VI หาดใหญ่

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 2

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1171

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:
kongkiti เขียน:
Nevercry.boy เขียน:
leky เขียน:ว่าแต่คุณ NB ครับ พอดีผมไม่มีความรู้เรื่องทางเทคนิค แต่ผมสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้ไหมครับ ที่นลท.คนหนึ่งจะรู้เรื่องดีทั้งทางพื้นฐานและทางเทคนิค เอาศาสตร์ทั้งสองด้านมาผสมผสานให้ลงตัว ถ้าทำได้น่าจะเป็น "โคตรเซียน" ได้ไม่ยากนักนะครับ แต่เท่าที่เห็นเหมือนแนวทางมันขัด ๆ กันเลยมักจะเจอคนที่ไปทางใดทางหนึ่งเป็นหลัก
MARK MINERVINI ครับ จารย์หมอเล็ก
วันนี้ผมไปจัด หนังสือ คุณ Mark Minervini มาศึกษาแล้วครับ พี่ NB
อ่านแค่ บท Risk Management บรรทัดเดียว ก็ คืนทุนค่าหนังสือไปละ :P

ไว้อ่านจบทั้งเล่ม จะขอคำชี้แนะเพิ่มครับ

ปล. พี่ NB แนะนำ ให้รู้จัก อ. ดีๆ หลายท่านเลย ทั้ง อ.Ken Fisher, อ.Mobius, อ.O'neill มาถึง อ.Minervini (ว่าแต่ อ่านชื่อแกยังไงหว่า มิเนอวินี่?) :mrgreen:
น้องก้อง มีทุนเดิมสูงอยู่แล้วครับ ฉลาดเรียนเก่ง ต่อยอดได้อย่างไร แล้ว แฮ่ม กลับมาสอนลูกศิษย์แก่ ๆ อย่างผมด้วยครับ
โอ้ มิกล้า มิกล้า ครับ
ขอพี่ NB ถ่ายทอดวิชา ให้พวกเรา เหล่าคนรักหุ้น ดีกว่า
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
maymekung
Verified User
โพสต์: 217
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1172

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:

1) ตัดขาดทุน เขาแนะนำให้ทำการขายหุ้นออกเมื่อหุ้นนั้นตกลงต่ำกว่า 7-8% จากราคาที่ซื้อมาโดยไม่ต้องมีคำถาม
จากประโยคนี้ของพี่ NB ครับ ส่วนตัวผมจะตัดขาดทุนทุกครั้งเช่นกันถ้าหุ้นลงถึง 10% เนื่องจากเชื่อว่ายังมีเรื่องอีกมากมายที่เรายังไม่รู้

แต่หลายๆ คนเชื่อว่า ยิ่งลงเยอะ ยิ่งมี MOS ซื้อถัวดีกว่า หลายครั้งการ cut loss นี้ก็ช่วยชีวิตผมไว้ได้ แต่หลายครั้ง ก็ cut แล้วเด้งไปไกล

พี่ๆมีความเห็นอย่างไรกับการกระทำแบบนี้ของผมบ้างครับ ขอบคุณครับ

ปล.ขอบคุณพี่ๆมากครับที่ช่วยกันแบ่งปัน ห้องนี้รู้สึกเป็นกันเอง และมีความรู้มากครับ ไว้ได้กลับหาดใหญ่เมื่อไหร่ จะไปร่วม meeting ให้ได้เรยครับ :bow:
Freedom
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1173

โพสต์

kongkiti เขียน:วันนี้ผมไปจัด หนังสือ คุณ Mark Minervini มาศึกษาแล้วครับ พี่ NB
อ่านแค่ บท Risk Management บรรทัดเดียว ก็ คืนทุนค่าหนังสือไปละ :P
แหม่... ใจคอจะไม่แบ่งปัน บรรทัดเดียว ที่ว่าหน่อยรึครับ
แบบนี้เข้าข่ายหลอกให้อยากแล้วจากไปนะครับ :mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 2

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1174

โพสต์

ดำ เขียน:
kongkiti เขียน:วันนี้ผมไปจัด หนังสือ คุณ Mark Minervini มาศึกษาแล้วครับ พี่ NB
อ่านแค่ บท Risk Management บรรทัดเดียว ก็ คืนทุนค่าหนังสือไปละ :P
แหม่... ใจคอจะไม่แบ่งปัน บรรทัดเดียว ที่ว่าหน่อยรึครับ
แบบนี้เข้าข่ายหลอกให้อยากแล้วจากไปนะครับ :mrgreen:
ประโยคนี้อ่านผ่านๆ ออกแนว Trader เต็มรูปแบบ ครับท่านดำ :D
ที่โดนใจคือ
"Yesterday profit is part of today's principal"

ประมาณว่า ราคาหุ้นขึ้นมาแล้ว ก็คือ เราได้กำไรแล้ว ต้องปกป้องกำไรสุดชีวิต
ตรงข้าม ราคาหุ้นลง ก็ต้อง cut loss อย่างเข้มข้น แบบ อ.O'Neill

แต่จริงๆ อ.Mark แกเขียนอธิบายไว้อีกหลายย่อหน้า
ว่าแกจะไม่ใช่ว่า แนะนำให้ขายทิ้งตลอด ไม่รอ Let's profit run นะครับ แต่ขึ้นกับ แผนการ Trade ของแกว่าวางไว้อย่างไร โดย ห้พิจารณาเทียบผลตอบแทนในอนาคตจากราคาหุ้นปัจจุบัน เทียบความเสี่ยงครับ

อีกตัวอย่าง อาจารย์ แกบอก มีแต่นักพนันมือสมัครเล่น ที่คิดว่า ซื้อหุ้น ราคา 20$ พอหุ้นขึ้น 27$ ก็คิดว่า ยังมีเหลือ 7$ ให้ขาดทุนได้ แกบอกราคายิ่งขึ้นเยอะ แกจะยิ่งเข้า mode profit-protection

ปล.
1.หากเทียบแนว VI ก็ต้องบอกว่า จงลืมต้นทุนที่ซื้อมาไปซะ จะทำให้ Bias เปล่าๆ สำคัญคือ มูลค่าธุรกิจ เทียบราคาหุ้น มันยัง ok สำหรับเราหรือเปล่า หากไม่ ok แล้ว ก็ต้องจัดการซะ

2.หนังสือ มีที่ kinokuniya paragon ชื่อ "Trade like a stock market wizard" มีหน้า อ.Mark โชว์หราอยู่
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1175

โพสต์

ลองอ่านดูครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1176

โพสต์

เอามาแจมด้วยคนครับ :mrgreen:

Book Review of Trade Like A Stock Market Wizard by Mark Minervini
https://whatheheckaboom.wordpress.com/2 ... minervini/
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1177

โพสต์

เท่าที่ผมจับใจความได้ Mark บอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุน/เก็งกำไร คือ จังหวะซื้อหุ้น
แต่ทั้ง Catalyst, Upside และ Downside ก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งของหลักการลงทุนของเค้าเช่นกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ วินัยในการลงทุนและการอดทนรอครับ

รอท่านอื่นมาเสริมครับ

ป.ล. ผมอ่านเจอประโยคทองของท่าน kongkiti ในนั้นด้วยครับ :mrgreen:
Once I make a profit, that money belongs to me. Yesterday’s profit is part of today’s principal. My account simply has a new starting balance, subject to the same set of rules as before.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1178

โพสต์

When a stock you have bought falls below your purchase price, it is telling you have made an error — at a minimum in timing. Make no mistake, whether you’re a short-term trader or a long-term investor, timing is everything. Just as much money is lost on great companies bought at the wrong time as on investments that were poor choices in the first place.
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 2

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1179

โพสต์

ผมอ่านบทแรก จบแล้วครับท่านดำ
(หลังจากอ่านบทสุดท้าย เรื่องความเสี่ยงก่อน)

อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเท ของ อ.Minervini

ส่วนเรื่องเนื้อหา การเลือกหุ้น ยังอ่านไม่ถึง แต่อ่านจาก review ที่ท่านดำโพส link ให้ ก็ละม้ายคล้าย CANSLIM จริงๆ

ขอย้อนกลับไปหน่อยที่ วิธีการ Trade หรือ ลงทุน
(ไม่นับ ที่กำไรเพราะหุ้นปั่น อันนั้นเหมือนซื้อหวย ยกเว้นปั่นเอง)
ก็เป็นเพียงวิธีที่จะทำให้เราหาเงินได้มากกว่าที่เราจ่ายไปเท่านั้น

สำคัญที่เรา มุ่งมั่น จะศึกษาแนวทางไหนเท่านั้นแหล่ะครับ
แล้วก็ทำให้สุดๆ ไปเลย
เหมือนคุณหมู OFM บอกให้ตื่นจากฝัน แล้วไปทำความฝันให้เป็นจริงได้แล้ว

ประโยคทอง ที่ผมโพสให้เพื่อนๆ อ่าน
ก็เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้ตัวผมเองให้มุ่งมั่น และจริงจังมากขึ้น
(ที่ผ่านมายังรู้สึกว่า ตัวเองเป็น amatuer gambler อยู่เลย...ฮ่าๆ)

ไม่ได้มุ่งหวังจะเปลี่ยนแนวทางไปทำ risk management (cut loss รัวๆ)
หรือไปเน้นแนวหุ้น growth ซื้อแพง ขายแพงกว่า แบบ อ.Minervini นะครับ
หากเราไม่ได้ฝึกฝนให้แตกฉาน แล้วอยู่ดีๆ ไปทำตามเฉพาะ บางประเด็นนี่ธาตุไฟเข้าแทรกง่ายๆ เลย

จริงๆ เรื่อง Risk management และวิธีการ Trade มีตารางหลายอัน น่าสนใจ
เพื่อใครอยากเปลี่ยนแนวเป็น trader :D
ไว้กลับถึงบ้าน แล้วมาต่อนะครับ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1180

โพสต์

จุดที่ถูกใจผมมากที่สุดของห้องนี้คือ ใจที่เปิดกว้างของเพื่อนๆ ทุกคน ตั้งแต่ผมเข้ามาวันแรก นึกไม่ออกเลยว่าเคยเห็นโพสต์ทะเลาะกันรึเปล่า?
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1181

โพสต์

ดัดแปลงมาน่ะครับ
...............

ซื้อหุ้นไทย ทีไร ใจมันสั่น
กลัวว่ามัน จะลงต่อ บ่อลึกไหม
พอซื้อปุ๊ป หล่นปั๊บ หนาวจับใจ
อีกเมื่อไร จะกลับมา ขอลาที

รัฐธรรมนูญ ท่านยัง ทำไม่เสร็จ
เศรษฐกิจ ไม่เห็นผล คนยิ่งหนี
พอทำเสร็จ ปฏิวัติ อีกสักที
ก็พอดี คัทลอส ที่ ร้อยเปอร์เซนต์
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 2

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1182

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:ดัดแปลงมาน่ะครับ
...............

