ชีวิตเป็นเรื่องของการเลือก
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิตเป็นเรื่องของการเลือก
โพสต์ที่ 1
8) บทแรกในหนังสือเรื่อง เงินทองของ(ไม่)หมู
ของอ.วรากรณ์ สามโกเศศ
เป็นเศรษฐศาสตร์ที่ไม่ต้องปีนบันไดอ่าน
เรียบง่ายดี..อ่านแล้วเหมาะกะพวกเราชาววีไอ
ชอบก็ไปหาอ่านเอาเองนะคร้าบ
มีอีกบทนึงดี๊ดีชื่อ "ออกกำลังกายกับ 'ร่ำรวยตลอดชีวิต'"
พิมพ์หลายๆเรื่อง เด๋วเขาว่าเอา
ชีวิตเป็นเรื่องของทางเลือก
คนจำนวนมากเข้าใจว่าที่ตนเองมีหนี้สินท่วมตัวนั้นเป็นเพราะมีรายได้ไม่มากพอ
ถ้าหากมีรายได้มากกว่านี้แล้วหนี้สินคงไม่เกิดขึ้นเป็นแน่
ความเข้าใจว่าหนี้เกิดขึ้นเพราะมีรายได้ไม่เพียงพอ นั้นเป็นความคลาดเคลื่อน
อาจเป็นจริงอยู่บ้างสำหรับคนที่มีรายได้น้อยมากจนไม่สามารถมีชีวิตอยู่รอดอย่างสมความเป็นมนุษย์ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีรายได้ในระดับป็นคนชั้นกลางแล้ว
เงินที่หามาได้นั้นเพียงพอต่อการมีฐานะการเงินอันมั่นคง หากมีการใช้จ่ายเงินอย่างชาญฉลาด
อย่าลืมว่าชีวิตเป็นเรื่องของทางเลือก ดังนั้นถ้าคุณมีหนี้ท่วมตัว ก็หมายความว่าคุณได้ตัดสินใจผิดพลาดเกี่ยวกับการเลือกบางสิ่งบางอย่าง เช่นซื้อบ้านและหรือ รถยนต์ ที่ใช้เงินมากจนทำให้
ในแต่ละเดือนคุณมีภาระผูกพันที่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่และเป็นส่วนใหญ่ของรายได้
โดยผูกพันเป็นเวลานานจนขาดความคล่องตัว เมื่อใดที่คุณมีรายจ่ายที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เช่น
รถเสีย ป่วยไข้ มีอุบัติเหตุ ฯลฯ หรือมีรสนิยมสูงขึ้นมากในการใช้ชีวิตในเวลาข้างหน้า
หนี้ก็จะเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
ตัวอย่างของการเลือกที่ทำให้เกิดหนี้ ได้แก่ การใช้จ่ายเงินโบนัสที่ได้รับอย่างเบิกบาน
หรือบางครั้งใช้ไปก่อนได้รับเสียด้วยซ้ำ หรือเมื่อใดที่เงินเดือนสูงขึ้น รสนิยมในการใช้ชีวิต
ก็ขยับขึ้นสูงตามไปด้วย ถึงแม้รายได้ที่เพิ่มขึ้นทำให้สามารถจ่ายเงินซื้ออะไรได้มากขึ้นจริง
แต่ก็ทำให้เกิดผลที่ตามมา2ประการนั่นคือ
ก. คุณต้องพยายามรักษาระดับรายได้ของคุณไว้ไม่ให้ตก เพื่อที่จะทำให้คุณสามารถจ่ายเงินตามภาระผูกพันใหม่ จากมาตรฐานการครองชีพใหม่
ข. เมื่อรายได้ใหม่ที่เพิ่มขึ้นถูกจัดสรรให้ใช้จ่ายเช่นนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว
การออมก็เกิดขึ้นไม่ได้ และไม่สามารถเอาไปใช้จ่ายเพื่อการอื่นในอนาคตได้
