TREIT

[pakapong_u]

TICON สรุปลงทุนโรงงาน-คลังสินค้าในอินโดฯ ต้นปี 58,เปิดขายกอง REIT ธ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2557 13:43:33 น.
นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น(TICON) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าไปลงทุนโรงงานให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นการร่วมมือกับกลุ่มมิตซุยของญี่ปุ่น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในต้นปี 58

ขณะที่ในปีนี้บริษัทว่าจะมีรายได้ราว 6,300-6,400 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 6,681 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว แต่ยังเชื่อว่ากำไรจะยังทรงตัวใกล้เคียงปีก่อนที่มีกำไร 1,414.23 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่า 4.3 พันล้านบาทที่คาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้ ดังนั้น ก็จะรับรู้กำไรเข้ามาในปีนี้ราว 70% ของมูลค่าสินทรัพย์

นอกจากนั้น ในไตรมาส 4/57 จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น บริษัท ไทยคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด(TMAN)ให้แก่กลุ่มมิตซุย ในสัดส่วน 30% คาดว่าจะบันทึกฯ เข้ามาราว 70 ล้านบาท

นายวีรพันธ์ กล่าวว่า บริษัทคาดการณ์แนวโน้มรายได้ปี 58 จะเติบโตราว 5-10% จากปีนี้ หลังจากมองว่าการเติบโตเศรษฐกิจภายในประเทศน่าจะดีขึ้น และพื้นที่ในประเทศไทยยังมีราคาถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ลูกค้ากลุ่มรถยนต์และอิเล็คทรอนิกส์น่าจะมาเช่าพื้นที่เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทวางงบลงทุนที่ 6-6.5 พันล้านบาทเพื่อขยายพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานให้เช่าเพิ่ม ซึ่งจะเป็นเงินลงทุนในส่วนของที่ดินราว 1-2.5 พันล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ(Recurring Income)ให้เป็น 50% ภายใน 4-5 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% โดยในปี 58 บริษัทจะขยายพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นอีก 350,000-370,000 ตารางเมตร จากที่มีเช่าอยู่ราว 1 ล้านตารางเมตร

อินโฟเควสท์ โดย สุวิมล ภูมิคำ/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--

[pakapong_u]

TICON ประเดิม TREIT มูลค่า 4.5 พันลบ.มีแผนเพิ่มเป็น 2 หมื่นลบ.รับ AEC
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (Th)