ซื้อหุ้นไทย ทีไร ใจมันสั่น
กลัวว่ามัน จะลงต่อ บ่อลึกไหม
พอซื้อปุ๊ป หล่นปั๊บ หนาวจับใจ
อีกเมื่อไร จะกลับมา ขอลาที

รัฐธรรมนูญ ท่านยัง ทำไม่เสร็จ
เศรษฐกิจ ไม่เห็นผล คนยิ่งหนี
พอทำเสร็จ ปฏิวัติ อีกสักที
ก็พอดี คัทลอส ที่ ร้อยเปอร์เซนต์
ขอแชร์นะครับพี่ สวดยอด :rofl: :rofl:
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1183

โพสต์

กร๊าากก...
ผมงี้ขอยกนิ้วโป้ง,ชี้,นาง 12นิ้วให้อ.NBพร้อมๆกันเลยฮะ (love,love รักและเคารพอย่างแรง)
ส่วนนิ้วกลางเอาไว้แคะสะดือมาดมเล่นตอนรอ อ.NBมาโพสต์ กะรอเพื่อนๆทำการบ้านส่งอ.นะฮะ
จะว่าไปก็สงสารคุณลุงตุ๊ดตู่ท่านนะฮะ เห็นท่านทำงานแล้วเพลียแทน ต้องซ้ำเติมกำลังใจให้ท่านมากๆฮะ

ท่านดำฮะ
เรื่องbusiness modelเครื่องสำอางเนี่ย อ.เค้าไม่ได้ว่ารายละเอียดไว้
ผมมาลองมโนดูก็นึกไม่ออกเหมือนกัน ตั้งแต่ตอนเด็กๆเห็นกู๋กิ๋มเค้าขายเครื่องสำอางเพี้ยซ โคตี้ คาเนโบ้
แบบมีBA (beauty advisorนะฮะ ไม่ใช่เรือบิน) จนตลาดกลายเป็นบุฟเฟ่ต์เลือกเอง ขายตรงแบบมิสทีน ฯลฯ
อ่านดูอีกห้องเรื่องเอว่อนก็ยังนึกไม่ออก ว่าเมกะเทรนด์จะไปทางไหนเหมือนกันฮะ
ยิ่งสมัยนี้พัฒนาเป็น โรลออนจั๊กกะแร้กระจ่างฟ้า ครีมน้ำเหลือง(serum)หน้าใส(น่าไส)หัวไปผสมสารต้านนักลงทุนอิสระ
ศัลยกรรมดึงหน้าจนต้องโกนเครา ร้อยไหมไร้มีดโกน งงไปหมดฮะ

อ.lekyฮะ
เรื่องonenight standเนี่ย ผมเข็ดแล้วฮะ ไม่ไหวๆ ยืนรอเมื่อยทั้งคืนถึงเช้า(ภาพประกอบน้าค่อมยืนถือถุงโชคดีใส่ขันน้ำผ้าถุง ใต้ต้นขนุนสนามหลวง(58++))
แต่หุ้นอสังหาแบบรักนะฉึก ฉึก(คือรีบฟันกำไร)เนี่ย อ.ยังไม่ได้วิแคะหุ้นเอ็นผักในสถานการณ์ตอนนี้เลยฮะ
ไม่รู้ว่าเจ้าของก็ไปนอกยังไม่กลับ ร้อยชักสามก็อดชัก(ไม่รูว่าชักเข้ารึชักออก รึเข้าๆออกๆ) แบ็งค์ก็ระแวงไม่ปล่อยกู้
ทำไรก็เจ๊งหมด ทุนจดทะเบียนสี่แสนกว่าล้าน แค่นี้stress testพอแล้วยังฮะ ของที่ตี๋ย้งให้มาพอนับเป็นอัพไซด์ได้มั่งป่าว
รึอ.มองว่ามันพอจะเป็นหุ้นดันโดได้ฮะ คือถ้ามันโด่เด่เด้งดึ๋งขึ้นมา เราก็ด๊วบซะ แต่ถ้ามันดันด็อกแด็กแล้วดำดิ่งลงไปเลย ก็เสียนิดหน่อย ไม่กี่ร้อยล้าน(หุ้น)เอง
(หุ้นบ้าไรแว้.. หุ้นขึ้นฟอลโล่วบาย หุ้นลงคัทลอส สามทีบรรลุกระบี่VSขั้นลมปราณสูงสุด ทั้งหุ้นทั้งตังค์หายวับไปไหนไม่รุ..)
samatah
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1184

โพสต์

dr1 เขียน: อ.lekyฮะ
เรื่องonenight standเนี่ย ผมเข็ดแล้วฮะ ไม่ไหวๆ ยืนรอเมื่อยทั้งคืนถึงเช้า(ภาพประกอบน้าค่อมยืนถือถุงโชคดีใส่ขันน้ำผ้าถุง ใต้ต้นขนุนสนามหลวง(58++))
แต่หุ้นอสังหาแบบรักนะฉึก ฉึก(คือรีบฟันกำไร)เนี่ย อ.ยังไม่ได้วิแคะหุ้นเอ็นผักในสถานการณ์ตอนนี้เลยฮะ
ไม่รู้ว่าเจ้าของก็ไปนอกยังไม่กลับ ร้อยชักสามก็อดชัก(ไม่รูว่าชักเข้ารึชักออก รึเข้าๆออกๆ) แบ็งค์ก็ระแวงไม่ปล่อยกู้
ทำไรก็เจ๊งหมด ทุนจดทะเบียนสี่แสนกว่าล้าน แค่นี้stress testพอแล้วยังฮะ ของที่ตี๋ย้งให้มาพอนับเป็นอัพไซด์ได้มั่งป่าว
รึอ.มองว่ามันพอจะเป็นหุ้นดันโดได้ฮะ คือถ้ามันโด่เด่เด้งดึ๋งขึ้นมา เราก็ด๊วบซะ แต่ถ้ามันดันด็อกแด็กแล้วดำดิ่งลงไปเลย ก็เสียนิดหน่อย ไม่กี่ร้อยล้าน(หุ้น)เอง
(หุ้นบ้าไรแว้.. หุ้นขึ้นฟอลโล่วบาย หุ้นลงคัทลอส สามทีบรรลุกระบี่VSขั้นลมปราณสูงสุด ทั้งหุ้นทั้งตังค์หายวับไปไหนไม่รุ..)
อ.ครับ ตอนนี้ผมไม่ได้ติดตามหุ้นตัวนี้นานแล้วครับ แต่ผมแนะนำว่าอย่าไปยุ่งดีกว่าครับ ผมเคยถือ 3 สต.อยู่เป็นปี กว่าจะปลดล็อคได้ก็อึดอัดมากครับ มันมีแต่เรื่องที่เหมือนจะทำให้เรารู้สึกว่ามันน่าจะฟื้น แต่จะฟื้นจริงหรือเปล่าอันนี้ผมว่ามันอาจจะมีอะไรอีกหลายอย่างน่ะครับ ถ้าอ.อยากซื้อหุ้นแนวแบบนี้ แบบคุยได้ว่าเป็นเจ้าของเป็นร้อยเป็นพันล้านหุ้นนี่ ผมว่าพวกหุ้นเหล็ก เจเพรส จีสตริง นี่พอจะมีความหวังมากกว่าหรือเปล่าครับ อันนี้ผมเองก็ไม่ได้ตามนะครับ แต่เห็นเค้ามีแผนฟื้นฟูอยู่น่ะครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1185

โพสต์

ขอบพระคุณอ.lekyมากครับ ที่มาเตือนบ่อปลาปิรันย่า ไม่ไห้ใครคันมือแหย่ลงไปนะฮะ
ห้องนี้มีไว้invertฮะ คิดไว้ก่อนเลยว่าจะตายได้กี่ทาง จะได้ไม่ไปทางนั้น

ผมไปฟังเค้าพูดมาอีกแล้วฮะ เที่ยวนี้เป็นเจ้าที่สัญญาว่าจะเชิญเสี่ย giantมาพูดน่ะฮะ
ช่วงเช้าเบสิก เรื่องเทรด(เค้าใช้ชื่อตัวเองว่า..เทรด ไม่มีคำว่าinvest)เหมือนเดิมฮะ ไม่รู้เรื่อง ให้หุ้นเอ็นผักมา บอกสายเทคนิคเริ่มเห็นสัญญาน(สัญญานไรไม่รุ)

ต่อมาเรื่องภาพใหญ่
ให้แค่1300-1400 รอปรับฐานในเดือนหน้า
1.QEยุโรปไม่น่ามาไทยใน2ปีนี้
2. ส่งออกไทย70% ยังแย่มาก ปีที่แล้วมค.ฐานต่ำ ปีนี้ต่ำกว่าเดิมอีก(เห็นกราฟแล้วใจหาย)
ไทยไม่ปรับโครงสร้างส่งออกมาสิบปีแล้ว หลังสับพรามเราก็ยังไม่ฟื้น
3. นักวิแคะปรับกำไรset จาก127ลงมาเรื่อยๆตลอด14เดือน เหลือราวๆ100 (กราฟดิ่งลงตลอดทาง)
4. เมย. ผลประกอบการออก แบ็งค์มาก่อน เดาว่าน่าจะแย่ หนี้ครัวเรือนสูงมาก นักวิแคะปรับลดแน่
5. กบข.ขอเพิ่มผอร์ทตปท. จาก20%เป็น40% กองทุนอาจขายออกมารอตั้ง trigger fund
ฝรั่งเหลือแสนนึงแต่ยังขายออกอีกหมื่นนึง ปอบมีหมื่นนึงแต่ขายห้าพัน
รายย่อยไทย โดนสามรุมหนึ่ง ได้หุ้นเพราะตั้งซื้อรอ
6. เทคนิค แตะ1600 สามครั้ง ไม่ผ่าน น่าจะลง
หุ้นแนะนำ
หุ้นท่อแอร์ กลับตัว จากธุรกิจย่อยที่ขาดทุน2-3ปีมา ถ้าแค่ไม่ขาดทุน=โต20%
หุ้นถ่านหินใหญ่ จากจะspin-off โรงไฟฟ้า
(แอบเห็นในชีทมีดาวเทียม หวยชาเขียว อสังหาA.. แต่ไม่ได้บอก)

ช่วงบ่ายเป็นเสี่ยgiant กะหลานไฟแรง ไอเดียน่าสนใจราวๆ
ซื้อหุ้นทั้งทีต้อง"ทำตัวเป็นเจ้าของกิจการ" ต้องรู้ว่าดียังไง แบบไหน ไปดูให้รู้จริง
ถ้าอีกสามเดือน หนึ่งปี สามปี กิจการเรายังดีกว่าเดิม จะไม่สนเรื่องตลาด การเมือง เศรษฐกิจ บั่นทอนความรวยเปล่าๆ
อยู่ฝั่งคนส่วนน้อย คำนวนให้ดีว่าถ้าชนะ ชนะเท่าไร ด้วยเหตุผลอะไร เป็นไปได้แค่ไหน ห้ามมโน ถ้าแพ้ แพ้เท่าไร
คิดเหมือนเปิดร้านขายของ ซื้อสินค้าเข้าร้านแล้วขายให้ได้ เค้าฮิตอะไรขึ้นมา เรามีของอยู่คนเดียว
ดูออพเดย์ บริษัทไหนไม่ดีจะไม่มาออก ต้องมีดีถึงมาออก
เทคนิคัล เป็นดัชนีชี้ความถูก-แพง เอาแต่ตัวเดียวที่เราเก่ง ไม่ต้องไปยุ่งยากหลายอย่าง ไม่มีคะแนนท่ายากสำหรับการลงทุน
ต้องมี"หุ้นในดวงใจ"ในภารกิจ ใครกลัวก็กลัวไป ถ้าอีกสามเดือน หนึ่งปี สามปี หุ้นเรายังดี เรื่องอื่นไม่ต้องสน
(หลานไฟแรง ถือหุ้นตัวเดียว ก่อสร้างรอดูเหมืองโปแตส ถนนไปทวาย2.5ชั่วโมงจากกทม.รอราดยาง)
ทุกคนที่ประสบความสำเร็จ จะมีหุ้นในดวงใจเสมอ ดร.นิเวศน์ก็มีcpall ซื้อตอนปันผล7% ผมก็เคยมีปตท.
ปัญหาคือ ทนความรวย ทนแรงกดดันไม่ได้ในระหว่างทาง
ผิดถูกอยู่ที่ตัวเรา เอาตัวเองเป็นหลัก ไม่ต้องอ้างอะไรทั้งนั้น ใจไม่ถึงมากกว่า
ของที่ไม่รู้ อย่ายุ่ง ทอง currency derivative ยังไม่เคยเห็นใครชนะจากเดริเวทีฟ ออกแบบมาป้องกันความเสี่ยง
แต่เอามาเล่นแบบพนัน 10เท่า หุ้นลงต้องขายทั้งderivative กับหุ้นสามัญ เป็นsnowball แต่ถ้าขึ้นก็แรง

