Money talk@SET27Oct13"Megatrend"ICT/หุ้นเด่น/กลยุทธ์ลงทุน
- i-salmon
- Verified User
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Money talk@SET27Oct13"Megatrend"ICT/หุ้นเด่น/กลยุทธ์ลงทุน
โพสต์ที่ 1
Money talk@SET27Oct13
แบ่งเป็น 3 ช่วง
ช่วงที่ 1 ปาฐกถาพิเศษ “MegaTrend กับโทรคมนาคมไทย”
ช่วงที่ 2 "หุ้นเด่น MegaTrend"
ช่วงที่ 3 “กลยุทธ์ลงทุนหุ้น MegaTrend”
_______________________________________________________
ครั้งต่อไป
Money talk พ.ย.56 /อาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 56
• ช่วงที่ 1 ชีวิต ธุรกิจ สังคม
คุณบวร วงศ์สินอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC
คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานกลุ่ม DMG
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.ถาวร โชติชื่น ดำเนินรายการ
• ช่วงที่ 2 สอนลูกให้รวยหุ้นอย่างมีคุณค่า
คุณทิวา ชินธาดาพงศ์ นักลงทุนเน้นคุณค่า
คุณวราพรรณ วงศ์สารคาม วีไอแบบบ้านๆ (Theenut แห่ง Thaivi)
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
Money talk ธ.ค.56/ เสาร์ที่ 14 ธันวาคม 56
• ช่วงที่ 1 วางแผนการเงิน
• ช่วงที่ 2 VI กับ หุ้นไทย 2557 คุณโจ ลูกอิสาน, คุณพีรนาถ โชควัฒนา, ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณอ.ไพบูลย์และทีมงาน Money talk ทุกท่าน ที่ลงทุนลงแรงจัดงานสัมมนาขึ้นมาครับ
และขอบคุณพี่แป๋มที่ให้ความช่วยเหลืออย่างดีทุกครั้งครับ
__________________________________________________________
Money talk@SET27Oct13
ช่วงที่ 1 ปาฐกถาพิเศษ “MegaTrend กับโทรคมนาคมไทย”
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการ กสทช.และประธาน กทค.
• ธุรกิจโทรคมนาคม จากพศ.2424 -> ปัจจุบัน -> อนาคต?
o sms เคยเป็นรายได้หลักของ operator ทำให้ล้มล้าง packlink, phonelink ปัจจุบันคนส่งผ่าน line
o Motorolla -> nokia-> BB->apple-> ต่อไปเป็นอะไรไม่รู้?
o มีวิจัย คนซื้อหนังสือพิมพ์อายุ 40 ปีขึ้นไปมากกว่า 90% ต่อไปคนเหล่านี้ล้มตายไปธุรกิจจะต้องปรับตัว
o Reader digest ที่จริงเจ๊งไปแล้ว แต่มีคนมาอุ้มเอาไว้ มีคนโหยหาสิ่งเก่า แผ่นเสียงก็มีเหมือนกัน
• ประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHz
o มีหลายท่านแย้งว่าการประมูลคลื่นความถี่ไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดในการจัดสรรคลื่นความถี่
o บังกลาเทศ ในเดือน Sep56 เพิ่งประมูล 40 MHz 25 MHz เหลืออีก 15 MHz ไม่มีคนประมูลเนื่องจากใช้เงินมหาศาล
o จาไมก้า ในเดือน Oct56 ประมูลคลื่น 700MHz ถูกล้มเลิก เพราะไม่มีผู้เสนอราคา
o ฝรั่งเศส ประมูลได้ทั้งหมด แต่ไม่มีใคร bid ราคา เพิ่ม
o โรมาเนีย 2x5 MHz ไม่ใช่ 10 MHz ไป 5 รับ 5 MHz ขาไป-กลับ ความกว้างถนนเท่ากัน
o สาธารณรัฐเชค ราคาประมูลสูงจนเลิกประมูล
o เพิ่งไปอิตาลีมาโทรศัพท์สัญญาณแย่กว่าเมืองไทยมากเลย ปี 2002 อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส แพงมากจน
ไม่มีเงินลงทุน สัญญาณติดๆดับๆ ไม่ได้ลงทุนในตึก เข้าไปก็ดับเลย
o ในประเทศไทยปีนี้ใช้เม็ดเงินไปกว่า 50,000 ล้านบาท ปีหน้าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท
มีการวางเครือข่ายfiber optic สร้างไมโครเวฟ ต้องลงทุนมหาศาลและใช้เวลา
• ARPU กับ US$/MHzประเทศไทย เทียบกับราคาประมูล ถือว่าค่อนข้างมากเทียบกับประเทศอื่นไม่ถูก เราแพงอยู่อันดับ 3 ของโลก
• การขยายตัวข้อมูลเพิ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ 3G เดิมจะรองรับไม่เพียงพอ
• ระบบสัญญาสัมปทานจะหายไป การ regulate จะมีค่าธรรมเนียม 5.75% ไม่ใช่ 27% เหมือนเดิม ซึ่งส่งเสริมให้ operator ไปลงทุนโครงข่ายให้เร็วขึ้นและให้บริการที่ดี
• เลขหมายในไทยเกือบ 100 ล้านเลขหมาย บางคนก็มีมากกว่า 1 หมายเลขจากโทรศัพท์หรือ tablet
• เทคโนโลยีการสื่อสารออนไลน์มาเป็นอันดับ 1 สมัยนี้มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ทาง line ด้วย
• ในตะวันออกกลาง ซีเรีย ใช้ social network ล้มล้างรัฐบาล มีนัดหมายเดินประท้วง , เกาหลีใช้สื่อออนไลน์เผยแพร่วัฒนธรรม เกาหลีก็เคยเหมือนประเทศเรา เคยแพ้สงครามกับจีน ญี่ปุ่น ตอนนี้ก็พยายามเป็นอันดับ 1 รถยนต์ ศัลยกรรม
• เทคโนโลยี 4G ยังเป็น voice communication ไม่สมบูรณ์แบบ ex. พูดโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตแล้วหน่วง
• ในประเทศออสเตรเลีย มีโทรศัพท์ที่จับ 2 คลื่นในเวลาเดียวกัน 900 กับ 1800 MHz เห็นว่างก็จับเลย กลายเป็น LTE-Advanced หรือ 4.5G ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นกำลังทำอยู่ ไม่มีใครใช้โทรศัพท์บ้านกันแล้ว
o ประเทศเรามีแนวโน้ม 900 MHz อาจมีการประมูลล่วงหน้า เสนอในการแก้ไข พรบ.ให้มีวิวัฒนาการทันกับการเปลี่ยนแปลง
o ตอนนี้โทรศัพท์เป็น Multi-band สามารถจับ 2 คลื่นได้ ประตูจะใหญ่ขึ้น คนมีแนวโน้มดู TV ในมือถือ การจัดสรรคลื่น
ความถี่ บน broadcast จะลดลง
o อย่างในโลกตอนนี้เอา 700 MHz มาทำ telecom broadband
o 4G บน 900 MHz ก็เป็นไปได้แล้วในวันนี้
• 4G LTE มีหลายประเทศ
• การเอาไปใช้งาน
• มีงานวิจัยว่าไม่มี bandwidth ในเพียงพอกับความต้องการมนุษย์ เหมือน Harddisk ที่เก็บไม่พอ
• ความสำเร็จในการประมูลคลื่นความถี่ 3G 2.1 GHz ของไทยก็ถูกตีพิมพ์ paper หลายฉบับ
แบ่งเป็น 3 ช่วง
ช่วงที่ 1 ปาฐกถาพิเศษ “MegaTrend กับโทรคมนาคมไทย”
ช่วงที่ 2 "หุ้นเด่น MegaTrend"
ช่วงที่ 3 “กลยุทธ์ลงทุนหุ้น MegaTrend”
_______________________________________________________
ครั้งต่อไป
Money talk พ.ย.56 /อาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 56
• ช่วงที่ 1 ชีวิต ธุรกิจ สังคม
คุณบวร วงศ์สินอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC
คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานกลุ่ม DMG
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.ถาวร โชติชื่น ดำเนินรายการ
• ช่วงที่ 2 สอนลูกให้รวยหุ้นอย่างมีคุณค่า
คุณทิวา ชินธาดาพงศ์ นักลงทุนเน้นคุณค่า
คุณวราพรรณ วงศ์สารคาม วีไอแบบบ้านๆ (Theenut แห่ง Thaivi)
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
Money talk ธ.ค.56/ เสาร์ที่ 14 ธันวาคม 56
• ช่วงที่ 1 วางแผนการเงิน
• ช่วงที่ 2 VI กับ หุ้นไทย 2557 คุณโจ ลูกอิสาน, คุณพีรนาถ โชควัฒนา, ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณอ.ไพบูลย์และทีมงาน Money talk ทุกท่าน ที่ลงทุนลงแรงจัดงานสัมมนาขึ้นมาครับ
และขอบคุณพี่แป๋มที่ให้ความช่วยเหลืออย่างดีทุกครั้งครับ
__________________________________________________________
Money talk@SET27Oct13
ช่วงที่ 1 ปาฐกถาพิเศษ “MegaTrend กับโทรคมนาคมไทย”
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการ กสทช.และประธาน กทค.
