ค่าเสื่อมราคา
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 1
หยิบยกประเด็นเรื่องค่าเสื่อมราคาในงบกระแสเงินสดขึ้นมาคุยกันหน่อย
อ่านแล้วขอความเห็นพี่ๆๆว่าเข้าใจต้องกับที่ได้อ่านหรือเปล่าครับ
ค่าเสื่อมคือ เงินที่เอาตัดทางบัญชีไม่ใช้เงินที่ใช้ไปจริงๆๆ ในการซื้อพวกเครื่องจักร สร้างอาคาร เป็นต้น จะตัด 3 5 10 15 20 30 ปีก็แล้วแต่จะตัดกัน
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ ตัดในแต่ละปีนั้น ทางบัญชีจะคิดว่าค่าเสื่อมนั้นต้องเอากำไรหักลบเสมอในงบกำไรขาดทุน
แต่ในงบกระแสเงินสด มันจะคิดเอาไปบวกเพราะว่า คุณได้จ่ายจริงไปแล้วในปีที่ซื้อ ส่วนการคิดตัดในรายปีนั้นคุณต้องเอามาบวกเพราะกำไรคุณได้โดยลดลงไปในงบกำไรขาดทุน ทำให้เห็นตัวเงินสดจริงๆๆ
คือจะถามพี่ๆๆว่าใช่ตามที่พิมพ์ข้อความข้างบนหรือเปล่า
ถ้าเป็นแบบนี้ ค่าเสื่อมนี้ก็เป็นตัวขยับเคลื่อนให้เกิดเงินสดถ้ากิจการนั้นกำไรหรือเท่าทุน (ขาดทุนต้องดูว่ามากกว่าค่าเสื่อมหรือเปล่า ถ้ามากกว่างานนี้เงินสดหาย) ใช่ไหมครับ
ขอบคุณครับ
อ่านแล้วขอความเห็นพี่ๆๆว่าเข้าใจต้องกับที่ได้อ่านหรือเปล่าครับ
ค่าเสื่อมคือ เงินที่เอาตัดทางบัญชีไม่ใช้เงินที่ใช้ไปจริงๆๆ ในการซื้อพวกเครื่องจักร สร้างอาคาร เป็นต้น จะตัด 3 5 10 15 20 30 ปีก็แล้วแต่จะตัดกัน
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ ตัดในแต่ละปีนั้น ทางบัญชีจะคิดว่าค่าเสื่อมนั้นต้องเอากำไรหักลบเสมอในงบกำไรขาดทุน
แต่ในงบกระแสเงินสด มันจะคิดเอาไปบวกเพราะว่า คุณได้จ่ายจริงไปแล้วในปีที่ซื้อ ส่วนการคิดตัดในรายปีนั้นคุณต้องเอามาบวกเพราะกำไรคุณได้โดยลดลงไปในงบกำไรขาดทุน ทำให้เห็นตัวเงินสดจริงๆๆ
คือจะถามพี่ๆๆว่าใช่ตามที่พิมพ์ข้อความข้างบนหรือเปล่า
ถ้าเป็นแบบนี้ ค่าเสื่อมนี้ก็เป็นตัวขยับเคลื่อนให้เกิดเงินสดถ้ากิจการนั้นกำไรหรือเท่าทุน (ขาดทุนต้องดูว่ามากกว่าค่าเสื่อมหรือเปล่า ถ้ามากกว่างานนี้เงินสดหาย) ใช่ไหมครับ
ขอบคุณครับ

- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 2
เงินสดจ่ายที่ทำให้เกิดค่าเสื่อมนั้นเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนในปีที่ซื้อเครื่องจักรเหล่านั้นมาก ซึ่งในปีนั้นเงินที่จ่ายเพื่อซื่อเครื่องจักรจะปรากฏอยู่ในกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน แต่จะไม่กระทบกำไรของบริษัทเพราะทางบัญชีให้เอาเครื่องจักรนั้นไปตั้งไว้เป็นสินทรัพย์ในงบดุลก่อน