ดังนั้น การที่คุณคิดหรือบ่นว่าไม่รวย เพราะไม่เคยมีโอกาสที่จะร่ำรวยได้เลยนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเห็นใจ เพราะคุณเลือกที่จะกระทำสิ่งข้างต้นเอง จนความรวยเกิดขึ้นไม่ได้ หรือพูดอีกอย่างว่า
คุณเลือกที่จะไม่รวยเอง
ความยากจนแบบหนี้ท่วมตัวท่ามกลางความมั่งมีจึงเป็นสภาวการณ์ที่เห็นกันทั่วไปในทุกประเทศ
โดยเฉพาะในประเทศเรา ความกลวง มีอยู่ดาษดื่น เพราะสังคมเราชื่นชม รูปแบบ(style) ซึ่งเป็นเรื่องฉาบฉวยมากกว่า เนื้อหา(substance) ซึ่งเป็นของจริง ยินดีพอใจกับความโก้หรู
ชั่วแล่นมากกว่าอดออมเพื่อรวยตลอดชีวิต
เราชื่นชมคนขับรถคันใหญ่หรู อยู่บ้านหลังใหญ่ โดยไม่พักต้องสนใจว่าได้เงินมาอย่างไร
และร่ำรวยจริงหรือไม่ เพียงแค่ความประทับใจหรือรู้สีกว่าบุคคลหนี่งรวย ก็เป็นเรื่องน่าชื่นใจแล้ว สภาวการณ์เช่นนี้มิได้ช่วยผลักดันให้คนบ้านเรารู้จักอดออม หรือ กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ
เพื่อทำให้เกิดความมั่นคงทางการเงินอย่างแท้จริงในอนาคตแต่อย่างใด
การสร้างความรู้ความเข้าใจ และทัศนคติที่ถูกต้องในเรื่องของการจัดการทรัพยากรการเงินอย่างชาญฉลาดจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ทุกคนสามารถ รวยได้ด้วยการเลือกที่ถูกต้อง
ชีวิตเป็นเรื่องของการเลือก เป็นสัจจธรรมที่ช่วยทำให้ผู้คนตระหนักในการใช้จ่ายเงินให้รอบคอบขึ้น และเลิกบ่นว่าที่ไม่รวยเพราะไม่เคยมีเงินเพียงพอสักที...
ของอ.วรากรณ์ สามโกเศศ
เป็นเศรษฐศาสตร์ที่ไม่ต้องปีนบันไดอ่าน
เรียบง่ายดี..อ่านแล้วเหมาะกะพวกเราชาววีไอ
ชอบก็ไปหาอ่านเอาเองนะคร้าบ
มีอีกบทนึงดี๊ดีชื่อ "ออกกำลังกายกับ 'ร่ำรวยตลอดชีวิต'"
พิมพ์หลายๆเรื่อง เด๋วเขาว่าเอา
ชีวิตเป็นเรื่องของทางเลือก
คนจำนวนมากเข้าใจว่าที่ตนเองมีหนี้สินท่วมตัวนั้นเป็นเพราะมีรายได้ไม่มากพอ
ถ้าหากมีรายได้มากกว่านี้แล้วหนี้สินคงไม่เกิดขึ้นเป็นแน่
ความเข้าใจว่าหนี้เกิดขึ้นเพราะมีรายได้ไม่เพียงพอ นั้นเป็นความคลาดเคลื่อน
อาจเป็นจริงอยู่บ้างสำหรับคนที่มีรายได้น้อยมากจนไม่สามารถมีชีวิตอยู่รอดอย่างสมความเป็นมนุษย์ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีรายได้ในระดับป็นคนชั้นกลางแล้ว
เงินที่หามาได้นั้นเพียงพอต่อการมีฐานะการเงินอันมั่นคง หากมีการใช้จ่ายเงินอย่างชาญฉลาด
อย่าลืมว่าชีวิตเป็นเรื่องของทางเลือก ดังนั้นถ้าคุณมีหนี้ท่วมตัว ก็หมายความว่าคุณได้ตัดสินใจผิดพลาดเกี่ยวกับการเลือกบางสิ่งบางอย่าง เช่นซื้อบ้านและหรือ รถยนต์ ที่ใช้เงินมากจนทำให้
ในแต่ละเดือนคุณมีภาระผูกพันที่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่และเป็นส่วนใหญ่ของรายได้
