555leky เขียน:ไม่เป็นไรครับคุณ NB เข้าใจว่าอ.หนึ่ง เตรียม login สำรองไว้แล้วครับ
VI หาดใหญ่
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1381
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1383
dr1 เขียน: หุ้นที่อธิบายไว้เยอะหน่อยก็มี
เหล็กยุ่น (MCS)
มีระเบิดเวลาหลายลูก พึ่งผบห.คนเดียว รายได้เป็นเยน รายจ่ายครึ่งนึงเป็นบาท (=50%ไม่ประกันความเสี่ยง)
อัตราแลกเปลี่ยนผันผวนมาก ถ้าเยนอ่อนขาดทุน เยนแข็งกำไร แบคล็อกสามปีโอเค ยอดขายQ1 3,200
(มีQ4 57มาแจม) ทั้วปีน่าจะสักหมื่นนึง ซื้อไว้ตอน5บาท เป็นตัวอย่างของ
"อะไรที่ดีเกินจริง อันตราย(npm30%)12บาท อะไรที่แย่เกินจริง ปลอดภัย(5%)5บาท"
เคยซื้อเมื่อหลายปีก่อน ผมว่ามีบิ๊กเนมเข้ามาผลัดกันถืออยู่เรื่อย ๆ ครับ เจ้าของทำเสียอารมณ์ตั้งแต่สมัยช่วงน้ำท่วม ขายหุ้นออกมาจำนวนมาก อ้างว่าอยากวางมืออะไรทำนองนั้น สุดท้ายงบออกมา เงิบ หลังจากนั้นหุ้นซบอยู่เป็นปี ช่วงไหนมีบิ๊กเนมห้องนี้จะคึกคักมากครับ ช่วงซบนี่เงียบยังกะป่าช้า
รากพืช วุ้นเส้น(TWS TWFP)
มีทั้งสองตัว ที่ราคานี้ทั้งสองตัว ไม่คุ้มจะอาร์บิถาจ ข้อดีของการรวมกันคือ มาร์เกตแคปใหญ่ขึ้น
จำนวนหุ้นเพิ่มสี่เท่า สภาพคล่องดีขึ้น พีอี11 ปันผลโอเค อย่าคิดมาก ถ้ากองทุนมาให้พีอี15ก็ขึ้นเอง
เสียวอย่างเดียวเรื่องภัยแล้งนี่ครับ ปีก่อนเล่นเอาโรงงานปิดไปนาน ไม่รู้ปีนี้จะเป็นไงบ้างนะครับ ตอนนี้เข้า low season ของธุรกิจแล้ว
น้ำตาลนามสกุลก็อต(KBS)
ระยะสั้นราคาน้ำตาลnewlow แต่ขายน้ำตาลขาวเยอะ ได้พรีเมี่ยม โรงไฟฟ้า
กำไรQนี้ดีเมื่อเทียบกับโรงอื่นที่ใหญ่กว่ามาก ระวังดีเกินจริง
ยิ่งน้ำมันลงต่ำนี่ ผมว่าคอมโมพลังงานทดแทนอย่างน้ำตาล คงแย่ตามไปด้วย ยังดีที่ได้รายได้จากโรงไฟฟ้าเข้ามาเติมครับ
หุ้นบ่อปลาเงียบๆ
กรุงเทพคลังสินค้า(K?B?WC?ผิดช่วยแก้ด้วยนะฮะ)
ที่ริมน้ำเจ้าพระยา33ไร่ น่าจะราวสามพันล้าน (พี่วรรณบอกขึ้นเรือบินผ่าน มองลงมาสวยเชียว)
มาร์เกตแคปไม่ถึงพันล้าน(ถ้าเสี่ยจ.(คนละจ.นะจ๊ะ)อยากได้ จะทำไงเอ่ย?)
ตู้เย็น(KYE)
กำไรโตสี่พันเป็นเจ็ดพัน เงินสดสามพัน ถือมิตซู10% โอกาสขาดทุนแทบไม่มี ราคาขึ้นมา10%แล้ว
ประกันมาเร็วเคลมเร็ว ถูกผิดจ่ายหมด(SMK)
พีอีต่ำแต่แข่งกันมาก มาร์เกตแชร์ค่อยๆเพิ่ม กำไรเพิ่ม20-30%ติดกันห้าปี พีอีต่ำ สภาพคล่องน้อย
เคยเล่น140ไป300 480ไป600+
เผลอแป๊บเดียวเพิ่งเห็นว่าไป 600 แล้ว หุ้นดูไม่ถูกไม่แพงอยู่ตลอด แต่งบออกมากลับดีขึ้นเรื่อย ๆ หุ้นเลยขยับขึ้นแบบไม่ถูกไม่แพงไปเรื่อย ๆ
หุ้นมืออาชีพเรื่องบ้าน(HMPRO)
ราคาลงกว่าปกติ20% ที่ราว6-7 มีMOSมากกว่า11พอสมควร diluteหุ้นปันผล6.6%
หุ้นอะมีบ้า(amebaแตกตัวเรื่อยๆ ไม่ได้แปลว่าถ้าไม่มีไว้จะเป็นบ้า) หุ้นเพิ่มทุกปี ราคาเท่าเดิม ขายก็ได้กำไรแล้ว
รอสาขาที่มาเลย์กำไร อ.ดร.น.พูดคล้ายๆกำลังรอซื้อกลับ
อันนี้ก็เพิ่งเห็นเหมือนกันครับว่าเหลือ 6 บาทกว่า อืมมมม
หุ้นสิ่งพิมพ์พิเศษ(TKS)
ลูกเริ่มฟื้น ญี่ปุ่น?ที่มาร่วมทุนน่าจะรักจริง ซื้อจนติดรายชื่อแล้ว หุ้นยังไม่ไป ช่วยมางัดด้วย(ฮา..)
