ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
-
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 1
เรียนถามพี่ๆชาวTVIทุกท่าน ผมมีปัญหาในการลงทุนในหุ้นคือ ช่วงนี้รู้สึกว่ามีการเก็งกำไรกันมาก แล้วหุ้นที่เราศึกษาอยู่นั้นจะรู้ได้อย่างไรว่าราคาที่จะซื้อ เป็นราคาที่เหมาะสมกับพื้นฐานธุรกิจในปัจจุบัน ไม่ใช่เป็นราคาที่วิ่งขึ้นมาจากการเก็งกำไร เพราะกลัวว่าเข้าไปซื้อแล้วอาจติดยอดดอยได้
-
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 2
แหมรู้สึกน้อยใจจังเลย กระทู้นี้ไม่ค่อยมีพี่ๆชาวvalue investor มาตอบบ้างเลย ทั้งๆที่น้องคนนี้ขอความรู้แท้ๆ ไม่ได้ขอให้ใบหุ้นว่าตัวไหนดี
......การให้ความรู้เป็นทานอันประเสริฐโดยแท้.......
อยากเรียนถามผู้รู้จริงๆ ว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าราคาหุ้นในขณะนี้เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานแล้ว ไม่ได้เป็นราคาที่ถูกปั่นจากการเก็งกำไรขึ้นมา
โดยที่หุ้นตัวนั้นP/E ต่ำ P/B ต่ำ มีปันผลดี แต่ราคาเพิ่มขึ้นมาในระยะเวลา 3เดือน ถึง 100% แล้ว ROA,ROE,netprofit ก็O.K. หนี้สินต่ำ เงินสดมาก กิจการอยู่ในกลุ่มที่แนวโน้มเติบโตไปตามเศรษฐกิจของประเทศ
แต่เพราะราคาที่เพิ่มขึ้นมามากกลัวว่าถ้าเข้าไปซื้อจะกลายเป็นราคาที่ถูกเก็งกันขึ้นมา
ขอความกรุณาพี่ๆผู้รู้ทุกท่านช่วยให้คำตอบแก่เด็กโง่คนนี้ด้วยครับ (อาจารย์นิเวศน่าจะเปิดเวปไซท์ส่วนตัวบ้างนะครับ ผมจะได้เขียนไปถามอาจารย์ของชาวvalue investorโดยตรงเลยดีกว่า)
......การให้ความรู้เป็นทานอันประเสริฐโดยแท้.......
อยากเรียนถามผู้รู้จริงๆ ว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าราคาหุ้นในขณะนี้เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานแล้ว ไม่ได้เป็นราคาที่ถูกปั่นจากการเก็งกำไรขึ้นมา
โดยที่หุ้นตัวนั้นP/E ต่ำ P/B ต่ำ มีปันผลดี แต่ราคาเพิ่มขึ้นมาในระยะเวลา 3เดือน ถึง 100% แล้ว ROA,ROE,netprofit ก็O.K. หนี้สินต่ำ เงินสดมาก กิจการอยู่ในกลุ่มที่แนวโน้มเติบโตไปตามเศรษฐกิจของประเทศ
แต่เพราะราคาที่เพิ่มขึ้นมามากกลัวว่าถ้าเข้าไปซื้อจะกลายเป็นราคาที่ถูกเก็งกันขึ้นมา
ขอความกรุณาพี่ๆผู้รู้ทุกท่านช่วยให้คำตอบแก่เด็กโง่คนนี้ด้วยครับ (อาจารย์นิเวศน่าจะเปิดเวปไซท์ส่วนตัวบ้างนะครับ ผมจะได้เขียนไปถามอาจารย์ของชาวvalue investorโดยตรงเลยดีกว่า)
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 3
อย่าเพิ่งน้อยใจเลยครับ ผมว่าเค้าคุยกันเยอะมากเลยนะในกระทู้ของคุณ VIB007 ครับ ลองไปอ่านดูสิครับ รู้สึกว่าจะชื่อ หุ้นผ่านตระแกรงร่อนอะไรเนี่ยแหละ
แหมจริงๆ มันก้อ complex เหมือนกันนะ มันมีวิธีง่ายๆ เหมือนกัน พี่เจ๋งเค้าเคยเล่าให้ฟังอยู่ เป็นวิธีของ buffet นะครับ ลองไปดูในกระทู้ของร้อยคนร้อยหุ้นสิครับ กรณีของ APRINT พี่เจ๋งเค้าทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วครับ
อย่าเพิ่งน้อยใจเลยนะครับ ถ้าจะหาความรู้ผมว่า web นี้ดีสุดแล้วในตอนนี้ครับ