โดยผูกพันเป็นเวลานานจนขาดความคล่องตัว เมื่อใดที่คุณมีรายจ่ายที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เช่น
รถเสีย ป่วยไข้ มีอุบัติเหตุ ฯลฯ หรือมีรสนิยมสูงขึ้นมากในการใช้ชีวิตในเวลาข้างหน้า
หนี้ก็จะเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
ตัวอย่างของการเลือกที่ทำให้เกิดหนี้ ได้แก่ การใช้จ่ายเงินโบนัสที่ได้รับอย่างเบิกบาน
หรือบางครั้งใช้ไปก่อนได้รับเสียด้วยซ้ำ หรือเมื่อใดที่เงินเดือนสูงขึ้น รสนิยมในการใช้ชีวิต
ก็ขยับขึ้นสูงตามไปด้วย ถึงแม้รายได้ที่เพิ่มขึ้นทำให้สามารถจ่ายเงินซื้ออะไรได้มากขึ้นจริง
แต่ก็ทำให้เกิดผลที่ตามมา2ประการนั่นคือ
ก. คุณต้องพยายามรักษาระดับรายได้ของคุณไว้ไม่ให้ตก เพื่อที่จะทำให้คุณสามารถจ่ายเงินตามภาระผูกพันใหม่ จากมาตรฐานการครองชีพใหม่
ข. เมื่อรายได้ใหม่ที่เพิ่มขึ้นถูกจัดสรรให้ใช้จ่ายเช่นนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว
การออมก็เกิดขึ้นไม่ได้ และไม่สามารถเอาไปใช้จ่ายเพื่อการอื่นในอนาคตได้
ดังนั้น การที่คุณคิดหรือบ่นว่าไม่รวย เพราะไม่เคยมีโอกาสที่จะร่ำรวยได้เลยนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเห็นใจ เพราะคุณเลือกที่จะกระทำสิ่งข้างต้นเอง จนความรวยเกิดขึ้นไม่ได้ หรือพูดอีกอย่างว่า
คุณเลือกที่จะไม่รวยเอง
ความยากจนแบบหนี้ท่วมตัวท่ามกลางความมั่งมีจึงเป็นสภาวการณ์ที่เห็นกันทั่วไปในทุกประเทศ
โดยเฉพาะในประเทศเรา ความกลวง มีอยู่ดาษดื่น เพราะสังคมเราชื่นชม รูปแบบ(style) ซึ่งเป็นเรื่องฉาบฉวยมากกว่า เนื้อหา(substance) ซึ่งเป็นของจริง ยินดีพอใจกับความโก้หรู
ชั่วแล่นมากกว่าอดออมเพื่อรวยตลอดชีวิต
เราชื่นชมคนขับรถคันใหญ่หรู อยู่บ้านหลังใหญ่ โดยไม่พักต้องสนใจว่าได้เงินมาอย่างไร
และร่ำรวยจริงหรือไม่ เพียงแค่ความประทับใจหรือรู้สีกว่าบุคคลหนี่งรวย ก็เป็นเรื่องน่าชื่นใจแล้ว สภาวการณ์เช่นนี้มิได้ช่วยผลักดันให้คนบ้านเรารู้จักอดออม หรือ กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ
เพื่อทำให้เกิดความมั่นคงทางการเงินอย่างแท้จริงในอนาคตแต่อย่างใด
การสร้างความรู้ความเข้าใจ และทัศนคติที่ถูกต้องในเรื่องของการจัดการทรัพยากรการเงินอย่างชาญฉลาดจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ทุกคนสามารถ รวยได้ด้วยการเลือกที่ถูกต้อง
ชีวิตเป็นเรื่องของการเลือก เป็นสัจจธรรมที่ช่วยทำให้ผู้คนตระหนักในการใช้จ่ายเงินให้รอบคอบขึ้น และเลิกบ่นว่าที่ไม่รวยเพราะไม่เคยมีเงินเพียงพอสักที...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิตเป็นเรื่องของการเลือก
