ขอความรู้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ครับ
โพสต์ที่ 3
กองทุน tuk tuk
หลังจากแง้มออกมาเล็กๆ รับกระแสของ Fast 7 ด้วยรูปภาพคนที่คุณก็รู้ว่าใครทั้งสองท่านมาได้สักพัก วันนี้ 500TukTuks สาขาของ 500Durians และ 500Startups ได้เปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีคุณกระทิง พูนผล และ คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ 2 ผู้คร่ำหวอดในวงการ Startups ไทยมานั่งเก้าอี้เป็นผู้จัดการกองทุน โดยเงินลงทุนที่เตรียมไว้ให้เบื้องต้น 300 ล้านบาท ให้ Startup ไทยที่สนใจและอยากปั้นให้ก้าวสู่ระดับเอเชียและระดับโลก
การแถลงข่าวในวันนี้ มีคุณ Khailee Ng ผู้บริหารกองทุน 500Startups ในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาร่วมในงานนี้ โดยกล่าวว่า 500Startups เป็นกองทุนที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นับตั้งแต่เปิดมาจนถึงทุกวันนี้มีการลงทุนไปมากกว่า 1,000 Startups ทั่วโลก โดยทาง 500Startups ไม่ได้เป็นผู้ลงทุนเพียงรายเดียว แต่จะจับมือกับ partner ในประเทศนั้นๆ มาร่วมกันลงทุนด้วย
สำหรับการมาเปิด 500TukTuks ในประเทศไทยก็เพราะเขาได้เดินทางเข้ามาที่ไทยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เขาเห็นว่าวงการ Startups ในไทยมีศักยภาพพอที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากความคิดและความสร้างสรรค์โดยคนไทย ซึ่งเขาเชื่อว่าคนไทยเก่งไม่ใช่แค่ในระดับประเทศแต่เป็นระดับภูมิภาคและระดับโลก จึงไม่รอช้าที่จะเข้ามาตั้งกองทุน ซึ่งทาง 500Startups ได้ร่วมกับนักลงทุนชั้นนำในประเทศไทยที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนด้วย ซึ่งทาง Khailee เชื่อว่ามูลค่าของบริษัท Startups ในประเทศไทยจะพุ่งสู่ขึ้นถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐได้ไม่ยาก
คุณกระทิง พูนผล และคุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ได้พูดถึงกองทุน 500TukTuks นี้ว่า จะเป็นกองทุนที่สนับสนุนเงินทุนก้อนแรกให้กับบริษัทเล็กๆ ที่มีศักยภาพให้เติบโตขึ้นได้ โดยมีเงินทุนให้รวม 10 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 300 ล้านบาท โดยจะมีการจัดสรรให้กับบริษัท Startups ประมาณ 50-60 บริษัทตลอดช่วงเวลา 3 ปีนี้ เงินที่จะลงให้กับแต่ละบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 2.25-4.5 ล้านบาท หากว่าบริษัทนั้นมีศักยภาพหลังได้รับเงินทุนไปดี ก็จะลงเพิ่มให้เป็นสองเท่าอีกด้วย