Tuesday, November 25, 2014 12:37


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 57)--นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON)เปิดตัว"ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน" (TICON Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust) หรือ TREIT อย่างเป็นทางการ โดยจะลงทุนครั้งแรกในคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าของกลุ่ม TICON มูลค่าโครงการประมาณ 4,500 ล้านบาท
เบื้องต้นกลุ่ม TICON จะเข้าร่วมลงทุนใน TREIT ไม่เกิน 20% และหลังจากเสนอขาย TREIT ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียบร้อยแล้ว วางแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการซื้อที่ดินและขยายพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าของกลุ่มบริษัทไทคอนให้เติบโตพร้อมรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 58
นายอมร จุฬาลักษณานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด (TMAN) กล่าวว่า TREIT จะลงทุนครั้งแรกในกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าในอสังหาริมทรัพย์ประเภทคลังสินค้าและโรงงานของกลุ่มบริษัทไทคอน รวมทั้งสิ้น 34 อาคาร 45 ยูนิต พื้นที่รวมทั้งสิ้น 214,523 ตารางเมตร บนที่ดินรวมราว 306 ไร่ แบ่งเป็น คลังสินค้าจำนวน 25 ยูนิต มีพื้นที่รวม 160,523 ตารางเมตร และโรงงานจำนวน 20 ยูนิต มีพื้นที่รวม 54,000ตารางเมตร นอกจากนี้ อาคารยังอยู่ในสภาพใหม่ที่มีอายุเฉลี่ยของอาคารน้อยกว่า 3 ปี โดยมีสัดส่วนการลงทุนในกรรมสิทธิ์ประมาณ 70% และสิทธิการเช่าประมาณ 30%
“ข้อได้เปรียบของ TREIT จะอยู่ที่ผู้ถือหน่วยทรัสต์จะสามารถรับรู้รายได้ตั้งวันแรกที่เข้ามาลงทุน เพราะมีผู้เช่าเต็มทุกคลังสินค้าและโรงงานที่อยู่ใน TREIT นอกจากนี้ ผู้เช่าส่วนใหญ่ยังเป็นบริษัทชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่นที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และอุปโภคบริโภค โดยมี TICON และบจ.ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค (TPARK)ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโรงงานสำเร็จรูป และคลังสินค้าคุณภาพสูงเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ (Property Manager) จึงมั่นใจว่าจะสามารถบริหารทรัพย์สินดังกล่าวให้เป็นไปตามเป้าหมายและเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้"นายอมร กล่าว
สำหรับแผนการลงทุนของ TREIT เบื้องต้นตั้งเป้าเติบโตจากการนำทรัพย์สินของกลุ่ม TICON เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมองโอกาสที่จะนำเสนอให้พิจารณาแปลงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มเข้ามาในกอง TREIT นี้ด้วย รวมไปถึงโอกาสในการขยายการลงทุนไปยังตลาดอาเซียนหลังเปิด AEC กลุ่มบริษัทไทคอนเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดัน TREIT ให้ก้าวขึ้นมาเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับภูมิภาคได้ในอนาคต โดยมีแผนจะเพิ่มขนาดสินทรัพย์ถึงระดับ 20,000 ล้านบาทภายใน 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาร่วมลงทุนด้วยในอนาคต
นอกจากนี้ TREIT ยังมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการเข้าถือหุ้น 30% ใน TMAN ของ Mitsui & Co., Ltd.ผู้นำด้านการลงทุนครบวงจรมากที่สุดรายหนึ่งของโลก รวมถึงมีประสบการณ์อันยาวนานในการเป็นผู้จัดการทรัสต์ในประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยเครือข่ายทางธุรกิจของ Mitsui ที่มีอยู่ทั่วโลก จะช่วยเพิ่มโอกาสและศักยภาพในการลงทุนในทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้กับTREIT อีกด้วย โดย Mitsui มีแผนการร่วมลงทุนใน TREIT มูลค่าประมาณ 350 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนการนำทรัพย์สินประเภทคลังสินค้าและโรงงานในถบอาเซียนเข้ามาเพิ่มในTREIT ต่อไปในอนาคต
ด้านนายนรินทร์ โอภามุรธาวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ กล่าวว่า TREIT มีมูลค่าการระดมทุนประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยจะเป็นการเสนอขายหน่วยทรัสต์ต่อนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไป และเงินกู้ยืมส่วนหนึ่ง
“เราเชื่อมั่นว่า TREIT จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างดี เนื่องจากได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากการไปโรดโชว์กับนักลงทุนสถาบันหลายแห่งซึ่งนักลงทุนสถาบันต่างแสดงความสนใจใน TREIT สำหรับนักลงทุนที่เป็นประชาชนทั่วไปนั้น การลงทุนใน TREIT จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าระดับเวิลด์คลาสที่มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปิด AEC ในปีหน้า ดังนั้น TREITจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจอย่างยิ่งโดยหลังการเสนอขายเสร็จสิ้นจะนำ TREIT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในหมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อว่า TREIT" นายนรินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ TREIT นับเป็นกองทรัสต์ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทคลังสินค้าและโรงงานกองแรกของไทย ซึ่งจะบริหารจัดการโดย TMAN ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager) ที่จะบริหารจัดการการลงทุนและการจัดหาผลประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุน โดยนโยบายการลงทุนจะไม่จำกัดแค่เฉพาะในประเทศไทยแต่ในอนาคตจะรวมถึงทรัพย์สินในต่างประเทศด้วยโดยจะมุ่งเน้นที่การสร้างโอกาสและการเติบโตของกองทรัสต์ในอนาคต และ TREIT จะมี บลจ.บัวหลวง จำกัด (BBLAM) เป็นทรัสตี (Trustee) ช่วยทำหน้าที่กำกับดูแลการบริหารจัดการกองทรัสต์ของTMAN เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ถือหน่วยทรัสต์ นอกจากนี้ในการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์ในครั้งนี้มีธนาคารกรุงเทพเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์อีกด้วย

