แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 241

โพสต์

ระเบิดเวลาที่ไม่ถูกถอดสลัก
ช่วงนี้ระเบิดเวลาในการลงทุนที่ได้ผลกระทบนั้นเป็นปัจจัยภายนอกเป็นสำคัญ โดยมีดังนี้
อันดับแรกคือ การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ที่บอกไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว (2014) ว่า น่าจะเดือนกันยายน 2015 เป็นช่วงที่เริ่มต้นในการขึ้นดอกเบี้ย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ประกาศขึ้นดอกเบี้ยซักที แต่จริงๆแล้วหากไปดูตัวเลขในโลกความเป็นจริงนั้น จากเดิมที่อยู่ในระดับ 0.0x ตอนนี้เป็น 0.1x มาระยะเวลา1-2 เดือนแล้ว แต่ไมไ่ด้ประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง
เรื่องนี้หากผู้ให้ออกนโยบาย โดนค่าคาดหมายได้ มันทำให้มีผู้ได้ประโยชน์อย่างมากมาย ดังนั้น ผู้ให้นโยบายจึงต้องดำเนินการเหนือความคาดหมายหรือดำเนินการแบบเงียบๆๆนั้นเอง

อันดับต่อไป ที่ผมบอกไว้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้มี การปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเพดานหนี้ของสหรัฐที่ขยายไปเมื่อช่วงต้นปีนี้(2015) นั้น จะเต็มอย่างรวดเร็วในเดือนตุลาคม 2015 นั้น ตอนนี้มีการปรับปรุงข้อมูลครั้งล่าสุดได้คำนวณระยะเวลาว่าหนี้สินที่ก่อของสหรัฐนั้นชนเพดานในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม 2015 นั้นเอง
ทั้งสองเรื่องนี้ เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2015 ถึงต้นเดือน พฤศจิกายน 2015 นั้นเอง

อันดับต่อไป ที่ไม่น่าจะมีผลในช่วงนี้แต่มีผลในช่วงถัดไปคือ ระเบิดเวลาของ ฟองสบู่จากตลาด(ห)ลักทรัพย์ที่จีนลดลงอย่างรุนแรงเมื่อ เดือนสิงหาคม 2015 นับไป ถ้าหากตามทฤษฏีแล้ว กระทบในเดือน กุมภาพันธ์ 2015 เป็นอย่างเร็ว แต่อย่างไรเสีย ภาครัฐของจีนได้อัดเงินเข้าระบบเพื่อมิให้ระบบการเงินยุบตัวอย่างรุนแรงนั้นเอง แต่จริงๆแล้ว การลดลงของตลาดหลักทรัพย์ที่เมืองจีน มันส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนที่นั้นด้วย เพราะตลาดที่นั้น รายย่อยเป็นผู้เล่นสำคัญ ส
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นแล้วไซร้ เลยมีคำถามว่า สินค้าของสหรัฐที่ขายดีในประเทศจีนนั้นยังคงขายดีอีกต่อไปหรือเปล่า
แล้วยิ่งค่าเงิน $ แข็งค่าขึ้น มันส่งผลต่อการทำงบการเงินรวมที่ส่งไปยังบริษัทแม่ที่สหรัฐด้วย นั้นเอง
น่าจะได้คำตอบในเร็วนี้สำหรับข้อนี้

ส่วนเรื่องต่อไปคือ มันน่าคิดว่า ช่วงนี้ทำไมเงินบาทถึงแข็งค่าเร็วขึ้น เนื่องจาก ส่วนหนึ่งคือจำเป็นต้องมีการประมูลคลื่นความถี่ 900และ 1800 ในช่วงเดือน ธันวาคม 2015 แล้วไซร้ บริษัทแม่จำเป็นต้องเตรียมเสบียงคลังเพื่อรบในส่วนนนี้เพื่อประมูลใบอนุญาตให้ได้นั้นเอง ด้วยหรือเปล่า เป็นที่น่าสงสัย

ส่วนอีกเรื่องคือ ต้องจับตาดูว่า E-market ,E-biding ที่กำลังเริ่มใช้งานเดือน ตุลาคม 2015 นี้สำหรับหน่วยงานรัฐทั้งหลาย ณ เวลานี้ ฝ่ายจัดซื้อจัดหาของแต่ละหน่วยงานได้รับการอบรมในการจัดซื้อจัดหาระบบใหม่แค่ไหน มันทำให้เกิดอาชีพเฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์เพิ่มเติม เพื่อดูราคาประมูล หรือเปล่า ในระยะเวลาต่อไป เรียกได้ว่า แก้ไขระบบการเปิดซอง แต่หน่วยงานเอกชนต้องมีคนเพิ่มเติมในการดูแลเรื่องนี้โดย่่เฉพาะหรือเปล่าหนอ

:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 242

โพสต์

ไปเที่ยวหลังน้ำท่วม

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนั้น ช่วงวันที่ 16-19 กันยายน 2558 นั้น มีพายุไต้ฝุ่นลูกแรกที่พัดเข้าประเทศเวียดนาม
แต่รอบนี้พัดมาทางเวียดนามตอนกลาง ดังนั้นกระทบต่อภาคกลาง,ภาคตะวันออก ของไทยเต็มๆ
มีข่าวเรื่องน้ำท่วมในที่ที่ไม่ท่วมตอนปี 2554 คือ จังหวัด ระยอง,ชลบุรี,ประจวบคีรีขันธ์ ด้วย
ในเมืองที่เรียกได้ว่า เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของไทยเช่นพัทยา,หัวหิน เป็นต้น
แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นคือ เมื่อ ไปเที่ยวที่หัวหินในช่วงวันที่ 20-21 กันยายน 2558 สิ่งหนึ่งคือ ไม่มีร่องรอยของน้ำท่วมเลย
แปลกไหมละ น้ำมันมาก็ผ่านไป ไหลลงทะเลอย่างรวดเร็ว แต่ทว่า ถนนโล่งมาก
ทางเข้า'อุทยานราชภักดิ์' จากเดิมที่รถติด กลายเป็นรถว่าง คนที่เดินตลาดชิดกะด้า (ตลาดแนวขายของ Art) รถว่าง ไม่ติดขัด
หรือแม้นแต่ เพลินวาน ก็ไม่ค่อยมีคนเดินเท่าไร เป็นสิ่งที่แปลกมากๆ หรือแม้นกระทั้ง Swiss Sheep Farm ที่รถยังจอดค่อนข้างจะแน่น แต่ไมไ่ด้แน่นมากมายจนต้องจอดข้างถนน มองไปรถบัสก็น้อยกว่าไปรอบที่แล้วพอควร
ผลกระทบจากข่าวน้ำท่วมหรือเปล่า ที่ออกมาเปล่า
ถ้ามองในแง่ดีคือ ได้ไปเที่ยวในจังหวะที่พอเหมาะคือ สำรวจพื้นที่ความเสียหายไปในตัว
อาจจะเป็นเพราะ วันที่ 20 กันยายน 2558 นั้นเป็นวัน Car free day จึงทำให้คนเดินทางน้อยลง
เพื่อรอร่วมกิจกรรมการปั่นจักรยาน ในวัน Car free day ตามที่จัดงานในจังหวัดต่างๆหรือเปล่า เลยทำให้ การเดินทางน้อยลงนั้นเองหรือเปล่า เป็นเรื่องที่น่าคิดอีกเรื่องหนึ่ง

แต่สิ่งที่ได้จากการไปรอบนี้คือ ลักษณะของเมืองหัวหินกับพัทยา เป็นเมืองที่ใกล้ทะเล แต่ทำไม ถึงมีลักษณะน้ำท่วมแตกต่างกัน
อาจจะเป็นเพราะการพัฒนาพื้นที่ให้อาคารสูงเหมือนสันเขื่อน ทำให้น้ำไม่ไหลบ่าเป็นหน้ากระดานเพื่อลงทะเลอย่างรวดเร็ว แต่ต้องโดยบังคับให้ไหล ในทางแคบ เลยใช้เวลาในการระบาย และ อีกประการคือ ลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม เหมือนแอ่งกระทะในบ้างบริเวณแล้ว เอามาพัฒนาเป็นอาคารสูงนั้นเอง หรือ ทำให้ที่กั้นเก็บน้ำตามธรรมชาติลดน้อยลงไม่มีแก้มลิงในการกั้นเก็บน้ำ เพื่อชะลอการไหลบ่า นั้นเอง

นั้นคือสิ่งที่สังเหตได้เห็นจากการลงพื้นที่และคิดวิเคราะห์ว่า มันเกิดจากอะไร
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นสัญญาณดีในส่วนภาคตะวันออกคือ หลังจากเหตุการณ์นี้ น้ำในเขื่อนทางภาคตะวันออกมีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่มีเหตุการณ์ที่เดือดร้อน น้ำไม่พอใช้อุปโภคบริโภค ในภาคตะวันออกนั้นเอง คลายความกังวลเรื่องน้ำไม่มีได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว ทำให้นึกถึงสำนวนสุภาษิตไทยที่ว่า "น้ำมาปลากินมด น้ำลดมดกินปลา"
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 243