Criteria ในการเลือก Startups ที่จะได้เงินทุน ทั้งสองท่านมองเห็นว่าจะต้องเป็น Startup ที่มี Proven Business Model หรือมีแผนธุรกิจที่ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นจริงและถูกทดสอบแล้ว, ทีมงานที่ครบเครื่องทั้งความเป็น Geek และนักธุรกิจ (Business Hustler) และมีสิ่งที่จะพัฒนาซึ่งเป็น Real Innovation หรือจะไม่ก็ได้ และที่สำคัญคือ จะต้องคิดถึงการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคตั้งแต่วันเริ่มต้นเลย (think regional since day 1)
ช่วงถามตอบ
มีการเฉลยว่าทำไมถึงต้องเป็น TukTuks ไม่เป็นอย่างอื่น คุณกระทิงบอกเหตุผลว่า มันเป็นพาหนะที่รวดเร็วแบบไทยๆ ซอกแซกได้ไปจนถึงที่หมาย
ตอนนี้มีการลงทุนไปแล้ว 2 ที่ ได้แก่ HUBBA และ Blisby และยังมีคุยๆ กันอยู่อีกหลายแห่ง
ตั้งใจจะประกาศการลงทุน 2-3 แห่งในทุกๆ เดือน
ธุรกิจที่ 500TukTuks สนใจได้แก่ SaaS สิ่งที่ธุรกิจหรือ SME ต้องใช้ เช่น ระบบบัญชี กฎหมาย เป็นต้น, e-commerce, marketplace
สัดส่วนการถือหุ้นจะอยู่ไม่เกิน 10% อาจจะลดเหลือ 1% ก็เป็นได้หามีมูลค่าทางธุรกิจหลังพันล้านเหรียญฯ
ใครที่สนใจอยากจะได้รับเงินจากกองทุนนี้ ให้เตรียม pitch deck จากนั้นส่งมาที่อีเมล์ [email protected] และ [email protected] ได้เลย
ภาพข่าวโดย Suparat Mam Opasyanont
หลังจากแง้มออกมาเล็กๆ รับกระแสของ Fast 7 ด้วยรูปภาพคนที่คุณก็รู้ว่าใครทั้งสองท่านมาได้สักพัก วันนี้ 500TukTuks สาขาของ 500Durians และ 500Startups ได้เปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีคุณกระทิง พูนผล และ คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ 2 ผู้คร่ำหวอดในวงการ Startups ไทยมานั่งเก้าอี้เป็นผู้จัดการกองทุน โดยเงินลงทุนที่เตรียมไว้ให้เบื้องต้น 300 ล้านบาท ให้ Startup ไทยที่สนใจและอยากปั้นให้ก้าวสู่ระดับเอเชียและระดับโลก
การแถลงข่าวในวันนี้ มีคุณ Khailee Ng ผู้บริหารกองทุน 500Startups ในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาร่วมในงานนี้ โดยกล่าวว่า 500Startups เป็นกองทุนที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นับตั้งแต่เปิดมาจนถึงทุกวันนี้มีการลงทุนไปมากกว่า 1,000 Startups ทั่วโลก โดยทาง 500Startups ไม่ได้เป็นผู้ลงทุนเพียงรายเดียว แต่จะจับมือกับ partner ในประเทศนั้นๆ มาร่วมกันลงทุนด้วย
สำหรับการมาเปิด 500TukTuks ในประเทศไทยก็เพราะเขาได้เดินทางเข้ามาที่ไทยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เขาเห็นว่าวงการ Startups ในไทยมีศักยภาพพอที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากความคิดและความสร้างสรรค์โดยคนไทย ซึ่งเขาเชื่อว่าคนไทยเก่งไม่ใช่แค่ในระดับประเทศแต่เป็นระดับภูมิภาคและระดับโลก จึงไม่รอช้าที่จะเข้ามาตั้งกองทุน ซึ่งทาง 500Startups ได้ร่วมกับนักลงทุนชั้นนำในประเทศไทยที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนด้วย ซึ่งทาง Khailee เชื่อว่ามูลค่าของบริษัท Startups ในประเทศไทยจะพุ่งสู่ขึ้นถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐได้ไม่ยาก
