอรี่ไปฟรีๆๆ เหมือน Option เลยคือ ถ้าหากเราไม่ใช้สิทธิ์เสียค่า Premium ของ Option แต่ถ้าใช้สิทธิ์ก็ได้สิ่งที่เราต้องการนั้นเอง ดังนั้น เมื่อเวลาใกล้ๆออกรางวัล ผู้ค้าก็ขายสลากออกมาทุกราคา เพื่อให้ได้ต้นทุนคืนบ้าง ไม่ให้ขาดทุนหนัก เพราะถ้าลุ้นรางวัลแล้วไม่ได้ ผู้ค้าจะไม่มีเงินทำทุนในงวดต่อไป ผู้ซื้อก็จ่ดๆๆจ้องๆๆว่า ยิ่งใกล้เวลาออกรางวัล สลากก็จะลดราคา เพราะผู้ค้าสลากนั้นต้องการทุนคืน มันคือเกมที่มีเวลาการออกรางวัลเป็นตัวเร่ง ว่าใครถือสลากเมือหมดเวลา แล้วเสียเงิน นั้นเอง

ถ้ามองแบบนี้จะเห็นได้ว่า สลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เป็น Talk of the town ตอนนี้มีเบื้องหลังแบบนี้นี่เอง
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 279

โพสต์

น้ำมันดิบขึ้น
อาทิตย์ที่แล้ว(6-12 มีนาคม 2559) นั้น ราคาน้ำมันปรับราคาขายปี 2 ครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน
จากก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทุกคนยังจำได้หรือเปล่า ข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หัวสี เคยขึ้นหน้าหนึ่งเรื่องน้ำมันแพง
เอาราคา้ำมันเบนซิน 95 (ย้ำว่าน้ำมันเบนซิน 95) ราคาลิตรละ 50 บาท เรียกได้ว่า ราคาน้ำมันแพงกว่า
ค่าก๋วยเตี๋ยว1 ชาม/ค่าข้าว 1 จาน พร้อมน้ำดื่มด้วย มาแล้ว
ตอนนี้น้ำมันขึ้นเป็นการส่งสัญญาณว่า Supplier ลดลงจากประเทศผู้ส่งออกรายใหม่คือ US
แทนที่เป็นมาจากกลุ่มของ OPEC ซึ่งนำโดยซาอุดิอาระเบีย นั้นเอง

ส่วนการเพิ่มการใช้งานนั้น ต้องจับตาการนำเข้าพลังงานของญี่ปุ่น ซึ่งได้ปิดโรงงานพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์อีกครั้งหนึ่ง
จากคำสั่งของศาลญี่ปุ่นเอง จุดนี้น่าสนใจ ว่าญี่ปุ่นจะใช้พลังงานชนิดไหนในการผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อนที่กำลังมา

ส่วนอีกเรื่องคือ เมื่อนำ้มันลดลง สิ่งที่ตามมาคือ ปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น เมื่อใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นจำเป็นต้องสำรองน้ำมันเพิ่มขึ้นตาม สิ่งนี้แหละที่ต้องตรวจสอบต่อไปว่า ปริมาณที่สำรอง ณ ตอนนี้ เท่าไร แล้ว กระทรวงพลังงานยังคงต้องขยายปริมาณการสำรองน้ำมันอีกหรือไม่ ถ้าต้องการขยายช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการทำ เพราะราคาน้ำมันลดลง ไม่เป็นภาระต่อการเพิ่มการสำรองเท่าไร
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 280

โพสต์

วิกฤติบราซิล
ตอนนี้การเมืองของบราซิลเริ่มมีปัญหารุนแรงขึ้น
ประชาชนเริ่มออกมาประท้วงการทำงานของรัฐบาลบราซิล
ในเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ,ปัญหาโรคซิกก้า,คอรัปชั่นที่เกิดขึ้น
แต่อย่างไรเสีย ในปีนี้ต้องเกิดการจัดงานโอลิมปิกเกม แน่นอนตามเวลาที่กำหนดไว้
แต่ทว่า นักกีฬาชื่อดังจะเข้าร่วมงานหรือเปล่า จากปัญหาการระบาดอย่างหนักของไวรัสซิกก้า

ตอนนี้ต้องจับตาดูบราซิลให้ดีว่า เมื่อผ่านพ้นโอลิมปิกเกมส์ไปแล้ว จะเป็นเช่นไร
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 281

โพสต์

การกระตุ้นเศรษฐกิจ
ช่วงนี้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการโอนย้ายเงินจากกองทุนประกันสังคม ไปยังกองทุนออมแห่งชาติ
ยังจำได้หรือเปล่า 2-3 ปีที่แล้ว ข่าวลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หัวสีว่าประชาชนที่มีอายุเกิน 60 ปีสมัครสมาชิกกองทุนประกันสังคมเพื่อส่งเงินเข้าสมทบในกรณีของการออม ส่ง 100,150,200 บาท ประมาณนี้ แล้วรัฐก็สมทบให้ ตามจำนวน
แล้วย้อนหลังให้ด้วย เรียกได้ว่า ปิดทำการก็ยังมีประชาชนรอทำเรื่องเป็นจำนวนมากมาย เรียกได้ว่าระบบรองรับไม่ได้
มาถึงตอนนี้ถึงกำหนดเส้นตายในการย้ายคือ 23 มีนาคม 2559 นี้ จากกองทุนประกันสังคมโอนย้ายไปยังกองทุนออมแห่งชาติ หรือ เอาเงินที่ส่งให้ประกันสังคมออกมาในส่วนของตัวเองและส่วนที่รัฐสมบทก็ประมาณ 8-9 พันบาท (รัฐสมทบให้ครึ่งหนึ่งฟรีๆ)
อย่างนี้คือเหมือนเอาเงินโยนเข้าระบบเศรษฐกิจไทย ผ่านประชาชนผู้เป็นที่เคารพรักของพวกเรานั้นเอง

ข่าวนี้ไม่ค่อยมีใครเขียนถึง แต่ทว่าก็เป็นเรื่องน่าคิดว่า มันคือการกระตุ้นโดยทางอ้อมนั้นเอง

ปล. ตอนนี้สังเกตกรมสรรพากรที่เป็นกรมหลักในการหารายได้ของรัฐ เริ่มมาตราการเดินสำรวจร้านอาหารข้างทางแล้ว
ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่า เก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นก็หมายถึง ต้องกู้เพิ่มขึ้นนั้นเอง
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 282

โพสต์

พอดีได้อ่านเอกสาร IoT (Internet of Thing) ที่มองอนาคตธุรกิจเป็นเช่นไร
มีในส่วนของประกันวินาศภัยโดยเฉพาะประกันรถยนต์ มันน่าจะเกิดขึ้นได้ อย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้
คือ การติดตั้งอุปกรณ์ ส่งค่าพิกัด ความเร็ว -> บ่งบอกถึงพฤติกรรมการขับขี่ของรถผู้เอาประกันในขณะนั้น
จุดนี้แหละที่ประกันภัยต้องการ เพราะ หากพฤติกรรมการขับขีไม่เหมาะสม ก็ทำให้บริษัทขาดทุนจากการเอาประกันภัยได้
แก้ไขปัญหาเรื่องขาดทุนได้ชะงักเลยทีเดียว
ส่วนผู้เอาประกันได้อะไรหรือ ถ้าหากพฤติกรรมการขับขี่ดี ก็คือ การขับขี่น้อย (โอกาสเกิดขึ้นก็น้อยตาม) ความเร็วที่ใช้ไม่เกินกว่ากฏหมายกำหนด ก็สามารถเอาไปลดหย่อนเบี้ยได้ในอนาคต