คำถาม
แนะนำหนังสืออ่าน?
ในเฟสบุคพ่อสอนลูกลงทุน มีอีบุคสามสิบเล่ม โหลดอ่านได้ฟรี
มีหมอคนนึงอยู่ปัตตานี(นราธิวาส) ชื่อหมอฝน เคยไปคุยด้วย
เริ่มจากเงินเจ็ดหมื่น ตอนนี้มีเป็นร้อย..(ว้า..เสียดายแทนอ.fonจัง จากหมื่นเหลือแค่ร้อยเอง..)
บอกว่า อ่านหนังสือทุกเล่มที่มีคำว่า"หุ้น"

สุดท้ายอยากจะบอกอะไร?
คนที่จะชนะ ต้องมุ่งมั่นแบบหมอฝน(น้องสาวเล่าว่าอ.fonจะทำอะไร จะทำให้สุดๆ เกือบได้ไปเรียนผ่าสมอง)
จะเปลี่ยนชีวิต แค่มาฟังวันนี้ เป็นแค่จุดเริ่มต้น ฟังไปแล้วไม่ได้กลับไปทำอะไร ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คนที่ผ่านอะไรมามากแบบผม ถอดเสื้อมา แผลเต็มตัวไปหมด แต่จะให้กลับไปเป็นแบบเดิม ไม่มีทาง

วีไอ แผลเต็มจากเอาสีข้างเข้าถู รายงาน
samatah
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1186

โพสต์

อาจารย์หมอหนึ่งนี่เป็นคนที่ไม่เคยเป็นน้ำเต็มแก้ว

เรียนรู้ ถ่อมตน พัฒนา

อายุเป็นเพียงตัวเลข เสียงหัวเราะเป็นยาอายุวัฒนะ

รวยแต่สมถะ สะสมเพื่อน

คือ ผมโคตรชอบ หมอหนึ่งเลยครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
GG
Verified User
โพสต์: 96
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1187

โพสต์

ขอขอบคุณพี่หมอหนึ่งมากๆครับ ที่เอาข้อมูลดีๆมาแชร์ สวดยอดเสมอ และเห็นด้วยกะพี่ NB ครับ อธิบายความเป็นพี่หมอหนึ่งได้สมจริงมาก :bow: :bow:

ปล.(ค) ไปล่ะ(ครับ) :mrgreen:
How not to be your own worst enemy
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 2

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1188

โพสต์

ห้องนี้ นับวันจะกลายเป็นตำนานนะครับ
(นำโดย อาจารย์หมอหนึ่ง dr1 และชาวคณะ...แหม่ ตั้งชื่อยังกะ คณะตลก :mrgreen: )

มาร่วมกันโพส สร้างตำนานกันเร้ว
ตอนนี้ก็ 40 หน้าแล้ว


ห้องนี้เริ่มวันที่ Nov 30, 2011 โดยคุณ poy055

ระหว่างปี 2011-2014 มีโพสไป 7 หน้า

จุดวิกฤต คือ โพสนี้
Nevercry.boy เขียน:โอ ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อในโรงเจ อยู่นี่เอง :mrgreen:

Posted: Mon Jan 13, 2014 11:46 am
หลังจากนั้น
.
.
.



ปี 2014 ปีเดียว มีโพสหน้า 8-31 รวม 24 หน้า

ปี 2015 ผ่านไป 3 เดือน หน้า 32-40 รวม 9 หน้า คิดแบบ ViVi 9 x 4 = 36 หน้า


ปอ.ลอ.
1) ว่าแต่ ใครอยู่หาดใหญ่จริงๆ บ้างฮะ ผมยังไม่เคยไปหาดใหญ่เบย :rofl: :rofl:
2) 1 หน้า = 30 โพส
3) ขอ Bookmark 4,500 โพส หน่อยครับ เป้า 10,000 โพส อีกไม่ไกล
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1189

โพสต์

ขอบพระคุณอ.lekyมากครับ ที่มาเตือนบ่อปลาปิรันย่า ไม่ไห้ใครคันมือแหย่ลงไปนะฮะ
ห้องนี้มีไว้invertฮะ คิดไว้ก่อนเลยว่าจะตายได้กี่ทาง จะได้ไม่ไปทางนั้น

ผมไปฟังเค้าพูดมาอีกแล้วฮะ เที่ยวนี้เป็นเจ้าที่สัญญาว่าจะเชิญเสี่ย giantมาพูดน่ะฮะ
ช่วงเช้าเบสิก เรื่องเทรด(เค้าใช้ชื่อตัวเองว่า..เทรด ไม่มีคำว่าinvest)เหมือนเดิมฮะ ไม่รู้เรื่อง ให้หุ้นเอ็นผักมา บอกสายเทคนิคเริ่มเห็นสัญญาน(สัญญานไรไม่รุ)
นั่นน่ะสิครับ 555 จะว่าไปตอนหลังผมถึงมารู้ว่าที่ผมปลดแอกจะหุ้นตัวนี้ได้ ก็เพราะเสี่ยที่อ.เกริ่นมานั่นเอง แกแค่เล่นขำ ๆ แกรู้ว่าข่าวแบบนี้เล่นได้ ไอ้เราคนที่ถืออยู่ก็รู้สึกเหมือนกันว่าถ้าข่าวออกน่าจะมีอะไรดี ๆ
วันที่: 2010-10-12
ชีวิตเกษียณ 'เซียนหุ้น'(พันล้าน) มุ่งสู่ความยั่งยืน
ชีวิตในวัย55 ของ 'เสี่ยยักษ์' วิชัย วชิรพงศ์ เซียนหุ้นพันล้าน หลังผ่าน'จุดพีค'ในตลาดหุ้น เจ้าตัวเริ่ม Diversify ทรัพย์สินมุ่งสู่ความยั่งยืน

