VI บ้าน ๆ

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 421

โพสต์

เขาค้อ
อิมพีเรียลภูแก้วก็จัดว่าหรูสุดครับ ไม่รู้เปลี่ยนพรมทุกห้องแล้วยัง
พาผู้ใหญ่ไป ถ้าชอบวัดก็วัดผาซ่อนแก้ว เจดีย์ไม่เหมือนใคร โมเสคสุดอลังการ
พาเด็กไป โดยเฉพาะลูกชายพลังล้นเหลือ ก็ภูหินร่องกล้าเลย ไปเดินดูลานหินปุ่ม ดูวิวหน้าผา ดูกังหันน้ำ

เขาสก(สุราษฎ์ธานี)
ตรงทะเลสาบไม่เคยไป ถ้าตัดเกาะกลางทะเลออก เดาว่าอารมณ์สงบคล้ายดอยเต่า
แต่ถ้าต้องการลุยๆ ไปตรงอุทยาน เดินชมธรรมชาติ ให้ปลิงเกาะพอตื่นเต้น
แล้วไปนอนtreehouseมีสองสามเจ้าเอง ไม่เกินสิบหลัง
บ้านสร้างบนต้นไม้ยักษ์ บางหลังเตี้ยๆ บางหลังสูงลิบลิ่ว
ผมว่าน่าจะเป็นแห่งเดียวในไทย ที่ปายยังไม่เท่าไหร่
บางหลังมีไฟ บางหลังจุดตะเกียงให้ เดินลัดเลาะไปในป่า
ส่วนใหญ่รู้กันในหมู่ฝรั่ง คนไทยไปขอเช่าอาจโดนปฎิเสธ(คงกลัวทำตัวหนวกหู)

รึถ้าแทนที่จะเลี้ยวขวาเข้าเขาสก เลี้ยวซ้ายลงนคร
ไปกรุงชิง น้ำตกกรุงชิงคือสถานที่ธรรมชาติที่เดียวที่มีรูปในแบ็งค์พัน
(ส่วนใหญ่รูปหลังธนบัตรมักเป็นวัด อนุเสาวรีย์)
ตัวน้ำตกก็ไม่เท่าไร เดินป่าผ่านต้นไม้ใหญ่ราวสี่ห้ากิโล
แต่ล่องแก่งนี่ พอตื่นเต้นให้น้องธีร์สนุกได้ครับ ผมว่าไม่อันตราย
samatah
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 422

โพสต์

พระธาตุผาซ่อนแก้ว สวยจริงครับ หมอ 1

แต่วันที่ไปนี่ เป็นสวยปนเสียว ซะมากกว่าครับ

เสียวจน หายใจไม่ออกเลยครับ ทางเข้าในช่วงปีใหม่คับคั่งด้วยผู้คน จนรถติดเป็นทางยาว

แล้วทางก็สูงชันมาก มีขึ้นลง จนเสียวจะตกหน้าผา รถผมเป็น 4 wheel ยังเหนื่อยแทบแย่

ใช้เกียร์1 ตลอดเวลา ที่เสียวคือช่วงมีทางลงเขาชิดหน้าผาด้วย หายใจแทบไม่ออกเลย

แตะเบรกตลอด ที่สำคัญกลัวรถคันอื่นมากกว่าครับ กลัวจะเบรกแตก เบรกไหม้ จนไถลลงมากวาดเราลงหน้าผาไปซะด้วยล่ะครับ

รับรองออกข่าวหน้า 1 แน่ :(

โชคดีที่มีแวะถ่ายรูปจากเนินที่อยู่ไกลๆครับ เพราะตอนแรกว่าจะไม่เข้าละ คนแน่นมาก ได้แต่เอารูปสวยๆของคนอื่นมาฝากแทนแล้วกันครับ

รูปภาพ
saichon
Verified User
โพสต์: 1219
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 423

โพสต์

theenuch เขียน: เห็นด้วยค่ะ เมืองไทยยังมีที่น่าเที่ยวอีกเยอะจริงๆ
มีที่นึงที่อยากไปมานานคือ "เขาสก" จังหวัด "สุราษฎร์ธานี" ค่ะ...คงน่าจะได้ใปในปีนี้
นำรีวิว "เขาสก" จาก pantip มาฝาก...เค้ารีวิวไว้ดีมากเลย....เผื่อมีเพื่อนๆ สนใจ
ดีใจจังที่พี่นุชสนใจมาเที่ยวสฎ. มาวันไหนแจ้งล่วงหน้าน๊ะครับ
จะเกณฑ์คนไปยืนต้อนรับตอนรถวิ่งผ่าน ฮ่า... :D
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 424

โพสต์

saichon เขียน:
theenuch เขียน: เห็นด้วยค่ะ เมืองไทยยังมีที่น่าเที่ยวอีกเยอะจริงๆ
มีที่นึงที่อยากไปมานานคือ "เขาสก" จังหวัด "สุราษฎร์ธานี" ค่ะ...คงน่าจะได้ใปในปีนี้
นำรีวิว "เขาสก" จาก pantip มาฝาก...เค้ารีวิวไว้ดีมากเลย....เผื่อมีเพื่อนๆ สนใจ
ดีใจจังที่พี่นุชสนใจมาเที่ยวสฎ. มาวันไหนแจ้งล่วงหน้าน๊ะครับ
จะเกณฑ์คนไปยืนต้อนรับตอนรถวิ่งผ่าน ฮ่า... :D
จุดพลุด้วยนะน้องสายชล อิ อิ :B

เดี๋ยวพี่จะทยอยเขียนเรื่องเลี้ยงลูกต่อแล้วค่ะ...จำได้ว่าติดไว้นานแล้ว
และมีเพื่อนๆ หลังไมล์มาถามด้วย...น้องสายชลรออ่านนะคะ :wink:
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 425

โพสต์

dr1 เขียน:วัดผาซ่อนแก้ว เจดีย์ไม่เหมือนใคร โมเสคสุดอลังการ
พาเด็กไป โดยเฉพาะลูกชายพลังล้นเหลือ ก็ภูหินร่องกล้าเลย ไปเดินดูลานหินปุ่ม ดูวิวหน้าผา ดูกังหันน้ำ
วัดผาซ่อนแก้วดูจากภาพที่พี่หมอมุขนำมาฝากแล้วคงหาโอกาสไปค่ะ
ภูหินร่องกล้าไปมาแล้ว...น้องธีร์ชอบสีน้ำเงินนั่นทั้งหมดเลยค่ะ แต่ก็อยากไปอีกค่ะ..ชอบ
dr1 เขียน:เขาสก(สุราษฎ์ธานี)
ตรงทะเลสาบไม่เคยไป ถ้าตัดเกาะกลางทะเลออก เดาว่าอารมณ์สงบคล้ายดอยเต่า
แต่ถ้าต้องการลุยๆ ไปตรงอุทยาน เดินชมธรรมชาติ ให้ปลิงเกาะพอตื่นเต้น
แล้วไปนอน treehouse มีสองสามเจ้าเอง ไม่เกินสิบหลัง
บ้านสร้างบนต้นไม้ยักษ์ บางหลังเตี้ยๆ บางหลังสูงลิบลิ่ว
ผมว่าน่าจะเป็นแห่งเดียวในไทย ที่ปายยังไม่เท่าไหร่
บางหลังมีไฟ บางหลังจุดตะเกียงให้ เดินลัดเลาะไปในป่า
ส่วนใหญ่รู้กันในหมู่ฝรั่ง คนไทยไปขอเช่าอาจโดนปฎิเสธ(คงกลัวทำตัวหนวกหู)