ในจุดนี้มีบริษัทในประเทศเริ่มดำเนินการแล้วใน ปี 2558 นั้นเอง
แต่ทว่า ยังไม่ได้ดำเนินการทั้งหมดทุกคันของบริษัทนี้ เพราะอะไร เพราะว่า
อุปกรณ์ราคาแพง และผู้เอาประกันภัยังไม่เห็นผลประโยชน์ที่ได้รับชัดเจน และกลัวปัญหา ที่เกิดขึ้นตามมาในเรื่อง
ใช้เป็นข้ออ้างอิงในคดีความ

ดังนั้น คปภ ก็ดี หรือ รัฐบาลก็ดี น่าจะส่งเสริมไปเลยว่า รถยนต์ใหม่ทุกคนให้ติดตั้งอุปกรณ์นี้
เพื่อที่ผู้ซื้อรถยนต์ได้ประโยชน์ทั้งในด้านประกันภัย และกรณีที่รถยนต์หาย ว่าไปอยู่ที่ไหนด้วย
เป็นการส่งเสริมธุรกิจด้าน IT และ Hardware ให้ผลิตสินค้าตรงกับความต้องการของโลกตอนนี้

หวังว่า ข้อเสนอดีๆแบบนี้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรับฟังด้วยละกัน

:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 283

โพสต์

พอดีได้อ่านเอกสาร IoT (Internet of Thing) ที่มองอนาคตธุรกิจเป็นเช่นไร
มีในส่วนของประกันวินาศภัยโดยเฉพาะประกันรถยนต์ มันน่าจะเกิดขึ้นได้ อย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้
คือ การติดตั้งอุปกรณ์ ส่งค่าพิกัด ความเร็ว -> บ่งบอกถึงพฤติกรรมการขับขี่ของรถผู้เอาประกันในขณะนั้น
จุดนี้แหละที่ประกันภัยต้องการ เพราะ หากพฤติกรรมการขับขีไม่เหมาะสม ก็ทำให้บริษัทขาดทุนจากการเอาประกันภัยได้
แก้ไขปัญหาเรื่องขาดทุนได้ชะงักเลยทีเดียว
ส่วนผู้เอาประกันได้อะไรหรือ ถ้าหากพฤติกรรมการขับขี่ดี ก็คือ การขับขี่น้อย (โอกาสเกิดขึ้นก็น้อยตาม) ความเร็วที่ใช้ไม่เกินกว่ากฏหมายกำหนด ก็สามารถเอาไปลดหย่อนเบี้ยได้ในอนาคต

ในจุดนี้มีบริษัทในประเทศเริ่มดำเนินการแล้วใน ปี 2558 นั้นเอง
แต่ทว่า ยังไม่ได้ดำเนินการทั้งหมดทุกคันของบริษัทนี้ เพราะอะไร เพราะว่า
อุปกรณ์ราคาแพง และผู้เอาประกันภัยังไม่เห็นผลประโยชน์ที่ได้รับชัดเจน และกลัวปัญหา ที่เกิดขึ้นตามมาในเรื่อง
ใช้เป็นข้ออ้างอิงในคดีความ

ดังนั้น คปภ ก็ดี หรือ รัฐบาลก็ดี น่าจะส่งเสริมไปเลยว่า รถยนต์ใหม่ทุกคนให้ติดตั้งอุปกรณ์นี้
เพื่อที่ผู้ซื้อรถยนต์ได้ประโยชน์ทั้งในด้านประกันภัย และกรณีที่รถยนต์หาย ว่าไปอยู่ที่ไหนด้วย
เป็นการส่งเสริมธุรกิจด้าน IT และ Hardware ให้ผลิตสินค้าตรงกับความต้องการของโลกตอนนี้

หวังว่า ข้อเสนอดีๆแบบนี้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรับฟังด้วยละกัน

:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 284

โพสต์

จับตามาตราการกระตุ้นของภาครัฐ
ปีนี้ต้องลำดับความก่อนว่า ปี 2559 จะมีการทำประชามติเรื่องของรัฐธรรมนูญ ตาม road map ที่วางไว้
และมีการเลือกตั้งในปี 2560 หาก รัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติของประชาชน
ดังนั้น จึงต้องมีการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน เพื่อให้ประเทศกลับมาเดินทางต่อไปได้
ทำไมถึงต้องเขียนสองเรื่องนี้เข้าด้วยกัน ไม่น่าแปลกใจ พื้นฐานของการเมืองนั้นคือเรื่องของปากท้องของประชาชน
ให้กินอิ่มนอนหลับ หากประชาชนกินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ ก็ออกมาเรียกร้องให้ปากท้องที่ไม่อิ่มได้อิ่ม (ถ้าหากใครที่มีเวลาแนะนำอ่านประวัติศาสตร์ของประเทศจีนที่มีการบันทึกมาอย่างยาวนานเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ส่วนหนึ่งมาจาก ประชาชนกินไม่อิ่มนั้นเอง) ยิ่งตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเจอะเจอกับภาวะที่น้ำแล้งอย่างหนักมากๆ เอาอีกแล้วถ้าหากใครมีเวลาว่างๆ ก็ลองขับรถไปตามถนนเส้น 1 หรือเส้น 2 หรือเส้น 4 ลองไปดูครับ ว่าต้นไม้มันแห้งขนาดไหน ปีนี้ไม่เห็นสีเขียวของใบไม้เลย ขับไปเจอต้นคูนออกเป็นสีเหลืองทั้งต้น เจอเฟื่องฟ้า ออกสีเต็มต้นเลย เจอสีเทาของใบไม้แห้ง ร่องรอยสีดำที่เกิดจากไฟไหม้ ตลอดเส้นทาง ผลของความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ดังนั้นรัฐก็ต้องออกมาตราการเยียวยา แต่ด้วยวิธีการไหนน่าสนใจ
ไม่เพียงแค่เยียวยาน้ำแล้งเท่านั้น ยังมีเรื่อง ซ๊อปช่วยชาติภาค 2 ในช่วงสงกรานต์ที่กำลังมาถึง ทำให้เกิดการใช้จ่ายเกิดขึ้น นำค่าใช้จ่ายเหล่านั้นมาลดภาษีได้ (ระวังไว้หน่อยว่า ร้านค้าอาจจะต้องเตรียมพนักงานที่ออกใบกำกับภาษีเพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์ปกติ เหมือนตอนปลายปีที่แล้ว หนังสือพิมพ์หัวสีขึ้นหน้าหนึ่งว่า ออกใบกำกับภาษียันตีสามตีสี่เลยทีเดียว หรือลักไก่ออกเป็นอะไรอย่างอื่นที่กรมสรรพากรไม่คิดเป็นการลดหย่อนภาษี)
ไม่เพียงเท่านั้น รัฐยังกระตุ้นเรื่องอสังหาริมทรัพย์ผ่านธนาคารของรัฐอีกด้วย แต่แปลกใจว่า ธนาคารพาณิชย์ทั่วไปไม่ลงมาเล่นด้วยในช่วงนี้
ดังนั้น การลงทุนต้องส่องให้ดีๆว่าอะไรได้ประโยชน์หรือไม่ได้ประโยชน์ในช่วงนี้แหละ
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 285

