มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
merlin_the_white
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 31

โพสต์

ch_army เขียน:ทำงานได้เงินเดือน 28000 แน่ะ ทำอะไรที่ไหยครับ ผมก็วฺสวะเหมือนกัน เผื่อจะตามไปสมัครด้วย

ปัจจุบันทำงานที่ บล แห่งหนึ่งครับ
ไม่ขอเอ่ยว่าที่ไหนครับ


แ่ต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ ต้องขยันนะครับ
เพราะอย่างที่บอกว่าผมเริ่มจาก 15k เช่นกัน
Price is what you pay. Value is what you get.
Viewtiful Investor
Verified User
โพสต์: 1477
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 32

โพสต์

ทำงานได้เงินเดือน 28000 แน่ะ ทำอะไรที่ไหยครับ ผมก็วฺสวะเหมือนกัน เผื่อจะตามไปสมัครด้วย
ถ้าจบโทฯก็ไม่แปลกนะครับ เพื่อนผมจบใหม่ยังได้ 35000 เลย น่าอิจฉา(แต่งานหนักสุดๆ)

ตอนผมจบตรีใหม่ๆก็เก็บเงินน่าดู (แต่ไม่ได้ลงทุนในหุ้น) ตอนนี้มองกลับไปผมว่าลำบากนะ ถ้าไม่คิดจะเก็บเงินเรียนต่อให้ได้คงไม่ทำขนาดนั้น

คุณ merlin ท่าทางมีความมุ่งมั่นดีนะครับ เยี่ยมๆ :cheers:
I do not sleep. I dream.
คนเรือ VI
Verified User
โพสต์: 1647
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 33

โพสต์

งานดี เงินเยอะ มีโอกาสเสมอครับขอให้จริงใจในการทำงานครับ

เริ่มต้นน้อยแต่ทุ่มเทก็ไปไกลครับ

ตอนนี้เพื่อนผมคนนึง เงินเดือนไป 6x,xxx แล้วครับ (จบมา 3 ปีจะ 4 ปีครับ)
อีกคนได้ 4000 ซิงดอลล่าร์นะครับ!!!

2 คนนี้มีเหมือนกันอยู่อย่างนึงคือ ทุ่มเทเพื่อบริษัทครับ จริงใจในการทำงานครับ
sunrise
Verified User
โพสต์: 2266
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 34

โพสต์

ขอให้ตั้งใจทำงานครับ

เงินเดือนก็จะตามมา โดยเฉพาะเอกชนต่างชาติ
เพื่อนผมก็รายได้หลักแสนไปแล้วครับ อายุ 27 กับ 29 ครับ
ลูกน้องประมาณ 20 กับ 60คน เป็นพวกจบโทก็มี
แต่พวกนี้ทำงานเฉลี่ยวันละ 12 ชมครับ

ถ้ามีน้องๆ เพิ่งเริ่มทำงาน
ขอให้เรียนภาษาอังกฤษดีๆ ถ้าได้ภาษาที่ 3 ก็ยิ่งดีใหญ่
แล้วรายได้จะเป็น double ได้ง่ายๆ

ลองสมัครพวก trainnee ได้นี่ยิ่งดีใหญ่เพราะว่าบริษัทจะปั้นให้เป็นผู้บริหารน่ะครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 35

โพสต์

เห็นแล้วอายครับ  ผมทำงาน 7ปี มีเงินเก็บแสนเดียว   :cry:

แต่มาคิดดูอีกที ถ้าย้อนเวลาได้ก็อาจจะทำเหมือนเดิม ตอนนั้นก็ยังวัยรุ่นอ่ะ  รสชาติอาหารเครื่องดื่มและอบายมุขรู้สึกว่าจะดีกว่าตอนนี้นะ  ตอนนี้แก่แล้วอะไรๆก็ไม่ค่อยอร่อย
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 36