อ้อลองบอกมาครับว่าหุ้นไหน ผมจะลองช่วยวิเคราะห์งบให้ถ้ามีเวลา (ตามวิธีของผมนะครับ ผมใช้วิธี economic profit ครับ ซึ่งจะได้ผลแบบเดียวกันกับวิธี free cash flow ถ้าสมมติฐานเหมือนกันคับ) อาจจะช้าหน่อยแต่รับปากว่าจะทำให้ครับ
แหมจริงๆ มันก้อ complex เหมือนกันนะ มันมีวิธีง่ายๆ เหมือนกัน พี่เจ๋งเค้าเคยเล่าให้ฟังอยู่ เป็นวิธีของ buffet นะครับ ลองไปดูในกระทู้ของร้อยคนร้อยหุ้นสิครับ กรณีของ APRINT พี่เจ๋งเค้าทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วครับ
อย่าเพิ่งน้อยใจเลยนะครับ ถ้าจะหาความรู้ผมว่า web นี้ดีสุดแล้วในตอนนี้ครับ
อ้อลองบอกมาครับว่าหุ้นไหน ผมจะลองช่วยวิเคราะห์งบให้ถ้ามีเวลา (ตามวิธีของผมนะครับ ผมใช้วิธี economic profit ครับ ซึ่งจะได้ผลแบบเดียวกันกับวิธี free cash flow ถ้าสมมติฐานเหมือนกันคับ) อาจจะช้าหน่อยแต่รับปากว่าจะทำให้ครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณครับ คุณ ayethebing
จริงๆ ผมอยากรู้เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ถาม บังเอิญมีคนถามก่อน เพิ่งรู้ว่าพี่เจ๋งเคยทำให้ดูในร้อยคนร้อยหุ้น เดี๋ยวจะไปดูครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ
จริงๆ ผมอยากรู้เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ถาม บังเอิญมีคนถามก่อน เพิ่งรู้ว่าพี่เจ๋งเคยทำให้ดูในร้อยคนร้อยหุ้น เดี๋ยวจะไปดูครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 5
อย่าน้อยใจเลยครับ เพิ่งเข้ามาอ่านguestคนเดิม เขียน:แหมรู้สึกน้อยใจจังเลย กระทู้นี้ไม่ค่อยมีพี่ๆชาวvalue investor มาตอบบ้างเลย ทั้งๆที่น้องคนนี้ขอความรู้แท้ๆ ไม่ได้ขอให้ใบหุ้นว่าตัวไหนดี
......การให้ความรู้เป็นทานอันประเสริฐโดยแท้.......
อยากเรียนถามผู้รู้จริงๆ ว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าราคาหุ้นในขณะนี้เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานแล้ว ไม่ได้เป็นราคาที่ถูกปั่นจากการเก็งกำไรขึ้นมา
โดยที่หุ้นตัวนั้นP/E ต่ำ P/B ต่ำ มีปันผลดี แต่ราคาเพิ่มขึ้นมาในระยะเวลา 3เดือน ถึง 100% แล้ว ROA,ROE,netprofit ก็O.K. หนี้สินต่ำ เงินสดมาก กิจการอยู่ในกลุ่มที่แนวโน้มเติบโตไปตามเศรษฐกิจของประเทศ
แต่เพราะราคาที่เพิ่มขึ้นมามากกลัวว่าถ้าเข้าไปซื้อจะกลายเป็นราคาที่ถูกเก็งกันขึ้นมา
ขอความกรุณาพี่ๆผู้รู้ทุกท่านช่วยให้คำตอบแก่เด็กโง่คนนี้ด้วยครับ (อาจารย์นิเวศน่าจะเปิดเวปไซท์ส่วนตัวบ้างนะครับ ผมจะได้เขียนไปถามอาจารย์ของชาวvalue investorโดยตรงเลยดีกว่า)
แล้วก็ค่า P/E P/B ROA ROE
บอกตามตรงผมไม่ถนัด
อ่านแล้วก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันครับ
เอาเป็นว่ารอคุณฉัตรชัยหรือพี่มนตรีมาตอบอีกทีแล้วกันครับ
ฝันถึง วัน ฟ้าสวย...... อยากร่ำรวย-ด้วยเล่นหุ้น
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 6
อย่างที่ว่าครับในกระทู้ของคุณวิบูลย์นั่นแหละมี อ่านไหวเปล่ามันยาวมากเลย