• ธุรกิจโทรคมนาคม จากพศ.2424 -> ปัจจุบัน -> อนาคต?
o sms เคยเป็นรายได้หลักของ operator ทำให้ล้มล้าง packlink, phonelink ปัจจุบันคนส่งผ่าน line
o Motorolla -> nokia-> BB->apple-> ต่อไปเป็นอะไรไม่รู้?
o มีวิจัย คนซื้อหนังสือพิมพ์อายุ 40 ปีขึ้นไปมากกว่า 90% ต่อไปคนเหล่านี้ล้มตายไปธุรกิจจะต้องปรับตัว
o Reader digest ที่จริงเจ๊งไปแล้ว แต่มีคนมาอุ้มเอาไว้ มีคนโหยหาสิ่งเก่า แผ่นเสียงก็มีเหมือนกัน
• ประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHz
o มีหลายท่านแย้งว่าการประมูลคลื่นความถี่ไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดในการจัดสรรคลื่นความถี่
o บังกลาเทศ ในเดือน Sep56 เพิ่งประมูล 40 MHz 25 MHz เหลืออีก 15 MHz ไม่มีคนประมูลเนื่องจากใช้เงินมหาศาล
o จาไมก้า ในเดือน Oct56 ประมูลคลื่น 700MHz ถูกล้มเลิก เพราะไม่มีผู้เสนอราคา
o ฝรั่งเศส ประมูลได้ทั้งหมด แต่ไม่มีใคร bid ราคา เพิ่ม
o โรมาเนีย 2x5 MHz ไม่ใช่ 10 MHz ไป 5 รับ 5 MHz ขาไป-กลับ ความกว้างถนนเท่ากัน
o สาธารณรัฐเชค ราคาประมูลสูงจนเลิกประมูล
o เพิ่งไปอิตาลีมาโทรศัพท์สัญญาณแย่กว่าเมืองไทยมากเลย ปี 2002 อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส แพงมากจน
ไม่มีเงินลงทุน สัญญาณติดๆดับๆ ไม่ได้ลงทุนในตึก เข้าไปก็ดับเลย
o ในประเทศไทยปีนี้ใช้เม็ดเงินไปกว่า 50,000 ล้านบาท ปีหน้าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท
มีการวางเครือข่ายfiber optic สร้างไมโครเวฟ ต้องลงทุนมหาศาลและใช้เวลา
• ARPU กับ US$/MHzประเทศไทย เทียบกับราคาประมูล ถือว่าค่อนข้างมากเทียบกับประเทศอื่นไม่ถูก เราแพงอยู่อันดับ 3 ของโลก
• การขยายตัวข้อมูลเพิ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ 3G เดิมจะรองรับไม่เพียงพอ
• ระบบสัญญาสัมปทานจะหายไป การ regulate จะมีค่าธรรมเนียม 5.75% ไม่ใช่ 27% เหมือนเดิม ซึ่งส่งเสริมให้ operator ไปลงทุนโครงข่ายให้เร็วขึ้นและให้บริการที่ดี
• เลขหมายในไทยเกือบ 100 ล้านเลขหมาย บางคนก็มีมากกว่า 1 หมายเลขจากโทรศัพท์หรือ tablet
• เทคโนโลยีการสื่อสารออนไลน์มาเป็นอันดับ 1 สมัยนี้มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ทาง line ด้วย
• ในตะวันออกกลาง ซีเรีย ใช้ social network ล้มล้างรัฐบาล มีนัดหมายเดินประท้วง , เกาหลีใช้สื่อออนไลน์เผยแพร่วัฒนธรรม เกาหลีก็เคยเหมือนประเทศเรา เคยแพ้สงครามกับจีน ญี่ปุ่น ตอนนี้ก็พยายามเป็นอันดับ 1 รถยนต์ ศัลยกรรม
• เทคโนโลยี 4G ยังเป็น voice communication ไม่สมบูรณ์แบบ ex. พูดโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตแล้วหน่วง
• ในประเทศออสเตรเลีย มีโทรศัพท์ที่จับ 2 คลื่นในเวลาเดียวกัน 900 กับ 1800 MHz เห็นว่างก็จับเลย กลายเป็น LTE-Advanced หรือ 4.5G ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นกำลังทำอยู่ ไม่มีใครใช้โทรศัพท์บ้านกันแล้ว
o ประเทศเรามีแนวโน้ม 900 MHz อาจมีการประมูลล่วงหน้า เสนอในการแก้ไข พรบ.ให้มีวิวัฒนาการทันกับการเปลี่ยนแปลง
o ตอนนี้โทรศัพท์เป็น Multi-band สามารถจับ 2 คลื่นได้ ประตูจะใหญ่ขึ้น คนมีแนวโน้มดู TV ในมือถือ การจัดสรรคลื่น
ความถี่ บน broadcast จะลดลง
o อย่างในโลกตอนนี้เอา 700 MHz มาทำ telecom broadband
o 4G บน 900 MHz ก็เป็นไปได้แล้วในวันนี้
• 4G LTE มีหลายประเทศ
• การเอาไปใช้งาน
• มีงานวิจัยว่าไม่มี bandwidth ในเพียงพอกับความต้องการมนุษย์ เหมือน Harddisk ที่เก็บไม่พอ
• ความสำเร็จในการประมูลคลื่นความถี่ 3G 2.1 GHz ของไทยก็ถูกตีพิมพ์ paper หลายฉบับ
Go against and stay alive.
- i-salmon
- Verified User
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Money talk@SET27Oct13"Megatrend"ICT/หุ้นเด่น/กลยุทธ์ลงทุ
โพสต์ที่ 3
ช่วงที่ 2 "หุ้นเด่น MegaTrend"
คุณนพปฎล เดชอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น
คุณมาศถวิน ชาญวีรกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอสทีพีแอนด์ไอ
คุณอดิศักด์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจมาร์ท
คุณกิตติ ชีวเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์ ดำเนินรายการ
เกริ่นนำ
• อ.ไพบูลย์ Megatrend ครั้งหนึ่งมาแล้วอยู่นานไหม?
• ดร.กุศยา ตามหลักมันก็ใหญ่ Mega อยู่นาน แต่ในยุคปัจจุบันอาจไม่นาน แต่แรงและเร็วขึ้น
• อ.ไพบูลย์ บริษัทที่เชิญมาเป็น megatrend ไหม?
• ดร.กุศยา
o True อยู่ในเทคโนโลยีสื่อสารที่มีผลกระทบอย่างอื่นเกือบทุกอย่าง
o JMART โดยตรง trend โทรคมนาคมมาต้องไปหา jmart หมด
o UAC ฟังแรกๆงงว่าเกี่ยวอะไรกัน แต่ที่จัดให้อยู่ใน megatrend เพรากำลังเปลี่ยนธุรกิจรูปแบบเดิมเป็นพลังงานทดแทน
ซึ่งเป็น trend ที่มาแรง เอาขี้หมู เอาหญ้า มาเปลี่ยนเป็น Gas เป็นพลังงานได้
o STPI เป็นอะไรที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วและแรง ถ้าพลังงานมาแรงคนที่สร้างโรงงานก็รับประโยชน์เต็มๆ สมัยก่อน
จะก่อสร้างก็วุ่นวาย ปัจจุบันสร้างเสร็จก็ยกไปได้เลย เป็นแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
ธุรกิจทำอะไร?