โพสต์ที่ 2
เห็นด้วยกับพี่พอใจอย่างยิ่ง คนขยันเป็นคนดี ที่จนเพราะ ไม่มีนั้นน่าเห็นใจ
แต่คนที่ขี้เกียจและไม่รู้จักคิด จน เพราะ ไม่(รู้จัก)พอ นั้นยิ่งน่าสงสารกว่า แต่ช่วยเหลือลำบาก
ความรู้ความเข้าใจจึงสำคัญยิ่ง
ขอบคุณที่นำบทความดีๆ มาให้อ่านกันครับ
แต่คนที่ขี้เกียจและไม่รู้จักคิด จน เพราะ ไม่(รู้จัก)พอ นั้นยิ่งน่าสงสารกว่า แต่ช่วยเหลือลำบาก
ความรู้ความเข้าใจจึงสำคัญยิ่ง
ขอบคุณที่นำบทความดีๆ มาให้อ่านกันครับ
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิตเป็นเรื่องของการเลือก
โพสต์ที่ 5
8) บทนี้อ่านแล้ว
ถ้าอ.วรากรณ์ มาเล่นหุ้น ต้องเล่นแนวๆพวกเราแน่เลย...
เลือกอย่างไรจึงจะได้มากที่สุด
คุณเคยรู้สึกไม่สบายใจบ้างไหมเวลาเลือกซื้อรองเท้ากระเป๋า โทรศัพท์มือถือมียี่ห้อทั้งหลาย
สงสัยว่าเรากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า ซื้อรุ่นหรือสีที่เข้าท่าและได้ราคาถูกที่สุดเท่าที่จะสามารถซื้อได้หรือไม่
ผมเดาว่าเกือบทุกคนคงตอบว่าเคยอย่างแน่นอน
สำหรับบางคนกว่าจะตัดสินใจซื้ออาจต้องหาข้อมูลอยุ่นาน ทั้งจากหนังสือ จากเพื่อนฝูงหรือจากอินเตอร์เน็ต
เพื่อให้ได้รุ่นและราคาที่ถูกใจ การกระทำอย่างนี้ถูกต้องแล้วครับ แต่ผมอยากถามว่า คุณเคยตอบคำถามตัวเอง
ก่อนหรือเปล่าว่า เอ มันจำเป็นต่อเราไหม ถ้าขาดมันแล้วเราจะเสียหายหรือไม่สะดวกอย่างไร
นอกจากนั้นคำถามต่อมาที่สำคัญมากๆก็คือ ถ้าเราเอาเงินจำนวนเดียวกันไปทำอย่างอื่น จะสามารถทำอะไรได้บ้าง
และจะทำให้เรามีความพอในมากกว่าซื้อสินค้านี้หรือไม่
หลายคนคงยอมรับว่าเคยถามคำถามแรกบ้างเหมือนกัน แต่แหมความอยากและความชอบที่ท่วมท้นอาจทำให้คิดได้
ไม่ชัด เอาละไม่ว่ากัน ใครๆก็เคยคิดอย่างนี้ แต่คำถามที่สองนี่สิครับน่าคิดมาก และคนจำนวนมากก็มักไม่คิดถึงมันด้วย
จนการตัดสินใจเกี่ยวกับการจับจ่ายใช้สอยบิดเบี้ยวไปจากที่ควรจะเป็น
ถ้าโทรศัพท์มือถือที่จะซื้อราคา9000บาท คำถามที่สองนี้ก็คือ ถ้าไม่ซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่เอาเงินไปซื้ออย่างอื่น
หรือไม่ซื้อตอนนี้แต่เก็บออมไว้ซื้ออย่างอื่นที่มีประโยชน์กว่าในอนาคต หรือเก็บออมไว้ลงทุนเพื่อให้มันงอกเงย
กว่านี้ จะดีกว่าหรือไม่
คำถามนี้สำคัญ เพราะทุกคนในโลกนี้ล้วนมีเงินจำกัดด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่คนที่รวยที่สุดในโลกก็ตาม กล่าวคือ
