ไปประชุมผู้ถือหุ้นมาเป็นอย่างไรบ้างเล่าให้ฟังหน่อย

[MO101]

.. ตามหัวข้อ ...

[Windy]

ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยนะครับ เท่าที่จำได้วาระทุกวาระผ่านไปโดยไม่มีใครไม่เห็นด้วยหรืองดออกเสียง

คุณฉัตรชัยสอบถามเรื่องค่าเช่าแอมคอร์ที่ได้รับว่าคุ้มมั้ย คำตอบคือเป็นค่าเช่าที่ถูกเป็นพิเศษ ซึ่งถ้าหักค่าเสื่อมและภาษีก็เหลือถึงไวท์กรุ๊ปไม่เท่าไหร่  อีกทั้งราคาที่ซื้อก็ไม่ได้ถูกมาก คือพอๆกับราคาประเมิน

อย่างไรก็ตามคาดว่าธุรกิจแอมคอร์กำลังจะดีขึ้นจากการปรับผู้บริหาร

มีการแต่งตั้งกรรมการใหม่ซึ่งเป็นญาติคุณพิมพรรณ ศรีสวัสดิ์ (ไม่ทราบว่าเป็นลูกสาวรึเปล่า) ซึ่งเท่าที่เช็คถือหุ้นในไวท์กรุ๊ปตอนนี้อยู่ 4.82%

ผมว่าดูจาก Qualification แล้วพวกเราในเว็บนี้น่าจะเสนอชื่อคุณฉัตรชัยเป็นกรรมการบ้างนะครับ เพราะเท่าที่ดูก็ติดตามการบริหารงานและให้คำแนะนำกับทางบริษัทได้ดี ประกอบกับพวกเรารวมกันก็มีคะแนนเสียงมากพอควร

เผอิญผมกลับเร็วเลยไม่ได้คุยกันหลังประชุม ไว้รอท่านอื่นๆที่คุยกับผู้บริหารมาอัพเดทก็แล้วกัน

[chatchai]

ผมขอเสริมนิดหนึ่งนะครับ

ไปประชุมปีนี้  รู้สึกว่ามีเพื่อนๆจาก TVI ไปกันหลายคน

โดยมีคุณลุงขวดเป็นตัวแทนจากสมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทย

-------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องแอมคอร์นั้น  นอกจากมีการขายที่ดินและโรงงานให้แก่ WG  แล้วนำเงินที่ได้ไปชำระหนี้เงินกู้  เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่ายและเงินต้นแล้ว

บริษัทยังได้เปลี่ยนผู้บริหารอันดับ 1 และ 2 ที่เดิมเป็นคนออสเตรเลีย เป็นคนไทย  ทำให้รู้สภาพตลาดได้ดีขึ้น

คุณสมชัยเองก็ดูจะมั่นใจกับแอมคอร์มากขึ้น  

-------------------------------------------------------------------------------------

ในที่ประชุมนอกจากที่ผมสอบถามแล้ว  ก็มีคุณ Tiger สอบถามเรื่องเป้าของยอดขายในปี 49

ซึ่งบริษัทก็ตั้งเป้าไว้ที่ 8%  

ไตรมาสแรกของปี 49 ที่ผ่านไป  ดูท่าทางผู้บริหารจะมั่นใจกับผลการดำเนินงานพอสมควร

-------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากเสร็จการประชุม  ก็มีการซักถามผู้บริหารกันพอสมควร

ผมได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น  จะส่งผลกระทบต่อบริษัทบ้างหรือไม่

คุณสมชัยบอกว่า  คงส่งผลดีต่อบริษัท  ทำให้มีต้นทุนขายที่ลดลง  แต่คงไม่เต็มที่นัก  เนื่องจากลูกค้าก็จะขอส่วนลดบ้าง

ผมสอบถาม ดร. พิมพ์พนา  ซึ่งเป็นกรรมการอิสระของ WG  ที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ทางบัญชี 2 เรื่อง  คือ

1. เรื่องการคิดค่าเสื่อมราคาของโรงงานที่ WG  ซื้อมาจากแอมคอร์  ว่าจะคิดระยะเวลากี่ปี  มีหลักในการคิดอย่างไร  เนื่องจากมีการหักค่าเสื่อมราคาบางส่วนมาจากแอมคอร์แล้ว  และระยะเวลาในการคิดของ WG และ แอมคอร์ก็ไม่เท่ากัน

ได้คำตอบว่า  ให้คิดตามระยะเวลาการใช้งานที่เหลืออยู่ของโรงงาน

2. เรื่องการรับรู้รายได้จากบริษัทร่วมในงบเดี่ยว

ปัจจุบันยังไม่ตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่  เพราะปัญหาเยอะมาก

สำหรับ WG  ถ้าใช้แบบใหม่  ก็ต้องปรับงบดุลย้อนหลังใหม่

เงินลงทุนในแอมคอร์ที่บันทึกเป็น 0 ไปแล้ว  ก็ต้องบันทึกกลับมาทั้งจำนวน  ส่งผลให้ส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นด้วย  แต่ก็คงกระทบแค่ตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น

------------------------------------------------------------------------------------

[chatchai]

เพิ่มอีกหน่อย

จากการที่ปีก่อน  บริษัทมีการลงทุนปรับปรุงอาคารสำนักงานพอสมควร

ทำให้ปีนี้  อาคารสำนักงานทั้ง 2 อาคาร  ที่สุขุมวิท 42  มีผู้เช่าเพิ่มขึ้น  รวมทั้งค่าเช่าก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย

[Kao]

ขอบคุณมากครับ

[MO101]

ขอบคุณครับ
จริงๆ ก็ไปประชุมนั่นแหละ แต่รีบกลับ เลยตามมาเก็บข้อมูล

ที่ไม่เห็นด้วยคือการแต่งตั้งญาติ ทำให้การแข่งขันมันน้อยไปหน่อย
น่าจะมีคนอื่นเข้าแข่งขันบ้าง มีตัวเลือกแค่ตัวเดียวคือ vote กะไม่ vote

[chatchai]

คงเป็นไปไม่ได้  ถ้าจะเป็นกรรมการโดยไม่ผ่านการยอมรับจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่

ดังเช่น กรณี CVD  ที่มีผู้ถือหุ้นท่านหนึ่ง  รวบรวมหุ้นได้เกิน 10%  หวังจะได้เป็นกรรมการของบริษัท  สุดท้ายก็แพ้ในการลงคะแนนอยู่ดีครับ

[MO101]

ถ้าถือได้สัก 20-25 น่าจะได้เป็นไหม
หรือว่า ถ้าถือ 20 แล้วอีก 60 ไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ไม่ได้เป็น

ในความเห็นของผมคือ
กรรมการ มี 7 ท่าน
เบอร์ 1-2 ให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ สุด
ดังนั้นจะเหลือ อีก 5 ท่านก็ ใครถือ 20% ก็น่าจะได้กรรมการ 1 ตำแหน่ง

[tt]

ปีหน้าเรามารวบรวมหุ้นกันดูดีกว่าว่ามีมากพอที่จะเสนอพี่ฉัตรชัย หรือปล่าว
ผมว่าคนในนี้น่าจะถือเยอะนะครับ สังเกตุดูว่าคนถือเกิน 0.5 % เพิ่มขึ้นเยอะมาก