JMART
o Jmart ไม่ได้ขายโทรศัพท์มือถืออย่างเดียว ขอแยกธุรกิจ 3 ประเภท
1) ขายมือถือ ร้าน jmart
2) jmt ธุรกิจจากนี้อีก 10 ปีเป็นเมกะเทรนด์ ซื้อหนี้ตามหนี้ และธุรกิจต่อเนื่องในกลุ่มติดตามหนี้สิน
ต่อไปคงจะเห็นซื้อหนี้เป็นแสนล้าน คนที่มีหนี้รู้ว่าจะเอาไปขายที่ไหนก็มาเคาะประตูแล้วให้เราประมูลซื้อไป
ธุรกิจนี้ต้องดูกันนานๆ ปัจจุบันซื้อหนี้มาแล้ว 2.5 หมื่นล้าน ปีหน้าคาดจะซื้อหนี้ 1 หมื่นล้านบาท
3) พื้นที่ให้เช่า เป็น megatrend ตามธุรกิจมือถือ ตอนนี้เป็นธุรกิจที่ปลุกปั้นจะเข้าตลาดในปีหน้า
ตอนนี้อยู่ในกระบวนการ filing ถึงสิ้นปีคาดว่ามี dealer ขายมือเช่าพื้นที่ ราว 1400 ราย เติบโตดี
ปีหน้าถ้ากสทช.มายืนยันแบบนี้ก็จะชัดว่าธุรกิจมือถือเพิ่งเริ่มต้น ส่วน jmart ได้อนิสงค์ว่าตลาดมือถือโตขึ้น
แม้เทคโนโลยีเปลี่ยนไปเร็ว แต่ feature, function ต่างๆยังต้องการผู้ให้ความรู้กับลูกค้า
ตอนนี้เติบโตทุกธุรกิจ และรุกเข้าไปในพม่า jmart 237 สาขา 250 สาขาทั่วประเทศสิ้นปีนี้ ในกรุงเทพ ครึ่ง-ครึ่ง การขยายตัวต่างจังหวัดกับกรุงเทพขยายตัวเหมือนๆกัน
ร้าน Samsung เป็นของ jmart เมื่อก่อนมีร้าน nokia พวก dealer ก็จะแย่งกันเปิดร้าน nokia เพราะขายดี, ร้าน blackberry ก็เหมือนกัน เราก็เห็นโอกาสก็ไปเปิดที่พารากอน เป็นร้านแรกและร้านเดียว ต่อมาเราก็ต้องปิด จากขายได้ 3-4 ล้าน เปิดเป็นร้าน Samsung ขายได้ 20 กว่าล้าน ตอนนี้ก็เลยแย่งกันเปิดร้าน Samsung แต่โชคดีที่เราได้ key location ทั้งหมด เป็นการแย่งพื้นที่และแย่งแบรนด์
JMT หนี้ 2 หมื่นกว่าล้าน เราจ่ายไป 1,100 ล้านบาท คิดเป็น 5-6% ใน 100 บาทไม่ใช่เวลาสามารถเก็บได้เต็มจำนวน เราคาดว่าจะเก็บได้ 25-30 บาทเท่านั้น เราเก็บหนี้ไม่มีตำรวจ,ทหาร อยู่ใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัทที่จะเข้ามาทำธุรกิจนี้ต้องได้รับการอนุมัติ ห้ามโทรไปทวงหนี้หลัง 2 ทุ่ม, ห้ามใช้คำหยาบคาย, กำหนดว่าห้ามติดตามเกินกี่ครั้งต่อวัน เป็นธุรกิจที่ต้องมีระบบระเบียบ
Jmart ถือหุ้น jmt 75%, Jmart ถือหุ้น jas asset ถือ 100% ยื่นไตรมาส 2/57 ,ipo ไตรมาส 4/57 หลังจากนั้นน่าจะถือ 75% เหมือนกัน
True
o ในอดีตบริษัทยิ่งใหญ่ในโลกคือ อาหาร บริโภคกันอย่างน้อย 3 ครั้ง จนวันหนึ่งบริษัทอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกถูก takeover โดยบริษัทบุหรี่ สูบได้ทั้งวัน ต้องดูว่า megatrend ผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างไร
o ในยุคนี้เป็นยุคของไอที สิ่งที่บริโภคได้มากครั้งกว่าบุหรี่คือการคุยกัน การเจริญเติบโตของมือถือเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมา 10 ปีที่แล้ว internet บูม คุยกันทั้งวันปากเมื่อย internet ทำให้คนมีความรู้ได้เท่ากัน ในปีหน้า megatrend คือสิ่งที่อยู่ในมือท่าน คือ มือถือ smart phone เป็นสิ่งที่จำเป็นกับชีวิต
o ล่าสุดลูก 10 กว่าขวบไม่สบายพาไปหาหมอ ก็ตอบสิ่งที่หมอวินิจฉัยอาการได้ โดยหาข้อมูลมาจากอินเทอร์เนท ทำให้ย่นเวลาทำให้ผู้ที่ใช้มันเก่งและฉลาด
o สมัยก่อนเวลาจะคุยโทรศัพท์ต้องยกขึ้นมากดปุ่ม ตอนนี้มือถือต่ออยู่ตลอดเวลา สามารถ charge เป็น data package
o ในอดีตมีเงินเอาไปเก็บรักษาก็ฝากธนาคาร มี security วันนี้มีธุรกิจที่กว่าครึ่งที่เอาชีวิตไปฝากกับเขา เวลาจะย้ายก็ลำบาก เอาไปฝากมากกว่าครึ่ง คือธุรกิจ cloud กระจายไปอยู่ทั่วโลก เก็บไว้ไม่หาย เป็นสิ่งที่สัมพันธ์กับ smartphone
o ข้อดีของ internet ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน จะเก่งได้เหมือนกันหมด
o ในประเทศไทย มี megatrend โดยเฉพาะ กสทช.ท่านเปิดเสรีโดยประมูลคลื่นให้บริการ 3 G เพื่อเชื่อมโยง ความรู้ ประสบการณ์ และ cloud service สัญญาสัมปทานเดิมหมดแล้ว ทาง TRUE โชคดีที่ไม่ต้องจ่าย regulatory fee 30% แล้วได้จ่าย 5% เหมือนประเทศอื่นๆ
o กสทช.ส่งเสริมการแชร์ทรัพยกร เป็น passive infrastructure เช่น เสา, สาย fiber optic ซึ่งมีอายุยาวนานอยู่ได้ 50-60 ปี (active อุปกรณ์ที่ต้องเสียบปลั๊บอยู่ได้ไม่นาน 5-15 ปี) และ passive เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ค่อยเปลี่ยน
o ทำไมต้องแชร์กัน? ลองนึกดูถ้าโตโยต้า สร้างรถแล้วยี่ห้ออื่นก็ต้องใช้ถนนวิ่งเหมือนกัน ไม่ใช่ไปสร้างถนนเอง ทำให้ใช้ทรัพยากรร่วมกัน เดิมสัญญาสัมปทานทำให้ทุกคนต้องสร้างเสาเอง จนฝรั่งมาถามว่าประเทศไทยส่งออกเสาหรือ เป็นความฟุ่มเฟือยที่เกิดจากยุคก่อน การแชร์ร่วมกันทำให้ประหยัดต้นทุน เพื่อเอาเงินไปพัฒนาให้คุณภาพดีขึ้น ex. หลังการขาย, speed
o ตอนนี้ True เป็นรายแรก รายเดียวที่หมดสัญญาสัมปทานแล้ว เข้ามาอยู่ในสัญญาที่ทัดเทียม
o ท่าน กลต.ให้โอกาสทุกคน จึงให้หาวิธีระดมทุนทั้งโลกมาสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อระดมทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (เป็น 1 ใน 8 ที่ กลต.อนุมัติ)
o TRUE เมื่อ 20 ปีก่อน เป็นบริษัทเทเลคอมเอเชีย ให้บริหารโทรศัพท์พื้นฐานที่บ้าน ตอนนี้มีธุรกิจให้บริการครบทุกรูปแบบ บรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ท, เคเบิ้ลทีวี – ทรูวิชั่น ตอนนี้มีช่อง HD 50 ช่อง, TRUEMOVE-H ให้บริการ 3G ปัจจุบันถือเป็นผู้นำในแง่ความเร็วสูง ซึ่งเราก้าวไปถึง 4G LTE ซึ่งให้ความเร็วสูงสุดในเทคโนโลยีทั้งหมด เร็วกว่า 3G หลายเท่า
