The honeymoon period is over.
-
- Verified User
- โพสต์: 381
- ผู้ติดตาม: 0
The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 1
ปกติเดือนธันวาคมในเวปเรา มักจะมีคนมาถามเสมอว่าปีนี้กำไรกันคนละกี่เปอร์เซ็นต์
แต่ปีนี้ดูจะเงียบๆไป สะท้อนภาวะตลาดที่ไม่เป็นใจนัก
ตั้งแต่ปี2009จนถึง2013 ดัชนีsetวิ่งขึ้นจากประมาณ400จุดมาสูงสุดประมาณ1600จุด
ถือเป็นการวิ่งขึ้นที่รุนแรงและต่อเนื่องยาวนานที่สุดตั้งแต่เปิดตลาดหุ้นมา
เกิดเศรษฐีใหม่จากตลาดหุ้นขึ้นมาจำนวนมากมาย
รวมทั้งเซียนหุ้นจุติใหม่จำนวนนับไม่ถ้วน
ตอนที่ดัชนีขึ้นต่อเนื่องมา2ปีผมก็คิดว่าน่าจะลงได้แล้ว
ปรากฏว่า3ปีก็ยังขึ้นต่อ 4ปีก็ยังทำท่าจะขึ้นไปอีก
แต่ในที่สุดกฎธรรมชาติที่แน่นอนคือไม่มีอะไรจะขึ้นได้ตลอดไป
ดัชนีที่ห้อตะบึงมากว่า4ปีแสดงออกชัดเจนว่าเริ่มหมดแรงแล้ว
ไม่มีใครที่จะคาดเดาอนาคตตลาดได้ถูกต้อง
แต่ในขณะเดียวกันโอกาสที่ตลาดจะกลับมาขึ้นรุนแรงอีกก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก
ที่น่าจะเป็นคือตลาดแกว่งตัวแคบๆหรือปรับฐานลงอย่างน้อย1-2ปี
ตลาดที่ให้ผลตอบแทนสูงมายาวนาน
ทำให้มีนักลงทุนหน้าใหม่จำนวนมหาศาล
มีคนลาออกจากงานประจำมาเล่นหุ้นอย่างเดียวเลี้ยงชีพอย่างมากมาย
มีคนเอาเงินออมทั้งหมดมาเล่นหุ้น
มีคนกู้ยืมเงินมาเล่นหุ้นจำนวนมาก
อย่างที่มีคนพูดไว้ว่า
“เวลาพายุมาแม้แต่หมูก็บินได้”
หมูที่คิดว่าตัวเองเป็นพญาอินทรีย์
จะเจ็บหนักหรือล้มตายเมื่อลมพายุหมดไป
ในภาวะที่ตลาดไม่เป็นใจแบบนี้
การทำผลตอบแทนได้เท่าตลาดหรือดีกว่าเพียงเล็กน้อย
ก็เป็นสิ่งที่น่าดีใจและภูมิใจแล้ว
ส่วนคนที่คาดหวัง70-100%ต่อปี
หรือกู้ยืมอัดมาร์จิ้นเต็มที่
ทั้งๆที่ตลาดโดยรวมไม่เป็นใจ
ก็ขอให้คุณโชคดี เพราะมีแต่เพียงโชคชะตาที่ช่วยคุณได้
ที่พูดมาทั้งหมดนี้เพียงเพื่ออยากเตือนว่า
The honeymoon period is over.