โพสต์

ไมเคิล แจ็คสัน ตอนเด็กๆก็ลำบากมาก อยากเล่นก็ไม่ได้เล่นอยากกินก็ไม่ค่อยได้กินเพราะ(โดนบังคับ)ต้องซ้อมเต้นซ้อมร้องเพลงจนไม่มีเวลา

พอดังขึ้นมาร่ำรวยมหาศาล  แต่อยากจะทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำในตอนเด็กไม่ได้แล้ว  เพราะโตแล้ว  กลายเป็นคนมีปมด้อยมีพฤติกรรมแปลกๆผิดเพียนไปจากปกติ  ดูแล้วก็ไม่คุ้มกัน  ปัจจุบันก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเก่าแล้ว เลยไม่รู้ว่าทำแล้วได้อะไรปัจจุบันเหลืออะไร

ผมว่าทางสายกลางน่าจะดีกว่า  เอาให้พอเหมาะพอควร ไม่ตึงไปหย่อนไป

ปล. คนดังๆคนอื่นที่ไม่มีพฤติกรรมแบบไมเคิลก็มีเยอะนะ  อาจจะเป็นเพราะว่าเขาอยู่ที่ระดับพอดีๆก็ได้
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ในการทำงานนี่  ด้านหนึ่งคือผลโดยตรงจากการทำ  จะเห็นว่างานทุกอย่างมีจุดหมายเพื่อแก้ปัญหาชีวิตและสร้างสรรค์สังคมอย่างใดอย่างหนึ่ง

เช่น  งานแพทย์  ที่เรียกเป็นอาชีพ  แต่โดยตรงที่เป็นเหตุเป็นปัจจัยกันแท้ๆ  ก็คือ  ทำให้คนไข้หายโรคมีสุขภาพแข็งแรง  นี่คือความหมายที่ตรงกับผลตามกฏะรรมชาติ

แต่พร้อมกันนั้น  เมื่อเราทำงานก็มีระบบจัดตั้งของมนุษย์ซ้อนกันขึ้นมาว่า  ด้วยการทำงานนี้  นอกจากให้เกิดผลของตัวงานต่อชีวิตและสังคมแล้ว

ก็เป็นเหตุให้เราได้เงินมีค่าตอบแทนด้วย  และผลตอบแทนที่ได้มานั้นก็เพื่อเป็นเครื่องเกื้อหนุนให้เราไม่ต้องห่วงกังวลต่อการเลี้ยงชีพ  เพราะว่าคนเราต้องกินต้องอยู่

คนที่ทำงานทำด้วยความเข้าใจมีปัญญารุ้ความมุ่งหมายที่แท้จริง  มีจิตใจร่วมมืออย่างนี้  ผลก็ดำเนินไปได้ดี  

แต่ถ้ามนุษย์เกิดความแปลกแยกขึ้นมา  ก็จะมองด้านเดียว  แคบๆ  สั้นๆ  ไม่ทะลุ  ไม่ตลอดวงจร  

จะเอาแต่ในแง่ว่าฉันทำงานแพทย์ก็คือจะได้เงินมาก  ได้ผลตอบแทนสูง  ไม่คำนึงถึงผลโดยตรงของงาน  นึกแต่ว่าทำอย่างไรจะให้ได้เงินมากที่สุด  เราได้เงินหรือยัง

เมื่อแปลกแยกแล้ว  ปัญหาก็เกิดขึ้น  ปัญหาแรกก็คือ  ปัญหากับชีวิตของตัวเอง  ที่ไม่ตั้งใจทำงานเพื่อผลโดยตรงของงานนั้น  คือเพื่อความดีงานประโยชน์สุขของชีวิตและสังคม  

แต่มุ่งจะเอาเงินผลตอบแทนอย่างเดียว  ก็เข้าสู่ระบบของความโลภ  เริ่มด้วยชักจะไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่การงาน

คนทำสวนไม่ได้คิดถึงผลตามกฏธรรมชาติที่ว่าจะให้ต้นไม้เจริญงอกงาม  เขาไม่ได้ต้องการผลที่แท้จริงตามกฏธรรมชาติ  