อ.ไพบูลย์เสริม True vision เพิ่งได้รับรางวัลรายการ รางวัลรายการทีวี Silver Dolphin คานส์ อวอร์ดส์เป็นเจ้าแรกในไทย ''สามเณร ปลูกปัญญาธรรม'
UAC
o มี 2 ส่วน 1) เทรดดิ้ง 2) ลงทุน
1) เทรดดิ้งเป็น ธุรกิจเดิมทำเกือบ 20 ปีแล้ว นำเข้าสารเคมีที่ใช้ในธุรกิจพลังงาน การขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย หรือบนบก จนถึงโรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเคมีทั้งหลาย PTTGC,Thaioil อีกส่วนคือ โรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต , glow เป็นกลุ่มลูกค้ามีธุรกิจร่วม
2) ลงทุน ทำมา 5-6 ปีแล้ว
พลังงานทดแทน ร่วมกับ บางจาก ผลิตไบโอดีเซล B100 ใส่ในน้ำมันทุกลิตร 5% UAC ถือหุ้นร้อยละ 30 กำลังเพิ่มกำลังการผลิต กระทรวงพลังงาน เพิ่ม B5->B7 ซึ่งจะเพิ่ม ม.ค. 57 จาก 5% เป็น 7%
โรงงานไบโอแก๊ส
• จังหวัดเชียงใหม่ เปิดดำเนินการแล้ว เป็นต้นแบบที่เอาไบโอแก๊สที่ได้จากพืชพลังงานและของเสียการเกษตร เพื่อใช้คมนาคม ลูกค้าหลักคือ ปตท. ส่งรถมารับแก๊สที่โรงงานและไปส่งที่สถานีบริการในจังหวัดเชียงใหม่
• จังหวัดสุโขทัย นำแก๊สที่ได้จากบ่อน้ำมัน เราไปขอซื้อแก๊สที่ได้จากบ่อน้ำมัน เป็น CNG, LPG, NGL ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรม กำลังทดสอบเครื่องเพื่อเปิดดำเนินการ
• แก๊สที่จำหน่ายได้ต้องผ่านมาตรฐานกรมพลังงาน และทางปตท.ก็มีการตรวจสอบ ยืนยันว่าใช้ได้จริง
o กระทรวงพลังงานได้อนุมัติให้สร้างโรงงานไบโอแก๊สเพื่อผลิตไฟฟ้าจากพืชพลังงานจาก 600 MW เป็น 3000 MW ที่ UAC 1 โรงงานผลิตได้ 1 MW ซึ่งเทียบได้กับโรงงาน UAC 3,000 โรงงาน พืชพลังงานโตเร็ว ให้ผลผลิตค่อนข้าง สูง UAC มีการปลูกและทดสอบเอง ซึ่งจะเป็นส่วนที่ทำให้เกษตรกรมีอาชีพที่มั่นคง
o หญ้ามีทั้งปลูกเอง และ contract farming ต่อไปแนวโน้มอย่างหลังเยอะกว่า
o การลงทุน 1 โรงงาน 100 ล้านบาท 3,000 โรงงาน ก็ 3 แสนล้านบาท ก็ใหญ่พอสมควร
o UAC สร้างเอง ผลิตเอง ใช้เอง เพื่อผลิตให้ลูกค้าและการไฟฟ้า ซึ่งไม่สามารถลงทุนได้เองทั้งหมด จึงไปจับมือกับบริษัท Italy ที่มีเทคโนโลยีในการผลิตไบโอแก๊ส โดยคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมเป็น JV กัน ซึ่งจะทำให้เรารับก่อสร้างโรงงานไบโอแก๊สให้ใครก็ได้
o นอกจากด้านพลังงาน มีระบบสาธารณูประโภค มีการ JV กับ Hydro ทำธุรกิจ2 ปีแล้ว มีการรับรู้รายได้แล้ว จะขยายรายได้ออกไปอีก
o UAC ในปัจจุบันจากที่เป็น trading company ผันตัวเองเป็นผู้ลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ทางเลือกและสาธารณูปโภค ซึ่งมีรายได้แล้วทุกธุรกิจ
o ระบบน้ำเน้นที่โรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม เอาน้ำเสียมาปรับสภาพแล้วเอามาใช้ใหม่ เราจะลงทุนอุปกรณ์เครื่องจักร
o UAC จะมีโรงงาน biogas อีก 20 โรงงาน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ภายในปี 2557-2558 จะทยอยเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด จะก่อให้เกิดรายได้มากพอสมควร โดยดูพื้นที่เหมาะสมก็เริ่มลงมือก่อน
STPI
o ธุรกิจอย่างเดียว คือ รับจ้างสร้างโรงกลั่น และโรงแยกก๊าซ ทั้งโรงงานโดยทำในที่แห่งหนึ่ง ทดสอบการใช้งานและให้โรงนั้นไปติดตั้งและดำเนินการในอีกที่หนึ่ง ข้ามทวีปไป พูดง่ายๆคือสร้างโรงกลั่นทั้งโรงที่ประเทศไทย และถอดเป็นชิ้นขนาดใหญ่ประมาณเครื่องบินขนาดกลาง ลงไปในแพเรือ
o ถ้าดูรายการอ.ไพบูลย์ย้อนหลังจะมี animation สิ่งที่พูด (Money talk weekly คุณมาตรถวิล)
o โรงที่กำลังทำขนาดประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาท ขนาดน่าจะประมาณ 20 สนามหลวง
o การขนส่งมีการทำประกันภัยไว้เต็มจำนวน แต่ยังไม่เคยเกิดเหตุในช่วงที่รับผิดชอบอยู่
o ธุรกิจนี้เป็น megatrend ที่มีมานานแล้ว แต่ภาครัฐไม่ได้ส่งเสริม ช่วงแรกก็ล้มลุกคลุกคลาน ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี ผู้ที่นำเทรนด์แบบนี้คือเกาหลี อย่าง ฮุนไดที่ต่อเรือ
o งานแรกเริ่มทำเมื่อ 6-7 ปีก่อน เริ่มเห็นสัญญาณที่ดี หุ้นจาก 2 บาทขึ้นไป 60 บาท ก็เริ่มมีกำลังใจว่าเราเกาะเมกะเทรนด์ได้ถูกทาง หลังจากนั้นงานที่ 2 ก็ผงาดเต็มตัว สิ่งที่ก้าวกระโดดได้มากสุดคือร่วมกับบริษัทต่างชาติที่เคยทำ จากงานที่ 1 เราได้รับถ่ายทอดความรู้ เข้าทำเองเต็มตัว 100% ก็ประสบความสำเร็จ โดยรับงานที่ 3 ใหญ่ขึ้นอีก
o งานพวกนี้ต้องมีความเชื่อถือสูง ถ้าเกิด accident ขึ้นบริเวณที่ติดตั้ง จะเสียหายบริเวณโดยรอบมาก
o ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นถ้าเกิดขึ้นจากเราทางเราก็คนเป็นคนรับ 200 module เป็น 1 โรงงาน โดยแต่ละ module ก็มี test ซ้ำแล้วซ้ำอีก มาตรฐานการรับแม้แต่แมลงยังเข้าไม่ได้ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่ามีอะไรที่ทำให้เราต้องตกใจ
o โรงงานที่ทำอยู่ที่เมืองดาร์วิน ออสเตรีเลีย งานก่อนหน้าที่เสร็จไปแล้วก็เป็นอีกเมืองที่ออสเตรีเลีย
o งานที่เรารับจ้างอยู่ใหญ่ระดับ world scale ที่เมืองดาร์วิน มีบ่อก๊าซที่ใหญ่มาก ทำให้เลี้ยงความต้องการใช้ก๊าซได้ในระดับโลก มีสึนามิถล่มญี่ปุ่น ทำให้เลิกใช้นิวเคลียร์ ตอนนี้ญี่ปุ่นจึงมาซื้อสัมปทานบ่อก๊าซที่ดาร์วิน แล้วขนใส่เรือไปญี่ปุ่น สิ่งที่ stpi ติดตั้งจากก๊าซแปลงเป็นไฟฟ้า ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 5 ของความต้องการในญี่ปุ่น
รายได้ กำไรเป็นอย่างไรบ้าง?