ความอยากในการใช้เงินทำอะไรต่างๆให้เกิดแก่ตนเองและคนอื่นย่อมมากกว่าเงินที่ตนเองมีเสมอ
ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเลือกใช้เงินอย่างชาญฉลาด
ตัวอย่างข้างต้นไม่ต่างอะไรกับเวลาบนโลกนี้ที่ทุกคนล้วนมีจำกัดด้วยกันทั้งนั้น อยากอยู่ต่อตราบนานเท่านาน
แต่ถูกกำหนดมาให้อยู่ได้ไม่เกิน100ปี หรืออาจต่ำกว่านั้นมากๆด้วยซ้ำ ดังนั้นทุกวันที่มีชีวิตอยู่ จึงจำต้องเลือกใช้
เวลาหนึ่งวันที่จะหมดไปและไม่มีวันกลับมาอย่างชาญฉลาด ไม่ปล่อยให้มันผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์และไร้คุณค่า
ต่อตนเองและสังคม
คำถามที่สองที่พูดถึงนี้แหละคือเรื่องของการเลือก มนุษย์มักมองข้ามทางเลือกต่างๆของการใช้เงินอย่างไม่รู้ตัว
หรือมองไม่เห็นเพราะความอยากได้ ดังนั้นจึงมักมุ่งคิดแต่เรื่องของการเลือกยี่ห้อ เลือกรุ่น เลือกสี เลือกร้าน
มากกว่าการเลือกใช้เงินในสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับตนเอง
คราวหน้าจะซื้อสิ่งใด โปรดพิจารณาไตร่ตรองทางเลือกต่างๆของการใช้เงินก้อนนั้นก่อนเป็นลำดับแรก
เมื่อตัดสินใจได้แล้วจึงค่อยไปถึงขั้นการเลือกยี่ห้อ เลือกรุ่น ฯลฯ ซึ่งจะนำไปสู่วิถีของการใช้จ่ายเงินที่ชาญฉลาด
ทำอย่างนี้แล้ว คุณจะได้มากที่สุดเสมอจากสิ่งที่คุณมีอยู่อย่างจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือเวลา...
ถ้าอ.วรากรณ์ มาเล่นหุ้น ต้องเล่นแนวๆพวกเราแน่เลย...
เลือกอย่างไรจึงจะได้มากที่สุด
คุณเคยรู้สึกไม่สบายใจบ้างไหมเวลาเลือกซื้อรองเท้ากระเป๋า โทรศัพท์มือถือมียี่ห้อทั้งหลาย
สงสัยว่าเรากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า ซื้อรุ่นหรือสีที่เข้าท่าและได้ราคาถูกที่สุดเท่าที่จะสามารถซื้อได้หรือไม่
ผมเดาว่าเกือบทุกคนคงตอบว่าเคยอย่างแน่นอน
สำหรับบางคนกว่าจะตัดสินใจซื้ออาจต้องหาข้อมูลอยุ่นาน ทั้งจากหนังสือ จากเพื่อนฝูงหรือจากอินเตอร์เน็ต
เพื่อให้ได้รุ่นและราคาที่ถูกใจ การกระทำอย่างนี้ถูกต้องแล้วครับ แต่ผมอยากถามว่า คุณเคยตอบคำถามตัวเอง
ก่อนหรือเปล่าว่า เอ มันจำเป็นต่อเราไหม ถ้าขาดมันแล้วเราจะเสียหายหรือไม่สะดวกอย่างไร
นอกจากนั้นคำถามต่อมาที่สำคัญมากๆก็คือ ถ้าเราเอาเงินจำนวนเดียวกันไปทำอย่างอื่น จะสามารถทำอะไรได้บ้าง
และจะทำให้เรามีความพอในมากกว่าซื้อสินค้านี้หรือไม่
หลายคนคงยอมรับว่าเคยถามคำถามแรกบ้างเหมือนกัน แต่แหมความอยากและความชอบที่ท่วมท้นอาจทำให้คิดได้
ไม่ชัด เอาละไม่ว่ากัน ใครๆก็เคยคิดอย่างนี้ แต่คำถามที่สองนี่สิครับน่าคิดมาก และคนจำนวนมากก็มักไม่คิดถึงมันด้วย