คำถามนี้ หากคุณถามใครซึ่งๆหน้าสงสัยคนตอบตรงดึงคุณมานั่งแล้วคุยกันหลายวัน ลองค่อยๆอ่านดูนะครับ สงสัยถามได้เลยในกระทู้นั่นแหละ ผมเป็นคนชงเรื่องเองแหละ
คำถามนี้ หากคุณถามใครซึ่งๆหน้าสงสัยคนตอบตรงดึงคุณมานั่งแล้วคุยกันหลายวัน ลองค่อยๆอ่านดูนะครับ สงสัยถามได้เลยในกระทู้นั่นแหละ ผมเป็นคนชงเรื่องเองแหละ
-
- Verified User
- โพสต์: 194
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 7
พื้นฐานนะดู PE,PBV,ROE,ROA ตามตำราทุกอย่างตามแบบฉบับเลยแหละ แต่ว่าจังหวะการเข้าซื้อนี่มันต้องมีศาสตร์และศิลป์เหมือนกันนะน้องนะ ไม่งั้นจะอยู่จังหวะ surge ขึ้นสูงได้ซึ่งเป็นจังหวะที่ momentum ของตลาดเล็งเข้ามาต้องอาศัยการดูตลาดเอาน่ะครับ
ตรงนี้พวก technic ต่างๆพอช่วยได้ลำดับ pattern การเรียงตัวของราคาและปริมาณหุ้นสะสม ณ ระดับราคาต่างๆ ที่ชอบเรียกกันว่าฐาน กันว่าแนวรับอะไรประมาณเนี้ย แต่ยังไงก็ดีถ้าเวลาผ่านๆไป พื้นฐานมันจะขึ้นมาชนะพวกแนวต้านต่างๆเองแหละ แล้วราคาจะเริ่มขยับมาเป็น true value ขึ้นเรื่อยๆ ตามสภาพของหุ้นนั้นๆ เอง
ตรงนี้พวก technic ต่างๆพอช่วยได้ลำดับ pattern การเรียงตัวของราคาและปริมาณหุ้นสะสม ณ ระดับราคาต่างๆ ที่ชอบเรียกกันว่าฐาน กันว่าแนวรับอะไรประมาณเนี้ย แต่ยังไงก็ดีถ้าเวลาผ่านๆไป พื้นฐานมันจะขึ้นมาชนะพวกแนวต้านต่างๆเองแหละ แล้วราคาจะเริ่มขยับมาเป็น true value ขึ้นเรื่อยๆ ตามสภาพของหุ้นนั้นๆ เอง
-
- Verified User
- โพสต์: 59
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 8
จริงๆแล้ว เมื่อ4เดือนก่อนผมก้อมีความรู้สึกแบบเดียวกับคุณGuestเลยครับ โพสถามคำถามประมาณนี้นะครับ ก้อไม่มีใครตอบ เพิ่งจะมารู้เมื่อไม่นานมานี้นะครับว่า คำถามแบบนี้นะตอบ"ยากมาก"ครับ จะมาอธิบายโดยการถามตอบในกระทู้แบบนี้ ผมว่าไม่ค่อยได้อะไรมากหรอกครับ เพราะฉะนั้น วิธีการของผมในช่วง3-4เดือนมานี้คือ ตะลุยอ่านทุกกระทู้ในเวปนี้เลยครับ ตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าปัจจุบัน โดยเฉพาะกระทู้ของพี่วิบูลย์ หัวข้อหุ้นผ่านตะแกรงร่อนนะครับ อ่านไปเรื่อยๆ ก้อจะร้อง "อ๋อ" ออกมาเป็นระยะๆ เจอใครแนะนำหนังสือก้อซื้อมาอ่าน ปัญหาคือ คุณพยามยามแล้วหรือยัง เพราะยังไงเวปนี้ผมว่าเยี่ยมสุดในเรื่องกระทู้หุ้นแล้วละครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 78
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 9
จะเป็น VI ได้สมบูรณ์แบบต้องหา intrinsic value เป็น แต่ต้องไม่ลืมว่า business perspective ก็ไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่ากันเท่าไร ถือหุ้นที่มูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง แต่สุดท้ายกิจการไปไม่รอด สู้คู่แข่งไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์ครับ หนังสือที่คุณวิบูลย์แนะนำไว้ ชื่อ"มูลค่าหุ้นและการปรับโครงสร้างหนี้" ผมคิดว่ามี 2 วิธีหามูลค่า ลองไปหามาอ่านดูนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 10