โพสต์

วิบากกรรมของผู้ที่ผ่อนน้อยในช่วงแรก

ยังจำเรื่องรถคันแรกได้หรือเปล่าครับ
ปีนี้เป็นปีที่ครบ 4 ปีของรถคันแรกที่ออกเมื่อปี 2555 ซึ่งเป็นจำนวนรถที่มากกว่าปี 2554 แต่น้อยกว่าปี 2556 (ปี 2556 จะมากที่สุดแต่ปี 2555 จะมากในช่วงหลังของปี) ย้อนเวลาในตอนปี 2555 นั้นค่ายรถยนต์ ร่วมมือกับ ลีสซิ่งในค่ายออกโปรโมทชั่นการผ่อน
โดยผ่อนน้อยๆในช่วง 4 ปีแรก โดยการคิดดอกเบี้ยสำหรับรถใหม่ เมื่อจบปีที่ 4 แล้ว ราคาของรถที่เหลือในการผ่อนนั้นดำเนินการ Refinance ด้วยอัตราดอกเบี้ยรถมือสอง ถ้าหากเจ้าของรถยนต์ไม่หาเงินมาปิดบัญชี
ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมเงินในมือของประชาชนถึงลดลงน้อยลงในช่วงนี้

สิ่งที่สำคัญในการ Refinance ก็คือ อัตราดอกเบี้ยรถมือสองนั้นเอง ว่าอยู่ที่ระดับเท่าไร
โครงการรถยนต์คันแรกยังไม่มีอะไรออกมาเป็นชิ้นเป็นอันสำหรับการโอนก่อนกำหนด
อันนี้ต้องติดตามดูให้ดีว่าอย่างไร จะแก้ไขเกมนี้อย่างไร เพราะมันเป็นเพียงแค่กฏกระทรวงเท่านั้น
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 286

โพสต์

ปล่อยผีโครงการ

ช่วงนี้เป็นช่วงที่โครงการรัฐและรัฐวิสาหกิจออกมาคับคั่งอย่างมากๆ
ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีการปล่อยโครงการออกมาเท่าไร แต่ตอนนี้หากโครงการไหนที่มีปัญหา
คือล้มโครงการไป ก็เข้าสู่กระบวนการจัดซื้อพิเศษเลย ซึ่งมันก็แปลกว่า E-market/E-bidding
ที่ทดแทนการยื่นซอง หรือ E-auction ยังไม่ได้ใช้งานเต็มรูปแบบ
ก่อนหน้านี้ รัฐได้ประกาศป่าวๆในช่วงปลายปีที่แล้วว่า จะเอาระบบ E-market /E-bidding มาใช้งานเต็มรูปแบบ
เพื่อลดขั้นตอน/ลดต้นทุนของเอกสาร แต่เอาเข้าจริงๆ ข้าราชการ/เจ้าหน้าที่ไม่พร้อม ไม่เข้าใจการใช้งาน
แถมโครงการที่ของบไปนั้น มันเป็นแบบเดิม ทำให้ไม่สามารถดำเนินการเป็น E-market/E-bidding มิได้
และที่น่าตกใจยิ่งกว่าหน่วยงานของรัฐที่ส่งเจ้าหน้าที่อบรม คือ ภาคเอกชนที่เป็นผู้ประมูลงานต่างๆ
ยังไม่ได้เข้ารับการอบรมจากหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้เลย

งานนี้ต้องรอดูว่า ระบบที่ว่าดี ประหยัดงบประมาณ/ประหยัดภาษีของประชาชนได้นั้น
จะเริ่มใช้งานจริงๆเมื่อไร
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 287

โพสต์

ทำไมอัตราดอกเบี้ยติดลบ ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้
อัตราดอกเบี้ยติดลบนั้น ต้องบอกก่อนว่า มันคือการเพิ่มขึ้นของราคาพันธบัตรมากจรกระทั่ง
กระแสเงินสดในอนาคตนั้นไม่ครอบคลุมเงินลงทุนพันธบัตรนั้นๆ
เมื่อบอกแบบนี้ทุกคนงงละซิ ลองคิดจากธรรมดาที่ว่า พันธบัตร อายุ 1 ปี มูลค่าหน้าตั๋วคือ 1,000 บาท
ให้ดอกเบี้ย 1% ต่อปี จ่ายสิ้นปี ดังนั้นเมื่อเราลงทุนไป 1000 บาทได้เงินกลับมา 1,010 บาท (ต้น 1,000 และดอกเบี้ย 1%*1000=10) แต่ทว่าเราซื้อมันมาที่ราคา 1010 บาทถือว่า ยังเสมอตัว แต่เมื่อไรที่ เราจ่ายไปมากกว่า 1,010 บาทคือ 1,011 บาทละก็ดอกเบี้ยที่เราได้นั้นติดลบ
เมื่อเป็นแบบนี้นั้นคือราคาพันธบัตรมันสูงขึ้น ดังนั้น ทุกคนยังมองไปที่การลงทุนสิ่งทรัพยาที่ปลอดภัยอยู่
ในเมื่อราคาเพิ่มขึ้นโดยผู้เล่นที่เป็นธนาคารกลางอยู่แบบนี้ ทุกคนก็ยังใส่เงินเข้าเล่นเกมนี้ต่อไป
แล้วใครเป็นผู้เล่นในตลาดหลักของพันธบัตรคือ บริษัทประกัน กองทุน ธนาคารพาณิชย์ พวกนี้เป็นผู้เล่นหลัก
เมื่ออัตราดอกเบี้ยติดลบนั้นส่งไปยังผู้เล่นแค่ตลาดพันธบัตรเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ฝากเงินโดยตรงเท่าไร
(จริงๆมันก็กระทบไปยังผู้ฝากเงิน เนื่องจาก ธนาคารพาณิชย์นั้นลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง)
เมื่อเป็นแบบนี้ เงินมันก็หาได้ง่าย จากการที่เอาเงินไปวางไว้ในตลาดพันธบัตร แล้วรอให้ธนาคารกลางประกาศลดอัตราดอกเบี้ยไปอีก สำหรับคนที่มีพันธบัตร แต่ทว่า หากเป็นการซื้อพันธบัตรละ คนซื้อต้องมองว่า จะมีใครมาซื้อพันธบัตรที่มีราคาแพงกว่าหรือเปล่า มันก็น่าคิด