เขาต้องการอย่างเดียวคืออยากได้เงินที่เป็นผลตามกฏสมมติของมนุษย์  เขาก็ทำงานเพื่อได้เงินอย่างเดียว  จะเอาแต่เงิน  ก็ไม่เต็มใจทำสวน

1. ทำงานไม่ได้ผลดี

2. จิตใจไม่มีความสุข  จำใจทำไป  ก็หาทางเลี่ยงไป

ถ้าเจ้านายไม่มาดูก็นั่งนอนอยู่เฉยๆ  พอเจ้านานยมาดูทีก็ลุกขึ้นไปทำที  เพราะใจไม่เอา
chillkun
Verified User
โพสต์: 76
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 38

โพสต์

สุมาอี้ เขียน:เงินเก็บก้อนแรกของทุกคน ใช้เหงื่อเป็นวัตถุดิบล้วนๆ ครับ เก็บนานมาก ๆ ฐานเงินเดือนที่ยังต่ำอยู่ทำให้ disposable income มันน้อยมากครับ (disposable income = salary-necessary expense) พอเงินเดือนเริ่มมากขึ้น ค่าใช้จ่ายจะขึ้นช้ากว่า (แต่บางคนก็ไม่นะครับ แหะๆ)

ภาระอีกอย่างที่ถ่วงก็คือคนที่ต้องผ่อนรถเอง ความไม่เป็นหนี้เป็นลาภอันประเสริฐครับ ช่วงแรกๆ ซื้อรถมือสอง หรือว่าขึ้นรถเมล์ได้ก็จะดี

พอเก็บได้ถึงจุดหนึ่งแล้ว คราวนี้วัตถุดิบจะเริ่มเปลี่ยนจากเหงื่อเป็นเงินมากขึ้น แบบที่เขาพูดว่า "ให้เงินทำงาน" นั่นแหละครับ interest income กับ dividend income จะช่วยผ่อนแรงเราไปได้เยอะทีเดียว ถึงจุดนี้แล้วมันจะเพิ่มขึ้นเร็วมากเลยครับ

เก็บก้อนแรกให้ได้ครับ มีเฮแน่นอน

ผมทำงานมาสองปีแล้วคับ รู้สึกว่าข้อความนี้โดนใจผมมากเลยคับ
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 39

โพสต์

chillkun เขียน: เหมือน


ผมทำงานมาสองปีแล้วคับ รู้สึกว่าข้อความนี้โดนใจผมมากเลยคับ
เหมือนที่เขาบอกว่า 1 ล้านแรกหายากกว่าล้านถัดไป

หรือพูดอีกแบบได้ว่า ล้านที่สองหาง่ายว่าล้านแรกมาก
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
คนเรือ VI
Verified User
โพสต์: 1647
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 40

โพสต์

คนที่ทำงานทำด้วยความเข้าใจมีปัญญารุ้ความมุ่งหมายที่แท้จริง  มีจิตใจร่วมมืออย่างนี้  ผลก็ดำเนินไปได้ดี  

แต่ถ้ามนุษย์เกิดความแปลกแยกขึ้นมา  ก็จะมองด้านเดียว  แคบๆ  สั้นๆ  ไม่ทะลุ  ไม่ตลอดวงจร  

จะเอาแต่ในแง่ว่าฉันทำงานแพทย์ก็คือจะได้เงินมาก  ได้ผลตอบแทนสูง  ไม่คำนึงถึงผลโดยตรงของงาน  นึกแต่ว่าทำอย่างไรจะให้ได้เงินมากที่สุด  เราได้เงินหรือยัง

เมื่อแปลกแยกแล้ว  ปัญหาก็เกิดขึ้น  ปัญหาแรกก็คือ  ปัญหากับชีวิตของตัวเอง  ที่ไม่ตั้งใจทำงานเพื่อผลโดยตรงของงานนั้น  คือเพื่อความดีงานประโยชน์สุขของชีวิตและสังคม  
ขอน้อมรับคำพี่chatchaiไปปฏิบัติในชีวิตครับ