--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--

[pakapong_u]

TREIT :ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน


สินทรัพย์ลงทุน
1. กรรมสิทธิ์ สิทธิการเช่า สิทธิการเช่าช่วงในที่ดินและอาคารคลังสินค้าของบริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด

2. กรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารโรงงานของบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน)

ประเภทของทรัสต์ กรรมสิทธิ์ และ สิทธิการการเช่า
ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กลุ่มอุตสาหกรรม / หมวดธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง / กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
สถานะ Filing
จำนวนหน่วยทรัสต์ (หน่วย) n/a
ระยะเวลาเสนอขาย n/a
ราคา IPO n/a
วันที่เริ่มซื้อขาย n/a
ผู้จัดการกองทรัสต์ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด
ทรัสตี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด
ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด และ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน)
ที่ปรึกษาทางการเงิน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

[pakapong_u]

ไทคอนออกกอง TREIT ลงทุนคลังสินค้า ชูยิลด์ 7%
26 พฤศจิกายน 2557 10:15 น.

ไทคอนออกกอง TREIT มูลค่า 4.5 พันล้านบาทลงทุนคลังสินค้า-โรงงานระดับโลก ตั้งเป้าเติบโตระดับภูมิภาค 20,000 ล้านบาทใน 3-5 ปีข้างหน้า ชูผลตอบแทนสูงประมาณ 7% คาดเปิดขายนักลงทุนต้นเดือนธันวาคม

นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียลคอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทไทคอนได้ฤกษ์เปิดตัว ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน(TICON Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust) หรือ ทีรีต (TREIT) ลงทุนในคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าของกลุ่มบริษัทไทคอน มูลค่าโครงการประมาณ 4,500 ล้านบาท

โดยในเบื้องต้นกลุ่มบริษัทไทคอนจะเข้าร่วมลงทุนใน TREIT ไม่เกิน 20% บริษัทมิสซุยผู้ถือหุ้นของไทคอนร่วมลงทุนประมาณ 10% ที่เหลือก็จะขายให้แก่นักลงทุนสถาบัน และรายย่อยในสัดส่วนที่เท่าๆ กัน โดยมีสัดส่วนเงินกู้ประมาณ 20% คาดว่าน่าจะเปิดขายได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคม

ทั้งนี้ หลังจากเสนอขาย TREIT ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียบร้อยแล้ววางแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการซื้อที่ดินและขยายพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าของกลุ่มบริษัทไทคอนให้เติบโตพร้อมรับ AEC ในปี 2558

นายอมร จุฬาลักษณานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด (TMAN) กล่าวว่าTREIT จะลงทุนครั้งแรกในกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าในอสังหาริมทรัพย์ประเภทคลังสินค้าและโรงงานของกลุ่มบริษัทไทคอนรวมทั้งสิ้น 34 อาคาร 45 ยูนิต พื้นที่รวมทั้งสิ้น 214,523 ตารางเมตร บนที่ดินรวมราว 306 ไร่ แบ่งเป็น คลังสินค้าจำนวน 25 ยูนิต มีพื้นที่รวม 160,523 ตารางเมตร และโรงงานจำนวน 20 ยูนิต มีพื้นที่รวม 54,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้ อาคารยังอยู่ในสภาพใหม่ที่มีอายุเฉลี่ยของอาคารน้อยกว่า 3 ปี โดยมีสัดส่วนการลงทุนในกรรมสิทธิ์ประมาณ 70% และสิทธิการเช่าประมาณ 30% โดยผู้เช่าส่วนใหญ่ยังเป็นบริษัทชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่นที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมลอจิสติกส์และอุปโภคบริโภค ซี่งส่วนใหญ่มีประวัติการเช่าที่ดี มีการจ่ายค่าเช่าตรงเวลา และมีการเช่าในระยะยาว

