ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
วัวแดง
Verified User
โพสต์: 1429
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เห็นตอนนี้หนังสือขายดีเหลือเกิน แล้วกระดาษจะขาดตลาดมั้ยเนี่ย :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 2

โพสต์

หุ้นกระดาษก็เป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มวัฏจักรครับ  รอบหนึ่งใช้เวลาประมาณ 15-20 ปี  รอบที่แล้วกระดาษขาดตลาดมาก  ดันราคากระดาษโลกขึ้นสูงลิบๆ  หนังสือพิมพ์ นิตยสารขอปรับราคาขึ้นกันเป็นแถว และสามารถปรับได้  ก็เลยสร้างกำไรให้โรงงานกระดาษเป็นกอบเป็นกำ(ที่จริงเป็นกระบุงๆ)

แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงรอบครับ  ที่เมืองจีนมีโรงงานกระดาษเพิ่มขึ้นเยอะเลย  แม้ไม่ล้นตลาดแต่ก็ไม่ขาดแคลนแน่ๆ  สงสัยต้องอดใจรอหน่อยครับ........
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Simply
Verified User
โพสต์: 150
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 3

โพสต์

วันก่อนผมนั่งอ่านแบบรายงานประจำปีของspackนั้นในหัวข้อความเสี่ยงเรื่องราคากระดาษ เขาบอกว่า ณ ตอนนี้ ปริมาณกระดาษในตลาดยังมากกว่าปริมาณความต้องการในการใช้อยู่ ดังนั้นราคาของกระดาษยังไม่น่าจะขยับมากหรือเร็วมาก และบริษัทของเขาไม่ได้มีนโยบายผูกขาดกับคู่ค้าที่ส่งกระดาษรายในรายหนึ่ง จึงยืดหยุ่นในการเสาะหากระดาษที่มีราคาต่ำที่สุดในคุณภาพที่ต้องการ-----------ผมจึงเข้าใจว่า ราคากระดาษยังไม่ขยับมากและเร็วครับ เพราะมีคนขายที่พร้อมเสนอราคาตัดกันอยู่.
Margin Of Safety+Intrinsic Value+Mr.Market
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
นายสต็อก
Verified User
โพสต์: 777
ผู้ติดตาม: 0

คลื่นเทคโนโลยี

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมเชื่อว่า Information Technoloy ทำให้การใช้กระดาษทำธุรกรรมต่างๆ
ลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะ เรามีการใช้ อินเตอร์เน็ต และ อีเมลล์ ติดต่อ
สื่อสารกันมากขึ้น :idea:

แม้การใช้กระดาษ แบบเก่า หรือ หนังสือ แบบ Hard Copy ก็ยังเป็น
ที่นิยมแต่ก็เจอ คลื่นเทคโนโลยี ด้านสารสนเทศเข้ามาตีตลาดอย่างรุนแรง

ลองดูแค่รายงานประจำปี ของบริษัทต่างๆ ซิครับ สมัยก่อนทำเป็น
เล่มๆ หนา เป็นร้อยๆหน้า แต่เดี๋ยวนี้ บางบริษัท แค่เอาแผ่น CD-ROM
มาแจกให้กับนักลงทุนแทนแค่ 1 แผ่น!!!! :!:

ลองมองย้อนดูเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในกลุ่ม PAPER and PRINTING
ก็แทบจะไม่เคยจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นกันสักตัวเลย ถ้าจะถามว่า
ตัวไหนบ้าง ลองวิเคราะห์ดูกันเองอีกทีนะครับ :roll:
ภาพประจำตัวสมาชิก
วัวแดง
Verified User
โพสต์: 1429
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ตอนนี้เริ่มมีกำไรสะสมแล้ว หลังจากขาดทุนสะสมมานาน คาดว่าอนาคตอันใกล้นี้มีปันผลแน่นอน

กำไรก็ดูดีขึ้น แต่ราคาหุ้นดูเหมือนไม่ค่อยรับความสนใจเท่าไหร่

หรือเพราะรายย่อยถือหุ้นน้อยมาก เลยทำให้นักลงทุนบางกลุ่มไม่ค่อยอยากทำราคา

แต่ถ้ากำไรโตขึ้นจริงๆ ราคาไปไกลกว่านี้มาก เพราะจำนวนหุ้นไม่มีพอต่อความต้องการ  แต่กลับกันถ้ากำไรลดลง ราคาคงไม่ลงมากไปกว่านี้มาก เพราะจำนวนหุ้นที่น้อยมากคนที่ถือแล้วขายคงมีน้อย