เหมือนนักบอลครับ ต้องเล่นให้สนุกครับ
merlin_the_white
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 41

โพสต์

ขอขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำครับ

:bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :bow:  :cool:
Price is what you pay. Value is what you get.
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 42

โพสต์

8) สำหรับผมคิดว่า
    หาได้เท่าไร ก็ต้องเทียบกับ ใช้ไปเท่าไหร่
    หาเยอะแต่ใช้มากกว่าก็ตายเหมือนกัน
    หาน้อยกว่า แต่ ใช้เป็น
    พวกที่คุมต้นทุนเก่งๆ
    พวกเราก็หาหุ้นบริษัทพวกนี้
    อยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่หรือครับ
 
    สำหรับท่านแม่ทัพ เรื่องให้เงินทำงาน
    หมอศรรามเรื่องสายกลาง
    กับธรรมะในการทำงานของท่านฉัตรชัย
    เห็นด้วยสุดใจเลยครับ
    ชอบเวปนี้ก็เพราะไอเดียพวกนี้
    มันเป็นเสมือนคำเตือนให้เราทำสิ่งที่ควรทำ
    เรื่องหุ้นยังเป็นรองเลย(สำหรับผมนะ)
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

อันตัวผม...

โพสต์ที่ 43

โพสต์

ผมเองก็ไม่ได้ประหยัดมากมายอะไร แต่พอเพื่อนๆเห็นโทรศัพท์ผมแล้ว แซวว่า "นี่ไงโทรศัพท์วีไอ" 555 :roll:  :roll:  :roll:
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 44

โพสต์

กำลังพยายามทำให้ได้เหมือนพี่ๆ ในนี้ครับ  :D
ssintra
Verified User
โพสต์: 13
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 45

โพสต์

ผมมีเรื่องมา share เหมือนกัน อายุ 30 income ประมาณ 100000 ต่อเดือน เป็น VS ที่เก่งมาก แต่แนวทางการดำเนินชีวิตแบบ VI นั่งรถเมล์ไปทำงาน ไม่มีรถ เจอกี่ครั้งก็แต่งตัวเหมือนเดิมเสื้อยืดกางเกงตัวเดิม เหมือนเมื่อยังเรียนอยู่(จบมาประมาณ 7 ปีแล้ว) ผมเองคิดว่าเค้าน่าจะเป็นคนแรกในรุ่นที่มีอิสระทางการเงิน ทั้งๆที่ทางบ้านไม่ได้เป็นคนรำรวยอะไร เป็นชนชั้นกลางที่ต่างจังหวัดธรรมดา
sin
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 46

โพสต์

คนด้วยอย่างยิ่งครับหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะที่บอกว่าให้ใช้จ่าย น้อยกว่ารายได้ ถูกต้องที่สุด หามาได้ 100000 ต่อเดือน จ่ายเดือนละ 120000 อย่างนี้ก็ไม่ไหว หรอกครับ ผมถือว่าเป็นคนจน เพราะหามาได้มากก็จริง แต่จ่ายมากกว่า

ผมยกย่องคนที่หามาได้เดือนละ 8000 แต่จ่ายไปเดือนละ 6000 มากกว่า เพราะเมื่อเขาหามาได้มากขึ้น เขาก็จะเหลือมากขึ้น คาดการได้เลยว่า ถ้ามีลักษณะการใช้จ่ายแบบนี้ต่อไปเขารวยแน่

ตอนนี้ผมเห็นน้องที่ทำงานหลายคนทำงานได้ไม่กี่ปี ปีนี้ได้โบนัสเยอะกว่าปกติบวกกับได้ขึ้นเงินเดือนมากขึ้นอีกนิดหน่อย ก็ไปดาวน์รถ มาขับกันแล้ว ทั้งที่ต้องเช่าบ้านอยู่ มือถือก็เครื่องละหมื่นขึ้นไปทั้งนั้น แล้วต่อไปจะมีเงินก้อนกันได้ไง จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อบ้าน สร้างครอบครัวกันอย่างไร