โพสต์

ไปดูเดี่ยว 11
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ไปดูเดี่ยว 11 แบบสดๆๆ ถึงแม้นว่าไม่ใช่รอบสุดท้ายก็ตาม
สิ่งหนึ่งที่ได้รับจากเดี่ยว 11 คือ อิทธิพลของโปรแกรมที่ชื่อว่า Line และ Sticker
ของโปรแกรมนี้ จนทำให้ คุณโน้ต นำมาเสนอโดยที่ไม่ต้องใช้คำพูดได้ แต่ให้
ผู้ชมนั้นอ่านบนจอโปรแจ๊คเตอร์แทน
ก่อนเข้าเดี่ยว 11 มีการฉายภาพการจองบัตรว่า ผู้ชมต้องยากลำบากอย่างไร ถึงได้บัตรเดี่ยว11 จนมานั่งฟังได้ นั้นเอง
ในระหว่างแสดง มีการแจกหุ้นของผู้สนับสนุนอยู่เจ้าหนึ่งที่กำลังอยู่ระหว่างการ Filling กับ กลต จำนวน 1 หุ้นด้วย
การแสดงคราวนี้ พัฒนาจากเดี๋ยว10 มาพอควรคือ นำเอาภาพมาประกอบ และมี คลิปสั้นๆมานำเสนอ
เรื่องที่เล่าแต่ละเรื่องเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา
บนเวที ดูแล้ว แปลกๆ มีอะไรหมุนๆๆ ทำให้ตาลาย อยู่หลายจุด เมื่อปิดไฟ ก็สามารถเรืองแสงได้ด้วย ไม่เพียงแค่นั้น
หลอกตาให้นู้นออกมาด้วย
วันนี้เป็นรอบสุดท้ายของเดี่ยว11 แล้ว อีก 2-3 ปี ถึงจะมีแสดงเดี่ยว 12 อีกครั้ง
แต่ระหว่างทางคงจะมี เดี่ยว11.5 ให้ประชาชนต่างจังหวัดได้ชมการแสดง
ปัจจุบันเหลือ นักพูดที่สามารถเรียกผู้ชมได้ระดับนี้ เหลือน้อยมากๆ แต่ทว่า คุณโน้ตสามารถยืนระยะได้
และมีแฟนคลับเหนียวแน่มากๆ ไม่ได้เป็นกระแสแค่ชั่วข้ามคืน แต่เป็นกระแสมาอย่างยาวนานนั้นเอง
ครั้งหน้าเดี่ยว 12 ขอให้ได้บัตรรอบสุดท้ายเถอะ สาธุ
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 244

โพสต์

Single Gateway เกิดได้ไหม
ในความเห็นส่วนตัวเลย ในเรื่องนี้คือ ไม่น่าเกิดได้ ถ้าหากรัฐศาสตร์ของเรายังคงใช้ระบบประชาธิปไตย
และยิ่งใช้ระบบเศรษฐกิจแบบผสมหรือตลาดเป็นตัวขับเคลื่อนด้วยแล้ว ยิ่งไม่เกิดขึ้นด้วย
เนื่องจากอะไรที่บอกแบบนั้น
1. Single Gateway จำเป็นต้องลงทุนในอุปกรณ์มากมาย ที่รองรับการสื่อสารของทั้งประเทศ ให้ผ่านช่องทางนี้ช่องทางเดียวเท่านั้น เหมือนสนามบินของประเทศที่ 10 ปีที่แล้ว เรามีแค่สนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินหลักสนามบินเดียวที่รองรับผู้โดยสารได้ 10-20 ล้านคน โดยใช้รันเวย์เดียวในการขึ้นลงของเครื่องบิน ถ้าหากให้เครื่องบินปลอดภัยไม่ชนกันก็ให้เครื่องบินขึ้นที่ความถี่ 1 นาทีต่อลำ
หรือ กรณีของ BTS ที่ระหว่างสถานีสะพานตากสินและกรุงธนบุรี มีรางเดียว ก็ต้องค่อยสับรางไปมา ทำให้เกิดการสัญจรไม่สะดวกน้ั้นเอง
2. Single Gateway ชื่อมันก็บอกแล้วว่า มีแค่ 1 เท่านั้น ถ้าหาก ล่มไป การสื่อสารออกต่างประเทศเป็นเช่นไร
ยังจำได้ไหม ตอนที่ชุมนุมกัน แล้ว ไปดับไฟฟ้าที่บางรักและที่แจ้งวัฒนะของบริษัทสื่อสารแห่งหนึ่ง ทำให้การสื่อสารของไทยหายไปจากระบบการสื่อสารของโลกไปเกินครึ่งหนึ่ง เนี่ยขนาดมี 2 แห่งแล้ว แต่ถ้ามี 1 แล้วไซร้ความเดือดร้อนจะมีขนาดไหน
3. ปริมาณของเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ในสายความปลอดภัยด้านการสื่อสารนั้นมีเพียงพอหรือเปล่า ที่ดำเนินการให้เกิด Single Gateway นี้ได้

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่า มีคนออกมาคัดค้านเรื่องนี้กันมากมาย ทั่วบ้านทั่วเมือง
แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ซ่อนอะไรไว้เบื้องหลังหรือเปล่า เป็นสิ่งที่น่าคิดต่อไป
เพราะ ่ประชาชนเพียงผู้ได้รับข้อมูลจากการเปิดเผยแบบโล่งแจ้งเท่านั้น
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 245

โพสต์

ตั้งรับ

ทำไมต้องบอกว่าตั้งรับละ เดี๋ยวมีเหตุผลประกอบว่าตั้งรับเพราะอะไร
การตั้งรับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของทีมฟุตบอลที่เน้นการตั้งรับให้เหนียวแน่น แล้วสวนกลับ
ซึ่งหนึ่งในทีมฟุตบอลที่ทำตามกลยุทธ์นี้แล้วสำเร็จคือ ทีม กรีซ ที่ได้แชมป์ยุโรป ถึงแม้นกองหน้า
มีโอกาสน้อยครั้ง ก็สามารถทำประตูได้ และทำให้ทีมชนะ ได้เหมือนกัน

ช่วงนี้ทำไมต้องตั้งรับ เนื่องจากว่า
บทวิเคราะห์จากต่างประเทศยังไม่ได้ออกมาชี้ชัดเจนว่า ปลายทางของเงินนั้นเข้าลงทุนที่ไหน
การไหลของเงินทุน หากไหลมาอย่างรวดเร็ว เป็นผลทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
สิ่งนี้ต้องระวัง เพราะว่า เครื่องจักรกลตอนนี้ที่พยุงประเทศคือ ท่องเที่ยว
ส่วนเรื่องต่อไปคือ เราได้เขียนถึงสองเรื่องที่เตือนอยู่เสมอเรื่องระเบิดเวลา ที่กำหนดเดินอยู่ มีอยู่สามลูกที่กำลังรอเวลา
ลูกแรก น่าจะมีผลน้อยที่สุดเพราะว่า ออกข่าวกันมาอย่างยาวนาน ถึงการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางของพญานกอินทรีย์
หากใครคาดการณ์ได้ถูกต้อง ผู้นั้นก็ได้กำไร ดังนั้น ต้องโยนหินถามทางตลอดเวลา เพื่อดูลาดเลาเสมอ ว่ามุมมองของตลาดเป็นเช่นไร นั้นเอง ระเบิดลูกนี้ มีผลน้อยลงแล้ว เพราะ ออกข่าวมา 1-2 ปีแล้ว

ระเบิดลูกต่อไป รุนแรงมากกว่า อันนี้คือการเจรจาเรื่องงบประมาณของพญานกอินทรีย์ ณ ปัจจุบัน งบประมาณยังไม่ผ่าน ยังคงใช้งบประมาณชั่วคราว ซึ่งใช้ได้ถึง 11 DEC 2015 จำวันที่ไว้ดีๆละ ว่าอยู่ใกล้ๆกับ การประชุมของ FED ที่เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายของปีนี้ นั้นเอง (ตอนนี้ FED เหลือการประชุมแค่ 2 ครั้ง กับข่าวเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย) ดังนั้น ปลายเดือนกันยายน 2015 ที่ผ่านมานั้น ทำไมตลาดถึงได้ผันผวนอย่างหนักหน่วง เนื่องจาก งบประมาณยังไม่อนุมัตินั้นเอง (....ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ ยังอยากได้ยินทุกเรื่องราว ยังนอนดึกอยู่ใช่ไหม เธอผอมไปหรือเปล่า อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง.....) เมื่อผ่านงบประมาณชั่วคราวได้ ตลาดก็กลับเข้าทีเข้าทางอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงต้นเดือน ตุลาคม 2015 เหมือนฟ้าหลังฝนที่ตกอย่างหนักหน่วง

ระเบิดลูกที่สาม ลูกนี้หนักหน่วง รุนแรงกว่าลูกที่สอง เพราะว่า เมื่องบประมาณผ่านเสร็จแล้ว ในแผนงบประมาณก็มีเรื่องการก่อหนี้ ดังนั้นหากเพดานหนี้มันชน เพดานเดิมที่ตั้งไว้ เมื่อตอนต้นปี 2015 คาดการณ์ไว้ประมาณปลายเดือน พฤศจิกายน ถึงต้นเดือน ธันวาคม 2015 ชนเพดานเดิม ทำให้ไม่สามารถดำเนินการกู้หนี้ยืมสิ้นได้ ต้องรออนุมัติเพื่อเพดานหนี้ก่อน ถึงสามารถไปต่อได้ในเรื่องกู้เงิน
ระเบิดลูกที่สองและลูกที่สามนั้น เป็นเรื่องของทางการเมืองของพญาอินทรีย์ เป็นเรื่องของนักการเมืองที่ต้องดำเนินการ แต่ผลกระทบนั้นเป็นวงกว้างอย่างมากมาย และเป็นเรื่องที่ต้องตกลง/เจรจากัน มิใช่ทุบโต๊ะออกมาได้ โดยผ่าน ซอย 44 ออกถนนใหญ่

