เค้าว่า โรงพยาบาล กับประกัน มีดี จริงหรือ?
- วัวแดง
- Verified User
- โพสต์: 1429
- ผู้ติดตาม: 0
เค้าว่า โรงพยาบาล กับประกัน มีดี จริงหรือ?
โพสต์ที่ 1
อย่างน้อยคนก็ต้องเข้าโรงพยาบาล....(ผมด้วย)
และต้องเคยทำประกันด้วย......(ผมด้วย)
คล้ายกับหุ้นค้าปลีกที่ต้องมีคนเคยใช้บริการ........(ผมด้วย)
น่าสนใจ......ชมัด
แต่ช้าไปหรือปล่าวต้องดูเอา.....
แล้วเพื่อนๆว่าไง....
และต้องเคยทำประกันด้วย......(ผมด้วย)
คล้ายกับหุ้นค้าปลีกที่ต้องมีคนเคยใช้บริการ........(ผมด้วย)
น่าสนใจ......ชมัด
แต่ช้าไปหรือปล่าวต้องดูเอา.....
แล้วเพื่อนๆว่าไง....
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 360
- ผู้ติดตาม: 0
เค้าว่า โรงพยาบาล กับประกัน มีดี จริงหรือ?
โพสต์ที่ 5
พอดีมีเพื่อนถามเรื่องนี้ใน greenbull มา เผื่อจะมีประโยชน์นะครับ
http://www.bbznet.com/scripts3/view.php ... r=numtopic
Q ทำไมหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลถึงมี PE ข้อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอื่นครับ เท่าที่ทราบ ไม่ใช่เฉพาะในโรงพยาบาลในประเทศไทย หุ้นโรงพยาลในหลายๆ ประเทศก็มี PE สูงเหมือนกัน
- ตลาดหุ้นในประเทศใหญ่ๆ จะให้ p/e สูง กับหุ้นที่มีความต่อเนื่องของกำไรและมีศักยภาพในการเติบโตครับ และให้ p/e ต่ำกับหุ้นที่มีความผันผวนของกำไร และวัฎจักร สำหรับประเทศไทยในช่วงก่อนๆ อาจจะติดภาพ p/e ต่ำกว่า 10 คือถูก สูงกว่า 10 มากๆ คือแพง ก็เลยเกิดโศกนาฎกรรมที่มีนักวิเคราะห์จำนวนมากที่แนะนำให้ซื้อหุ้นปิโตรฯ หรือเรือในช่วง peak โดยให้เป้าหมายที่ p/e 10 เท่า
นอกจากนี้ กลุ่ม health care ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 และเป็นปัจจัย 4 ที่ชะลอการใช้หรือซื้อไม่ได้ด้วย อย่างบ้านหรือเสื้อผ้ายังชะลอการซื้อได้ แต่อาหารหรือการรักษาโรคคงจะชะลอไม่ได้ ดังนั้นในภาวะเงินเฟ้อ เศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก หุ้น รพ. ก็น่าจะเป็นหุ้นที่ปลอดภัยครับ
Q ถ้าเป็นเพราะมี Growth สูงอย่างต่อเนื่อง อะไรเป็นสาเหตุทำให้ Growth สูงครับ ทั้งๆที่ จำนวนเตียง จำนวนห้องตรวจ ในแต่ละปี ก็ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นได้มากเท่าไร่ การปรับราคาก็ไม่น่าทำได้มากขึ้นเช่นกัน หรือ จะเป็นเพราะมีผู้ป่วยมาใช้บริการมากขึ้นหรือครับ อะไรทำให้คนเข้าโรงพยาบาลมากขึ้นครับ การเพิ่มของจำนวนประชากรก็ไม่น่าจะมีมากขึ้นเท่าไหร่
Q - เห็นคุณ IH เคยบอกว่าหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล น่าจะดีไปอีกหลายปีข้างหน้า เป็นเพราะอะไรครับ
- สังคมทั่วโลกกำลังเข้าสู่ aging economy ในอนาคตครับ คือ ประชากรสูงอายุจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากเทียบกับประชากรทั้งหมด ( อาจจะยกเว้นบางประเทศเช่น แถบแอฟริกา ที่การเกิดยังสูงอยู่ ) อย่างสำหรับประเทศไทย การเพิ่มขึ้นของประชากรสูงมากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือที่เรียกว่า baby boom และเริ่มลดลงหลังมีการรณรงค์เรื่องการวางแผนครอบครัว ดังนั้นประชากรจำนวนมากจะเกิดระหว่าง 2490-2516 ซึ่งหมายความว่าประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจะมีอายุ 33-59 ปี หากมองอีก 10 ปีข้างหน้า ประชากรเหล่านี้จะมีอายุ 43-69 อีก 20 ปีจะมีอายุ 53-79 ดังนั้นเมื่อประชากรมีอายุเพิ่มขึ้นความต้องการในการรักษาพยาบาลก็ต้องเพิ่มขึ้นแน่นอนครับ
