ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
buddy
Verified User
โพสต์: 27
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

อีก 2 วัน Alibaba กำลังจะทำ ไอพีโอ ที่สหรัฐ
นัยว่าเป็น ไอพีโอ ที่มีมูลค่ามากที่สุดเท่าที่เคยทำมาในสหรัฐ

แต่สิ่งที่น่าสนใจมากไปกว่านี้คือ ผู้ก่อตั้ง และ ผู้ให้เงินทุน ทำกำไร 2500 เท่าตัวในระยะเวลาประมาณ 10 ปี..

ผู้ก่อตั้งอดีตเป็นครูสอนภาษาอังกฤษระดับอาชีวะแห่งหนึ่งในประเทศจีน เคยสมัครพนักงาน เคเอฟซี แล้วถูกปฏิเสธ มาแล้ว

เมื่อ 15 ปีที่แล้วเริ่มลงทุนระบบการค้าออนไลน์ด้วยเงินเพียง 5 แสนหยวน (2.5ล้านบาท)
หลังไอพีโอ คาดว่า Alibaba จะมีมูลค่าสูงกว่า อาเมซอน + อีแบ และ เฟสบุ๊ก ซะอีก คือ มากว่า 2หมื่นล้านดอลล่าสหรัฐ

ผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ก่อตั้ง แต่เป็นคนสัญชาติญี่ปุ่นเชื้อสายเกาหลี ที่เมื่อ 10 ปีก่อนนำเงินไปลงทุนใน Alibaba ในนาม softbank ด้วยจำนวนเงิน 25 ล้านดอลล่าสหรัฐ จากมูลค่าเงินที่ลงทุนไป หลัง ไอพีโอ มูลค่าจะเพิ่มขึ้น 2500 เท่าตัว และ ทำให้ประธาน softbank กลายเป็นเศรษฐี อันดับ 1 ของญี่ปุ่น
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

buddy เขียน:อีก 2 วัน Alibaba กำลังจะทำ ไอพีโอ ที่สหรัฐ
นัยว่าเป็น ไอพีโอ ที่มีมูลค่ามากที่สุดเท่าที่เคยทำมาในสหรัฐ

แต่สิ่งที่น่าสนใจมากไปกว่านี้คือ ผู้ก่อตั้ง และ ผู้ให้เงินทุน ทำกำไร 2500 เท่าตัวในระยะเวลาประมาณ 10 ปี..

ผู้ก่อตั้งอดีตเป็นครูสอนภาษาอังกฤษระดับอาชีวะแห่งหนึ่งในประเทศจีน เคยสมัครพนักงาน เคเอฟซี แล้วถูกปฏิเสธ มาแล้ว

เมื่อ 15 ปีที่แล้วเริ่มลงทุนระบบการค้าออนไลน์ด้วยเงินเพียง 5 แสนหยวน (2.5ล้านบาท)
หลังไอพีโอ คาดว่า Alibaba จะมีมูลค่าสูงกว่า อาเมซอน + อีแบ และ เฟสบุ๊ก ซะอีก คือ มากว่า 2หมื่นล้านดอลล่าสหรัฐ

ผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ก่อตั้ง แต่เป็นคนสัญชาติญี่ปุ่นเชื้อสายเกาหลี ที่เมื่อ 10 ปีก่อนนำเงินไปลงทุนใน Alibaba ในนาม softbank ด้วยจำนวนเงิน 25 ล้านดอลล่าสหรัฐ จากมูลค่าเงินที่ลงทุนไป หลัง ไอพีโอ มูลค่าจะเพิ่มขึ้น 2500 เท่าตัว และ ทำให้ประธาน softbank กลายเป็นเศรษฐี อันดับ 1 ของญี่ปุ่น
มีคุยกันในห้อง Alternative Investing/การลงทุนในต่างประเทศครับ