สำหรับแผนการลงทุนของ TREIT เบื้องต้นตั้งเป้าเติบโตจากการนำทรัพย์สินของกลุ่มบริษัทไทคอนเข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมองโอกาสที่จะนำเสนอให้พิจารณาแปลงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มเข้ามาในกอง TREIT นี้ด้วย รวมไปถึงโอกาสในการขยายการลงทุนไปยังตลาดอาเซียนหลังเปิด AEC โดยมีแผนจะเพิ่มขนาดสินทรัพย์ถึงระดับ 20,000 ล้านบาท เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาร่วมลงทุนด้วยในอนาคต

ด้านนายนรินทร์ โอภามุรธาวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ กล่าวว่า คาดว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของ TREIT จะอยู่ประมาณ 7.5-7.8%

ทั้งนี้ TREIT จะมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เป็นทรัสตี (Trustee) ช่วยทำหน้าที่กำกับดูแลการบริหารจัดการกองทรัสต์ของTMAN เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์

[pakapong_u]

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT)
Source - Press Release, Local (Th/Eng)

Tuesday, December 09, 2014 15:34


กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--พีอาร์ดีดี

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เป็นการลงทุนรูปแบบใหม่เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกในการลงทุนของผู้ลงทุนที่มีความประสงค์
จะได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และการที่โครงสร้างของทรัสต์จัดให้มีการบริหารงานโดยผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager) และผู้ดูและผลประโยชน์กองทรัสต์
(REIT Trustee) เพื่อถ่วงดุลอำนาจและตรวจสอบการปฏิบัติงานซึ่งกันเป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยทรัสต์และป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิ
ชอบเงื่อนไขการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยกองทรัสต์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
จะว่าไปแล้วทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นรูปแบบการลงทุนที่มีความเป็นสากลและมีความยืดหยุ่นมากกว่ากองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์ในอดีตในหลายมิติ กล่าวคือ เปิดกว้างโอกาสให้กองทรัสต์สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
ในต่างประเทศได้ นอกจากนี้สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไม่อนุญาตให้ลงทุน เช่น โรงพยาบาล โรงงาน
อุตสาหกรรมนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น อนุญาตให้ซื้อลงทุนในหุ้นสามัญในบริษัทที่เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์แต่ต้องในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อย
ละ 99 แทนที่จะซื้อเฉพาะอสังหาริมทรัพย์แต่เพียงอย่างเดียว
สามารถกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ถึงร้อยละ 35 ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์หรือได้สูงถึงร้อยละ 60 หากถูกจัดอยู่ใน
investment grade จากสถาบันจัดอันดับเครดิตเทียบกับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่อนุญาตให้กู้ยืมได้เพียงร้อยละ 10 ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทุน
จ่ายเงินปันผล/เงินส่วนแบ่งกำไรในอัตราร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว โดยกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว หมายถึง กำไรสุทธิที่อ้างอิงสถานะเงิน
สดซึ่งปรับปรุงด้วยรายการอื่นตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด เช่น กำไร(ขาดทุน)ที่ได้จากการประเมินหรือทบทวนมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ เงินที่กันไว้
สำหรับคืนเงินต้นจากการ
กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน (ถ้ามี) ส่วนต่างของรายได้ค่าเช่าและค่าเช่าจ่ายที่รับรู้ตามเกณฑ์เส้นตรงของมาตรฐานการบัญชีกับที่เกิดขึ้น
จริงตามสัญญา

ภาษีจากเงินปันผล/ส่วนแบ่งรายได้ขึ้นกับประเภทนักลงทุน
ภาษีหัก ณ ที่จ่ายหรือภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินส่วนแบ่งรายได้และกำไรส่วนเกินจากทุนสำหรับการลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนใน
อสังหาริมทรัพย์อาจมีหรือไม่มีความแตกต่างจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ขึ้นกับประเภทของนักลงทุนตามตารางข้างล่างนี้