คุณกระทิง พูนผล และคุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ได้พูดถึงกองทุน 500TukTuks นี้ว่า จะเป็นกองทุนที่สนับสนุนเงินทุนก้อนแรกให้กับบริษัทเล็กๆ ที่มีศักยภาพให้เติบโตขึ้นได้ โดยมีเงินทุนให้รวม 10 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 300 ล้านบาท โดยจะมีการจัดสรรให้กับบริษัท Startups ประมาณ 50-60 บริษัทตลอดช่วงเวลา 3 ปีนี้ เงินที่จะลงให้กับแต่ละบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 2.25-4.5 ล้านบาท หากว่าบริษัทนั้นมีศักยภาพหลังได้รับเงินทุนไปดี ก็จะลงเพิ่มให้เป็นสองเท่าอีกด้วย
Criteria ในการเลือก Startups ที่จะได้เงินทุน ทั้งสองท่านมองเห็นว่าจะต้องเป็น Startup ที่มี Proven Business Model หรือมีแผนธุรกิจที่ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นจริงและถูกทดสอบแล้ว, ทีมงานที่ครบเครื่องทั้งความเป็น Geek และนักธุรกิจ (Business Hustler) และมีสิ่งที่จะพัฒนาซึ่งเป็น Real Innovation หรือจะไม่ก็ได้ และที่สำคัญคือ จะต้องคิดถึงการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคตั้งแต่วันเริ่มต้นเลย (think regional since day 1)
ช่วงถามตอบ
มีการเฉลยว่าทำไมถึงต้องเป็น TukTuks ไม่เป็นอย่างอื่น คุณกระทิงบอกเหตุผลว่า มันเป็นพาหนะที่รวดเร็วแบบไทยๆ ซอกแซกได้ไปจนถึงที่หมาย
ตอนนี้มีการลงทุนไปแล้ว 2 ที่ ได้แก่ HUBBA และ Blisby และยังมีคุยๆ กันอยู่อีกหลายแห่ง
ตั้งใจจะประกาศการลงทุน 2-3 แห่งในทุกๆ เดือน
ธุรกิจที่ 500TukTuks สนใจได้แก่ SaaS สิ่งที่ธุรกิจหรือ SME ต้องใช้ เช่น ระบบบัญชี กฎหมาย เป็นต้น, e-commerce, marketplace
สัดส่วนการถือหุ้นจะอยู่ไม่เกิน 10% อาจจะลดเหลือ 1% ก็เป็นได้หามีมูลค่าทางธุรกิจหลังพันล้านเหรียญฯ
ใครที่สนใจอยากจะได้รับเงินจากกองทุนนี้ ให้เตรียม pitch deck จากนั้นส่งมาที่อีเมล์ [email protected] และ [email protected] ได้เลย
ภาพข่าวโดย Suparat Mam Opasyanont
-
- Verified User
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ครับ
โพสต์ที่ 4
"อินทัช" กับบทบาทนักลงทุน 5 เทคสตาร์ตอัพไทยไปถึงไหน
Prev1 of 1Next
คลิกภาพเพื่อขยาย
updated: 15 พ.ค. 2558 เวลา 23:00:53 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
เป็นอีกบริษัทที่จริงจังกับการเฟ้นหาบริษัทดาวรุ่งเพื่อเข้าไปลงทุนด้วย สำหรับยักษ์สื่อสารโทรคมนาคม "อินทัช" ประสาคนเงินถุงเงินถัง การแสวงหาลู่ทางการลงทุนใหม่ ๆ จึงเป็นเรื่องปกติ ซึ่งก็นับเป็นเทรนด์ของทั่วโลก ทั้งในมุมของผู้ลงทุน และผู้ประกอบการหน้าใหม่