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 2#p1638982

The Biggest IPOs In U.S. History
Alibaba plans to go public at a price range between $60 and $66 per share, which could value the company at well over $150 billion. The $20.1 billion Alibaba would raise at the midpoint of its range would make its offering the biggest U.S. IPO on record, beating out Visa and Facebook.
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
offshore-engineer
Verified User
โพสต์: 2166
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

มีพูดไว้ในกระทู้ SoftBank เช่นกันครับ คุณ picatos ให้มุมมองที่น่าสนใจไว้ด้วย

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=17&t=57629
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
buddy
Verified User
โพสต์: 27
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เมื่อวาน วันศุกร์

Alibaba เข้าซื้อขายเป็นวันแรก

โอ้ออออ พุ่งไป 38เบอร์เซ็น ปิดที่ 93.89 (+38.07%) จาก ไอพีโอ ที่68 ดอลล่า..

ความรวยของผู้ถือหุ้น ผมคำนวนไม่ถูกเลยครับ :ohno: :ohno: :ohno: :ohno:
ภาพประจำตัวสมาชิก
นพพร
Verified User
โพสต์: 1039
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

มีหุ้นในไทยที่่ทำธุรกิจคล้าย อาลีบาบา บ้างหรือเปล่าครับ ^^
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

นพพร เขียน:มีหุ้นในไทยที่่ทำธุรกิจคล้าย อาลีบาบา บ้างหรือเปล่าครับ ^^
ผมคิดว่าที่เป็นของคนไทยจริงๆ ก็คง http://tarad.com
เพียงแต่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการใช้บริการ และที่แน่ๆ ยังห่างชั้น เพราะ alibaba นอกจากฐานลูกค้าต่างกัน นอกจากในจีนก็มหาศาลแล้ว ยังขยายไปตปท. ซึ่ง alibaba เกิด ก็คงเพราะทั้งเก่งและทั้งเฮง เฮงก็คือ เพราะเกิดในยุคจีนเฟื่องฟู ต่างประเทศรู้จักเพราะอยากเข้าไปทำการค้า สั่งสินค้าจากจีน
ส่วน tarad.com ในประเทศก็ยังไม่รู้จักกันทั่วจริง แต่ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง สำหรับกิจการที่ไม่มีคงาม "เฮง" มาช่วย


กลุ่ม NMG ก็เคยทำ จำปีไม่ได้แล้ว แต่ราว 10 ปีมาแล้ว พร้อมๆ กับบริการ e-mail ที่เพิ่งเริ่มเฟื่องฟูเวลานั้น โดยได้ domain สวย คือชื่อประเทศ http://thailand.com โดยจ้างผู้บริหารคือสรรเสริญ สมะลาภา ถือว่าเป็น vision ก้าวไกลขณะนั้น แม้แต่เรื่อง blog กลุ่มของน้าหยุ่นก็เป็นกลุ่มแรกๆ พอๆ กับผู้จัดการ ที่เริ่มเมื่อเห็นตปท.เฟื่องฟู
แต่ e-commerce ไม่ประสบความสำเร็จ ที่เหลือยังคงอยู่ทุกวันนี้ก็คือ weblog หรือ blog http://www.oknation.net/blog/index.php

ที่มีฐานลูกค้าเยอะ ก็ของพันทิป http://pantipmarket.com/ ดูเหมือนพยายามทำเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ทุ่มเต็มที่ เหมือนเป็นของเสริม เพราะงานหลักยังแค่ไปเน้นโฆษณาใน webboard พูดง่ายๆ มีฐานลูกค้า แต่ไม่ได้เอามาใช้ด้านนี้ ทำตัวเหมือน google ให้ลุกค้าเห็นโฆษณา มากกว่าอยากเป็นผู้เล่น e-commerce ทำนอง ebay, alibaba, amazon เป็นแค่ให้ลงประกาศฟรี ขอ sponsor จากรายใหญ่ หวัง traffic มองโฆษณา เผลอคลิกโฆษณา



alibaba ผมเคยลองใช้บริการติดต่อคนขายบ้าง
ที่จริงมีคนทำ website คล้ายๆ กันแบบนี้เยอะ โดยเฉพาะกระแสซื้อของจากคนขายจีน