พอเครื่องจักรใช้งานไปเรื่อยๆ ทางบัญชีเขาให้ค่อยๆ ทยอยตัดมูลค่าที่แสดงไว้ในงบดุลออกมาเป็นค่าใช้จ่าย เรียกว่าค่าเสื่อม ซึ่งจะเริ่มกระทบกำไรของบริษัท
เวลาหากระแสเงินสดจากการดำเนินงานก็ต้องบวกค่าเสื่อมกลับเข้าไปในกำไรสุทธิเพราะค่าเสื่อมเหล่านั้นกระทบกำไรในปีนั้นแต่ไม่มีเงินสดจ่ายเกิดขึ้นจริง ค่าเสื่อมที่บวกกลับเข้าไปไม่ได้ไปเพิ่มกระแสเงินสด การบวกกลับค่าเสื่อมเป็นเพียงแค่การ reconcile ส่วนต่างระหว่างกำไรกับกระแสเงินสดเท่านั้น
บริษัทที่ขาดทุนถ้าบวกค่าเสื่อมกลับไปแล้วได้เป็นบวกก็แสดงว่ากำไรที่เป็นเกณฑ์เงินสดของเขานั้นมีกำไร
อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่า free cash flow จะเป็นบวกด้วย เพราะ free cash flow ยังต้องขึ้นอยู่กับกิจกรรมการลงทุนในปีนั้นๆ อีก
พอเครื่องจักรใช้งานไปเรื่อยๆ ทางบัญชีเขาให้ค่อยๆ ทยอยตัดมูลค่าที่แสดงไว้ในงบดุลออกมาเป็นค่าใช้จ่าย เรียกว่าค่าเสื่อม ซึ่งจะเริ่มกระทบกำไรของบริษัท
เวลาหากระแสเงินสดจากการดำเนินงานก็ต้องบวกค่าเสื่อมกลับเข้าไปในกำไรสุทธิเพราะค่าเสื่อมเหล่านั้นกระทบกำไรในปีนั้นแต่ไม่มีเงินสดจ่ายเกิดขึ้นจริง ค่าเสื่อมที่บวกกลับเข้าไปไม่ได้ไปเพิ่มกระแสเงินสด การบวกกลับค่าเสื่อมเป็นเพียงแค่การ reconcile ส่วนต่างระหว่างกำไรกับกระแสเงินสดเท่านั้น
บริษัทที่ขาดทุนถ้าบวกค่าเสื่อมกลับไปแล้วได้เป็นบวกก็แสดงว่ากำไรที่เป็นเกณฑ์เงินสดของเขานั้นมีกำไร
อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่า free cash flow จะเป็นบวกด้วย เพราะ free cash flow ยังต้องขึ้นอยู่กับกิจกรรมการลงทุนในปีนั้นๆ อีก
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 113
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 3
ก็ต้องตอบว่าใช่ครับmiracle เขียน:
คือจะถามพี่ๆๆว่าใช่ตามที่พิมพ์ข้อความข้างบนหรือเปล่า
ถ้าเป็นแบบนี้ ค่าเสื่อมนี้ก็เป็นตัวขยับเคลื่อนให้เกิดเงินสดถ้ากิจการนั้นกำไรหรือเท่าทุน (ขาดทุนต้องดูว่ามากกว่าค่าเสื่อมหรือเปล่า ถ้ามากกว่างานนี้เงินสดหาย) ใช่ไหมครับ
ขอบคุณครับ
แต่ค่าเสื่อมราคา เป็นเพียงส่วนหนึ่งในงบกระแสเงินสดเท่านั้นนะครับ
เพราะยังมีอีกหลายๆ ตัวที่จะทำให้เงินสด เพิ่มขึ้น หรือลดลง
เช่น การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของลูกหนี้ และเจ้าหนี้ เป็นต้นครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 113
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 4
...