มีแต่สิ่งที่ข้างนอกแล้ว ข้างในประเทศไทยละ
ยังจำได้ไหมว่า เมื่อเดือน เมษายน 2015 ที่ผ่านมานั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกธนบัตรชนิดพิเศษออกมา (เราเขียนไว้ในนี้แล้ว) มาถึงเวลานี้ก็ประมาณ 6 เดือนผ่านไปแล้ว ตามทฤษฏีเศรษฐศาสตร์นั้นเมื่อมีเงินอัดเข้ามาในระบบโดยผ่านกระบวนทางการเงิน (ผ่านเครื่องมือของธนาคารแห่งประเทศไทย) นั้นใช้เวลาในการขับเคลื่อนเงิน ประมาณ 2-6 ไตรมาส( 6-18 เดือน) ผลมันถึงออกฤทธิ์ มิใช่ว่า วันนี้ไปพบแพทย์แล้วให้ยาทานปุ๊บ พรุ่งนี้อาการดีขึ้นเลย แต่มันต้องใช้เวลาในการรักษา เข้าคอร์สในการดำเนินการนั้นเอง ตอนนี้จะเห็นได้ว่า ค่อยๆพื้นตัวอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป

อีกอย่างหนึ่งที่เม็ดเงินไหลมา คือ เตรียมเงินไว้สำรองในการประมูล 4G เมื่อ มูลค่าโครงการมันสูง มันต้องขยายฐานเงินเพื่อรองรับ(ตัวเลขเงินในระบบให้รองรับ) เคยมีเพื่อนมาถามว่า ในเมื่อประมูล 4G กำลังมาแล้วเม็ดเงินมาจากไหนละ ย้อนไปดูตอน 3G ว่าทำเช่นไร ประมูล 4G ก็ทำเช่นเดียวกัน ในเรื่องเม็ดเงินนั้นเอง

หากจำกระแสดีๆ มันจะเห็นเรื่อง Fund flow ของเงิน

สรุปให้ตั้งรับเข้าไว้ในช่วงนี้ อย่ารุกหนักจนเกินไป ให้ดูเรื่องของเวลาด้วย
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 246

โพสต์

การลงทุนกับเทศกาลกินเจ/เทศกาลทานผัก
เทศกาลกินเจ หรือ เทศกาลทานผัก นั้น มีประจำทุกปี ระยะเวลาของเทศกาลนี้ 10 วัน
เทศกาลนี้มีตารางปฏิทินประมาณเดือนตุลาคม ของทุกปี แต่วันที่เริ่มและวันที่สิ้นสุดแตกต่างกัน
เนื่องจากใช้ปฏิทินจันทราคติในการคำนวณว่า วันไหนเป็นวันเริ่มต้นของเทศกาลกินเจหรือเทศกาลทานผัก
เทศกาลนี้เป็นเทศกาลของการถือศีลไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพื่อนำมาเป็นอาหาร ทานแต่อาหารที่ทำมาจากพืชเท่านั้น
มีอาหารบางประเภทเช่นน้ำผึ้ง เป็นต้นที่มีข้อถกเถียงเป็นอาหารเจหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่เนื้อสัตว์แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์

เทศกาลนี้เป็นช่วงระยะเวลาที่มีการจัดงานแค่ 10 วันความพิเศษของเทศกาลนี้คือ การเข้าโรงเจไปไหว้พระ/ไหว้เจ้า
โดยผู้ที่เข้าโรงเจได้ต้องแต่งกายด้วยชุดขาวเท่านั้น (ในปัจจุบันบางปี อนุโลมให้ใส่เสื้อเหลืองเข้าโรงเจได้ ในบางแห่ง)
และเป็นเทศกาลที่มีอาหารพิเศษสุดๆ มีเพียงระยะเวลานี้เท่านั้นที่ได้รับประทาน เช่น บะหมี่ผัดเจ ก๋วยจับเจ ราดหน้าเจ สุกี้เจ
เป็นต้น หากใครที่อยู่ในระแวกเยาวราชจะรับรู้เรื่องอาหารการกิน ว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วกับในปัจจุบัน อาหารการกินในเทศกาลเจได้พัฒนารูปแบบของอาหารจำพวกโปรตีนเกษตรให้มีรสชาติได้ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์อย่างมากแล้ว เป็นการก้าวหน้าในวิทยาศาสตร์ทางด้านอาหารเป็นหลักนั้นเอง

เทศกาลกินเจ/เทศกาลการผัก เปรียบได้กับการรอคอยการลงทุน ว่าโอกาสที่ได้ซื้อกิจการที่ดีนั้น ต้องรอคอย มีเพียงไม่กี่เวลาเท่านั้นที่เราได้ซื้อกิจการที่นักลงทุนหมายปองไว้ ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไร เทียบได้กับระยะเวลาการจัดงานว่าในแต่ละปีไม่รู้ว่ามีวันที่เท่าไรของเดือนตุลาคมของทุกปีนั้นเอง

ปล เทศกาลนี้ ระบบขับถ่ายดีอย่างมากๆ เพราะได้ทานผักเป็นประจำ สุขภาพของลำไส้เล็กได้ทำงานเต็มที่ เพราะลำไส้เล็กของมนุษย์นั้นยาว เหมาะสำหรับการย่อยอาหารประเภทผักมากกว่า เนื้อสัตว์นั้นเอง
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 247

โพสต์

ไปเดินงานสัปดาห์หนังสือ
วันหยุดยาวก็ไปเดินหาซื้อหนังสือมานั่งอ่าน งานปีนี้ ค่อยข้างเล็กกว่าทุกปี จำนวนร้านที่ออกงานเริ่มลดลงจากปีก่อนๆ
เมื่อก่อนนี้ เต็มทุก Hall แถมมีข้างหน้าอีกต่างหาก แต่ตอนนี้ข้างหน้าของศูนย์ประชุมได้ทำเป็นร้านกาแฟแบบถาวรไปแล้ว
ทำให้พื้นที่จัดงานลดลง

สิ่งที่เห็นแตกต่างกว่างานทุกครั้งคือ ส่วนลดของหนังสือ ที่เริ่มต้นที่ 15% เป็นอย่างต่ำ ไม่ค่อยเห็นติดป้าย 10% เมื่อก่อนลดแค่ 10% เท่านั้น ส่วนลด 15% นั้นต้องโอกาสพิเศษกันจริงๆ ส่วนหนึ่งซื้อที่เทกระจาดนั้น ทุกทีจะเห็นมากมายในงาน แต่รอบนี้ เทกระจาดลดน้อยลง แต่ก็ยังเห็นมีอยู่บ้าง ในบางบูท

ไปงานรอบนี้ เจอะเจอน้องคนหนึ่งเดินมาทักทาย พี่หาซื้อหนังสือ snow ball ที่ไหน ก็บอกน้องคนนี้ไปว่า ซื้อใน plenary hall ....ก็ว่ากันไป ตอนที่รออยู่หน้า green read ของ SCG เพื่อรอ stamp เอาของสมนาคุณ ก็มีน้องมาถามว่า พี่อ่านเสร็จแล้วพี่ขายต่อหรือเปล่า เห็นซื้อมาเพียบแบบนี้ ขายต่อไหม เราเองก็บอกไปว่า เราไม่ขายต่อ เนื่องจากหนังสือพวกนี้อ่านไปแล้วเก็บ ยิ่งหนังสือพวกการลงทุนแล้วด้วย เล่มดีๆบางเล่มไม่ซื้อเมื่อหลายปีก่อน ก็ไม่มีแล้วในตอนนี้ เช่นหนังสือของพี่สุมาอี้ (ต้องไป Download ใน web แทน) หนังสือของพี่พรชัย (จิตวิทยาการลงทุน,การลงทุนแบบดันโด) หนังสือของพี่คลายเครียด (มวยวัด) เป็นต้น พวกนี้ไม่มีจำหน่ายต้องหาตามหนังสือมือสอง ที่หาได้ยากมากๆ

ดังนั้น เจอะเจอหนังสือที่ใช่ ถูกจริตกับเรานั้น ไม่ควรขาย ควรเก็บไว้ เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงต่อไปในภายภาคหน้านั้นเอง

ในงานสัปดาห์หนังสือรอบนี้เป็นครั้งแรกที่ รูดบัตรพลาสติกของเจ้าหนึ่งแล้วแลกแต้มเพื่อเป็น Cash back กลับ(ส่วนลดแบบ On topนั้นเอง) แสดงว่าตอนนี้ตลาดหนังสือหดตัวรวดเร็ว แต่ทว่า ใน US นั้นตลาดหนังสือเริ่มฟื้นตัวแล้ว จากการหดตัว จนต้องปิดร้านหนังสือกันมากมายในช่วงที่ผ่านมา

:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 248

โพสต์

ข่าวที่โดนกลบ
ข่าวที่โดนกลบไปในตอนนี้คือ ข่าวของจบดับไปแล้ว 2 ช่องดิจิตอล
จากเดิมที่ประมูล 24 ช่อง นั้น ตอนนี้มี 2 ช่องได้ยุติการออกอากาศไปตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 เวลาประมาณ 00.10 น.
โดยเป็นช่องเด็กและช่องข่าวสาร
งานนี้ต้องวัดใจว่า กสทช ดำเนินการประมูลใหม่ หรือไม่
ช่องดังกล่าวจะมีพันธมิตรเข้ามาช่วยเหลือหรือเปล่า ต้องรอดูละกัน
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 249

โพสต์

เทศกาลปล่อยผี
สังเหตไหมว่า ช่วงนี้ 2-3 วันนี้เริ่มมีหุ้น Ceiling บนกระดานการซื้อขาย (Ceiling คือ ราคาของหลักทรัพย์นั้นเพิ่มขึ้น 30% จากวันก่อนหน้านี้) แสดงว่า ภาวะกระทิง กลับมาสำหรับหุ้นตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง
อันนี้แปลกแต่จริงละ และบังเกิดแล้วด้วย

:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 250

โพสต์

นักลงทุนลืมอะไรหรือเปล่า
นักลงทุนที่ลงทุนในช่วงนี้ สงสัยกันไหมว่า CAPEX ของบริษัทลดลง แต่กิจกรรมของบริษัทยังเท่าเดิม แล้วค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแทน CAPEX มันมีการเปลี่ยนแปลงได้ซักพักหนึ่งแล้ว นั้นคือการเช่าใช้งานของอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน โดยเริ่มต้นที่เครื่องคอมพิวเตอร์สำนักงาน ต่อมาเป็นเครื่องแม่ข่ายโดยการมาของเทคโนโลยี่ที่ชือว่า กองเมฆ หรือ Cloud นั้นเอง แล้วค่อยๆจะมีมาอีกเรื่อยๆ
ทำไมเป็นเช่นนั้นแหละ/ทำไมแนวคิดนี้ถึงใช้กันเริ่มแพร่หลาย
นักลงทุนคงลืมไปว่า "สินทรัพย์ในวันนี้คือค่าใช้จ่ายในวันหน้า" (นอกจากที่ดินที่ไม่มีค่าเสื่อมราคา มีแต่เพิ่มขึ้นในความเชื่อ)
เมื่อซื้อมาปุ๊บก็จ่ายเงินสดออกไป ตั้งมูลค่าไว้ในงบดุลด้านสินทรัพย์ จากนั้นก็ต้องมีนโยบายค่าเสื่อมราคา/ค่าตัดจำหน่าย/การตีมูลค่า ตามมา เมื่อใช้ผ่านไป ก็ต้องมีการบำรุงรักษาให้คงสภาพเดิม /ซื้อใหม่/จำหน่ายทิ้ง แล้วก็ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล/บำรุงรักษา/ซ่อมบำรุงให้มีสภาพที่พร้อมใช้งาน
เมื่อ เป็นแบบเช่า สิ่งที่แตกต่างคือ บริษัทไม่ต้อง มีสินทรัพย์ในตัวบริษัท มีสัญญาการเช่าใช้งาน จ่ายเงินก็คือเป็นค่าใช้จ่าย แถมเมื่อเป็นค่าใช้จ่ายแล่้วไซร้ ภาษีก็ลดลงอีกต่างหาก เพราะ รายได้ลบค่าใช้จ่าย นำไปหักภาษีอีก
ไม่เพียงแค่นั้น ไม่ต้องดูแลเพราะไม่ใช่สินทรัพย์ของตัวเอง เจ้าของสินทรัพย์ที่ให้เช่าส่งคนมาดูแลแทน เพื่อให้ผู้เช่าใช้งาน (ถ้าหากใช้งานไม่ได้ก็ไม่จ่ายค่าเช่าก็แค่นั้นเอง) แถมเมื่อเสียก็มีของใหม่มาตั้งให้ใช้งาน หรือ ซ่อมไม่ได้ก็มีของทดแทนให้ใช้งาน
เจ้าหน้าที่ก็ไม่ต้องจ่ายเงินเดือน เพราะ รวมไปกับค่าเช่าแล้วด้วย
ไม่ต้องมานั่งทำงบประมาณให้เสียเวลาในเรื่องตั้งงบประมาณจัดซื้อทดแทน/ซื้อบำรุงรักษารายปี อีกต่างหาก

ทั้งหมดจะเห็นได้ว่า กระแสการเช่านั้นมาได้ซักพักหนึ่ง โดยเริ่มมาจากภาคการเงิน แล้วขยายส่งภาคส่วนอื่นๆ

แล้ว Cloud ละ มันเป็นภาคต่อการเช่าอย่างไร
Cloud นั้น ถือว่าเป็นการเช่าใช้งานเหมือนกัน แต่ปัญหาหนักกว่าการเช่า คือ ข้อมูลของเราส่งออกไปเก็บภายนอก ดังนั้นผู้ให้บริการต้องได้รับการไว้วางใจว่าไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าได้นั้นเอง
กระแส Cloud มาแรงเนื่องจากว่า มันขยายขนาดได้ ไม่ต้องมานั่งจัดซื้อจัดหาใหม่ เมื่อเครื่องเดิมมันเก่าหรือทำงานได้ช้า ต้องจัดซื้อใหม่ ก็ต้องเสียเวลา/ดูงบประมาณว่ามีซื้อหรือเปล่า (หน่วยงานราชการตั้งปี 2558 ซื้อจริงปี 2560-61 เป็นอย่างน้อย)
แต่ Cloud จ่ายเงินก็เพิ่มขยายได้แล้ว สบายๆ
Cloud เพียงแค่คุณมี Internet ก็สามารถใช้งานได้ อยู่ที่ไหนก็ใช้งานได้ หรือสามารถตั้งค่าความปลอดภัย ให้ใช้งานความปลอดภัยได้ด้วย เฉพาะเจาะจงไป
ดังนั้นจะเห็นได้ว่ากระแสเริ่มมา
แต่คำถามที่ถามต่อมา ทำไมบริษัทที่ดำเนินการในเรื่อง Cloud ถึงกำไรยังน้อย
นั้นคือ มันยังไม่เกิด Economics of scale คือ ในส่วน Fix Cost ยังสูง แต่เมื่อลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ Fix Cost ลดลง
นั้นแหละกำไรเพิ่มขึ้นมาเลยทันที มันคือรอเวลาในการจุดระเบิดเท่านั้นเอง
ถ้ายังไม่เห็นภาพ เมื่อก่อนเครื่อง 1 เครื่องทำงาน ออกแบบมาให้รองรับการทำงาน 1 ระบบ
แต่ในปัจจุบัน 1 เครื่อง ให้บริการ หลายๆ เครื่องเสมือน (เครื่องเสมือน 1 ตัว ออกแบบให้รอบรับ 1 ระบบงาน) ดังนั้นจะเห็นได้ว่า มันทำงานได้มากกว่า นั้นเอง
ตอนนี้รอเวลาอย่างเดียวเท่านั้น

อีกเรื่องที่หลายคนกังวลว่า ตัดราคากันนั้น คุณลองมองกลับไปในตอนที่กำเนิดคอมพิวเตอร์ /่ตอนที่คอมพิวเตอร์เข้าในเมืองไทยแรกๆ ราคาหลักแสน แต่ปัจจุบัน หลักพันเท่านั้น คุณก็สามารถครอบครองเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ นั้นคือ ผู้ผลิตสามารถลดต้นทุนลง ผลิตสินค้าได้ปริมาณมากขึ้น มีผู้ชนะในตลาดแล้วนั้นเอง

แล้วหลายคนสงสัยอีก ทำไมผู้ผลิต ถึงได้แย่ ก็ใช่ซิ เพราะว่า เล่นซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์มา 1 เครื่องแล้วซอยย่อยเพื่อแบ่งกันใช้งาน เป็นเครื่องเสมือนแบบนี้ มันก็ขายได้น้อยลงนั้นเอง

เนี่ยแหละเป็นสิ่งที่นักลงทุนได้ลืมคิดไปในช่วงนี้
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 251