มีปลิงเกาะพอตื่นเต้นด้วยรอคะ...แค่พอตื่นเต้นจริงรึเปล่าคะ
คงต้องไปนอน treehouse ตามที่คุณหมอ dr1 แนะนำแน่นอนค่ะ
dr1 เขียน:รึถ้าแทนที่จะเลี้ยวขวาเข้าเขาสก เลี้ยวซ้ายลงนคร
ไปกรุงชิง น้ำตกกรุงชิงคือสถานที่ธรรมชาติที่เดียวที่มีรูปในแบ็งค์พัน
(ส่วนใหญ่รูปหลังธนบัตรมักเป็นวัด อนุเสาวรีย์)
ตัวน้ำตกก็ไม่เท่าไร เดินป่าผ่านต้นไม้ใหญ่ราวสี่ห้ากิโล
แต่ล่องแก่งนี่ พอตื่นเต้นให้น้องธีร์สนุกได้ครับ ผมว่าไม่อันตราย
เปิดดู "กรุงชิง" ตามที่คุณหมอ dr1 แนะนำแล้ว สวยมากๆ...ต้องไป ต้องไปค่ะ
ล่องแก่งน้องธีร์น่าจะชอบจริงๆ แล้วที่ "กรุงชิง"นี่มีปลิงเกาะให้พอตื่นเต้นด้วยรึเปล่าคะ :wink:

ขอบคุณ คุณหมอ dr1 มากเลยค่ะ
รู้แล้วนึกถึงใคร...นึกถึงหมอ Patch Adams ค่ะ
คุณหมอ dr1 คงจะคล้ายๆ แบบนั้นแน่เลยค่ะ...คนไข้ครื้นเครง
แค่เจอคุณหมอก็หายป่วยไปครึ่งนึงแล้วค่ะ

"พี่หมอมุข" กับ "พี่หมออ้อ" ก็ด้วยค่ะ..
เป็นโชคดีของคนไข้นะคะ...ที่มีคุณหมอน่ารักๆ แบบพี่ๆ ค่ะ :wink:
jverakul
Verified User
โพสต์: 1959
ผู้ติดตาม: 1

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 426

โพสต์

dr1 เขียน: เขาสก(สุราษฎ์ธานี)
ตรงทะเลสาบไม่เคยไป ถ้าตัดเกาะกลางทะเลออก เดาว่าอารมณ์สงบคล้ายดอยเต่า
แต่ถ้าต้องการลุยๆ ไปตรงอุทยาน เดินชมธรรมชาติ ให้ปลิงเกาะพอตื่นเต้น
แล้วไปนอนtreehouseมีสองสามเจ้าเอง ไม่เกินสิบหลัง
บ้านสร้างบนต้นไม้ยักษ์ บางหลังเตี้ยๆ บางหลังสูงลิบลิ่ว
ผมว่าน่าจะเป็นแห่งเดียวในไทย ที่ปายยังไม่เท่าไหร่
บางหลังมีไฟ บางหลังจุดตะเกียงให้ เดินลัดเลาะไปในป่า
ส่วนใหญ่รู้กันในหมู่ฝรั่ง คนไทยไปขอเช่าอาจโดนปฎิเสธ(คงกลัวทำตัวหนวกหู)
แนะนำสำหรับขาลุยครับ
ผมเคยไปเขาสก ตรงที่เป็นอุทยาน ตอนนั้นผมนั่งรถมาจากพังงา ไม่รู้ที่เดียวกับคุณ dr1 หรือ ตั้งจะไปดูดอกไม้บาน (จำชื่อไม่ได้แล้ว) ช่วงเดือนกุมภาฯ แต่พอไปถึงไม่ได้ดู เพราะเขาบอกว่าบานตอนหน้าฝน ผมเลยเดินป่าไปที่น้ำตกขั้นที่ 1 ก็เหนื่อยและน่าตื่นเต้นดีครับ ธรรมชาติค่อนข้างสวย เพราะไม่ค่อยมีคนมาพลุกพล่านเท่าใหร่ ส่วนใหญ่ที่เจอก็จะเป็นฝรั่งมากกว่า คนไทย ใช้เวลาเดินไปประมาณ 3-4 ชั่วโมง ไม่ได้นอนบ้านพัก แต่กางเต็นนอนข้างลำธารใกล้ๆ ที่ทำการอุทยาน อากาศค่อนข้างเย็นสบายดี ในช่วงนั้น แต่อยู่แค่ 2 คืน ก็กลับ
PS. ไปคนเดียวเลยไม่ค่อยสนุกเท่าใหร่
" สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 427

โพสต์

Paul VI เขียน:พระธาตุผาซ่อนแก้ว สวยจริงครับ หมอ 1

แต่วันที่ไปนี่ เป็นสวยปนเสียว ซะมากกว่าครับ

เสียวจน หายใจไม่ออกเลยครับ ทางเข้าในช่วงปีใหม่คับคั่งด้วยผู้คน จนรถติดเป็นทางยาว

แล้วทางก็สูงชันมาก มีขึ้นลง จนเสียวจะตกหน้าผา รถผมเป็น 4 wheel ยังเหนื่อยแทบแย่

ใช้เกียร์1 ตลอดเวลา ที่เสียวคือช่วงมีทางลงเขาชิดหน้าผาด้วย หายใจแทบไม่ออกเลย

แตะเบรกตลอด ที่สำคัญกลัวรถคันอื่นมากกว่าครับ กลัวจะเบรกแตก เบรกไหม้ จนไถลลงมากวาดเราลงหน้าผาไปซะด้วยล่ะครับ

รับรองออกข่าวหน้า 1 แน่ :(

โชคดีที่มีแวะถ่ายรูปจากเนินที่อยู่ไกลๆครับ เพราะตอนแรกว่าจะไม่เข้าละ คนแน่นมาก ได้แต่เอารูปสวยๆของคนอื่นมาฝากแทนแล้วกันครับ
ขอบคุณภาพผาซ่อนแก้วนะคะพี่หมอมุข...อ่านแล้วตื่นเต้นตามค่ะ
นุชตามไปดูรูปกระทู้พี่หมอมุขตลอดเลย ขำจน "หน้าย่น" เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
ผาซ่อนแก้วในมุมที่พี่หมอมุขถ่ายมาก็สวยนะคะ
เห็นเป็นกลุ่มเจดีย์เล็กๆ และวิวในมุมกว้างก็เป็นมุมมองที่สวยงามไม่แพ้กันค่ะ :wink:
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 428