...คุณสุมาอี้ตอบไปก่อนซะแล้ว
งั้นผมขอเสริมหน่อยละกัน เผื่อคุณ miracle จะได้เห็นภาพมากขึ้น
ตามที่คุณสุมาอี้บอกไว้ว่าสินทรัพย์ที่จ่ายลงทุนซื้อไปนั้น
ในปีแรกจะยังไม่มีการตัดเป็นค่าใช้จ่าย แต่จะไปโผล่ที่เป็นรายการหนึ่งในรายการสินทรัพย์ของบริษัท
แหล่งเงินทุนในการจัดหาสินทรัพย์นั้นๆ ก็จะไปโผล่ในด้านขวาของงบดุล คือ หนี้สินกับส่วนของเจ้าของ
โดยอาจจะมีหนี้สินเพิ่มขึ้นทั้งจำนวน หรืออาจจะมีหนี้สินเพิ่มขึ้นไม่เต็มจำนวนก็ได้
ขึ้นอยู่กับนโยบายการจัดหาเงินทุนของบริษัทครับ
นอกจากนี้ เงินทุนที่จัดหามาเพื่อจัดซื้อสินทรัพย์ดังกล่าว ก็จะไปโผล่อยู่ในงบกระแสเงินสด"จากกิจกรรมจัดหาเงิน" ครับ
...มือใหม่หัดตอบ...
หากเอามะพร้าวมาขายสวนก็ขออภัยด้วยนะครับ

งั้นผมขอเสริมหน่อยละกัน เผื่อคุณ miracle จะได้เห็นภาพมากขึ้น
ตามที่คุณสุมาอี้บอกไว้ว่าสินทรัพย์ที่จ่ายลงทุนซื้อไปนั้น
ในปีแรกจะยังไม่มีการตัดเป็นค่าใช้จ่าย แต่จะไปโผล่ที่เป็นรายการหนึ่งในรายการสินทรัพย์ของบริษัท
แหล่งเงินทุนในการจัดหาสินทรัพย์นั้นๆ ก็จะไปโผล่ในด้านขวาของงบดุล คือ หนี้สินกับส่วนของเจ้าของ
โดยอาจจะมีหนี้สินเพิ่มขึ้นทั้งจำนวน หรืออาจจะมีหนี้สินเพิ่มขึ้นไม่เต็มจำนวนก็ได้
ขึ้นอยู่กับนโยบายการจัดหาเงินทุนของบริษัทครับ
นอกจากนี้ เงินทุนที่จัดหามาเพื่อจัดซื้อสินทรัพย์ดังกล่าว ก็จะไปโผล่อยู่ในงบกระแสเงินสด"จากกิจกรรมจัดหาเงิน" ครับ
...มือใหม่หัดตอบ...
