VI บ้าน ๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 271
บัตรเครดิต "ตัวร้าย" จริงหรือ
........................
ที่บ้านเราใช้บัตรเครดิตมากเท่าที่จะใช้ได้เลยค่ะ
ที่ไหนที่ให้รูดบัตรได้นี่ใช้ตลอดเลย ต้องการสะสมแต้ม
ใช้ซื้อของใช้จำเป็นไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย และเติมน้ำมัน
มาดูตัวอย่างกัน ว่าเราได้ประโยชน์อะไรบ้างถ้าใช้เป็น
.............................
ทานร้านอาหารที่ร่วมรายการ ครบ 500 บาท
ได้รับเงินคืน 100 บาท คิดเป็น 20% เลยนะ
(แค่สัปดาห์ละครั้ง และจะเลือกอาหารให้พอดีกับ 500 บาท)
ยอดสะสมครบ 5,000 บาท ได้รับเงินคืนอีก 100 บาท (คิดเป็น 2%)
พอๆ กับฝากออมทรัพย์ แต่ไม่ต้องนำเงินไปฝากเลย
.............................
อีกค่ายนึง เมื่อเร็วๆ นี้ให้กาแฟยี่ห้องดัง "ฟรี" วันเสาร์ อาทิตย์
เวลาออกไปธุระ ก็สนุกกับการออกแบบการเดินทาง
ให้ผ่านปั๊มที่ร้านกาแฟนี้ตั้งอยู่เพื่อรับกาแฟฟรี
และเป็น platinum ที่ทางห้างจะกันที่จอดรถไว้ให้ลูกค้าด้วย
............................
ที่ชอบที่สุดของค่ายนึงคือใช้แต้มแทนเงินสด
1,000 แต้ม แทนเงิน 100 บาท
บางครั้งมีโปร 800 แต้ม แทนเงิน 100 บาท
สมัยก่อนที่ยังไม่มีแบบใช้แต้มแทนเงิดสด
เราเคยนำแต้มไปแลกเครื่องใช้ไฟฟ้าเล็กๆ
เช่น หม้อต้มสุกี้ เตาปิ้งย่าง ไมโครเวฟ
แล้วเอาไปฝากคนกลางขายค่ะ เราแลกมาฟรี
ขายแค่ครึ่งราคา คนกลางไปบวกราคา
แล้วเอาไปขายแบบให้ผ่อนรายเดือนค่ะ
ตัวเราก็รับเป็นเงินสดมาเลยค่ะ (win : win)
...........................
ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่า internet หรืออื่นๆ
ที่หักผ่านบัตรเครดิตได้เราก็ให้มาหักทั้งหมด
นอกจากไม่ลืมแล้ว ยังสะดวกไม่จ่ายรายบิล
จึงไม่เสียค่าธรรมเนียมให้เคาน์เตอร์เซอร์วิสด้วย
...........................
สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ใช้บัตรเครดิตต้องมีวินัย
เราทำตารางการใช้บัตรเคดิต (excel)
ซึ่งตารางนี้จะรวมกับบัญชีรายรับรายจ่าย
ทุกครั้งที่มีการใช้จ่าย แค่ key ลงในตาราง
จะทราบยอดที่เป็นปัจจุบันของบัตรแต่ละใบ
(ใช้ตามโปรที่เราชอบจึงมีหลายใบค่ะ)
ยอดแต่ละใบนั้นก็จะวิ่งไปรวมในช่องรายจ่าย
เพื่อหักออกจากรายรับให้ทันที
ช่วยให้วางแผนการเงินได้มีประสิทธิภาพ
สามารถจ่ายค่าบัตรเครดิตได้โดยไม่ต้องรอใบเรียกเก็บเลย
............................
ตอนนี้ ทำล่วงหน้าไปถึงปีหน้าแล้วค่ะ
เพราะมีของบางรายการที่เราผ่อน 0% ด้วย
บางทีเค้าจัดรายการส่งเสริมการขายสำหรับบัตรเครดิต
นอกจากผ่อน 0% แล้วยังมีส่วนลดให้ด้วย
ในขณะที่ซื้อเงินสดไม่ได้ส่วนลด ก็เลยผ่อนค่ะ
ของที่เป็นการผ่อนนี้เราก็จะไปลงไว้เลย
เช่น งวดที่ 1/10 2/10 3/10 .... จน ถึง 10/10
ซึ่งมันเลยไปปีหน้า เราทำตารางของปีหน้ารอไว้แล้วเช่นกัน
โปรที่กระตุ้นให้ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่ออะไร
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่ใช้บัตรเครดิต "ส่วนใหญ่"
ซึ่งจะถูกเปิดโอกาสให้ชำระหนี้เป็นวงเงินขั้นต่ำ
มักจะชอบจ่ายขั้นต่ำจริงๆ แล้วดึงเอาเงินสด
ที่ควรจ่ายคืนหนี้บัตรทั้งจำนวน ไว้ใช้จ่าย
ในสิ่งที่จำเป็น (บ้าง...ไม่จำเป็นบ้าง)
ในที่สุดยอดจะเริ่มสะสมและทางบริษัทบัตรเครดิต
ก็จะได้ดอกเบี้ยจากผู้ถือบัตรอย่างต่อเนื่องเลยค่ะ
แต่การใช้บัตรเครดิตในแบบของเรานั้น
เราได้ใช้สิทธิประโยชน์เต็มที่ แต่ไม่เคยเสียดอกเบี้ยเลย
...........................
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเราอยากถามคำถามเดิมค่ะ
บัตรเครดิต "ตัวร้าย" จริงหรือ
เหมือนเดิม....ตารางนี้แจกได้ค่ะ
........................
ที่บ้านเราใช้บัตรเครดิตมากเท่าที่จะใช้ได้เลยค่ะ
ที่ไหนที่ให้รูดบัตรได้นี่ใช้ตลอดเลย ต้องการสะสมแต้ม
ใช้ซื้อของใช้จำเป็นไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย และเติมน้ำมัน
มาดูตัวอย่างกัน ว่าเราได้ประโยชน์อะไรบ้างถ้าใช้เป็น
.............................
ทานร้านอาหารที่ร่วมรายการ ครบ 500 บาท
ได้รับเงินคืน 100 บาท คิดเป็น 20% เลยนะ
(แค่สัปดาห์ละครั้ง และจะเลือกอาหารให้พอดีกับ 500 บาท)
ยอดสะสมครบ 5,000 บาท ได้รับเงินคืนอีก 100 บาท (คิดเป็น 2%)
พอๆ กับฝากออมทรัพย์ แต่ไม่ต้องนำเงินไปฝากเลย
.............................
อีกค่ายนึง เมื่อเร็วๆ นี้ให้กาแฟยี่ห้องดัง "ฟรี" วันเสาร์ อาทิตย์
เวลาออกไปธุระ ก็สนุกกับการออกแบบการเดินทาง
ให้ผ่านปั๊มที่ร้านกาแฟนี้ตั้งอยู่เพื่อรับกาแฟฟรี
และเป็น platinum ที่ทางห้างจะกันที่จอดรถไว้ให้ลูกค้าด้วย
............................
ที่ชอบที่สุดของค่ายนึงคือใช้แต้มแทนเงินสด
1,000 แต้ม แทนเงิน 100 บาท
บางครั้งมีโปร 800 แต้ม แทนเงิน 100 บาท
สมัยก่อนที่ยังไม่มีแบบใช้แต้มแทนเงิดสด
เราเคยนำแต้มไปแลกเครื่องใช้ไฟฟ้าเล็กๆ
เช่น หม้อต้มสุกี้ เตาปิ้งย่าง ไมโครเวฟ
แล้วเอาไปฝากคนกลางขายค่ะ เราแลกมาฟรี
ขายแค่ครึ่งราคา คนกลางไปบวกราคา
แล้วเอาไปขายแบบให้ผ่อนรายเดือนค่ะ
ตัวเราก็รับเป็นเงินสดมาเลยค่ะ (win : win)
...........................
ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่า internet หรืออื่นๆ
ที่หักผ่านบัตรเครดิตได้เราก็ให้มาหักทั้งหมด
นอกจากไม่ลืมแล้ว ยังสะดวกไม่จ่ายรายบิล
จึงไม่เสียค่าธรรมเนียมให้เคาน์เตอร์เซอร์วิสด้วย
...........................
สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ใช้บัตรเครดิตต้องมีวินัย
เราทำตารางการใช้บัตรเคดิต (excel)
ซึ่งตารางนี้จะรวมกับบัญชีรายรับรายจ่าย
ทุกครั้งที่มีการใช้จ่าย แค่ key ลงในตาราง
จะทราบยอดที่เป็นปัจจุบันของบัตรแต่ละใบ
(ใช้ตามโปรที่เราชอบจึงมีหลายใบค่ะ)
ยอดแต่ละใบนั้นก็จะวิ่งไปรวมในช่องรายจ่าย
เพื่อหักออกจากรายรับให้ทันที
ช่วยให้วางแผนการเงินได้มีประสิทธิภาพ
สามารถจ่ายค่าบัตรเครดิตได้โดยไม่ต้องรอใบเรียกเก็บเลย
............................
ตอนนี้ ทำล่วงหน้าไปถึงปีหน้าแล้วค่ะ
เพราะมีของบางรายการที่เราผ่อน 0% ด้วย
บางทีเค้าจัดรายการส่งเสริมการขายสำหรับบัตรเครดิต
นอกจากผ่อน 0% แล้วยังมีส่วนลดให้ด้วย
ในขณะที่ซื้อเงินสดไม่ได้ส่วนลด ก็เลยผ่อนค่ะ
ของที่เป็นการผ่อนนี้เราก็จะไปลงไว้เลย
เช่น งวดที่ 1/10 2/10 3/10 .... จน ถึง 10/10
ซึ่งมันเลยไปปีหน้า เราทำตารางของปีหน้ารอไว้แล้วเช่นกัน
โปรที่กระตุ้นให้ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่ออะไร
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่ใช้บัตรเครดิต "ส่วนใหญ่"
ซึ่งจะถูกเปิดโอกาสให้ชำระหนี้เป็นวงเงินขั้นต่ำ
มักจะชอบจ่ายขั้นต่ำจริงๆ แล้วดึงเอาเงินสด
ที่ควรจ่ายคืนหนี้บัตรทั้งจำนวน ไว้ใช้จ่าย
ในสิ่งที่จำเป็น (บ้าง...ไม่จำเป็นบ้าง)
ในที่สุดยอดจะเริ่มสะสมและทางบริษัทบัตรเครดิต
ก็จะได้ดอกเบี้ยจากผู้ถือบัตรอย่างต่อเนื่องเลยค่ะ
แต่การใช้บัตรเครดิตในแบบของเรานั้น
เราได้ใช้สิทธิประโยชน์เต็มที่ แต่ไม่เคยเสียดอกเบี้ยเลย
...........................
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเราอยากถามคำถามเดิมค่ะ
บัตรเครดิต "ตัวร้าย" จริงหรือ
เหมือนเดิม....ตารางนี้แจกได้ค่ะ
- นพพร
- Verified User
- โพสต์: 1039
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 272
ผมว่าถ้าใ้ช้เป็นมีวินัย มันมีประโยชน์มากกว่านะครับ เหมือนไฟฟ้าหรือมีดทำครัว อารมณ์เดียวกัน ตอนนี้มีใบเดีียวของธนชาต ไว้รูดเติมน้ำมันรายเดือน คืนเงิน cash back ก็ OK อยู่นะครับ ถ้ามีแนะนำเพิ่มขอด้วยครับ อยากได้โปรดีๆ 55
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 273
ของ TMB พี่ชอบที่เค้าไม่กำหนดวงเงินสูงนักก็ได้ cash back แล้วนพพร เขียน:ผมว่าถ้าใ้ช้เป็นมีวินัย มันมีประโยชน์มากกว่านะครับ เหมือนไฟฟ้าหรือมีดทำครัว อารมณ์เดียวกัน ตอนนี้มีใบเดีียวของธนชาต ไว้รูดเติมน้ำมันรายเดือน คืนเงิน cash back ก็ OK อยู่นะครับ ถ้ามีแนะนำเพิ่มขอด้วยครับ อยากได้โปรดีๆ 55
ที่อาหาร 500 คืน 100 (คิดเป็น 20 %) นั่นแหละของ TMB
ที่ 1,000 แต้ม (หรือ 800 แต้ม ในบางครั้ง)
ลดเป็นเงินสด 100 บาทเลย ของ KTC
กาแฟ Amazon ฟรี เสาร์-อาทิตย์ นั้น Kbank ค่ะ (หมดเขตแล้ว)
ของกสิกรนี่สมัคร 2 คน ได้มา 6 ใบ ต้องยกเลิกไป 4 ใบ
เหลือไว้แค่ 2 ใบ (คนละ 1 ใบ) ไม่รู้จะให้มาทำไมนักหนา
เพื่อนพี่บอกว่า โห...คนเค้าอยากทำกันแทบตาย
แต่เธอนี่เค้าเต็มใจอนุมัติแต่ขอยกเลิกเนี่ยนะ...คิดได้ไง
เค้าเสียดายแทน (ตัวเอง) ค่ะ...555
พี่ใช้แต่บัตรเครดิตไม่เคยใช้พวกสินเชื่อบุคคล
ของบัตรเครดิตเองนั้นบางทีได้วงเงินมากเกินไป
เราต้องไปขอลดเหลือเท่าที่เราใช้ประจำ
กลัวบัตรหายเดี๋ยวมิจฉาชีพสนุกสนานเลย
การใช้บัตรเครดิตก็ต้องเราวางแผนเช่นกัน
โดยวางแผนการใช้จ่ายสัมพันธ์ให้กับตารางแผนการเงินภาพรวม
เพราะเราใช้แล้วจ่ายคืนหมดไม่มียอดค้าง
ดังนั้นเวลาจะซื้ออะไรครั้งใหญ่ เช่น เปลี่ยนยางรถ 4 เส้น
นี่ต้องหาเดือนลงคือเดือนที่ไม่มีจ่ายค่าเทอม ไม่มีประกัน ไม่ซื้อ LTF
แม้จะมีวงเงินพร้อมใช้ก็ยังต้อง "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน" อยู่ดี
โดยส่วนตัวพี่มีความเห็นว่า
"ความหนักแน่นทางอารมณ์" , "ความมีวินัย"
และ "การมองการณ์ไกล" เป็นสิ่งสำคัญมาก
ทั้งต่อการลงทุนในหุ้น และการวางแผนการเงินค่ะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 274
อ่านเจอมาจาก pantip ค่ะ
พนักงานร้านฟาสฟู้ด ทำผมร้องไห้
ที่มา Pantip
http://pantip.com/topic/31238751
..........................