โพสต์

หลังประมูลคลื่น 1800 สิ่งที่ตามมาคืออะไรบ้าง
หลังประมูลคลื่น 1800 สิ่งที่ตามมาคืออะไรบ้าง
สิ่งแรกคือ ผู้ประมูลจ่ายเงิน 50% ของราคาประมูล ให้แก่ กสทช ภายในระยะเวลา 90 วันหลังจากได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูล ราคาประมูล ของ TURE ที่ชนะใบอนุญาตใบแรกคือ 39,792 ล้านบาท จ่าย 19,896ล้านบาท
ส่วน AIS ที่ชนะใบอนุญาตที่สอง นั้น ราคาประมูลคือ 40,986 ล้านบาท จ่ายเงิน 20,493 ล้านบาท
เงินจำนวนนี้ บริษัทต้องกู้มาส่วนหนึ่งในการจ่ายด้วย สิ่งที่ตามมาสิ่งที่สองคือ การกระจุกตัวของการปล่อยกู้ของธนาคารให้แก่บริษัททั้งสอง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากๆ ถ้าเกิดการกระจุกตัวของเงินในกลุ่มธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง หรือ บริษัทใดบริษัทหนึ่ง เมื่อธุรกิจหรือบริษัทที่ปล่อยกู้มีปัญหา เกิดขึ้น ปัญหาดังกล่าวส่งผลสะท้อนไปหาเหล่าสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ด้วย
ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นคือ กรณีที่บริษัทแห่งหนึ่งของไทย ไปซื้อบริษัทต้นน้ำ ที่ประเทศพระอาทิตย์ไม่ตกดิน นั้นเอง ธนาคารเหล่านั้น โดน ธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งสำรอง 100% โดยไม่ตัดเงินค้ำประกันซักแดงเดียว (มันคืนความเสี่ยงเรื่องการกระจุกตัวในการปล่อยกู้ของสถาบันการเงิน)
สิ่งที่สามตามมาคือ ราคาประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 นั้นจะประมูลกันดุเดือดหรือเปล่า
เจ้าของเดิมคือ ToT ให้สัมปทานแก่ AIS แล้วเก็บค่าต๋งรายปี ซึ่งมองย้อนกลับไปที่การประมูล 1800 นั้น
ของเดิมเจ้าของคือ CAT ให้สัมปทานไปที่ TAC แล้ว TAC เอาแตกให้คนอื่น 12.5Mhz จำนวน 2 เจ้า รวมเป็น 25Mhz
บริษัทสุดท้ายที่ได้ไป คือ TURE กับ ดิจิตอล โฟน (ในเครือ AIS) รายหลังเมื่อ AIS ได้ไป ก็ไม่ได้พัฒนาอะไรมากมายอะไร
ก็ใช้งานเป็น 2G โทรอย่างเดียว (ทำ โรมมิ่งมันซักเลย) แถมช่อง Slot ที่ประมูลชนะนั้นคือช่อง Slot ของเดิมของทั้งสองเจ้า
งานนี้คือ ช่วงคลื่นความถี่มันคุ้มเคยมือ มีอุปกรณ์เก่าอยู่ ใช้งานได้เลยไหม คำถามนี้สำหรับนักลงทุนลองไปถาม Op day ดู (เฉลยคำถามให้ IR เป็นคนตอบหรือคณะกรรมการบริษัทตอบละกัน)

สิ่งต่อมาคือ ผู้แพ้นั้น ทำไมนักลงทุนมองว่า ไปต่อไม่ได้ นั้นคือ ระยะเวลาในการใช้คลื่นความถี่ที่เหลือ นั้นเอง
ส่วนอีกเรื่องตัวป่วนในการประมูลรอบแรกนั้น ตุนเงินสดไว้จากการเพิ่มทุนแล้ว และเคยเป็นพันธมิตรของ AIS งานนี้น่าจะได้ลุ้นว่า ถ้าชนะขึ้นมาแล้วไซร้ จะร่วมมือกับ AIS หรือเปล่า ให้ AIS ใช้งานไป เก็บค่านายหน้าหรือไม่

สังเกตต่อว่า ถ้าหากบริษัทที่ประมูลชนะนั้นใช้เงินกู้ระยะสั้นแล้ว Refinance เป็นแบบนี้อยู้แล้วนั้น
จังหวะที่ออกหุ้นกู้นั้นมีความหมายอย่างมาก เนื่องจาก สภาพคล่องของตลาดเงิน ,อัตราดอกเบี้ยที่กำลังคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่ปรับขึ้น (แต่ทว่าเมื่อ ฝรั่งเศสโดยโจมตรีโดยผู้ก่อการร้ายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้อัตราดอกเบี้ยไม่ต้องขึ้นในระยะนี้ไปอีกซักระยะ) เป็นปัจจัยในการออกหุ้นกู้ของบริษัทต่อไป ซึ่งตอนนี้หัวกระไดของทั้งสองบริษัทที่ประมูลได้นั้นหัวกระไดไม่แห้งแน่นอน ทั้งเรื่อง เงินกู้ระยะสั้น ,การออกหุ้นกู้ นั้นเอง

ส่งท้าย เรื่องนี้คือ ค่าใบอนุญาตนั้น ในทางบัญชี ปีสุดท้ายของการใช้งานนั้น มีค่าเป็น 0 แต่ทว่าเงินค่าสัมปทานจ่ายไปตั้งแต่ 3-4 ปีหลังจากได้รับใบอนุญาตแล้ว งานนี้ต้องลุ้นกันว่า ค่าเสื่อมรายปี ,ดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย,เงินที่ได้มาจากการใช้คลื่นความถี่ที่ประมูลมาได้นั้น ทำให้บริษัทที่ประมูลมานั้นกำไรมากน้อยเพียงใด
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 252

โพสต์

ไข้เลือดออกกับปรากฏการเอลนิโย่
ไข้เลือดออกกับปรากฏการเอลนิโย่นั้นมีความำสัมพันธ์กัน
โดยปีไหนที่เกิด เอลนิโย่ (กระแสน้ำร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิก) ไข้เลือดออกระบาดหนักในปีนั้นๆ
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วทำไมเกิดแบบนี้ต้องหาคำตอบกันต่อไป

ช่วงนี้ประเทศไทยเกิดปรากฏการเอลนิโย่ จึงทำให้สถานการณ์ของไข้เลือดออกระบาดอย่างหนักหน่วงในช่วงนี้
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 253

โพสต์

สิ่งที่อยู่หลังจากการซื้อบ้าน
มาตราการของรัฐ เริ่มออกมาเรื่องการกระตุ้นบ้าน โดยซื้อแล้วนำไปลดภาษี นั้น
สิ่งที่อยู่หลังจากการซื้อบ้าน (รับโอนบ้านไปแล้ว) คืออะไรบ้าน
1. การต่อเติมบ้าน เช่น ก่อสร้างห้องครัว ,สร้างหลังคาที่จอดรถ
2. การจัดซื้อชุดเครื่องนอน ไล่ตั้งแต่เตียง โต๊ะ ตู้
3. การตกแต่งบ้าน ได้แก่ ผ้าม่าน,มุ้งลวด
4. เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ ทีวี,ตู้เย็น,เครื่องซักผ้า
สิ่งพวกนี้เป็นสิ่งที่ติดตามเมื่อมีการซื้อบ้านนั้นเอง

ดูกันต่อไปว่า ตัวเลขเหล่านั้น จะมาหรือยัง จับตาไว้ละกัน
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 254

โพสต์

วิกฤติศรัทธาในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตอนนี้เริ่มมีเรื่องของวิกฤติศรัทธาในการลงทุนเกิดขึ้นมาอีกระลอก ในเรื่องการใช้ข้อมูลภายในการซื้อขายหลักทรัพย์
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กับสังคมไทยมาโดยตลอด บทลงโทษนั้น ไม่รุนแรงเหมือนกับประเทศที่เจริญแล้ว อย่างเช่นใน US
ซึ่งในเรื่องนี้เป็นเรื่องทีนักลงทุนให้ความสำคัญอย่างยิ่ง แต่อย่างไรเสีย สังคมไทยนั้น เป็นสังคมแห่งการให้โอกาสที่ให้
ผู้หลงผิด เปลี่ยนพฤติกรรม (มีการเรียกไปปรับทัศนคติ อยู่เนื่องๆในระยะเวลา 2-3 ปีนี้) กลับมายังสังคมโดยรวม
ก็มีหลายกรณีที่ทำสำคัญได้คนดีกลับคืนมายังสังคม
แต่อย่างไรเสียในเรื่องของการลงทุนนั้น มิใช่มีการคนไทย มีฝรั่งหัวดำ ตาฟ้าหัวทองอยู่ด้วย เรื่องพวกนี้ฝรั่งเข้าถือ
จึงเป็นโอกาสที่มีแรงขายแรงๆ ก็เป็นไปได้ ดังนั้น หากนักลงทุนยังเชื่อมั่นว่า มันคือโอกาสบนความเสี่ยง ก็ลุยได้เลย หรือ
ชะลอการลงทุนไว้ก่อน ก็ได้ครับ ไม่เป็นปัญหาอะไร

แต่สุดท้าย วิกฤติศรัทธา ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ หน่วยงานที่ดูแลควรที่หันมามองตัวเองว่า มาตราการที่มีอยู่นั้น เหมาะสมหรือยัง และ รวดเร็วแค่ไหน เพราะยุคนี้เป็นยุคของ Digital Economics กำลังเข้าสู่ยุค Internet of things เครื่องอุปกรณ์สื่อสารกันเองแล้ว
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 255

โพสต์

อดีตย้อนมองปัจจุบัน กรณีกลุ่ม IS
จำได้หรือเปล่าเหตุการณ์ 911 นั้นสหรัฐอเมริกาโดนโจมตรีเป็นครั้งที่สองที่โดนโจมตรี จากภายนอก
โดยครั้งแรกคือ เพิร์ล ฮาร์เบอร์ ที่ญี่ปุ่นส่งเครื่องบิน และเรือบรรทุกเครื่องบินไปถล่ม
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่โดนถล่ม หลังจาก 911 สหรัฐ ได้ส่งทหารไปที่อัฟกานิสถาน และ อิรัก
โดยมีพันธมิตรคือ อังกฤษ

ในปัจจุบัน ฝรั่งเศสโดนโจมตรี ก็ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินเข้าโจมตรีซีเรีย
มีประเทศพันธมิตรในการโจมตรีร่วมด้วยคือ อังกฤษ