แม้อาชีพการเล่นหุ้นไม่มี "วัยเกษียณ" เหมือนข้าราชการ แต่ผู้กำศึกมาอย่างยาวนานจากทุนรอนในกระเป๋า 2 ล้านบาท ไต่ระดับความสูงสู่พอร์ตหุ้นหลัก "พันล้านบาท" ย่อมมีวัน "ล้า" แม้เขายังจากตลาดหุ้นที่เต็มไปด้วย "น้ำผึ้ง" และ "ยาพิษ" ไปไม่ได้ "เสี่ยยักษ์" วิชัย วชิรพงศ์ ค่อยๆ ลดพอร์ตตัวเองลงเหลือระดับ "ร้อยล้านบาท" และพยายาม Diversify ทรัพย์สินมุ่งสู่ความยั่งยืนระยะยาว นั่นคือการสะสมที่ดินและลงทุนอสังหาริมทรัพย์
ความเป็น "นักฆ่า" ของเรามันหมด สมัยก่อนพร้อมจะสู้พร้อมจะบุก เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะ จากนี้ไปผมคงจะถือหุ้นเท่าที่มีอยู่เพราะหุ้นมันไม่ได้ปรับตัวลงแรง ใครๆ ก็ "เสียว" พร้อมกับยอมรับว่า ตอนนี้หาหุ้นในดวงใจไม่ได้ หุ้นบางตัวขึ้นมา 100-200% จะให้ไปรักมันได้ยังไง มันผิดวิสัยการลงทุน
วันนี้มีทรัพย์สินสักกี่พันล้านแล้ว! คำถามที่กรุงเทพธุรกิจ BizWeek อยากรู้เหมือนกับใครหลายคน "เฮ้ย! ไม่เอา บอกไปเดี๋ยวอันตราย" ชายวัย 55 ปีที่วันนี้ดูฟิตเปรี๊ยะกว่าเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วมาก ร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาดูแกร่งขึ้นเพราะลดอาหารจำพวก "แป้ง" ลง และหันมาว่ายน้ำฟิตร่างกายอย่างหนัก
"คนเราถ้าพยายามจะทำอะไร ถ้าถึงที่สุดแล้วจะเป็นอะไรก็ไม่เสียใจ" ที่จริงเสือเก่าเขียนแผนงาน (ไดอารี่) ประจำปีที่จะต้องทำให้สำเร็จภายในปี 2553 ต้องลดน้ำหนักให้ได้ 2 กิโล และเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุนแต่ก็ดูจะ "พลาดเป้า" ผ่านมาแล้ว 3 ไตรมาสยังทำไม่ได้ทั้ง 2 อย่าง
ระหว่างที่บทความชิ้นนี้ออกเผยแพร่ เสี่ยยักษ์คงกำลังขี่ฮาร์เลย์ เดวิดสัน เที่ยว "แอลเอ" อย่างมีความสุข ขณะที่เจ้าตัวเผยความในใจว่า การที่ได้ควบฮาร์เลย์ใส่เสื้อหนังฝ่าเปลวแดดอันแสนร้อนระอุบนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ การถือหุ้น 500 ล้านบาทไว้ในพอร์ตยังไม่ตื่นเต้นเท่า
ไม่ตื่นเต้นเท่า หลายเดือนมาแล้วที่เซียนหุ้นพันล้านหันมา "เห่อ" ควบเจ้าฮาร์เลย์ เดวิดสัน หนึ่งในความฝันที่แทรกแทนที่เฟอร์รารี่สีแดงคันงามราคาหลายสิบล้านที่จอดทิ้งไว้เพราะกลัว "น้ำ" ช่วงหน้าฝน ตลาดหุ้นเริ่มกลายเป็น "งานอดิเรก" มากกว่าเป็น "อาชีพหลัก" สมัยก่อนที่จ้องหน้าจอเคาะหุ้นแบบเอาเป็นเอาตาย..วันนี้เขามีเวลาทำตามความฝันมากขึ้น
"บางวันเดินเข้าห้องน้ำเอาน้ำลูบหน้าตัวเอง มองกระจก วันนี้ (กู) ซื้อหุ้นอะไรไม่ได้สักตัว" พลังไฟของเซียนหุ้นพันล้านเริ่มสัมผัสกับสัญชาตญาณ "เสือแก่" นาทีนี้เจ้าตัวขอหลีกทางให้กับ "แวลูอินเวสเตอร์" ที่มาแรงแซงทางโค้งกำไรกัน 200-300% สำหรับปีนี้ยอมรับว่าตัวเองมองตลาด "ผิด" คิดว่าการเมืองคงไม่จบง่ายๆ ตอนนี้เล่นหุ้นน้อยลงเยอะ (มาก) เหลือประมาณ 1 ใน 3
เสือเก่าแห่งตลาดหุ้นค่อยๆ ถอด "เขี้ยวเล็บ" เริ่มเข้าสู่ "วัยชรา" ของวงจรตลาดหุ้นที่มีเซียนหุ้นรุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบทุกวัน เขายอมรับโดยดุษณีว่าคลื่นลูกใหม่ในวงการนี้กำลังมาแทนที่คลื่นลูกเก่า
"ผมมันเป็นพวกเซียนหุ้นรุ่นสุดท้ายแล้วล่ะ เว็บไซต์ PANTIP ก็ไม่เคยเข้า ประชุมผู้ถือหุ้นก็ไม่ไป คอมพานีวิสิท (ไปเยี่ยมชมกิจการ-สัมภาษณ์ผู้บริหาร) ก็ไม่ไป เล่นหุ้นอ่านหนังสือพิมพ์แค่วันละ 3 ฉบับ ที่ยังเหลืออยู่และเหนือกว่าคือประสบการณ์"
เขาบอกแม้ความเป็น "นักฆ่า" จะไม่เหมือนเดิม แต่สัญชาตญาณของ "เสือเก่า" ยังไม่หมด เมื่อไม่นานมานี้ช่วงชุลมุน 3จี เสี่ยยักษ์ใช้จิตวิทยาการลงทุนหยิบกำไรหุ้น ADVANC ไปเหนาะๆ 8 ล้านบาทจากการเล่น "สวนทางตลาด" และถือ N-PARK เพียง 2 วันกำไรไป 10 ล้านบาท
"ผมเล่นมันๆ มากกว่า หุ้น N-PARK วันนั้นอยู่ที่ 0.3 บาท หลานผมดูงบไตรมาส 2/2553 บอกว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 210 ล้านบาท ที่จริงไม่ได้เป็นกำไรจากการดำเนินงานแต่รับรู้กำไรจากการขายโรงแรมโนโวเทลบีช รีสอร์ท พันวา ภูเก็ต เราก็คิดว่าเอ็นพาร์คมันขาดทุนมาตลอด ถ้าประกาศกำไรอย่างนี้ก็เล่นได้ ตอนนั้นมันมี Offer (เสนอขาย) ราคา 0.4 บาท อยู่ประมาณ 1,000 ล้านหุ้น ผมเคาะขวาซื้อ 500 ล้านหุ้น ใช้เงินไป 20 ล้านบาท ไปขายที่ 0.6 บาท เล่น 2 วันได้กำไร 10 ล้านบาท"
เสี่ยยักษ์ บอกว่า ความเป็นนักเลงเก่ายังมีอยู่ แต่สไตล์โบราณมากๆ ไม่มีทางจะไปสู้คนอื่นเขาได้ ทุกวันนี้เหลือเล่นแต่ตัวใหญ่ๆ ไม่กี่ตัว PTT, PTTEP, BANPU "ผมว่าผมเป็นนักลงทุนรุ่นสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ในตลาดหุ้น" เจ้าตัวยอมรับ
ช่วงที่ผ่านมาเสี่ยยักษ์ลบชื่อตัวเองออกจากพื้นที่ข่าว หลังมีชื่อย่อ "ย" เป็นผู้ปล่อยข่าวอัปมงคล เพื่อหวังผลประโยชน์จากการ "ทุบหุ้น-ปั่นหุ้น" เมื่อวันที่ 14-15 ตุลาคม 2552
"ตอนนั้นผมโดนหนักถูกทำร้ายจิตใจมาก ผมไม่คุยกับใครเลย อยู่เงียบๆ เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ ชีวิตผมมาถึงจุดนี้เราเกินพอแล้ว ไม่มีทางทำเรื่อง (เลวๆ) แบบนี้"
เมื่อไม่นานมานี้ ชื่อวิชัยโผล่ในนามนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่ เป็นเจ้าของ บริษัท อัครวิชัย พัฒนา จำกัด พัฒนาที่ดิน 120 ไร่ บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.19 อำเภอบางพลี ที่เขาซื้อไว้เมื่อปลายปี 2552 ทำธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้าให้เช่า รวมทั้งเป็นเจ้าของที่ดิน 56 ไร่ ติดชายทะเลระยอง ปัจจุบันซื้อเพิ่มเป็น 70 ไร่ มีแผนจะพัฒนาเป็น "บูติคโฮเต็ล" ในอนาคตอันใกล้ และยังเป็นเจ้าของที่ดินอีกกว่า 1,000 ไร่ ที่อำเภอแกลง เดิมเคยเป็นสนามกอล์ฟหินสวยน้ำใส ปัจจุบันแบ่งที่ดิน 500-600 ไร่ ปลูกต้นยางนา (ไม้เศรษฐกิจ) ทิ้งไว้ ในอนาคตมีแผนจะพัฒนาที่ดินที่เหลือเป็นสนามกอล์ฟด้วย
"ช่วงที่ผ่านมา ผม Diversify เอาเงินออกจากตลาดหุ้นมาเยอะเลย ซื้อที่ดินเก็บไว้ "ไม่เน่า-ไม่เสีย" แถมดูเหมือนจะเป็นการออมเงินประเภทเดียวที่เอาชนะ "เงินเฟ้อ" ได้ดี และถ้ากลับไปดูคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตติดอันดับ 1 ถึง 10 ทั้งในประเทศไทยและของโลกล้วนมาจากอสังหาริมทรัพย์แทบทั้งนั้น"
ปัจจุบันเจ้าตัวยอมรับว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ในที่ดินและลงทุนอสังหาริมทรัพย์มากกว่าในตลาดหุ้น "ถ้าผมเก่งจริงจากพอร์ตร้อยล้านก็กลับไปใหญ่เหมือนสมัยก่อนได้ แต่ถ้าผมกลับไปไม่ได้ข้างหลังผมก็ยังเหลือเยอะ"
หลักคิดของเซียนหุ้นรายนี้ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์คือลงทุนเท่าที่มีกำลัง "ไม่คิดสร้างหนี้" เพราะหนี้ทำให้เกิด "ทุกข์" ถ้าคนเรารู้สึกว่า "พอแล้ว" จะไปหาความทุกข์มาเพิ่มอีกทำไม
"ที่ดินก็มีอยู่แล้ว กู้ก็ไม่กู้ ทำธุรกิจจะแพ้ได้ยังไง ผมถือคติไว้เลยว่าทำธุรกิจจะไม่เป็นหนี้จะไม่กู้ ถ้าไปทำคอนโดขายเป็นหนี้เขาชีวิตก็ต้องเป็นทุกข์อีก ชีวิตวันนี้มัน(เกิน)พอแล้ว ทำไมต้องไปสร้างหนี้ สไตล์ผมจะค่อยๆ เติบโตจะไม่เริ่มจากทำอะไรใหญ่ๆ"
วิชัยเล่าว่า ที่ดินบริเวณถนนบางนา-ตราด กม.19 มีอนาคตมาก ที่ดินผืนนี้ 120 ไร่ ซื้อมาด้วยต้นทุนที่ถูกมาก เพราะเป็นที่ดิน "ตาบอด" ไม่มีทางเข้าออก ที่ดินรอบข้างขายไร่ละ 7 ล้านบาท แต่มีคนมาเสนอขายให้ในราคาแค่ "ครึ่งเดียว" วิธีแก้ปัญหาก็คือไปร่วมทุนกับเจ้าของที่ดินด้านหน้าที่ติดถนนให้เขามาร่วมหุ้นด้วย
"เขาไม่มีเงินร่วมทุน ผมก็ให้ยืมคิดดอกเบี้ย 8% ต่อปี แล้วให้หุ้นบริษัทเขา 49% แต่เขาต้องมอบภาระจำยอมทางเข้าออกให้เรา เขาแฮปปี้มาก ราคาที่ดินตาบอด (120 ไร่) ก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ผมไม่เอาเปรียบคนอื่น ผมก็เลยโชคดีได้หุ้นส่วนดี เขาจัดการให้เราหมด ไม่ต้องเหนื่อยติดต่อกับหน่วยงานราชการและหน่วยงานท้องถิ่น ผมถามเพื่อน 10 คนบอกว่าคุณให้เขาเยอะไป ถ้าไม่มีที่ดินเข้าออกเราก็ทำอะไรไม่ได้ ผมคิดว่า "วิน-วิน" ทั้งสองฝ่าย"
ชีวิตวันนี้ "ผมมีอิสระ สบายใจ ภาระอะไรก็ไม่มี" ที่ดินระยองซื้อมาตั้งแต่ยังไม่ฮิต ขับรถไปตระเวนดูที่ดินติดทะเลอยากได้ที่ปราณบุรีไร่ละ 21 ล้านบาท ซื้อไม่ไหว มาได้ที่ดินริมทะเลระยองไร่ละ 3-4 ล้านบาท ผมเอาหลักการลงทุนในตลาดหุ้นมาใช้ในการซื้อที่ดิน คือซื้อเก็บไว้ตอน "ราคาถูก...ตอนยังไม่ฮิต" แล้วผมจะ "แพ้" ได้ยังไง
"ผมคิดว่าถ้าได้ดอกเบี้ยปีละ 4% ทบต้น เงิน 1 ล้านบาท 16 ปี เงิน 1 ล้านบาทจะเป็น 2 ล้านบาท ถ้าผมเอาเงิน 3 ล้านบาท ซื้อที่ดิน 1 ไร่ 16 ปี จะเป็นไร่ละ 6 ล้านบาทไม่ได้เหรอ ผมคิดง่ายๆ แบบคนไม่มีประสบการณ์แต่ใช้ชั้นเชิงนักลงทุน ตอนไปดูที่ดินที่ระยองไปกับเพื่อน 5 คน พอกลับมาทุกคนหนีผมหมด เลยต้องเอาคนเดียว"
เบื้องหลังการเป็นนักลงทุนที่ดินของเสี่ยยักษ์ เจ้าตัวเล่าแบบขำๆ ว่า จุดเริ่มต้นไม่ได้คิดเรื่องจะเป็นนักพัฒนาที่ดินอะไรเลย ชีวิตผมมีความฝันว่าอยากมีบ้านริมทะเลสักหลังก็เลยชวนเพื่อนไปดูว่าจะเอาตรงไหนดี ไปดูที่พัทยาไร่ละ 30 ล้านบาทซื้อไม่ไหว ไปดูแถวหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ก็แตะไม่ลง ไปปราณบุรีไร่ละ 21 ล้านแพงไป ผมเลยต้องเลี้ยวรถกลับมาที่ระยอง ภาพลักษณ์มันไม่ค่อยดีทำคอนโดค้างไว้เยอะขายไม่ออก เป็นจังหวัด "ปราบเซียน" ราคาที่ดินก็เลยยังไม่แพง
"ที่ดินของผมอยู่ใกล้ๆ โรงแรมโนโวเทลระยอง อยู่ไปทางอำเภอแกลง พอผมซื้อเสร็จ โครงการภูผาธาราของตระกูลวิไลลักษณ์ มาขึ้นติดกับที่ดินของผมเลย ผ่านมา 3 ปีตอนนี้เขาขึ้นคอนโดแล้ว 3 แท่ง แถมในนั้นมีโรงแรมแมริออทอีก คิดดูว่าผมโชคดีขนาดไหนเลยซื้อเพิ่มติดกับที่เดิมในราคาไร่ละ 8 ล้าน ตอนนี้มีที่ดินติดทะเลระยองทั้งหมดประมาณ 70 ไร่ "ต้นทุนเฉลี่ยผมถูก" นี่คือหลักการเดียวกับการเล่นหุ้น ผมต้องขอบคุณคุณวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ที่มาลงทุนติดกับที่ดินของผม"
ตอนนี้ รีสอร์ท (บูติคโฮเต็ล) ที่ระยองกำลังอยู่ในขั้นตอนออกแบบ เฉพาะโครงสร้าง 200 ล้านบาท ส่วนที่ดินสนามกอล์ฟเก่า 1,000 ไร่ (ประมูลมาไร่ละประมาณ 2 แสนบาท) ปลูกยางนาต้นใหญ่ๆ ไว้ครึ่งหนึ่งต้องรอผลตอบแทน 15 ปี "ผมคิดว่าถ้าคุณคิดสั้นๆ ก็ปลูกข้าว ปลูกอ้อย ถ้ามองยาวเก็บไว้เป็นมรดกก็ต้องปลูกไม้ยืนต้น"
เสี่ยยักษ์ บอกว่า การทำรีสอร์ทเป็นหนึ่งในความฝันที่อยากทำ จะไม่กู้ ไม่ทำใหญ่ หวังแค่ให้มันเลี้ยงตัวเองได้ก็พอใจ ตอนนี้ส่งลูกสาวไปเรียนการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์ไปได้ 7-8 เดือนแล้ว ลูกคนนี้จบปริญญาตรีวิศวกรรมเคมี จากจุฬาฯ แต่เขามีความฝันอยากมาบริหารรีสอร์ท "ทุกครั้งที่ผมโทรศัพท์หาลูก จะถามเขาเสมอว่าหนูยังมีความฝันอยู่มั้ยลูก เป้าหมายชีวิตหนูยังเหมือนเดิมมั้ย" คนเราต้องมีความฝันและตั้งใจแน่วแน่ ทำอะไรถึงจะสำเร็จ
ล่าสุดก็เพิ่งบินไปสหรัฐอเมริกาไปขี่ฮาร์เลย์เที่ยวกับเพื่อนคนไทยที่ไปด้วยกัน 11-12 คน ปัจจุบันเสี่ยยักษ์มีฮาร์เลย์แล้ว 2 คัน ตระเวนเที่ยวต่างจังหวัดมาแล้วหลายทริปที่ระยอง หัวหิน เขาใหญ่ สุพรรณบุรี
"ผมมีฝันอยากมีรถสปอร์ต (เฟอร์รารี่) ก็มีแล้วแต่เพื่อนน้อย ขี่ฮาร์เลย์มีเพื่อนเยอะ เคยจะไปขับเครื่องบินแต่แฟนห้ามไม่ให้ไป ขี่ม้าก็อยากลองแต่ยังไม่มีโอกาส ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำตามความฝันได้มันต้องพร้อมก่อน หลานผมอายุ 27-28 แต่ไปตีกอล์ฟเสียเวลาทั้งวัน "มันไม่ใช่" คุณไปวิ่งสวนลุมดีกว่า ผมห่วงเด็กรุ่นใหม่ที่กระโดดเข้ามาตลาดหุ้นเพราะคิดว่ารวยเร็ว ผมว่าอันตราย คุณไปหางานทำรู้จักวิธีหาเงินก่อนดีกว่า"
เซียนหุ้นรายใหญ่ เล่าความในใจให้ฟังว่าเวลาจะไปขี่ฮาร์เลย์จะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง อารมณ์มันช่างแตกต่างจากการตัดสินใจซื้อขายหุ้นเป็นร้อยๆ ล้านบาท มันไม่ตื่นเต้นอะไรเลย
"บ้านชายทะเลที่ระยองของผมรับแขกฮาร์เลย์หลายทริปแล้วนะ พอไปถึงก็เอาเรือเร็ว (สปีดโบต) ออกไปกินข้าวกลางวันที่เกาะเสม็ด แล้วไปนอนเล่นกันที่เกาะทะลุ 3-4 โมงเย็นก็กลับ ส่วนเฟอร์รารี่ขับน้อยช่วงนี้หน้าฝนน้ำเข้าเครื่องแล้วยุ่ง เห็นมั้ยว่าเหรียญ (ทุกอย่าง) มันมีสองด้านเสมอ"
ชีวิตในวัย 55 ปีวันนี้ของเสี่ยยักษ์ จึงไม่ต่างไปจาก "ชีวิตเกษียณ" ของเซียนหุ้น เจ้าตัวกำลังไล่ล่า "ความฝัน" ที่ขาดหาย และ Diversify ความมั่งคั่งสู่ความยั่งยืน