JMART
o Margin ต่ำ มีคนเคยพูดว่าคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า แต่ผมไม่เคยอยากออก อยู่มาตั้งแต่รุ่นแรกๆ
o ต้องใช้ปริมาณ ปีก่อนเราขายได้ 1.1 ล้านเครื่อง ปีนี้น่าจะถึง 1.5 ล้านเครื่อง ครึ่งปีนี้เป็นไปตามเป้า ยอดขายโตขึ้น 34% โดยครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีที่แล้ว เนื่องจาก migration จาก 2G -> 3G ของ oprator
o ปัจจุบัน 2G ยังอยู่ในตลาดประมาณ 80% ปี 2014-2015 ทุกคนต้องทยอยเปลี่ยน
อย่าง AIS ลูกค้าเก่าเปลี่ยนไปแล้ว 5 ล้านเลขหมาย ได้ลูกค้า 3G ใหม่แล้ว 6-7 ล้านเลขหมาย
ดังนั้น AIS ประมาณ 12 ล้านที่อยู่ใน 3G แล้ว ซึ่งรวมแล้วเกือบ 40 ล้านเลขหมาย ยังเหลืออีก 28 ล้านเลขหมาย
ในฝั่งของ DTAC กับ TRUE 2 เจ้ารวมกันน่าจะได้ 55-60% รวมๆก็ 50 กว่าล้านเลขหมายที่จะต้องเปลี่ยนใน 2 ปี
ธุรกิจที่ได้อานิสงค์มากสุดก็คือมือถือ
o Margin น้อย แต่ถ้าได้ volume ผลกำไรก็จะดีขึ้น นอกจากได้รายได้จากเครื่องแล้ว เรายังได้รายได้จาก operator อย่างเช่นเราหา subscriber ให้ก็จะมีรายได้ด้วย (ขายซิมไปกับเครื่อง) คาดว่าจะได้รายได้จากตรงนี้รวมๆกัน 40-50 ล้านบาท
o การขายเครื่องของ operator ในอดีตเคยขายไม่ทัน ขายไม่หมด เจ็บตัว
สิ่งที่ operator ต้องรีบทำคือ migrate ให้เร็วที่สุด ต้องมีเครื่อง ขายเองทำไม่ทันก็ต้องให้ dealer ช่วยกระจาย
เพราะ dealer มีทั้งเครื่องจาก operator และทุกยี่ห้อ ลูกค้าชอบอะไรที่มีให้เลือกเยอะๆ มี accessories ด้วย
ทำให้ลูกค้าไปร้านพวกนี้เยอะ
o ตอนนี้ operator ก็ส่ง promotor มาอยู่ในร้านเรา เพื่อช่วยเชียร์ให้ลูกค้าซื้อเครื่องแล้วซื้อซิมด้วย
ซึ่ง position jmart ชัดเจนว่าเราไม่ได้อิงค่ายใดค่ายหนึ่ง ก็ทำให้รูปโฉมการขายก็เปลี่ยนไปด้วยระดับหนึ่ง
o ในไตรมาส 3 ก็ทำสถิติสูงสุด ทั้งยอดขายและกำไร เป็นสิ่งที่เห็นกระแสอยู่แล้วว่าคนใช้ pc, notebook น้อยลง
o Feature phone สมัยก่อนสัดส่วนกว่า 90% ปัจจุบันที่ jmart เหลืออยู่ 6% ส่วนใหญ่ smartphone กับ tablet 90% กว่า
o Move สินค้าให้เร็ว stock อยู่สั้นที่สุด จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารตรงนี้คือ margin
o Market share ไม่มีตัวเลขชัดเจน ส่วนใหญ่จะถามจาก operator และแบรนด์ต่างๆ ทาง jmart ก็เป็นเบอร์หนึ่ง
o JMT margin กำไรเยอะ แต่ด้วยระบบทางบัญชี เก็บเท่าไร ใน 5 ปีแรกให้เอาไปตัดต้นทุน ยิ่งเก็บเยอะอาจไม่ได้กำไรเพิ่มขึ้น แต่หลังจากที่ตัดต้นทุนหมดแล้ว จึงจะกลับมา เป็นธุรกิจที่มี high margin แต่ต้องตัดต้นทุนให้หมดก่อน เนื่องจากว่า เป็นปัญหาทีไม่มีธุรกิจนี้ในตลาดหลักทรัพย์ กลต.จะยึดถือวิธีที่ปลอดภัยไว้ก่อน เป็นระยะยาว เช่น หนี้ก่อนแรกที่ซื้อมา 1,000 ล้าน ใช้เงิน 39 ล้านบาท ตอนนี้เก็บได้เกือบ 150 ล้านบาทแล้ว และยังเก็บอยู่ ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมาซื้อก้อนใหญ่เยอะ 5,000 ล้าน หนี้ตรงนี้ก็กว่าจะหมดในอีก 2 ปีนี้ ก็เป็นธุรกิจที่มองกำไรได้ยากเหมือนกัน ตัดทุนทั้ง lot ออกหมด ไม่ได้เป็นรายๆ ปกติใช้เวลาในการเก็บ lot หนึ่งได้เป็น 10 ปี ใช้เวลาเฉลี่ย 4-5 ปี จะตัดต้นทุนได้หมดต่อกอง
o ใครอยากรู้วิธีตัดต้นทุน JMT ดูได้ใน money talk weekly
TRUE จะมีกำไรไหมปีนี้?
ธุรกิจหลัก 3 ประเภท ที่ผ่านมากำไร 2 ตัวมาตลอด บรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ท กำไรมาตลอด 10 กว่าปี มีเทรนด์ที่โตขึ้นเรื่อยๆ โต เกือบ 20% ทุกปี ธุรกิจเคบิ้ลทีวีก็กำไร ส่วนธุรกิจมือถือ ขายทุนมาตลอด คือสัญญาสัมปทาน ได้รับมาสายกว่าคนอื่น ผู้บริการอื่นเกิดก่อนเรา 10 กว่าปี เราจึงได้ระยะเวลาสัมปทานสั้นสุด ลงทุนโครงข่ายไปต้องโอนทรัพย์สินให้ผู้ให้สัญญา และต้องตัดค่าเสื่อม โดยธรรมดาตัดค่าเสื่อม 12-15 ปี สมมติ true ปีก่อน ต้องลงทุน เหลือสัญญาสัมปทาน 1 ปี ต้อง write off ใน 1 ปี และเกิดทีหลังก็มีสัญญาสัมปทานสูงกว่าคนอื่น ซึ่งตอนนี้ปลดไปหมดแล้ว เมื่อ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา
ถ้าปีที่แล้วดูโทรศัพท์มือถือไหนมีค่ากว่ากัน ดูว่าสัญญาสัมปทานเหลือเท่าไร เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมาย ยิ่งยาวยิ่งทำธุรกิจได้นาน แต่วันนี้เป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่หลวง ทุกคนได้ใบอนุญาติไปอีก 15 ปี กลับกันเลย ใครมีสัญญาสัมปทานยาวสุดมีภาระสุด
ตอนนี้ true ก็ focus ในการลงทุนด้นการตลาด เพื่อคงความเป็นผู้นำ 3G
หนี้ประมาณ 1 แสนล้านบาท เป็นจุดอ่อนของ true มาตลอด ทั้งผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้สนับสนุนมาตลอด
ถ้าดูงบดุล ทรัพย์สินเรามีความพิเศษอย่างมาก เพราะประกอบไปด้วย content ที่มากสุด ทั้งใน internet และจอทีวี
ซึ่งจะเป็นจุดแตกต่างหลักในอนาคต อุปกรณ์โครงข่ายทุก operator สั่งจากที่เดียวกันหมด มีอยู่ไม่กี่ยี่ห้อในโลก
โทรศัพท์มือถือก็เหมือนกัน ซึ่งที่แตกต่างคือความครอบคลุม นวัตกรรมใหม่ๆ จะเกี่ยวกับ content application ที่ใช้
ใครรู้จักผู้บริโภคดีกว่ากัน ให้บริการตรงใจ และ distribution channel ให้ง่ายที่สุดในการซื้อมือถือและบริการ
อีกอย่างคือ after sales service true internet มี shopping ที่ใหญ่สุดใน south east asia , music
คลื่นความถี่สูงยิ่งครอบคลุมน้อย คลื่นความถี่ต่ำ ถูกใช้หมดแล้ว อย่างวิทยุ AM ไปถึงนครสวรรค์ก็ยังได้ยิน
แต่ถ้าวิทยุ FM ขับไปไกลนิดเดียวก็ไม่ได้ยินแล้ว
ดังนั้นในอดีตคลื่นความถี่ต่ำ ก็ได้เปรียบ และทะลุทะลวงตึก กำแพงได้ดีกว่า
ตอนนี้เรา partner กับ CAT คลื่น3G 850 MHz ซึ่งทำให้เราครอบคลุมในประเทศไทย
กองทุนโครงสร้างพื้นฐานมีจริงไหม? ลงรายละเอียดมากไม่ได้ มีจริง เราลงทุนเป็นแสนล้านบาทในการตั้งเสา สาย fiber optic ซึ่งเราใช้คนเดียว ซึ่งสามารถแชร์ได้ 4-5 operator ในอดีตไม่แชร์กัน ซึ่งกลต.ดึงดูดให้มาลงทุน