"ธนพงษ์ ณ ระนอง" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ส่วนงานบริษัทร่วมทุน บมจ.อินทัชโฮลดิ้งส์ กล่าวว่า บริษัทขนาดใหญ่นิยมลงทุนในเทคสตาร์ตอัพ ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน เช่น คืนกำไรให้สังคม ลงทุนเพื่อซินเนอร์ยี่กับธุรกิจที่มีอยู่หรือเพื่อแสวงหากำไรในอนาคต การลงทุนในเทคสตาร์ตอัพไม่ใช่เรื่องใหม่ อินทัชมีโครงการอินเวนต์ (InVent) มาแล้ว 3 ปี เช่นกันกับในกลุ่มโอเปอเรเตอร์มีการเฟ้นหาเทคสตาร์ตอัพ ทั้งเอไอเอส, ดีแทค และทรู
"ในความเข้าใจของคนทั่วไป อาจคิดว่าบริษัทที่จะเป็นนักลงทุนหรือวีซี ต้องเป็นบริษัทใหญ่ มีรายได้มากเป็นหลักพันล้าน แต่ความเป็นจริงไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ เทคสตาร์ตอัพมีหลายระดับตั้งแต่ซีด (Seed) ที่เป็นแค่โครงร่างความคิด ไปจนถึงที่มีผลิตภัณฑ์ออกมาขายได้แล้ว ซึ่งแต่ละระดับมีความต้องการเงินทุนไม่เท่ากัน"
การที่จะเข้าไปลงทุน ควรพิจารณาว่า 1.มีผลิตภัณฑ์ หรือแนวคิดในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นไปได้ที่จะใช้ทำตลาดหรือไม่ ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ขายฝัน หรือไม่มีลูกค้ารองรับ 2.มีจุดแข็งที่จะนำมาสู้หรือเหนือคู่แข่ง หรือแตกต่าง 3.ทีมงานเข้มแข็งทั้งในแง่การสร้างผลิตภัณฑ์ การทำตลาด ต่อยอดธุรกิจ และบัญชี ซึ่งข้อนี้มักเป็นจุดอ่อนของสตาร์ตอัพไทยส่วนใหญ่ อีกสิ่งที่ต้องพิจารณา คือ ความเข้ากันได้ของผู้ลงทุน และเทคสตาร์ตอัพว่ามีวิสัยทัศน์ไปในทางเดียวกันไหม
นักลงทุนต้องเข้าใจก่อนว่าการลงทุนในเทคสตาร์ตอัพมีความเสี่ยงและโอกาสของเทคสตาร์ตอัพทั่วโลกที่จะเติบโตยั่งยืนและคืนทุนได้จะมี10%จากทั้งหมด และต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะ แนะนำแนวทางการทำตลาดให้บริษัทเหล่านั้นเพื่อส่งเสริมให้โตไปในทิศทางที่ดีด้วย
เทคสตาร์ตอัพไทยที่มีลักษณะโดดเด่นมีสองกลุ่มได้แก่1.กลุ่มผลิตเกมโมบายและ 2.กลุ่มที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ความสร้างสรรค์ หากได้รับการสนับสนุนจากเอกชน หรือภาครัฐที่ช่วยเรื่องกฎระเบียบ ภาษีต่าง ๆ จะเกิดบริษัทใหม่อีกมาก สอดคล้องนโยบายรัฐด้านเศรษฐกิจดิจิทัล
โครงการอินเวนต์ ได้ลงทุนใน 5 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท อุ๊คบี 57 ล้านบาท ถือหุ้น 27% (ทำอีบุ๊ก) 2.บริษัทเมดิเทค โซลูชั่น เป็นเงิน 5 ล้านบาท ถือหุ้น 30% (พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับคนพิการ) 3.บริษัท คอมพิวเตอร์โลจี 29 ล้านบาท ถือหุ้น 25% (วิเคราะห์บิ๊กดาต้า) 4.บริษัท อินฟินิตี้ เลเวล สตูดิโอ 15 ล้านบาท พัฒนาโมบายเกม และ 5.บริษัท ซินโนส 22.5 ล้านบาทถือหุ้น 16.67% พัฒนาโมบายเกมเช่นกัน