เมื่อวันก่อนผมขี่จักรยานกลับบ้าน เลยแวะซื้ออาหารกินที่ร้านฟาสฟู้ดแถวบ้านครับ เป็นร้านประจำเพราะใกล้บ้าน แต่วันนั้นไปดึกกว่าปกติ สามทุ่มพอดี ไปถึงพนักงานที่เจอบ่อยๆก็บอกว่า อืม ปิดแล้วนะ ผมก็อืม ลืมไปว่าปิดเก้าโมงพอดี ก็เลยบอกว่าโอเคไม่เป็นไร กำลังจะออกจากร้าน พนักงานก็ถามอีกทีว่า เดี๋ยวๆ จะสั่งอะไรหรอ เลยมาแค่นาทีเดียว เดี๋ยวทำให้ก็ได้ ... ผมก็เลยสั่งไป แล้วก็บอกขอบคุณที่อุตส่าห์ทำให้ ทั้งๆที่เลยเวลาไปแล้ว
ตอนที่ยืนรออาหารอยู่ ผมลองคิดทบทวนดู แล้วอยู่ดีๆน้ำตามันไหลออกมา.. เพราะอะไรหรอครับ
เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ที่มีคนพูดอะไรดีๆ กับผม
หลายเดือนที่ผ่านมา ผมทุกข์มาก ไม่สบายใจหลายเรื่อง เรื่องงาน ครอบครัว ชีวิต มันเหมือนกับจะตกต่ำที่สุดตั้งแต่เกิดมา ผมอยู่ที่เมืองนอก ห่างไกลครอบครัว เพื่อนก็ไม่มี มันอัดอั้นตันใจหลายๆอย่าง แต่ก็กัดฟันสู้ไป สู้ไป จนถึงวันที่ผมยืนรออาหารที่ร้านฟ้าสฟู้ด แล้วรู้สึกว่า เฮ้ย มันไม่ไหวแล้วจริงๆว่ะ แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้ให้พนักงานเห็นนะครับเดี๋ยวเขาตกใจ
ไม่มีอะไรหรอกครับ บางที สิ่งดีๆ ที่คนทั้งหลายทำ โดยที่ไม่ได้คิดอะไรมาก บางทีมันอาจจะมีค่ามากสำหรับคนที่ได้รับเหมือนกันนะ
อยากบอกว่าบางทีสิ่งเล็กๆ ที่เราไม่ทันได้คิดอาจมีผลต่อจิตใจของผู้คนในระดับลึกซึ่งได้
ด้านดึ - ตามตัวอย่างข้างต้น
หรือกรณีของเด็กเร่ร่อนที่บ้านเด็กใกล้วัดที่เราเคยเล่าถึงในกระทู้ก่อน
ที่เขาไม่สบายพอเราแค่เอามือไปจับหน้าผาก ว่าตัวร้อนมากมั้ย ปวดหัวมั้ย
แล้วเค้าเอามือขึ้นมาปิดตาทำท่าเหมือนก่ายหน้าผากแต่สักครู่น้ำไหลพราก นั่นแหละค่ะ
หรือในทางกลับกัน - อย่างเรื่อง "ฟางเส้นสุดท้าย" ที่ได้เคยเขียนไปค่ะ
เมื่อวานนี้มีน้องผู้หญิงแม่ลูกอ่อนคนนึงมาจ่ายตลาด
เนื่องจากชอบสังเกตสิ่งรอบตัวจึงมองดูเค้าอยู่ครู่นึง
จึงเดาได้ว่ามาคนเดียว สภาพคืออุ้มลูกเล็กมากๆ ไม่น่าถึงขวบ
หิ้วถุงอาหารมีรถเข็นเด็กด้วย (ลูกคงไม่ยอมอยู่ในรถเข็น)
น้องเค้าก็ต้องอุ้มลูกด้วยลากรถด้วยและจะข้ามถนนค่ะ
เราเลยวิ่งไปช่วยเข็นรถเข็นเด็กข้ามถนนให้
เล็กๆ น้อยๆ แค่นี้...ที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็รู้สึกชื่นใจกันทั้งฝ่ายค่ะ
วันนึงข้างหน้า...น้องเค้าอาจมีโอกาสได้ช่วยเหลือผู้อื่น
และสอนให้ลูกน้อยของเค้าใส่ใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปเป็นทอดๆ ก็ได้นะคะ
พนักงานร้านฟาสฟู้ด ทำผมร้องไห้
ที่มา Pantip
http://pantip.com/topic/31238751
..........................
เมื่อวันก่อนผมขี่จักรยานกลับบ้าน เลยแวะซื้ออาหารกินที่ร้านฟาสฟู้ดแถวบ้านครับ เป็นร้านประจำเพราะใกล้บ้าน แต่วันนั้นไปดึกกว่าปกติ สามทุ่มพอดี ไปถึงพนักงานที่เจอบ่อยๆก็บอกว่า อืม ปิดแล้วนะ ผมก็อืม ลืมไปว่าปิดเก้าโมงพอดี ก็เลยบอกว่าโอเคไม่เป็นไร กำลังจะออกจากร้าน พนักงานก็ถามอีกทีว่า เดี๋ยวๆ จะสั่งอะไรหรอ เลยมาแค่นาทีเดียว เดี๋ยวทำให้ก็ได้ ... ผมก็เลยสั่งไป แล้วก็บอกขอบคุณที่อุตส่าห์ทำให้ ทั้งๆที่เลยเวลาไปแล้ว
ตอนที่ยืนรออาหารอยู่ ผมลองคิดทบทวนดู แล้วอยู่ดีๆน้ำตามันไหลออกมา.. เพราะอะไรหรอครับ
เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ที่มีคนพูดอะไรดีๆ กับผม
หลายเดือนที่ผ่านมา ผมทุกข์มาก ไม่สบายใจหลายเรื่อง เรื่องงาน ครอบครัว ชีวิต มันเหมือนกับจะตกต่ำที่สุดตั้งแต่เกิดมา ผมอยู่ที่เมืองนอก ห่างไกลครอบครัว เพื่อนก็ไม่มี มันอัดอั้นตันใจหลายๆอย่าง แต่ก็กัดฟันสู้ไป สู้ไป จนถึงวันที่ผมยืนรออาหารที่ร้านฟ้าสฟู้ด แล้วรู้สึกว่า เฮ้ย มันไม่ไหวแล้วจริงๆว่ะ แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้ให้พนักงานเห็นนะครับเดี๋ยวเขาตกใจ
ไม่มีอะไรหรอกครับ บางที สิ่งดีๆ ที่คนทั้งหลายทำ โดยที่ไม่ได้คิดอะไรมาก บางทีมันอาจจะมีค่ามากสำหรับคนที่ได้รับเหมือนกันนะ
อยากบอกว่าบางทีสิ่งเล็กๆ ที่เราไม่ทันได้คิดอาจมีผลต่อจิตใจของผู้คนในระดับลึกซึ่งได้
ด้านดึ - ตามตัวอย่างข้างต้น
หรือกรณีของเด็กเร่ร่อนที่บ้านเด็กใกล้วัดที่เราเคยเล่าถึงในกระทู้ก่อน
ที่เขาไม่สบายพอเราแค่เอามือไปจับหน้าผาก ว่าตัวร้อนมากมั้ย ปวดหัวมั้ย
แล้วเค้าเอามือขึ้นมาปิดตาทำท่าเหมือนก่ายหน้าผากแต่สักครู่น้ำไหลพราก นั่นแหละค่ะ
หรือในทางกลับกัน - อย่างเรื่อง "ฟางเส้นสุดท้าย" ที่ได้เคยเขียนไปค่ะ
เมื่อวานนี้มีน้องผู้หญิงแม่ลูกอ่อนคนนึงมาจ่ายตลาด
เนื่องจากชอบสังเกตสิ่งรอบตัวจึงมองดูเค้าอยู่ครู่นึง
จึงเดาได้ว่ามาคนเดียว สภาพคืออุ้มลูกเล็กมากๆ ไม่น่าถึงขวบ
หิ้วถุงอาหารมีรถเข็นเด็กด้วย (ลูกคงไม่ยอมอยู่ในรถเข็น)
น้องเค้าก็ต้องอุ้มลูกด้วยลากรถด้วยและจะข้ามถนนค่ะ
เราเลยวิ่งไปช่วยเข็นรถเข็นเด็กข้ามถนนให้
เล็กๆ น้อยๆ แค่นี้...ที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็รู้สึกชื่นใจกันทั้งฝ่ายค่ะ