หากเอามะพร้าวมาขายสวนก็ขออภัยด้วยนะครับ

-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 5
ทำไมในปีแรกถึงยังไม่ตัดเป็นค่าใช้จ่ายล่ะครับThonburi Funds เขียน:ตามที่คุณสุมาอี้บอกไว้ว่าสินทรัพย์ที่จ่ายลงทุนซื้อไปนั้น
ในปีแรกจะยังไม่มีการตัดเป็นค่าใช้จ่าย แต่จะไปโผล่ที่เป็นรายการหนึ่งในรายการสินทรัพย์ของบริษัท
สมมติ ผมซื้อเครื่องจักรในเดือนมิถุนายน 49 อย่างนี้ครึ่งปีหลัง 49 ผมก็ใช้เครื่องจักรฟรีๆสิครับ
แล้วปีถัดไปนับไปสมมติอายุ 20 ปี ถึงจะเริ่มตัด
อธิบายหน่อยครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 6
ถ้าเดินเครื่องได้แล้วก็ต้องตัดครับตามช่วงเวลาBHT เขียน: ทำไมในปีแรกถึงยังไม่ตัดเป็นค่าใช้จ่ายล่ะครับ
สมมติ ผมซื้อเครื่องจักรในเดือนมิถุนายน 49 อย่างนี้ครึ่งปีหลัง 49 ผมก็ใช้เครื่องจักรฟรีๆสิครับ
แล้วปีถัดไปนับไปสมมติอายุ 20 ปี ถึงจะเริ่มตัด
อธิบายหน่อยครับ
อันนี้มันเรื่องรายละเอียดนะครับ อธิบายมากเกินไปกลัวจะเสียภาพใหญ่
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 113
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 8
[quote="por_jai"]8) ท่านแม่ทัพ หรือท่านธนบุรีฟันด์ก็ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 10
พี่สุมาอี้นี่ เล่นเอากระบี่อิงฟ้าออกจากฟัก ที่เดียวได้คำตอบเลย
มาถามต่อเรื่อง งบทั้งหมด
งบดุล มันเป็นตัวแทนของกระแสเงินสด ที่มีความหมายเรื่องเงินทุนที่ว่า เงินทุนคือ สินทรัพย์ใช่ไหม
งบกำไรขาดทุน มันคือ เงินทุน ที่แทน เงินทุนหมุนเวียนใช่ไหม
และสุดท้าย งบกำไรขาดทุน แทนเงินทุนที่ว่าด้วยเงินสดใช่หรือไหม
ต่อด้วยว่า
มีอยู่สองบริษัท บริษัทแรก นโยบาลตัดค่าเสื่อม 10 ปี แบบอัตราถดถอย (ปีแรกตัดมากที่สุด)
กับอีกบริษัทหนึ่ง นโยบาลตัดค่าเสื่อม 10 ปีเหมือนกัน แต่ตัดแบบก้าวหน้า
ทั้งสองบริษัทนี้ทำกิจการเดียวกัน อันไหนน่าสนใจกว่ากัน ถ้าหากซื้อสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนในราคาเท่ากัน และกำไรเท่าไร
ต่อด้วยว่า ถ้านโยบาลการตัด ไม่เหมือนกันคือ บริษัทAตัด 10 ปี แต่ Bตัด 20 ปี แต่ตัดแบบก้าวหน้าเหมือนกัน อันไหนน่าสนใจกว่ากัน
มาถามต่อเรื่อง งบทั้งหมด
งบดุล มันเป็นตัวแทนของกระแสเงินสด ที่มีความหมายเรื่องเงินทุนที่ว่า เงินทุนคือ สินทรัพย์ใช่ไหม
งบกำไรขาดทุน มันคือ เงินทุน ที่แทน เงินทุนหมุนเวียนใช่ไหม
และสุดท้าย งบกำไรขาดทุน แทนเงินทุนที่ว่าด้วยเงินสดใช่หรือไหม
ต่อด้วยว่า
มีอยู่สองบริษัท บริษัทแรก นโยบาลตัดค่าเสื่อม 10 ปี แบบอัตราถดถอย (ปีแรกตัดมากที่สุด)
กับอีกบริษัทหนึ่ง นโยบาลตัดค่าเสื่อม 10 ปีเหมือนกัน แต่ตัดแบบก้าวหน้า
ทั้งสองบริษัทนี้ทำกิจการเดียวกัน อันไหนน่าสนใจกว่ากัน ถ้าหากซื้อสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนในราคาเท่ากัน และกำไรเท่าไร
ต่อด้วยว่า ถ้านโยบาลการตัด ไม่เหมือนกันคือ บริษัทAตัด 10 ปี แต่ Bตัด 20 ปี แต่ตัดแบบก้าวหน้าเหมือนกัน อันไหนน่าสนใจกว่ากัน

- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 11
จำง่ายๆ อย่างนี้ครับว่า
งบดุล คือ สถานะทางการเงินของบริษัท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง (point in time) เหมือนการถ่ายภาพนิ่ง
งบกำไรขาดทุน คือ ผลประกอบการของบริษัท ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง(over a period of time)
เงินทุนของบริษัทอยุ่ในงบดุลทั้งหมดครับ
เงินทุนหมุนเวียนคือสินทรัพย์หมุนเวียนหักออกด้วยหนี้สินหมุนเวียนในงบดุล
เงินทุนส่วนอื่นของบริษัทนอกจากเงินทุนหมุนเวียนแล้วก็คือสินทรัพย์ถาวรต่างๆ ซึ่งก็อยู่ในงบดุลอีกเช่นกัน
ส่วนปัญหาที่ข้อคุณ miracle ถามมานี่ เป็นคำถามที่เขาใช้ถามกันในข้อสอบ CFA ครับ...