ตอบเจ้าของกระทู้นะครับ ผมจะลองยกตัวอย่างให้ดูแล้วกัน
สมมติว่าผมตั้งใจจะเปิดร้านอาหารร้านหนึ่งในทำเลแถวที่ทำงานของผมซึ่งผมได้ทำงานที่นั่นมาแล้วประมาณ 10 ปี ผมเลยมาชวนคุณเจ้าของกระทู้มาเป็นหุ้นส่วน เนื่องจากเงินลงทุนของผมไม่พอ (ผมคาดว่าต้องลงทุน 2 ล้านบาท แต่มีอยู่ 1 ล้าน ต้องการอีก 1 ล้าน ในที่นี้สมมติว่าไม่เลือกไปกู้แล้วกัน)
คำถามของผมคือ คุณเจ้าของกระทู้จะสนใจร่วมลงทุนกับผมหรือไม่
คำตอบของคุณนั่นแหละครับ ที่จะนำไปสู่การหาราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบัน
ในมุมมองของผม เนื่องจากทำเลที่จะเปิดร้านเป็นทำเลที่ผมใช้เวลาอยู่มากว่า 10 ปี ทำให้ทราบถึงศักยภาพในการสร้างกำไร เช่น กลุ่มลูกค้า รสนิยม ขนาดของร้านที่เหมาะสม รูปแบบของร้าน นั่นหมายถึง ผมมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับประมาณการกำไรที่ร้านของผมจะทำให้ได้นั่นเอง
ในขณะที่คุณเจ้าของกระทู้อาจไม่สนใจ ถ้าไม่มีข้อมูลเหมือนกับที่ผมมี สิ่งที่คุณกำลังเผชิญมันก็คือ ความเสี่ยง เสี่ยงเนื่องจากการขาดข้อมูล ทำให้ไม่รู้ และไม่สามารถนำมาประเมินความคุ้มค่าในการลงทุนได้เท่ากับข้อมูลที่ผมมี
ในทางตรงกันข้าม หากเป็นกรณีที่คุณเจ้าของกระทู้ทำงานที่เดียวกับผมมาเป็นระยะเวลาพอๆ กัน และทำการสำรวจความเป็นไปได้มาด้วยกัน คุณก็มีแนวโน้มที่จะสนใจลงทุนกับผมมากขึ้น เนื่องจาก ความเสี่ยง ของคุณจะลดลงตามปริมาณและคุณภาพของข้อมูลที่คุณมีมากขึ้นนั่นเอง
ในการประเมินราคาเหมาะสมของกิจการก็เป็นเช่นเดียวกันครับ การที่คุณจะมองได้อย่างถูกต้อง ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจการนั้นๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงประสบการณ์ของคุณด้วย ดังนั้น ราคาเหมาะสมของแต่ละคนจึงไม่จำเป็นต้องเท่ากัน และยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาอีกด้วย หากมีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบกับการดำเนินกิจการนั้นๆ
สมมติว่าผมตั้งใจจะเปิดร้านอาหารร้านหนึ่งในทำเลแถวที่ทำงานของผมซึ่งผมได้ทำงานที่นั่นมาแล้วประมาณ 10 ปี ผมเลยมาชวนคุณเจ้าของกระทู้มาเป็นหุ้นส่วน เนื่องจากเงินลงทุนของผมไม่พอ (ผมคาดว่าต้องลงทุน 2 ล้านบาท แต่มีอยู่ 1 ล้าน ต้องการอีก 1 ล้าน ในที่นี้สมมติว่าไม่เลือกไปกู้แล้วกัน)
คำถามของผมคือ คุณเจ้าของกระทู้จะสนใจร่วมลงทุนกับผมหรือไม่
คำตอบของคุณนั่นแหละครับ ที่จะนำไปสู่การหาราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบัน
ในมุมมองของผม เนื่องจากทำเลที่จะเปิดร้านเป็นทำเลที่ผมใช้เวลาอยู่มากว่า 10 ปี ทำให้ทราบถึงศักยภาพในการสร้างกำไร เช่น กลุ่มลูกค้า รสนิยม ขนาดของร้านที่เหมาะสม รูปแบบของร้าน นั่นหมายถึง ผมมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับประมาณการกำไรที่ร้านของผมจะทำให้ได้นั่นเอง
ในขณะที่คุณเจ้าของกระทู้อาจไม่สนใจ ถ้าไม่มีข้อมูลเหมือนกับที่ผมมี สิ่งที่คุณกำลังเผชิญมันก็คือ ความเสี่ยง เสี่ยงเนื่องจากการขาดข้อมูล ทำให้ไม่รู้ และไม่สามารถนำมาประเมินความคุ้มค่าในการลงทุนได้เท่ากับข้อมูลที่ผมมี