จนการตัดสินใจเกี่ยวกับการจับจ่ายใช้สอยบิดเบี้ยวไปจากที่ควรจะเป็น
ถ้าโทรศัพท์มือถือที่จะซื้อราคา9000บาท คำถามที่สองนี้ก็คือ ถ้าไม่ซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่เอาเงินไปซื้ออย่างอื่น
หรือไม่ซื้อตอนนี้แต่เก็บออมไว้ซื้ออย่างอื่นที่มีประโยชน์กว่าในอนาคต หรือเก็บออมไว้ลงทุนเพื่อให้มันงอกเงย
กว่านี้ จะดีกว่าหรือไม่
คำถามนี้สำคัญ เพราะทุกคนในโลกนี้ล้วนมีเงินจำกัดด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่คนที่รวยที่สุดในโลกก็ตาม กล่าวคือ
ความอยากในการใช้เงินทำอะไรต่างๆให้เกิดแก่ตนเองและคนอื่นย่อมมากกว่าเงินที่ตนเองมีเสมอ
ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเลือกใช้เงินอย่างชาญฉลาด
ตัวอย่างข้างต้นไม่ต่างอะไรกับเวลาบนโลกนี้ที่ทุกคนล้วนมีจำกัดด้วยกันทั้งนั้น อยากอยู่ต่อตราบนานเท่านาน
แต่ถูกกำหนดมาให้อยู่ได้ไม่เกิน100ปี หรืออาจต่ำกว่านั้นมากๆด้วยซ้ำ ดังนั้นทุกวันที่มีชีวิตอยู่ จึงจำต้องเลือกใช้
เวลาหนึ่งวันที่จะหมดไปและไม่มีวันกลับมาอย่างชาญฉลาด ไม่ปล่อยให้มันผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์และไร้คุณค่า
ต่อตนเองและสังคม
คำถามที่สองที่พูดถึงนี้แหละคือเรื่องของการเลือก มนุษย์มักมองข้ามทางเลือกต่างๆของการใช้เงินอย่างไม่รู้ตัว
หรือมองไม่เห็นเพราะความอยากได้ ดังนั้นจึงมักมุ่งคิดแต่เรื่องของการเลือกยี่ห้อ เลือกรุ่น เลือกสี เลือกร้าน
มากกว่าการเลือกใช้เงินในสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับตนเอง
คราวหน้าจะซื้อสิ่งใด โปรดพิจารณาไตร่ตรองทางเลือกต่างๆของการใช้เงินก้อนนั้นก่อนเป็นลำดับแรก
เมื่อตัดสินใจได้แล้วจึงค่อยไปถึงขั้นการเลือกยี่ห้อ เลือกรุ่น ฯลฯ ซึ่งจะนำไปสู่วิถีของการใช้จ่ายเงินที่ชาญฉลาด
ทำอย่างนี้แล้ว คุณจะได้มากที่สุดเสมอจากสิ่งที่คุณมีอยู่อย่างจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือเวลา...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิตเป็นเรื่องของการเลือก
โพสต์ที่ 6
เล่มนี้ strong buy ครับ
ผมว่าเหมือนรวมสุดยอด บทความ ของ ดร.
ข้อเสียเดียวที่ผมเจอก็คือ
การเข้าเล่มหนังสือไม่ดีครับ อ่านรอบเดียวก็หลุดแล้วครับ
เสียยี่ห้อ aprint หมด
ผมว่าเหมือนรวมสุดยอด บทความ ของ ดร.
ข้อเสียเดียวที่ผมเจอก็คือ
การเข้าเล่มหนังสือไม่ดีครับ อ่านรอบเดียวก็หลุดแล้วครับ
เสียยี่ห้อ aprint หมด
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์