ทั้งนี้ทั้งนั้นขอย้ำคำว่า other things being equal
งบดุล คือ สถานะทางการเงินของบริษัท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง (point in time) เหมือนการถ่ายภาพนิ่ง
งบกำไรขาดทุน คือ ผลประกอบการของบริษัท ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง(over a period of time)
เงินทุนของบริษัทอยุ่ในงบดุลทั้งหมดครับ
เงินทุนหมุนเวียนคือสินทรัพย์หมุนเวียนหักออกด้วยหนี้สินหมุนเวียนในงบดุล
เงินทุนส่วนอื่นของบริษัทนอกจากเงินทุนหมุนเวียนแล้วก็คือสินทรัพย์ถาวรต่างๆ ซึ่งก็อยู่ในงบดุลอีกเช่นกัน
ส่วนปัญหาที่ข้อคุณ miracle ถามมานี่ เป็นคำถามที่เขาใช้ถามกันในข้อสอบ CFA ครับ...
บริษัทที่ตัดค่าเสื่อมเร็วกว่าน่าลงทุนมากกว่าเพราะ time value of money of tax savings ครับต่อด้วยว่า
มีอยู่สองบริษัท บริษัทแรก นโยบาลตัดค่าเสื่อม 10 ปี แบบอัตราถดถอย (ปีแรกตัดมากที่สุด)
กับอีกบริษัทหนึ่ง นโยบาลตัดค่าเสื่อม 10 ปีเหมือนกัน แต่ตัดแบบก้าวหน้า
ทั้งสองบริษัทนี้ทำกิจการเดียวกัน อันไหนน่าสนใจกว่ากัน ถ้าหากซื้อสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนในราคาเท่ากัน และกำไรเท่าไร
บริษัทที่ตัด 10 ปี มี value มากกว่า ด้วยเหตุผลเดียวกันต่อด้วยว่า ถ้านโยบาลการตัด ไม่เหมือนกันคือ บริษัทAตัด 10 ปี แต่ Bตัด 20 ปี แต่ตัดแบบก้าวหน้าเหมือนกัน อันไหนน่าสนใจกว่ากัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นขอย้ำคำว่า other things being equal
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 113
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 12
ขอคารวะท่านแม่ทัพ 1 จอก 

-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 13
อ้าวด้วยความสงสัย
ดันไปเป็นข้อสอบของCFAได้
เนี่ยล่ะน่า ถ้าถามเรื่องๆๆต้องมีคำตอบ
ถามมากๆๆจะเห็นว่า มองจุดเดี่ยวกัน
พี่สุมาอี้ ช่วยอธิบาย
เพราะว่า ถ้าผมมองล่ะก็ มันคือเงินเฟ้อและเงินฝืดมาจับเท่านั้น แต่จริงๆๆต้องมีลึกกว่าน้นหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ
[/quote]
ดันไปเป็นข้อสอบของCFAได้
เนี่ยล่ะน่า ถ้าถามเรื่องๆๆต้องมีคำตอบ
ถามมากๆๆจะเห็นว่า มองจุดเดี่ยวกัน
พี่สุมาอี้ ช่วยอธิบาย