ในทางตรงกันข้าม หากเป็นกรณีที่คุณเจ้าของกระทู้ทำงานที่เดียวกับผมมาเป็นระยะเวลาพอๆ กัน และทำการสำรวจความเป็นไปได้มาด้วยกัน คุณก็มีแนวโน้มที่จะสนใจลงทุนกับผมมากขึ้น เนื่องจาก ความเสี่ยง ของคุณจะลดลงตามปริมาณและคุณภาพของข้อมูลที่คุณมีมากขึ้นนั่นเอง
ในการประเมินราคาเหมาะสมของกิจการก็เป็นเช่นเดียวกันครับ การที่คุณจะมองได้อย่างถูกต้อง ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจการนั้นๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงประสบการณ์ของคุณด้วย ดังนั้น ราคาเหมาะสมของแต่ละคนจึงไม่จำเป็นต้องเท่ากัน และยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาอีกด้วย หากมีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบกับการดำเนินกิจการนั้นๆ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 11
พี่ FE อธิบายได้เห็นภาพครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณพี่ๆทุกคนนะครับที่ตอบคำถาม ทุกคำตอบเป็นทานอันยิ่งใหญ่จริงๆ หลังจากหายน้อยใจแล้วผมเองได้เข้าไปอ่านกระทู้ของพี่วิบูลย์ที่พี่ๆแนะนำ ก็ตะบันอ่านเข้าไป ได้แค่ 5 หน้าก็หมดแรง แต่ก็เริ่มร้องอ๋อบ้างแล้วเหมือนกันครับ ก็ลองไปฝึกฝนดูเหมือนกัน แต่ก็ยังมีข้อสงสัย ในเรื่องตัวเลขนิดนึงครับ(อันนี้ยังไม่ได้มองเรื่องพื้นฐานกิจการอื่นๆที่วัดเป็นตัวเลขไม่ได้นะครับ)
ยกตัวอย่างที่กระทู้พี่วิบูลย์สอนเรื่องการหาค่า net NAV ว่า
NNAV = current asset - current liability-longterm liability
-------------------------------------------------------
จำนวนหุ้น
ในกระทู้บอกว่าถ้าจะให้มีmargin of safety ต้องมีราคาหุ้นน้อยกว่า 1/3 NNAV แต่ผมลองไปคำนวนดู ไม่เห็นมีหุ้นตัวไหนราคา น้อยกว่า 1/3 nnav เลย หนำซ้ำบางตัว NNAV ยังติดลบด้วย ยิ่งแปลว่าไม่มี margin of safety เลยใช่มั๊ยครับ ยกตัวอย่าง PTT ปี 45 คิด NNAV ได้ = (-48.25) ปี 44 คิดได้= (-52.08)
แต่ก็ยังเป็นที่นิยมของสถาบัน ต่างประเทศ และรายย่อย แต่จาก EPS ปีนี้3Q=10
4Q น่าจะได้ 14 ปันผลน่าจะได้ 5-6 บาทต่อหุ้น มันค้านๆกันยังไงไม่รู้ สรุปว่าเป็นvalue stock หรือเปล่านี่
วานพี่ๆให้ความรู้เพิ่มเติมหน่อยครับ
ยกตัวอย่างที่กระทู้พี่วิบูลย์สอนเรื่องการหาค่า net NAV ว่า
NNAV = current asset - current liability-longterm liability
-------------------------------------------------------
จำนวนหุ้น
ในกระทู้บอกว่าถ้าจะให้มีmargin of safety ต้องมีราคาหุ้นน้อยกว่า 1/3 NNAV แต่ผมลองไปคำนวนดู ไม่เห็นมีหุ้นตัวไหนราคา น้อยกว่า 1/3 nnav เลย หนำซ้ำบางตัว NNAV ยังติดลบด้วย ยิ่งแปลว่าไม่มี margin of safety เลยใช่มั๊ยครับ ยกตัวอย่าง PTT ปี 45 คิด NNAV ได้ = (-48.25) ปี 44 คิดได้= (-52.08)
แต่ก็ยังเป็นที่นิยมของสถาบัน ต่างประเทศ และรายย่อย แต่จาก EPS ปีนี้3Q=10