วันนึงข้างหน้า...น้องเค้าอาจมีโอกาสได้ช่วยเหลือผู้อื่น
และสอนให้ลูกน้อยของเค้าใส่ใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปเป็นทอดๆ ก็ได้นะคะ
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 275
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อคิด ดี ๆ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 276
ดูคุณโจเทปนี้ซ้ำๆ หลายรอบแล้ว "ดูเพลิน...ให้ความรู้สึกสบายๆ"
สนุก...และได้ข้อคิดที่ดีทั้งเรื่องการใช้ชีวิตและการลงทุน
คิดว่าถ้าใครไม่ได้ดูเทปนี้.....จะน่าเสียดายมากทีเดียวค่ะ
Ex-talk Jun 2013 ถอดรหัสการลงทุน สไตล์เซียนหุ้น VI
[youtube]NBfL-f36s2g[/youtube]
เอามาฝาก...เผื่อมีใครยังไม่ได้ดูค่ะ
สนุก...และได้ข้อคิดที่ดีทั้งเรื่องการใช้ชีวิตและการลงทุน
คิดว่าถ้าใครไม่ได้ดูเทปนี้.....จะน่าเสียดายมากทีเดียวค่ะ
Ex-talk Jun 2013 ถอดรหัสการลงทุน สไตล์เซียนหุ้น VI
[youtube]NBfL-f36s2g[/youtube]
เอามาฝาก...เผื่อมีใครยังไม่ได้ดูค่ะ
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 278
คุณนุช แบ่งปันคลิปดีมาหลายตอนแล้ว ผมขออนุญาตแบ่งปันบ้างครับ
http://www.youtube.com/watch?v=chjHPSLapv8
ส่วนตัวชอบมาก เพราะพลังเมตตา มาม่า ฮิล ซาบซึ้งถึงใจครับ
http://www.youtube.com/watch?v=chjHPSLapv8
ส่วนตัวชอบมาก เพราะพลังเมตตา มาม่า ฮิล ซาบซึ้งถึงใจครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 280
ขอบคุณ คุณ NB มากค่ะ...อ่านแล้วยิ้มจริงๆNevercry.boy เขียน:เอามาฝากจากห้อง M มาจาก Pantip อีกที
อ่านแล้วยิ้ม
http://pantip.com/topic/31222226
ชื่นชมเด็กๆ กลุ่มนั้น และพนักงานด้วย
จะยิ้มทั้งน้ำตาด้วยซ้ำ....นึกถึงลูกตัวเองค่ะ
ที่เราสอนเค้าให้ประหยัดมากๆ มาอย่างต่อเนื่อง
จนถึงวันนี้ เค้าเป็นเด็กที่ประหยัดได้มากจริงๆ
แต่ด้วยวัยเพียงเท่านี้ เหมือนเค้าต้อง "หักห้ามใจ"
ตัวเองอยู่บ่อยๆ ทีเดียว จนบางครั้งเรารู้สึกสงสารค่ะ
..............................
เวลาเข้าไปใน MK เค้าเคยอยากสั่งหอยเชลล์
ซืึ่งเราบอกว่ามันแพงมากเมื่อเทียบกับอย่างอื่น (เทียบต่อ 1 หน่วยเท่ากัน)
ครั้งแรก เค้าขอสั่งอยากชิมว่ามันเป็นยังไง
จะออกตังค์ส่วนต่างเองก็ได้ แลกกับการได้ชิมหอยเชลล์ซักครั้ง
ครั้งนั้นเราให้ค่ะ และไม่ได้ให้เค้าออกตังค์เองหรอก
และตั้งใจว่าถ้ามาคร้้งหน้าขอสั่งอีกเราจะใช้มาตรการสมทบ
คือจูงใจให้เค้าไม่สั่งโดยสมทบส่วนต่างราคาให้
เหมือนที่เราเคยใช้กับการจุ่มหรือไม่จุ่ม "ชอคดิป"
ตอนเลือกไอศครีม ตามที่เคยเล่าไปในกระทู้เดิม
แต่พอเข้า MK อีกครั้ง เค้าเปิดเมนูและมองไปที่หอยเชลล์
แล้วพูดว่า "อยากกินเหมือนกันนะ แต่มันแพง ไม่เอาดีกว่า"
และบอกว่า คุณแม่ก็ไม่ต้องสมทบค่าส่วนต่างให้ด้วย
เค้าไม่สั่ง เพราะเค้ายอมรับวิธีคิดนั้นเลยว่า
"มันแพง เมื่อเทียบกับ 1 หน่วยของอย่างอื่น"
แม้จะรู้สึกอยากทาน แต่หักห้ามใจได้
และเค้าก็เลือกสั่งแต่ของที่ราคาถูกๆ ทั้งนั้นเลย
บอกว่าเราก็ได้กิน MK เหมือนกัน ได้รับบริการเหมือนโต๊ะอื่นๆ
แต่ของเราไม่แพง...สั่งไปบวกราคาไปค่ะ
ว่ามันไม่ควรจะเกินเท่านี้นะ แต่ขอให้อิ่มค่ะ
(เด็กที่เลี้ยงมาแบบนี้คิดเลขเก่งมากๆ ค่ะ)
.................................
ล่าสุด ไปบ้านญาติ ไปเจอว่าลูกพี่ลูกน้องที่อายุมากกว่า
จะทิ้ง "การ์ดยูกิ" ซึ่งตัวเค้าเองก็เคยอยากได้แต่เราไม่เคยให้
เพราะเรามองว่าเวลามี version ใหม่ๆ มา เด็กที่เล่นการ์ดนี้จะอยากได้
เนื่องจากเบื้องหลังของ ของเล่นแนวนี้ มีการตลาดและการโฆษณา
อย่างเป็นระบบมากๆ ซ่อนอยู่ มีจัดแข่งขันเพื่อใช้ความภูมิใจ
ของเด็กๆ มาเป็นตัวจูงใจให้เด็กอยากซื้อเพื่อนำไปแข่ง
และมันต้องแลกมา....ด้วยการซื้อสินค้าเพิ่มไม่รู้จบเช่นกัน
พอรู้ว่าพี่จะทิ้ง เค้าบอกว่าเค้าขอนะ...พี่ก็ให้ค่ะ
กลับมาบ้านเราก็เห็นเค้าเอามานั่งเล่น นั่งชื่นชมอยู่พักใหญ่
ที่จริงก็งัดมานั่งชื่นชมตั้งแต่ในรถแล้วหละ
ถึงเค้าจะไม่เคยมีมัน แต่เค้ารู้จักชื่อมันหมดเลย
ทำให้เรารู้ว่า เค้าสนใจและชอบของเล่นชนิดนี้มากแค่ไหน
ยังไม่จบค่ะ.....เค้าเอามาแยกกอง
นับจำนวนและหากระดาษปากกามานั่งขีดจำนวน
แล้วเอาหนังยางมารัดแยกไว้เป็นกองๆ ดูมีความสุขมาก
และบอกว่า "จะเอาไปขาย ราคาเริ่มตั้งแต่ใบละ 3 5 7 ... 15 18
ไปจนถึงแพงสุดที่เป็นขอบทองรุ่นพิเศษนั้นจะขาย 30 บาท
วันแรกขายได้ 400 บาท วันต่อมาก็ขายได้เรื่อยๆ
ยังไม่หมดค่ะ เค้าบอกว่ามีบ้านเพื่อนรุ่นพี่ที่จะเลิกเล่นการ์ดนี้
เคยบอกจะให้แต่เค้าไม่กลัารับเพราะกลัวคุณแม่ว่า
เรื่องการรับของจากคอื่นเรื่อยเปื่อย
เราก็บอกว่าถ้าเค้าจะทิ้งจริง คุณแม่ก็อนุญาตนะ
ขี่จักรยานตัวปลิวไปบ้านเพื่อนด้วยจิตใจที่ลุ้นว่า
"ขอให้เพื่อนยังไม่ได้ทิ้ง หรือให้ใครไปซะก่อนนะ"
หอบหิ้วกลับมาถุงใหญ่
เอามานั่งคัดแยกและกำหนดราคาเหมือนเดิมค่ะ
.............................