โพสต์

theenuch เขียน:5 ห้องชีวิตเนรมิตนิสัย

"ประเทศไทยเราเน้นเรื่องการศึกษามากเสียจนลืมสิ่งที่สำคัญกว่าการศึกษา
คือเรื่องของนิสัย ทุกวันนี้โลกวุ่นวายไม่ใช่เพราะคนไม่มีการศึกษา
แต่เพราะคนนิสัยไม่ดี และมีการศึกษาเยอะ" --- อนันต์ อัศวโภคิน

THIS'S MY FUTURE 2013

[youtube]0YAJnNF0ugE[/youtube]

ตรงใจมากที่สุดค่ะ....อยากให้เพื่อนๆ ได้ดูด้วย
เรื่องราวที่คุณอนันต์สอนในครั้งนี้เป็นเรื่องราว "บ้านๆ"
ตรงกับกระทู้ของพวกเรา..และเรื่องราวที่เราคุยกันอยู่ในกระทู้นี้มากค่ะ

โดยเฉพาะคนที่มีลูก...ไม่ควรพลาดนะคะ :wink:
copy มาวางหน้านี้ด้วยดีกว่าค่ะ...ดีมากจริงๆ ค่ะ
หวานกับแวว
Verified User
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 429

โพสต์

ขอบคุณมากค่ะ คุณนุช สำหรับเรื่อง 5 ห้องชีวิต

เข้าใจตัวเองขึ้นเยอะเลย เห็นจะต้องจัดการโต๊ะทำงานก่อนดีกว่า :wink:
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 430

โพสต์

jverakul เขียน: แนะนำสำหรับขาลุยครับ
ผมเคยไปเขาสก ตรงที่เป็นอุทยาน ตอนนั้นผมนั่งรถมาจากพังงา....ธรรมชาติค่อนข้างสวย เพราะไม่ค่อยมีคนมาพลุกพล่านเท่าใหร่ ส่วนใหญ่ที่เจอก็จะเป็นฝรั่งมากกว่า คนไทย ใช้เวลาเดินไปประมาณ 3-4 ชั่วโมง ไม่ได้นอนบ้านพัก แต่กางเต็นนอนข้างลำธารใกล้ๆ ที่ทำการอุทยาน อากาศค่อนข้างเย็นสบายดี ในช่วงนั้น แต่อยู่แค่ 2 คืน ก็กลับ

PS. ไปคนเดียวเลยไม่ค่อยสนุกเท่าใหร่
ขอบคุณ คุณ jverakul นะคะ...สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
(ที่เดียวกับคุณหมอ dr1 บอกค่ะ)

และยินดีต้อนรับสู่บ้านของพวกเราด้วยค่ะ

ดอกไม้ที่ว่าน่าจะเป็นดอก "บัวผุด" ตามรูปนี้ค่ะ
บัวผุด.jpg
ดูข้อมูลพบว่าบานช่วง พฤศจิกายน - มีนาคม ค่ะ

"ดอกบัวผุด" คือหนึ่งในเป้าหมายที่อยากไปเจอเช่นกันค่ะ
แต่ก็ต้องแล้วแต่ธรรมชาตินะคะเราคงไปกำหนดยาก
ไปดอยแม่สลองมาปีนี้ยังไม่เจอพญาเสือโคร่งบานเลยค่ะ...ทั้งที่อยู่ในช่วง
เจ้าของรีสอร์ทบอกว่าน่าจะบานเดือน กุมภา'....ให้กลับไปใหม่อีกรอบค่ะ :ohno:
แต่ก็ชอบบรยากาศดอยแม่สลองเท่าที่ได้สัมผัสแล้วค่ะ

คงคล้ายๆ ที่คุณ jverakul บอกนะคะ
jverakul เขียน:ตั้งจะไปดูดอกไม้บาน (จำชื่อไม่ได้แล้ว) ช่วงเดือนกุมภาฯ
แต่พอไปถึงไม่ได้ดู เพราะเขาบอกว่าบานตอนหน้าฝน
ผมเลยเดินป่าไปที่น้ำตกขั้นที่ 1 ก็เหนื่อยและน่าตื่นเต้นดีครับ
ธรรมชาติค่อนข้างสวย" (แม้จะไม่ได้เจอดอกบัวผุดก็ตาม...อันนี้เติมให้เองค่ะ)
PS. ขอให้พบเพื่อนรู้ใจที่จะไปด้วยกันแล้วเที่ยวสนุกขึ้นในเร็ววันนะคะ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 431

โพสต์

หวานกับแวว เขียน:ขอบคุณมากค่ะ คุณนุช สำหรับเรื่อง 5 ห้องชีวิต

เข้าใจตัวเองขึ้นเยอะเลย เห็นจะต้องจัดการโต๊ะทำงานก่อนดีกว่า :wink:
โต๊ะทำงานไม่เรียบร้อยนิดๆ คือค่าเฉลี่ยค่ะ
เป็นธรรมดานะคะ..พี่หมออ้อ...แต่ถ้าโล่งๆ นิดนึง
รู้สึกจะช่วยให้ความคิดเราแล่นดีเหมือนกันค่ะ

นุชชอบที่คุณอนันต์พูดมากๆ เลยค่ะพี่หมออ้อ
นุชโตมากับการทำงานบ้าน ทุกวันนี้ยังทำเองอยู่ค่ะ
ขัดห้องน้ำเหมือนที่คุณอนันต์บอกเปี๊ยบเลยค่ะ
ขัดชักโครก และขัดผนังด้วย เสมอค่ะ

โต๊ะทำงานก็เนี๊ยบ...จนเพื่อนๆ ชอบแซวว่า "ว่างงาน" ค่ะ
ทุกเย็นก่อนกลับบ้านจะต้องไม่มีอะไรวางอยู่บนโต๊ะเลยสักชิ้นเดียว
นี่คือมาตรฐานของตัวเองค่ะ (แต่ไม่ได้เอาไปซุกที่ไหนนะคะ)

ตอนเด็กๆ จะแบ่งพื้นที่กันถูบ้านค่ะ
น้องชายชอบทำเอาจวนเจียนเวลาที่แดดร่มลมตก
และเพื่อนๆ จะมาเล่นรวมกันที่สนามใกล้บ้าน

ที่นี้ก็รีบ..ทำแบบลวกๆ..กะว่าขอไปที...แต่เตี่ยไม่ยอมค่ะ
เรียกกลับมาใหม่และให้ยืนมองผลงานของตัวเอง
แบบที่มีแสงเฉียงๆ ของยามเย็นส่องเข้ามา
เห็นเป็นคราบเลยค่ะ...ถ้าไม่ซักผ้าขี้ริ้วบ่อยๆ จะเป็นค่ะ

ผลคือต้องถูใหม่...อดไปเล่น...น่าทรมานด้วย
เพราะเสียงเพื่อนๆ เล่นกันสนุกแต่ตัวเองต้องถูบ้านอีกรอบ
โดยมีเตี่ยคุมงานใกล้ชิด...อดออกไปเล่น แถมเกร็งอีก