ประเภทนักลงทุน ทรัสต์เพื่อการลงทุน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์

ในอสังหาริมทรัพย์

ส่วนแบ่งรายได้ กำไรส่วนเกินทุน เงินปันผล กำไรส่วนเกินทุน

นักลงทุนทั่วไปไทย หัก ณ ที่จ่าย10% ยกเว้น หัก ณ ที่จ่าย10% หรือ ยกเว้น

นำรวมรายได้อื่นเพื่อเสียภาษีปลายปี

นักลงทุนทั่วไปต่างประเทศ หัก ณ ที่จ่าย10% ยกเว้น ไม่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ยกเว้น

นักลงทุนสถาบันไทย เสียภาษีเงินได้ เสียภาษีเงินได้ บริษัทจดทะเบียน เสียภาษีเงินได้

นิติบุคคล20% นิติบุคคล20% ไม่เสียภาษีหากถือหน่วย3 เดือนก่อนและหลังวันจ่ายเงินปันผล นิติบุคคล20%

บริษัททั่วไป

ถ้าถือหน่วยลงทุน>25% ไม่เสียภาษีหากถือหน่วย 3 เดือนก่อนและหลังวันจ่ายเงินปันผล

ถ้าถือหน่วยลงทุน

นักลงทุนสถาบันต่างประเทศ หัก ณ ที่จ่าย10% หัก ณ ที่จ่าย15% หรือตามที่ระบุในอนุสัญญาภาษีซ้อน ไม่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ยกเว้น


จากตารางจะพบว่า
นักลงทุนทั่วไปไทยจะไม่มีความแตกต่างสำหรับเงินส่วนแบ่งกำไรและกำไรส่วนเกินทุนสำหรับการลงทุนในกองทรัสต์และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
นักลงทุนทั่วไปต่างประเทศจะเสียเพิ่มเฉพาะภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% สำหรับเงินส่วนแบ่งกำไรในกองทรัสต์ และไม่เสียภาษีสำหรับกำไรส่วนเกิน
ทุนเมื่อขายหน่วยทรัสต์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นักลงทุนสถาบันไทยจะเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 20% สำหรับเงินส่วนแบ่งกำไรในกองทรัสต์ จากที่ไม่ต้องเสียหากเป็นบริษัทจดทะเบียน
หรือเสียเพียงกึ่งหนึ่งหากเป็นบริษัททั่วไป
นักลงทุนสถาบันต่างประเทศจะเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% สำหรับเงินส่วนแบ่งกำไรในกองทรัสต์ และภาษีหัก ณ
ที่จ่าย 15% สำหรับกำไรส่วนเกินทุนจากที่ไม่เคยเสียเลย

รายละเอียดทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT)
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) จะมุ่งเน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงงานและ
อาคารคลังสินค้าที่มีรายได้ประจำเป็นค่าเช่าเป็นหลัก โดยการลงทุนครั้งแรกจะลงทุนในกรรมสิทธิ์และ
สิทธิการเช่าในคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าจำนวน 45 ยูนิต พื้นที่อาคารรวมประมาณ 214,523 ตารางเมตร บนที่ดินที่มีเนื้อที่รวมประมาณ 306 ไร่ โดย
รายได้หลักของกองทรัสต์มาจากรายได้ค่าเช่าตามสัญญาเช่าของทรัพย์สินที่ลงทุน ทำให้มี
ความมั่นคงและความสม่ำเสมอของรายได้สูง โดยทรัพย์สินที่จะลงทุนครั้งแรกมีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ในนิคมหรือสวนอุตสาหกรรมชั้น
แนวหน้าของประเทศ ทรัพย์สินที่จะลงทุนมีคุณภาพสูงทั้งในด้านการออกแบบสำหรับการใช้งานด้าน
การอุตสาหกรรมและมีอาคารเป็นอาคารใหม่ที่มีอายุเฉลี่ยต่ำ ผู้เช่าทรัพย์สินในปัจจุบันเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและฐานะการเงินมั่นคง และบริหาร
จัดการโดยผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ประเภทคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าที่ดีที่สุดรายหนึ่งของประเทศ เป็นต้น

ทำไมทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) จึงน่าลงทุน
จากข้อมูลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทอุตสาหกรรมที่ผ่านมาจะพบว่า
กองทุนประเภทนี้สามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่องเกือบทุกไตรมาส จะมากน้อยแตกต่างตามผลประกอบการในแต่ละกองทุน แม้ในยามวิกฤต
เศรษฐกิจก็สามารถจ่ายเงินปันผลได้
อัตราการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสเฉลี่ยส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลางค่อนข้างสูงในอัตราประมาณ 6.9 - 8.3% ต่อปี ณ ปัจจุบัน
มูลค่าการซื้อขายต่อวันขึ้นกับกองทุนนั้น ๆ กองที่มีขนาดใหญ่โดยส่วนใหญ่จะมีซื้อขายในระดับหลายล้านบาทต่อวันซึ่งน่าจะมี liquidity
เพียงพอในการซื้อเพิ่มเติมหรือขายออก
ราคาตลาดสูงกว่าราคา IPO เป็นส่วนใหญ่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อกองทุนประเภทนี้
-ลก-

[pakapong_u]

TREIT ได้รับความสนใจ นักลงทุนแห่จองซื้อล้นหลาม พร้อมเข้าเทรด 9 ม.ค. 58


ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 16 ธันวาคม 2557 10:09:43 น.
กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--พีอาร์ดีดี
นายอมร จุฬาลักษณานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด (TMAN) ในฐานะผู้จัดการ TREIT ทีรีท) หรือ “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน” (TICON Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จกับการเสนอขายหน่วยทรัสต์ของ TREIT ระหว่างวันที่ 8-11 ธันวาคมที่ผ่านมา จำนวนทั้งสิ้น 342.5 ล้านหน่วยทรัสต์ คิดเป็นมูลค่ารวม 3,425 ล้านบาท ปรากฏว่า TREIT ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยกลุ่มไทคอนในฐานะผู้สนับสนุน ร่วมลงทุน ประมาณ 12% (จากเดิมที่ต้องการลงทุนประมาณ 20% เพื่อจัดสรรให้ผู้ลงทุนได้เพิ่มขึ้น) และกลุ่มบริษัทมิตซุยซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน TMAN ร่วมลงทุนอีกประมาณ 10.2%



ทั้งนี้ปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่ทำให้นักลงทุนสนใจลงทุนมาจากความมั่นใจในทรัพย์สินที่ TREIT เข้าไปลงทุน ซึ่งเป็นคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าที่มีคุณภาพสูงของกลุ่มบริษัทไทคอน สามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่วันแรกจากผู้เช่าที่เต็มเกือบ 100% นอกจากนี้ ผู้เช่าส่วนใหญ่ยังเป็นบริษัทชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่นที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และอุปโภคบริโภคซึ่งมีความมั่นคงทางรายได้ รวมทั้งยังมีโอกาสเติบโตจากการนำสินทรัพย์ใหม่ๆ เข้ามาในกอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีกลุ่มบริษัทมิตซุยซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกเข้ามาถือหน่วยทรัสต์ด้วยนั้น จะช่วยเปิดโอกาสให้ TREIT สามารถเติบโตอย่างมีศักยภาพไปพร้อมกับการเปิด AEC ในปีหน้า ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่า ผลประโยชน์ตอบแทนจากการลงทุนใน TREIT ซึ่งมาจากเงินส่วนแบ่งกำไรและจากสภาพคล่องส่วนเกินในปีแรกจะอยู่ประมาณ 7.75% นอกจากนี้ TREIT ยังมีนโยบายจ่ายผลตอบแทนไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้งในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิปรับปรุงแล้วอีกด้วย

