จดบันทึกช่วงถามตอบ งานจิตวิทยาการลงทุน และการลงทุนต่างประเทศ

[noooon010]

มีโอกาสได้จดบันทึก เลยขออนุญาตินำมาแชร์นะครับ

ชอบงานนี้มากๆครับ ขอบคุณพี่ WEB พี่ชาย น้องหลิน น้องกานต์ น้องอุ้ย น้องปรัชญา และทีมงานทุกๆท่านมากๆนะครับ
ผมอาจมาสรุปล่าช้าบ้างนะครับ ทำงานบ้าน และดูแลภรรยาที่ตั้งครรภ์น่ะครับ ><

เริ่มกันเลยนะครับ

คำถาม: ขุดหุ้นกันอย่างไร

น้องหลิน
>> 2-3 ปีก่อน ขุดหุ้นจากการเดินห้าง
แต่รู้สึกว่าเหมือนเป็นข้ออ้างเพื่อเดินห้างเลย(มีมุขด้วยแฮะ)

ปัจจุบัน "อ่าน"ทุกอย่าง
โดยพยายามหา

1. เวลาอ่านเจอข่าวๆหนึ่ง ข่าวนั้นๆสะท้อนกลยุทธในการเติบโตของบริษัทนั้นอย่างไรบ้าง
(บริษัทสามารถใช้กลยุทธที่มีอยู่ทำให้บริษัทโตต่อได้ไหม)

2. การเติบโตนั้นสอดคล้องไปกับ ความสามารถในการแข่งขัน ของบริษัทหรือเปล่า

[noooon010]

น้องกานต์

เวลาเราอ่านอะไรแล้ว ลองตั้งสมมติฐานว่าจากข้อมูลเหล่านี้ เรามองเห็นอะไรบ้าง เห็นโอกาสอะไรบ้างไหม
ให้มองโอกาสกับหุ้นที่ เราเคยคิดว่า มันไม่ดี
บางทีมันก็มีโอกาสดีๆซ่อนอยู่(ผู้เขียนเองยังเคยมองข้ามเบย ขอบคุงน้องกานต์มากๆนะครับ)

ลองมองดูว่า อีก 2-3ปีข้างหน้ามันจะโตอย่างไร
พยายามดูหลายๆบริษัท บางครั้งเราลงทุนในอุตสาหกรรมหนึ่งๆ เราอาจมองแค่บริษัทไม่กี่บริษัท
มีบริษัทอื่นๆที่มีโอกาสในการลงทุนอีกไหม

ลองดู Supply chain ว่ามีบริษัทอะไรเกี่ยวข้องบ้าง

-----------
(ขออนุญาติเสริมนะครับ) พี่มนเคยสอนผมว่า ลองเอากระดาษมาเขียนดู
เช่น 3 G ส่วนใหญ่เรามองแต่ Operator ค่ายต่างๆ
เราลองมาเขียนดูจะพบว่า มีบริษัทที่ทำสายไฟเบอร์อ๊อบติก ขายมือถือ ฯลฯ
และในบริษัทที่ทำอะไรคล้ายๆกัน มันจะมีจุดแตกต่างกันอยู่ ลองพิจารณาดูครับ

-------------
กลับมาที่น้องกานต์อีกครั้งนะครับ
น้องกานต์บอกว่า พอเราอ่านข่าว หรือติดตามบริษัทไปเรื่อยๆ เราจะพอจับได้ว่า บริษัทที่ดีเป็นอย่างไร เค้าจะดำเนินกิจการอย่างไร ปฏิบัติตัวกับผู้ถือหุ้นอย่างไร

แล้วบริษัทที่ไม่ดีเค้าทำอย่างไร

เราจะได้เรียนรู้ในจุดนนี้ครับ
ต่อไปเราไปเจอบริษัทที่ทำแบบนี้ๆ เราก็จะพอเดาได้ว่า ในอนาคตจะเป็นอย่างไร(ต้องอาศัยประสบการณ์)ครับ

[noooon010]

(ต่ออีกนิดนึงนะครับ เนทช้ามาก )

ภาพในอดีตจะ flash back เข้ามาเวลาเราไปเจอข่าวหรือเหตุการณ์อะไรสักอย่าง
บางทีเราอาจจับได้ว่าที่ผู้บริหารพูดแบบนี้ ในความเป็นจริงมันยากที่จะทำได้

--------------

พี่ชาย>>

- พี่ชายจะเข้า 100คน 100 หุ้น แล้วไปดูบริษัทที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ อาจมีโอกาสในการลงทุนอยู่

- ดูกิจการในประเทศอื่นๆทีมีกิจการคล้ายๆประเทศของเรา เพื่อนำมาเปรียบเทียบ ดูอนาคต และหาโอกาสการลงทุน