ตอนที่ผมมองpdiตอนนั้นเพิ่งเริ่มมีกำไรสะสม ราคาใกล้กับพาร์ ใช้เวลานานพอควรถึงจะมีคนเห็นคุณค่าของมันจริงๆๆ แล้วตอนนี้ล่ะ :D
tanapol
Verified User
โพสต์: 919
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เพิ่งทราบเหมือนกันครับว่า กระดาษเป็นหุ้นวัฏจักรเหมือนกัน

ขอคารวะเจ้าแห่งหุ้นวัฏจักร ของ TVI ครับ  พี่หมอสามัญชน

ผมว่า หุ้นวัฏจักร ถ้าเทียบตามรอบแล้ว กำไรมากกว่า growth stock อีกนะครับ

อิจฉาพีหมอ จริงๆ

ผมคิดว่าไม่ว่าเทคโนโลยีจะเป็นอย่างไร

ยังไงหุ้นวัฏจักรก็คือหุ้นวัฏจักรครับ

มี peak and bottom

ดูอย่างหุ้นเรือ  น้ำมัน ทองแดง สังกะสี สิครับ

รอบๆ นึง  เวลา 15-20 ปี โดยเฉลี่ย เป็นอย่างนี้ประจำ

แต่ก็มีคนกำไร ขาดทุนมหาศาลจากมัน

ผมคิดว่าเพราะยังไงโลกเราก็มีความไม่พอดีอยู่ในตัวครับ

ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าขนาดไหน  ถ้าไม่มีความพอดี  ยังไงก็ต้องมีคำว่าวัฏจักร
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ผมว่าถ้าเราซื้อ AA ตอนนี้แปลว่าเราไม่ได้ซื้อมันในฐานะที่มันเป็นหุ้นวัฏจักรแต่ซื้อในฐานะที่มันเป็นหุ้นเติบโต เพราะกำไรQนี้ของ AA โตมากๆ และรอบของกระดาษยังมาไม่ถึงอย่างน้อยก็ภายใน 2-3 ปีนี้จึงยังไม่เข้าข่ายว่าซื้อหุ้นวัฏจักร
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)
                       บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน)

                                                         สอบทาน
                                                     (หน่วย : พันบาท)
                                           สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม
                                               ไตรมาสที่ 1
              ปี                            2549             2548

     กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    1,022,836         502,259
     กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)          1.92000         0.94000

 ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
     ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ซึ่งถ้ารอบของกระดาษมาถึงแล้ว เราจะพบว่าบริษัทกระดาษอื่นๆก็จะได้กำไรโตตามไปด้วย  แต่ปรากฏว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น  อย่างเช่นของ TCP
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-1)
                            บริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน)

                                                         สอบทาน
                                                     (หน่วย : พันบาท)
                                           สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม
                                               ไตรมาสที่ 1
              ปี                            2549              2548

     กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    6,715          136,404
     กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)          0.02          0.39

 ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
     ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ลองมาดูรายละเอียดการเติบโตของกำไร  AA
                       ปี 2549          ปี 2548           % ที่เปลี่ยนแปลงไป
กำไรสุทธิ                1,022,836       502,259               103.6 %
กำไรสุทธิต่อหุ้น            1.92             0.94                 104 .2%

สาเหตุที่กำไรสุทธิเปลี่ยนแปลงไปเกินกว่าร้อยละ 20 มีดังต่อไปนี้

1.  บริษัทมีรายได้จากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น  572 ล้านบาท
2. รายได้จากการขายเยื่อเพิ่มขึ้น340 ล้านบาท
3.รายได้จากการไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 68 ล้านบาท

รายได้รวม 5,962 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายทางการเงิน 1,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดไตรมาสที่ 1 ปี 2548  645  ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,023  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 521 ล้านบาท หรือ 103.6 %
ดูแล้วผมรู้สึกกลัวลึกๆว่าทำไมรายได้จากอัตราแลกเปลี่ยนถึงมีส่วนในกำไรหรือขาดทุนขนาดนี้ ถ้าเหตุการณ์เปลี่ยนไปในทางตรงกันข้ามจะเกิดอะไรขึ้น