ความคืบหน้าของแต่ละบริษัทเริ่มจาก "อุ๊คบี" ขยายกิจการไปยังเวียดนาม, สิงคโปร์ และมาเลเซียได้แล้ว รวมถึงได้ผู้ถือหุ้นใหม่ "ทรานคอสมอส" จากญี่ปุ่น ทำให้มีเงินทุนเพิ่มอีก 5 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับบริษัท เมดิเทค โซลูชั่น เพิ่งระดมทุนจาก "แองเจิล ฟันด์ดิ้ง" ได้ 7 ล้านบาท และมีผลิตภัณฑ์ตรวจจับการกะพริบตาที่นำไปใช้จริงที่โรงพยาบาลแล้ว บริษัท คอมพิวเตอร์โลจี เพิ่งเปิดบริการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดีย Th3re ส่วนบริษัท อินฟินิตี้ เลเวล สตูดิโอ อยู่ระหว่างเตรียมปล่อยเกมใหม่ที่แคนาดา และซินโนสอยู่ระหว่างพัฒนาเกม Electrap
"ผลตอบแทนต้องรอ 5 ปี บางผลิตภัณฑ์นำมาซินเนอร์ยี่กับธุรกิจ เช่น อุ๊กบี, เกมแทร็ปสเตอร์ที่ช่วยเติมเต็มดิจิทัลคอนเทนต์"
ในปี 2558 นี้ กำลังพิจารณาอีก 4-5 บริษัทเน้นแอปพลิเคชั่นบริการ และอินเทอร์เน็ตของสิ่งของ (IoT-Internet of Things)
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
Prev1 of 1Next
คลิกภาพเพื่อขยาย
updated: 15 พ.ค. 2558 เวลา 23:00:53 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
เป็นอีกบริษัทที่จริงจังกับการเฟ้นหาบริษัทดาวรุ่งเพื่อเข้าไปลงทุนด้วย สำหรับยักษ์สื่อสารโทรคมนาคม "อินทัช" ประสาคนเงินถุงเงินถัง การแสวงหาลู่ทางการลงทุนใหม่ ๆ จึงเป็นเรื่องปกติ ซึ่งก็นับเป็นเทรนด์ของทั่วโลก ทั้งในมุมของผู้ลงทุน และผู้ประกอบการหน้าใหม่
"ธนพงษ์ ณ ระนอง" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ส่วนงานบริษัทร่วมทุน บมจ.อินทัชโฮลดิ้งส์ กล่าวว่า บริษัทขนาดใหญ่นิยมลงทุนในเทคสตาร์ตอัพ ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน เช่น คืนกำไรให้สังคม ลงทุนเพื่อซินเนอร์ยี่กับธุรกิจที่มีอยู่หรือเพื่อแสวงหากำไรในอนาคต การลงทุนในเทคสตาร์ตอัพไม่ใช่เรื่องใหม่ อินทัชมีโครงการอินเวนต์ (InVent) มาแล้ว 3 ปี เช่นกันกับในกลุ่มโอเปอเรเตอร์มีการเฟ้นหาเทคสตาร์ตอัพ ทั้งเอไอเอส, ดีแทค และทรู
"ในความเข้าใจของคนทั่วไป อาจคิดว่าบริษัทที่จะเป็นนักลงทุนหรือวีซี ต้องเป็นบริษัทใหญ่ มีรายได้มากเป็นหลักพันล้าน แต่ความเป็นจริงไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ เทคสตาร์ตอัพมีหลายระดับตั้งแต่ซีด (Seed) ที่เป็นแค่โครงร่างความคิด ไปจนถึงที่มีผลิตภัณฑ์ออกมาขายได้แล้ว ซึ่งแต่ละระดับมีความต้องการเงินทุนไม่เท่ากัน"
การที่จะเข้าไปลงทุน ควรพิจารณาว่า 1.มีผลิตภัณฑ์ หรือแนวคิดในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นไปได้ที่จะใช้ทำตลาดหรือไม่ ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ขายฝัน หรือไม่มีลูกค้ารองรับ 2.มีจุดแข็งที่จะนำมาสู้หรือเหนือคู่แข่ง หรือแตกต่าง 3.ทีมงานเข้มแข็งทั้งในแง่การสร้างผลิตภัณฑ์ การทำตลาด ต่อยอดธุรกิจ และบัญชี ซึ่งข้อนี้มักเป็นจุดอ่อนของสตาร์ตอัพไทยส่วนใหญ่ อีกสิ่งที่ต้องพิจารณา คือ ความเข้ากันได้ของผู้ลงทุน และเทคสตาร์ตอัพว่ามีวิสัยทัศน์ไปในทางเดียวกันไหม