มาว่ากันต่อที่ตำราด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคที่ใช้กันนั้น ได้กล่าวไว้ในส่วนการเงินที่ว่า
ลดอัตราดอกเบี้ยลดนั้น เป็นกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ เพิ่มปริมาณเงินในระบบ เมื่อมีเงินในระบบมากๆ ก็ทำให้เงินมันหมุนเวียนได้ดีขึ้น ผู้ถือเงินก็รีบใช้เงินเพิ่มขึ้น เพราะเงินในมือลดค่า นั้นคือทำให้เงินเฟ้อ แต่ทว่า ตอนนี้สถานการณ์มันกลับตะละปัด ซิ
มันกลายเป็น เมื่อเพิ่มปริมาณเงินในระบบแล้ว เงินมันไม่ยอมหมุนในระบบ ระบบมีสภาพคล่องล้น แถมประชาชนรู้ว่าราคาสินค้าในตลาดมันลดลง ก็รอ ทำให้เกิดสภาวะเงินไม่หมุนในระบบ (เงินไม่คล่อง)
สภาวะนี้เกิดจากอะไร เกิดจาก สินค้าคงคลังที่ผลิตแล้วขายไม่ออก มาดองไว้ ในคลังสินค้ารอเสื่อมสภาพ ถ้าขายตอนนี้ก็ต้องขายลดราคา ยิ่งนานวันก็เสื่อมสภาพเพิ่มขึ้น หรือ ไม่ก็ล้าสมัย ก็แย่งกันขาย หรืออีกกรณีคือ สินค้าที่มีอยู่ราคาสูง เนื่องจากผลิตตอนที่สินค้าต้นน้ำราคาแพง แต่ตอนนี้เมื่อสินค้าต้นน้ำที่ใช้ในการผลิตลดลง ราคาสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วราคาถูกลง มันก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เป็นไปได้ในการอธิบายเรื่องนี้
แล้วมันจบเมื่อไรวงจรแบบนี้ เปิดตำราในปี 1890-1900 ตอนต้น ตำราเศรษฐศาสตร์ในยุคนั้นรับมือกับปัญหานี้โดยเฉพาะ
แต่ทว่า คนในยุคนี้ มันได้รับอิทธิพลจากตำราในช่วงหลังจากนั้นที่เป็นปัญหาเรื่องเงินเฟ้อเป็นหลัก ไม่เคยเจอะเจอปัญหาเงินฝืดอีกเลย เนื่องจากอะไร เนื่องจาก สินค้ามันซื้อมาขายคล่อง จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น อัตราการเกิดที่สูง การมีสงครามที่เกิดขึ้น ทำให้ประเทศที่มีฐานภาษีต่ำมีอยู่มากๆ พวกนี้แหละที่เป็นตัวขับเคลื่อน
เรื่องเดียวเล่าซักยาวเลยในรอบนี้
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 288

โพสต์

ข่าวนี้ต้องขยาย
---------------------
ประกันโอด "ฮอนด้า" เขี้ยว.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/economy/insurance/426509.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/economy/insurance/426509
---------------------
ผมสรุปให้อ่านว่า ค่ายรถยนต์ฮอนด้า ไม่นำอะไหล่ของรถยต์ ส่งให้แก่อู่รถยนต์ ส่งให้แต่ศูนย์ให้บริการ โดยอ้างเหตุเรื่องการรับประกันมาตราฐานการซ่อม สำหรับรถอายุไม่เกิน 7 ปี
งานนี้ต้องขยายความว่า ตลาดประกันวินาศภัยรถยนต์นั้น การทำประกันชั้น 1 นั้นทำกับรถยนต์ที่อายุไม่เกิน 7 ปี หรือ มีกรณีพิเศษโดยใช้ดุลยพินิจของบริษัทประกันวินาศภัยในการรับประกัน โดยทั่วไปแล้ว วงเงินคุ้มครองรถยนต์ลดลงปีละ 10% ของราคาปีก่อนหน้าอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไป เบี้ยประกันวินาศภัยถูกลงจากการที่วงเงินคุ้มครองลดลงส่วนหนึ่งด้วย
ผู้ทำประกันชั้น 1 สามารถเลือกเข้ารับบริการที่ศูนย์ของค่ายรถยนต์ โดยส่วนใหญ่บริษัทประกันวินาศภัยให้แค่ 3 ปีแรกของอายุรถยนต์เท่านั้น หลังจากนั้น ซ่อมอู่อย่างเดียว เป็นจุดที่ทำให้เจ้าของรถยนต์ต้องหาอู่ที่ไว้วางใจได้ ทำการซ่อมแซมแล้วดีจริง (ส่วนใหญ่ที่ผมเลือกคือ ถามเจ้าหน้าที่มาเครมประกันเลยว่า เข้าที่ไหนดี บนเงื่อนไข .... นั้นเอง เดี๋ยวเข้าแนะนำให้เองละ)
จุดนี้แหละเป็นจุดที่อะไหล่มือหนึ่งหรือมือสอง อะไหล่แท้หรืออะไหล่เทียม หรืออะไหล่จากรถยนต์ที่ซื้อแล้วต้องการตกแต่งเพิ่มเติม ภายนอกศูนย์บริการ (ถอดแล้วก็ขายให้ เลยเป็นอะไหล่ให้อู่ต่อไป) โดยส่วนใหญ่นั้นอะไหล่แท้ก็มาจากบริษัทค่ายรถยนต์ สินค้าเลียนแบบ หรือ เกรดสองสามไม่ค่อยได้ของเท่าไร

หากฮอนด้าคิดว่า การบังคับให้รถยนต์อายุต่ำกว่า 7 ปีไปใช้บริการที่ศูนย์อย่างเดียว ท่าทางจะยากมากๆ
ถ้าหากเข้าศูนย์กับเข้าอู่ ราคาของอู่ถูกกว่าอยู่แล้ว (ลองคิดละกัน แค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ศูนย์ใช้เงินประมาณ 1 พันบาทกลางๆแล้ว แต่พวก บีควิก คิดแค่ไม่ถึงพัน ยิ่งถ้าร้านขายนอกยิ่งถูกไปใหญ่อีก) ดีไม่ดี การทำสีของศูนย์นั้นอาจจะไม่ดีเท่าอู่ข้างนอกก็เป็นไปได้
คนซื้อรถมองเรื่องการซ่อมบำรุงไว้อยู่แล้ว เพราะ ค่ายรถยนต์เองก็ใช่ว่า ดูแลตลอด ดูอย่างเจ้าของตลาด (พี่โตโยต้า) รถอายุมากกว่า 10 ปี ก็ต้องออกโปรโมชั่นช่วงเวลาต่างๆ ให้นำกลับเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์การให้บริการ เลย
คนซื้อดูที่ รถที่ซื้อมาจากค่ายที่มีจำนวนรถยนต์ใช้มาก ทำให้อะไหล่หาง่ายๆ ไม่ต้องกังวลใจว่า อาการที่เสียนั้นมีเพื่อนที่เป็นแน่นอน ลองเปิดที่ www.pantip.com ดูหรือ ค้าหาจาก google ดูละกัน