ทั้งสองเหตุการณ์ต่างกรรมต่างวาระ แต่มีหลายสิ่งที่เหมือนกันคือ
การตกต่ำของเศรษฐกิจ,ต้นตอในการก่อสงคราม มันก็แน่แปลกใจอยู่เหมือนกัน
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 256

โพสต์

ข้อคิดของการซื้อมือถือ ที่ไม่ใช่กระแสหลัก
พอดีคนข้างกายไปซื้อ มือถือที่ใช้ เจ้าหุ่นยนต์มา ราคาก็หลักหมื่น แต่ไม่ใช่มือถือในกระแส
ปรากฏว่า เจอะเจออุบัติเหตุ ไม่คาดฝันขึ้น มือถือเครื่องนี้ตก จอแตก ที่มุมเครื่อง
งานเข้าเลยละเนี่ย ต้องไปซ่อมแซมให้กลับมาอยู๋ในสภาพเดิม
โชคดีที่บ้านเดินไปคลองถม ซึ่งเป็นแหล่งอุปกรณ์มือถือใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
หากหาของที่คลองถมไม่เจอะเจอ คงเรียกได้ว่า ไม่ต้องไปควานหาที่ไหนในประเทศไทยแล้ว
สำหรับเครื่องนั้นๆ (ขนาด 3310 ยังมีของให้สามารถซ่อมได้ หรือซื้อหามาได้ละกัน)
เดินหาตั้งแต่ตึกตรงสี่แยกเสือป่า ตึก ล็อกสเล่ย์เดิม และตึกเสือป่าเซ็นเตอร์(แห่งใหม่)
เจอของแค่ร้านเดียวเท่านั้น แต่เปิดราคามา ครึ่งหมื่น ค่าซ่อมจอและค่าแรง เรียกได้ว่า
หน้าเสียเลยละ สำหรับคนข้างกาย เลยต้องเดินออกมาไปที่ศูนย์ของเครื่อง (ศูนย์มีที่ Central พระราม 2 ,มาบุญครอง)
เลือกไปที่มาบุญครอง ค่าบาดเจ็บไม่ถึง 4000 บาทได้ ฟิล์มกระจก และ เคสมาด้วย สบายกระเป๋าไป

บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า ซื้อของในกระแส แม้นว่าแพง ก็ยังมีอะไหล่ให้ซ่อมได้ราคาถูก เพราะคนใช้มาก
ถ้าหากซื้อของไม่อยู่ในกระแสหลักเวลาซ่อมแล้วเดินหาเหนื่อย อาจจะต้องเวลาในการสั่งซื้ออุปกรณ์ที่นำมาซ่อม

เอวัง ด้วยประการฉะนี้
:)
:)
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 257

โพสต์

miracle เขียน:ข้อคิดของการซื้อมือถือ ที่ไม่ใช่กระแสหลัก
พอดีคนข้างกายไปซื้อ มือถือที่ใช้ เจ้าหุ่นยนต์มา ราคาก็หลักหมื่น แต่ไม่ใช่มือถือในกระแส
ปรากฏว่า เจอะเจออุบัติเหตุ ไม่คาดฝันขึ้น มือถือเครื่องนี้ตก จอแตก ที่มุมเครื่อง
งานเข้าเลยละเนี่ย ต้องไปซ่อมแซมให้กลับมาอยู๋ในสภาพเดิม
โชคดีที่บ้านเดินไปคลองถม ซึ่งเป็นแหล่งอุปกรณ์มือถือใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
หากหาของที่คลองถมไม่เจอะเจอ คงเรียกได้ว่า ไม่ต้องไปควานหาที่ไหนในประเทศไทยแล้ว
สำหรับเครื่องนั้นๆ (ขนาด 3310 ยังมีของให้สามารถซ่อมได้ หรือซื้อหามาได้ละกัน)
เดินหาตั้งแต่ตึกตรงสี่แยกเสือป่า ตึก ล็อกสเล่ย์เดิม และตึกเสือป่าเซ็นเตอร์(แห่งใหม่)
เจอของแค่ร้านเดียวเท่านั้น แต่เปิดราคามา ครึ่งหมื่น ค่าซ่อมจอและค่าแรง เรียกได้ว่า
หน้าเสียเลยละ สำหรับคนข้างกาย เลยต้องเดินออกมาไปที่ศูนย์ของเครื่อง (ศูนย์มีที่ Central พระราม 2 ,มาบุญครอง)
เลือกไปที่มาบุญครอง ค่าบาดเจ็บไม่ถึง 4000 บาทได้ ฟิล์มกระจก และ เคสมาด้วย สบายกระเป๋าไป

บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า ซื้อของในกระแส แม้นว่าแพง ก็ยังมีอะไหล่ให้ซ่อมได้ราคาถูก เพราะคนใช้มาก
ถ้าหากซื้อของไม่อยู่ในกระแสหลักเวลาซ่อมแล้วเดินหาเหนื่อย อาจจะต้องเวลาในการสั่งซื้ออุปกรณ์ที่นำมาซ่อม

เอวัง ด้วยประการฉะนี้
:)
ผมว่า มันเป็น eco system อย่างนึงนะคับ เพียงแต่ มัน reflexivity มาจาก ความนิยม

นิยม>> third party >> คนใช้เยอะ สะท้อนกันไปมา
show me money.
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 258

โพสต์

nut776 เขียน: ผมว่า มันเป็น eco system อย่างนึงนะคับ เพียงแต่ มัน reflexivity มาจาก ความนิยม

นิยม>> third party >> คนใช้เยอะ สะท้อนกันไปมา
ใช่ครับ แต่สิ่งที่ผมเจอะเจออีกอย่างคือ
อะไหล่มาจากเมืองจีนทั้งหมด ไม่ว่าเป็นยี่ห้อดัง หรือไม่ดัง
มีหมด
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 259

โพสต์

bike for dad ปั่นเพื่อพ่อ
วันนี้ได้เข้าร่วมกิจกรรม bike for dad ปั่นเพื่อพ่อ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
เส้นทางปั่นนั้นแตกต่างจากที่ประกาศ คือ เริ่มที่พระบรมรูปทรงม้า เข้าพญาไท มุ่งหน้าไปประตูน้ำ เลี้ยวซ้ายเข้าสุขุมวิท ไป ถนนวิทยุ เข้าถนนสาธร ขึ้นสะพานสาธร ลงมา ปั่นไปถึงตัดกับถนนสมเด็จเจ้าพระยา(บริเวณสถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่) กลับเส้นทางเดิม เมื่อถึงพระรามสี่ เลี้ยวซ้ายเข้าพระรามสี่ แ้ล้วเข้าสีลมที่หน้าโรงแรมดุสิต ปั่นตามเส้นสีลม จนถึงเจริญกรุง เข้าเจริญกรุง แล้วเข้าเยาราช หลังจากนั้นมุ่งหน้าขึ้นสะพานพระปกเกล้า ลงมาถนนประชาธิปก เข้าวงเวียนใหญ่ ย้อนทางเดิน เข้าถนนข้างโรงเรียนศึกษานารี มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลศิริราช มาหยุดที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อมีพื้นที่ปั่นขึ้นสะพานอรุณฯ จากนั้นเลี้ยวขวาเพื่อเดินจูงจักรยานขึ้นสะพานปิ่นเกล้าที่ลาดชันมากๆ สะพานหนึ่งของกรุงเทพ เมื่อลงมาปั่นต่อเข้าราชดำเนินนอก ราชดำเนินกลาง และ ราชดำเนินใน ที่พระบรมรูปทรงม้านั้นเอง
เริ่มปั่นประมาณ 1800 น. สิ้นสุดมาถึงที่พระบรมรูปทรงม้าเวลา 2130 น.
สนุกมากๆครับ ได้ออกกำลังกายในระยะทางประมาณ 46 กิโลเมตร
สิ่งหนึ่งที่ผมเจอะเจอคือ การช่วยเหลือกันและกัน คนที่ไม่รู้จักกันก็ช่วยเหลือกัน
มีปัญหาเรื่องลมยางก็สูบให้ มีปัญหาเรื่องการขันน๊อตก็มีอุปกรณ์ให้ยืมกัน ปั่นจักรยานก็มีน้ำใจ เวลาแซงก็บอก เวลามีขวดน้ำอยู่บนพื้นถนนก็บอกกัน มีหลุม มีฝาท่อก็บอกกัน
ไม่ค่อยได้เห็นแบบนี้มานานแล้วในสังคมไทย

ิีอีกสิ่งที่พบเจอ คือ พนักงานที่ทำงานบนถนนสีลม และสาธร ลงมาถ่ายรูปถนนที่ไร้รถวิ่ง หรือรถติด ตั้งแต่ผมเกิดมาอายุประมาณนี้แล้วไม่เคยเห็นถนนสีลมและสาธรไร้รถวิ่ง มีก็วันนี้แหละที่เป็นเช่นนั้น มีหลายต่อหลายคนถ่ายรูปหลายทวงท่า เรียกได้ว่า Acting กันสุดฤทธิ์เลยทีเดียว

และแล้ววันเวลาความสุขก็ผ่านไป ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป
กลับมาสู่โลกของความจริง
:)
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 260

