สรุป PART ต่างๆของ psychology of love (12/09/2015)
-
- Verified User
- โพสต์: 195
- ผู้ติดตาม: 0
สรุป PART ต่างๆของ psychology of love (12/09/2015)
โพสต์ที่ 1
ขอแยกสรุปpart ต่างๆนะครับ
เริ่มขอสรุปเท่าที่ผมจดทันและเข้าใจ
ขอเริ่มด้วย GOOGLE ที่บรรยายโดยพี่ตู้ นายมานะครับ
ถ้าผมตกหล่นอะไรไป พี่ๆท่านอื่นสามารถเสริมได้เลยนะครับ
Google
"setting up culture can strategy"
by นายมานะ
Google อัพเดตโลโก้ใหม่หลังจากใช้อันเดิมมา2ปี โดยโลโก้ใหม่มีการออกแบบโดยใช้สัดส่วนเรขาคณิต
ต่างจากโลโก้เดิมที่มีความซับซ้อนทาง vector ค่อนข้างเยอะ เพื่ออะไร ?? มีประโยชน์อะไร ??
ในปัจจุบัน google search มีผู้ใช้ต่อวัน 3,000 กว่าล้าน user ต่อวัน
ทำให้แต่ละครั้งใช้เวลาโหลดค่อนข้างเยอะ แต่เมื่อโลโก้ใหม่มีความซับซ้อนน้อยลง
ทำให้การดาวน์โหลดเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น...(นับว่าเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมขององค์กร ขออธิบายในส่วนต่อไป)
ล่าสุด google ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาชื่อ aphabet โดยบริษัทนี้จะเป็นบริษัท holding
ของ google ทุกวันนี้ google มีมากกว่า search engine ไปแล้ว แต่เป็นลักษณะเป็น holding
เพื่อที่จะแยกธุรกิจต่างๆออกจากกัน การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้โครงสร้างองค์กรมีลักษณะเล็กลง
มีลักษณะบริษัท start up มากขึ้น (แตกต่างจาก NOKIA และข้อนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ NOKIA
ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเจ้าตลาดโทรศัพท์มือถือ ต้องล่มสลาย )
กลยุทธ์หลักของ google คือ
การจ้างคนที่เก่งที่สุด (อ้างอิงจากคำพูดของ Eric Schmidt - อดีต CEO ของ google)
คนสำคัญยังไง ??
ปัจจุบัณ AMAZON มีขนาด market cap ใหญ่กว่า walmart และ home depot ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ5ปีที่แล้ว
ใครจะคิดว่าวันนึง AMAZON จะมี mkt cap ใหญ่กว่า walmart !
ต้องการสื่อว่าทุก Product ในโลกล้วนมีช่วงที่ decline แต่ถ้าบริษัทต้องการต่อยอด s cruve
บริษัทต้องออกโปดักซ์ใหม่ ออกเซอร์วิซใหม่ขึ้นมา การต่อยอดโปรดักซ์ขึ้นมาใหม่จำเป็นต้องใช้คน!!
ในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การสร้างโปรดักซ์และคน เพื่อต่อ s cruve จึงเป็นสิ่งสำคัญ และ google
ไม่ได้ใช้เงินเป็นตัวดึงคนที่เข้ามาทำงานด้วย !!!! แต่คนเข้ามาด้วย corporate culture
culture ของgoogle คือ
-"FUN"
-WORK FOR OTHERS
-MAKE THE WORLD A BETTER PLACE
-DIFFERENT WAY TO "FINE" and "HIRE" : การให้ทุกคนในองค์กรร่วมกันหาคนที่จะมาร่วมงาน
ให้คนที่เข้าใจทุกโปรดักซ์ในการสกรีน resume' และการให้คนที่จะเป็นลูกน้องมาสัมภาษณ์คนที่จะเข้ามาบริหาร หรือ เป็นเจ้านาย !!!