1) กองทุนโครงสร้างพื้นฐานไม่เสียภาษี จนกระทั่งเปลี่ยนกฏหมาย กำไรเท่าไรปันผลได้หมด
2) นักลงทุนไม่ต้องเสียภาษี ไม่มีหักภาษี ณ ที่จ่าย ภาษีปันผล
3) ปันผลบนกระแสเงินสด ไม่ใช่บนกำไรสุทธิ ให้ปันผลห้ามต่ำกว่า 90%
4) กองทุนให้กู้ได้ ถึง 3 เท่าของเงินทุน true ขายเฉพาะเสากับสาย fiber optic ซึ่ง true
จะได้เงินเข้ามามากพอที่จะให้กองทุนไปปล่อยให้เช่าได้ ผู้ให้บริการต้องให้บริการคลื่นสูงขึ้น
จึงต้องการเสามากขึ้น ไปสร้างเสาเองก็มีต้นทุนสูงมาก และทำให้ระยะเวลาเข้าถึงลูกค้าเร็วกว่า
3G ที่ผ่านมาไม่มีผู้ประมูลอื่นต่างประเทศเข้ามา ถ้ามาตั้งเสาเองใช้เวลา 5-6 ปีกว่าจะให้บริการได้
กองทุนโครงสร้างพื้นฐานห้ามกลุ่มบริษัทใดถือมากกว่า 1 ส่วน 3 เพื่อให้กองทุนเป็นกลาง เจ้าอื่นก็สามารถเอาเสาหรืออุปกรณ์เข้ามาในกองทุนได้
ทรัพย์สินปราศจากความโต้แย้ง ซึ่งทำให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติการตั้งกองทุนทั้งหมด
จะขายทรัพย์สินรวมกันประมาณ 6-8 หมื่นล้านบาท พยายามจะลดหนี้มากที่สุด ยังตอบไม่ได้ว่าแค่ไหน
UAC
o รายได้คาดจะโตเกิน 20% ตามที่คาดไว้ กำไรก็เป็นไปตามแผนโตตามรายได้
o ไตรมาส 3 ผลก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ในปี 58 ก็น่าจะมีรายได้จากโรงงงานที่เราลงทุนไปได้เต็มร้อย น่าจะมากกว่าปีนี้ได้เป็นเท่า ในปัจจุบันยังเป็นธุรกิจเดิมเป็นหลัก ปีหน้าจะมากขึ้น
STPI
o รายได้จะเป็นลูกคลื่น อาจความถี่ต่ำหน่อย
o อยู่ห่างไกลผู้บริโภค เป็น upstream จังหวะที่เราเต็มกำลังการผลิตจะใช้เวลาอีก 3 ปีกว่าจะจบโครงการของญี่ปุ่นที่ทำอยู่ ทำให้รับงานใหม่ไม่ได้ กว่าเราจะพร้อมก็ไม่ใช่ว่าลูกค้าจะรอจ้างงานเรา เพราะมีคู่แข่งอื่นเหมือนกันในตลาด
o เป็น Project ที่ 3 ที่เราทำ 2 ครั้งแรกจะมีการชะงักของรายได้ 1-1.5 ปี ถ้าทำงานนี้ 1 งานจะมีค่าเท่ากับทำงานอื่น 5 งาน
o ถ้าจะให้รับงานได้ต่อเนื่องต้องมีกำลังผลิตมากกว่านี้ 1 เท่าตัว แต่ก็ยังไม่อยากก้าวกระโดดเร็วเกินไป และภาครัฐเราก็ไม่ได้สนับสนุน
o ในช่วงแรกที่รับงานจะขนาดไม่ใหญ่มากอย่างสุวรรณภูมิ งานบางประเภทก็มีกำไรต่ำ ตอนหลังเลยเปลี่ยนไปรับงานต่างประเทศ
o เคยรับงานที่ได้ margin มากกว่าต้นทุน ลูกค้าทราบก็ยังไม่เป็นไรเพราะขึ้นกับการบริหารของเรา แต่คู่แข่งทราบก็จะมาดูว่าเราทำอย่างไร และมีการตัดราคา ทำให้เราต้องหาทางหนีออกไปเรื่อยๆ
o เรื่องคู่แข่งไม่กลัว อยากให้ทำกันเยอะๆจะได้เกิดบุคลากรและแรงงาน ตอนนี้ใช้แรงงานฝีมือเกิน 10,000 คน มันหมดประเทศแล้ว และซ้ำเติมด้วยนโยบายบางอย่างที่ให้จ่ายค่าแรงสูงๆ ราคาก็ต้องสูงขึ้นอีก ก็ต้องใส่ไปในต้นทุนประมูล
o ถ้าหากภาครัฐไม่ดูภาคเอกชนต่อไปก็จะกลับมาที่เอกชน ใครจะเป็นคนจ้างงาน ภาครัฐบาลจ้างคนอยู่น้อย
o เมื่อเอานโยบายให้เกษตรกรทำให้เกษตรกรรมก็ไม่เคลื่อนตัวมาที่เทคโนโลยี ถ้าให้ 3 จังหวัดภาคใต้มาให้ stpi ทำ จะสามารถสร้างรายได้มากกว่าภูเก็ต
o คุณนพปฎลช่วยเสริม ในโลกนี้มี 20 รายที่ทำได้ และที่ได้ margin เป็นเท่าตัวของต้นทุนเพราะมี knowhow และ scale ที่มีในมือ
คุณนพปฎล เดชอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น
คุณมาศถวิน ชาญวีรกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอสทีพีแอนด์ไอ
คุณอดิศักด์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจมาร์ท
คุณกิตติ ชีวเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์ ดำเนินรายการ
เกริ่นนำ
• อ.ไพบูลย์ Megatrend ครั้งหนึ่งมาแล้วอยู่นานไหม?
• ดร.กุศยา ตามหลักมันก็ใหญ่ Mega อยู่นาน แต่ในยุคปัจจุบันอาจไม่นาน แต่แรงและเร็วขึ้น
• อ.ไพบูลย์ บริษัทที่เชิญมาเป็น megatrend ไหม?
• ดร.กุศยา
o True อยู่ในเทคโนโลยีสื่อสารที่มีผลกระทบอย่างอื่นเกือบทุกอย่าง
o JMART โดยตรง trend โทรคมนาคมมาต้องไปหา jmart หมด
o UAC ฟังแรกๆงงว่าเกี่ยวอะไรกัน แต่ที่จัดให้อยู่ใน megatrend เพรากำลังเปลี่ยนธุรกิจรูปแบบเดิมเป็นพลังงานทดแทน
ซึ่งเป็น trend ที่มาแรง เอาขี้หมู เอาหญ้า มาเปลี่ยนเป็น Gas เป็นพลังงานได้
o STPI เป็นอะไรที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วและแรง ถ้าพลังงานมาแรงคนที่สร้างโรงงานก็รับประโยชน์เต็มๆ สมัยก่อน
จะก่อสร้างก็วุ่นวาย ปัจจุบันสร้างเสร็จก็ยกไปได้เลย เป็นแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
ธุรกิจทำอะไร?
JMART
o Jmart ไม่ได้ขายโทรศัพท์มือถืออย่างเดียว ขอแยกธุรกิจ 3 ประเภท
1) ขายมือถือ ร้าน jmart
2) jmt ธุรกิจจากนี้อีก 10 ปีเป็นเมกะเทรนด์ ซื้อหนี้ตามหนี้ และธุรกิจต่อเนื่องในกลุ่มติดตามหนี้สิน
ต่อไปคงจะเห็นซื้อหนี้เป็นแสนล้าน คนที่มีหนี้รู้ว่าจะเอาไปขายที่ไหนก็มาเคาะประตูแล้วให้เราประมูลซื้อไป
ธุรกิจนี้ต้องดูกันนานๆ ปัจจุบันซื้อหนี้มาแล้ว 2.5 หมื่นล้าน ปีหน้าคาดจะซื้อหนี้ 1 หมื่นล้านบาท
3) พื้นที่ให้เช่า เป็น megatrend ตามธุรกิจมือถือ ตอนนี้เป็นธุรกิจที่ปลุกปั้นจะเข้าตลาดในปีหน้า
ตอนนี้อยู่ในกระบวนการ filing ถึงสิ้นปีคาดว่ามี dealer ขายมือเช่าพื้นที่ ราว 1400 ราย เติบโตดี
ปีหน้าถ้ากสทช.มายืนยันแบบนี้ก็จะชัดว่าธุรกิจมือถือเพิ่งเริ่มต้น ส่วน jmart ได้อนิสงค์ว่าตลาดมือถือโตขึ้น
แม้เทคโนโลยีเปลี่ยนไปเร็ว แต่ feature, function ต่างๆยังต้องการผู้ให้ความรู้กับลูกค้า
ตอนนี้เติบโตทุกธุรกิจ และรุกเข้าไปในพม่า jmart 237 สาขา 250 สาขาทั่วประเทศสิ้นปีนี้ ในกรุงเทพ ครึ่ง-ครึ่ง การขยายตัวต่างจังหวัดกับกรุงเทพขยายตัวเหมือนๆกัน
ร้าน Samsung เป็นของ jmart เมื่อก่อนมีร้าน nokia พวก dealer ก็จะแย่งกันเปิดร้าน nokia เพราะขายดี, ร้าน blackberry ก็เหมือนกัน เราก็เห็นโอกาสก็ไปเปิดที่พารากอน เป็นร้านแรกและร้านเดียว ต่อมาเราก็ต้องปิด จากขายได้ 3-4 ล้าน เปิดเป็นร้าน Samsung ขายได้ 20 กว่าล้าน ตอนนี้ก็เลยแย่งกันเปิดร้าน Samsung แต่โชคดีที่เราได้ key location ทั้งหมด เป็นการแย่งพื้นที่และแย่งแบรนด์