โพสต์

สวัสดีปีใหม่ ปี 2559 ปีวอก
ที่ต้องกล่าวคำนี้ล่วงหน้า เนื่องจาก ข้าพเจ้าเข้าบรรชาอุปสมบทในวันที่ 20 ธันวาคม 2558 นี้
โดยที่ข้าพเจ้าได้กระทำกรรม ทั้งทาง กายกรรม วจีกรรมและมโนกรรม ต่อท่านทั้งหลายใน web board thaivi ทั้งที่ระลึกได้ หรือ ทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นั้น ขอให้ท่านทั้งหลายจงโปรดยกโทษให้เป็นอโหสิกรรมแ่่ก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรกันและกันเถอะ
miracle 18 ธันวาคม 2558
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 2

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 261

โพสต์

miracle เขียน:สวัสดีปีใหม่ ปี 2559 ปีวอก
ที่ต้องกล่าวคำนี้ล่วงหน้า เนื่องจาก ข้าพเจ้าเข้าบรรชาอุปสมบทในวันที่ 20 ธันวาคม 2558 นี้
โดยที่ข้าพเจ้าได้กระทำกรรม ทั้งทาง กายกรรม วจีกรรมและมโนกรรม ต่อท่านทั้งหลายใน web board thaivi ทั้งที่ระลึกได้ หรือ ทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นั้น ขอให้ท่านทั้งหลายจงโปรดยกโทษให้เป็นอโหสิกรรมแ่่ก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรกันและกันเถอะ
miracle 18 ธันวาคม 2558
อนุโมทนา ครับ พี่ miracle
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 262

โพสต์

อนุโมทนาครับ น้องมิราเคิล
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ลูกหิน
Verified User
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 263

โพสต์

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 264

โพสต์

ตามมาอนุโมทนา คับ
ขออโหสิกรรม ซึ่งกันและกัน ด้วยคับ
show me money.
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 265

โพสต์

ลาสิขาแล้วละ
กลับมาก็เจอะเจอเรื่องของราคา้น้ำมันทีเด้งแรง
ทำไมน้ำมันเด้งได้แรง มันต้องมีอะไรที่ทำให้้น้ำมันเด้งได้ขนาดนี้
ลองมองไปดูข่าวดู จะเห็นเรื่องสภาพอากาศในซีกโลกเหนือหนาวจัด
หิมะตกจนการเดินทางการเครื่องบินหยุดชะงัก นั้นคืออะไร หิมะตกหนักมาก
เมื่อหิมะตกหนัก ประชาชนก็ออกจากบ้านไม่ได้ ในบ้านมีอะไร มีเครื่องทำความร้อน
เครื่องทำความร้อนใช้เชื้อเิพลิงอะไร นั้นแหละ
แต่สิ่งที่ตามมาจากสภาพอากาศแบบนี้คือ การเดินทางไม่เกิน ส่งของกันไม่ได้ ซื้อของไม่ได้
งานนี้ต้องดูว่าผลกระทบแค่ไหนละ
:)
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3227
ผู้ติดตาม: 4

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 266

โพสต์

miracle เขียน:ลาสิขาแล้วละ
กลับมาก็เจอะเจอเรื่องของราคา้น้ำมันทีเด้งแรง
ทำไมน้ำมันเด้งได้แรง มันต้องมีอะไรที่ทำให้้น้ำมันเด้งได้ขนาดนี้
ลองมองไปดูข่าวดู จะเห็นเรื่องสภาพอากาศในซีกโลกเหนือหนาวจัด
หิมะตกจนการเดินทางการเครื่องบินหยุดชะงัก นั้นคืออะไร หิมะตกหนักมาก
เมื่อหิมะตกหนัก ประชาชนก็ออกจากบ้านไม่ได้ ในบ้านมีอะไร มีเครื่องทำความร้อน
เครื่องทำความร้อนใช้เชื้อเิพลิงอะไร นั้นแหละ
แต่สิ่งที่ตามมาจากสภาพอากาศแบบนี้คือ การเดินทางไม่เกิน ส่งของกันไม่ได้ ซื้อของไม่ได้
งานนี้ต้องดูว่าผลกระทบแค่ไหนละ
:)
อนุโมทนาด้วยนะครับ พี่ miracle

อยากรู้ว่าพี่มิบวชแล้วได้อะไรจากการบวช รบกวนช่วยแชร์ให้อ่านหน่อยได้ไหมครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับพี่
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 267

โพสต์

picatos เขียน:
miracle เขียน:ลาสิขาแล้วละ
กลับมาก็เจอะเจอเรื่องของราคา้น้ำมันทีเด้งแรง
ทำไมน้ำมันเด้งได้แรง มันต้องมีอะไรที่ทำให้้น้ำมันเด้งได้ขนาดนี้
ลองมองไปดูข่าวดู จะเห็นเรื่องสภาพอากาศในซีกโลกเหนือหนาวจัด
หิมะตกจนการเดินทางการเครื่องบินหยุดชะงัก นั้นคืออะไร หิมะตกหนักมาก
เมื่อหิมะตกหนัก ประชาชนก็ออกจากบ้านไม่ได้ ในบ้านมีอะไร มีเครื่องทำความร้อน
เครื่องทำความร้อนใช้เชื้อเิพลิงอะไร นั้นแหละ
แต่สิ่งที่ตามมาจากสภาพอากาศแบบนี้คือ การเดินทางไม่เกิน ส่งของกันไม่ได้ ซื้อของไม่ได้
งานนี้ต้องดูว่าผลกระทบแค่ไหนละ
:)
อนุโมทนาด้วยนะครับ พี่ miracle

อยากรู้ว่าพี่มิบวชแล้วได้อะไรจากการบวช รบกวนช่วยแชร์ให้อ่านหน่อยได้ไหมครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับพี่
ขอบคุณพี่ picatos ถามในประเด็นที่ผมได้บรรพชาอุปสมบทได้อะไร
สิ่งที่ได้ นั้นคือ
1. น้ำหนักลดลง ไป 3-4 กิโลกรัม
2. การประเคนของพระ
3. การนิมนต์พระ
4. กิจวัตรของพระ คือ บิณฑบาตร,แสดงอาบัติ,การรักษาผ้าครอง ซึ่งมี 10 ข้อ
5. การสวดมนต์ไหว้ ในส่วนของมนต์พิธี ได้น้อยไป เนื่องจากเวลาส่วนใหญ่ช่วยงานที่วัด เนื่องจากบรรพชาอุปสมบทในช่วงปีใหม่ ต่อ ด้วยช่วงของงานประจำปีของวัด ทำให้เวลาการท่องหนังสือมีน้อยไปหน่อย
6. การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
7. ความแตกต่างระหว่าง กรรมฐานกับวิปัสสนา

ในที่นี้ขอขยายความในเรื่องของการบิณฑบาตรหน่อย
การบิณฑบาตรนั้น พระสงฆ์ออกบิณฑบาตรได้หลังจากแสงสว่าง พอเห็นหลังคาโบสถ์
แต่ถ้าออกก่อนเห็นหลังคาโบสถ์ แล้วไม่ได้ครองผ้าครองไปด้วย (พระใหม่มี 3 ผืนคือ สงบ จีวร และ สังฆาฏิ) ไม่ฉะนั้นต้องสละผ้าครองแล้วทำพินทุ (การทำติหนิ)
เดินบิณฑบาตรนั้น ต้องถอดรองเท้าเสมอ ห้ามถือร่ม แม้นว่าฝนตกก็ตาม ญาติโยมที่ใส่บาตรสามารถสวมหมวกได้ แต่เวลากรวดน้ำหรือรับพร ต้องถอดหมวก ถ้าญาติโยมมีผ้าคุมหัวมา ไม่ต้องเอาลงได้
ญาติโยมใส่บาตรกันในสมัยก่อนใช้ปิ่นโต แต่สมัยใหม่ยุคข้าวแกงตักใส่ถุง ข้าวใส่ถุง ใส่บาตรกัน
มีญาติโยมวิ่งตามพระเพื่อใส่บาตรก็มี หรือจอดรถมาดักหน้าเพื่อรอนิมนต์พระใส่บาตรข้างถนนก็มี
การยืนแถวเพื่อรับบิณฑบาตรนั้น ยืนตามลำดับพรรษา ปิดท้ายด้วยเณร หากเณรยืนปิดท้ายแล้ว พระยืนต่อมิได้
พระสงฆ์ต้องระวังเรื่องบาตรตก หรือ ฝาบาตรร่วง อย่างยิ่งเลย ตกเป็นเรื่องเลย
เวลาเดินบิณฑบาตรก็ต้องสำรวม สายตาต้องมองลงดินตลอดเวลา ไม่ใช่เดินลอยหน้าลอยชายเด็ดขาด มองไปยังบ้านโยมก็ไม่ได้ ไปดักหน้าบ้านก็มิได้ด้วย
ตอนที่บวชนั้น เข็นรถเข็นไปบิณฑบาตรไป ไปกัน 3 องค์ เดินไปกลับประมาณ 5-6 กิโลเมตร แถมตื่นแต่เช้าทุกวันคือ 04.30 น. ทุกวันเลย

ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้นเดี๋ยวค่อยเขียนละกัน
ต้องขยายความที่ละเรื่อง
:)
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 268