เพราะเงินที่หามาได้ก็ต้องหมดไปกับค่ารถหมดแน่ๆ

คิดแบบง่ายๆ ค่าใช้จ่ายต่อเดือน เช่าบ้านถ้าอยู่คนเดียวเดือนละ 3000 + ค่าน้ำมันรถเดือนละ 3000 + ค่าจิปาถะของรถเฉลี่ยเดือนละ 500 + ค่าประกันรถบวกภาษีคิดถูกๆเฉลี่ยเดือนละ 1000 + ค่าผ่อนรถแบบน้อยก็เฉลี่ยเดือนละ ประมาณ 8000 + ค่ากินอยู่น้อยๆเฉลี่ยวันละ 100 ก็ 3000

รวมก็ 18500 ไม่รวมค่าน้ำไฟโทร และอื่นๆ  :(  ไม่ได้ใช้เงินไปทำงานเลย
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 47

โพสต์

100000 ต่อเดือนยังนั่งรถเมล์ อืม

ทรมานตัวเองเกินไปแล้วมั๊งครับ

เดี๋ยวจะกลายเป็น คนแก่ที่มาคอยเตือนหนุ่มๆว่า ใช้ชีวิตไปเถิด อย่าเอาอย่างผม มีเงินไม่เคยใช้เลย
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 48

โพสต์

Jeng เขียน:100000 ต่อเดือนยังนั่งรถเมล์ อืม

ทรมานตัวเองเกินไปแล้วมั๊งครับ

เดี๋ยวจะกลายเป็น คนแก่ที่มาคอยเตือนหนุ่มๆว่า ใช้ชีวิตไปเถิด อย่าเอาอย่างผม มีเงินไม่เคยใช้เลย
เห็นด้วยครับ 100000 ต่อเดือน ถ้าทำงานบริษัท กินเงินเดือนก็ไม่ธรรมดาแล้วละครับ เป็น VS ที่เก่ง อื่นๆก็น่าจะเก่ง อย่างนี้น่าจะต้องมีบ้าน มีรถแล้วนะครับ การบริหารชีวิตให้มีความสุขตามอัตภาพ ก็เป็นสิ่งจำเป็นนะครับ

ถ้าผมได้ขนาดนี้ก็ .... ไม่เกินอีก 10 ปีผมก็เกษียณแล้วครับ เพียงพอแล้วครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 49

โพสต์

คนมีความสามารถ  เวลาน่าจะเป็นสิ่งสำคัญ

คุ้มไหมที่ต้องเสียเวลา  และเหนื่อยอ่อน  ในการเดินทางด้วยรถประจำทาง  คงต้องคิด

เอาเวลา  และแรงที่เสียไป  ทำอย่างอื่นจะคุ้มค่ากว่าไหม
s3410312
Verified User
โพสต์: 180
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 50

โพสต์

อ่าน thaivi มานานพอควร แต่เพิ่งจะ post ครั้งแรก อ่านความเห็นต่าง ๆ ของทุกท่านแล้ว นับถือ ๆ  ผมเองมีพฤติกรรมการใช้ิเงินที่ค่อนข้างประหยัด จนบางทีรู้สึกเหมือนกันว่า คนใกล้ตัว บางคน ไม่ค่อยจะเห็นด้วย แต่อ่านกระูทู้นี้แล้ว รู้สึกว่าเราก็มาได้ถูกทางเหมือนกัน :bow:  :bow:
นายสต็อก
Verified User
โพสต์: 777
ผู้ติดตาม: 0

Life Style แมงเม่า VI

โพสต์ที่ 51

โพสต์

ส่วนตัว...
ผมเน้นที่ Life Style ในการใช้ชีวิตมากกว่า เราไม่ได้เน้นที่ฐานะร่ำรวยหรือ
ยากจนเป็นสำคัญ :idea:

อย่างผม ซื้อเสื้อตัวละ 99 บาทใส่ บางคนอาจคิดว่า Look Cheap!!!
แต่ ผมมองแล้วเห็นว่า อย่างเราใส่ตัวนี้แล้วเหมือนมาดอาเสี่ยแน่นอน
ฉะนั้น บ่อยครั้งที่ผมซื้อของใช้ ผมไม่เน้นเรื่องยี่ห้อชื่อดัง หรือ Popular
Brand Name สักเท่าใด เพราะ เราวางแนวคิดในการแต่งตัว หรือใช้
ชีวิตของเราไว้แล้ว!!! :roll:

เดือนๆนึง...
ผมก็มีรายได้ไม่มากนักแค่หลักหมื่น แต่ก็มีรายจ่ายประจำเหมือนคนอื่นๆ
เช่น แบ่งจ่ายค่าไฟที่บ้าน, ช่วยค่าคนงานแม่, ค่าน้ำมัน, หรือ ซื้อของใช้ลูก
ตลอด จนค่าใช้จ่ายจิปาฐะ รวมทั้งกินใช้ส่วนตัวอีก ผมก็ไม่ซีเรียสอะไร
มีแค่นี้ เราก็ประหยัดเอา ก็พออยู่ได้

วันพิเศษๆ เราก็ออกไปทานอาหารอร่อยๆกัน เช่น กินสุกี้ หรือ อาหารญี่ปุ่น
แต่ ก็ชอบไปหาร้านอร่อยๆ ริมถนนทานเหมือนกันนะครับ มิใช่ เราต้องนั่ง
กินตามภัตตาคารอย่างเดียว :lol:  

ถ้าจะถามว่า...แล้วผมไม่อิจฉาคนที่เค้ามีมากกว่าเราหรือ?
ผมคงตอบว่าเฉยๆนะ แต่ก็ดีใจที่เค้าประสบความสำเร็จในชีวิตด้วย
เช่นกันครับ ผมไม่นับกรณี...นายกขายหุ้น 73,000 ล้านบาทนะครับ :oops:  (ฮะๆ...)
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 52

โพสต์

Jeng เขียน:100000 ต่อเดือนยังนั่งรถเมล์ อืม

ทรมานตัวเองเกินไปแล้วมั๊งครับ

เดี๋ยวจะกลายเป็น คนแก่ที่มาคอยเตือนหนุ่มๆว่า ใช้ชีวิตไปเถิด อย่าเอาอย่างผม มีเงินไม่เคยใช้เลย
กล้วยทอดว่าออกกำลังกายดีออกนะ
ยิ่งรายรับสูง เวลาว่างเริ่มน้อย
ออกกำลัง ก็น่าจะน้อยลงด้วย

คุณเจ้าของกระทู้เก็บเงินได้ ไม่แปลกค่ะ
แต่ชื่นชมที่ใช้สตางค์เป็น ตั้งแต่วัยยังน้อยค่ะ
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
uI7J3w
Verified User
โพสต์: 150
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 53

โพสต์

กล้วยทอด เขียน: กล้วยทอดว่าออกกำลังกายดีออกนะ
ยิ่งรายรับสูง เวลาว่างเริ่มน้อย
ออกกำลัง ก็น่าจะน้อยลงด้วย

คุณเจ้าของกระทู้เก็บเงินได้ ไม่แปลกค่ะ
แต่ชื่นชมที่ใช้สตางค์เป็น ตั้งแต่วัยยังน้อยค่ะ

ผมก็ว่านั่งรถเมล์หน่ะ สบายสุดแล้วครับ
ทุกวันนี้ถ้าไม่จำเป็นอะไรก็รถเมล์ประจำครับ
ตาหมูอ้วน.
Verified User
โพสต์: 511
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 54

โพสต์

ผมก็ใช้รถขนส่งสาธารณะครับ

จะผ่อนรถก็พอไหว

แต่กลัวไม่มีเงินเก็บลงทุน

เอาไว้เก็บเงินมากกว่านี้อีกหน่อยค่อยพิจารณาใหม่ครับ :)
VI ฝึกหัด
Mr. Big
Verified User
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 55