ถามว่าอยากสะสมเงินเยอะๆ ไปทำอะไร
ตอบว่าจะเอาไปซื้อหุ้นเพิ่มเพราะเค้ายังมีหุ้นน้อยอยู่เลย
เค้ามีแนวคิดว่าถ้าเค้าอยากได้อะไร
เค้าต้องสร้างเอง และหามันมาเองค่ะ
เค้าบอกว่าหุ้นของคุณแม่ก็คือของคุณแม่
แต่ของตัวเค้าเองนั้นยังมีน้อยอยู่ ซึ่งเค้าจำเป็นต้องซื้อเพิ่ม
เพื่อต่อไปเค้าจะได้รับันผลมากขึ้นกว่าเดิม
(ตอนนี้ได้รับปันผลจำนวน ๆ "ขำๆ" ค่ะ)
...............................
ลูกยังเล่าอีกว่าตอนนี้ที่โรงเรียน
มีพวกน้ำชอคโกแลตเย็น (ที่เค้าชอบ) ขายแล้ว
เพื่อนๆ กินกันทุกคทุกวัน เราเลยเตือนว่าลูกก็มีเงินค่าขนมนะ
เค้าบอกว่าเค้าเคยคิดอยากเอาไปซื้อเหมือนกัน แต่เลือกที่จะไม่ซื้อ
เพราะคำนวณดูแล้วมันจะทำให้เค้าเก็บเงินได้ช้าลงมาก
เพราะถ้าเค้าซื้อ 1 แก้ว มูลค่ามันจะเท่ากับ 2 แก้ว
เพราะเสียโอกาสที่จะได้รับเงินสมทบค่าขนมจากคุณแม่
เท่ากับราคาชอคโกแลตเย็นอีก 1 แก้วด้วย
ดังนั้นกิน 1 แก้ว เท่ากับเงินหายไป 2 แก้ว
ในทางกลับกัน ไม่กิน 1 แก้ว เท่ากับเงินเหลือ 2 แก้วด้วย
...........................
บางทีเราก็กลับมาคิดทบทวนนะ
ว่าเราสอนให้เค้าประหยัดจนทรมานหรือเปล่านะ
แต่มาคิดดูอีกที ตัวเราเองเวลาที่เราไม่ซื้อของฟุ่มเฟือย
แล้วเราเอาเงินไปลงทุนให้มันงอกเงย
เราก็ไม่ได้รู้สึกทรมานนี่นา กลับมีความสุขด้วยซ้ำที่เห็นมันงอกเงย
ในทางกลับกัน ถ้าเราจ่ายเงิน
เพื่อซื้อความสุขเฉพาะหน้าไป เรากลับจะรู้สึกทุกข์มากกว่า
เลยคิดว่าลูกอาจจะเริ่มเหมือนกันแล้ว เพียงแต่เค้าก็ยังต้องใช้คำว่า
"หักห้ามใจ" มากกว่าเราหน่อยนึง ซึ่งอีกหน่อยคงจะชินไปเองค่ะ
และเค้าจะได้ "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน" เป็น ไปทั้งชีวิต
ซึ่งก็น่าจะดีต่ออนาคตมากค่ะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 281
ยังเปิดดูไม่ได้ค่ะ ต้องไปดูที่บ้านkoko8889 เขียน:คุณนุช แบ่งปันคลิปดีมาหลายตอนแล้ว ผมขออนุญาตแบ่งปันบ้างครับ
http://www.youtube.com/watch?v=chjHPSLapv8
ส่วนตัวชอบมาก เพราะพลังเมตตา มาม่า ฮิล ซาบซึ้งถึงใจครับ
แต่เชื่อแน่ว่าต้องดีแน่นอนถ้าเป็นสิ่งที่คุณ koko8889 นำมาแบ่งปัน
และที่ผ่านมาเพื่อนๆ ก็ช่วยกันนำสิ่งดีๆ มาแบ่งปันเสมอเลย
ขอบคุณ คุณ koko8889 และเพื่อนๆ ด้วยนะคะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 282
ชั่วโมงครึ่ง ผ่านไปเร็วมากๆniphon_vi เขียน:เข้าไปดูคุณโจแล้ว ได้เนื้อเยอะๆเลยครับ ต้องนำไปปรับใช้กับตัวเองบ้าง ขอบคุณมากครับ
ได้ทั้งเรื่องการลงทุนอย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพ
แต่สำคัญที่สุด คือวิธีการมองโลก มองชีวิตค่ะ
วิธีคิด เมื่อเจอกับอุปสรรคแต่ละอย่างค่ะ
สามารถใช้ได้กับทั้งตัวเอง และเอาไปใช้
เป็นแนวคิดหลักในการเลี้ยงดูและสอนลูกหลานค่ะ
IQ โชคชะตา - เรากำหนดเองไม่ได้
แต่ "ความมุ่งมั่น" - นั้นเราไม่แพ้ใคร
ซึ่งคุณโจเองได้เดินผ่านเส้นทางนั้นมาแล้ว
และได้กรุณาถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด (และถ่อมตัวมากๆ)
ผ่านเรื่องราวของ "เด็กบ้านนอก" คนนึง (คุณโจใช้คำนี้ค่ะ)
ที่มีวันที่ยิ่งใหญ่นี้ได้เพราะความมุ่งมั่นและศรัทธาอันแรงกล้า
น่าจะเป็นกำลังใจและสร้างพลังให้กับทุกคนที่ได้ดูมากเลยค่ะ
ส่วนตัวเองก็ภูมิใจเพิ่มกว่าคนอื่นอีกด้วย
ที่ได้จบ "มหาวิทยาลัยรามคำแหง" เหมือนคุณโจ
"รามคำแหง" เป็นมหาวิทยาลัยที่สร้างโอกาสให้ผู้คนมากมาย
และเหมาะสำหรับคนมุ่งมั่นมากๆ เลยค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 284
ขอบคุณคุณนุช สำหรับคลิปความรู้ เรื่องราวดีๆ และภาพสวยๆ ดูแล้วชื่นตา ชื่นใจค่ะ
ออนซิเดียมนี่เค้าใช่ตัวเดียวกับสาวน้อยเต้นระบำมั้ยคะ
สมัยพี่เป็นนร.มัธยม ต้องทำการฝีมือดอกกล้วยไม้คล้ายๆแบบนี้ แต่จำได้ว่าชื่อสาวน้อยเต้นระบำค่ะ ยังคิดว่าชื่อเค้าน่ารักดี (แต่ทำยากกกกกก รายละเอียดเยอะ อิอิ)
ออนซิเดียมนี่เค้าใช่ตัวเดียวกับสาวน้อยเต้นระบำมั้ยคะ
สมัยพี่เป็นนร.มัธยม ต้องทำการฝีมือดอกกล้วยไม้คล้ายๆแบบนี้ แต่จำได้ว่าชื่อสาวน้อยเต้นระบำค่ะ ยังคิดว่าชื่อเค้าน่ารักดี (แต่ทำยากกกกกก รายละเอียดเยอะ อิอิ)
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 285
ใช่ค่ะพี่หมออ้อ...บางทีเค้าก็เรียกหวานกับแวว เขียน:ขอบคุณคุณนุช สำหรับคลิปความรู้ เรื่องราวดีๆ และภาพสวยๆ ดูแล้วชื่นตา ชื่นใจค่ะ
ออนซิเดียมนี่เค้าใช่ตัวเดียวกับสาวน้อยเต้นระบำมั้ยคะ
สมัยพี่เป็นนร.มัธยม ต้องทำการฝีมือดอกกล้วยไม้คล้ายๆแบบนี้ แต่จำได้ว่าชื่อสาวน้อยเต้นระบำค่ะ ยังคิดว่าชื่อเค้าน่ารักดี (แต่ทำยากกกกกก รายละเอียดเยอะ อิอิ)