- ดูว่าตลาดไหนจะโตบ้าง (เป็นมุมมองด้าน Marketing)

-------
ผู้เขียนขอยกตัวอย่างเช่น คนสูงอายุมากขึ้น กิจการที่เกี่ยวกับสุขภาพน่าจะขยายตัวได้มากขึ้น

--------
- ปัจจุบัน พี่ชายจะเลือกดู Business Model , Marketing Aspect มากกว่า การดู Ratio ต่างๆ

- เวลาที่อุตสาหกรรมโตเท่าไหร่ Leader ของอุตสาหกรรมจะโตกว่านั้น

[noooon010]

พี่ Web : พี่เค้าจะดู อัตราส่วนก่อน
หลายครั้งมีโอกาสในการลงทุนซ่อนอยู่ เช่น p/e ต่ำๆก็อาจมีหุ้น undervalue ซ่อนอยู่
p/b ต่ำๆ ก็อาจหาหถ้น Asset Play ได้

เวลาประกาศผลประกอบการ ถ้าบริษัทที่โต ก็ไปดูว่า ต่อไปมันจะโตต่อได้ไหม

ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารบางอัน เคยโตจาก Gross Profit Margin และ บริษัทลด cost of good sold
แบบนี้มันจะยั่งยืนไหม
ต้องตอบตัวเองให้ได้ครับ

[noooon010]

เวลาเราเห็นหุ้นที่ติด Top Chart เช่น volume การซื้อขาย มันมากผิดปกติ บางทีบริษัทนั้นอาจมีอะไรดีๆซ่อนอยู่จริงก็ได้
ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นหุ้นปั่น

- ดูรายงานการซื้อ ขาย ของ ผบห. โดยเฉพาะ ผบห. ยังซื้อด้วยปริมาณมากๆ แม้ราคาจะขึ้นมามากแล้ว
/ Anthony Bolton/ ลงทุนสวนกระแสฯ พี่ WEB แปลเล่มนี้ ดีมากๆครับ

- บางคนไป fix ว่าต้องอ่านหนังสือพิมพ์วันละกี่ฉบับ จริงๆไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้
ให้พิจารณาว่าข่าวที่เราเห็นนั้นๆ บริษัทมันจะดีได้จริงหรือไม่

เพราะแม้แต่บริษัทมันแย่ มีการขาดทุน บางครั้ง ผบห.ยังให้เหตุผลซะดี จนเราลืมไปเลยว่า มันขาดทุน

- ลองอ่าน magazine ทีละหน้า
Charlie T.Munger กล่าวไว้ว่าให้อ่าน magazine เราจะได้เห็นเรื่องราวทางธุรกิจ

เช่น Air Asia >> Temasek จะกู้เงิน ก็เอาAir Asia มาค้ำ

ITV สมัยก่อน คุณไตรภพ จะกู้เงิน ก็เอา หุ้น ITV มาค้ำ

SVI คุณโฮ เอาหุ้น SVI มาค้ำเพื่อกู้แบงค์

จะสังเหตว่า เรื่องราวมันจะคล้ายๆกัน

[noooon010]

น้องกานต์

เวลาเราเห็นบริษัทมีกำไรไม่ดี จริงๆ operation ของบริษัทมันอาจจะไม่ได้แย่ก็ได้
ถ้าบริษัทแก้ไขปัญหาอะไรได้ บริษัทก็จะกลับมาดีได้

อันนี้ก็เป็นโอกาสการลงทุนครับ

-------

น้องหลิน

เราสังเกตการเปลี่ยนแปลง อย่างรพ. ระดับ inter 2 brand มีวิธีการโตต่างกัน
บางวิธีมันไม่ workจนบริษัทต้องขายหน่วยบางอย่าง เช่นขายศูนย์ล้างไต

- modern trade จะขยายงานได้ ในประเทศด้วยการเพิ่มสาขา
ขยายมากๆจะเพิ่ม economy of scale
พอขยายเต็มพื้นที่แล้ว บริษัทจะโตต่ออย่างไร
บางทีก็ต้องไโตต่างประเทศ

ดังนั้นให้เราใช้สิ่งที่เราเรียนรู้มา เพื่อนำมาสร้างสมมติฐาน และนำมา prove เรื่องที่เราคิด

- (ขออนุญาติเขียนชื่อหุ้นนะครับ) ยกตัวอย่าง mint ทุกอย่างดูเหมือนจะดีกว่า centel (ในอดีต)
แต่ centel เลือกที่จะตั้งโรงรมใหญ่ๆ เลือกรับนักท่องเที่ยวชาวจีน

ไปๆมาๆ การเติบโตของ centel ก็ดีขึ้น

operation รายวันของ centel อาจด้อยกว่า mint
แต่ startegy ที่ดีกว่า จะทำให้บริษัทโตได้มากกว่า