ธุรกิจไปได้เรื่อย ๆ ครับ รอลุ้นว่าจะมีงานใหญ่ปลายปีตามที่คุยไว้หรือเปล่า กับการฟื้นของ SYNEX
"Become a risk taker, not a risk maker"
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1384
อินดี้มาก ๆ ครับ เซต วันนี้
เคแบงค์ บวกมาสี่ ดูดี มีคนอุ้ม
เคแบงค์ บวกมาสี่ ดูดี มีคนอุ้ม
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1386
คนทั่วไปเห็นตลาดรายงานยอดรายย่อยซื้อสุทธิ หลงนึกว่าเม่าซื้อ ที่ไหนได้เซียนต่างหากที่ซื้อ (ตลาดเค้าก็รายงานเป็นรายย่อยซื้อเหมือนๆกัน)
ดูง่ายๆ ถ้าเป็นเม่าซื้อจะซื้อแล้วลง แต่ถ้าเป็นเซียนซื้อจะซื้อแล้วขึ้นครับ
ดูง่ายๆ ถ้าเป็นเม่าซื้อจะซื้อแล้วลง แต่ถ้าเป็นเซียนซื้อจะซื้อแล้วขึ้นครับ

กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1387
สงสัยจะได้ผลครับNevercry.boy เขียน:
ที่เหลือก็ไสยศาสตร์ล้วน ๆ
โอม จงเด้ง จงเด้ง แมงเม่าทั้งหลายเอ๋ยจงระดมเงินเข้ากองไฟ ณ บัดนี้
วันนั้นเล่นเอาผมรีบระดมเงินไป "เล่นท่ายาก" แบบที่ไม่ค่อยได้ทำ
ขอปักหมุดไว้ก่อนครับ สิ้นปีจะมาเฉลย ว่ามันคืออะไรและได้ผลยังไง
"Become a risk taker, not a risk maker"
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1388
เร่งทำการศึกเถิดท่านแม่ทัพleky เขียน:สงสัยจะได้ผลครับNevercry.boy เขียน:
ที่เหลือก็ไสยศาสตร์ล้วน ๆ
โอม จงเด้ง จงเด้ง แมงเม่าทั้งหลายเอ๋ยจงระดมเงินเข้ากองไฟ ณ บัดนี้
วันนั้นเล่นเอาผมรีบระดมเงินไป "เล่นท่ายาก" แบบที่ไม่ค่อยได้ทำ
ขอปักหมุดไว้ก่อนครับ สิ้นปีจะมาเฉลย ว่ามันคืออะไรและได้ผลยังไง
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1390
มิกล้าท่านพี่ดำดำ เขียน:SET วิ่งฉลุยสวนข่าวร้ายและความวิตกกังวลที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งยุทธจักร
งานนี้ท่าน N.b มีหวังเจอขูดเลข + คล้องผ้าเจ็ดสีเป็นแน่แท้
ผมเตรียมแป้งกับดอกไม้ ธูป เทียน พร้อมแล้วนะฮับ
อันตัวข้าพเจ้า ขาดทุนอยู่ x ล้าน ดังที่เห็นในหน้าที่แล้ว
ผู้น้องมิกล้าท่านพี่ ว่าแต่ว่า
หุ้นร่วมสาบานของเราเป็นไงบ้างท่านพี่
ดูดีมีงานนะท่านพี่
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1391
หมายถึงหุ้นร่วมสา "บลานด์" เหรอฮับ เราทำทุกอย่างที่ควรทำตามหน้าที่เสร็จแล้ว ที่เหลือแล้วแต่ชะตาฟ้าฮับNevercry.boy เขียน:ผู้น้องมิกล้าท่านพี่ ว่าแต่ว่า
หุ้นร่วมสาบานของเราเป็นไงบ้างท่านพี่
ดูดีมีงานนะท่านพี่

กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1392
ท่านพี่ว่าเช่นนั้น ผู้น้องก็ว่าตามดำ เขียน:หมายถึงหุ้นร่วมสา "บลานด์" เหรอฮับ เราทำทุกอย่างที่ควรทำตามหน้าที่เสร็จแล้ว ที่เหลือแล้วแต่ชะตาฟ้าฮับNevercry.boy เขียน:ผู้น้องมิกล้าท่านพี่ ว่าแต่ว่า
หุ้นร่วมสาบานของเราเป็นไงบ้างท่านพี่
ดูดีมีงานนะท่านพี่

เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1393
ผมว่าหุ้นที่ลงมันดูเหมือนลงบางตัวบางกลุ่ม อย่างหุ้นแบงค์ที่เจอข่าวร้ายเข้าไป หุ้นเก็งกำไร ที่ทำให้คนเล่น ต้องออกอาการ "เกร็ง"
แต่บางตัวที่ราคาถ้าอิงจาก PE ไม่ได้สูงมาก ดูเหมือนจะยังตั้งหลักอยู่ได้ ไม่ลงมามาก ลงแล้วก็ยังยืน ๆ ได้อยู่
คือถ้าหุ้นบลูชิพไม่โดนทุบแรง ๆ แบบช่วงที่หุ้นแบงค์โดน ตลาดก็เหมือนทรง ๆ ซึม ๆ ไปได้เรื่อย ๆ
แต่ผมยังไม่ซึมนะครับ ยัง active อยู่ ในวิกฤติถึงจะมีเสียหายที่ปลาหล่นไปบ้าง แต่อีกมุมก็ดีใจว่าหุ้นที่มอง ๆ อยู่ มันก็ลงมาเหมือนกัน
ผมเองก็ยังเชื่อว่า ถ้าไม่ซื้อหุ้นแพงจนน่าเกลียด หุ้นมี story ของผลการดำเนินงานที่จะดีขึ้น ระยะยาวเราก็น่าจะได้ผลตอบแทนที่ดี
แต่บางตัวที่ราคาถ้าอิงจาก PE ไม่ได้สูงมาก ดูเหมือนจะยังตั้งหลักอยู่ได้ ไม่ลงมามาก ลงแล้วก็ยังยืน ๆ ได้อยู่