โพสต์

จริงๆ ผมก็รุ่นๆ เดียวกับหลายๆ ท่าน (27) ตอนนี้ขออ่านเป็นข้อเตือนใจก็แล้วกันครับ ตอนนี้ถือว่าโชคดีมากๆ ที่ประเภทงานบางอย่าง เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ถนัดก็เลยทำได้ด้วยดีครับ ตอนนี้เงินเดือนก็รับเป็น cash flow ต่อเดือน แต่มีรายได้พิเศษเข้ามาช่วย แต่ผมใช้จ่ายไม่เกินเงินเดือนที่ได้รับต่อเดือน (ข้อแม้ตัวเองครับ) เหมือนกันครับ
sunrise
Verified User
โพสต์: 2266
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 56

โพสต์

Mr. Big เขียน:จริงๆ ผมก็รุ่นๆ เดียวกับหลายๆ ท่าน (27) ตอนนี้ขออ่านเป็นข้อเตือนใจก็แล้วกันครับ ตอนนี้ถือว่าโชคดีมากๆ ที่ประเภทงานบางอย่าง เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ถนัดก็เลยทำได้ด้วยดีครับ ตอนนี้เงินเดือนก็รับเป็น cash flow ต่อเดือน แต่มีรายได้พิเศษเข้ามาช่วย แต่ผมใช้จ่ายไม่เกินเงินเดือนที่ได้รับต่อเดือน (ข้อแม้ตัวเองครับ) เหมือนกันครับ
รุ่นเดียวกันเลยครับ :D
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
ภาพประจำตัวสมาชิก
MO101
Verified User
โพสต์: 3226
ผู้ติดตาม: 0

มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 57

โพสต์

ตอนจบใหม่ ๆ เงินเดือนยังไม่ถึง 15000
จ่ายค่าเช่าบ้าน + ค่าเลี้ยงดู
นั่งรถเมล์ กินข้าวแกง ใส่เสื้อแบนเนม(ตอนลดราคา)
เครื่องใช้ไฟฟ้ามีทุกชิ้น ซื้อเองหมด
ยังมีเงินเก็บเลยครับ

อยู่ที่ความมุ่งมั่นมากกว่า
earthcu
Verified User
โพสต์: 332
ผู้ติดตาม: 0

Re: มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 58

โพสต์

เข้ามาขุดกระทู้ดีๆ ในอดีตเพื่ออ่านครับ
เผื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อน้องๆ vi รุ่นใหม่ครับ
Life is beautiful + Financial freedom within 2015 by investment stock & real estate
ภาพประจำตัวสมาชิก
pornchai_w
Verified User
โพสต์: 244
ผู้ติดตาม: 0

Re:

โพสต์ที่ 59

โพสต์

chatchai เขียน:ในการทำงานนี่  ด้านหนึ่งคือผลโดยตรงจากการทำ  จะเห็นว่างานทุกอย่างมีจุดหมายเพื่อแก้ปัญหาชีวิตและสร้างสรรค์สังคมอย่างใดอย่างหนึ่ง

เช่น  งานแพทย์  ที่เรียกเป็นอาชีพ  แต่โดยตรงที่เป็นเหตุเป็นปัจจัยกันแท้ๆ  ก็คือ  ทำให้คนไข้หายโรคมีสุขภาพแข็งแรง  นี่คือความหมายที่ตรงกับผลตามกฏะรรมชาติ

แต่พร้อมกันนั้น  เมื่อเราทำงานก็มีระบบจัดตั้งของมนุษย์ซ้อนกันขึ้นมาว่า  ด้วยการทำงานนี้  นอกจากให้เกิดผลของตัวงานต่อชีวิตและสังคมแล้ว