ต่อมาเรื่องภาพใหญ่
ให้แค่1300-1400 รอปรับฐานในเดือนหน้า
1.QEยุโรปไม่น่ามาไทยใน2ปีนี้
2. ส่งออกไทย70% ยังแย่มาก ปีที่แล้วมค.ฐานต่ำ ปีนี้ต่ำกว่าเดิมอีก(เห็นกราฟแล้วใจหาย)
ไทยไม่ปรับโครงสร้างส่งออกมาสิบปีแล้ว หลังสับพรามเราก็ยังไม่ฟื้น
3. นักวิแคะปรับกำไรset จาก127ลงมาเรื่อยๆตลอด14เดือน เหลือราวๆ100 (กราฟดิ่งลงตลอดทาง)
4. เมย. ผลประกอบการออก แบ็งค์มาก่อน เดาว่าน่าจะแย่ หนี้ครัวเรือนสูงมาก นักวิแคะปรับลดแน่
5. กบข.ขอเพิ่มผอร์ทตปท. จาก20%เป็น40% กองทุนอาจขายออกมารอตั้ง trigger fund
ฝรั่งเหลือแสนนึงแต่ยังขายออกอีกหมื่นนึง ปอบมีหมื่นนึงแต่ขายห้าพัน
รายย่อยไทย โดนสามรุมหนึ่ง ได้หุ้นเพราะตั้งซื้อรอ
6. เทคนิค แตะ1600 สามครั้ง ไม่ผ่าน น่าจะลง
หุ้นแนะนำ
หุ้นท่อแอร์ กลับตัว จากธุรกิจย่อยที่ขาดทุน2-3ปีมา ถ้าแค่ไม่ขาดทุน=โต20%
หุ้นถ่านหินใหญ่ จากจะspin-off โรงไฟฟ้า
(แอบเห็นในชีทมีดาวเทียม หวยชาเขียว อสังหาA.. แต่ไม่ได้บอก)

ช่วงบ่ายเป็นเสี่ยgiant กะหลานไฟแรง ไอเดียน่าสนใจราวๆ
ซื้อหุ้นทั้งทีต้อง"ทำตัวเป็นเจ้าของกิจการ" ต้องรู้ว่าดียังไง แบบไหน ไปดูให้รู้จริง
ถ้าอีกสามเดือน หนึ่งปี สามปี กิจการเรายังดีกว่าเดิม จะไม่สนเรื่องตลาด การเมือง เศรษฐกิจ บั่นทอนความรวยเปล่าๆ
อยู่ฝั่งคนส่วนน้อย คำนวนให้ดีว่าถ้าชนะ ชนะเท่าไร ด้วยเหตุผลอะไร เป็นไปได้แค่ไหน ห้ามมโน ถ้าแพ้ แพ้เท่าไร
คิดเหมือนเปิดร้านขายของ ซื้อสินค้าเข้าร้านแล้วขายให้ได้ เค้าฮิตอะไรขึ้นมา เรามีของอยู่คนเดียว
ดูออพเดย์ บริษัทไหนไม่ดีจะไม่มาออก ต้องมีดีถึงมาออก
เทคนิคัล เป็นดัชนีชี้ความถูก-แพง เอาแต่ตัวเดียวที่เราเก่ง ไม่ต้องไปยุ่งยากหลายอย่าง ไม่มีคะแนนท่ายากสำหรับการลงทุน
ต้องมี"หุ้นในดวงใจ"ในภารกิจ ใครกลัวก็กลัวไป ถ้าอีกสามเดือน หนึ่งปี สามปี หุ้นเรายังดี เรื่องอื่นไม่ต้องสน
(หลานไฟแรง ถือหุ้นตัวเดียว ก่อสร้างรอดูเหมืองโปแตส ถนนไปทวาย2.5ชั่วโมงจากกทม.รอราดยาง)
ทุกคนที่ประสบความสำเร็จ จะมีหุ้นในดวงใจเสมอ ดร.นิเวศน์ก็มีcpall ซื้อตอนปันผล7% ผมก็เคยมีปตท.
ปัญหาคือ ทนความรวย ทนแรงกดดันไม่ได้ในระหว่างทาง
ผิดถูกอยู่ที่ตัวเรา เอาตัวเองเป็นหลัก ไม่ต้องอ้างอะไรทั้งนั้น ใจไม่ถึงมากกว่า
ของที่ไม่รู้ อย่ายุ่ง ทอง currency derivative ยังไม่เคยเห็นใครชนะจากเดริเวทีฟ ออกแบบมาป้องกันความเสี่ยง
แต่เอามาเล่นแบบพนัน 10เท่า หุ้นลงต้องขายทั้งderivative กับหุ้นสามัญ เป็นsnowball แต่ถ้าขึ้นก็แรง

คำถาม
แนะนำหนังสืออ่าน?
ในเฟสบุคพ่อสอนลูกลงทุน มีอีบุคสามสิบเล่ม โหลดอ่านได้ฟรี
มีหมอคนนึงอยู่ปัตตานี(นราธิวาส) ชื่อหมอฝน เคยไปคุยด้วย
เริ่มจากเงินเจ็ดหมื่น ตอนนี้มีเป็นร้อย..(ว้า..เสียดายแทนอ.fonจัง จากหมื่นเหลือแค่ร้อยเอง..)
บอกว่า อ่านหนังสือทุกเล่มที่มีคำว่า"หุ้น"

สุดท้ายอยากจะบอกอะไร?
คนที่จะชนะ ต้องมุ่งมั่นแบบหมอฝน(น้องสาวเล่าว่าอ.fonจะทำอะไร จะทำให้สุดๆ เกือบได้ไปเรียนผ่าสมอง)
จะเปลี่ยนชีวิต แค่มาฟังวันนี้ เป็นแค่จุดเริ่มต้น ฟังไปแล้วไม่ได้กลับไปทำอะไร ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คนที่ผ่านอะไรมามากแบบผม ถอดเสื้อมา แผลเต็มตัวไปหมด แต่จะให้กลับไปเป็นแบบเดิม ไม่มีทาง

วีไอ แผลเต็มจากเอาสีข้างเข้าถู รายงาน
"Become a risk taker, not a risk maker"
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1190

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:อาจารย์หมอหนึ่งนี่เป็นคนที่ไม่เคยเป็นน้ำเต็มแก้ว

เรียนรู้ ถ่อมตน พัฒนา

อายุเป็นเพียงตัวเลข เสียงหัวเราะเป็นยาอายุวัฒนะ

รวยแต่สมถะ สะสมเพื่อน

คือ ผมโคตรชอบ หมอหนึ่งเลยครับ
สุดยอดครับ ผมว่าระดับอ.หนึ่งแล้วคงไม่ได้มองที่เรื่องอิสรภาพทางการเงินอะไรกันแล้วมั๊งครับ

ผมขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ ผมว่าคนเราพอผ่านช่วงชีวิตในแต่ละช่วง ความต้องการหรือมุมมองในชีวิตมันจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ น่ะครับ

อย่างผมเอง รู้จักหุ้นครั้งแรกตอนอยู่ปี 1 ได้ยินพวกพี่ ๆ คุยกันเรื่องหุ้น กำไรโน้นนี้ เราก็อยากมีเงินบ้าง ช่วงนั้นเป็นช่วงปี 36 ตลาดหุ้นกำลังพีค ๆ ในตอนนั้นผมก็คงไม่ต่างกับเด็ก ๆ ในยุคนี้

เรียนไป ติดตามเรื่องหุ้นไปมีซื้อขายบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เนื่องจากไม่สะดวกเพราะการเรียนก็ทำอะไรได้ไม่ค่อยเต็มที่ พอร์ตนี่ก็ทิ้ง ๆ ไปบ้างช่วง ติดลบบาน

กลับมาใหม่เมื่อ 7-8 ปีก่อนคราวนี้มีเต็มที่ เราเองก็มีพื้นมาจากแนว "เล่นหุ้น" อยู่แล้ว มันเลยใช้เวลาไม่มากนัก

ตอนค่ำ ๆ ก็นั่งดูโน่นนี่ ข้อมูล ฯลฯ ผ่านมาจนถึงจุดนี้ ก็ไม่ได้ร่ำรวยมากมายอะไรนะครับ แต่มันก็ทำให้เรามั่นคงขึ้นกว่าเดิม

เดิมเคยตั้งเป้าไว้ที่จุดหนึ่ง แต่เวลาผ่านไป ด้วยอัตรากำไรแบบทบต้นที่ทำได้ก็คิดว่าถ้าไม่สะดุดหนัก ๆ ก็น่าจะไปถึงได้ไม่ยากนัก บางครั้งก็คิดไปโน่นว่ามากกว่านั้นอีกก็น่าจะไปถึงได้ไม่ยาก ถ้าเรายังมีชีวิตมีสุขภาพที่ดีและอยู่ได้นานพอ

เวลาผมอ่านเรื่องราวของพวกเซียนชื่อดังไม่ว่าจะไทยหรือเทศนี่ ผมยอมรับนะ ว่าผมคิดเสมอว่า "ผมต้องทำให้ดีกว่า" ทำได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง บางทีมันไม่ใช่ความต้องการเรื่องเงิน แต่มันเหมือนความพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองน่ะครับ บางทีเราก็มองว่าเซียนเค้ามีจุดแข็งคืออะไร เรามีอะไรที่เค้าไม่มี คิดไปเรื่อย ๆ น่ะครับ

ถามว่าพอผ่านไปนานเข้า บางทีมุมมองมันเปลี่ยน เดี๋ยวนี้กลับต้องการซื้อขายหุ้นให้น้อยลง กำไรจะลดลงไปบ้างก็ช่างมัน ไม่อยากไปตื่นตระหนกเวลาที่หุ้นลงมากนัก

เดิมทีเคยอยากมีบ้านใหญ่แบบมีบริเวณ แต่พอมานั่งคิด ขนาดบ้านเล็ก ๆ เคยมีคนงานหนึ่งคน ยังต้องมานั่งปวดหัวเรื่องคน เวลาเค้าลากลับบ้านหรือลาออก แบบนี้บ้านยิ่งใหญ่อาจจะทำให้เรายิ่งทุกข์เรื่องต้องหาคนมาช่วยดูแล

เรื่องรถยนต์ไม่ต้องพูดถึง ใครพูดถึงรถซุปเปอร์คาร์ ผมก็มีกับเค้าเหมือนกันครับ รถคันหนึ่งโคตรจะซุปเปอร์คาร์เลยครับ เพราะเป็นรถญี่ปุ่นขับมากำลังจะเข้าปีที่ 16 :D ตอนที่ซื้อรถคันใหญ่ขึ้นเพราะสมาชิกในบ้านเริ่มเยอะ คันเก่าเล็กเกินไป เคยคิดจะขายทิ้ง แต่ก็คิดว่าไม่คุ้ม เก็บไว้ขับเล่น ๆ ดีกว่า เคยคิดว่าถ้าตัวเองมีรถราคาแพง คงไม่ชอบแน่ เพราะเป็นคนไม่ชอบวุ่นวายเรื่องรถ ถ้าต้องไปนั่งขับรถเอาไปทำสี ตกแต่งให้สมฐานะคงไม่ไหว ครั้นจะขับไว้โชว์สาวก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร เพราะครอบครัวก็มีแล้ว :D

เรื่องลูกก็เรียนประถม รร.สังกัดมหาวิทยาลัย ค่าใช้จ่ายไม่ได้มากมายอะไร เรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพ อาศัยตัวเองมีความรู้อยู่ก็ดูแลตัวเองไป ส่วนหนึ่งก็เกาะภรรยาอยู่เพราะอาศัยสิทธิข้าราชการของภรรยาคุ้มหัวอยู่ :D

รวม ๆ ก็รู้สึกอยู่ได้น่ะครับ หลัง ๆ เลยเริ่มรู้สึกว่า เป้าหมายเรื่องหุ้น ไม่ต้องไปวางให้มันใหญ่โตมากนัก วันนึงมันคงจะไปถึง ถ้าไม่ได้ไปทำอะไรที่เสี่ยงจนเกินไป

บางช่วงเคยเบื่อ ๆ หุ้นก็มีนะครับ บางทีห่าง ๆ บ้างก็ไม่ยึดติด ผมว่าคนที่เล่นหุ้นใหม่ ๆ ก็คงจะมีความรู้สึกแบบผมเมื่อสมัยก่อน แต่พอผ่านไป บางทีเราก็คิดอีกแบบหนึ่ง ไม่อยากยึดติดกับเรื่องนี้มากเกินไป

สุดท้ายกลายเป็นรู้สึกว่า ต้องการประสบความสำเร็จแบบเราไม่ต้องไป action อะไรกับพอร์ตมากนัก

สมัยเคยไปนั่งเล่นที่ห้องค้า ผมเห็นบรรดาอาม่าอาซิ้ม มาจับกลุ่มเก็งกำไรกัน ผมคิดว่าส่วนหนึ่งที่เค้ามาห้องค้านี่ น่าจะเพราะมาเข้าสังคม เพราะอยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ มาตลาดหุ้นได้ฝึกสมอง ลดโอกาสของสมองเสื่อมด้วยซ้ำ กำไรน่าจะแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ

อันนี้เป็นความรู้สึกของผม คนที่ผ่านประสบการณ์เรื่องหุ้นทั้งช่วงที่ใกล้ชิดและห่าง ๆ น่าจะเรียกได้ว่านานระดับหนึ่ง คนอื่นผมก็ไม่รู้ว่าเค้าคิดกันยังไงนะครับ :D
"Become a risk taker, not a risk maker"
ภาพประจำตัวสมาชิก
romee
Verified User
โพสต์: 1850
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1191

โพสต์

19853.jpg
ควันหลงแดงเดือดครับ :la:
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
You only live once, but if you do it right, once is enough.
arica
Verified User
โพสต์: 1112
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1192

โพสต์

มีหนังสือออกใหม่มาแนะนำ ครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
arica
Verified User
โพสต์: 1112
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1193

โพสต์

ภาคต่อของเล่ม 1
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
arica
Verified User
โพสต์: 1112
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1194

โพสต์

ไม่ทราบว่าเป็น จารย์ตี๋ ในนี้หรือเปล่า ครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
syj
Verified User
โพสต์: 4241
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1195

โพสต์

^
ไม่ใช่ อ. Ty ครับ
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1196

โพสต์

ขอบคุณท่านaricaกะท่านsyj ที่มาแนะนำหนังสือ,บทความเพิ่มความหลากหลายของห้องนะครับ
ปกติห้องนี้บางส่วนจะแบบหนังสือsecurity fundamental analysis บางส่วนเป็นtechnical tips and tricks
บางส่วนเป็นหนังสือพิมพ์ปั่นหุ้นเวอร์ชั่นขายหัวเราะ(มั้งฮึ)

ขอบคุณอ.NBที่มาให้กำลังใจด้วยฮะ
ในหนังสือsnowball อ.บัฟเฟต์ท่านว่า ความสำเร็จขึ้นกับ เรามีคนที่เราอยากให้บอกหุ้น เอ๊ย รักเรากี่คน ผมก็กำลังสะสมมิตรภาพอยู่ครับ
เรื่องอายุเป็นเพียงตัวเลขก็ใช่เลยฮะ แต่ถ้าเราเชื่อทฤษฎีbig bangกะวัฏฏสังสาร ทุกคนอายุเท่ากันฮะ ใครเก่งกว่าจะอายุน้อยกว่า
(คือว่าเวลาเราคุยกะอาจารย์ที่ไบรท์มากๆนี่ ต้องพยายามเอาทฤษฎียากๆมาอ้างมั่ง อ.จะได้รู้สึกว่าเราพยามมั่วแล้ว)
เรื่องความถ่อมตัวเนี่ย ผมกำลังแข่งกะท่านsaichonเค้าฮะ(หลังจากที่แข่งกันลอกหุ้นแล้วแพ้เค้า)
ถ้าไม่ชนะ เห็นจะต้องฝึกวิชาท่าไม้ตาย ไปไหว้หมาหน้าเซเว่น เลือกสาขาที่หมากะคนเยอะๆเลย ไห้มันรู้ไป..

อ.lekyฮะ
เรื่องลูกเนี่ย พ่อแม่ก็มักจะอยากให้มันเรียนinter(national)เป็นส่วนใหญ่นะฮะ แต่มันดันเรียนแบบinter(mittent)
คือเรียนมั่ง ไม่เรียนมั่งเนี่ย ไม่รุเอาไงกะมันดีฮะ
เรื่องรถ ผมก็สูสีกะอ.นะฮะ รถใหม่ที่สุดที่ผมมีก็16ปี แต่คันคู่ใจนี่ก็20ปีแระ รุ่นเบสิกที่สุดฮะ ถุงลมอนามัย ถุงยางนิรภัย ก็ไม่มี
เพื่อนบ้านก็ไม่มีปัญหาเสียงดังจากเครื่องสิบสูบ สิบสองสูบแบบพวกซุปเป้อร์คาร์หรอกฮะ
มีปัญหาแค่กลัวชิ้นส่วนตกหล่น เกะกะหน้าบ้านเค้า กะกลัวบาดทะยัก เวลาขับผ่านบ้านเค้าแค่นั้นฮะ
ตอนนี้ก็วางแผนจะอัพเกรดไปขี่ โชเล่เดวิดสัน(โชเล่=ซาเล้งมอไซค์พ่วงข้าง)ฮะ เด๋วรอก๊วนก่อน

ท่านGGฮะ
อ.tyจะอยู่บางกอก ราวๆมีนาเมษา เพื่อเข้าประชุมAGMนะฮะ อย่าลืมลอกหุ้นมาบอกกันด้วย
ปล.ท่านGGคงไม่ต้องถึงขนาดพาลูกเข้าAGMฝึกวิชาลงทุนตั้งแต่เล็กๆเลยมั้งฮะ รอให้เค้าเดินได้ก่อนก็ได้ฮะ

ท่านromeeฮะ
คุณหมอเช กูวาร่า ช่วงแรกๆ ท่านเป็นแรงบันดาลใจของฝ่ายการเมืองกลุ่มย่อยใช่มั้ยครับ
ต่อมา ท่านเป็นไอด้อลของวงการlogistic (อยู่ท้ายรถสิบล้อ)
ตอนนี้เพิ่งทราบว่าเข้าวงการกีฬา และตลาดทุนแล้ว ขอบคุณที่มาอัพเดทข้อมูลให้นะฮะ

ท่านkongkittiฮะ
ขอบคุณที่แต่งตั้งผมเป็นหัวหน้าคณะ(เพิ่มจากท่านoattyที่ให้ผมเป็นผู้แส่ข่าว)อีกตำแหน่งนะฮะ ผมจะทำให้ดีที่สุด

(key H maj7-11)
เรายิ่งทำแล้วยิ่งงง ขอเธอจงโปรดเข้าใจ แบบฮา ฮา.. (เสียงสูงปรี๊ดเพิ่มอีกสามoctave)
ผอร์ทเราคงดีในไม่ช้า ขอคืนความแสบให้เธอ.. เม่าวีไอ..