คือถ้าหุ้นบลูชิพไม่โดนทุบแรง ๆ แบบช่วงที่หุ้นแบงค์โดน ตลาดก็เหมือนทรง ๆ ซึม ๆ ไปได้เรื่อย ๆ
แต่ผมยังไม่ซึมนะครับ ยัง active อยู่ ในวิกฤติถึงจะมีเสียหายที่ปลาหล่นไปบ้าง แต่อีกมุมก็ดีใจว่าหุ้นที่มอง ๆ อยู่ มันก็ลงมาเหมือนกัน
ผมเองก็ยังเชื่อว่า ถ้าไม่ซื้อหุ้นแพงจนน่าเกลียด หุ้นมี story ของผลการดำเนินงานที่จะดีขึ้น ระยะยาวเราก็น่าจะได้ผลตอบแทนที่ดี
"Become a risk taker, not a risk maker"
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1394
ขอคุยเรื่องภาพตลาดหุ้นไทยในระยะยาวนะครับ หลายคนมองว่าปัจจุบันอยู่ในภาวะใกล้ฟองสบู่ โดยดูจากกระแสความสนใจการลงทุนในหุ้น อันดับหนังสือขายดีในร้านหนังสือเต็มไปด้วยหนังสือหุ้น วัยรุ่นที่จบการศึกษาใหม่ๆ (รวมทั้งนิสิตนักศึกษาระดับมหาลัย) จำนวนมากที่สนใจเรื่องหุ้น แม้แต่พ่อค้าแม่ขายก็สนใจเรื่องหุ้น เลยโยงกันไปว่าแบบนี้แปลว่าฟองสบู่ใกล้แตกเป็นแน่แท้
ส่วนตัวผมขอลองมองต่างมุมดูนะครับ เป็นไปได้มั้ยว่า ความสนใจในหุ้นโดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ Gen Y มันอาจไม่ใช่เป็นแค่กระแสซึ่งก็จะจบไปเป็นรอบๆ ตามวงจรขาขึ้นของตลาดหุ้น แต่มันอาจเป็น Mega Trend ซึ่งยาวนานไปอีกเป็นสิบๆ ปี ลองดูข่าวนี้ครับ
"ที่หนึ่งของประเทศปีนี้ เลือกสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" https://www.facebook.com/SustainW/posts ... 6786586673
บางทีค่านิยมของคนรุ่นใหม่ Gen Y นี้มันต่างกับคนรุ่น Gen X ไปแล้ว มุมมองต่อความเสี่ยง ความสนใจในการลงทุน การออม ก็อาจต่างกันสิ้นเชิงเช่นกัน ในคนรุ่นก่อน-รุ่นปัจจุบัน ส่วนใหญ่มองหุ้นว่าเป็นเรื่องเสี่ยง แล้วถ้าคนรุ่นใหม่เค้าไม่ได้มองแบบนั้นล่ะ?
อีกประการหนึ่ง แม้ว่าจะดูเหมือนกับว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนนักลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย แต่ลองมองในภาพใหญ่ เทียบสัดส่วนนักลงทุนต่อประชากรที่มีรายได้ของไทยเรากับประเทศอื่นๆ ที่มีตลาดหุ้นดูนะครับ ผมมองว่าถ้าเกิดมันเป็น Mega Trend จริงๆ ตลาดหุ้นไทยยังขยายตัวได้อีกเยอะเลย และอย่าลืมว่าภายในไม่ถึง 2 ปีข้างหน้า พรบ.คุ้มครองเงินฝากจะใช้เต็มรูปแบบแล้วด้วย (รัฐบาลประกันให้แค่ล้านเดียว)
หรือถ้าจะว่ากันด้านพื้นฐานของประเทศ สมมติว่าเรื่องการเมืองเดินหน้าได้ตามแผนการของรัฐบาลโดยไม่เกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศไทยเรากำลังเข้าสู่ช่วงลงทุนครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ มิหนำซ้ำ ยังเกิดในช่วงเวลาเดียวกับการเปิด AEC ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบก็กำลังขยายการลงทุนเช่นกัน ซึ่งถ้าทุกอย่างเดินหน้าไปได้ (มองบวก) อนาคตต่อจากนี้ไปเป็นสิบปี มันน่าจะเป็นช่วง Take Off ของทั้งประเทศไทยและภูมิภาคเลยรึเปล่าครับ
ส่วนตัวผมขอลองมองต่างมุมดูนะครับ เป็นไปได้มั้ยว่า ความสนใจในหุ้นโดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ Gen Y มันอาจไม่ใช่เป็นแค่กระแสซึ่งก็จะจบไปเป็นรอบๆ ตามวงจรขาขึ้นของตลาดหุ้น แต่มันอาจเป็น Mega Trend ซึ่งยาวนานไปอีกเป็นสิบๆ ปี ลองดูข่าวนี้ครับ
"ที่หนึ่งของประเทศปีนี้ เลือกสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" https://www.facebook.com/SustainW/posts ... 6786586673
บางทีค่านิยมของคนรุ่นใหม่ Gen Y นี้มันต่างกับคนรุ่น Gen X ไปแล้ว มุมมองต่อความเสี่ยง ความสนใจในการลงทุน การออม ก็อาจต่างกันสิ้นเชิงเช่นกัน ในคนรุ่นก่อน-รุ่นปัจจุบัน ส่วนใหญ่มองหุ้นว่าเป็นเรื่องเสี่ยง แล้วถ้าคนรุ่นใหม่เค้าไม่ได้มองแบบนั้นล่ะ?