แต่ปีนี้ดูจะเงียบๆไป สะท้อนภาวะตลาดที่ไม่เป็นใจนัก
ตั้งแต่ปี2009จนถึง2013 ดัชนีsetวิ่งขึ้นจากประมาณ400จุดมาสูงสุดประมาณ1600จุด
ถือเป็นการวิ่งขึ้นที่รุนแรงและต่อเนื่องยาวนานที่สุดตั้งแต่เปิดตลาดหุ้นมา
เกิดเศรษฐีใหม่จากตลาดหุ้นขึ้นมาจำนวนมากมาย
รวมทั้งเซียนหุ้นจุติใหม่จำนวนนับไม่ถ้วน
ตอนที่ดัชนีขึ้นต่อเนื่องมา2ปีผมก็คิดว่าน่าจะลงได้แล้ว
ปรากฏว่า3ปีก็ยังขึ้นต่อ 4ปีก็ยังทำท่าจะขึ้นไปอีก
แต่ในที่สุดกฎธรรมชาติที่แน่นอนคือไม่มีอะไรจะขึ้นได้ตลอดไป
ดัชนีที่ห้อตะบึงมากว่า4ปีแสดงออกชัดเจนว่าเริ่มหมดแรงแล้ว
ไม่มีใครที่จะคาดเดาอนาคตตลาดได้ถูกต้อง
แต่ในขณะเดียวกันโอกาสที่ตลาดจะกลับมาขึ้นรุนแรงอีกก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก
ที่น่าจะเป็นคือตลาดแกว่งตัวแคบๆหรือปรับฐานลงอย่างน้อย1-2ปี
ตลาดที่ให้ผลตอบแทนสูงมายาวนาน
ทำให้มีนักลงทุนหน้าใหม่จำนวนมหาศาล
มีคนลาออกจากงานประจำมาเล่นหุ้นอย่างเดียวเลี้ยงชีพอย่างมากมาย
มีคนเอาเงินออมทั้งหมดมาเล่นหุ้น
มีคนกู้ยืมเงินมาเล่นหุ้นจำนวนมาก
อย่างที่มีคนพูดไว้ว่า
“เวลาพายุมาแม้แต่หมูก็บินได้”
หมูที่คิดว่าตัวเองเป็นพญาอินทรีย์
จะเจ็บหนักหรือล้มตายเมื่อลมพายุหมดไป
ในภาวะที่ตลาดไม่เป็นใจแบบนี้
การทำผลตอบแทนได้เท่าตลาดหรือดีกว่าเพียงเล็กน้อย
ก็เป็นสิ่งที่น่าดีใจและภูมิใจแล้ว
ส่วนคนที่คาดหวัง70-100%ต่อปี
หรือกู้ยืมอัดมาร์จิ้นเต็มที่
ทั้งๆที่ตลาดโดยรวมไม่เป็นใจ
ก็ขอให้คุณโชคดี เพราะมีแต่เพียงโชคชะตาที่ช่วยคุณได้
ที่พูดมาทั้งหมดนี้เพียงเพื่ออยากเตือนว่า
The honeymoon period is over.
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 4
ที่น่าสังเกตุอีกอย่างคือ
ก่อนหน้านี้หนังสือที่ขายดีติดอันดับ1-10 มีหนังสือเกี่ยวกับหุ้นซัก3-4เล่ม
แต่ช่วงนี้(ตจว.)ไม่มีหนังสือชุดนี้ติดอันดับเลย
สำหรับผมเองไม่ได้มองตลาดมาซักระยะแล้ว
จะใช้วิธีมองแค่ว่าหุ้นตัวที่ถืออยู่ ราคายังถูกกว่ามูลค่าเท่าไหร่
แค่นี้ก็สามารถอยู่ในตลาดได้อย่างปกติสุขแล้วครับ
ก่อนหน้านี้หนังสือที่ขายดีติดอันดับ1-10 มีหนังสือเกี่ยวกับหุ้นซัก3-4เล่ม
แต่ช่วงนี้(ตจว.)ไม่มีหนังสือชุดนี้ติดอันดับเลย
สำหรับผมเองไม่ได้มองตลาดมาซักระยะแล้ว
จะใช้วิธีมองแค่ว่าหุ้นตัวที่ถืออยู่ ราคายังถูกกว่ามูลค่าเท่าไหร่
แค่นี้ก็สามารถอยู่ในตลาดได้อย่างปกติสุขแล้วครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณมากครับ คุณ dr.sp
เอาเข้าจริงผมชอบนะ
เอาผลประจำปีมาบลัฟกันเหมือนปั่นหุ้นปั่นกิเลสยังไงไม่รู้
เอาเข้าจริงผมชอบนะ
เอาผลประจำปีมาบลัฟกันเหมือนปั่นหุ้นปั่นกิเลสยังไงไม่รู้
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 381
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 8
เชียร์คุณNCBตั้งกระทู้โชว์ผลตอบแทนปีนี้เลยNevercry.boy เขียน:ขอบคุณมากครับ คุณ dr.sp
เอาเข้าจริงผมชอบนะ
เอาผลประจำปีมาบลัฟกันเหมือนปั่นหุ้นปั่นกิเลสยังไงไม่รู้
ผมก็อยากเห็นผลงานเซียนวีไอทั้งหลาย
อยากรู้ว่าปีที่ไม่ค่อยดีแบบนี้ได้กันเท่าไหร่