หัวหน้าคณะรักษาความตลกแห่งชาตินี้ ตอบกระทู้
ก่อนขอตัวไปเตรียมเข้าattitiude adjustment camp
samatah
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1197

โพสต์

เรียน จารย์หมอเล็ก

ผมจำไม่ได้ว่าเริ่มสนทนากับ จารย์หมอเล็กเมื่อไร แต่ในใจตอนนั้นคิดว่า หมอคนนี้ละเอียด หลังจากนั้นได้คุยเรื่องหุ้นมาเรื่อย ๆ จนครั้งหนึ่ง จารย์หมอเล็กให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพ (หัวใจ) ซึ่งเป็นอาการที่เกิดกับผมมาระยะนึง

โหย ผมทึ่งเพราะ จารย์หมอให้รายละเอียดมากกว่าหมอที่คุยกับผมเสียอีกครับ

และก็รู้สึกเหมือนท่านดำ คือ ขอสมัครเป็นลูกศิษย์ดีกว่า ผมเป็น ฟอลโลว์เวอร์ท่านแบบเหนียวแน่นได้ความรู้เยอะดีมากครับ
บางทีหนังสือเล่มเดียวกัน อ่านเองแล้วมาฟัง จารย์หมอเล็กวิเคราะห์ให้อีกมุมนึง โหย เหมือนเข้าบ้านแล้วเปิดหน้าต่าง แสงสว่างจ้าเข้ามาทีเดียว
..........

วันนี้ได้นั่งอ่านแนวคิดของจารย์หมอเล็กเพิ่มเรื่องบ้าน เรื่องครอบครัวและเป้าหมายในชีวิตแล้ว รู้สึกฮึดสู้กับชีวิตครับ เหมือนได้รับคำแนะนำให้ปรับทัศนคติกลาย ๆ ไว้มาแชร์ ขอบคุณอาจารย์มากครับ



ถามว่าพอผ่านไปนานเข้า บางทีมุมมองมันเปลี่ยน เดี๋ยวนี้กลับต้องการซื้อขายหุ้นให้น้อยลง กำไรจะลดลงไปบ้างก็ช่างมัน ไม่อยากไปตื่นตระหนกเวลาที่หุ้นลงมากนัก

เดิมทีเคยอยากมีบ้านใหญ่แบบมีบริเวณ แต่พอมานั่งคิด ขนาดบ้านเล็ก ๆ เคยมีคนงานหนึ่งคน ยังต้องมานั่งปวดหัวเรื่องคน เวลาเค้าลากลับบ้านหรือลาออก แบบนี้บ้านยิ่งใหญ่อาจจะทำให้เรายิ่งทุกข์เรื่องต้องหาคนมาช่วยดูแล

เรื่องรถยนต์ไม่ต้องพูดถึง ใครพูดถึงรถซุปเปอร์คาร์ ผมก็มีกับเค้าเหมือนกันครับ รถคันหนึ่งโคตรจะซุปเปอร์คาร์เลยครับ เพราะเป็นรถญี่ปุ่นขับมากำลังจะเข้าปีที่ 16 ตอนที่ซื้อรถคันใหญ่ขึ้นเพราะสมาชิกในบ้านเริ่มเยอะ คันเก่าเล็กเกินไป เคยคิดจะขายทิ้ง แต่ก็คิดว่าไม่คุ้ม เก็บไว้ขับเล่น ๆ ดีกว่า เคยคิดว่าถ้าตัวเองมีรถราคาแพง คงไม่ชอบแน่ เพราะเป็นคนไม่ชอบวุ่นวายเรื่องรถ ถ้าต้องไปนั่งขับรถเอาไปทำสี ตกแต่งให้สมฐานะคงไม่ไหว ครั้นจะขับไว้โชว์สาวก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร เพราะครอบครัวก็มีแล้ว

เรื่องลูกก็เรียนประถม รร.สังกัดมหาวิทยาลัย ค่าใช้จ่ายไม่ได้มากมายอะไร เรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพ อาศัยตัวเองมีความรู้อยู่ก็ดูแลตัวเองไป ส่วนหนึ่งก็เกาะภรรยาอยู่เพราะอาศัยสิทธิข้าราชการของภรรยาคุ้มหัวอยู่

รวม ๆ ก็รู้สึกอยู่ได้น่ะครับ หลัง ๆ เลยเริ่มรู้สึกว่า เป้าหมายเรื่องหุ้น ไม่ต้องไปวางให้มันใหญ่โตมากนัก วันนึงมันคงจะไปถึง ถ้าไม่ได้ไปทำอะไรที่เสี่ยงจนเกินไป


มันเทห์มากครับ จารย์หมอเล็ก
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1198

โพสต์

คุณ NB ครับ อย่าได้กล่าวถึงขนาดนั้นเลยครับ เดี๋ยวผมจะตัวลอยน้ำหนักตัวเบากว่าปกติน่ะครับ :D

เท่าที่ผมจำได้ ผมเป็น login คุณ NB มาตั้งนานแล้ว จำได้เพราะรูปประจำตัวน่ะครับ แต่ได้มีโอกาสคุยกับคุณ NB ผ่านทางกระทู้ "วันที่หุ้น -70 จุด" บ่อย ๆ ในฐานะที่คอยให้กำลังใจกันในช่วงที่วิกฤติ รวมทั้งน้อง ๆ อีกหลายคน

จะว่าไปตอนที่ผมเข้ามาในห้องนี้ ก็เพราะเห็นโพสต์คุณ NB นั่นแหละครับ ก็เลยเข้ามาอ่าน น่าจะจากโพสต์ ๆ นี้
Nevercry.boy เขียน:โอ ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อในโรงเจ อยู่นี่เอง :mrgreen:

Posted: Mon Jan 13, 2014 11:46 am
บวกกับเห็นอ.หนึ่งเล่าถึงหุ้นโพย :D เลยเข้ามาคุยด้วยแบบงง ๆ เหมือนกันครับ

เดิมทีผมก็คิดว่าตัวเองคงไม่ได้โพสต์อะไรมากมาย เพราะจะว่าไปห้องหาดใหญ่ก็น่าจะมีเซียนสิงสถิตย์อยู่มาก อันตัวผมเองก็กลัวจะไปพูดอะไรแบบ "ปล่อยไก่" น่ะครับ

คุยไปคุยมาก็เลยไปเรื่อย แต่ออกตัวก่อนเลยว่า อย่าคิดว่าผมพยายามจะสอนใคร ๆ นะครับ เพราะผมบอกเสมอว่ามันเป็นวิธีการที่ผมใช้ ถ้าคิดว่าอ่านไปแล้วได้ประโยชน์ก็เอาไปใช้ครับ

อีกอย่างผมเห็นอ.หนึ่งแกมาโพสต์ยาว ๆ ตอนกลางดึก เห็นน้ำใจแบบนี้ผมก็อยากจะเล่าอะไรบ้างน่ะครับ

เคยคิดไปถึงว่า จะว่าไปการเรียนรู้ถ้าจะได้ประโยชน์สูงสุด บางที่น่าจะเรียนรู้แบบเรียลลิตี้กันไปเลย แบบจบช่วงประกาศงบแล้วใครมีหุ้นเด็ด ๆ ก็งัดออกมาซักคนละ 3 ตัวพร้อมเหตุผล แบบนี้ได้เรียนรู้กันตั้งแต่แรกว่าสุดท้ายมันจะผิดถูกอย่างไร แต่พอมาคิดดูแล้วผมว่าเรื่องแบบนี้มันอาจจะได้ไม่คุ้มเสียครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นมีประโยชน์ทับซ้อน เลยเอาแบบที่เป็นอยู่ดีกว่า

ส่วนเรื่องการดำเนินชีวิต มันเป็นสิ่งที่ผมประสบมาน่ะครับ บางทีอาจจะเป็นประโยชน์ต่อน้อง ๆ บ้าง

หลาย ๆ เรื่อง เรื่องบ้านนี่จริง ๆ ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะครับ แต่ก่อนเคยอยู่บ้านชานเมืองมาสองที่ เป็นบ้านของคนอื่น แต่ไม่ไหวครับ เจอขับรถเช้าเย็นรวม ๆ สองชั่วโมง ไหนจะเสียเวลา ไหนจะค่าทางด่วน ไหนจะค่าน้ำมัน ที่เสียดายที่สุดคือเวลาครับ ผมทำงานแบบนี้เห็นคนกำลังจะตายมาก็มาก คนใกล้ตาย แค่อยู่ได้เพิ่มอีกไม่กี่วัน เค้ายังพยายามจะยื้อให้อยู่ พอผมมานั่งคิด ถ้าผมต้องเสียเวลาเดินทางฟรี ๆ วันละ 2 ชั่วโมง ปีหนึ่งก็ 730 ชั่วโมง ถ้าสมมติ 30 ปี ก็ 21,900 ชั่วโมง ก็ประมาณ 2.5 ปี หลัง ๆ เลยไม่ไหวครับ ยอมหาบ้านที่ใกล้ที่ทำงาน ทีนี้บ้านแบบนี้ที่เป็นมือหนึ่งมันหายากครับ ถ้ามีก็ต้องสร้างเองและแพงมากเกินปัญญาครับ เพราะโจทย์ของผมก็คือ ถ้าผม ภรรยา ลูก ต้องย้ายที่ทำงานหรือที่เรียน ผมต้องไม่โดนกระทบครับ ถ้าผมคิดจะไปหาบ้านสวย ๆ แบบบ้านจัดสรร มันก็หนีไม่พ้นชานเมืองอีก สุดท้ายผมก็ขอแค่บ้านเล็ก ๆ มือสองเท่านั้น แต่ใกล้ห้างใหญ่ โมเดิร์นเทรด ใกล้รถไฟฟ้า BTS MRT ใกล้ทางขึ้นทางด่วน จริงอยู่มันไม่ถึงขนาดเดินไปขึ้นได้ แต่มันก็ถือว่าใกล้ครับ ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องค่าส่วนกลาง