อีกประการหนึ่ง แม้ว่าจะดูเหมือนกับว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนนักลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย แต่ลองมองในภาพใหญ่ เทียบสัดส่วนนักลงทุนต่อประชากรที่มีรายได้ของไทยเรากับประเทศอื่นๆ ที่มีตลาดหุ้นดูนะครับ ผมมองว่าถ้าเกิดมันเป็น Mega Trend จริงๆ ตลาดหุ้นไทยยังขยายตัวได้อีกเยอะเลย และอย่าลืมว่าภายในไม่ถึง 2 ปีข้างหน้า พรบ.คุ้มครองเงินฝากจะใช้เต็มรูปแบบแล้วด้วย (รัฐบาลประกันให้แค่ล้านเดียว)
หรือถ้าจะว่ากันด้านพื้นฐานของประเทศ สมมติว่าเรื่องการเมืองเดินหน้าได้ตามแผนการของรัฐบาลโดยไม่เกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศไทยเรากำลังเข้าสู่ช่วงลงทุนครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ มิหนำซ้ำ ยังเกิดในช่วงเวลาเดียวกับการเปิด AEC ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบก็กำลังขยายการลงทุนเช่นกัน ซึ่งถ้าทุกอย่างเดินหน้าไปได้ (มองบวก) อนาคตต่อจากนี้ไปเป็นสิบปี มันน่าจะเป็นช่วง Take Off ของทั้งประเทศไทยและภูมิภาคเลยรึเปล่าครับ
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1395
ประเด็นเรื่องที่หนึ่งเรียนนิเทศน์นี่ ผมว่าตั้งแต่สมัยผมคณะนี่ก็เป็นอันดับต้น ๆ ของสายศิลป์อยู่แล้วนะครับ อันนี้คือ 20 ปีก่อนนะครับ เพียงแต่อันดับหนึ่งมักจะไปทางอักษรศาสตร์ มีนิเทศน์หลุดมาบ้าง
เพียงแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือค่านิยมต่างหากครับ ที่คนที่มักจะเข้าแพทย์หรือวิศวะ อาจจะเบนไปเรียนอย่างอื่นมากขึ้น เพราะเค้าอาจจะคิดว่ามันมีโอกาสมากกว่า บางทีการเข้าไปเรียนในที่ ๆ คนเก่งมาก ๆ ถึงแม้เด็กคนนั้นจะเก่ง เค้าก็อาจจะกลายเป็นแค่ระดับกลาง ๆ ไป เดี๋ยวนี้ถ้าใครอยากดัง แค่อัพคลิปลง youtube คุณก็มีโอกาสแล้วครับ คนรุ่นใหม่เค้าเลยเห็นแต่เรื่องแบบนี้ แนวคิดเค้าก็เลยเปลี่ยนจากสมัยก่อน ประมาณตรูอยากทำอะไรก็ทำ ทุกช่องทางล้วนมีโอกาส คุณอยากทำเพลง คุณไม่มีค่าย คุณมี youtube คุณก็ทำได้ ฟลุ๊ค ๆ ค่ายเพลงมาเห็นก็ดังได้
เรื่องตลาดหุ้น คุณสุมาอี้เคยเขียนเรื่องตลาดหุ้น GEN-Y ไว้ ซึ่งให้แนวคิดที่น่าสนใจครับ ประมาณว่าเดี๋ยวนี้ หุ้นลงไม่นานมันก็กลับขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คล้าย ๆ กับแนวคิดของคน GEN-Y ที่ชอบอะไรง่าย ๆ โอกาส ฯลฯ
ผมมองอีกมุมนึงครับ เพราะเคยอยู่ในตลาดตั้งแต่ก่อนปี 40
เดี๋ยวนี้ตลาดซบมักจะซบไม่นาน เมื่อก่อนมันจะมีลักษณะตลาดดิ่งแรง ๆ ดิ่งเสร็จก็นิ่งนาน ๆ แบบไม่มีวอลุม ซึ่งจริง ๆ ปรากฎการณ์แบบนี้มันมีตั้งแต่ก่อนวิกฤติ 40 แต่เดี๋ยวนี้ผมรู้สึกว่าเวลาตลาดลงมันจะไม่นานแบบนั้น ไม่ว่าจะเรื่องน้ำท่วม การเมืองปี 53 ตลาดจะลงไปในระดับหนึ่ง ซักพักก็จะขึ้น
สิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันไม่เหมือนเมื่อก่อนคือ แรงขายต่างชาติทำอะไรตลาดได้ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน ยกเว้นตอนปี 51 ที่เค้าขายหนีตายจริง ๆ ถ้าเป็นสมัยก่อน ต่างชาติเข้าออก ตลาดขึ้นแรงลงแรง เดี๋ยวนี้ต่างชาติ ทิ้งหนัก ๆ ติดต่อกัน ตลาดลงแต่ไม่ลงหนัก ๆ มีแรงรับตลอด ซึ่งส่วนหนึ่งผมคิดว่าเกิดจากกำลังซื้อของสถาบันไทยที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาดของตลาด LTF ที่มากขึ้น พอร์ตประกัน ฯลฯ รวมถึงรายย่อยก็มากขึ้น ทั้งรายย่อยที่มีความรู้และเม่า สิ่งเหล่านี้เลยต้านแรงต่างชาติได้ ซึ่งต่างกับเมื่อก่อน
อีกเรื่องหนึ่ง อันนี้ผมคิดเอง ไม่มีตัวเลขที่จะยืนยันว่าจริงหรือไม่ ผมคิดว่า นลท.มันเพิ่มขึ้นมากกว่าจำนวนหุ้นในตลาด คนซื้อมากกว่าของที่ขาย มันก็เลยทำให้ของมันไม่ค่อยจะยอมถูกแบบมาก ๆ ลองถ้าตลาดไทยมีหุ้นในระดับหลายพันตัว ผมว่ามันก็ไม่น่าจะทำให้ตลาดสูงแบบนี้ครับ
ทีนี้พอคน GEN-Y ที่ชอบอะไรง่าย ๆ และชอบหาโอกาส บวกกับหนังสือที่สร้างความหวังที่มีมากมาย ที่ส่วนหนึ่งก็เหมือนปลูกฝังแนวคิดแบบนี้ ว่าคุณมีโอกาสรวยนะ และทางรวยทางหนึ่งก็คือตลาดหุ้นนั่นเอง
เพียงแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือค่านิยมต่างหากครับ ที่คนที่มักจะเข้าแพทย์หรือวิศวะ อาจจะเบนไปเรียนอย่างอื่นมากขึ้น เพราะเค้าอาจจะคิดว่ามันมีโอกาสมากกว่า บางทีการเข้าไปเรียนในที่ ๆ คนเก่งมาก ๆ ถึงแม้เด็กคนนั้นจะเก่ง เค้าก็อาจจะกลายเป็นแค่ระดับกลาง ๆ ไป เดี๋ยวนี้ถ้าใครอยากดัง แค่อัพคลิปลง youtube คุณก็มีโอกาสแล้วครับ คนรุ่นใหม่เค้าเลยเห็นแต่เรื่องแบบนี้ แนวคิดเค้าก็เลยเปลี่ยนจากสมัยก่อน ประมาณตรูอยากทำอะไรก็ทำ ทุกช่องทางล้วนมีโอกาส คุณอยากทำเพลง คุณไม่มีค่าย คุณมี youtube คุณก็ทำได้ ฟลุ๊ค ๆ ค่ายเพลงมาเห็นก็ดังได้
เรื่องตลาดหุ้น คุณสุมาอี้เคยเขียนเรื่องตลาดหุ้น GEN-Y ไว้ ซึ่งให้แนวคิดที่น่าสนใจครับ ประมาณว่าเดี๋ยวนี้ หุ้นลงไม่นานมันก็กลับขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คล้าย ๆ กับแนวคิดของคน GEN-Y ที่ชอบอะไรง่าย ๆ โอกาส ฯลฯ
ผมมองอีกมุมนึงครับ เพราะเคยอยู่ในตลาดตั้งแต่ก่อนปี 40
เดี๋ยวนี้ตลาดซบมักจะซบไม่นาน เมื่อก่อนมันจะมีลักษณะตลาดดิ่งแรง ๆ ดิ่งเสร็จก็นิ่งนาน ๆ แบบไม่มีวอลุม ซึ่งจริง ๆ ปรากฎการณ์แบบนี้มันมีตั้งแต่ก่อนวิกฤติ 40 แต่เดี๋ยวนี้ผมรู้สึกว่าเวลาตลาดลงมันจะไม่นานแบบนั้น ไม่ว่าจะเรื่องน้ำท่วม การเมืองปี 53 ตลาดจะลงไปในระดับหนึ่ง ซักพักก็จะขึ้น
สิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันไม่เหมือนเมื่อก่อนคือ แรงขายต่างชาติทำอะไรตลาดได้ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน ยกเว้นตอนปี 51 ที่เค้าขายหนีตายจริง ๆ ถ้าเป็นสมัยก่อน ต่างชาติเข้าออก ตลาดขึ้นแรงลงแรง เดี๋ยวนี้ต่างชาติ ทิ้งหนัก ๆ ติดต่อกัน ตลาดลงแต่ไม่ลงหนัก ๆ มีแรงรับตลอด ซึ่งส่วนหนึ่งผมคิดว่าเกิดจากกำลังซื้อของสถาบันไทยที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาดของตลาด LTF ที่มากขึ้น พอร์ตประกัน ฯลฯ รวมถึงรายย่อยก็มากขึ้น ทั้งรายย่อยที่มีความรู้และเม่า สิ่งเหล่านี้เลยต้านแรงต่างชาติได้ ซึ่งต่างกับเมื่อก่อน
อีกเรื่องหนึ่ง อันนี้ผมคิดเอง ไม่มีตัวเลขที่จะยืนยันว่าจริงหรือไม่ ผมคิดว่า นลท.มันเพิ่มขึ้นมากกว่าจำนวนหุ้นในตลาด คนซื้อมากกว่าของที่ขาย มันก็เลยทำให้ของมันไม่ค่อยจะยอมถูกแบบมาก ๆ ลองถ้าตลาดไทยมีหุ้นในระดับหลายพันตัว ผมว่ามันก็ไม่น่าจะทำให้ตลาดสูงแบบนี้ครับ
ทีนี้พอคน GEN-Y ที่ชอบอะไรง่าย ๆ และชอบหาโอกาส บวกกับหนังสือที่สร้างความหวังที่มีมากมาย ที่ส่วนหนึ่งก็เหมือนปลูกฝังแนวคิดแบบนี้ ว่าคุณมีโอกาสรวยนะ และทางรวยทางหนึ่งก็คือตลาดหุ้นนั่นเอง
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1396
แต่ใจจริงผมกลับมองว่าดีนะครับ ที่คนเก่ง ๆ ไปเรียนด้านอื่นบ้าง
ลองดูประวัติศาสตร์ในประเทศไทยนี่ ก็เห็น ๆ นะครับ ว่าไม่เคยมีหมอหรืออาจจะรวมถึงวิศวกรด้วยมั๊งครับ ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ผมว่าสาขายอดฮิตในอดีต โอกาสที่จะไปถึงตำแหน่งใหญ่ ๆ แบบนั้น ค่อนข้างยากครับ
ลองดูประวัติศาสตร์ในประเทศไทยนี่ ก็เห็น ๆ นะครับ ว่าไม่เคยมีหมอหรืออาจจะรวมถึงวิศวกรด้วยมั๊งครับ ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ผมว่าสาขายอดฮิตในอดีต โอกาสที่จะไปถึงตำแหน่งใหญ่ ๆ แบบนั้น ค่อนข้างยากครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
- romee
- Verified User
- โพสต์: 1850
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1397
ขอเถียงฮะคุณดำ เรื่องหนังสือ top10 ตอนนี้เป็นเรื่องปลูกมะนาวนะฮาฟฟฟ หนังสือหุ้นไม่มีเลยค๊าบ
Linkอ้างอิง
ปล.ใครคุ้นเพลงนี้ แสดงว่าเราวัยรุ่นเดียวกันฮ่ะ
ปล.สอง ท้ายสุดคนขายกล้าพันธุ์ มะนาว...รวยสุด
Linkอ้างอิง
ปล.ใครคุ้นเพลงนี้ แสดงว่าเราวัยรุ่นเดียวกันฮ่ะ

ปล.สอง ท้ายสุดคนขายกล้าพันธุ์ มะนาว...รวยสุด
You only live once, but if you do it right, once is enough.