ของนุชเองนี่ชอบทำงานให้เสร็จไว้ก่อนค่ะ
ไม่ชอบรอเส้นตาย...และทำงานเนี๊ยบค่ะ
เหตุ - เพราะเราซื่อสัตย์ต่อหน้าที่.....
ผล - คือได้รับความไว้วางใจไม่เคยถูกควบคุม
รู้สึกดีที่เราสามารถควบคุมตนเองได้ค่ะ

ติดมาจนโต...(แนวๆ จะลำบากไม่เลิกนะคะ)
ทุกวันนี้ถูบ้านแบโบราณ...คลานไปกับพื้นไม่ได้ใช้ไม่ถูบ้านแบบสมัยใหม่
ไม่ใช่...ไม่ยอบรับความเปลี่ยนแปลงหรือเครื่องทุ่นแรงนะคะ
แต่การถูแบบนั้นสามารถล้วงไปตามใต้โต๊ะ ใต้เก้าอี้ และซอกมุมได้ดีว่าน่ะค่ะ
แต่อีกหน่อยก็คงต้องเปลี่ยนไปตามสังขาร หากข้อเข่าเสื่อมลงตามวัยค่ะ

และชอบที่คุณอนันต์สอนให้ลูกเข้าใจและเห็นใจผู้อื่นด้วยค่ะ
ที่นุชให้ลูกไปฝึกงานที่เคยเล่าไว้ตอนไปพูดที่ set
เพราะอยากสอนลูกเรื่องเดียวกับที่คุณอนันต์บอกเลยค่ะ :wink:
jverakul
Verified User
โพสต์: 1959
ผู้ติดตาม: 1

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 432

โพสต์

theenuch เขียน: และยินดีต้อนรับสู่บ้านของพวกเราด้วยค่ะ

ดอกไม้ที่ว่าน่าจะเป็นดอก "บัวผุด" ตามรูปนี้ค่ะ
บัวผุด.jpg
ดูข้อมูลพบว่าบานช่วง พฤศจิกายน - มีนาคม ค่ะ

"ดอกบัวผุด" คือหนึ่งในเป้าหมายที่อยากไปเจอเช่นกันค่ะ
แต่ก็ต้องแล้วแต่ธรรมชาตินะคะเราคงไปกำหนดยาก
ไปดอยแม่สลองมาปีนี้ยังไม่เจอพญาเสือโคร่งบานเลยค่ะ...ทั้งที่อยู่ในช่วง
เจ้าของรีสอร์ทบอกว่าน่าจะบานเดือน กุมภา'....ให้กลับไปใหม่อีกรอบค่ะ :ohno:
แต่ก็ชอบบรยากาศดอยแม่สลองเท่าที่ได้สัมผัสแล้วค่ะ

คงคล้ายๆ ที่คุณ jverakul บอกนะคะ
jverakul เขียน:ตั้งจะไปดูดอกไม้บาน (จำชื่อไม่ได้แล้ว) ช่วงเดือนกุมภาฯ
แต่พอไปถึงไม่ได้ดู เพราะเขาบอกว่าบานตอนหน้าฝน
ผมเลยเดินป่าไปที่น้ำตกขั้นที่ 1 ก็เหนื่อยและน่าตื่นเต้นดีครับ
ธรรมชาติค่อนข้างสวย" (แม้จะไม่ได้เจอดอกบัวผุดก็ตาม...อันนี้เติมให้เองค่ะ)
PS. ขอให้พบเพื่อนรู้ใจที่จะไปด้วยกันแล้วเที่ยวสนุกขึ้นในเร็ววันนะคะ
ขอบคุณครับพี่นุช ที่ใส่รูปไว้ให้
ผมติดตามอ่านกระทู้ของพี่นุชมานานแล้วครับ แต่ไม่ค่อยโพส ตั้งแต่ "เอาเงินสามีมาลงทุนให้งอกเงย " ผมได้แชร์กระทูนี้ไปให้เพื่อนที่แต่งงานแล้ว
ส่วนกระทู้นี้ ผมชอบที่พวกพี่ๆ เพื่อนๆ มาเล่าวิธีการเลี้ยงลูกครับ ผมยังไม่มีลูกนะครับ :oops: แต่มีหลานก็ได้ความรู้ไปใช้กับหลานได้

ส่วนคนรู้ใจ มันขึ้นอยู่กับวาสนาเรามากกว่า ถ้ามีก็เจอถ้าไม่มีก็ไม่เจอ ก็แค่นั้นละครับ :D
" สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
superboy
Verified User
โพสต์: 1049
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 433

โพสต์

สวัสดีปีใหม่ครับ คุณ theenuch

เที่ยวกันสนุกเลย อากาศเย็นดี น่าไปมากเลยครับ
อย่าหลุดแนวที่ตัวเองถนัด สู้สู้
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 434

โพสต์

superboy เขียน:สวัสดีปีใหม่ครับ คุณ theenuch

เที่ยวกันสนุกเลย อากาศเย็นดี น่าไปมากเลยครับ
สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ คุณ superboy
เติมพลังด้วยการเที่ยวค่ะ
จะได้มีแรงมาเขียนเรื่องบ้านๆ ทักทายเพื่อนๆ ไปนานๆ ค่ะ :wink:
หวานกับแวว
Verified User
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 435

โพสต์

ไปดอยแม่สลองมาปีนี้ยังไม่เจอพญาเสือโคร่งบานเลยค่ะ...ทั้งที่อยู่ในช่วง
เจ้าของรีสอร์ทบอกว่าน่าจะบานเดือน กุมภา'....ให้กลับไปใหม่อีกรอบค่ะ :ohno:
พอดีเพื่อนที่อยู่เชียงใหม่ line ส่งรูปมาให้ดู เค้าพาครอบครัวไปเที่ยวค่ะ เลยขอฉกเอามาฝากคุณนุชและชาว VI บ้านๆ พญาเสือโคร่งที่อยากเห็นค่ะ :wink:

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปใหญ่ไปหน่อย ขออภัยนะคะ
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 436

โพสต์

เพิ่งชื่นชม "ดอกพญาเสือโคร่ง" บานที่เชียงใหม่ จากข่าวทางทีวีเมื่อวาน
วันนี้ความสวยงามที่เฝ้ารอมาอยู่ในกระทู้ของพวกเราเลย
ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ พี่หมออ้อ :wink:
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 437

โพสต์

”เงินเย็น”_"ทรัพย์สินเพื่อสร้าง passive income ให้เรา"

วันก่อนได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนที่ลงทุนแนวเดียวกัน (แต่เพื่อนเก่งกว่าเรามาก)

ถึงเรื่องความผันผวนของตลาดที่กระทบต่ออารมณ์ของนักลงทุน
และเราก็มีข้อคิดเห็นที่ตรงกันว่าปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่ง
ที่ทำให้พวกเราสงบอยู่ได้อาจเป็นเพราะเงินที่เราลงทุนคือ "เงินเย็น" นั่นเอง

"เงินเย็น" คือเงินที่เราเอามาซื้อ "ทรัพย์สินเพื่อสร้าง passive income ให้เรา"
หลักการลงทุนเพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินก็คือ...การเปลี่ยนรายได้จากทำงาน
เอามาสร้างทรัพย์สิน เพื่อให้ทรัพย์สินนั้นสร้างรายได้ให้เรา (เราเลือกลงทุนให้หุ้นอย่างเดียว)


และต้องมีเงินสำรองใช้จ่าย อย่างน้อย 6 เดือน...
ไม่นับรวมกับเงินเย็นหรือเงินที่เราจะทยอยสะสมเข้าไปเพื่อจะนำไปซื้อ
"ทรัพย์สินเพื่อสร้างรายได้เป็น passive incpme ให้เรา" ให้มากขึ้น...