เรื่องนี้หาก Honda ทำอยู่คนเดียว ค่ายอื่นๆ ไม่รวมด้วยมีหวังว่า ยอดขายของ ฮอนด้าตกแน่นอน เพราะราคาประกันภัยสูง ราคาซ่อมบำรุงรักษาก็สูงไปด้วย
มาถึงเรื่องสุดท้ายคือ การรับประกันรถยนต์ของค่ายรถยนต์นั้น แค่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
ตอนที่เชฟมีปัญหานั้น ขยาสยให้เป็น 5 ปี 2-3 แสนกิโลเมตรเลยทีเดียว ทำไหมเป็นเช่นนี้ละ เพื่อดึงดูดประชาชนให้เอาเงินมาซื้อรถยนต์ของค่ายเรา ก็เป็นการเพิ่มจำนวนของรถรุ่นนั้นเลยทีเดียว
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 289

โพสต์

มาตราการลดหย่อนภาษีปีภาษี 2560

รูปภาพ
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2559 นั้นมีมติที่สำคัญต่อประชาชนทั่วไปคือ
มาตราการลดหย่อนภาษีของบุคคลธรรมดาได้คลอดออกมา ซึ่งมาตราการดังกล่าว
โดยรวมเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ไล่ตั้งแต่ การลดหย่อนบุตร ที่เพิ่มขึ้นและไม่จำกัดจำนวนคน
มาตราการนี้เป็นการกระตุ้นให้เกิดอัตราการเกิดเพิ่มขึ้นหรือเปล่า เป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป
ต่อมาคือ ปรับฐานให้กว้างขึ้น สำหรับฐาน 2 ล้านเป็น 5 ล้านบาทจ่ายอัตราภาษีที่ 30%
มาตราการที่ลดหย่อนส่วนบุคคลจากเดิม30,000บาทเป็น 60,000 บาท
ทำให้รัฐมีรายได้ลดลง แต่ทำให้เงินไปอยู่ในมือประชาชน ก่อให้เกิดการคาดการณ์ว่า ในอนาคต
ประชาชนมีเงินมากขึ้นทำให้เกิดการใช้จ่ายกันเพิ่มขึ้นนั้นเอง
แต่รอบนี้เป็นรอบที่ปรับแล้วจะส่งผลกระทบต่อ พวก LTF ,RMF ,ประกันชีวิตแบบจ่ายเบี้ยครั้งเดียว พวกนี้จะทำให้คนซื้อน้อยลง
สำหรับคนที่มีฐานภาษีกลางๆ ส่วนฐานภาษีสูงๆๆนั้นไม่ต้องกลัวไม่ซื้อ กลุ่มนี้เขาซื้อกันเต็มวงเงินที่สามารถใช้ลดหย่อนได้ อยู่แล้วละ ห่วงแต่กลางและล่างมากกว่าซึ่งเป็น คนส่วนใหญ่ว่า เมื่อคาดการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว คนกลุ่มนี้จะเอาเงินในอนาคตมาใช้งานเพิ่มขึ้นมาน้อยแค่ไหน ตามทฤษฏีความคาดหวังนั้นเอง
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 290

โพสต์

ฤาว่า Google จะเดินตาม Microsoft
ตอนนี้มีข่าวว่า Google โดยฟ้องร้องเรื่องการผูกขาดซอฟแวร์บนระบบปฏิบัติการ Android ที่ใช้งานบนมือถือค่ายๆต่างๆ
โดยฟ้องร้องในยูโรป
ถ้าหากจำกันได้ Microsoft เคยโดยฟ้องร้องเรื่องการผูดขาดตลาดซอฟแวร์อยู่สองแห่งที่คือ US กับยุโรป
จนสุดท้าย Microsoft ต้องจำใจเปิดเผย Source code ของระบบปฏิบัติการ MS Windows ไม่เพียงเท่านั้น
จำเป็นต้องถอด IE ออกมาเป็น Optional
จุดนี้แหละที่ทำให้ Microsoft ถดถอยลง

มาคราวของ Google ในส่วนของระบบปฏิบัติการ Android นั้นมีโปรแกรมแถมมากับตัวของมันเพียบ
แถมติดตั้งไว้ในตัวระบบปฏิบัติทันที โดยที่ผู้ใช้งานไม่ได้ร้องขอ เป็นโปรแกรมพื้นฐานในการทำงาน
จึงทำให้เกิดการผูดขาดเกิดขึ้น
ต้องติดตามดูกันต่อไปว่า Google จะแก้ไขเหตุการณ์อย่างไร
แต่เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมซอฟแวร์ แต่ได้เกิดไปแล้วและจบไปแล้วด้วย
นั้นคือ Microsoft ที่โดนนั้นเอง
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 291