JMT หนี้ 2 หมื่นกว่าล้าน เราจ่ายไป 1,100 ล้านบาท คิดเป็น 5-6% ใน 100 บาทไม่ใช่เวลาสามารถเก็บได้เต็มจำนวน เราคาดว่าจะเก็บได้ 25-30 บาทเท่านั้น เราเก็บหนี้ไม่มีตำรวจ,ทหาร อยู่ใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัทที่จะเข้ามาทำธุรกิจนี้ต้องได้รับการอนุมัติ ห้ามโทรไปทวงหนี้หลัง 2 ทุ่ม, ห้ามใช้คำหยาบคาย, กำหนดว่าห้ามติดตามเกินกี่ครั้งต่อวัน เป็นธุรกิจที่ต้องมีระบบระเบียบ
Jmart ถือหุ้น jmt 75%, Jmart ถือหุ้น jas asset ถือ 100% ยื่นไตรมาส 2/57 ,ipo ไตรมาส 4/57 หลังจากนั้นน่าจะถือ 75% เหมือนกัน
True
o ในอดีตบริษัทยิ่งใหญ่ในโลกคือ อาหาร บริโภคกันอย่างน้อย 3 ครั้ง จนวันหนึ่งบริษัทอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกถูก takeover โดยบริษัทบุหรี่ สูบได้ทั้งวัน ต้องดูว่า megatrend ผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างไร
o ในยุคนี้เป็นยุคของไอที สิ่งที่บริโภคได้มากครั้งกว่าบุหรี่คือการคุยกัน การเจริญเติบโตของมือถือเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมา 10 ปีที่แล้ว internet บูม คุยกันทั้งวันปากเมื่อย internet ทำให้คนมีความรู้ได้เท่ากัน ในปีหน้า megatrend คือสิ่งที่อยู่ในมือท่าน คือ มือถือ smart phone เป็นสิ่งที่จำเป็นกับชีวิต
o ล่าสุดลูก 10 กว่าขวบไม่สบายพาไปหาหมอ ก็ตอบสิ่งที่หมอวินิจฉัยอาการได้ โดยหาข้อมูลมาจากอินเทอร์เนท ทำให้ย่นเวลาทำให้ผู้ที่ใช้มันเก่งและฉลาด
o สมัยก่อนเวลาจะคุยโทรศัพท์ต้องยกขึ้นมากดปุ่ม ตอนนี้มือถือต่ออยู่ตลอดเวลา สามารถ charge เป็น data package
o ในอดีตมีเงินเอาไปเก็บรักษาก็ฝากธนาคาร มี security วันนี้มีธุรกิจที่กว่าครึ่งที่เอาชีวิตไปฝากกับเขา เวลาจะย้ายก็ลำบาก เอาไปฝากมากกว่าครึ่ง คือธุรกิจ cloud กระจายไปอยู่ทั่วโลก เก็บไว้ไม่หาย เป็นสิ่งที่สัมพันธ์กับ smartphone
o ข้อดีของ internet ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน จะเก่งได้เหมือนกันหมด
o ในประเทศไทย มี megatrend โดยเฉพาะ กสทช.ท่านเปิดเสรีโดยประมูลคลื่นให้บริการ 3 G เพื่อเชื่อมโยง ความรู้ ประสบการณ์ และ cloud service สัญญาสัมปทานเดิมหมดแล้ว ทาง TRUE โชคดีที่ไม่ต้องจ่าย regulatory fee 30% แล้วได้จ่าย 5% เหมือนประเทศอื่นๆ
o กสทช.ส่งเสริมการแชร์ทรัพยกร เป็น passive infrastructure เช่น เสา, สาย fiber optic ซึ่งมีอายุยาวนานอยู่ได้ 50-60 ปี (active อุปกรณ์ที่ต้องเสียบปลั๊บอยู่ได้ไม่นาน 5-15 ปี) และ passive เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ค่อยเปลี่ยน
o ทำไมต้องแชร์กัน? ลองนึกดูถ้าโตโยต้า สร้างรถแล้วยี่ห้ออื่นก็ต้องใช้ถนนวิ่งเหมือนกัน ไม่ใช่ไปสร้างถนนเอง ทำให้ใช้ทรัพยากรร่วมกัน เดิมสัญญาสัมปทานทำให้ทุกคนต้องสร้างเสาเอง จนฝรั่งมาถามว่าประเทศไทยส่งออกเสาหรือ เป็นความฟุ่มเฟือยที่เกิดจากยุคก่อน การแชร์ร่วมกันทำให้ประหยัดต้นทุน เพื่อเอาเงินไปพัฒนาให้คุณภาพดีขึ้น ex. หลังการขาย, speed
o ตอนนี้ True เป็นรายแรก รายเดียวที่หมดสัญญาสัมปทานแล้ว เข้ามาอยู่ในสัญญาที่ทัดเทียม
o ท่าน กลต.ให้โอกาสทุกคน จึงให้หาวิธีระดมทุนทั้งโลกมาสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อระดมทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (เป็น 1 ใน 8 ที่ กลต.อนุมัติ)
o TRUE เมื่อ 20 ปีก่อน เป็นบริษัทเทเลคอมเอเชีย ให้บริหารโทรศัพท์พื้นฐานที่บ้าน ตอนนี้มีธุรกิจให้บริการครบทุกรูปแบบ บรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ท, เคเบิ้ลทีวี – ทรูวิชั่น ตอนนี้มีช่อง HD 50 ช่อง, TRUEMOVE-H ให้บริการ 3G ปัจจุบันถือเป็นผู้นำในแง่ความเร็วสูง ซึ่งเราก้าวไปถึง 4G LTE ซึ่งให้ความเร็วสูงสุดในเทคโนโลยีทั้งหมด เร็วกว่า 3G หลายเท่า
อ.ไพบูลย์เสริม True vision เพิ่งได้รับรางวัลรายการ รางวัลรายการทีวี Silver Dolphin คานส์ อวอร์ดส์เป็นเจ้าแรกในไทย ''สามเณร ปลูกปัญญาธรรม'
UAC
o มี 2 ส่วน 1) เทรดดิ้ง 2) ลงทุน
1) เทรดดิ้งเป็น ธุรกิจเดิมทำเกือบ 20 ปีแล้ว นำเข้าสารเคมีที่ใช้ในธุรกิจพลังงาน การขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย หรือบนบก จนถึงโรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเคมีทั้งหลาย PTTGC,Thaioil อีกส่วนคือ โรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต , glow เป็นกลุ่มลูกค้ามีธุรกิจร่วม
2) ลงทุน ทำมา 5-6 ปีแล้ว
พลังงานทดแทน ร่วมกับ บางจาก ผลิตไบโอดีเซล B100 ใส่ในน้ำมันทุกลิตร 5% UAC ถือหุ้นร้อยละ 30 กำลังเพิ่มกำลังการผลิต กระทรวงพลังงาน เพิ่ม B5->B7 ซึ่งจะเพิ่ม ม.ค. 57 จาก 5% เป็น 7%
โรงงานไบโอแก๊ส
• จังหวัดเชียงใหม่ เปิดดำเนินการแล้ว เป็นต้นแบบที่เอาไบโอแก๊สที่ได้จากพืชพลังงานและของเสียการเกษตร เพื่อใช้คมนาคม ลูกค้าหลักคือ ปตท. ส่งรถมารับแก๊สที่โรงงานและไปส่งที่สถานีบริการในจังหวัดเชียงใหม่
• จังหวัดสุโขทัย นำแก๊สที่ได้จากบ่อน้ำมัน เราไปขอซื้อแก๊สที่ได้จากบ่อน้ำมัน เป็น CNG, LPG, NGL ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรม กำลังทดสอบเครื่องเพื่อเปิดดำเนินการ
• แก๊สที่จำหน่ายได้ต้องผ่านมาตรฐานกรมพลังงาน และทางปตท.ก็มีการตรวจสอบ ยืนยันว่าใช้ได้จริง
o กระทรวงพลังงานได้อนุมัติให้สร้างโรงงานไบโอแก๊สเพื่อผลิตไฟฟ้าจากพืชพลังงานจาก 600 MW เป็น 3000 MW ที่ UAC 1 โรงงานผลิตได้ 1 MW ซึ่งเทียบได้กับโรงงาน UAC 3,000 โรงงาน พืชพลังงานโตเร็ว ให้ผลผลิตค่อนข้าง สูง UAC มีการปลูกและทดสอบเอง ซึ่งจะเป็นส่วนที่ทำให้เกษตรกรมีอาชีพที่มั่นคง
o หญ้ามีทั้งปลูกเอง และ contract farming ต่อไปแนวโน้มอย่างหลังเยอะกว่า
o การลงทุน 1 โรงงาน 100 ล้านบาท 3,000 โรงงาน ก็ 3 แสนล้านบาท ก็ใหญ่พอสมควร