4Q น่าจะได้ 14 ปันผลน่าจะได้ 5-6 บาทต่อหุ้น มันค้านๆกันยังไงไม่รู้ สรุปว่าเป็นvalue stock หรือเปล่านี่
วานพี่ๆให้ความรู้เพิ่มเติมหน่อยครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 13
การใช้หลักการNET NET Stock หรือหลักการก้นบุหรี่ มักจะใช้ได้ดีตอนที่ตลาดตกต่ำสุดๆ กิจการจะทำท่ารอดไม่รอดนั่นแหละ หากคุณซื้อกิจการที่NET NET ASSETS สูงๆได้มันเป็นเครื่องบอกว่าถึงบริษัทเจ๋ง ก็จะมีเงินเหลือคืนคุณในอัตราที่คุณมีกำไรงามนั่นแล หากมันรอดไปต่อได้คุณจะมีความสูขมากขึ้น
ในภาวะปัจจุบัน นักลงทุนให้ราคาตามโอกาสที่กิจการจะเติบโตขึ้น คุณจะหาNET NET STOCKแทบจะไม่ได้เลยครับ คุณต้องหาหุ้นที่มีความสามารถในการทำกำไรที่เติบโตให้ได้จึงจะดี
ในภาวะปัจจุบัน นักลงทุนให้ราคาตามโอกาสที่กิจการจะเติบโตขึ้น คุณจะหาNET NET STOCKแทบจะไม่ได้เลยครับ คุณต้องหาหุ้นที่มีความสามารถในการทำกำไรที่เติบโตให้ได้จึงจะดี
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 14
พี่ Mom Money ครับ ที่พี่บอกว่า
ตรง "ต้องหาหุ้นที่มีความสามารถในการทำกำไรที่เติบโตให้ได้จึงจะดี"
มีวิธีดูจากงบการเงินยังไงบ้างครับ?
ในภาวะปัจจุบัน นักลงทุนให้ราคาตามโอกาสที่กิจการจะเติบโตขึ้น คุณจะหาNET NET STOCKแทบจะไม่ได้เลยครับ คุณต้องหาหุ้นที่มีความสามารถในการทำกำไรที่เติบโตให้ได้จึงจะดี
ตรง "ต้องหาหุ้นที่มีความสามารถในการทำกำไรที่เติบโตให้ได้จึงจะดี"
มีวิธีดูจากงบการเงินยังไงบ้างครับ?
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- Verified User
- โพสต์: 226
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 15
คุณคัดท้ายครับ ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ เราคงดูจากงบการเงินอย่างเดียวคงไม่ได้แต่ต้องวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านอื่นๆด้วยครับ เช่นดูว่าบริษัทที่เราสนใจ อยู่ในอุตสาหกรรมอะไร แนวโน้มระยะสั้น, กลาง, ยาว ของอุตสหากรรมนั้นๆเป็นอย่างไร สภาพการแข่งขันเป็นอย่างไร ใช้แนวคิด Five Force ของ Porter มาจับภาพคร่าวๆก่อนน่ะครับ
สำหรับงบการเงิน ตามความเห็นของผมคงดูได้สองเรื่อง เรื่องแรกคือแนวโน้มการทำกำไร ใช้วิธีเทียบ EPS หลายๆปีดูว่ามัน Growth ไหม เรื่องที่สองคือสุขภาพของบริษัทครับ คือมีหนี้เท่าไร โครงสร้างเงินทุนเป็นอย่างไร มีกำไรสะสมมากแค่ไหน การไหลเวียนเงินสดเป็นอย่างไร ฯลฯ
แต่ในที่สุดแล้ว มันคือภาพในใจของเรานะครับ ผมเห็นว่า intrinsic value เป็นค่าแบบ Subjective ไม่ใช่ Objective ราคาหุ้นจึงปรับเปลี่ยนตามมุมมองของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ
สำหรับงบการเงิน ตามความเห็นของผมคงดูได้สองเรื่อง เรื่องแรกคือแนวโน้มการทำกำไร ใช้วิธีเทียบ EPS หลายๆปีดูว่ามัน Growth ไหม เรื่องที่สองคือสุขภาพของบริษัทครับ คือมีหนี้เท่าไร โครงสร้างเงินทุนเป็นอย่างไร มีกำไรสะสมมากแค่ไหน การไหลเวียนเงินสดเป็นอย่างไร ฯลฯ