ส่วนเรื่องรถยนต์ ยิ่งตอนที่ผมซื้อรถใหม่ ผมยิ่งเข้าใจมากขึ้นว่า ผมไม่ได้ต้องการรถราคาแพง เพราะแค่ไม่กี่วัน รถผมก็มีรอยขูดขีดเต็มไปหมด คิดว่าเกิดจากรถติดแล้วคงมีมอเตอร์ไซด์มาเฉี่ยวโดน นี่ถ้าผมมีรถราคาแพง ผมคงต้องมานั่งปวดหัว ทุกวันนี้ขนาดรอยเฉี่ยวชน ถ้าไม่รุนแรงผมยังทิ้ง ๆ ไว้เลยครับ พอฝุ่นเกาะมันก็คงมองไม่เห็น ไปทำสี ทำไปมันก็ไม่เหมือนเดิม ทำไปออกมาก็โดนอีก แทนที่จะได้ลดค่าเบี้ยประวัติดีก็เสียสิทธิ์ ถ้าผมไม่ได้รวยแบบมีเลขาหรือลูกน้องคอยจัดการให้ ผมก็ไม่แน่ใจว่าสุดท้ายแล้วรถราคาแพงมันจะเป็นเจ้านายผมหรือผมเป็นเจ้านายมันกันแน่ครับ

เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้านี่ก็เหมือนกันครับ หลัง ๆ ถ้ามี function เยอะ ๆ แบบปุ่มปรับโน่นนี่เยอะ ๆ ผมบอกแฟนเลยว่าไม่ต้องซื้อ ถ้าเราคิดว่าจะให้คนงานเค้าใช้ เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัว ถ้าเราไม่ได้ใช้เอง ปุ่มเยอะ ๆ ใช้ยาก ๆ นี่ คนงานเล่นซะเละครับ ทำไปทำมาต้องมาวุ่นวายเอาไปซ่อมอีก

เรื่องที่เรียนของลูก จริง ๆ ตอนเด็ก รร.ที่ผมเรียนเป็นพวกรร.เรียนฟรีนะครับ เคยมีเพื่อนหลายรุปแบบ ทั้งดีและไม่ดี พอดีพ่อแม่ค้าขาย ต้องส่งลูกเรียนใกล้ ๆ บ้าน ผมเลยพอจะเข้าใจว่าสังคมในโรงเรียนมันก็สำคัญครับ ตอนนั้นเคยคิดว่าจะเอาลูกเข้าเรียนอะไรดี ระหว่างหลักสูตรธรรมดา กับอินเตอร์ คือที่นี่มีสองแบบน่ะครับ แต่ราคาต่างกันสิบเท่า แบบธรรมดาต้องสอบเข้า การแข่งขันสูงมาก อันนี้ป.1 นะครับ ส่วนของอินเตอร์นี่สัมภาษณ์เอา มาลองคิดดู ผมไม่ได้บอกว่าสิ่งที่ผมเลือกมันถูกต้องหรือว่าดีที่สุดนะครับ แต่มองหลาย ๆ ด้าน ในมุมอินเตอร์ ถ้าผมส่งลูกสองคน กว่าจะจบม.ปลายก็คงเกือบสิบล้าน แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ เรารู้สึกว่าเรามีบ่วงแน่ บ่วงแห่งความกังวลว่าเราเป็นเสาหลัก ถ้าเราล้มมันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเด็กเกิดต้องย้ายรร.กลางคันจะปรับตัวได้หรือไม่ ยังไม่นับว่าหลังจบไปแล้ว เมืองไทยยังมีหลักสูตรอินเตอร์ในระดับมหาวิทยาลัยที่ยังไม่หลากหลาย มันจะปิดกั้นเดิกเกินไปหรือไม่ หรือจะต้องมีงบส่งลูกไปเรียนต่างประเทศอีก

สุดท้ายก็เลยเรียนหลักสูตรธรรมดาน่ะครับ โชคดีที่ยังสอบได้ ก็คิดซะว่าเอาส่วนเกินอีกเก้าเท่า มาเรียนภาษาอังกฤษกับจีนเสริมพิเศษเข้าไป โอเคล่ะครับ คงพูดไม่คล่องแบบเด็กอินเตอร์ แต่มันก็ทำให้เราตัดปัญหาเรื่องความเสี่ยงลงไปได้ หายใจได้คล่องขึ้นครับ ก็มองว่าถ้าเค้าโตขึ้นหน่อย อาจจะหาภาษาที่สามให้เรียน พอดีก็เคยได้ยินมาว่าพวกมหาลัยในยุโรปดี ๆ หลายที่เค้ามีทุนน่ะครับ อย่างพวกเยอรมัน เนเธอแลนด์ พวกนี้ คู่แข่งน้อย ถ้ารู้ภาษาของเค้าก็ได้เปรียบมากครับ โอกาสได้เรียนสูงมาก พอดีนึกถึงสมัยม.ปลาย มีเพื่อนจะเอนท์คณะยอดนิยมที่รับทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ มีเพื่อนสามสี่คน ที่เดิมเรียนสายวิทย์แต่พอเทอมสุดท้ายย้ายไปเรียนสายศิลป์เฉย คือเค้าคิดแบบนี้ครับ เค้าคิดว่าเป้าหมายของเค้าก็คือสอบคณะนี้ให้ได้ แล้วทำไมเค้าต้องมาแข่งกับเด็กสายวิทย์ที่แข็งกว่า จริง ๆ เพื่อนกลุ่มนี้ก็เรียนเก่งนะครับ สุดท้ายเข้าป้ายครบทุกคนครับ เรื่องนี้เลยทำให้ผมรู้สึกว่าบางครั้ง ในมุมที่ไม่มีคนมอง มันก็มีสิ่งดี ๆ ที่ไม่ยากจนเกินไปอยู่ครับ เพียงแต่มันอาจจะต้องฝืนกระแสไปบ้างครับ อย่างกรณีของเพื่อนผม กระแสก็คือคนเก่งต้องเรียนสายวิทย์ แต่ถ้าเค้ายังคิดจะไปตามกระแสที่เป็นเพียงความเชื่อ แทนที่เค้าจะทำงานแบบง่าย ๆ ก็จะกลายเป็นงานยาก

มาที่เรื่องหุ้นเดิมทียอมรับว่า ในยุคแรก ๆ ผมมีแนวโน้มไปในทาง VS ด้วยซ้ำ ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าในบางครั้ง ผมอาจจะมีแนวคิดว่า "หุ้นตัวนี้เล่นได้" ปนเข้ามาบ้าง :D แต่หลัง ๆ สิ่งที่รู้สึกก็คือ มันเหนื่อยน่ะครับ เพราะมันจะต้องเปลี่ยนหุ้นบ่อย ๆ พอรู้สึกว่ากำไรมันกำลังจะพีค หุ้นจะวิ่งขึ้นไปตอบรับ เราก็จะขายแล้วเปลี่ยนตัวใหม่ไปเรื่อย ๆ หลัง ๆ ก็เริ่มรู้สึกเบื่อน่ะครับ คือมันก็ประสบความสำเร็จนะครับ แต่มันเบื่อที่ต้องออกไปเสี่ยงกับหุ้นตัวใหม่ ๆ ตลอด หลัง ๆ ก็เลยปรับไปเรื่อย ๆ ครับ สุดท้ายสิ่งที่หวังคือ ไม่ต้องการการลงทุนที่ต้องคอย monitor หุ้นมากครับ ตอนกลับมาเล่นหุ้นแบบเต็มตัว ผมเคยถึงขนาดไปลงเรียนมหาวิทยาลัยเปิด ในคณะวิทยาการจัดการ เผื่อว่าจะเข้าใจเรื่องการลงทุนได้ดีขึ้น หรือไม่ก็อาจจะไปทำธุรกิจอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่พอเรียนจนจบ มันก็ทำให้ผมรู้ว่าจริง ๆ แล้วการลงทุนในหุ้นสิ่งที่สำคัญกว่าคือการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และยังมีอีกหลายเรื่องที่ในมหาวิทยาลัยไม่ได้สอนเช่นเรื่องจิตวิทยาการลงทุนซึ่งสำคัญมาก ส่วนเรื่องแนวคิดจะไปทำธุรกิจนี่สุดท้ายผมลบทิ้งออกไปจากสมองครับ เพราะดูแล้วมันคงเป็นไปไม่ได้ จะให้ผมลาออกจากงานมาทำธุรกิจ เงินก็ไม่มี คนก็ไม่มี พื้นฐานทางครอบครัวก็ไม่มี เจ๊งเห็น ๆ ครับ

จะว่าไปถ้าเรารักษาสุขภาพดี ๆ ถึงผลตอบแทนจะไม่ดีขั้นเทพ แต่อาศัยเรื่องของเวลาเข้ามามันก็ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ครับ คือผมมองว่าการที่พอร์ตมันจะโตมันประกอบด้วยองค์ประกอบสามอย่างครับ คือ
1. ผลตอบแทนทบต้นในระยะยาว
2. การหมั่นเติบเงินเข้าไปในพอร์ต
3. ระยะเวลาการลงทุน

มันคงจะไม่มีประโยชน์ครับ ถ้าผมทำผลตอบแทนได้ดีขึ้นเทพ แต่พอทำได้ครบสิบปี ผมต้องป่วยหนักช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ฉะนั้นผมขอแบบพอประมาณแบบเราไม่ต้องเสียสุขภาพกายและสุขภาพจิตมากจนเกินไปครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 2

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1199

โพสต์

ขอบคุณพี่ๆ ที่ share ประสบการณ์ & คติในการใช้ชีวิต ครับ
ผมนี่ยังไม่แต่งงาน แต่ขอ save ข้อมูลเก็บไว้เลย :P

ส่วนวันนี้ขอแจม นอกเรื่องหน่อย เอาแบบแนวเด็กๆ ยังไม่แต่งงานบ้างนะฮ่ะ :P

อยากเล่าวิธีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง (ไปในทางที่ดีขึ้น) ที่ได้ไปฟังจากวิทยากรท่านหนึ่ง เป็นรุ่นน้องอายุ 17 ปีเอง เจ๋งมาก

มีหลัก 3 ข้อ คือ

R - Right now : ต้องทำเดี๋ยวนี้ ทำทันที

M - Mind : เลือกที่จะเป็นเป็นคนแบบ Rising ไม่เป็นพวก Wait for chance (รอโอกาส), หรือ Loser (ไอ่ขี้แพ้)

I - I Can (do) : ฉันทำได้ๆๆ
"If you can dream it, you can do it."

ตอนนี้พยายามเร่งเครื่องตัวเอง หลังจากติดๆ ดับๆ ไปหลายรอบ หากมีความคืบหน้าจะมารายงานเพื่อทราบครับ

ส่วนเรื่องหนังสือ อาจารย์ Mark เรื่องการเทรด ดูแล้วจะเข้าทางสายดำมากเกินไป
ยังไงใครสนใจลองไปหาอ่านกันดูละกันนะครัช อ่านสนุกๆ แต่ทำจริง ใช้พลังยุทธ์น่าดู หากจะเลียนแบบวิธีการ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI หาดใหญ่

โพสต์ที่ 1200

โพสต์

เห็นมีอ้างอิงถึงกระทู้ "วันที่หุ้น -70 จุด" เลยไปไล่อ่านจนจบ (เพิ่งเห็นว่าเราเองเคยไปโพสต์ไว้ด้วย ไม่เห็นจำได้เลย แก่แล้วเรา)

ผมก็คงต้องศึกษา ฝึกฝน ต่อไปล่ะครับ ไม่เลิกล้มซะอย่าง