นอกจากนี้ ลักษณะเศรษฐกิจและสังคมทำให้คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนเมืองมีสุขภาพแย่ลง เพราะความเครียด การกินอาหาร มลภาวะ การใช้สารเคมีในอาหารอย่างขาดความระวัง ทำให้คนป่วยง่ายและบ่อยขึ้น เกิดโรคที่ไม่ใช่โรคจากเชื้อโรคมากขึ้น เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ซึ่งโรคเหล่านี้มักจะเป็นโรคเรื้อรังและมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง แต่ยังไงด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าทำให้ผู้ป่วยในโรคหนักๆ เดี๋ยวนี้มีอัตราการรอดชีวิตสูงแต่ก็ต้องมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน trend ทั่วโลกอายุเฉลี่ยของประชากรเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจจสรุปง่ายๆ ว่าปัจจุบันคนเมืองจะ ป่วยง่ายแต่ตายยาก ครับ
ดังนั้นในสังคมที่เป็น aging economy จำนวนแรงงานในระบบจะเริ่มลดลง การเติบโตของ gdp จะลดลง แต่ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อ gdp จะเพิ่มขึ้น ช่วงนั้นเศรษฐกิจตลาดหุ้นจะไม่ดี แต่หุ้น รพ. น่าจะเป็นเพียงไม่กี่กลุ่มที่มีการเติบโตได้
ส่วนเรื่องการปรับราคาก็สามารถปรับตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ ครับ แต่กลุ่ม รพ. เกือบทั้งหมดจะมีรายได้ต่อรายของผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลจากความซับซ้อนของโรคในปัจจุบันเยอะขึ้นเรื่อยๆ ครับ
http://www.bbznet.com/scripts3/view.php ... r=numtopic
Q ทำไมหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลถึงมี PE ข้อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอื่นครับ เท่าที่ทราบ ไม่ใช่เฉพาะในโรงพยาบาลในประเทศไทย หุ้นโรงพยาลในหลายๆ ประเทศก็มี PE สูงเหมือนกัน
- ตลาดหุ้นในประเทศใหญ่ๆ จะให้ p/e สูง กับหุ้นที่มีความต่อเนื่องของกำไรและมีศักยภาพในการเติบโตครับ และให้ p/e ต่ำกับหุ้นที่มีความผันผวนของกำไร และวัฎจักร สำหรับประเทศไทยในช่วงก่อนๆ อาจจะติดภาพ p/e ต่ำกว่า 10 คือถูก สูงกว่า 10 มากๆ คือแพง ก็เลยเกิดโศกนาฎกรรมที่มีนักวิเคราะห์จำนวนมากที่แนะนำให้ซื้อหุ้นปิโตรฯ หรือเรือในช่วง peak โดยให้เป้าหมายที่ p/e 10 เท่า
นอกจากนี้ กลุ่ม health care ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 และเป็นปัจจัย 4 ที่ชะลอการใช้หรือซื้อไม่ได้ด้วย อย่างบ้านหรือเสื้อผ้ายังชะลอการซื้อได้ แต่อาหารหรือการรักษาโรคคงจะชะลอไม่ได้ ดังนั้นในภาวะเงินเฟ้อ เศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก หุ้น รพ. ก็น่าจะเป็นหุ้นที่ปลอดภัยครับ
Q ถ้าเป็นเพราะมี Growth สูงอย่างต่อเนื่อง อะไรเป็นสาเหตุทำให้ Growth สูงครับ ทั้งๆที่ จำนวนเตียง จำนวนห้องตรวจ ในแต่ละปี ก็ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นได้มากเท่าไร่ การปรับราคาก็ไม่น่าทำได้มากขึ้นเช่นกัน หรือ จะเป็นเพราะมีผู้ป่วยมาใช้บริการมากขึ้นหรือครับ อะไรทำให้คนเข้าโรงพยาบาลมากขึ้นครับ การเพิ่มของจำนวนประชากรก็ไม่น่าจะมีมากขึ้นเท่าไหร่