แต่ที่เห็นชัด ว่า alibaba ปรับตัวอยู่เสมอ เดิมเหมือนกับเป็น e-commerce มีขายส่งเน้นการหาสินค้าแบบแหล่งผลิตในจีน
คือผมสังเกต และได้ลองใช้บริการจาก website ที่เพิ่งเกิดไม่กี่ปีนี้
http://www.aliexpress.com/
เป็นการปรับตัวเข้ากับกระแสได้เก่ง ซึ่งเป็นการสั่งของปลีกได้ แทบจะเหมือน ebay.com เลย
(ขณะที่ alibaba.com จะเป็นแบบสั่งเป็น lot มากกว่า)


ซึ่งถ้ามอง model จะคล้ายกับ ebay แรกๆ ผมก็กลัวว่าจะมีปัญหารึเปล่า เพราะผู้ขายจีน
แต่หลังจากใช้บริการไป 10 กว่าครั้ง ยังไม่เคยมีปัญหาแม้แต่ครั้งเดียว ผู้ขายก็ response ดี ตอนมีข้อสงสัยต่างๆ
offshore-engineer
Verified User
โพสต์: 2166
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

Tarad.com เป็นของ Rakuten ซึ่งเป็นบริษัทออนไลน์ครอบจักรวาลของญี่ปุ่นครับ
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผมเพิ่งเข้าไปดู ว่าถูกซื้อไปแล้ว 67% จริงๆ อย่างท่าน offshore-engineer ว่า

แต่ว่าเดิมก่อตั้งโดยคนไทยล้วนๆ เดิมเป็นแค่คนไอทีที่ไม่ใช่นักธุรกิจโดยกำเนิด ทำราวๆ หลังวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่จริง thaisecondhand.com เกิดก่อนนั้น

เข้าไปอ่านดู แปลว่าญี่ปุ่นเข้ามาซื้อหลังจากนั้นประมาณ 9 ปี ซึ่งก็เป็นแบบซื้อบริษัทตอนมีชื่อแล้ว ไม่ได้เป็นการตั้งขึ้นใหม่ หุ้นส่วนที่ยังเหลือก็ยังเป็นของคนไทย http://www.tarad.com/corp?l-id=th_pc_to ... ny_aboutus

คล้าย sanook.com ที่ดังแล้วถูกซื้อ แต่อันนั้นขายทั้งบริษัท แล้วคนก่อตั้งไปทำ web ใหม่ kapook.com
offshore-engineer
Verified User
โพสต์: 2166
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

มีอีกหนึ่งบริษัทที่ทำเหมือน Alibaba แต่อยู่ที่อเมริกาใต้ นั่นคือ MercadoLibre (MELI) บริษัทนี้จดทะเบียนที่อเมริกา

ความเสี่ยงหลักของบริษัทนี้คือ ค่าเงินของประเทศในแถบอเมริกาใต้มีแนวโน้มลดลงตลอด โดยเฉพาะที่เวเนซูเอลา ถ้าไม่นับจุดนี้ เป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตน่าสนใจไม่แพ้ Alibaba ครับ
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
นพพร
Verified User
โพสต์: 1039
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอบคุณข้อมูลของหลายๆท่านครับผม :mrgreen:
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
wee1
Verified User
โพสต์: 204
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมที่นี่ไม่มีใครพูดถึง Alibaba เลยครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

Ii'8N เขียน:
นพพร เขียน:มีหุ้นในไทยที่่ทำธุรกิจคล้าย อาลีบาบา บ้างหรือเปล่าครับ ^^
ผมคิดว่าที่เป็นของคนไทยจริงๆ ก็คง http://tarad.com
เพียงแต่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการใช้บริการ และที่แน่ๆ ยังห่างชั้น เพราะ alibaba นอกจากฐานลูกค้าต่างกัน นอกจากในจีนก็มหาศาลแล้ว ยังขยายไปตปท. ซึ่ง alibaba เกิด ก็คงเพราะทั้งเก่งและทั้งเฮง เฮงก็คือ เพราะเกิดในยุคจีนเฟื่องฟู ต่างประเทศรู้จักเพราะอยากเข้าไปทำการค้า สั่งสินค้าจากจีน
ส่วน tarad.com ในประเทศก็ยังไม่รู้จักกันทั่วจริง แต่ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง สำหรับกิจการที่ไม่มีคงาม "เฮง" มาช่วย