เชื่อว่าส่วนใหญ่ยังชนะตลาดได้
ใครได้เยอะๆช่วยบอกด้วยว่าทําได้ยังไง
ส่วนของผมเองคงไม่กล้าโชว์ ผมอาย
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 9
งั้นเรามาตั้งเป็นสถิติดีมั๊ย ให้เป็นแนววิชาการ มากกว่าแนวโชว์drsp เขียน:เชียร์คุณNCBตั้งกระทู้โชว์ผลตอบแทนปีนี้เลยNevercry.boy เขียน:ขอบคุณมากครับ คุณ dr.sp
เอาเข้าจริงผมชอบนะ
เอาผลประจำปีมาบลัฟกันเหมือนปั่นหุ้นปั่นกิเลสยังไงไม่รู้
ผมก็อยากเห็นผลงานเซียนวีไอทั้งหลาย
อยากรู้ว่าปีที่ไม่ค่อยดีแบบนี้ได้กันเท่าไหร่
เชื่อว่าส่วนใหญ่ยังชนะตลาดได้
ใครได้เยอะๆช่วยบอกด้วยว่าทําได้ยังไง
ส่วนของผมเองคงไม่กล้าโชว์ ผมอาย
ปีนี้ SET ต้นปี 1391 ตอนนี้ 1367 ติดลบ 1.67%
ใครบวกนิดหน่อยก็ถือว่าเก่งกว่าคนส่วนใหญ่แล้วนะ
เดี๋ยวผมคิดวิธีก่อน จะได้ได้ความรู้กันไว้เป็นมาตรฐาน เสริมสร้างภูมิที่ถูกต้อง
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 567
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 10
ส่วนตัวผมใช้ function XIRR ของ excel โดย XIRR จะทำเป็น annualized return ให้ครับNevercry.boy เขียน:งั้นเรามาตั้งเป็นสถิติดีมั๊ย ให้เป็นแนววิชาการ มากกว่าแนวโชว์drsp เขียน:เชียร์คุณNCBตั้งกระทู้โชว์ผลตอบแทนปีนี้เลยNevercry.boy เขียน:ขอบคุณมากครับ คุณ dr.sp
เอาเข้าจริงผมชอบนะ
เอาผลประจำปีมาบลัฟกันเหมือนปั่นหุ้นปั่นกิเลสยังไงไม่รู้
ผมก็อยากเห็นผลงานเซียนวีไอทั้งหลาย
อยากรู้ว่าปีที่ไม่ค่อยดีแบบนี้ได้กันเท่าไหร่
เชื่อว่าส่วนใหญ่ยังชนะตลาดได้
ใครได้เยอะๆช่วยบอกด้วยว่าทําได้ยังไง
ส่วนของผมเองคงไม่กล้าโชว์ ผมอาย
ปีนี้ SET ต้นปี 1391 ตอนนี้ 1367 ติดลบ 1.67%
ใครบวกนิดหน่อยก็ถือว่าเก่งกว่าคนส่วนใหญ่แล้วนะ
เดี๋ยวผมคิดวิธีก่อน จะได้ได้ความรู้กันไว้เป็นมาตรฐาน เสริมสร้างภูมิที่ถูกต้อง
มูลค่าพอร์ท ปลายปีที่แล้วตั้งเป็น ลบ
cash flow ที่เข้า เป็นบวก เช่นปันผล, ขายหุ้น
cash flow ที่ออก เป็นลบ เช่นซื้อหุ้นเพิ่ม
มูลค่าพอร์ทปลายปีเป็น บวก
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 12
ไป honeymoon ที่ประเทศอื่นแทนละกัน
value trap
- shanghaigeny
- Verified User
- โพสต์: 3530
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 13
nut776 เขียน:q3 นี่ดู op dayสั้นๆ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า
คิดเหมือนกันครับ รู้สึกว่าจำนวนคำถามที่ยิงใส่ผู้บริหารน้อยลง ไม่เหมือนตอน q1 ใช้เวลาเกินกันหลายบริษัทเลย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 570
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 14
เหตุการณ์ลักษณะนี้มันบ่งบอกถึงอะไรหรือครับ เรียนขอความรู้ครับshanghaigeny เขียน:nut776 เขียน:q3 นี่ดู op dayสั้นๆ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า
คิดเหมือนกันครับ รู้สึกว่าจำนวนคำถามที่ยิงใส่ผู้บริหารน้อยลง ไม่เหมือนตอน q1 ใช้เวลาเกินกันหลายบริษัทเลย
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 17
เห็นด้วยครับ ช่วง honey moon อาจจะหมดไป