นายอมร กล่าวว่า สำหรับเงินที่เสนอขายหน่วยทรัสต์ครั้งนี้ มูลค่า 3,425 ล้านบาท ผนวกกับเงินกู้จากธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 4,250 ล้านบาท จะนำไปลงทุนครั้งแรกในกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน (Freehold) และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (Leasehold) ของคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าของกลุ่มบริษัทไทคอน รวมทั้งสิ้น 45 ยูนิต พื้นที่ให้เช่ารวมทั้งสิ้น 214,523 ตารางเมตร บนที่ดินรวม 306 ไร่ แบ่งเป็น คลังสินค้า จำนวน 25 ยูนิต มีพื้นที่รวม 160,523 ตารางเมตร และโรงงานจำนวน 20 ยูนิต พื้นที่รวม 54,000 ตารางเมตร

อย่างไรก็ตาม คาดว่า กอง TREIT จะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 9 มกราคม 2558 เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปได้ลงทุนในวงกว้าง ซึ่งจะเป็น REIT ตัวแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2558 และเชื่อว่า TREIT จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน

[pakapong_u]

TREIT ทรัสต์เพื่อการลงทุนในคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า เริ่มซื้อขาย 9 ม.ค. นี้
Source - Press Release, Local (Th/Eng)

Thursday, January 08, 2015 14:00

กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) เข้าซื้อขายใน ตลท. 9 ม.ค. นี้ ด้วยมูลค่าเสนอขาย 3,425 ล้านบาท นับเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองแรกที่เข้าจดทะเบียนในปี 2558
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน ตลท. ในหมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ในวันที่9 มกราคม 2558
TREIT เสนอขายหน่วยทรัสต์ต่อประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 8 - 11 ธันวาคม 2557 จำนวน 342.5 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่าเสนอขาย 3,425 ล้านบาท โดยมีบริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด (TMAN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ไทคอน อินดัสเตรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON) เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เป็นทรัสตี และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย
TREIT ลงทุนในที่ดินคลังสินค้าและโรงงานของกลุ่ม TICON รวมทั้งสิ้น 45 ยูนิต พื้นที่รวม 214,523 ตารางเมตร บนที่ดินกว่า 306 ไร่ โดยเป็นกรรมสิทธิ์ สิทธิการเช่า และสิทธิการเช่าช่วงในที่ดินและคลังสินค้าของบริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด (TPARK) 25 ยูนิต พื้นที่รวม 160,523 ตารางเมตร และกรรมสิทธิ์ในที่ดินและโรงงานของ TICON 20 ยูนิต พื้นที่รวม 54,000 ตารางเมตร โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่กว่า 90%
นายอมร จุฬาลักษณานุกูล กรรมการผู้จัดการ TMAN เปิดเผยว่า TREIT เข้าลงทุนในคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าที่มีศักยภาพมีอายุเฉลี่ยน้อยกว่า 4 ปี ทำเลที่ตั้งดี ผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นบริษัทชั้นนำที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ อุปโภคบริโภคและยานยนต์ และด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ TICON และ TPARK ในการบริหารการเช่าพื้นที่คลังสินค้าและโรงงาน และมีโอกาสเติบโตในอนาคตจากการลงทุนในโครงการของกลุ่ม TICON เพิ่มเติม จึงเชื่อว่า TREIT เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในระยะยาว
TREIT มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี โดยหลัง IPO ผู้ถือหน่วยทรัสต์รายใหญ่ของ TREIT 3 ลำดับแรก ได้แก่ สำนักงานประกันสังคมถือหน่วยทรัสต์ 14.60% TPARK ถือหน่วยทรัสต์ 12.00% และ Mitsui & Co. (Asia Pacific) Pte. Ltd. ถือหน่วยทรัสต์ 10.22%
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของทรัสต์ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th ข้อมูลทั่วไปที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th และข้อมูลของทรัสต์ที่www.ticon.co.th

สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลได้ที่ฝ่ายสื่อสารองค์กร อารดา กุลตวนิช 0 2229 2796/ อรสิริ บุญแต้ม 0 2229 2799/ กนกวรรณ เข็มมาลัย 0 2229 2048