แต่ในที่สุดแล้ว มันคือภาพในใจของเรานะครับ ผมเห็นว่า intrinsic value เป็นค่าแบบ Subjective ไม่ใช่ Objective ราคาหุ้นจึงปรับเปลี่ยนตามมุมมองของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 269
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 17
ออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่ vi พันธ์แท้นะครับ เป้นนักลงทุนธรรมดาคนนึง ที่ไม่เก่งนัก
ราคาหุ้นในตลาดนั้น ที่เห็นๆ คือ จะมีราคาที่แท้จริงราคาเดียว(ที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่ง) +หรือ- แรงเก็งกำไร หรือ การตื่นตระหนก ทำให้หุ้นนั้นแพงกว่าที่ควารหรือไม่ก็ ถูกกว่าที่ควร
ดังนั้น
ความคิดผม เวลาดู มูลค่าหุ้น อาจดูง่ายๆดังนี้ครับ
1) ดูว่า หุ้นที่เราสนใจ นั้น กำไรต่อหุ้น ปีนึงเท่าไหร่ และเอาไปเทียบราคาว่าราคาในตลาดตอนนี้เป็นงัย
เช่น หุ้นตัวนี้กำไรทั้งปี 1บาทต่อหุ้น แต่ราคาในกระดาน 100 บาท อย่างนี้ก็ไม่ค่อยน่าซื้อ เพราะ ลงทุน 100 ได้กำไรกลับมาแค่ 1 บาทเอง อย่างนี้เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นกับว่า ต้องเอาหุ้นตัวนี้ไปเทียบตัวอื่นๆด้วยนะครับ
2) สมมติว่าเราหาหุ้นข้อแรกได้แล้ว ก้ไปดูว่า book value เท่าไหร่ แล้วเอาไปเทียบราคาในกระดานเอา ถ้าพอพอกัน หรือ book สูงกว่า ก็น่าสนใจ
3) เราต้องดูต่อว่า อนาคตน่าจะเป็นยังไง กำไรจะลดลงมั้ย ถ้าเรามองว่าอนาคตไม่น่าสวย ก็อย่าไปซื้อเพราะว่า แปลว่าอนาคต กำไรจะลดลงและราคาก็ลดลงด้วย ควรเลือกคตัวที่คิดว่า ปัจจุบันก็ดี และอนาคต ก็น่าจะดี ดีขึ้นหรือไม่แย่ลง ก็โอเคแล้วครับ
ส่วนที่ว่า ราคาเท่าไหร่เป้นราคาที่แท้จริงก้บอกไม่ได้หรอกครับ มันก็มีหลายวิธีในการคิดน่ะครับ แนะนำให้ลองไปอ่าน หนังสือการวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวเอง ของ คุณ สุมาอี้ ดูสิครับ หนังสือพี่เค้าอธิบายละเอียดดี จริงๆตามหลักแล้ววิธีของพี่เค้าดีที่สุดครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น งบการเงินอาจมีการบิดเบือนได้ นะครับ ต้องดูให้ดี บางบริษัทกำไรดีมากมาก แต่เป็นกำไรพิเศษ ที่เกิดขึ้นเฉพาะ งวดนั้นนั้น ก็เป็นได้ครับ ระวังให้ดี ขอให้โชคดีครับ
ราคาหุ้นในตลาดนั้น ที่เห็นๆ คือ จะมีราคาที่แท้จริงราคาเดียว(ที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่ง) +หรือ- แรงเก็งกำไร หรือ การตื่นตระหนก ทำให้หุ้นนั้นแพงกว่าที่ควารหรือไม่ก็ ถูกกว่าที่ควร
ดังนั้น
ความคิดผม เวลาดู มูลค่าหุ้น อาจดูง่ายๆดังนี้ครับ
1) ดูว่า หุ้นที่เราสนใจ นั้น กำไรต่อหุ้น ปีนึงเท่าไหร่ และเอาไปเทียบราคาว่าราคาในตลาดตอนนี้เป็นงัย
เช่น หุ้นตัวนี้กำไรทั้งปี 1บาทต่อหุ้น แต่ราคาในกระดาน 100 บาท อย่างนี้ก็ไม่ค่อยน่าซื้อ เพราะ ลงทุน 100 ได้กำไรกลับมาแค่ 1 บาทเอง อย่างนี้เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นกับว่า ต้องเอาหุ้นตัวนี้ไปเทียบตัวอื่นๆด้วยนะครับ
2) สมมติว่าเราหาหุ้นข้อแรกได้แล้ว ก้ไปดูว่า book value เท่าไหร่ แล้วเอาไปเทียบราคาในกระดานเอา ถ้าพอพอกัน หรือ book สูงกว่า ก็น่าสนใจ