ปล.เหมือนกับผมเคยได้ยินข่าวเรื่องความไม่โปร่งใสของผู้บริหาร แต่ผมจำรายละเอียดไม่ได้  มีท่านใดทราบรายละเอียดไหมครับ......
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 10

โพสต์

วัวแดงบอกว่า
ตอนที่ผมมองpdiตอนนั้นเพิ่งเริ่มมีกำไรสะสม ราคาใกล้กับพาร์ ใช้เวลานานพอควรถึงจะมีคนเห็นคุณค่าของมันจริงๆๆ แล้วตอนนี้ล่ะ
ตอนนั้นถึงรอบสังกะสีพอดี  ถ้าค้นดู research จะเห็นชัดเลยครับว่ารอบของสังกะสีมาถึงแล้ว  และก็เกิดปรากฏการณ์ลดคนงาน คนงานเหมืองประท้วง เหมืองเจ๊ง เหมืองปิด ทั้งที่เปรู แคนาดา

research ทุกสำนักชี้ไปในทางเดียวกันว่า supply จะไม่เพียงพอกับ demand  โดยเฉพาะ research ที่เป็นของสถาบันการศึกษา(ถ้าเราไม่เชื่อrersearhของโบรคเกอร์เพราะอาจจะมีส่วนได้เสีย)

แต่ของกระดาษยังไม่มีสัญญาณเหล่านั้นอ่ะครับ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
วัวแดง
Verified User
โพสต์: 1429
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 11

โพสต์

สามัญชน เขียน:วัวแดงบอกว่า
ตอนนั้นถึงรอบสังกะสีพอดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมก็ชอบกระดาษ AA ครับ แม้จะแพงกว่ายี่ห้ออื่นนิดหน่อยแต่คุณภาพกระดาษเหนือกว่าเยอะ

ท่านวัวแดงพอทราบรายละเอียดเรื่องกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนไหมครับว่าเขาทำอะไรอย่างไร  เพราะถ้าไม่นับรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนแปลว่าเขาได้กำไรลดลงเหลือ 450 ลบ.ซึ่งน้อยกว่าไตรมาสที่แล้วซะอีกที่ได้ 502 ลบ.

โดยปกติถ้าจะประกันความเสี่ยงจากค่าเงินเขาก็จะทำไม่มากทำแค่รับประกันความเสี่ยงจากความผันผวนเท่านั้นเองและถึงได้กำไรจากค่าเงินกำไรที่ว่าก็น่าจะอยู่ในสัดส่วนไม่ควรจะเกิน 10 %ของกำไรทั้งหมด ถ้ามากกว่านี้ผมมองว่าเป็นการเล่นเก็งกำไรในค่าเงินอ่ะครับ

แล้วของ AA เองปาไปเกิน 50% เสียอีก  ทำเหมือนกับทำงานครึ่งวันอีกครึ่งวันเข้าบ่อนคาสิโน วันนี้เล่นการพนันชนะบวกค่าแรงครึ่งวันก็รวยหน่อย วันหน้าถ้าหมดตัวจากคาสิโนจะไม่แย่หรือครับ  หักค่าแรงครึ่งวันแล้วยังติดลบขาดทุนอยู่เลย

หรือว่าเป็นกำไรทางบัญชีเท่านั้นเอง โดยที่ผู้บริหารไม่ได้เล่นเก็งกำไรค่าเงินแต่อย่างใด

แต่ข้อมุลใน56-1บอกว่า
3. ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
บริษัทมีการส่งสินค้าไปขายยังต่างประเทศกว่า 50% ของปริมาณสินค้าที่ผลิตได้ทั้งหมด ดังนั้นบริษัทจึงมีกระแสเงินตราต่างประเทศรับเข้าจำนวนมาก แม้หักกระแสเงินตราต่างประเทศที่จ่ายค่าวัตถุดิบนำเข้า ค่าดอกเบี้ยเงินกู้ต่างประเทศแล้ว บริษัทยังมีกระแสเงินตราต่างประเทศรับสุทธิ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 1 บาท จะมีผลทำให้รายได้ลดลงประมาณ 200 ล้านบาท
อ่านตรงนี้แล้วก็ยังงงๆ เพราะตอนนี้(1มค-31มีค49)ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเรื่อยๆนี่นา