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1398
ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมคนสนใจมะนาวกันมากขนาดนี้ หรือเป็นกลยุทธ์ของร้านหนังสือ อีกอย่างคนเขียนนี่เสี่ยงนะครับ ถ้าคนอ่านมากแล้วทำได้จริง มะนาวล้นตลาดแน่ มันไม่เหมือนหนังสือหุ้นครับ
สมัยก่อนปี 40 ไม่มีเทรดหุ้นทางเน็ต เดินเข้าไปห้องค้านี่ ลูกค้าส่วนใหญ่จะอายุเกิน 40 ปี แต่ที่ซื้อขายทางโทรศัพท์อันนี้ไม่รู้ แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นคนอายุน้อย ๆ แต่เอาเป็นว่าสมัยนั้น ผมจะดูเป็นตัวประหลาดเพราะเดินเข้าไปห้องค้าตอนอายุ 20 กว่า ๆ
แต่เดี๋ยวนี้มันคงจะกลับกันแล้ว อายุคนเล่นหุ้นน่าจะต่ำลงมาก และคนพวกนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะแค่กำเงินแล้วเค้าไปเทรดแบบเมื่อก่อน ส่วนนึงเค้าก็หาความรู้อยู่บ้าง จะได้ผลหรือไม่ได้ผลก็อีกเรื่องหนึ่ง
สมัยก่อนปี 40 ไม่มีเทรดหุ้นทางเน็ต เดินเข้าไปห้องค้านี่ ลูกค้าส่วนใหญ่จะอายุเกิน 40 ปี แต่ที่ซื้อขายทางโทรศัพท์อันนี้ไม่รู้ แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นคนอายุน้อย ๆ แต่เอาเป็นว่าสมัยนั้น ผมจะดูเป็นตัวประหลาดเพราะเดินเข้าไปห้องค้าตอนอายุ 20 กว่า ๆ
แต่เดี๋ยวนี้มันคงจะกลับกันแล้ว อายุคนเล่นหุ้นน่าจะต่ำลงมาก และคนพวกนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะแค่กำเงินแล้วเค้าไปเทรดแบบเมื่อก่อน ส่วนนึงเค้าก็หาความรู้อยู่บ้าง จะได้ผลหรือไม่ได้ผลก็อีกเรื่องหนึ่ง
"Become a risk taker, not a risk maker"
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1401
ตัวอย่างเพื่อให้เห็นว่า แม้ทุกวันนี้จะมีคนสนใจกราฟเป็นจำนวนมาก http://m.pantip.com/topic/33752800 แต่สังเกตได้ว่า มันเหมือนเป็นแนวทางที่ไม่มีบทสรุป ไม่มีหลักการ ไม่มีทิศทางชัดเจน เหมือนที่ว่า "ภาพหนึ่งภาพแทนคำพันคำ" สุดแล้วแต่คนจะตีความกันไป
แนวทางวีไอแทบจะไม่มีโอกาสเจอเรื่องแบบนี้ได้เลย เพราะมีหลักการที่เป็นหัวใจ เป็นแก่น เป็นทิศทางชัดเจนกว่ากันมาก
คงต้องขอบอกว่า แม้ "จินตนาการจะสำคัญกว่าความรู้" แต่จินตนาการที่ไม่มีความรู้รองรับ มันก็อาจนำไปสู่หายนะเช่นกันครับ
แนวทางวีไอแทบจะไม่มีโอกาสเจอเรื่องแบบนี้ได้เลย เพราะมีหลักการที่เป็นหัวใจ เป็นแก่น เป็นทิศทางชัดเจนกว่ากันมาก
คงต้องขอบอกว่า แม้ "จินตนาการจะสำคัญกว่าความรู้" แต่จินตนาการที่ไม่มีความรู้รองรับ มันก็อาจนำไปสู่หายนะเช่นกันครับ
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1402
วิชาในตำนาน ทั้งนั้นเลยศิษย์พี่ดำ เขียน:ไหนๆ แล้ว ตามด้วยการนับคลื่นกับส่วนสัดทองคำด้วยเลยนะครับNevercry.boy เขียน:เดี๋ยวผมจะสอนนะครับ
เราต้องเข้าใจให้ครบทุกเส้นก่อน
เอิ่ม
ผู้น้องเลื่อมใส เลื่อมใส
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1403
วิชาในตำนาน ทั้งนั้นเลยศิษย์พี่ดำ เขียน:ไหนๆ แล้ว ตามด้วยการนับคลื่นกับส่วนสัดทองคำด้วยเลยนะครับNevercry.boy เขียน:เดี๋ยวผมจะสอนนะครับ
เราต้องเข้าใจให้ครบทุกเส้นก่อน
เอิ่ม
ผู้น้องเลื่อมใส เลื่อมใส
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1405
นี่ครับ อ.leky
ที่ผมมองว่ายุคสมัยนี้ ความคิดอ่านของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป เพราะน้องที่ได้คะแนนอันดับ1 ของประเทศ เรียนสายวิทย์ แต่เข้านิเทศศาสตร์ นอกจากนี้เค้ายังมุ่งมั่นจนผู้ปกครองก็ยอมรับด้วย
http://www.bangkokbiznews.com/mobile/view/news/650560