"ออนซิเดียม..อสาวน้อยเต้นระบำ"
"ออนซิเดียม...ตุ๊กตาเต้นระบำ"
ประมาณนี้มั้ง อิ อิ แอบลืมชื่อค่ะ
มีอีกชนิดที่สายพันธุ์เดียวกัน
แต่กลีบดอกล่างใหญ่กว่ามาก เรียกว่า "ออนซิเดียม...ใบพาย" ค่ะ
และที่คล้ายกันแต่ดอกสีชอคโกแลต+ ขาว
ก็คือ "ออนซิเดียม...ชาลีเบบี้" มีกลิ่นหอมมากด้วยค่ะ
เมื่อก่อนไม่กล้าปลูก เพราะมีแต่คนบอกว่า "กล้วยไม้...เลี้ยงยาก"
แม้กระทั่งร้านขายต้นไม้ค่ะ ยังชอบบอกให้ซื้อปุ๋ยเกร็ดมาผสมน้ำฉีดพ่นค่ะ
แต่นุชนึกถึงพวกกล้วยไม้ตามป่า ไม่มีใครใส่ปุ๋ยให้เลย ก็ยังออกดอกนะ
เราก็เลยต้องทดลองค่ะ ....อย่าเชื่อง่าย แม้แต่ "ร้านต้นไม้" ค่ะ
บางทีเค้าแค่รับมาขาย แต่ถ้าร้านที่มีสวนเอง หรือดูแลเองก็ค่อยเชื่อค่ะ
ปัจจัยสำคัญคือ "ความชื้น ร่มเงา และลมพัดผ่านค่ะ"
ความชื้นนี่ช่วยโดยใส่น้ำไว้ตามกระถางดินเผา วางไว้หลายๆ จุด
และกาบมะพร้าว ยิ่งถ้ามีเฟิร์นและมอสมาขึ้นด้วยจะเก็บความชื้นไว้ได้ดีขึ้นค่ะ
ต้องช่างสังเกตด้วยค่ะ กล้วยไม้ชอบแต่ความชื้น แต่ต้องไม่แฉะ
และบางฤดูก็ต้องเปลี่ยนที่แขวนให้เพราะบางชนิดชอบแดดค่ะ
ที่ปลูกง่ายสุด และออกดอกกันทั้งปีก็กลุ่มแคท ออนซิเดียม หวายค่ะ
ยังมีอีกกลุ่มออกดอกปีละครั้งเดียวเช่น ช้างกระ ช้างแดง เข็มแสด ก็มีอยู่ค่ะ
ส่วนใหญ่เลือกที่ราคาถูก อย่างช้างนี่เอามาตั้งแต่จิ๋วๆ เลย มาดูแลเอง
เพราะถ้าซื้อตอนที่ออกดอกช่อใหญ่ๆ มาเลยมันจะแพงมาก นุชงกค่ะ
ต้นเล็กๆ ถ้าเราใส่ใจ และอดทนรอ เดี๋ยวก็โตสวยได้เหมือนกันค่ะ
ต้อง "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน" คำนี้ใช้ได้กับหลายเรื่องในชีวิตเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 286
ในวิดีโอ อ.NB รู้จักแต่ประยงค์อย่างเดียว
กล้วยไม้เคยได้ยินชื่อแต่"อุดรซันไชน์"ที่เอาไปทำน้ำหอมน่ะครับ
ไม่รู้ว่าดอกกล้วยไม้พันธ์ไหนหอมบ้าง
หอมเป็นเวลาต่างๆ หรือเวลาเดียวกันมั้ย
อีกอย่าง..ไม่ควรเอาดอกกล้วยไม้ไปเยี่ยมไข้นะครับ
เพราะชื่อเวลาผวนแล้ว ฟังไม่เหมาะกับคนไข้(อันนี้เหมือนกัน ให้เรียกผู้ป่วย หรือคนไข้ ห้ามเรียกว่าคนป่วย ฮิฮิ)
กล้วยไม้เคยได้ยินชื่อแต่"อุดรซันไชน์"ที่เอาไปทำน้ำหอมน่ะครับ
ไม่รู้ว่าดอกกล้วยไม้พันธ์ไหนหอมบ้าง
หอมเป็นเวลาต่างๆ หรือเวลาเดียวกันมั้ย
อีกอย่าง..ไม่ควรเอาดอกกล้วยไม้ไปเยี่ยมไข้นะครับ
เพราะชื่อเวลาผวนแล้ว ฟังไม่เหมาะกับคนไข้(อันนี้เหมือนกัน ให้เรียกผู้ป่วย หรือคนไข้ ห้ามเรียกว่าคนป่วย ฮิฮิ)
samatah
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 287
อาจารย์เฉลิมชัยและการให้กำลังใจสไตล์แก
[youtube]s-g89WcO6DQ[/youtube]
[youtube]s-g89WcO6DQ[/youtube]
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 288
ถ้านับสไตล์ให้กำลังใจแบบดุดัน มันๆส์แบบนี่ น่าจะเป็นอ.วรภัทธ์(ชื่อถูกปล่าวหว่า) หลวงพ่อพยอม
หลวงปู่พุทธอิสสระ ..เหมาะกับจริตช่วงที่ยังเฉื่อยๆเนีอยๆ คิดอะไรไม่ออกแบบนี้
สิบกว่าปีที่แล้ว ผมเคยถามอ.เฉลิมชัยว่า ทำไมอ.ไม่ทำให้ศิลปะเป็นของที่ทุกคนเสพได้ง่าย
คือประมาณว่า วาดรูปให้เศรษฐี(ตอนนั้นมักรวยจากหุ้น ที่ดิน)รูปละหลายล้าน ดูอยู่คนเดียว
กะเอามาพิมพ์โปสเตอร์ขายถูกๆ ให้ชาวบ้านทั่วไปได้มี"ผลงานมางศิลปะ"ไว้ดูบ้าง
อ.ตอบประมาณว่า ถ้ามันมีปริมาณมากเกิน คุณค่าจะลดลง
ต่อมาพอสร้างวัดร่องขุ่น เห็นอ.พิมพ์โปสเตอร์จำหน่าย กะไปซื้อภาพที่เคยขายไป
กลับมาติดในแกลเลอรี่ ให้คนไปเที่ยววัดดู ก็ถูกใจชาว"บ้านๆ"แบบผมมากครับ(ได้ไปดูราว2-3ครัั้ง)
ถ้าตอนนี้ได้มีโอกาสถาม ก็จะถามว่า ทำไมอ.ไม่ทำลายกนกต่างๆ จากสเตนเลส อลูมิเนียมด้าน ๆลๆ
แทนปูนขาวติดกระจก ซึ่งท่าทางจะไม่ค่อยทน และเสื่อมสภาพง่ายกว่า
อีกท่านนึงที่อยากฟังท่านพูดคือ อ.ถวัลย์ ดัชนี แต่ยังไม่มีโอกาสไปชม"บ้านดำ"ที่เชียงรายครับ
หลวงปู่พุทธอิสสระ ..เหมาะกับจริตช่วงที่ยังเฉื่อยๆเนีอยๆ คิดอะไรไม่ออกแบบนี้
สิบกว่าปีที่แล้ว ผมเคยถามอ.เฉลิมชัยว่า ทำไมอ.ไม่ทำให้ศิลปะเป็นของที่ทุกคนเสพได้ง่าย
คือประมาณว่า วาดรูปให้เศรษฐี(ตอนนั้นมักรวยจากหุ้น ที่ดิน)รูปละหลายล้าน ดูอยู่คนเดียว
กะเอามาพิมพ์โปสเตอร์ขายถูกๆ ให้ชาวบ้านทั่วไปได้มี"ผลงานมางศิลปะ"ไว้ดูบ้าง
อ.ตอบประมาณว่า ถ้ามันมีปริมาณมากเกิน คุณค่าจะลดลง
ต่อมาพอสร้างวัดร่องขุ่น เห็นอ.พิมพ์โปสเตอร์จำหน่าย กะไปซื้อภาพที่เคยขายไป
กลับมาติดในแกลเลอรี่ ให้คนไปเที่ยววัดดู ก็ถูกใจชาว"บ้านๆ"แบบผมมากครับ(ได้ไปดูราว2-3ครัั้ง)