โพสต์

การลงทุนปี 2558 ที่ผ่านมานั้น เป็นปีที่ไม่ดีสำหรับนักลงทุนทั่วไป
ลงทุนได้ยากลำบากมากๆ เนื่องจากดัชนีมีทิศทางลดลง ซึ่งผมได้บอกกับนักลงทุนด้วยกันไว้ตั้งแต่ต้นปีว่า
ให้เน้นส่งออก เพราะเงินบาทอ่อนค่าลดลง และพยายามปรับลด Port ลงบ้าง
ไม่รู้ว่าเพื่อนนักลงทุนเหล่านั้นจะทำตามกี่ท่านก็ไม่รู้ละ

ปี 2558 ที่ดำเนินการการลงทุนได้กำไรมากๆ มีหุ้นเพียง 1-3 ตัวเท่านั้นที่ได้กำไรเป็นน้ำเป็นเนื้อ
ที่จำได้ในตอนนี้คือ หุ้นเพิ่มทุนตัวหนึ่งในกลุ่มประกัน (ไม่รู้ว่าผมไปดวงดีอะไรมาไม่รู้ เหมือนถูกหวย
แต่หวยนี้ผมรอว่า มันออกมาแน่นอน) มาครบเซ็ทคือ เพิ่มทุน แตกพาร์ แจกวอแลนท์ แถมรายงานผลประกอบการ
จากขาดทุนหนักๆ เป็นกำไร ตัวนี้ไม่ค่อยมีสภาพคล่องเท่าไร ถือว่าดวงดีเลยละ
ตัวเดียวทำให้ไม่ต่องทำอะไรมากมาย ถึงเป้าหมายปีละ 10% แล้ว

ตัวต่อมาที่ได้กำไรแต่ไม่มากเท่าไร เป็นบริษัทเกี่ยวกับสิ่งทอ อันนี้กำไรละกัน ถึงแม้นไม่มีสภาพคล่อง

ส่วนที่เจ็บหนักๆคือ หุ้นสิ่งทออีกเหมือนกัน เป็นวันที่ดวงแตก เพราะว่า ติดงานประจำ ประชุม บ่ายก็จัดงานต่อแก้ไขปัญหา
ต้องขายจากกำไรเป็นต้องหยุดเลือดไหล แต่ก็ไม่ได้ทำ ถือมาจนถึงปัจจุบัน รอปลดล๊อคเรื่องที่ดิน ที่มีรถไฟฟ้าผ่าน

ส่วนที่มาแบบตกใจคือ Tender offer เรียกได้ว่า โดน 2 วันติดต่อกันเลย
ตัวหนึ่งเป็นกิจการสิ่งพิมพ์ หุ้นตัวนี้ถือมาได้ซักพักแล้ว เมื่อประกาศ tender offer ราคาต่ำแบบนี้
ก็มีทางเดียวคือ ยอมขายทิ้ง แล้วรอดู ว่ามันเป็นอย่างไร ทำไมผู้ถือหุ้นเดิมทำไมขายราคาต่ำมันต้องมีเหตุผล
ยิ่งหุ้นไม่มีสภาพคล่องแล้ว มีมูลค่ามันต้องให้ราคาสูงกว่าตลาด ผู้ที่ซื้อก็มีกิจการเหมือนกันด้วย
ส่วนวันถัดมา บริษัทประกัน ทำ Tender offer แต่สังเกตว่า ตัวนี้มี Offer หนามากๆ มาก่อนเลย
ตัวแรกที่ผมเขียนข้างบน ไม่มี offer หนาหรือบางมายืนขวางให้เห็น เนื่องจากสภาพคล่อง
ทั้งสามเคสนี้เป็นเคสพวกหุ้นไม่มีสภาพคล่องทั้งหลาย เมื่อมีสภาพคล่องมา ก็ต้องเพ่นพันลี้ อย่าโลภ เดี๋ยวลาภหายเหมือนสุนัขที่ปากคาบก้อนเนื้อในปากแล้ว มองเงาในน้ำเห็นเนื้อในน้ำใหญ่กว่าเลย ปล่อยเนื้อในปากออกไป ทำให้สุนัขไม่ได้อะไรเลย (นิทานอีสป) พอควรก็เพ่นละกัน เพ่นให้ทันไม่นั้น ก็หนาวจริงๆ บนดอยในเทือกเขาหิมะลัยเลยทีเดียว

อีกตัวประทับใจมากๆ ว่าตีถูกเลย ตามอยู่แป๊บเดียวได้เรื่องเลย
ตัวหนึ่งขายกิจการโดยไปสร้างที่ใหม่จากการไปเช่าพื้นที่ของบริษัทอื่นมาดำเนินการ
อีกตัวหนึ่งเป็นกิจการในวงการซื้อมาขายไป ซื้อกิจการลูก ที่ราคา Par แล้วตัวแม่เองก็จัดการเรื่องขาดทุนสะสมแล้ว
มี Tax Shield จากผลประกอบการในอดีตที่ขาดทุน เดี๋ยวก็ใช้หมดภายในระยะเวลา ปีนี้(2559)นี้แหละ
แต่ทว่า มั่นใจไปหน่อยเลยโดยทุบซักติดดินเลย แต่ทว่า เมื่อทุบเสร็จมันก็ต้องหาเรื่องเล่าต่อว่า ดำเนินการทำอะไร
มี Tax Shield สำหรับบริษัทแล้ว มันเหมือนสิ่งที่นักลงทุนได้ผตอบแทนที่มากขึ้นนั้นเอง

เดี๋ยวเขียน update ไปเรื่อยๆ
:)
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 269

โพสต์

รบกวน อธิบาย กรรมฐาน กับ วิปัสนา
ในมุม ของ พี่มิ ให้ฟังหน่อยคับ
show me money.
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: แปลกใจ ช่วงนี้นักลงทุนคิดอะไรอยู่

โพสต์ที่ 270

โพสต์

nut776 เขียน:รบกวน อธิบาย กรรมฐาน กับ วิปัสนา
ในมุม ของ พี่มิ ให้ฟังหน่อยคับ
กรรมฐานเป็นการฝึกสมาธิ คือ นั่งสมาธิ โดยที่ไม่พิจารณาถึงเวทนา สังขาร ที่เกิดขึ้น และดับหายไป
อะไรเกิดขึ้นตัดอย่างเดียว ให้จิตตั้งไว้ที่ลมหายใจ หรือตั้งไว้ที่เราเพ่งอย่างเดียว
เมื่อฝึกถึงระดับหนึ่งแล้ว จะมีฤทธิ์ (เช่น อ่านใจคน แยกรูปและนามออกจากกันได้ เป็นต้น)
แต่เมื่อฝึกไปแล้ว ไม่ดับกิเลส มีกิเลส ยังอยู่เวียนว่ายตายเกิดอยู่

วิปัสสนา คือ การพิจารณาเห็นว่า เกิดดับ ในขณะที่เราปฏิบัติ โดย วิปัสสนานั้น พิจารณาสิ่งที่เราเป็น
เป็นอาการ แต่มันพิจารณาได้ต้องมีกำลังของสมาธิในระดับต้น เพื่อแยกว่า อะไรคือรูปอะไรคือ อาการออกจากกัน
วิปัสสนาขาดกรรมฐานไม่ได้ เพราะกรรมฐานคือสมาธิ เมื่อฝึกวิปัสสนาไปแล้ว บางที่ก็มีฤทธิ์ หรือไม่มีก็ได้ แต่ปลายทางคือ
ดับกิเลส ไม่เกิดในวัฏจักรสงสารอีกได้

วิธีการของวิปัสสนากรรมฐาน ให้เดินจงกรมก่อนนั่งสมาธิ
การเดินจงกรม ให้เรารู้สติ ว่ามีอาการอะไรเกิดขึ้นบ้างในการเดิน ดูลักษณะท่าทางการเดินจงกรม (การเดินจงกรมเป็นหนึ่งลักษณะ ซึ่งอยู่ในการยืน เดิน นั่ง และนอน)
การเดินจงกรมก็มีการพิจารณาการยืน และการเดิน การเดินก็มีย่างหนอ เป็นหยาบจนถึงละเอียดเลย
เป็นการฝึกกำลังสติ ถ้าใครอ่อนสติให้เดินจงกรมมากๆ (อย่างเช่นผม เพราะ ผมนั่งแต่สมาธิมาก ต้องเดินจงกรมมากๆ)
เมื่อเดินเสร็จก็มานั่งสมาธิ โดยระยะเวลาการเดินจงกรมให้เท่ากับการนั่งสมาธิ
ตอนนั้นสมาธิ อย่าไปตัด เวทนา สังขาร ที่เกิดขึ้น ให้พิจารณา มันจะเห็นการเกิด และ ดับ
มันก็มีข้อยกเว้นว่าตัดได้ เห็น เสียงมันดังตลอดเวลา ก็ตัด แต่ไม่ใช่ว่าเสียงนกบินผ่านไป ไม่รับรู้ว่ามีการเกิดขึ้นและดับไป อย่างนี้ไม่ใช่ละ

การนั่งสมาธินี้ ถ้าหากนั่งนานๆ จะมีอาการ เห็นโน้นเห็นนี้ในสมอง ก็ให้กำหนดว่าเห็นภาพหนอ เดี๋ยวภาพหายไป ต่างกันกรรมฐานที่เห็นภาพปุ๊บก็ตัดเลย เหมือนปิดไฟในห้องที่เปิดไฟอยู่ทันที
:)
:)