ที่ผมมองว่ายุคสมัยนี้ ความคิดอ่านของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป เพราะน้องที่ได้คะแนนอันดับ1 ของประเทศ เรียนสายวิทย์ แต่เข้านิเทศศาสตร์ นอกจากนี้เค้ายังมุ่งมั่นจนผู้ปกครองก็ยอมรับด้วย
http://www.bangkokbiznews.com/mobile/view/news/650560
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1406
ตอนแรกนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าหุ้นอะไร หลงคิดว่าเป็นหุ้นประกัน แต่ตอนนี้เดาออกแล้วดำ เขียน:หมายถึงหุ้นร่วมสา "บลานด์" เหรอฮับ เราทำทุกอย่างที่ควรทำตามหน้าที่เสร็จแล้ว ที่เหลือแล้วแต่ชะตาฟ้าฮับNevercry.boy เขียน:ผู้น้องมิกล้าท่านพี่ ว่าแต่ว่า
หุ้นร่วมสาบานของเราเป็นไงบ้างท่านพี่
ดูดีมีงานนะท่านพี่
ผมว่าห้องนี้นี่ ใครรู้จักหุ้นน้อย อาจจะอยู่ยากครับ

"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1407
แต่ก่อน ซึ่งอาจจะรวมถึงเดี๋ยวนี้ (แต่คงน้อยกว่าเมื่อก่อน) เด็ก ๆ จบม.ปลาย ไม่รู้จักอะไรมากมายครับ เค้าจะยึดติดว่าต้องสอบเข้าคณะที่มันทำให้เห็นภาพของอาชีพที่ค่อนข้างชัด แพทย์ วิศวกร สถาปนิก เห็นชัดนี่ไม่ได้แปลว่า รู้จริงนะครับ ผมว่าเค้าอาจจะไม่ค่อยเข้าใจด้วยซ้ำว่า บางคณะจบออกมาก็ไปทำงานได้หลากหลายมากดำ เขียน:นี่ครับ อ.leky
ที่ผมมองว่ายุคสมัยนี้ ความคิดอ่านของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป เพราะน้องที่ได้คะแนนอันดับ1 ของประเทศ เรียนสายวิทย์ แต่เข้านิเทศศาสตร์ นอกจากนี้เค้ายังมุ่งมั่นจนผู้ปกครองก็ยอมรับด้วย
http://www.bangkokbiznews.com/mobile/view/news/650560
อย่างกรณีของแพทย์นี่ ถ้าถลำเข้ามาเรียนแล้ว แบบผมหรืออ.หนึ่งนี่ ถ้าไม่ชอบขึ้นมา มันไปทางอื่นได้ยากมาก คุณอาจจะต้องทนอยู่กับมันไปตลอดชีวิต เพื่อนผมบางคนจบมาไปเปิดร้านขนม รร.สอนดำน้ำก็มีมาแล้ว ในตปท.เค้าถึงกำหนดว่าจะเข้ามาเรียนได้ต้องจบป.ตรีมาก่อนด้วยซ้ำ ประมาณว่าให้เข้าใจชีวิต ให้วัยวุฒิพร้อม อย่างในกรณีของอเมริกา คนเรียนแพทย์น้อยลง จนบางสาขาต้องเอาคนที่มาจากประเทศอื่น ผมคิดว่าส่วนหนึ่งคงเพราะเรื่องการฟ้องร้องที่หนักด้วยครับ ซึ่งในประเทศไทย คงจะเป็นไปในทิศทางแบบนั้นเช่นกัน และก็เริ่มเห็นแล้วว่าคนเก่ง ๆ ไม่แห่กันมาเรียนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว คิดไปมันก็น่ากลัวเหมือนกันนะครับ เพราะผมก็คิดว่าถ้าได้คนไม่เก่งมาเรียน ส่วนหนึ่งมันก็ไปไม่รอดจริง ๆ
อีกอย่างบางทีมันเป็นเรื่องการดำรงชีวิตในอาชีพนั้น หลานผมถามว่าเรียนหมอดีไหม ผมตอบกลับไปว่า ให้ลองตั้งนาฬิกาปลุก ให้ปลุกตัวเองขึ้นมาตอนตีสองแล้วขึ้นมาทำอะไรซักอย่างครึ่งชั่วโมงแล้วนอนต่อ ต่อเนื่องซัก 3-4 วัน ถ้าทำได้โดยไม่หงุดหงิด ก็ถือว่าสอบผ่าน

หลัง ๆ ผมเลยอยากให้คนรุ่นใหม่ทำอะไรในสิ่งที่ชอบ อย่าตามกระแส ถ้าเราทำในสิ่งที่ชอบ สุดท้ายเราจะทำได้ดี แล้วเราจะประสบความสำเร็จครับ ผมว่าทุกวงการต้องมีคนเก่งครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นสาขาอาชีพยอดนิยมครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1408
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยของไทยตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนนะครับ เราไม่สามารถดูได้ว่าที่หนึ่งของประเทศเลือกเรียนอะไรระหว่างแพทย์ กับคณะอื่นๆเพราะแพทย์ใช้ระบบ7วิชาสามัญ(Entแบบเดิมในการรับเข้าเรียน) ส่วนคณะอื่นๆที่ไม่ใช่ระบบรับตรง จะใช้ระบบadmissions ในการรับเข้าเรียนเพราะฉนั้นที่หนึ่งของประเทศหรือพวกเด็กระดับโอลิมปิกอาจสอบแพทย์ติดไปแล้ว(แพทย์จะสอบก่อนและประกาศผลก่อน) ถ้ารายงานตัวเข้าเรียนแล้วจะไม่สามารถadmissionsคณะอื่นๆได้ครับ ดังนั้นเราสรุปแบบนี้ไม่ได้นะครับ