การจะรู้ว่าเงินสำรองพอสำหรับ 6 เดือนหรือไม่
คงไม่พ้นการต้องทราบรายรับรายจ่ายของครอบครัว
ผ่านการทำบัญชีรายรับรายจ่าย และวางแผนการเงินนั่นเองค่ะ

............................

ปีนี้ไม่ได้รับแจกปฏิทินตั้งโต๊ะเลย รอจนถึงเมื่อวาน (12 มค. 57)
ดีใจเพิ่งได้จากประกันค่ายนึง...เลยรีบบันทึกสิ่งที่อยากบันทึกจนดึก
การบันทึกที่ว่าทำต่อเนื่องมา...ตั้งแต่มีเงินเดือนเป็นของตัวเอง...จนถึงตอนนี้

สิ่งที่อยากบันทึกนั้นคือ..เหตุการณ์สำคัญทางการเงิน
แม้จะบันทึกไว้ใน file ใน computer แล้วก็ตาม
ที่จริง...จำได้ทั้งหมด...แต่ที่บันทึกในปฏิทิน
เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันทั้งครอบครัวค่ะ

เช่น เดือน กพ. มีค. พค. กย. ตค. และ ธค. มีประกันประเภทต่างๆ รออยู่
ทั้งประกันชีวิต ประกันเพื่อลดหย่อนภาษี และประกันภัยรถยนต์

เดือน กค. รายการใหญ่คือค่าเทอมลูก ซึ่งเลือกจ่ายแบบปีละครั้ง
เพื่อรับส่วนลด และสะดวกต่อการวางแผนการเงินทั้งปี

เพราะหากมีรายการที่ต้องใช้จ่ายครั้งใหญ่
จะได้เลือกว่าควรจะตัดสินใจซื้อในเดือนใด...
ซึ่งคือเดือนที่ไม่มีรายจ่ายประจำตามปฏิทินนั่นเอง
หลายๆ ครั้งก็ยังต้อง "รู้จักรอคอย" ไม่ใช่อยากจะซื้ออะไรก็ซื้อได้ทันที
และเราจะไม่ขาย "ทรัพย์สินเพื่อสร้างรายได้เป็น passive incpme ให้เรา"
เพื่อมาซื้อของที่เราอยากได้นั้นๆ...เราได้ตัดมันออกจากระบบไปแล้ว
เพราะมันคือ "เงินเย็น" ที่ถูกแช่แข็งไปแล้วนั่นเองค่ะ

แม้จะชอบวางแผนการเงินขนาดไหน...
ก็ไม่มีแผนการใช้จ่ายใดๆ สำหรับเงินก้อนนี้ค่ะ

อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด.....แต่ก็ทำให้เกิดความสบายใจได้ไม่น้อยค่ะ :wink:
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 438

โพสต์

คุณteenuch ขออนุญาตินำไปใช้บ้างนะครับ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 439

โพสต์

amornkowa เขียน:คุณ teenuch ขออนุญาตินำไปใช้บ้างนะครับ
ยินดีค่ะ คุณ amornkowa :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 440

โพสต์

ขอบคุณคุณนุชมากครับ

เงินปันผล นี่เป็นเกณฑ์หนึ่งที่ผมใช้ในการเสาะหาเลือกหุ้น ไม่ใช่เพราะว่าเราจะเลือกหุ้นปันผลสูงอย่างเดียว ผมมองในลักษณะนี้ครับ

1. เงินปันผลคือสิ่งที่แสดงถึงความสามารถของบริษัทที่จะมอบให้กับเราได้ทางตรง (ทางอ้อมคือ capital gain ซึ่งขึ้นกับ Mr.Market, Growth ฯลฯ)

2. เมื่อบริษัทบริหารงานได้ดีมีการเจริญเติบโต เงินปันผลก็จะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้าง passive income ของเราให้เข้มแข็งขึ้นครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 441

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:ขอบคุณคุณนุชมากครับ

เงินปันผล นี่เป็นเกณฑ์หนึ่งที่ผมใช้ในการเสาะหาเลือกหุ้น ไม่ใช่เพราะว่าเราจะเลือกหุ้นปันผลสูงอย่างเดียว ผมมองในลักษณะนี้ครับ

1. เงินปันผลคือสิ่งที่แสดงถึงความสามารถของบริษัทที่จะมอบให้กับเราได้ทางตรง (ทางอ้อมคือ capital gain ซึ่งขึ้นกับ Mr.Market, Growth ฯลฯ)

2. เมื่อบริษัทบริหารงานได้ดีมีการเจริญเติบโต เงินปันผลก็จะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้าง passive income ของเราให้เข้มแข็งขึ้นครับ
ขอบคุณ NB มากเลยที่ช่วยเสริมให้สมบูรณ์ขึ้นมากค่ะ

ใช่ค่ะ...จะเลือกเอาเงินเย็นไปแช่แข็งไว้ทั้งที
ควรเสาะหาเลือกหุ้นที่มีคุณสมบัติอย่างที่คุณ NB แนะนำค่ะ
เราจะได้ทัปันผลที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวจริงๆ ค่ะ :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 442

โพสต์

เพื่อความสมบูรณ์ คุณนุชและเพื่อน ๆ ทุกท่านลองเอาโมเดลนี้ไปใช้ครับ

Dividend Growth Model

เริ่มต้นมี 100 บาท มี 100 หุ้น หุ้นละบาท
ปันผล 50% ของกำไร
EPS 0.08
PE 12.5
Growth 8%

ปีที่ ปันผล จำนวนหุ้น EPS Div
0 100.00 0.0800 0.0400
1 4.00 104.00 0.0864 0.0432
2 4.49 108.49 0.0933 0.0467
3 5.06 113.55 0.1008 0.0504
4 5.72 119.28 0.1088 0.0544
5 6.49 125.77 0.1175 0.0588
6 7.39 133.16 0.1269 0.0635
7 8.45 141.61 0.1371 0.0686
8 9.71 151.32 0.1481 0.0740
9 11.20 162.52 0.1599 0.0800
10 13.00 175.52 0.1727 0.0864
11 15.16 190.68 0.1865 0.0933
12 17.78 208.46 0.2015 0.1007
13 21.00 229.46 0.2176 0.1088
14 24.96 254.42 0.2350 0.1175
15 29.89 284.31 0.2538 0.1269
16 36.07 320.38 0.2741 0.1370
17 43.90 364.29 0.2960 0.1480
18 53.91 418.20 0.3197 0.1598
19 66.85 485.05 0.3453 0.1726
20 83.73 568.78 0.3729 0.1864
21 106.04 674.82 0.4027 0.2014


........