กลุ่ม NMG ก็เคยทำ จำปีไม่ได้แล้ว แต่ราว 10 ปีมาแล้ว พร้อมๆ กับบริการ e-mail ที่เพิ่งเริ่มเฟื่องฟูเวลานั้น โดยได้ domain สวย คือชื่อประเทศ http://thailand.com โดยจ้างผู้บริหารคือสรรเสริญ สมะลาภา ถือว่าเป็น vision ก้าวไกลขณะนั้น แม้แต่เรื่อง blog กลุ่มของน้าหยุ่นก็เป็นกลุ่มแรกๆ พอๆ กับผู้จัดการ ที่เริ่มเมื่อเห็นตปท.เฟื่องฟู
แต่ e-commerce ไม่ประสบความสำเร็จ ที่เหลือยังคงอยู่ทุกวันนี้ก็คือ weblog หรือ blog http://www.oknation.net/blog/index.php

ที่มีฐานลูกค้าเยอะ ก็ของพันทิป http://pantipmarket.com/ ดูเหมือนพยายามทำเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ทุ่มเต็มที่ เหมือนเป็นของเสริม เพราะงานหลักยังแค่ไปเน้นโฆษณาใน webboard พูดง่ายๆ มีฐานลูกค้า แต่ไม่ได้เอามาใช้ด้านนี้ ทำตัวเหมือน google ให้ลุกค้าเห็นโฆษณา มากกว่าอยากเป็นผู้เล่น e-commerce ทำนอง ebay, alibaba, amazon เป็นแค่ให้ลงประกาศฟรี ขอ sponsor จากรายใหญ่ หวัง traffic มองโฆษณา เผลอคลิกโฆษณา



alibaba ผมเคยลองใช้บริการติดต่อคนขายบ้าง
ที่จริงมีคนทำ website คล้ายๆ กันแบบนี้เยอะ โดยเฉพาะกระแสซื้อของจากคนขายจีน

แต่ที่เห็นชัด ว่า alibaba ปรับตัวอยู่เสมอ เดิมเหมือนกับเป็น e-commerce มีขายส่งเน้นการหาสินค้าแบบแหล่งผลิตในจีน
คือผมสังเกต และได้ลองใช้บริการจาก website ที่เพิ่งเกิดไม่กี่ปีนี้
http://www.aliexpress.com/
เป็นการปรับตัวเข้ากับกระแสได้เก่ง ซึ่งเป็นการสั่งของปลีกได้ แทบจะเหมือน ebay.com เลย
(ขณะที่ alibaba.com จะเป็นแบบสั่งเป็น lot มากกว่า)


ซึ่งถ้ามอง model จะคล้ายกับ ebay แรกๆ ผมก็กลัวว่าจะมีปัญหารึเปล่า เพราะผู้ขายจีน
แต่หลังจากใช้บริการไป 10 กว่าครั้ง ยังไม่เคยมีปัญหาแม้แต่ครั้งเดียว ผู้ขายก็ response ดี ตอนมีข้อสงสัยต่างๆ
จุดด้อยของ Tarad.com ตอนนี้คือความหลากหลายของสินค้าครับ เทียบกันแล้ว Lazada ยังมีสินค้าที่ให้เลือกมากกว่า รวมทั้งราคายังถูกกว่ามากด้วย ผมลองซื้อสินค้าของทั้งสองเวบมาเป็นสิบครั้งแล้ว ยังไงผมก็ว่า Lazada มืออาชีพกว่า
โพสต์โพสต์