จงเตือนตนไม่ให้หลงไปกับตลาดกระทิง และ มีสติกับตลาดหมี
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1409
ไม่รู้ว่ามีใครรู้จัก ศรีนิวาสะ รามานุชัน กันหรือเปล่าครับ ผมอ่านประวัติครั้งแรกแล้วรู้สึกทึ่งมาก เคยได้ยินว่าทุกวันนี้สูตรทางคณิตศาสตร์ที่เค้าคิดขึ้นมา 3,000-4,000 สูตร หลายสูตร นักคณิตศาสตร์ในปัจจุบันก็ยังแกะไม่ออก จนมีการเอาสูตรของเค้ามาช่วยกันแกะเวลาที่มีการประชุมทางคณิตศาสตร์ครับleky เขียน: หลัง ๆ ผมเลยอยากให้คนรุ่นใหม่ทำอะไรในสิ่งที่ชอบ อย่าตามกระแส ถ้าเราทำในสิ่งที่ชอบ สุดท้ายเราจะทำได้ดี แล้วเราจะประสบความสำเร็จครับ ผมว่าทุกวงการต้องมีคนเก่งครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นสาขาอาชีพยอดนิยมครับ
https://sites.google.com/site/jiraporns ... ma-nu-chan
อันนี้เลคเชอร์ของน้องที่ได้ที่หนึ่งครับ
http://manager.co.th/Campus/ViewNews.as ... 0000064286
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI หาดใหญ่
โพสต์ที่ 1410
น้องเค้าโชคดีมากเลยครับที่ได้ทำตามความฝัน ผมจำได้ตอนเอ็นทรานส์มีเพื่อนคนนึงสอบได้คะแนนเยอะมากเพื่อนอยากเรียนวิศวะไม่อยากเรียนหมอ ทางโรงเรียนให้คนมากล่อมสามรอบทั้งผอ. ผช.วิชาการ อ.แนะแนว เพื่อให้เลือกหมอ เพื่อนผมเลือกหมอ มอ.ไปครับ (Ent ตรงเลือกมอ.อย่างเดียว) แต่ไปสัมภาษณ์อ.หมอเค้าให้ตกสัมภาษณ์บอกว่าเพื่อนผมไม่ได้อยากเป็นหมอ ผมเลยไปแซวว่าตอนสัมภาษณ์ไปบอกเค้าว่าไม่อยากเรียนหมอมาเหรอ เค้าบอกก็ตอบไปตามปกติที่คนจะเรียนหมอควรจะตอบไม่ได้ตอบอะไรที่จะบอกว่าไม่อยากเป็นเลย คุณหมอที่มาสอบสัมภาษณ์เค้ารู้เองว่าเพื่อนไม่อยากเป็นหมอ เลยรอดมาเป็นวิศวะอยู่แถวออสเตรเลีย ยุคผมนิแต่ละโรงเรียนแข่งกันว่าโรงเรียนไหนสอบหมอได้มากกว่าผู้ปกครองก็อยากให้ไปเรียนที่ได้หมอเยอะๆ ล่าสุดมีคุณครูโรงเรียนสมัยมัธยม ตอนนี้ไปเป็นผอ.แล้วคุยกันยังreference ว่ารุ่นไหนๆ รุ่นเราใครสอบได้หมอกี่คนใครบ้างแล้วนะleky เขียน:ไม่รู้ว่ามีใครรู้จัก ศรีนิวาสะ รามานุชัน กันหรือเปล่าครับ ผมอ่านประวัติครั้งแรกแล้วรู้สึกทึ่งมาก เคยได้ยินว่าทุกวันนี้สูตรทางคณิตศาสตร์ที่เค้าคิดขึ้นมา 3,000-4,000 สูตร หลายสูตร นักคณิตศาสตร์ในปัจจุบันก็ยังแกะไม่ออก จนมีการเอาสูตรของเค้ามาช่วยกันแกะเวลาที่มีการประชุมทางคณิตศาสตร์ครับleky เขียน: หลัง ๆ ผมเลยอยากให้คนรุ่นใหม่ทำอะไรในสิ่งที่ชอบ อย่าตามกระแส ถ้าเราทำในสิ่งที่ชอบ สุดท้ายเราจะทำได้ดี แล้วเราจะประสบความสำเร็จครับ ผมว่าทุกวงการต้องมีคนเก่งครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นสาขาอาชีพยอดนิยมครับ
https://sites.google.com/site/jiraporns ... ma-nu-chan
อันนี้เลคเชอร์ของน้องที่ได้ที่หนึ่งครับ
http://manager.co.th/Campus/ViewNews.as ... 0000064286
มีคนมาปรึกษาเยอะเหมือนกันว่าจะให้ลูกเรียนสายทางการแพทย์ดีมั้ย ผมจะบอกว่าให้ลูกเรียนในวิชาชีพที่ชอบ เอาไปให้สุดทางรับรองมีกินและรวยได้ทุกอาชีพ [ส่วนใหญ่พ่อกะแม่เค้าจะมองว่าอาชีพอื่นๆหางานยาก ผมมองว่าถ้าเราได้ทำงานที่รักที่ชอบ จะผลักดันให้เราเป็นเอกอุในแต่ละด้านได้ เราจะได้ทำงานอย่างมีความสุข และมีเงินได้ดังใจหมาย]
ปล.ดูลายมือแล้วไม่ควรมาเรียนหมอเลยให้ตายเถอะ!! หลบตีนอ.หมอหนึ่ง กับอ.หมอเล็กแผล็บ
low risk High return!