แปลความว่า

1) วันนี้ ควักเงินมาลงทุนหุ้นตัวนี้จ่ายเงินไป 100 บาท หาหุ้นที่เติบโตไม่หวือหวาสม่ำเสมอ ประเภทปีละ 30-40% ไม่สน

บัฟเฟตต์ชอบ 1x% ต่อปี

ผมขอแค่ 8 % ต่อปีพอ เอาแบบ Conservative

2) ได้เงินมาเอาไปซื้อหุ้นตัวเดิมเติมเงินทุกปี *สมมุติฐานคือราคาหุ้นไม่เปลี่ยน

3) ทำแบบนี้ 21 ปี หุ้นตัวนี้จะจ่ายกลับให้คุณมากกว่า 100 บาททุกปี

*หากราคาเปลี่ยนมากขึ้นคุณก็จะได้กำไร Capital Gain
*หากราคาเปลี่ยนน้อยลงคุณก็จะได้ปันผลเพิ่มครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 443

โพสต์

ขยายความจากที่เขียนอีกนิดครับเพื่อขยายบริบท passive income ของคุณนุช

100 ที่ว่านี่คือ 100% ครับ

หากเปลี่ยนเป็น 1 ล้านบาท และคุณทำตามโมเดลข้างบน ภายใน 21 ปี โดยไม่เติมเงินเลย ยกเว้นห้ามเอาเงินปันผลออกมาใช้ปันผลต้องซื้อหุ้นทั้งหมด

ภายใน 21 ปี พอร์ต คุณจะคืนเงินให้คุณปีละ 1 ล้านบาทเท่ากันครับ

ตัวแปร ดังด้านบน คือ EPS , %ปันผล, Growth ครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 444

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:ขยายความจากที่เขียนอีกนิดครับเพื่อขยายบริบท passive income ของคุณนุช

100 ที่ว่านี่คือ 100% ครับ

หากเปลี่ยนเป็น 1 ล้านบาท และคุณทำตามโมเดลข้างบน ภายใน 21 ปี โดยไม่เติมเงินเลย ยกเว้นห้ามเอาเงินปันผลออกมาใช้ปันผลต้องซื้อหุ้นทั้งหมด

ภายใน 21 ปี พอร์ต คุณจะคืนเงินให้คุณปีละ 1 ล้านบาทเท่ากันครับ

ตัวแปร ดังด้านบน คือ EPS , %ปันผล, Growth ครับ
รู้สึกขอบคุณ คุณ NB มากๆ ครบถ้วนสมบูรณ์ให้ความรู้แก่พวกเราได้ดีมากเลยค่ะ

จากที่คุณ NB ได้กรุณานำมาแบ่งปัน รู้สึกขอบคุณและชื่นชมมาก

จึงรีบนำไปพิมพ์เป็นตารางมาให้ค่ะ ข้อมูลคงเดิมแบบที่คุณ NB ให้มา
แต่จะดูง่ายขึ้น และเพื่อนๆ อาจ save ไปเก็บไว้ดูได้ ตามนี้ค่ะ
model ปันผล.png
โดยส่วนตัว...เราทำตารางปันผลหุ้นที่เราถือเป็นรายตัว
เป็นการฉายภาพให้เห็นผลตอบแทนในหลายปีข้างหน้าได้อย่างชัดเจน
ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง...ที่ทำให้เรามองเห็นภาพ...แบบเดียวที่คุณ NB แนะนำ
และยังคงถือหุ้นนั้นๆ ต่อได้อย่างสบายใจ...แม้ราคาหุ้นจะผันผวนเพียงใดก็ตาม
แต่คงไม่สามารถมารถเผยแพร่ได้ (เดี๋ยวจะเป็นการชี้นำค่ะ)

จาก Model ที่คุณ NB แบ่งปันนี้
เพื่อนๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสร้าง Model ของแต่ละคนขึ้นมา
ซึ่งสามารถฉายภาพได้ชัดเจนเช่นกันค่ะ....ขอบคุณ คุณ NB มากเลยค่ะ :wink:
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
Nutth147
Verified User
โพสต์: 241
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 445

โพสต์

ได้ความรู้ใหม่ๆอีกแล้ววววววว ขอบคุณมากครับ
ความจนนั้นเกิดได้จากสองสาเหตุ คือ จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
arica
Verified User
โพสต์: 1112
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 446

โพสต์

ขอบคุณครับ ทั้ง 2 ท่าน สำหรับ เรื่อง passive income :D
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 447

โพสต์

theenuch เขียน:ขายบ้านหลังเก่า ขอคืนภาษี หัก ที่จ่ายได้

...........................

วันนี้มาเล่าถึงเรื่อง “ไม่ใกล้...ไม่ไกลตัว”
เรื่องการขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
จากการขายบ้านหลังเก่าที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
เป็นความรู้ในหมวด....รู้ไว้ใช่ว่าอีกแล้วค่ะ
แต่ชีวิตแบบนกน้อยสร้างรังแต่พอตัว...อาจต้องใช้
ตอนที่ขายบ้านหลังเล็กกว่า...ไปซื้อหลังไหม่
เพราะมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่ม..ก็เป็นได้ค่ะ

...........................

ด้วยความรอบคอบเรื่องเงินๆ ทองๆ
ประกอบกับชอบตั้งคำถามและชอบค้นคว้า
ตอนที่ขายบ้านหลังเก่าเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่
เรา list รายการต่างๆ ที่เราต้องเตรียมเงินสดไว้ชำระ
พบรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่ายด้วย

............................

เกิดคำถามในใจทันทีว่า...เราไม่ใช่คนสร้างบ้านขายนะ
ภาษีแบบนี้น่าจะได้รับการยกเว้นหรือไม่? เมื่อเกิดคำถาม
ก็ลงมือค้นหาข้อมูลทันที...เป็นไปดังคาดค่ะ...เราค้นเจอ

"กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้
จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็น
ที่อยู่อาศัยแห่งเดิมและต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์
แห่งใหม่เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย"

รายละเอียดตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับ
ภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 125) รายละเอียดตาม link นี้ค่ะ

http://www.rd.go.th/publish/13685.0.html

..............................

ด้วยเคยเจอเจ้าหน้าที่ของรัฐทราบระเบียบไม่ครบ
(อาจเป็นเพราะ ระเบียบใหม่...เจ้าหน้าที่ใหม่ ฯลฯ)
ถ้าเราทราบ...แต่เจ้าหน้าที่ไม่ทราบ...จะเจรจายาก
เพราะเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นไปไม่ได้
ที่ประชาชนบ้านๆ อย่างพวกเราจะรู้ระเบียบมากกว่า
ด้วยความรอบคอบและ proactive จึง print ไปด้วยค่ะ

...............................