ผมหาดูในงบการเงินกับ56-1ก็ไม่มีรายละเอียดเรื่องนี้เท่าที่ควร  ท่านวัวแดงพอจะทราบรายละเอียดไหมครับ  เพราะว่าถ้าเคลียร์เรืองนี้ได้ผมก็ว่าน่าสนใจนะครับเป็นการซื้อหุ้นเติบโตแบรนด์แข็งแกร่งราคาไม่แพงและมีของแถมซึ่งอาจจะเป็นหุ้นวัฏจักรในภายหน้าด้วย
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
mr.w
Verified User
โพสต์: 58
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 13

โพสต์

เศร้าจัง น้ำมันแพง  :cry:
ภาพประจำตัวสมาชิก
วัวแดง
Verified User
โพสต์: 1429
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ผมหาดูในงบการเงินกับ56-1ก็ไม่มีรายละเอียดเรื่องนี้เท่าที่ควร  ท่านวัวแดงพอจะทราบรายละเอียดไหมครับ  เพราะว่าถ้าเคลียร์เรืองนี้ได้ผมก็ว่าน่าสนใจนะครับเป็นการซื้อหุ้นเติบโตแบรนด์แข็งแกร่งราคาไม่แพงและมีของแถมซึ่งอาจจะเป็นหุ้นวัฏจักรในภายหน้าด้วย
ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ที่สังเกตุ ถ้ารายได้โตขึ้น กำไรก็โตตาม หรือว่าต้นทุนการผลิตไม่น่ากลัวเท่าไหร่(อาจขึ้นราคาขายได้)

แต่การได้กำไรหรือขาดทุนอัตราแลกเปลื่ยน ผมว่ามันเฉลี่ยๆกันไปนะครับ

หรือปล่าวไม่แน่ใจ :?:

ส่วนเรื่องแบรนด์ ผมว่าเค้าแข็งแกร่งนะครับ
รายได้ก็โตขึ้น กำไรก็ดีขึ้น แถมตอนนี้ยังไม่ใช่ขาขึ้นของเค้าด้วย(แต่ราคายังนิ่ง) อีกหน่อยจะมีข่าวดีเรื่องจ่ายปันผลในรอบหลายๆปีด้วย
แถมหุ้นที่เทรดมีน้อยมาก ถ้าคนทยอยเก็บไปเรื่อยๆ กำไรโตไปเรื่อยๆ ขายได้มากขึ้นเรื่อยๆ ราคาหุ้นจะไม่ไปเรื่อยๆ แน่นอน

แต่ไม่รู้ทำไม่พวกบ.ต่างชาติถือหุ้นเยอะจัง หรือแปลงมาจากหนี้ก็ไม่รู้
ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีคนขอซื้อออกจากตลาดหรือปล่าว แต่ราคาคงใกล้เคียงตอนipo แน่ๆๆ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
วัวแดง
Verified User
โพสต์: 1429
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ซึ่งถ้ารอบของกระดาษมาถึงแล้ว เราจะพบว่าบริษัทกระดาษอื่นๆก็จะได้กำไรโตตามไปด้วย  แต่ปรากฏว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น  อย่างเช่นของ TCP
แสดงว่า ถึงแม้ยังไม่ถึงรอบของกระดาษ AA ก็ยังทำได้ดีใช้มั้ยครับ
แล้วถ้ารอบมันมาล่ะครับ ไม่อยากคิดจริงๆมันส์แน่ๆๆ  :cheers:
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ระวังเรื่อง Transparency ด้วยนะครับ
เห็นมีคน comment ในกระทู้คุณ Jaychou ที่ปักหมุดไว้พักนึง
"Winners never quit, and quitters never win."
ภาพประจำตัวสมาชิก
วัวแดง
Verified User
โพสต์: 1429
ผู้ติดตาม: 0

ถ้าหนังสือขายดี ราคากระดาษจะดีด้วยมั้ย....

โพสต์ที่ 17

โพสต์

อืมม......
โพสต์โพสต์