ให้เข้าใจหน่อยครับว่า มีอะไรเกี่ยวกันมันบ้างเจ้าตัวนี้time value of money of tax savings
เพราะว่า ถ้าผมมองล่ะก็ มันคือเงินเฟ้อและเงินฝืดมาจับเท่านั้น แต่จริงๆๆต้องมีลึกกว่าน้นหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ
[/quote]

-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 14
โค้ด: เลือกทั้งหมด
time value of money of tax savings
ทำให้เหลือเงินเอาไปหมุน ทำให้กิจการโต
ถึงแม้จะจ่ายภาษีเท่ากัน ก็ตาม แต่ มีโอกาสกำไรมากขึ้น
ต่อให้เงินที่จ่ายภาษีน้อยลงในช่วงแรก ไม่ได้เอาไปทำให้กิจการโตขึ้น
ก็เอาไปลดเงินกู้ ก็ยังประหยัดดอกเบี้ยจ่ายครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 15
ใช่ครับJeng เขียน:ขอเดาครับ ก็จ่ายภาษีน้อยในช่วงแรก เพราะค่าเสื่อมตัดมากโค้ด: เลือกทั้งหมด
time value of money of tax savings
ทำให้เหลือเงินเอาไปหมุน ทำให้กิจการโต
ถึงแม้จะจ่ายภาษีเท่ากัน ก็ตาม แต่ มีโอกาสกำไรมากขึ้น
ต่อให้เงินที่จ่ายภาษีน้อยลงในช่วงแรก ไม่ได้เอาไปทำให้กิจการโตขึ้น
ก็เอาไปลดเงินกู้ ก็ยังประหยัดดอกเบี้ยจ่ายครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ narin@dekisugi.net จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 16
มีอีกมุมมอง
คือ เงินสดจริงๆๆแล้ว บริษัทได้จ่ายไปแล้วสำหรับการซื้อสินทรัพย์
แต่ว่าทางบัญชีนั้น ไม่ได้จ่ายในคราวเดียว แต่จะตัดเป็นค่าเสื่อม
(แล้วแต่นโยบาล)
ถ้าคิดแบบ เอาเงินสดเป็นตัวตั้งโดยดูจากงบกระแสเงินสด
ถ้ากิจการนั้นขาดทุน น้อยกว่า ค่าเสื่อม แสดงว่า ยังพอจะทำกิจการรอด
แต่ถ้าขาดทุนมากกว่าค่าเสื่อมกิจการนั้นไม่ดีอย่างมากๆๆ
และถ้ากิจการนั้นขาดทุนเท่ากับค่าเสื่อมคือ ยังอยู่ได้ แต่ปีหน้าขยายงานอย่างไงล่ะ
สุดท้าย ถ้ากำไร ไม่ต้องพูดถึง
แบบนี้คิดถูกต้องไหมครับ
คือ เงินสดจริงๆๆแล้ว บริษัทได้จ่ายไปแล้วสำหรับการซื้อสินทรัพย์
แต่ว่าทางบัญชีนั้น ไม่ได้จ่ายในคราวเดียว แต่จะตัดเป็นค่าเสื่อม
(แล้วแต่นโยบาล)
ถ้าคิดแบบ เอาเงินสดเป็นตัวตั้งโดยดูจากงบกระแสเงินสด
ถ้ากิจการนั้นขาดทุน น้อยกว่า ค่าเสื่อม แสดงว่า ยังพอจะทำกิจการรอด
แต่ถ้าขาดทุนมากกว่าค่าเสื่อมกิจการนั้นไม่ดีอย่างมากๆๆ
และถ้ากิจการนั้นขาดทุนเท่ากับค่าเสื่อมคือ ยังอยู่ได้ แต่ปีหน้าขยายงานอย่างไงล่ะ