3) เราต้องดูต่อว่า อนาคตน่าจะเป็นยังไง กำไรจะลดลงมั้ย ถ้าเรามองว่าอนาคตไม่น่าสวย ก็อย่าไปซื้อเพราะว่า แปลว่าอนาคต กำไรจะลดลงและราคาก็ลดลงด้วย ควรเลือกคตัวที่คิดว่า ปัจจุบันก็ดี และอนาคต ก็น่าจะดี ดีขึ้นหรือไม่แย่ลง ก็โอเคแล้วครับ
ส่วนที่ว่า ราคาเท่าไหร่เป้นราคาที่แท้จริงก้บอกไม่ได้หรอกครับ มันก็มีหลายวิธีในการคิดน่ะครับ แนะนำให้ลองไปอ่าน หนังสือการวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวเอง ของ คุณ สุมาอี้ ดูสิครับ หนังสือพี่เค้าอธิบายละเอียดดี จริงๆตามหลักแล้ววิธีของพี่เค้าดีที่สุดครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น งบการเงินอาจมีการบิดเบือนได้ นะครับ ต้องดูให้ดี บางบริษัทกำไรดีมากมาก แต่เป็นกำไรพิเศษ ที่เกิดขึ้นเฉพาะ งวดนั้นนั้น ก็เป็นได้ครับ ระวังให้ดี ขอให้โชคดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 18
อันนี้เป็นแนวคิดที่ทาง CLSA ใช้นะครับ
1. เวลาเลือกหุ้นที่จะแนะนำซื้อ เค้าจะดู ratio นี้ (Lynch ratio)
เอา EPS Growth/PE (prospect) > 1.2 แนะนำซื้อ, < 0.8 แนะนำขาย, ถ้ากลางๆแนะนำถือ ครับ
1. เวลาเลือกหุ้นที่จะแนะนำซื้อ เค้าจะดู ratio นี้ (Lynch ratio)
เอา EPS Growth/PE (prospect) > 1.2 แนะนำซื้อ, < 0.8 แนะนำขาย, ถ้ากลางๆแนะนำถือ ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 9
- ผู้ติดตาม: 0
ราคาที่เหมาะสมสำหรับพื้นฐานธุรกิจปัจจุบันหาได้อย่างไร
โพสต์ที่ 19
เห็นพี่ๆ กล่าวเรื่อง 5 forces ครับ
ผมได้มีโอกาสไปฟัง ดร. บรรยายมา
ท่านบอกว่า เลือกหุ้นที่มีประสิทธิภาพในราคาปานกลาง ดีกว่า เลือกหุ้นที่ประสิทธิภาพต่ำกว่าในราคาถูก
ดูก็คือ 5 force นั่นละครับ business model เป็นอย่างไร เก็บ(คู่แข่งเลียบไหม)ข้อมูลลักษณะบริษัท ถ้าเป็นบริษัทดีมีประสิทธิภาพ นั่นล่ะครับคือเราเริ่มพบเพชรแล้ว (การดูอนาคตครับ)
หลังจากนั้นจะเป็นแท้หรือเทียม ดูที่ งบการเงิน ย้อนไปหลายๆปี (การดูอดีต) ดูศักยภาพของเค้าว่าเป็นอย่างไร
หลังสุดเลยคือราคาครับ ผมขอยอมรับว่ายังอ่อนความรู้นัก ผมไม่รู้วิธีการคำนวณใดๆ เลย เกี่ยวกับราคา(เช่น DCF) อย่างเก่งก็แค่วิธี pe แต่ผมจะใช้ความรู้สึกครับ และการอดทนรอนานอยู่ กว่าเพชรก้อนนั้นจะตกลงไปอยู่ในถังขยะ แต่ค่อยเก็บครับ
ผมได้มีโอกาสไปฟัง ดร. บรรยายมา
ท่านบอกว่า เลือกหุ้นที่มีประสิทธิภาพในราคาปานกลาง ดีกว่า เลือกหุ้นที่ประสิทธิภาพต่ำกว่าในราคาถูก
ดูก็คือ 5 force นั่นละครับ business model เป็นอย่างไร เก็บ(คู่แข่งเลียบไหม)ข้อมูลลักษณะบริษัท ถ้าเป็นบริษัทดีมีประสิทธิภาพ นั่นล่ะครับคือเราเริ่มพบเพชรแล้ว (การดูอนาคตครับ)
หลังจากนั้นจะเป็นแท้หรือเทียม ดูที่ งบการเงิน ย้อนไปหลายๆปี (การดูอดีต) ดูศักยภาพของเค้าว่าเป็นอย่างไร
หลังสุดเลยคือราคาครับ ผมขอยอมรับว่ายังอ่อนความรู้นัก ผมไม่รู้วิธีการคำนวณใดๆ เลย เกี่ยวกับราคา(เช่น DCF) อย่างเก่งก็แค่วิธี pe แต่ผมจะใช้ความรู้สึกครับ และการอดทนรอนานอยู่ กว่าเพชรก้อนนั้นจะตกลงไปอยู่ในถังขยะ แต่ค่อยเก็บครับ