ไปขอคืนภาษีดังกล่าวที่สำนักงานสรรพากรเขตพื้นที่
เจ้าหน้าที่ ที่รับเรื่องบอกว่า ขายบ้านไปถือว่ามีเงินได้
ก็ต้องเสียภาษี...ก็ถูกแล้วนี่...จะมาขอคืนได้อย่างไร
เราก็อธิบายว่าเราอ่านเจอมาว่าขอคืนได้...เจ้าหน้าที่
อีก 2-3 คนมาฟัง พอจับใจความได้ว่า..เรามาขอคืนภาษี
ก็ช่วยกันอธิบายว่าขอคืนไม่ได้...

...............................

ดีที่เราเตรียมเอกสารไป จึงหยิบออกมาให้ดู
เจ้าหน้าที 2-3 ท่านนั้นยังถือไปถามเพื่อนโต๊ะอื่น
แล้วก็ช่วยกันอ่าน และวิพากษ์วิจารณ์กันพักนึง
ก่อนจะเดินกลับมาช่วยกันตอบหลายคนว่า...
“ไม่เคยมีใครมาขอคืน...เอามาจากไหนเนี่ย”

...............................

ต้องโทรไปกรมสรรพากรส่วนกลาง (ที่เตรียมเบอร์ไว้)
แจ้งปัญหาว่ามาขอคืนภาษีดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ทราบ
รบกวนให้ช่วยคุยให้หน่อย...และส่งสายให้เค้าคุยกันค่ะ

บทสนทนาก็ประมาณว่า....เหรอพี่ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
ต้องทำยังไงนะ อ๋อ...ให้กรอกแบบฟอร์มนี้เหรอ...
ใช้หลักฐานอะไรบ้าง (จริงๆ เราเตรียมมาเรียบร้อยแล้ว)
คุยเสร็จก็หันกลับมาบอกว่า “ขอโทษที...เพิ่งจะรู้”

................................

เล่าถึงตรงนี้ เรานึกถึง “กาลามสูตร” สองข้อ
เจ้าหน้าที่ เขาก็ยึดตาม ข้อ ๔. มา ปิฏกสมุปทาเนน
"อย่ารับเอามาเชื่อด้วยเหตุเพียงว่ามีที่อ้างในปิฎก."
(ในที่นี้คือ “ในเอกสาร” ที่ผู้รับบริการถือมาอ้างเอง)

ส่วนเรา ก็ยึดตาม กาลามสูตร ข้อ 9
มา ภพฺพรูปตา "อย่าเพิ่งเชื่อว่าผู้พูดควรเชื่อได้"

.................................

ดังนั้นไม่มีใครผิดใครถูกค่ะ...ความไม่รู้ไม่ใช่ความผิด
แต่เป็นโอกาสให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ร่วมกันค่ะ ^_^
วันนี้นำเรื่องนี้ไปลงใน fb money talk ค่ะ
มีผู้อ่านบอกว่าได้ประโยชน์...บางคนก็บอกว่าเพิ่งรู้

แต่มีบางคนบอกว่าเสียภาษีจากการขายบ้านไป เมื่อ 2 ปีที่แล้ว....เสียดายจัง

จริงแล้วๆ สำหรับผู้ที่ได้เสียภาษีไปแล้วเพราะไม่ทราบและเข้าข่ายตามบทความนี้
ยังมีหวังที่จะได้คืนค่ะ เพราะ "อายุความ การขอคืนภาษีเงินได้" มีอายุความ 3 ปี
ตามมาตรา 63 แห่งประมวลรัษฎากร...ที่กำหดว่า "บุคคลใดถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่าย
และนำส่งแล้วเป็นจำนวนเงินเกินกว่าที่ควรต้องเสียภาษีตามส่วนนี้ บุคคลนั้น
มีสิทธิได้รับเงินจำนวนที่เกินนั้นคืน แต่ต้องยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานประเมิน
"ภายใน 3 ปี นับแต่วันสุดท้ายแห่งปีซึ่งได้ถูกหักภาษีเกินไป"


จึงนำมาฝากเพื่อนๆ ด้วย รายละเอียดตาม link นี้ค่ะ http://www.rd.go.th/publish/5937.0.html#mata63
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 448

โพสต์

ขอบคุณมากครับได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว

พรุ่งนี้กลับไทยมีรูปและเรื่องราวของดาลัท เวียดนาม มาฝาก
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 449

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:ขอบคุณมากครับได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว

พรุ่งนี้กลับไทยมีรูปและเรื่องราวของดาลัท เวียดนาม มาฝาก
ขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ คุณ NB
ปูเสื่อรอเลยค่ะ...ต้องนำมาฝากให้มาก...สมกับที่ปูเสื่อรอนะคะ :wink:

หมายเหตุ - เสื่อผืนใหญ่มาก คาดว่าเพื่อนๆ จะมานั่งรอด้วยกันเยอะค่ะ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 450

โพสต์

"อย่าหมิ่นเงินน้อย"

เขียนเรื่อง "เงินเย็น" ไป มีผู้อ่านหลายท่านสงสัยว่าการนำเงิน
ไปซื้อทรัพย์สินเพื่อให้ "ทรัพย์สินนั้นสร้าง passive income"
ถ้าเงินน้อยจะไหวหรือ...จะมีอิสรภพาทางกรเงินได้จริงหรือ

ขอเล่าถึงน้องคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ติดตาม fb money talk
มาบอกว่าได้ประโยชน์จากเรื่อง "วิธีคิดเมื่อติดดอย" ที่เคยเขียนไปค่ะ
น้องเป็นหนุ่มใต้จากอำเภอจะนะ อายุ 29 ปี ได้ทุน พอสว. ตั้งแต่
ม.ปลายจนถึง ป.เอก กำลังเรียน ป.เอกด้านคณิตศาสตร์ (ปี 4)

ปัจจุบันทุนดังกล่าวให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนๆ ละ 12,000 บาท
ซึ่งไม่มากเลย...ค่าที่พัก ค่าเดินทาง และค่าอาหาร แต่ที่น่าทึ่งคือ
ทุกเดือนเขาจะแบ่งเงินมาลงทุนโดยการออมไว้ในหุ้น (DCA )

อ่าน “วิธีคิดเมื่อติดดอย” จึงคิดได้ว่าเงินนี้ถ้าเอาไปทานอาหารแพงๆ
แค่เดือนละ 2 ครั้ง ก็คงหมดไปเฉยๆ แต่เขาเลือกออมไว้ในหุ้น แม้ราคา
จะราคาลดลงไปบ้างแต่เมื่อคิดชดเชยแบบนี้ ทำให้ไม่รู้สึก “ใจเสีย”

“วิธีคิดเมื่อติดดอย”
https://www.facebook.com/MoneyTalkTV/po ... 9976813158

....................................