นักลงทุนต้องเข้าใจก่อนว่าการลงทุนในเทคสตาร์ตอัพมีความเสี่ยงและโอกาสของเทคสตาร์ตอัพทั่วโลกที่จะเติบโตยั่งยืนและคืนทุนได้จะมี10%จากทั้งหมด และต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะ แนะนำแนวทางการทำตลาดให้บริษัทเหล่านั้นเพื่อส่งเสริมให้โตไปในทิศทางที่ดีด้วย
เทคสตาร์ตอัพไทยที่มีลักษณะโดดเด่นมีสองกลุ่มได้แก่1.กลุ่มผลิตเกมโมบายและ 2.กลุ่มที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ความสร้างสรรค์ หากได้รับการสนับสนุนจากเอกชน หรือภาครัฐที่ช่วยเรื่องกฎระเบียบ ภาษีต่าง ๆ จะเกิดบริษัทใหม่อีกมาก สอดคล้องนโยบายรัฐด้านเศรษฐกิจดิจิทัล
โครงการอินเวนต์ ได้ลงทุนใน 5 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท อุ๊คบี 57 ล้านบาท ถือหุ้น 27% (ทำอีบุ๊ก) 2.บริษัทเมดิเทค โซลูชั่น เป็นเงิน 5 ล้านบาท ถือหุ้น 30% (พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับคนพิการ) 3.บริษัท คอมพิวเตอร์โลจี 29 ล้านบาท ถือหุ้น 25% (วิเคราะห์บิ๊กดาต้า) 4.บริษัท อินฟินิตี้ เลเวล สตูดิโอ 15 ล้านบาท พัฒนาโมบายเกม และ 5.บริษัท ซินโนส 22.5 ล้านบาทถือหุ้น 16.67% พัฒนาโมบายเกมเช่นกัน
ความคืบหน้าของแต่ละบริษัทเริ่มจาก "อุ๊คบี" ขยายกิจการไปยังเวียดนาม, สิงคโปร์ และมาเลเซียได้แล้ว รวมถึงได้ผู้ถือหุ้นใหม่ "ทรานคอสมอส" จากญี่ปุ่น ทำให้มีเงินทุนเพิ่มอีก 5 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับบริษัท เมดิเทค โซลูชั่น เพิ่งระดมทุนจาก "แองเจิล ฟันด์ดิ้ง" ได้ 7 ล้านบาท และมีผลิตภัณฑ์ตรวจจับการกะพริบตาที่นำไปใช้จริงที่โรงพยาบาลแล้ว บริษัท คอมพิวเตอร์โลจี เพิ่งเปิดบริการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดีย Th3re ส่วนบริษัท อินฟินิตี้ เลเวล สตูดิโอ อยู่ระหว่างเตรียมปล่อยเกมใหม่ที่แคนาดา และซินโนสอยู่ระหว่างพัฒนาเกม Electrap
"ผลตอบแทนต้องรอ 5 ปี บางผลิตภัณฑ์นำมาซินเนอร์ยี่กับธุรกิจ เช่น อุ๊กบี, เกมแทร็ปสเตอร์ที่ช่วยเติมเต็มดิจิทัลคอนเทนต์"
ในปี 2558 นี้ กำลังพิจารณาอีก 4-5 บริษัทเน้นแอปพลิเคชั่นบริการ และอินเทอร์เน็ตของสิ่งของ (IoT-Internet of Things)
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
-
- Verified User
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ครับ
โพสต์ที่ 5
True, AIS, DTAC ก็มีโครงการออกมาเรื่อยๆทุกปีนะครับ ส่วนมากที่สนับสนุนจะเป็น Product บน Platform ของมือถือครับ
True incube
http://incube.truecorp.co.th/
AIS
http://www.ais.co.th/thestartup/
DTAC
http://accelerate.dtac.co.th/
True incube
http://incube.truecorp.co.th/
AIS
http://www.ais.co.th/thestartup/
DTAC
http://accelerate.dtac.co.th/
การลงทุนมีความเสี่ยง #การลงพุงก็เช่นกัน