ศุกร์ เม.ย. 04, 2014 12:14 am | 0 คอมเมนต์
oatty เขียน: ผมจะถามเสี่ยสายชลเหมือนกันว่า ติดกระดุมเม็ดไหนก่อน 555 พี่ธีรศักดิ์มาอีกมุขหนึ่ง
--------------------------------
ผมอ่านในเฟสบุ๊คเรื่องประหยัดเหมือนกัน แต่ไม่อยากโพสต์ในนั้น ขอมาแสดงความเห็นตรงนี้แล้วกัน...
ผมว่าพฤติกรรมของพี่นุชเขาเรียกว่ามันเป็นวิถีชีวิตไปแล้ว ดังนั้นใครจะมาพูดยังไงก็ได้ แต่เขามาพูดในฐานะที่เขาไม่อาจทำแบบนั้นได้เพราะมันขัดกับความต้องการของเขา อะไรก็ตามที่เราทำบ่อย ๆ มันกลายเป็นสันดานไปโดยอัตโนมัติ และยิ่งจมดิ่งในกมลสันดานอีกเมื่อเราทำแล้วมีความสุข คนในครอบครัวมีความสุข คนรอบข้างมีความสุข
ผมเองไม่ได้ประหยัดขนาดพี่นุช เอาตามจังหวะและโอกาส แต่ชอบเรียบง่ายเข้าว่า
เรื่องกระดุมเดี๋ยวน้องายชลคงมาอธิบายค่ะ
ชอบเลยค่ะ น้อง oatty จริงๆ พี่ว่าคำนี้ไว้อธิบายสิ่งที่ลึกกว่านิสัยได้ทั้งด้านบวกและด้านลบค่ะ
เมื่อเรานำมาใช้ในด้านบวกมันก็เป็นบวก ซึ่งใช้อธิบายได้กินใจความลึกซึ้งดีนะคะ
อย่างที่บอกในบทความเลือกที่จะต่ำกว่ามาตรฐาน (บางด้านค่ะ)
ซึ่งมันจะเป็นด้านที่เราควบคุมได้ ลด ละ เลิก หรือ รอได้ และยืดเวลาได้ชัดเจนอย่าง เช่น
- พวกเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เคตื่องแต่งตัว
- เฟอร์นิเจอร์ในบ้าน เลือกตามวัตถุประสงค์การใช้งานหนักไปทางเรียบๆ
อาจเพราะฐานนิสัยแบบนี้ พี่ชอบของที่ไม่มีดีไซน์สวยงาม ออกจะเหลี่ยมๆ
เพื่อให้จัดเป็นระเบียบง่าย ทนทาน ราคาจึงมักจะไม่ค่อยแพงค่ะ
- การทานอาหารมื้อดีๆ (เช่น MK สัปดาห์ละ 1 ครั้ง 600 + - ค่ะ
หนักไปทางลบมากกว่า (หรือร้านอื่นๆ ที่ราคาเฉลี่ยต่อมื้อใกล้เคียงกับ MK ค่ะ) )
- กระเบื้องโรงรถเลือกปูทั่วแต่ใช้กระเบื้องเกรด B ที่ลดราคาอยู่นอกห้องแอร์
แล้วใช้วิธีปูสลับลายให้เก๋ๆ (บางทีที่มีสีเดียวกันไม่พอ...ก็ใช้สีอื่นมาสลับ
แต่เราต้องพกตลับเมตรตลอด วัดพื้นที่คำนวณขนาดกระเบื้องกับพื้นที่
และเขียนลายที่เป็นไปได้ออกมา ตามกระเบื้องที่มีค่ะ...สนุกดีค่ะ...พี่ชอบ)
- ต้นไม้ที่ปลูกเลือกราคาไม่แพงมาก และค่อยๆ ให้มาแตกที่บ้านเรา แล้วแยกกอ
ขยายพื้นที่ไปค่ะไม่ซื้อมาลงเต็มที่ครั้งเดียว (รอได้) ฯลฯ
-ที่พักเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่ต้องหรูแต่ปลอดภัยค่ะ
- ไปเที่ยวตามวัตถุประสงค์ เช่น เมื่อเร็วๆ นี้ไป LEGO LAND ที่มาเลยเซีย
และ Universal ที่สิงคโปร์ พิจารณาตัวเองแล้วตัวเราไม่ชอบที่เที่ยว
ลักษณะนั้น ถ้าไปก็คงจะนั่งรอ แต่ก็จะเสียค่าเข้า คิดแล้วไม่คุ้ม
เลยให้พ่อลูกไปกันสองคนพอค่ะ ประหยัดค่าเครื่องบิน และค่าเข้าทั้งสองแห่ง
รวมทั้งค่าอาหารซึ่งทราบกันดีอยู่ว่าราคาแพงมาก สำหรับตัวเรา ได้ 1 คน
สำเร็จตามวัตถุประสงค์ ลูกได้ไปเปิดหูเปิดตาในที่ที่เด็กๆ ไฝ่ฝันอยากไป
และเค้าได้เปรียบเทียบค่าเงิน 3 ประเทศด้วยค่ะ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย
ลูกติดนิสัยชอบคิดราคาของค่ะ ก็ดีนะคะ เค้ากลับมาเล่าราคาของหลายหมวด
น้ำดื่ม อาหาร มีสิ่งนึงที่ลูกเล่ามาแล้วพี่ชอบมากคือ
"นมเมจิยี่ห้อที่เราดื่มอยู่
ราคาเท่ากับยี่ห้ออื่นแต่ขวดเล็กกว่า ปริมาตรน้อยกว่าชัดเจน เลยเลือกยี่ห้ออื่น
แค่ 3 วันเองคุณแม่ ดื่มๆ ไปก่อน ค่อยกลับมาดื่มเมจิที่บ้านเรา"
ฯลฯ หลายๆ เรื่องในชีวิตเรารอ หรือชะลอได้จริงๆ ค่ะ
...........................