คุยด้วยแล้วรู้สึกว่าน้องมีวิสัยทัศน์ดี จึงสอบถามประวัติเพิ่มเติมมา
เผื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นว่าสิ่งใดบ้างที่หล่อหลอมให้ว่าที่ ดร.หนุ่มผู้นี้
มีวิสัยทัศน์ที่ดี และมีวินัยในการออมได้สูงเช่นนี้


“นิสัยการออมโดยพื้นฐานก็มาจากครอบครัวครับ
เพราะพ่อแแม่เป็นครู ในอดีตเงินเดือนไม่มาก
พ่อปลูกผักสวนครัวและทำสวนผลไม้ จึงมีผักและผลไม้กินตลอด
พ่อกับแม่ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรแต่ท่านคิดว่าควรจะมีอะไรไว้ให้ลูกบ้าง
ท่านเลยเก็บเงินซื้อสวนยางพาราแม้ไม่มากแต่ก็เป็นแหล่งรายได้อีกแหล่งนึง

ได้ทุน พอสว. ตอนอยู่ ม.ปลาย ตอนนั้น ยังขอเงินแม่ จึงมีเงินออมเยอะ
ต่อแม่ก็บอกว่าให้เอาทุนมาใช้จ่ายเถอะ แม่จะได้เอาเงินแม่
ไปซื้อสวนผลไม้หรือสวนยางพาราเพิ่มเพื่ออนาคตของเราและน้อง
หลังจากนั้นผมก็เอาเงินทุนมาใช้ตลอด และถ้าใช้ไม่พอก็จะขอแม่บ้าง

..............................

จุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตคือ เพื่อนสนใจเรื่องหุ้นมาชวนว่ามันดีนู่นนี่นั่น
ช่วงแรกอ่าน pantip ก่อนและในนั้น ก็มีคนแนะนำ web thaivi และได้รู้จัก
รายการ money talk จากการอ่าน thaivi (login : perfectackle ค่ะ...แอบบอก)
ซึ่งตอนนั้นผมก็ได้อ่านหนังสืออาจารย์นิเวศน์แล้วบางเล่ม

จำได้ว่าช่วงนั้นผมหารายการ money talk ดูทั้งหมด
เรียกได้ว่าทุกรายการที่มี อ.ไพบูลย์ ผมจะหามาดูหมด (ดูซ้ำๆ ด้วย )
เลยสนใจเรื่องหุ้นและคิดจะออมเงินขึ้นมาแบบจริงจัง แต่ยังไม่มีเงินซื้อหุ้น
จำได้ว่าตอนนั้นเริ่มเรียนเอกแล้วแต่ทุนที่ได้ rate เก่าคือ 7,500 บาท/เดือน
ซึ่งใช้จ่ายในกทม. ไม่เพียงพอแน่นอนเลยต้องหารายได้พิเศษโดยการสอนพิเศษ
และช่วยงานอาจารย์และถ้ายังไม่พอจริงๆ ก็ยืมแฟนบ้าง พอทุนมาก็จ่ายคืน
ยิ่งอายุเยอะขึ้น รู้สึกไม่กล้าขอเงินที่บ้าน พอเรียน ป.เอก จึงไม่ได้เงินที่บ้านอีกเลย

โชคดีทุนเพิ่มเงินให้เป็น 12,000 บาท/เดือน ช่วงนั้นได้อ่านหนังสือของ
คุณวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ และดู money talk ตอนที่คุณวิวรรณ มาด้วย
ได้ไอเดียว่าเราควรจะออมก่อน คือหักเงินออมไว้เลยที่เหลือค่อยเอามาใช้จ่าย

....................................

ไอเดียของการออมในหุ้นทุกเดือน มาจาก website คุณสุมาอี้ใช้ชื่อว่า 7thLTG
และ ดร.สมจินต์ ศรไพศาล ที่ท่านมาพูดในรายการ money talk

เราเรียนอยู่ก็อยากจะโฟกัสเรื่องเรียนก่อนเป็นหลัก
เลือกออมหุ้นที่มันน่าจะเติบโตไปในอนาคต สอดคล้องกับเมกะเทรน
ไม่ไดหวังผลการลงทุนสูงมาก หวังแค่เราได้ออมเงินสม่ำเสมอ
และได้มีแรงบันดาลใจในการศึกษาหุ้นไปด้วยก็พอใจแล้วครับ

ครอบครัว มีส่วนต่อการออมและทำให้เราคิดอะไรรอบคอบ
และไม่กล้าเสี่ยงมากนักเวลาเลือกลงทุนในหุ้นจึงเลือกหุ้นกิจการที่ดีมีปันผล

....................................

ส่วนคำถามที่ว่ามองตัวเองยาวๆยังไงนั้น..........

เรียนจบคงเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ส่วนแฟนก็เป็นข้าราชการครู
รายได้ไม่มากถ้าเรามีลูกก็จะเบิกค่าเล่าเรียน และค่ารักษาพยาบาลได้บางส่วน
ทำให้รู้สึกอุ่นใจได้ระดับหนึ่ง วางแผนออมเงินเหมือนเดิม แต่จะกระจายในหลายรูปแบบดังนี้

1. ออมไว้ในหุ้นแบบซื้อทุกเดือน แต่ถ้ามีเงินเดือนก็จะมีจำนวนหุ้นและ จำนวนเงินรายเดือนเพิ่มขึ้น
2. จะซื้อ LTF และ RMF ไว้ช่วยออมเงินและผลประโยชน์ทางภาษี
3. คิดว่าน่าจะซื้อประกันชีวิต เพื่อความอุ่นใจและ ประโยชน์ทางภาษี
4. อาจจะนำเงินมาซื้อหุ้นรายตัว ถ้าเรามีความรู้เพียงพอและมั่นใจ
5. อาจจะนำเงินไปซื้อ สวนยางพาราหรือสวนผลไม้ เพื่อมีรายรับเพิ่มอีกทาง
เพื่อไว้ถ่วงพอร์ทการลงทุนด้วย ถ้ามีอะไรฉุกเฉินจริงๆ สามารถขายที่ดินได้
ซึ่งถ้ามีสวนยางพารา หรือสวนผลไม้ด้วยราคาจะยิ่งดี

..................................

"ส่วนเรื่องครอบครัวในอนาคต ผมจะเอาบทความหลายๆ อันที่พี่เขียน
ไปให้แฟนอ่าน แฟนผมเค้าเป็นคนที่ ประหยัดอยู่แล้ว คิดว่าถ้าเค้าได้อ่าน
บทความของพี่คงจะมีหางเสือ มีเป้าหมายสำหรับการประหยัด
ส่วนเรื่องลูกนั้น คงเอาแนวคิดที่พี่เขียนไปใช้ด้วยเหมือนกันครับ
แต่ตอนนี้ยังไม่มีลูกเลยเก็บไว้ในใจ และในไฟล์ก่อนยังไม่ได้ใช้เร็วๆนี้แน่นอน"

.................................

เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ยืนยันว่าเงินมากเงินน้อยไม่สำคัญ...วินัยและวิสัยทัศน์นั้นสำคัญกว่า
การเรียนรู้เรื่องการออมและการบริการเงิน รวมทั้งการให้เงินไปทำงาน
จากรายการ momney talk จาก web thaivi ของพวกเรา และแหล่งอื่นๆ
รวมทั้งจากคำสอนของครูบาอาจารย์ที่เขาเคารพนับถือและยึดเป็น Idol นั้น

ส่งผลให้คน คนนึง มีความไฝ่ดี และแน่นอนย่อมเป็นกล้าพันธุ์ที่ดีสำหรับสังคมของเราต่อไปค่ะ