Google's mission
"to organize the world's information and make it universally accessible and useful"
การสร้าง mission โดยใช้คำที่ไม่จำกัดกรอบและเปิดกว้างทางความคิด
Focus on mission
google ให้ความสำคัญกับ user มากกว่า customer หรือ shareholder
ยกตัวอย่าง google chrome เมื่อเปิดขึ้นมาจะมีหน้าต่างลัดสำหรับเปิดเว็บที่เราเข้าใช้บ่อยๆ !!
ทำไม google ต้องทำแบบนี้ เพราะการทำแบบนี้จะทำให้เราใช้ search น้องลง adds ขายได้น้อยลง!!
Don't listen to "HIPPO"
google พยายามสร้างองค์กรให้มีความต่างของระดับชั้นน้อยที่สุด(ต่างจากที่ NOKIA ทำ) โดยมีความเชื่อว่าไอเดียที่ดี
ไม่จำเป็นต้องมาจากคนที่อยู่มานาน หรือ คนที่ได้เงินเดือนมากที่สุด กล้าที่แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากผู้บริหาร
Everyone is a "founder"
ทุกคนสามารถยื่นมือ และเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ แม้จะไม่ได้อยู่ในแผนกนั้นๆ การสร้างวัฒนธรรมแบบนี้ทำให้คนที่เข้ามาแก้ไขปัญหาไม่รู้สึกว่าเหยีบเท้าใคร
บทสรุป google สร้างmission ที่ทุกคนมองเห็นตรงกัน ลดทอนอำนาจของmanager ลง เพื่อให้เกิดไอเดียใหม่ๆโดยไม่ยึดกับตำแหน่ง
ทุกๆคนสามารถเป็นผู้แก้ไขปัญหาได้ และการยึด user เป็นหลัก...
ปล.ขอสรุปคร่าวๆประมาณนี้ ถ้าผิดพลาดประการใด ขอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับพี่ )
เริ่มขอสรุปเท่าที่ผมจดทันและเข้าใจ
ขอเริ่มด้วย GOOGLE ที่บรรยายโดยพี่ตู้ นายมานะครับ
ถ้าผมตกหล่นอะไรไป พี่ๆท่านอื่นสามารถเสริมได้เลยนะครับ
"setting up culture can strategy"
by นายมานะ
Google อัพเดตโลโก้ใหม่หลังจากใช้อันเดิมมา2ปี โดยโลโก้ใหม่มีการออกแบบโดยใช้สัดส่วนเรขาคณิต
ต่างจากโลโก้เดิมที่มีความซับซ้อนทาง vector ค่อนข้างเยอะ เพื่ออะไร ?? มีประโยชน์อะไร ??
ในปัจจุบัน google search มีผู้ใช้ต่อวัน 3,000 กว่าล้าน user ต่อวัน
ทำให้แต่ละครั้งใช้เวลาโหลดค่อนข้างเยอะ แต่เมื่อโลโก้ใหม่มีความซับซ้อนน้อยลง
ทำให้การดาวน์โหลดเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น...(นับว่าเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมขององค์กร ขออธิบายในส่วนต่อไป)
ล่าสุด google ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาชื่อ aphabet โดยบริษัทนี้จะเป็นบริษัท holding
ของ google ทุกวันนี้ google มีมากกว่า search engine ไปแล้ว แต่เป็นลักษณะเป็น holding
เพื่อที่จะแยกธุรกิจต่างๆออกจากกัน การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้โครงสร้างองค์กรมีลักษณะเล็กลง
มีลักษณะบริษัท start up มากขึ้น (แตกต่างจาก NOKIA และข้อนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ NOKIA
ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเจ้าตลาดโทรศัพท์มือถือ ต้องล่มสลาย )
กลยุทธ์หลักของ google คือ
การจ้างคนที่เก่งที่สุด (อ้างอิงจากคำพูดของ Eric Schmidt - อดีต CEO ของ google)
คนสำคัญยังไง ??
ปัจจุบัณ AMAZON มีขนาด market cap ใหญ่กว่า walmart และ home depot ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ5ปีที่แล้ว
ใครจะคิดว่าวันนึง AMAZON จะมี mkt cap ใหญ่กว่า walmart !