- หุ้นบางอันคนรู้ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ หุ้นจะขึ้น

เช่น ถ้า spreadของplastic เพิ่มขึ้น ราคาหุ้น plastic จะมากขึ้น

แต่ว่า.... เราเดาว่า เมื่อไหร่มันจะเกิดขึ้น มันยาก
แบบนี้ มันยากเกิน

[noooon010]

P'WEB

ถ้าคุณถือหุ้นตัวเดียว หรือถือหุ้นน้อยตัวมากกเกินไป เวลาหุ้นมันแกว่ง ใจเราจะแกว่งได้มากกว่า portfolio ที่มีการกระจายหุ้นแล้ว

ในช่วงเวลาที่หุ้นอาจดูแพง เราก็สามารถถือหุ้นได้หลายตัว

- เวลาเราอ่านไปเรื่อยๆ เราจะเกิดไอเดีย เช่น
(ขอยกตัวอย่างหุ้นนะครับ) CVD เดิมมีโรงงาน ทำ VDO ทำหนังแผ่นขายตามห้าง
ตอนหลัง โรงงานพวกนี้ผลประกอบการไม่ดี
มีอยู่วันหนึ่ง บริษัทบอกว่า จะขายโรงงานนี้ทิ้ง ในราคาที่ไม่ต่ำกว่า book value

แบบนี้โอกาสลงทุนก็เกิดขึ้นครับ

[noooon010]

ซื้อหุ้น depend on ความมั่นใจ

ถ้าหุ้นมี upside มาก แต่เรามั่นใจไม่มาก >> เราก็ลงทุนน้อย
ถ้าหุ้นมี upside น้อยกว่า แต่เรามั่นใจมากกว่า >> เราก็ลงทุนมากกว่า

----
พี่ชาย

- ใน USA มี M&A มาก บางบริษัทไม่มีกำไรเลย
แต่บริษัทที่เค้ามาซื้อกิจการ จะดูว่า บริษัทนี้ทำอะไรได้บ้าง
ขนาดของบริษัทประมาณเท่าไหร่

- ควรรู้ cycle ของธุกิจนั้นๆ

- ตอนปี 2003 หุ้นเรือขึ้นเยอะ เพราะ China เข้า WTO การค้าของโลกโตขึ้นแทบทุกแห่ง
และมีการลดกำแพงภาษี
ดังนั้นหุ้นเรือจึงทะยาน

เราต้องมาพิจารณาว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกไหม มันอาจเกิดไม่บ่อย

- บางบริษัทเหมือนเรือที่ไม่มีเครื่องยนต์
พอน้ำขึ้น เรือก็ลอยได้ พอน้ำลด เรือไม่ไปไหน

ไปๆมาๆ ก็พบจุดจบ(อันนี้ไม่เกี่ยวกับหุ้นเรือนะครับ อย่าเข้าใจผิดนะครับ)

[noooon010]

น้องกานต์

ผลตอบแทนคาดหวัง
บริษัทที่ ทุกคน เห็นแล้วว่ามันดี ผลตอบแทนในการลงทุนหลังจากที่ ทุกคนรู้ข่าวแล้ว มันจะไม่ดีเท่าที่คิด

ลงทุนในบริษัทไหนๆ อย่าลืม limit loss ไว้ด้วย หากเกิดกรณีที่เราไม่คาดคิด

บางทีเราหาโอกาสการลงทุนได้ในบริษัทที่ยังมี Question อยู่

[noooon010]

ปัญหาเรื่องการซื้อหุ้น

1. ใจง่าย ซื้อตามข่าว ซื้อตาม Social Media

2. ซื้อช้าเกินไป เราคิดเยอะเกินไป

-----

ให้พิจารณาว่า เราจะซื้อหุ้นตัวนี้ไหม โดยดูเทียบกับตัวอื่นๆใน port ของเราว่า หุ้นตัวอื่นๆมีความน่าสนใจมากกว่าไหม

---------
P'WEB

หุ้นมีหลายชนิด วิธีการลงทุนมันก็ต่างกัน
หุ้น Asset Play เราก็ไม่ได้สนใจ growth
หุ้น turn around เราก็สนใจว่า กำไร จะกลับมาไหม

บางทีแค่บริษัทสามารถรักษา ความสามารถในการทำกำไร, market share ให้คงอยู่ได้เท่าๆเดิม
ก็อาจพบโอกาสการลงทุน ในกรณีราคาหุ้นนั้น มี p/e ต่ำ และผลตอบแทนในเงินปันผลดี

- ตัวอุตสาหกรรม อาจจะดี แต่หุ้นในอุตสาหกรรมอาจแย่ก็ได้
อย่างอุตสาหกรรม ทีวีดิจิตอล