ก็เป็นเหตุให้เราได้เงินมีค่าตอบแทนด้วย  และผลตอบแทนที่ได้มานั้นก็เพื่อเป็นเครื่องเกื้อหนุนให้เราไม่ต้องห่วงกังวลต่อการเลี้ยงชีพ  เพราะว่าคนเราต้องกินต้องอยู่

คนที่ทำงานทำด้วยความเข้าใจมีปัญญารุ้ความมุ่งหมายที่แท้จริง  มีจิตใจร่วมมืออย่างนี้  ผลก็ดำเนินไปได้ดี  

แต่ถ้ามนุษย์เกิดความแปลกแยกขึ้นมา  ก็จะมองด้านเดียว  แคบๆ  สั้นๆ  ไม่ทะลุ  ไม่ตลอดวงจร  

จะเอาแต่ในแง่ว่าฉันทำงานแพทย์ก็คือจะได้เงินมาก  ได้ผลตอบแทนสูง  ไม่คำนึงถึงผลโดยตรงของงาน  นึกแต่ว่าทำอย่างไรจะให้ได้เงินมากที่สุด  เราได้เงินหรือยัง

เมื่อแปลกแยกแล้ว  ปัญหาก็เกิดขึ้น  ปัญหาแรกก็คือ  ปัญหากับชีวิตของตัวเอง  ที่ไม่ตั้งใจทำงานเพื่อผลโดยตรงของงานนั้น  คือเพื่อความดีงานประโยชน์สุขของชีวิตและสังคม  

แต่มุ่งจะเอาเงินผลตอบแทนอย่างเดียว  ก็เข้าสู่ระบบของความโลภ  เริ่มด้วยชักจะไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่การงาน

คนทำสวนไม่ได้คิดถึงผลตามกฏธรรมชาติที่ว่าจะให้ต้นไม้เจริญงอกงาม  เขาไม่ได้ต้องการผลที่แท้จริงตามกฏธรรมชาติ  

เขาต้องการอย่างเดียวคืออยากได้เงินที่เป็นผลตามกฏสมมติของมนุษย์  เขาก็ทำงานเพื่อได้เงินอย่างเดียว  จะเอาแต่เงิน  ก็ไม่เต็มใจทำสวน

1. ทำงานไม่ได้ผลดี

2. จิตใจไม่มีความสุข  จำใจทำไป  ก็หาทางเลี่ยงไป

ถ้าเจ้านายไม่มาดูก็นั่งนอนอยู่เฉยๆ  พอเจ้านานยมาดูทีก็ลุกขึ้นไปทำที  เพราะใจไม่เอา
พี่ฉัตรชัยเขียนได้โดนจริงๆ พอคิดถึงตัวเองแล้วก็รู้สึก... :cry: รายได้จากการทำงานบริษัทก็มากอยู่ แต่ไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ทำมันจะตรงกับที่ใจรัก (เหมือน VI โดนบังคับให้ซื้อหุ้นโดยดูกราฟแนวรับแนวต้าน) แต่ถ้าจะให้ออกไปทำงานในสิ่งที่รักตอนนี้ ก็เหมือนต้องไปเริ่มใหม่เงินเดือนน่าจะน้อยไปครึ่งหนึ่ง
ตอนนี้ก็ฝันเหมือนหลายๆ คนที่จะสร้างอิสระภาพทางการเงินขึ้นมาให้มี รายได้จากการลงทุน (Passive Income) ให้เพียงพอสำหรับอยู่ได้ แล้วจึงไปทำงานที่อยากทำโดยไม่หวังที่จะทำงานเพื่อเงิน :lol:
Blog ของคนใช้เงินเก่ง ^_^
http://pefinance.wordpress.com/about/
kittithat t
Verified User
โพสต์: 143
ผู้ติดตาม: 0

Re: มีน้องคนนึง เป็นตัวอย่างที่ดีของ vi

โพสต์ที่ 60

โพสต์

คนหนุ่มๆ เยอะเลยนะครับ หวังว่าเราจะโตไปด้วยกัน ผมเองก็ 25 ครับ