ต้องการสื่อว่าทุก Product ในโลกล้วนมีช่วงที่ decline แต่ถ้าบริษัทต้องการต่อยอด s cruve
บริษัทต้องออกโปดักซ์ใหม่ ออกเซอร์วิซใหม่ขึ้นมา การต่อยอดโปรดักซ์ขึ้นมาใหม่จำเป็นต้องใช้คน!!
ในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การสร้างโปรดักซ์และคน เพื่อต่อ s cruve จึงเป็นสิ่งสำคัญ และ google
ไม่ได้ใช้เงินเป็นตัวดึงคนที่เข้ามาทำงานด้วย !!!! แต่คนเข้ามาด้วย corporate culture
culture ของgoogle คือ
-"FUN"
-WORK FOR OTHERS
-MAKE THE WORLD A BETTER PLACE
-DIFFERENT WAY TO "FINE" and "HIRE" : การให้ทุกคนในองค์กรร่วมกันหาคนที่จะมาร่วมงาน
ให้คนที่เข้าใจทุกโปรดักซ์ในการสกรีน resume' และการให้คนที่จะเป็นลูกน้องมาสัมภาษณ์คนที่จะเข้ามาบริหาร หรือ เป็นเจ้านาย !!!
Google's mission
"to organize the world's information and make it universally accessible and useful"
การสร้าง mission โดยใช้คำที่ไม่จำกัดกรอบและเปิดกว้างทางความคิด
Focus on mission
google ให้ความสำคัญกับ user มากกว่า customer หรือ shareholder
ยกตัวอย่าง google chrome เมื่อเปิดขึ้นมาจะมีหน้าต่างลัดสำหรับเปิดเว็บที่เราเข้าใช้บ่อยๆ !!
ทำไม google ต้องทำแบบนี้ เพราะการทำแบบนี้จะทำให้เราใช้ search น้องลง adds ขายได้น้อยลง!!
Don't listen to "HIPPO"
google พยายามสร้างองค์กรให้มีความต่างของระดับชั้นน้อยที่สุด(ต่างจากที่ NOKIA ทำ) โดยมีความเชื่อว่าไอเดียที่ดี
ไม่จำเป็นต้องมาจากคนที่อยู่มานาน หรือ คนที่ได้เงินเดือนมากที่สุด กล้าที่แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากผู้บริหาร
Everyone is a "founder"
ทุกคนสามารถยื่นมือ และเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ แม้จะไม่ได้อยู่ในแผนกนั้นๆ การสร้างวัฒนธรรมแบบนี้ทำให้คนที่เข้ามาแก้ไขปัญหาไม่รู้สึกว่าเหยีบเท้าใคร
บทสรุป google สร้างmission ที่ทุกคนมองเห็นตรงกัน ลดทอนอำนาจของmanager ลง เพื่อให้เกิดไอเดียใหม่ๆโดยไม่ยึดกับตำแหน่ง
ทุกๆคนสามารถเป็นผู้แก้ไขปัญหาได้ และการยึด user เป็นหลัก...
ปล.ขอสรุปคร่าวๆประมาณนี้ ถ้าผิดพลาดประการใด ขอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับพี่ )
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
....ความโลภจะนำนักลงทุนส่วนมาก ไปแสวงหาทางลัดเพื่อความสำเร็จในการลงทุน
แทนที่จะคาดหวังผลตอบแทนทบต้นที่เหมาะสมในระยะยาว ....
แทนที่จะคาดหวังผลตอบแทนทบต้นที่เหมาะสมในระยะยาว ....
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: สรุป PART ต่างๆของ psychology of love (12/09/2015)
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณครับ
ปูเสื่อรอชม ตอนต่อไป
ปูเสื่อรอชม ตอนต่อไป
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
-
- Verified User
- โพสต์: 315
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป PART ต่างๆของ psychology of love (12/09/2015)
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณครับ
-----------------------------------------
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