แต่ชีวิตการลงทุนยังดำเนินต่อไปครับ
จริงๆแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนของชีวิต
หลักการ และ วิธีการ ลงทุน
ก็ไม่ได้แตกต่างกันนักสำหรับวีไอพันธ์ุแท้ครับ
แต่ชีวิตการลงทุนยังดำเนินต่อไปครับ
จริงๆแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนของชีวิต
หลักการ และ วิธีการ ลงทุน
ก็ไม่ได้แตกต่างกันนักสำหรับวีไอพันธ์ุแท้ครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 234
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 18
ผมว่าเรื่องคำว่าตัว y นี่ลองใช้ตัวอย่างอื่นอาจจะเหมาะกว่านะครับเห็นท่านยกคำพูดนี้หลายรอบ เพราะจริงๆ คำว่า The only time to buy these is on a day with no “y” in it มันแปลว่า เวลาที่จะซื้อเนี่ยคือวันที่ไม่มีตัว y ซึ่งคำว่าวันหรือ day ในภาษาอังกฤษเนี่ยทุกวันมีตัว y หมด คือว่า day ไม่ว่าจะ Monday Tuesday...micky1115 เขียน:เวลาไม่มีตัว y เนี่ย คนชอบขายดีนะคับ เวลามีตัว y เป็น vi เวลาไม่มีyดันลืมตัว
ว่าหลักการเป็นยังไง
Vi=buy undervalue พูดแบบไทยๆ นักช๊อปของถูก
คุณภาพดีในราคาที่ปกติซื้อไม่ได้
ดังนั้นความหมายจริงๆ ของวลีนี้น่าจะแปลว่า ไม่มีวันซื้อ มากกว่าจะเป็นซื้อตอนมีข่าวร้ายเยอะๆ นะครับ เพราะลุงบัฟใช้วลีนี้ในการบอกว่าเขาจะไม่มีวันซื้อ Junk Bond ไม่ใช่จะซื้อต่อเมื่อทุกคนไม่อยากซื้อหรือมีข่าวร้ายเต็มไปหมด
ดูจากกระทู้นี้ก็ได้ครับ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=56878
-
- Verified User
- โพสต์: 381
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 19
วีไอคงมีหลายสายพันธุ์ครับคุณโดมdome@perth เขียน:เห็นด้วยครับ ช่วง honey moon อาจจะหมดไป
แต่ชีวิตการลงทุนยังดำเนินต่อไปครับ
จริงๆแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนของชีวิต
หลักการ และ วิธีการ ลงทุน
ก็ไม่ได้แตกต่างกันนักสำหรับวีไอพันธ์ุแท้ครับ
วีไอพันธุ์ตุ๊กแกแบบผมปรับเลี่ยนการลงทุนตามสภาวะตลาด
ถ้าดอกเบี้ยเงินฝากมากกว่า12% ผมคงเลิกลงทุนหุ้น
เพราะต้องการปีละ12-15%อยู่แล้ว
จะลงทุนหุ้นให้เสี่ยงทําไม
และถ้าดอกเบี้ยแพงขนาดนั้น ธุรกิจโดยรวมคงแย่กันหมด
หรือถ้าp/eรวมทั้งตลาดมากกว่า20
ผมก็คงหยุดลงทุนหุ้นเหมือนกัน
ในช่วงตลาดเฟื่องฟูผมมักถือหุ้นgrowthค่อนข้างมาก
ถ้าตลาดทรงตัวหรือขาลง
ผมมักถือหุ้นp/eตํ่าหรือหุ้นสภาพคล่องน้อย
เพราะถ้าสภาวะตลาดไม่ดี
หุ้นp/eสูงมีโอกาสตกรุนแรงกว่า
คงไม่มีใครถูกหรือผิดหรอกครับ
วิธีการลงทุนที่แตกต่างกัน คงเป็นลักษณะนิสัยและปัจเจกที่แตกต่างกัน
ผมแค่อยากแลกเปลี่ยนความเห็น
ขอให้มีความสุขและสนุกกับการลงทุนก็พอ
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 21
เห็นด้วยทุกประเด็นครับ ยอดเยี่ยมเลยครับdrsp เขียน:วีไอคงมีหลายสายพันธุ์ครับคุณโดมdome@perth เขียน:เห็นด้วยครับ ช่วง honey moon อาจจะหมดไป
แต่ชีวิตการลงทุนยังดำเนินต่อไปครับ
จริงๆแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนของชีวิต
หลักการ และ วิธีการ ลงทุน