- บริษัทที่ใครๆก็ทำกิจการที่คล้ายๆกันได้ เช่นธนาคารปล่อยกู้ได้ แขกแถวบ้านก็ปล่อยกู้ได้
ถ้าตรงจุดนี้ เราจะให้ความสำคัญกับผู้บริหารค่อนข้างมาก

แต่ก่อน LPN , SPALI ก็ดป็นบริษัทเล็กๆ แต่ ผบห. ทำให้บริษัทโตขึ้นได้

[noooon010]

ดู mood ของตลาดด้วย บางที mood ของตลาดทำให้ราคาหุ้นถูก ก็ซื้อหุ้น
บางที mood ของตลาดทำให้หุ้นแพง ก็รอก่อน

(ผมชอบรอ คือคติของพี่มนครับ/หมอนุ่น)

-------
น้องกานต์

ถ้าจะซื้อหุ้นที่เป็น big cap ดีๆ
บางทีเราต้องรอให้ตลาดลงมาก่อน เพราะหุ้นเหล่านี้ใครก็จ้อง

ดัชนีลงมา จะทำให้เกิดโอกาสการลงทุนครับ

- อย่าลืมดู downside ด้วย ไม่ใช่เรามองเห็นแต่ upside

[noooon010]

น้องหลิน

ลองหาจุดอ่อนของ port หุ้นของเรา
บางทีเราอาจไม่ได้พิจารณาตรงจุดนี้
ถ้าเราพบจุดอ่อนที่แก้ไขไม่ได้ ก็ทำเหมือนรายการthe weakest link กำจัดมันไปซะ แล้วนำมาลงทุนบริษัทที่มีอนาคตกว่า

- ให้ขยันเข้าไว้ ถ้า input มากๆแล้ว process ถูกทาง ยังไงก็ประสบความสำเร็จได้

ถ้า process ไม่ถูกทาง ปม้ input มากๆ ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จได้

เปรียบเหมือนวิ่งเร็วกว่า ยูเซ็น โบลต์ แต่วิ่งไปผิดทาง

--------
P'WEB บางทีเรากังวลเกินไป
จริงๆเราดูที่ value ถ้า value มัน 8 บาท ตอนนี้ราคามัน 5บาท
ก็ซื้อได้

บางทีเรากังวลเกินว่า ถ้ามันตกมา4บาท ล่ะ 3บาทล่ะ

กังวลมากๆ เราก็ไม่ได้ซื้อหุ้นลงทุนครับ

ข้อสังเกต VI มักจะซื้อหุ้นเร็วไป และอาจขายเร็วไป
มันดป็นสิ่งปกติ แค่เรารับรู้ และปรับปรุงก็พอ

ปัจจุบันไม่ได้ดูที่ index เพราะตอนนี้ index มันหลากหลายมาก
ให้ดูที่ตัวหถ้นเป็นตัวๆไป

- บางคำถามในรายการหุ้น เช่น หุ้นจะขึ้น 1,600 จุดไหม มันไม่ได้บอกอะไรเราเลย
บางทีพิธีกรก็ไปถามอะไรคนที่โทรเข้ามา โดยที่คำถามมันไม่สร้างสรรค์
(เลือกรายการที่จะรับชมด้วยครับ)

[noooon010]

ผมจดมาได้ประมาณนี้นะครับ
หากมีผิดพลาดประการใด ผมต้องขออภัยมาด้วยนะครับ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ

มีความสุขกับการลงทุนครับ

[RnD-VI]

ขอคุณมากครับพี่

[ลูกหิน]

ขอบคุณมากนะครับหมอนุ่น เก็บรายละเอียดได้ดีจริงๆเลยครับ

[Au Gratin]

ขอบคุณมากครับ

[theenuch]

ขอบคุณมากเลยค่ะคุณหมอนุ่น ^__^

[atsu]

ขอบคุณมากครับหมอนุ่น และยินดีที่กำลังจะมีเจ้าตัวเล็กด้วยนะครับ

[sai]

ขอบคุณมากมากเลยครับผม

[VISAWAN]

ขอบคุณมากครับ

[somwatee]

ขอบคุณมากครับพี่

[pkping]

ขอบคุณมากครับ

[kissme]

น้ำใจงามมากครับ

[noooon010]

ขอบคุณทุกๆท่านมากๆนะครับ ช่วยๆกันครับ

ขอบคุงพี่ atsu มากๆนะครับ คิดถึงนะครับพี่

[สิปาดัน]

ขอบคุนครับพี่

[worrapong.n]

ขอบคุณมากครับ

[ReRedrum]

ขอบคุณมากครับ

[boys50]

ขอบคุณมากครับพี่ๆ ^^

[whiteknight_p]

ขอบคุณมากครับพี่หมอ

[stereo]

ขอบคุณครับ ดีมากๆเลย