ถ้าตอนนี้ได้มีโอกาสถาม ก็จะถามว่า ทำไมอ.ไม่ทำลายกนกต่างๆ จากสเตนเลส อลูมิเนียมด้าน ๆลๆ
แทนปูนขาวติดกระจก ซึ่งท่าทางจะไม่ค่อยทน และเสื่อมสภาพง่ายกว่า
อีกท่านนึงที่อยากฟังท่านพูดคือ อ.ถวัลย์ ดัชนี แต่ยังไม่มีโอกาสไปชม"บ้านดำ"ที่เชียงรายครับ
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 290
แฮ่...ไปเที่ยวของฝากไม่ต้องก็ได้น๊ะครับพี่นุช ...theenuch เขียน:ขอบคุณ คุณ NB และคุณหมอ dr 1 ค่ะ
ปีใหม่ว่าจะไปเที่ยวเหนือ
"วัดร่องขุน" เป็นหนึ่งในสถานที่ที่วางแผนว่าจะไปชื่นชมค่ะ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 291
เดี๋ยวจะเที่ยวเผื่อจ้าsaichon เขียน:แฮ่...ไปเที่ยวของฝากไม่ต้องก็ได้น๊ะครับพี่นุช ...theenuch เขียน:ขอบคุณ คุณ NB และคุณหมอ dr 1 ค่ะ
ปีใหม่ว่าจะไปเที่ยวเหนือ
"วัดร่องขุน" เป็นหนึ่งในสถานที่ที่วางแผนว่าจะไปชื่นชมค่ะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 82
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 292
ขอมอบเพลงเพราะๆ ฝากพี่นุชนะครับ
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=1xZa-B19qQ8[/youtube]
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=1xZa-B19qQ8[/youtube]
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 82
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 293
[youtube]watch?v=1xZa-B19qQ8[/youtube]
- นายมานะ
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1116
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 295
ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านที่แบ่งปันแนวคิด และวิธีใช้ชีวิตมากมายครับ มีโอกาสได้ลองให้เวลากับตัวเองมากขึ้น และเกิดอยากเขียน note อะไรสักอย่างบอกกับตัวเองในอนาคต พอเขียนจบก็รู้สึกได้ว่าน่าจะพอเข้ากับกระทู้นี้อยู่บ้าง ขออนุญาตนำมาแชร์นะครับ อาจเป็นแค่ความคิดของเด็กๆ ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับเพื่อนๆ หรือพี่ๆ มากนะครับ
มาถึงห้วงความคิดในจุดหนึ่งของชีวิต ผมคิดว่าท้ายที่สุดแล้ว คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการกินอิ่ม นอนหลับ และได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับครอบครัว เพื่อน และคนที่เรารัก
ผมพยายามนำความคิดนี้ไปปรับใช้ในหลายๆ ครั้ง และหลายเรื่องของการใช้ชีวิต ในชีวิตตอนนี้ผมคงแบ่งได้เป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกคือการทำงานในฐานะ "ลูกน้องพ่อ" ส่วนที่สองคือการลงทุน และส่วนสุดท้ายคือชีวิตที่เป็นตัวของตัวเองจริงๆ
ในส่วนของการทำงาน ผมได้เสนอในที่ประชุม (แบบบ้านๆ ของบริษัทเรา) ให้ผลักดัน นโยบาย "Happy work place" คือเราอยากทำให้ที่ทำงานเป็นสถานที่ที่อบอุ่น เป็นเหมือนครอบครัว และทุกคนทำงานด้วยความสุข ปราศจากความขัดแย้ง และต้องเป็นนโยบายที่ถูกสนับสนุนด้วยแนวทางการปฏิบัติที่ทำได้จริง ไม่ใช่ได้แต่ปาก หรือชื่อสวยหรู ผมไม่เคยเสนออะไรที่เป็นนามธรรมขนาดนี้มาก่อน ก็หวังเพียงแต่ว่าผมจะทำให้มันเป็นรูปธรรมจริงๆ ขึ้นมาได้
ในเรื่องของการลงทุน ผมไม่เคยตั้งเป้าหมาย ไม่เคยคิดว่าจะต้องมีเงินเท่าไหร่ ตอนอายุเท่าไหร่ สิ่งที่ผมทำคือลงทุน ศึกษาหาความรู้ จดบันทึกผลลัพธ์ และวิเคราะห์ข้อผิดพลาดที่ผ่านมา ผมไม่โฟกัสที่เป้าหมาย เพราะผมรู้สึกว่ามันน่าจะทำให้ผมสนุกกับการลงทุนได้มากกว่า และหวังว่ามันจะทำให้ผมโลภ และยึดติดกับวัตถุน้อยลง มาให้ความสำคัญกับสิ่งที่ให้คุณค่าทางจิตใจมากขึ้น
ในส่วนที่เหลือของชีวิต ผมพยายามจะลดเวลาที่มีให้กับตัวเอง และหันมาใช้เวลาร่วมกับคนรอบๆ ข้าง ในด้านการจัดสรรเวลาผมยังโฟกัสใสเรื่องของงานและการลงทุนมากกว่าส่วนที่เหลือ แต่ผมพยายามจะรักษาระดับของเวลาในส่วนนี้ให้มันไม่น้อยลง และใช้มันให้คุ้มค่ามากขึ้น ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อผมโตขึ้นกว่านี้เวลาส่วนนี้จะเป็นส่วนที่มากที่สุด และผมจะเหลือเวลามากพอที่จะให้กับตัวเอง และให้กับสังคมส่วนอื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี บ่อยครั้งที่ผมผิดพลาด เผลอเรอ และปล่อยให้อารมณ์ทำลายเจตนาข้อนี้ของผมไป ผมพยายามจัดระเบียบอารมณ์ของผมให้มากขึ้น ทุกครั้งที่จะโกรธ จะโมโห ผมจะคอยเตือนตัวเอง นึกถึงคำสอนของพระพยอม โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า เตือนตัวเอง อย่าโกรธ อย่าโมโห อย่าโง่ๆ บ้าๆ