ก็ไม่ได้แตกต่างกันนักสำหรับวีไอพันธ์ุแท้ครับ
วีไอพันธุ์ตุ๊กแกแบบผมปรับเลี่ยนการลงทุนตามสภาวะตลาด
ถ้าดอกเบี้ยเงินฝากมากกว่า12% ผมคงเลิกลงทุนหุ้น
เพราะต้องการปีละ12-15%อยู่แล้ว
จะลงทุนหุ้นให้เสี่ยงทําไม
และถ้าดอกเบี้ยแพงขนาดนั้น ธุรกิจโดยรวมคงแย่กันหมด
หรือถ้าp/eรวมทั้งตลาดมากกว่า20
ผมก็คงหยุดลงทุนหุ้นเหมือนกัน
ในช่วงตลาดเฟื่องฟูผมมักถือหุ้นgrowthค่อนข้างมาก
ถ้าตลาดทรงตัวหรือขาลง
ผมมักถือหุ้นp/eตํ่าหรือหุ้นสภาพคล่องน้อย
เพราะถ้าสภาวะตลาดไม่ดี
หุ้นp/eสูงมีโอกาสตกรุนแรงกว่า
คงไม่มีใครถูกหรือผิดหรอกครับ
วิธีการลงทุนที่แตกต่างกัน คงเป็นลักษณะนิสัยและปัจเจกที่แตกต่างกัน
ผมแค่อยากแลกเปลี่ยนความเห็น
ขอให้มีความสุขและสนุกกับการลงทุนก็พอ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 467
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 24
ผมมีผลตอบแทนปีนี้ 40% แต่ได้อานิสงค์ของช่วงต้นปีแทบทั้งนั้นที่กำไรเคยขี้นไปถึง 80% ที่เขียนมาเพียงต้องการแชร์ว่า กำไรที่ลดหายไปครึ่งทำให้ผมได้บทเรียนอย่างนึงกับตัวเองว่า อย่าเปลี่ยนสไตล์การลงทุนที่ตัวเองถนัด เนื่องด้วยหลังจากมองหาหุ้นน่าสนใจไม่พบ ทำให้ผมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มาลงทุนในหุ้น super stock เพราะคิดว่าจะช่วยทำให้ความเสี่ยงลดลง แต่สุดท้ายผมกลับรู้สึกว่าไม่ใช่ทางของผมเลย ประมาณว่าซื้อเพราะแค่มันดีทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ประทับใจมันมากนัก
สรุป เป็นตัวของตัวเองดีสุด เล่นในทางที่เราเข้าใจ ถ้าไม่มีก็หยุด (หยุดลงทุนนี่ยากจริงๆ แค่ลดพอร์ตยังต้องใช้ความพยายามมากเลย) ปีหน้าฟ้าใหม่ก็จะกลับมาเล่นสไตล์ของผมละ ดูกันอีกปี
สรุป เป็นตัวของตัวเองดีสุด เล่นในทางที่เราเข้าใจ ถ้าไม่มีก็หยุด (หยุดลงทุนนี่ยากจริงๆ แค่ลดพอร์ตยังต้องใช้ความพยายามมากเลย) ปีหน้าฟ้าใหม่ก็จะกลับมาเล่นสไตล์ของผมละ ดูกันอีกปี
The miracle of compounding,
-
- Verified User
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 26
เป็นพันธ์ตุ๊กแกเหมือนกันแฮะเรา
-
- Verified User
- โพสต์: 262
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 27
Vchai เขียน:Kjarrung ครับ รบกวนถามว่า 10% นี่คือ capital gain เม่ือเทียบกับต้นทุนตอนต้นปี 2556 หรือเปล่าครับ
ใช่ครับ เป็นการเทียบกับมูลค่าพอร์ทเมื่อ 1 ม.ค 2556 ครับและรวมเงินปันผลด้วย ผมยังไม่รู้ว่าเมื่อถึง 30 ธ.ค 56 จะเป็นอย่าไร แต่มั่นใจว่าชนะดัชนี set แน่นอน
-
- Verified User
- โพสต์: 390
- ผู้ติดตาม: 0
Re: The honeymoon period is over.
โพสต์ที่ 28
เหมือนกันครับ ผมก็ดูแลหุ้นในพอร์ต ไม่ได้หาตัวใหม่ครับsaichon เขียน:ที่น่าสังเกตุอีกอย่างคือ
ก่อนหน้านี้หนังสือที่ขายดีติดอันดับ1-10 มีหนังสือเกี่ยวกับหุ้นซัก3-4เล่ม
แต่ช่วงนี้(ตจว.)ไม่มีหนังสือชุดนี้ติดอันดับเลย
สำหรับผมเองไม่ได้มองตลาดมาซักระยะแล้ว
จะใช้วิธีมองแค่ว่าหุ้นตัวที่ถืออยู่ ราคายังถูกกว่ามูลค่าเท่าไหร่
แค่นี้ก็สามารถอยู่ในตลาดได้อย่างปกติสุขแล้วครับ