ฝาจีบ CSC ลิ่งแบบมีเหตุผลไหม ?????

[LOSO]

ช่วยผมคิดหน่อย ......................................

[Cheng]

บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิรวมสำหรับงวดไตรมาสที่ 1 ปี 2549 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549
เป็นจำนวนเงิน 229 ล้านบาท มียอดเพิ่มขึ้นจากปี 2548 เป็นจำนวนเงิน 221 ล้านบาท หรือ
เพิ่มขึ้นมากกว่า 2,800 เท่า เนื่องจากบริษัทฯ ได้จำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่าซึ่งเป็นที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง
และอุปกรณ์ให้แก่บริษัทแห่งหนึ่งมีกำไรเป็นจำนวนเงิน 237 ล้านบาท บันทึกรวมอยู่ในบัญชีรายได้อื่น
นอกจากนี้บริษัทฯ มีผลกำไรจากการดำเนินงานจากธุรกิจผลิตและขายฝาภาชนะเป็นจำนวนเงิน 33
ล้านบาท มียอดเพิ่มขึ้นจากปี 2548 เป็นจำนวนเงิน 19 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 130 เท่า

[Capo]

จากข่าวนี้

หุ้น CSC วิ่งชนซิลลิ่ง 29.63% หลัง Q1/49 กำไรพุ่งกว่า 2,800 เท่า
Source - IQ Biz
Thursday, 11 May 2006 14:34

หุ้น CSC ราคาวิ่งชนซิลลิ่ง 29.63% มาอยู่ที่ 14 บาท เพิ่มขึ้น 3.20 บาท มูลค่าซื้อขาย  4.85 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.33 น. โดยเปิดตลาดที่ 10.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 14 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 10.80 บาท
         บ่ายนี้ บมจ.ฝาจีบ (CSC) และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/49 มีกำไรสุทธิ 228.85 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.40 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.87 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.15 บาท
         พร้อมชี้แจงว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิรวมสำหรับงวดไตรมาสที่ 1 ปี 2549 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549 เป็นจำนวนเงิน 229 ล้านบาท มียอดเพิ่มขึ้นจากปี 2548 เป็นจำนวนเงิน 221 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 2,800 เท่า เนื่องจากบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 11 ล้านบาท เนื่องจากยอดต้นทุนขายสินค้ามียอดลดต่ำลง ราคาวัตถุดิบบางกลุ่มมีราคาลดต่ำลง และการมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนการผลิตสินค้าและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้ลดต่ำลง
         นอกจากนี้บริษัทฯ มีกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้เช่า เป็นจำนวนเงิน 237 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิก่อนภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจากปี 2548 เป็นจำนวนเงิน 262 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 3,300 เท่า
         ทั้งนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดขาดทุนสะสมยังไม่ได้จัดสรร ลดลงจากปี 2548 เป็นจำนวนเงิน 237 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 30 เนื่องจากบริษัทฯมีผลกำไรเพิ่มขึ้น

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--

ผมคิดง่าย ๆ (เพราะคิดยาก ๆ ไม่เป็นครับ ฮิ ๆ) ด้วยสมมติฐานว่าถ้าความคาดหวังของนักลงทุนนั้นคงเดิมถ้าเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า ผมคิดว่าลิ่งโดยไม่เหมาะสมครับ เพราะว่า

กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให่เช่า มูลค่า 237 ล้านนั้น ไม่ได้เกิดจาก Performance ของบริษัท จึงน่าจะตัดออกไปจาก EBIT ก่อนครับ ซึ่งเมื่อตัดออกไปแล้วก็จะเหลือ EBIT เท่ากับ 262-237= 25 ล้านบาท

ในขณะเดียวกันไตรมาสที่ 1 ปี 2005 มี EBIT 20.11 ล้านบาท เท่ากับว่าปีนี้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้าเท่ากับ 24.32%

ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นไปถึง 29 กว่า ๆ เปอร์เซนต์ และมีทีท่าว่าอาจจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้จึงดูว่าไปไกลกว่า EBIT ของไตรมาสแรกที่โตขึ้น 24.32 ครับ



ผิดถูกอย่างไรกรุณาชี้แนะสั่งสอนด้วยนะครับ


ปล.ครับ ผมงงกับข้อความส่วนนี้ครับ "นอกจากนี้บริษัทฯ มีผลกำไรจากการดำเนินงานจากธุรกิจผลิตและขายฝาภาชนะเป็นจำนวนเงิน 33
ล้านบาท มียอดเพิ่มขึ้นจากปี 2548 เป็นจำนวนเงิน 19 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 130 เท่า"

งงตรงที่ว่าตัวเลข 130 นั้นควรจะมีหน่วยเป็น % มากกว่าเป็นไท่ไม่ใช่เหรอครับ

[BHT]

คุณ Capo หาข่าวแบบนี้จากไหนเหรอครับ น่าสนใจทีเดียว

[สามัญชน]

คงเป็นเพราะราคาเดิมถูกมากอ่ะครับ  pb 0.57 เท่านั้นเอง

[LOSO]

คิดว่า เป็นเพราะเหตุนั้นจริงๆหรือครับ ท่านสามัญชน ....................

[สามัญชน]

เดาอ่ะครับ..........mr.market บางทีก็ไม่ดูรายละเอียดมากนัก  บางทีก็หงุดหงิด บางทีก็ฮึกเหิมเอาแน่ไม่ค่อยได้.........

หุ้นก้นบุหรี่ที่ราคาถูกมากๆ  ผมว่าเหมือนคนอยู่ในที่มืด  บางมีทีแสงสว่างนิดเดียวก็ดีใจมากๆแล้ว  แม้อาจจะเป็นแสงปลอมๆ แม้คุณภาพของกำไรจะไม่เอาไหน..............มั้งครับ (เดาอีกล่ะ)

[LOSO]

ผมคิดว่า เป็นเพราะคนส่วนมากดูเฉพาะบรรทัดสุดท้าย ....................


ไม่ได้ดูเนื้อใน ...............


ว่ามีรายการพิเศษอะไรหรือเปล่า ..................


ที่ทําให้กําไรโตแบบผิดปกติ โดยที่ไม่ใช่จากการดําเนินงาน ..................


และเป็นรายการครั้งเดียว ไตรมาสเดียว ..................


ไตรมาสต่อไปวูบบบบบบบบบบบบบบบบ ........................

[สามัญชน]

หรือว่ามีรายใหญ่จะลากไปเชือดครับ.......

[Jeng]

จริงๆแล้วเอาราคาที่ดิน หารจำนวนหุ้นก็รู้แล้วว่ากี่บาท

อย่างไรก็ตาม ดูกระแสเงินสด หนี้สิน ก็รู้แล้ว ว่าเงินก้อนนี้ จะต้องนำมาใช้หรือไม่

ก็สามารถคำนวณได้แล้วว่า หุ้นควรขึ้นไปเท่าไร