โพสต์

เงินเฟ้อติดลบ
ในสมัยที่ผมเรียนหนังสือทั้งระดับมธัยมปลายและระดับปริญญาตรีนั้น
วิชาเศรษฐศาสตร์ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมมานัก นักเศรษฐศาสตร์ยังไม่ค่อยได้ออกสื่อเหมือนในปัจจุบันนี้
หรือ แม้นแต่สำนักวิจัยต่างๆก็ยังเพิ่งเริ่มต้น (เริ่มแตกตัวออกมาจากบริษัทเพราะวิกฤติต้มยำกุ้ง)
สมัยที่เรียนนั้น ยังจำได้ว่า ครูบาอาจารย์ได้สอนไว้ว่า เงินเฟ้อระดับต่ำ เป็นสิ่งที่เหมาะสมต่อเศรษฐกิจขยายตัว
นักเศรษฐศาสตร์ไม่ค่อยชอบเงินเฟ้อระดับสูง หรือเงินเฟ้อติดลบ เพราะแก้ไขยาก ชอบให้มันอยู่ระดับต่ำ
สิ่งนี้แหละที่เป็นกุญแจว่า เศรษฐกิจขยายตัวในระดับที่เงินเฟ้อต่ำ นั้นคืออะไร นั้นคือ ประชาชนในประเทศนั้นๆ มีกำลังซื้อ
มีความต้องการซื้อ ไม่รอว่าสินค้านั้นขาดตลาดก่อนแล้วค่อยระดมกันซื้อ หรือ ไม่ต้องรอว่า สินค้าราคาลดลงอีกในอนาคต
แต่ในปัจจุบันที่เราๆท่านๆเผชิญอยู่คือ ภาวะเงินเฟ้อติดลบ สิ่งนี้มันสะท้อนถึงอะไรหนอ
สิ่งที่สะท้อนจากภาวะเงินเฟ้อติดลบคือ ประชาชนไม่ค่อยใช้เงิน รออะไรซักอย่าง สิ่งที่รออาจจะเป็นสินค้าที่ไม่โดนใจ สินค้านั้นราคามันต้องลดลงได้อีกแถมมีส่วนลดและของแถมด้วย (เช่นในปัจจุบัน กรรไกร เมื่อก่อนซื้อกันราคา 50 บาทขึ้นไปตอนนี้เดินเข้าร้าน 20 บาท ร้านนี้ขายกรรไกร 20 บาท หรือ ซื้อของออนไลน์ ได้ราคาถูกว่าที่ต้องไปห้าง แถมได้ของแถมที่ห้างแถมไม่ได้ เช่น ซื้อ DVD Portable ขนาด 10 นิ้ว สามารถดู Digital TV แบบ DB2 ได้ มีจอขนาด 10 นิ้วให้ มีเครื่องเล่นในตัวทั้ง DVD/CD ,MP3,Thumb drive ได้ อีกต่างหาก ในห้างไม่ได้แถมตัวชาร์จภายในรถ แต่ออนไลน์แถม และมีการรับประกันเท่ากันอีกต่างหาก)
อีกประกาศหนึ่งที่ทำให้เงินเฟ้อติดลบคือ การทุ่มตลาด แข่งกันระบายสินค้าในคลัง ที่ขายไม่ได้ออกมา ไม่ได้ผลิตของใหม่ๆเท่าไร นั้นคือ บิดเบือนตลาดในด้านการแข่งกันลดราคา สิ่งนี้ทำให้ มองว่า ในอนาคตราคาก็ลดลงได้อีก
สิ่งเหล่านี้ไม่ค่อยได้เกิดขึ้นใน ยุค 1900 เป็นต้นมา จึงทำให้หนังสือเศรษฐศาสตร์ไม่ได้เขียนวิธีการแก้ไขไว้ว่า ทำเช่นไร
กลับกัน หนังสือเศรษฐศาสตร์ในยุคหลังปี 1900 เป็นต้นมา เก่งในด้านการแก้ไขเงินเฟ้อ ทั้งเงินเฟ้อระดับรุนแรง เงินเฟ้อที่ค่าเงินลดลงด้วย เงินเฟ้อที่กระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ทำให้เราเรียนรู้และมีประสบการณ์จากเงินเฟ้อ แต่ไม่ได้มีประสบการณ์เงินเฟ้อติดลบเท่าไร
เงินเฟ้อติดลบนั้น จะหยุดติลงก็ต่อเมื่อ มองมุมของผู้บริโภคมองว่า สินค้านั้นไม่ลดลงแล้ว มีแต่จะสูงขึ้น และจำเป็นต้องใช้ นั้นแหละทำให้ เงินเฟ้อเป็นบวกกันมาได้
แล้วอะไรที่ทำให้เงินเฟ้อเป็นบวกได้ละ มันต้องมีปัจจัยคือ อุปสรรคในการดำเนินการกิจการ ,ระดับภาษีที่พอเหมาะพอสมให้สามารถดำเนินการกิจการได้ , อายุของประชาชน ,จำนวนประชากร เป็นพื้นฐานนั้นเอง
งานนี้ต้องรอกันต่อไปว่าเมื่อไร เงินเฟ้อจะเป็นบวก
:)
:)
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 292

โพสต์

เปลี่ยน วิธี คิด เงินเฟ้อ ได้ไหมคับ :mrgreen: :mrgreen:


ติดลบ เพราะ น้ำมันป่าวคับ
แต่เชิงชีวิตจริง จ่ายค่าข้าว ค่าน้ำ แพงขึ้นเอาๆ
show me money.
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 293

โพสต์

nut776 เขียน:เปลี่ยน วิธี คิด เงินเฟ้อ ได้ไหมคับ :mrgreen: :mrgreen:


ติดลบ เพราะ น้ำมันป่าวคับ
แต่เชิงชีวิตจริง จ่ายค่าข้าว ค่าน้ำ แพงขึ้นเอาๆ
ไม่ใช่แค่น้ำมันครับ
สินค้าทางการเกษตรที่ลดลง และภัยแล้ง ทำให้ประชาชนไม่มีเงินมาจับจ่าย
ประกอบกับรัฐไม่กระตุ้น ทำให้เงินในมือประชาชนไม่มี
และประชาชนมีหนี้สินภาคครัวเรือนสูงขึ้น ทำให้ไม่ค่อยใช้จ่าย
มันเลยเป็น Vicious Cycle

เงินเฟ้อของประเทศ นั้น คิดคำนวณจากดัชนีผู้บริโภค มันบอกถึง การเปลี่ยนแปลงด้านความชัน(เหมือนคันเร่ง)
ว่าตอนนี้เศรษฐกิจดี /ร้อนแรง/ซบเซาได้
ถ้ายิ่งสินค้ามีการซื้อขาย/เปลี่ยนมือรวดเร็ว/ราคาเพิ่มขึ้น ก็กระทบ ทันที
ดังนั้น จึงต้องติดตามกันดูไปเรื่อยว่า แก้ไขอย่างไร

ปล. ในเดือน เมษายน 2559 เงินเฟ้อเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 12 เดือน
ให้เหตุผลว่า มาจากสินค้าหมวดอาหารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ในเดือนดังกล่าวมีมาตราการของรัฐในเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ ในการทานข้าวนอกบ้านนั้นเอง
ช่างเหมาะอะไรอย่างนี้หนอ
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 294

โพสต์

จบฤดูกาลบอล
ปีนี้ฤดูกาลบอลจบเร็วๆในหลายลีก ไล่ตั้งแต่ลีก ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมันนี อังกฤษ ส่วนสเปนนี้ลุ้นกันนัดสุดท้าย
กว่าจะหาแชมป์เปี้ยนได้นั้นเอง
ปีนี้เป็นปีพิเศษอีกปี ที่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งเป็นบอลโลกของอายุ 23 ปี ที่บราซิล และมีจัดการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปอีกต่างหาก ที่ฝรั่งเศส อีกด้วย ซึ่งประเทศไทยก็มีการจัดส่งไปรษณียบัตรลุ้นผลการแข่งขันเหมือนทุกครั้งนั้นเอง
ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหลือบอลถ้วยเอฟเอคัพ และถ้วยของยุโรปคือ ยูโรป้า คัพ ซึ่งเป็น ลิเวอร์พูลเจอะเจอ เซบีญ่า (แชมป์เก่าของถ้วยใบนี้) และ ทีมสเปนเจอะเจอกันเองที่ถ้วย ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก
จบฤดูกาลไปสิ่งหนึ่งที่ต้องจดจำคือ เลสเตอร์ซิติ้ ทีมที่ทุกคนมองว่าได้แชมป์ยากมากๆๆๆ ตอนต้นฤดูกาล เพราะฤดูกาลก่อนหนีตกชั้นแบบเหลือเชื่อ ยังเป็นทีมท้ายตารางแต่จบอันดับ 14 ฤดูกาลนี้เป็นแชมป์ก่อนจบฤดูกาล 2 นัดด้วยกัน
เซอร์ไพส์แบบนี้ ร้านรับพนันถึงกับเซเลย เพราะ แทง 1 ได้ 5000 คนแทงก็รวยตามระเบียบไป
แต่ในเมื่อการเกิดของปลายหางในทางสถิติเกิดขึ้น มันจะทำให้เกิดสิ่งอื่นๆตามมาคือ Effect ที่เรียกว่า
จิตวิทยาต่อสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้น หรือภาพติดตาในระยะเวลาที่เพิ่งผ่านไป อันนี้ต้องแก้ไขให้ได้ และกลับสู่โลกของความเป็นจริง ต่อไป
ฤดูกาลหน้า หาก เลสเตอร์ ซิติ้ ไมไ่ด้เสริมทัพ เพื่อรองรับจำนวนการลงสนามที่มากขึ้นในถ้วยบอลแชมป์เปี้ยนลีก มันจะส่งผลกระทบเต็มๆต่อทีม ในระยะยาว เพราะการลงเล่นที่ถี่ขึ้นของนักเตะ ทำให้เกิดความอ่อนล้าของนักกีฬา และส่งผลต่อการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้นเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงในระยะต่อไป ว่าจะยืนระยะได้แค่ไหนในฤดูกาลต่อไป
ฝากทิ้งท้ายว่า ปลายหางของสถิติเกิดแล้วต้องเข้าไปว่า ทำไมถึงเกิดได้
แล้วเมื่อเกิดควมเสียหายมันเท่าไร
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 295