แต่ในบางเรื่องที่จำเป็นพี่ก็เลือกสิ่งดีมีมาตรฐานเหมือนกันค่ะ เช่น
- ค่าหนังสือ และค่าการศึกษาลูก
- ยางรถยนต์ เลือกยี่ห้อดีและตรงวัตถุประสงค์การใช้งาน เปลี่ยนตามระยะทาง
หรือเวลาที่กำหนด เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัยในชีวิต
- ตอนกู้ซื้อบ้าน และรีไฟแนนซ์บ้าน ไม่ลังเลที่จะทำประกันคุ้มครองผู้ส่งเบี้ย
- บ้านเลือกซื้อในหมู่บ้านที่มีคุณภาพปลอดภัย เพราะแฟนพี่ไปต่างประเทศบ่อย
เรามีโอกาสที่ต้องอยู่กันเองสองคนแม่ลูก และเลือกที่มีสวนกว้างๆ เพื่ออกกำลังกายสะดวก
- รองเท้าผ้าใบลูก สังเกตว่าเราซื้อบางยี่ห้อที่ราคาถูกมาใช้แล้วพังเร็ว
(รร.อินเตอร์ ให้ใส่รองเท้าผ้าใบ แบบ หรือสีตามใจชอบ ใส่เรียน ใส่เที่ยวคู่เดียวกัน)
เพื่อนเคยให้ของลูกเค้าที่คับแล้วมายี่ห้อดัง ลูกใส่ไปลุยค่ายหน้าฝนสกปรกมาก
เราก็แช่ผงซักฟอกกะว่าซักพักจะซัก พอดีต้องรีบไปหาแม่ที่อ่างทองฉุกเฉิน..ลืม
วันรุ่งขี้นกลับมา ไม่เป็นไรเลยค่ะ กาวก็ไม่หลุด และลูกบอกว่าระบายเหงื่อได้ดีไม่อับชื้น
ตั้งแต่นั้นมาเลือกซื้อให้ลูกใส่ค่ะ แต่ต้องลดราคาเกิน 40 % ขึ้นไปนะคะ
บางคนบอกว่ากาวหรือวัสดุมันจะเสื่อมนะ แต่เท่าที่เคยใช้มาก็ไม่พังเร็ว
เคยซื้อตินที่ลดถึง 70% ก็ไม่มีปัญหาเรื่องความทนทานค่ะ)
..................................
ทั้งสองด้านของของที่ "จำเป็น" หรือ "ไม่จำเป็น" ต้องมี "สติ" เสมอค่ะ
"เลือก" หรือ "ไม่เลือก" ต้องคิดวิเคราะห์เสมอค่ะ (เน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่ารูปลักษณ์)
เป็นอีกอย่างที่สอนลูกด้วยเหมือนกันค่ะ บางอย่างเค้าทำเป็นตารางเปรียบเทียบมาเลย
เราแค่นิ่งๆ อยู่ และดู เค้าจะรู้ว่าสงสัยข้อมูลประกอบไม่พอก็จะกลับไปเพิ่มบางอย่างมา
เพื่ออธิบายคุณสมบัติของของที่เค้าจะขอซื้อ (แม้ต้องสมทบเงินตัวเอง..ก็ยังยาก...ตามวัยค่ะ)
ไม่ได้ใจร้ายกับลูกนะคะ เราให้ทักษะที่จำเป็นวันนึงที่เค้าต้องไปใช้ชีวิตเอง
ทักษะการคิดพิจารณารอบด้านจะติดตัวไปตลอด...แล้วจะไม่น่าห่วงค่ะ
เลี้ยงให้คิดเป็นนั่นเองค่ะ แต่เด็กแบบนี้ก็จะเป็นตัวของตัวเองสูงพอสมควรค่ะ
ก้ยังอ่อนโยนด้วยนะคะ....เพราะเราก็เน้นการกอดไม่ว่าจะโตแค่ไหนก็ยังกอดอยู่ค่ะ