Q - เห็นคุณ IH เคยบอกว่าหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล น่าจะดีไปอีกหลายปีข้างหน้า เป็นเพราะอะไรครับ
- สังคมทั่วโลกกำลังเข้าสู่ aging economy ในอนาคตครับ คือ ประชากรสูงอายุจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากเทียบกับประชากรทั้งหมด ( อาจจะยกเว้นบางประเทศเช่น แถบแอฟริกา ที่การเกิดยังสูงอยู่ ) อย่างสำหรับประเทศไทย การเพิ่มขึ้นของประชากรสูงมากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือที่เรียกว่า baby boom และเริ่มลดลงหลังมีการรณรงค์เรื่องการวางแผนครอบครัว ดังนั้นประชากรจำนวนมากจะเกิดระหว่าง 2490-2516 ซึ่งหมายความว่าประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจะมีอายุ 33-59 ปี หากมองอีก 10 ปีข้างหน้า ประชากรเหล่านี้จะมีอายุ 43-69 อีก 20 ปีจะมีอายุ 53-79 ดังนั้นเมื่อประชากรมีอายุเพิ่มขึ้นความต้องการในการรักษาพยาบาลก็ต้องเพิ่มขึ้นแน่นอนครับ
นอกจากนี้ ลักษณะเศรษฐกิจและสังคมทำให้คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนเมืองมีสุขภาพแย่ลง เพราะความเครียด การกินอาหาร มลภาวะ การใช้สารเคมีในอาหารอย่างขาดความระวัง ทำให้คนป่วยง่ายและบ่อยขึ้น เกิดโรคที่ไม่ใช่โรคจากเชื้อโรคมากขึ้น เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ซึ่งโรคเหล่านี้มักจะเป็นโรคเรื้อรังและมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง แต่ยังไงด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าทำให้ผู้ป่วยในโรคหนักๆ เดี๋ยวนี้มีอัตราการรอดชีวิตสูงแต่ก็ต้องมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน trend ทั่วโลกอายุเฉลี่ยของประชากรเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจจสรุปง่ายๆ ว่าปัจจุบันคนเมืองจะ ป่วยง่ายแต่ตายยาก ครับ
ดังนั้นในสังคมที่เป็น aging economy จำนวนแรงงานในระบบจะเริ่มลดลง การเติบโตของ gdp จะลดลง แต่ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อ gdp จะเพิ่มขึ้น ช่วงนั้นเศรษฐกิจตลาดหุ้นจะไม่ดี แต่หุ้น รพ. น่าจะเป็นเพียงไม่กี่กลุ่มที่มีการเติบโตได้
ส่วนเรื่องการปรับราคาก็สามารถปรับตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ ครับ แต่กลุ่ม รพ. เกือบทั้งหมดจะมีรายได้ต่อรายของผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลจากความซับซ้อนของโรคในปัจจุบันเยอะขึ้นเรื่อยๆ ครับ
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2431
- ผู้ติดตาม: 0
เค้าว่า โรงพยาบาล กับประกัน มีดี จริงหรือ?
โพสต์ที่ 6
การลงทุนของผม 25% อยู่ในกลุ่มประกัน เป็นหุ้นที่ผมถือยาว เพื่อหวังปันผล ถือมา 5-6 ปีแล้ว ... ให้ปันผลทุกปีแถมบางปีปันผลเป็นหุ้นให้อีกด้วย เช่น bki นี่ 2 ปี แถมหุ้นเพิ่มให้อีก(หุ้นปันผล)....กลุ่มนี้เหมาะสำหรับคนสูงวัย และ มีเงินที่เย็นจริง ๆ ถือให้ลูกให้หลานไปเลย