โพสต์

ขออธิบาย พันธบัตร 10 ปี
นานๆทีเอาความรู้ที่เก็บจากในอดีตมาใช้งาน ในส่วนการลงทุนของ bond (พันธบัตร ย้ำว่า พันธบัตร)
พันธบัตรที่อธิบายคือ พันธบัตรอายุ 10 ปี ทำไมต้องอธิบายพันธบัตรอายุ 10 ปี ด้วย
เพราะว่า เป็นตัวที่ใช้งานมากที่สุดในทฤษฏีการเงินในปัจจุบัน ที่บอกว่าวัฏจักรเศรษฐกิจจะใช้เวลาประมาณ 10 ปีนั้นเอง
ต่อมาผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปีนั้นเป็นตัวอ้างอิงในการคิดคำนวณในวงการประกันภัยด้วย
สิ่งเหล่านี้ทำให้ต้องนำสิ่งที่เป็นพันธบัตรอายุ 10 ปีมาอธิบาย
สิ่งแรกที่ต้องอธิบายว่า พันธบัตรในวันนี้กับพันธบัตรเมื่อปีที่แล้ว หรือ สองปีที่แล้ว มันเป็นคนละชุดกัน
อ้าวสิ่งนี้มันหมายความว่าอะไรละเนี่ย ต้องอธิบายว่า พันธบัตรมันมีอายุ อายุของพันธบัตรคือระยะเวลาถึงวันครบกำหนดที่พันธบัตรนั้นจ่ายคืนเงินต้นให้แก่ผู้ที่ลงทุนในพันธบัตรนั้นเอง อย่างเช่น พันธบัตร LB25DA มีอายุคงเหลือ 9.57 ปี (register day คือ26 November 2010 Maturity Date คือ 12 December 2025 โดยรายละเอียดของพันธบัตรนี้ดูได้ที่ http://www.thaibma.or.th/EN/BondInfo/Bo ... bol=LB666A )
เมื่อ1ปีที่แล้วในวันที่ 21 พฤษภาคม 2015 นั้นพันธบัตรตัวนี้มีอายุคงเหลือ 10.57 ปี ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปอายุพันธบัตรก็ลดลง
สิ่งที่สองการเลือกพันธบัตรที่มาทำเส้นกราฟ Yield Curve นั้น เกิดจาก
1. พันธบัตรที่อยู่ในช่วงอายุนั้นๆบนเส้นกราฟ
2. การคำนวณผลตอบแทนของพันธบัตร
ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นแก่กราฟคือ การต้องเอาทั้งสองสิ่งที่ผสมผสานกันนั้นเอง
ดังนั้นกลลวงที่เกิดขึ้นที่ทำเกิดความคิดที่ผิดปกตินั้นเกิดจากระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลง ,การเปลี่ยนพันธบัตรที่นำมาคำนวณนั้นเอง

การลงทุนบ้างที่บอกว่า อัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีเพิ่มขึ้น กรุณาเข้าตรวจสอบดูก่อนว่า การซื้อขายจริง หรือเปลี่ยนพันธบัตรตามระยะเวลา
ขอให้โชคดีครับ ในการลงทุนครับ
"ผลตอบแทน คือ ผลรวมของทักษะและโชคดี" จากพี่พรชัย
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 296

โพสต์

ถึงเวลาของธนาคารพาณิชย์ไทยให้ดอกเบี้ย 0% หรือยัง
คำถามที่ว่า ถึงเวลาธนาคารพาณิชย์ไทยให้ดอกเบี้ย 0% หรือยัง อันนี้เกิดจากเมื่อวานนี้
สังคมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ใน website ชื่อดัง และทาง Facebook นั้นมีคนโพสอัตราดอกเบี้ย 0% ของธนาคารแห่งหนึ่ง
ทำให้ช่วงบ่ายๆของเมื่อวานนี้มีประชุมคณะกรรมการบริหารของธนาคารจนกระทั่งต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยกลับไปทีเดิม
สาเหตุมาจากอะไรไม่ทราบ แต่ทว่า มันสะท้อนอยู่อย่างหนึ่งคือ ประชาชนมีทางเลือกในการออมเงินมากกว่าฝากธนาคาร
แล้วต้องจ่ายค่าธรรมเนี่ยมต่างๆให้แก่ธนาคาร เพื่อเป็นแหล่งเก็บเงินที่ปลอดภัยหรือเปล่าเป็นสิ่งที่น่าถามอย่างยิ่ง
เพราะในแต่ละปีนั้น ธนาคารได้ค่าธรรมเนี่ยมหลายต่อหลายอย่างเช่น ค่าธรรมเนี่ยมการใช้บัตรเอทีเอ็ม การกดเงินสดข้ามเขต
การเข้าเช็คต่างจังหวัด ทำให้รายได้จากค่าธรรมเนี่ยมที่ไม่ใช่ NIM (ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย) เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาหลัง
ดังนั้นยิ่ง ธนาคาพาณิชย์แห่งใดแห่งหนึ่งกล้าที่ลดอัตราดอกเบี้ยไปที่ 0% นั้นหมายความว่า ประชาชนพร้อมที่โยกย้ายเงินจากธนาคารนี้ไปยังธนาคารแห่งอื่นๆได้ ถึงแม้นว่า ไม่สนิทสนมมากนักก็ตาม เพราะผลตอบแทนไม่มีแถมต้องจ่ายให้ธนาคารอีกด้วย
ดังนั้น การลดอัตราดอกเบี้ย 0% นั้น เสี่ยงต่อการเกิดปัญหา Bank run (ยักษ์วิ่งได้) แทนที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
แล้วซ้ำร้าย คือ ความต้องธนบัตร เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน สิ่งนี้แหละที่ทำให้เกิดปัญหาต่อไปว่า อัตราการกู้ยืมเงินสดข้ามคืนเพิ่มขึ้นหรือเปล่า ถ้าเพิ่มขึ้นกระทันหัน นั้นอาจจะให้เห็น เงินสดกองที่หลังเคาน์เตอร์ฝากถอนที่สำนักงานใหญ๋ในครั้นอดีตที่เกิดขึ้นก็เป็นไปได้
ดังนั้น เมื่อเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมแล้วเป่าประกาศ เพื่อหยุดข่าวเดิมเสียเป็นสิ่งที่สำคัญ
แล้วสิ่งต่อไปคือ ทำอะไรกับลูกค้าที่ที่จงรักษ์ภักดีของธนาคารเป็นเรื่องที่น่าคิดต่อไป
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 297