สุดท้าย ถ้ากำไร ไม่ต้องพูดถึง
แบบนี้คิดถูกต้องไหมครับ

- Doraemon
- Verified User
- โพสต์: 243
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 17
ก็ถูกนะครับ แต่อยากจะเสริมว่าการขาดทุนเพราะค่าเสื่อมมากเป็นพิเศษนั้นควรจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงที่กิจการเพิ่งจะลงทุนไปใหม่ๆ เนื่องจากสินทรัพย์ที่ลงทุนไปนั้นยังไม่สามารถสร้างรายได้มาชดเชยได้ทัน แต่หากว่ากิจการไม่ได้ลงทุนอะไรแต่ยังขาดทุนอีก(ถึงแม้จะน้อยกว่าค่าเสื่อม) ก็ควรระวังครับmiracle เขียน:มีอีกมุมมอง
คือ เงินสดจริงๆๆแล้ว บริษัทได้จ่ายไปแล้วสำหรับการซื้อสินทรัพย์
แต่ว่าทางบัญชีนั้น ไม่ได้จ่ายในคราวเดียว แต่จะตัดเป็นค่าเสื่อม
(แล้วแต่นโยบาล)
ถ้าคิดแบบ เอาเงินสดเป็นตัวตั้งโดยดูจากงบกระแสเงินสด
ถ้ากิจการนั้นขาดทุน น้อยกว่า ค่าเสื่อม แสดงว่า ยังพอจะทำกิจการรอด
แต่ถ้าขาดทุนมากกว่าค่าเสื่อมกิจการนั้นไม่ดีอย่างมากๆๆ
และถ้ากิจการนั้นขาดทุนเท่ากับค่าเสื่อมคือ ยังอยู่ได้ แต่ปีหน้าขยายงานอย่างไงล่ะ
สุดท้าย ถ้ากำไร ไม่ต้องพูดถึง
แบบนี้คิดถูกต้องไหมครับ
อีกอย่างคือควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบกันไปด้วยครับ เช่นขาดทุนเพราะอะไร นโยบายการตัดค่าเสื่อมสอดคล้องกับความเป็นจริงหรือไม่ แนวโน้มของกิจการในอนาคต ฯลฯ
- Doraemon
- Verified User
- โพสต์: 243
- ผู้ติดตาม: 0
ค่าเสื่อมราคา
โพสต์ที่ 18
ชักจะมันส์...เสริมอีกนิดว่าโดยทั่วไปแล้วกิจการไม่ควรจะขาดทุนเพราะค่าเสื่อมนะครับหากไม่ได้เป็นการลงทุนที่ใช้เงินมากจริงๆ เช่นสร้างสนามบิน โรงงานใหม่(ใหญ่กว่าเดิมมากๆ) ฯลฯ หรือว่าเป็นกิจการที่เพิ่งจะเปิดใหม่
หากลงทุนมากจนขาดทุนเนี่ย ก็เป็นสิ่งที่เราควรจะพิจารณาว่าบริษัทลงทุนหนักเกินไปหรือเปล่า ความเสี่ยงของบริษัทเพิ่มขึ้นมากทีเดียวครับ ในทางกลับกันหากประสบความสำเร็จก็จะได้เงินกลับมามากโขอยู่ แต่หากไม่สำเร็จล่ะก็...เจ็บหนักครับ
หากลงทุนมากจนขาดทุนเนี่ย ก็เป็นสิ่งที่เราควรจะพิจารณาว่าบริษัทลงทุนหนักเกินไปหรือเปล่า ความเสี่ยงของบริษัทเพิ่มขึ้นมากทีเดียวครับ ในทางกลับกันหากประสบความสำเร็จก็จะได้เงินกลับมามากโขอยู่ แต่หากไม่สำเร็จล่ะก็...เจ็บหนักครับ