กลุ่มโรงพยาบาล ผมมีที่เป็นโรงพยาบาลใหญ่ ๆ 2 ตัว ซื้อมา 2 ปีแล้ว ให้ผลตอบแทนใช้ได้ เพราะเห็นว่า มีบริการเหมือนโรงแรมเลยครับ มีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติเกือบครึ่งหนึ่ง แถมจะขยายสาขาไปต่างประเทศอีกด้วย ส่วนอีกแห่งก็ร่วมกับโรงพยาบาลต่างจังหวัด รวมกลุ่มกัน ทำให้การสั่งซื้อยาและของจำเป็นได้ในราคาที่ถูก มีศูนย์ใหญ่ที่กรุงเทพฯ มีเครื่องตรวจเช็คร่างกายที่ทันสมัย ดึงผู้ป่วยจากต่างจังหวัดมาร่วมใช้บริการ ก็นับว่าเพิ่มรายได้ ได้ดีทีเดียว.... ส่วนอีกแห่งที่ผมมีเป็นหุ้นเก็งกำไร หุ้นตัวนี้นาน ๆ ก็ มีการขึ้นลงหวือหวา ซื้อไว้สมัยเก่าแก่ ตอนชอบเก็งกำไร (ติดไว้ยาว กว่า 6-7 ปีแล้ว) เขามีบริการตรวจร่างกายให้ผู้ถือหุ้น เลยถือโอกาสเก็บเอาไว้เพื่อไปตรวจร่างกายฟรีทุกปี หลัง ๆ นี้ เริ่มมีปันผลให้เห็นบ้างแล้ว ใครมีไม่ถึง แสนหุ้น ก็ ตรวจน้อยหน่อย ใครมีกว่า แสนหุ้นก็ตรวจเพิ่มให้อีกนิด หลังตรวจเขาจะส่งผลการตรวจร่างกายเป็นเล่มให้เก็บรักษาเอาไว้ อยู่ ไกลบ้านผมไปมากเลยไม่ได้ใช้บริการเพิ่มอะไร....โชคดีของผมนะครับ ที่อยู่ห่าง ๆ กับ กลุ่มนี้ในเรื่องใช้บริการ ฉะนั้นใคร ว่า ถือหุ้นบริษัทฯ ไหน ก็ควรจะช่วยใช้บริการบริษัทฯ นั้นมาก ๆ ข้อนี้ผมแย้ง นะครับ ไม่อยากใช้บริการเขาเลยครับ ....ฉะนั้น ขอให้เพื่อน ๆ ออกกำลังกายกันมาก ๆ จะได้ ไม่ต้องไปใช้บริการ
กลุ่มโรงพยาบาล ผมมีที่เป็นโรงพยาบาลใหญ่ ๆ 2 ตัว ซื้อมา 2 ปีแล้ว ให้ผลตอบแทนใช้ได้ เพราะเห็นว่า มีบริการเหมือนโรงแรมเลยครับ มีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติเกือบครึ่งหนึ่ง แถมจะขยายสาขาไปต่างประเทศอีกด้วย ส่วนอีกแห่งก็ร่วมกับโรงพยาบาลต่างจังหวัด รวมกลุ่มกัน ทำให้การสั่งซื้อยาและของจำเป็นได้ในราคาที่ถูก มีศูนย์ใหญ่ที่กรุงเทพฯ มีเครื่องตรวจเช็คร่างกายที่ทันสมัย ดึงผู้ป่วยจากต่างจังหวัดมาร่วมใช้บริการ ก็นับว่าเพิ่มรายได้ ได้ดีทีเดียว.... ส่วนอีกแห่งที่ผมมีเป็นหุ้นเก็งกำไร หุ้นตัวนี้นาน ๆ ก็ มีการขึ้นลงหวือหวา ซื้อไว้สมัยเก่าแก่ ตอนชอบเก็งกำไร (ติดไว้ยาว กว่า 6-7 ปีแล้ว) เขามีบริการตรวจร่างกายให้ผู้ถือหุ้น เลยถือโอกาสเก็บเอาไว้เพื่อไปตรวจร่างกายฟรีทุกปี หลัง ๆ นี้ เริ่มมีปันผลให้เห็นบ้างแล้ว ใครมีไม่ถึง แสนหุ้น ก็ ตรวจน้อยหน่อย ใครมีกว่า แสนหุ้นก็ตรวจเพิ่มให้อีกนิด หลังตรวจเขาจะส่งผลการตรวจร่างกายเป็นเล่มให้เก็บรักษาเอาไว้ อยู่ ไกลบ้านผมไปมากเลยไม่ได้ใช้บริการเพิ่มอะไร....โชคดีของผมนะครับ ที่อยู่ห่าง ๆ กับ กลุ่มนี้ในเรื่องใช้บริการ ฉะนั้นใคร ว่า ถือหุ้นบริษัทฯ ไหน ก็ควรจะช่วยใช้บริการบริษัทฯ นั้นมาก ๆ ข้อนี้ผมแย้ง นะครับ ไม่อยากใช้บริการเขาเลยครับ ....ฉะนั้น ขอให้เพื่อน ๆ ออกกำลังกายกันมาก ๆ จะได้ ไม่ต้องไปใช้บริการ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- วัวแดง
- Verified User
- โพสต์: 1429
- ผู้ติดตาม: 0
เค้าว่า โรงพยาบาล กับประกัน มีดี จริงหรือ?
โพสต์ที่ 8
กลุ่มนี้หนุ่มๆ ก็สนใจนะครับ :Dการลงทุนของผม 25% อยู่ในกลุ่มประกัน เป็นหุ้นที่ผมถือยาว เพื่อหวังปันผล ถือมา 5-6 ปีแล้ว ... ให้ปันผลทุกปีแถมบางปีปันผลเป็นหุ้นให้อีกด้วย เช่น bki นี่ 2 ปี แถมหุ้นเพิ่มให้อีก(หุ้นปันผล)....กลุ่มนี้เหมาะสำหรับคนสูงวัย และ มีเงินที่เย็นจริง ๆ ถือให้ลูกให้หลานไปเลย
ผมชอบคอมเมนต์ของคุณInvisible hand มากครับ....
ยังไงผมต้องเข้าโรงบาลมากขึ้นแน่นอนในอนาคต.....
ไว้แวะไปอ่านที่กระทิงคุณค่าดีกว่า ขอบคุณครับ