โพสต์

key world การลงทุนปี 2559 ถึง 2560 คือการเลือกตั้ง
key world การลงทุนปี 2559 ถึง 2560 คือการเลือกตั้ง อ้าวทำไมละนั้น
ดูการเมืองต่างประเทศก่อน คือ พญาอินทรีย์ เลือกตั้งปลายปี 2559 เป็นครั้งที่ 58
นั้นคือ นโยบาย Change ที่เปลี่ยนแปลงมาตลอด 8 ปีนั้นจบแล้ว รอปธน คนใหม่รับช่วงต่อ
โดยที่ Change คือ การรับมือวิกฤติ และให้ฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้จบลง ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย
แต่การขึ้นดอกเบี้ย ภายในปี 2559 ได้เห็นแน่นอน แต่ว่าอาจจะเป็นปลายปีนี้ก็เป็นไปได้

กลับมาที่เมืองไทยนั้น ยังจำได้ไหมว่า พญาอินทรีย์นั้นไม่คบกับประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
แต่ทว่าการค้ายังดำเนินการอยู่แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ดังนั้น เมื่อคู่ค้าอันดับต้นๆเป็นแบบนี้ไซร้
การส่งออกที่เป็นส่วนสำคัญของ GDP จะเติบโตได้อย่างไร แต่ถ้าหากกลับมาปกติคือเดินเข้าคูหาไปลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ
จากนั้นก็เดินเข้าคูหาเลือกตั้งจนมีนายกรัฐมนตรี นั้นแหละ คือ ประเทศเดินหน้าได้เลย

ช่วงนี้จะเห็นได้ว่า ทุกนโยบายออกมานั้น เพื่อให้ เศรษฐกิจกลับไปอยู่จุดเดิมนั้นเอง
ตอนนี้พยุงเพื่อเดินหน้าเข้าคูหา
ดังนั้นการลงทุน ช่วงนี้ควรที่ดูภายในประเทศประกอบ แต่อย่างลืมว่า ภายนอกประเทศยังมีกระทบคือ
ที่เวเนซุเอลา ที่มีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อที่สูงมาก ติดอันดับโลกในปี 2559 และปัญหาที่บราซิลที่เศรษฐกิจถดถอยไม่พอการเมืองเป็นสูญญากาศช่วงคราวนั้นเอง ตามมาด้วยปริมาณหนี้ของพญามังกร หาก พญาอินทรีย์ต้องขึ้นดอกเบี้ย เงินไหลกลับ
แล้วสมดุลมันจะอยู่ที่ใดหนอ ต้องดูกันต่อไป

:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 298

โพสต์

น้ำมันกับเงินเฟ้อ
ยังจำกันได้ไหมตอนที่น้ำมัน WTI ที่ราคา $100 กว่าๆ
ตอนนั้นเงินเฟ้อพุ่งกันแบบไล่หลังไม่ทัน
แต่พอที่ WTI ลดลงมาต่ำกว่า $30 เงินเฟ้อก็ลดลงจนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้น เมื่อประกาศผลประกอบการปี 2558 นั้น ปรับเปลี่ยนนโยบายเงินเฟ้อเป็นใช้เงินเฟ้อทั่วไป (เงินเฟ้อทั่วไปรวมเงินเฟ้อพื้นฐานและเงินเฟ้อที่ได้รับผลจากการปรับตัวของราคาน้ำมันไว้ด้วย)
ถ้าหากน้ำมันกลับตัว ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภาพหลอกหลอนเดิมๆ จะกลับมาคือเงินเฟ้อพรุ่งแบบเร็วมากๆๆ
ธปท น่าจะประกาศว่า การควบคุมเงินเฟ้ออยู่เพียงแค่เงินเฟ้อพื้นฐานเท่านั้น มิใช่อย่างปัจจุบันนี้
ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อมละกัน เดี๋ยวหาว่าไม่เตือน(ภัย)
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 299

โพสต์

มันกลับมาอีกแล้วรายการเปลี่ยนเสมือนการขายจริงในงบการเงิน
จวกหัวแบบนี้ต้องมีเหตุการณ์เกิดขึ้น อดีตมันสอนว่า การลดการถือครองลงจากบริษัทร่วมหรือบริษัทลูก
จะมีการบันทึกทางบัญชีในงบการเงินรวมให้สอดคล้อง สถานะของบริษัทร่วมหรือบริษัทลูกหรือเป็นเพียงแค่ถือลงทุนเท่านั้น
เพื่อเป็นการวัดมูลค่าใหม่ จึงเกิดราคาเสมือนการขายจริงในงบการเงิน
รายการนี้เกิดไม่บ่อยแต่เกิดที่ นักลงทุนงง ว่าตกลงมันบันทึกกำไรไหม ก็ต้องบอกว่าบันทึก ในงบการเงินรวม
เพราะบริษัท ลดความมีอิทธิลงนั้นเอง
ปัจจุบันมีไหม มี และกำลังเกิดในไตรมาสที่ 3/2559 หรือ 4/2559 ต้องรอดูวันว่ากำลังทำรายการเมื่อไร
แต่ ประกาศสัญญาความเข้าใจแล้ว ดังนั้นน่าติดตามว่า บริษัทจะดำเนินการทำตามที่ว่าหรือไหมหนอ
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 300

โพสต์

ลุ้นบอลยูโรทาง SMS กับลุ้นบอลยูโรทางไปรษณียบัตร
ตอนนี้หนังสือพิมพ์รายวัน ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยส่งการทายผลเป็นรายวัน
รายคู่เลยทาง SMS ส่วนรายใหญ่หัวเขียว ให้ส่งไปรษณียบัตรทายผลทีมแชมป์เปี้ยนอย่างเดียว
โดยทางบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เตรียมจำนวนไปรษณียบัตรไว้ 180 ล้านใบ
คราวที่แล้วยอดไม่ถึงนี้ แต่ส่งไปยังยักษ์เขียวก็ 100 ล้านใบ
ตอนนี้ยังไม่เห็นพนักงานไปรษณีย์ออกขายตามตลาดนัด ถ้าเป็นรอบที่แล้ว
เริ่มมีเดินขาย ขายเป็นปึกๆๆเลยทีเดียว ช่วงนี้เป็นช่วงต้นๆ รอดูใกล้เส้นตายการส่งว่าคึกคักหรือเปล่า

ส่วน SMS นั้นเป็นการพัฒนาต่อยอดเลยทีเดียว ซึ่งต้องดูว่ามีความสำเร็จมากแค่ไหน
:)
:)