ผมเคยมี motto ประจำใจมากมาย ผมเคยมีความฝัน และศรัทธาอย่างแรงกล้าว่าจะไปให้ถึงจุดหมาย แต่สุดท้ายสูงสุดย่อมคืนสู่สามัญ คงไม่มีอะไรในชีวิตจะสำคัญไปมากกว่าการ กินอิ่ม นอนหลับ และได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับทุกคนที่เรารัก
ขอบคุณทุกๆ คนที่ได้สอนให้รู้จักความรัก และการให้อภัย
สวัสดีครับ
21/11/13
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 296
ยินดีค่ะน้องตู้ ความตั้งใจของน้องตู้ที่ได้ถ่ายทอดออกมาให้พวกเราได้อ่านกันนี้นายมานะ เขียน:ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านที่แบ่งปันแนวคิด และวิธีใช้ชีวิตมากมายครับ มีโอกาสได้ลองให้เวลากับตัวเองมากขึ้น และเกิดอยากเขียน note อะไรสักอย่างบอกกับตัวเองในอนาคต พอเขียนจบก็รู้สึกได้ว่าน่าจะพอเข้ากับกระทู้นี้อยู่บ้าง ขออนุญาตนำมาแชร์นะครับ อาจเป็นแค่ความคิดของเด็กๆ ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับเพื่อนๆ หรือพี่ๆ มากนะครับ
พี่ว่าเข้ากับกระทู้นี้มากเลย และอยากชวนมาเล่าเสมอๆ
แต่พี่ไม่เห็นด้วยกับตัวหนังสือสีแดงๆ นั้นนะ
พี่กลับรู้สึกชื่นชมว่าด้วยวัยเพียงเท่านี่ เราคิดอะไรที่ดีๆ ได้มากขนาดนี้
นอกจากสมดุลที่เกิดกับตัวเองแล้ว จากจุดที่น้องตู้อยู่นี้
ยังเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการสร้างสมดุลของชีวิตให้แก่พนักงานในบริษัทด้วย
ถ้าเขามีความสุขในที่ทำงาน เขาก็จะกลับไปหาครอบครัวด้วยใจที่เป็นสุข
และในที่สุดสิ่งดีๆ จะถูกส่งต่อสู่สังคมเป็นวงกว้าง...พี่เชื่ออย่างนั้น
ขอบคุณที่แบ่งปัน แวะมาบ่อยๆ นะคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 297
ขอบคุณพี่ๆ สำหรับข้อคิด สาระ และก็คลิปดีๆนะครับ อ่านเพลินมากครับ
ไว้โอกาสหน้าจะลองเขียนเล่าประสบการณ์ดูบ้างนะครับ
ไว้โอกาสหน้าจะลองเขียนเล่าประสบการณ์ดูบ้างนะครับ
"ผมไม่ได้ลงทุนในหุ้นเพียงเพราะว่าผมต้องการเงินมากมาย
แต่มันเป็นความสนุกในการค้นหาบริษัทชั้นเยี่ยม
เฝ้าดูมันเติบโต และทำเงินให้เรา"
"เบื้องหลังของด้านหลัง ก็คือ ด้านหน้า"
แต่มันเป็นความสนุกในการค้นหาบริษัทชั้นเยี่ยม
เฝ้าดูมันเติบโต และทำเงินให้เรา"
"เบื้องหลังของด้านหลัง ก็คือ ด้านหน้า"
- นายมานะ
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1116
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 298
ขอบคุณพี่นุชสำหรับคำชมนะครับ ผมเริ่มจะลอยแล้ว ฮ่าาtheenuch เขียน:ยินดีค่ะน้องตู้ ความตั้งใจของน้องตู้ที่ได้ถ่ายทอดออกมาให้พวกเราได้อ่านกันนี้นายมานะ เขียน:ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านที่แบ่งปันแนวคิด และวิธีใช้ชีวิตมากมายครับ มีโอกาสได้ลองให้เวลากับตัวเองมากขึ้น และเกิดอยากเขียน note อะไรสักอย่างบอกกับตัวเองในอนาคต พอเขียนจบก็รู้สึกได้ว่าน่าจะพอเข้ากับกระทู้นี้อยู่บ้าง ขออนุญาตนำมาแชร์นะครับ อาจเป็นแค่ความคิดของเด็กๆ ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับเพื่อนๆ หรือพี่ๆ มากนะครับ
พี่ว่าเข้ากับกระทู้นี้มากเลย และอยากชวนมาเล่าเสมอๆ
แต่พี่ไม่เห็นด้วยกับตัวหนังสือสีแดงๆ นั้นนะ
พี่กลับรู้สึกชื่นชมว่าด้วยวัยเพียงเท่านี่ เราคิดอะไรที่ดีๆ ได้มากขนาดนี้
นอกจากสมดุลที่เกิดกับตัวเองแล้ว จากจุดที่น้องตู้อยู่นี้
ยังเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการสร้างสมดุลของชีวิตให้แก่พนักงานในบริษัทด้วย
ถ้าเขามีความสุขในที่ทำงาน เขาก็จะกลับไปหาครอบครัวด้วยใจที่เป็นสุข
และในที่สุดสิ่งดีๆ จะถูกส่งต่อสู่สังคมเป็นวงกว้าง...พี่เชื่ออย่างนั้น
ขอบคุณที่แบ่งปัน แวะมาบ่อยๆ นะคะ
และขอบคุณพี่นุชอีกครั้ง ที่ได้ตั้งกระทู้ดีๆ แบบนี้ครับ ^^
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 299
ยินดีค่ะ พี่ก็ติดตาม "(บ้นทึกกันลืม)" อยู่ด้วยนะ ....ชื่นชมค่ะReRedrum เขียน:ขอบคุณพี่ๆ สำหรับข้อคิด สาระ และก็คลิปดีๆนะครับ อ่านเพลินมากครับ
ไว้โอกาสหน้าจะลองเขียนเล่าประสบการณ์ดูบ้างนะครับ
เพื่อนๆ พี่ ๆ น้องๆ ใน thaivi น่ารักทั้งนั้นเลย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 300
หาอะไรเกาะๆ ไว้ก่อนนะ 555นายมานะ เขียน:
ขอบคุณพี่นุชสำหรับคำชมนะครับ ผมเริ่มจะลอยแล้ว ฮ่าา
และขอบคุณพี่นุชอีกครั้ง ที่ได้ตั้งกระทู้ดีๆ แบบนี้ครับ ^^
เดี๋ยวไม่มีใครทำโครงการ happy work place ให้พนักงานนะ
ถ้าไม่มีเพื่อนๆ ที่มาช่วยกันเติมคนละเล็กละน้อย...กระทู้นี้ก็คงไม่ดีได้ถึงขนาดนี้ค่ะ
ความหลากหลายสร้างให้เกิดความสมบูรณ์แบบจริงๆ ขอบคุณน้องตู้และทุกๆ คนนะคะ