o UAC สร้างเอง ผลิตเอง ใช้เอง เพื่อผลิตให้ลูกค้าและการไฟฟ้า ซึ่งไม่สามารถลงทุนได้เองทั้งหมด จึงไปจับมือกับบริษัท Italy ที่มีเทคโนโลยีในการผลิตไบโอแก๊ส โดยคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมเป็น JV กัน ซึ่งจะทำให้เรารับก่อสร้างโรงงานไบโอแก๊สให้ใครก็ได้
o นอกจากด้านพลังงาน มีระบบสาธารณูประโภค มีการ JV กับ Hydro ทำธุรกิจ2 ปีแล้ว มีการรับรู้รายได้แล้ว จะขยายรายได้ออกไปอีก
o UAC ในปัจจุบันจากที่เป็น trading company ผันตัวเองเป็นผู้ลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ทางเลือกและสาธารณูปโภค ซึ่งมีรายได้แล้วทุกธุรกิจ
o ระบบน้ำเน้นที่โรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม เอาน้ำเสียมาปรับสภาพแล้วเอามาใช้ใหม่ เราจะลงทุนอุปกรณ์เครื่องจักร
o UAC จะมีโรงงาน biogas อีก 20 โรงงาน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ภายในปี 2557-2558 จะทยอยเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด จะก่อให้เกิดรายได้มากพอสมควร โดยดูพื้นที่เหมาะสมก็เริ่มลงมือก่อน
STPI
o ธุรกิจอย่างเดียว คือ รับจ้างสร้างโรงกลั่น และโรงแยกก๊าซ ทั้งโรงงานโดยทำในที่แห่งหนึ่ง ทดสอบการใช้งานและให้โรงนั้นไปติดตั้งและดำเนินการในอีกที่หนึ่ง ข้ามทวีปไป พูดง่ายๆคือสร้างโรงกลั่นทั้งโรงที่ประเทศไทย และถอดเป็นชิ้นขนาดใหญ่ประมาณเครื่องบินขนาดกลาง ลงไปในแพเรือ
o ถ้าดูรายการอ.ไพบูลย์ย้อนหลังจะมี animation สิ่งที่พูด (Money talk weekly คุณมาตรถวิล)
o โรงที่กำลังทำขนาดประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาท ขนาดน่าจะประมาณ 20 สนามหลวง
o การขนส่งมีการทำประกันภัยไว้เต็มจำนวน แต่ยังไม่เคยเกิดเหตุในช่วงที่รับผิดชอบอยู่
o ธุรกิจนี้เป็น megatrend ที่มีมานานแล้ว แต่ภาครัฐไม่ได้ส่งเสริม ช่วงแรกก็ล้มลุกคลุกคลาน ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี ผู้ที่นำเทรนด์แบบนี้คือเกาหลี อย่าง ฮุนไดที่ต่อเรือ
o งานแรกเริ่มทำเมื่อ 6-7 ปีก่อน เริ่มเห็นสัญญาณที่ดี หุ้นจาก 2 บาทขึ้นไป 60 บาท ก็เริ่มมีกำลังใจว่าเราเกาะเมกะเทรนด์ได้ถูกทาง หลังจากนั้นงานที่ 2 ก็ผงาดเต็มตัว สิ่งที่ก้าวกระโดดได้มากสุดคือร่วมกับบริษัทต่างชาติที่เคยทำ จากงานที่ 1 เราได้รับถ่ายทอดความรู้ เข้าทำเองเต็มตัว 100% ก็ประสบความสำเร็จ โดยรับงานที่ 3 ใหญ่ขึ้นอีก
o งานพวกนี้ต้องมีความเชื่อถือสูง ถ้าเกิด accident ขึ้นบริเวณที่ติดตั้ง จะเสียหายบริเวณโดยรอบมาก
o ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นถ้าเกิดขึ้นจากเราทางเราก็คนเป็นคนรับ 200 module เป็น 1 โรงงาน โดยแต่ละ module ก็มี test ซ้ำแล้วซ้ำอีก มาตรฐานการรับแม้แต่แมลงยังเข้าไม่ได้ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่ามีอะไรที่ทำให้เราต้องตกใจ
o โรงงานที่ทำอยู่ที่เมืองดาร์วิน ออสเตรีเลีย งานก่อนหน้าที่เสร็จไปแล้วก็เป็นอีกเมืองที่ออสเตรีเลีย
o งานที่เรารับจ้างอยู่ใหญ่ระดับ world scale ที่เมืองดาร์วิน มีบ่อก๊าซที่ใหญ่มาก ทำให้เลี้ยงความต้องการใช้ก๊าซได้ในระดับโลก มีสึนามิถล่มญี่ปุ่น ทำให้เลิกใช้นิวเคลียร์ ตอนนี้ญี่ปุ่นจึงมาซื้อสัมปทานบ่อก๊าซที่ดาร์วิน แล้วขนใส่เรือไปญี่ปุ่น สิ่งที่ stpi ติดตั้งจากก๊าซแปลงเป็นไฟฟ้า ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 5 ของความต้องการในญี่ปุ่น
รายได้ กำไรเป็นอย่างไรบ้าง?
JMART
o Margin ต่ำ มีคนเคยพูดว่าคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า แต่ผมไม่เคยอยากออก อยู่มาตั้งแต่รุ่นแรกๆ
o ต้องใช้ปริมาณ ปีก่อนเราขายได้ 1.1 ล้านเครื่อง ปีนี้น่าจะถึง 1.5 ล้านเครื่อง ครึ่งปีนี้เป็นไปตามเป้า ยอดขายโตขึ้น 34% โดยครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีที่แล้ว เนื่องจาก migration จาก 2G -> 3G ของ oprator
o ปัจจุบัน 2G ยังอยู่ในตลาดประมาณ 80% ปี 2014-2015 ทุกคนต้องทยอยเปลี่ยน
อย่าง AIS ลูกค้าเก่าเปลี่ยนไปแล้ว 5 ล้านเลขหมาย ได้ลูกค้า 3G ใหม่แล้ว 6-7 ล้านเลขหมาย
ดังนั้น AIS ประมาณ 12 ล้านที่อยู่ใน 3G แล้ว ซึ่งรวมแล้วเกือบ 40 ล้านเลขหมาย ยังเหลืออีก 28 ล้านเลขหมาย
ในฝั่งของ DTAC กับ TRUE 2 เจ้ารวมกันน่าจะได้ 55-60% รวมๆก็ 50 กว่าล้านเลขหมายที่จะต้องเปลี่ยนใน 2 ปี
ธุรกิจที่ได้อานิสงค์มากสุดก็คือมือถือ
o Margin น้อย แต่ถ้าได้ volume ผลกำไรก็จะดีขึ้น นอกจากได้รายได้จากเครื่องแล้ว เรายังได้รายได้จาก operator อย่างเช่นเราหา subscriber ให้ก็จะมีรายได้ด้วย (ขายซิมไปกับเครื่อง) คาดว่าจะได้รายได้จากตรงนี้รวมๆกัน 40-50 ล้านบาท
o การขายเครื่องของ operator ในอดีตเคยขายไม่ทัน ขายไม่หมด เจ็บตัว
สิ่งที่ operator ต้องรีบทำคือ migrate ให้เร็วที่สุด ต้องมีเครื่อง ขายเองทำไม่ทันก็ต้องให้ dealer ช่วยกระจาย
เพราะ dealer มีทั้งเครื่องจาก operator และทุกยี่ห้อ ลูกค้าชอบอะไรที่มีให้เลือกเยอะๆ มี accessories ด้วย
ทำให้ลูกค้าไปร้านพวกนี้เยอะ
o ตอนนี้ operator ก็ส่ง promotor มาอยู่ในร้านเรา เพื่อช่วยเชียร์ให้ลูกค้าซื้อเครื่องแล้วซื้อซิมด้วย
ซึ่ง position jmart ชัดเจนว่าเราไม่ได้อิงค่ายใดค่ายหนึ่ง ก็ทำให้รูปโฉมการขายก็เปลี่ยนไปด้วยระดับหนึ่ง
o ในไตรมาส 3 ก็ทำสถิติสูงสุด ทั้งยอดขายและกำไร เป็นสิ่งที่เห็นกระแสอยู่แล้วว่าคนใช้ pc, notebook น้อยลง
o Feature phone สมัยก่อนสัดส่วนกว่า 90% ปัจจุบันที่ jmart เหลืออยู่ 6% ส่วนใหญ่ smartphone กับ tablet 90% กว่า
o Move สินค้าให้เร็ว stock อยู่สั้นที่สุด จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารตรงนี้คือ margin
o Market share ไม่มีตัวเลขชัดเจน ส่วนใหญ่จะถามจาก operator และแบรนด์ต่างๆ ทาง jmart ก็เป็นเบอร์หนึ่ง
o JMT margin กำไรเยอะ แต่ด้วยระบบทางบัญชี เก็บเท่าไร ใน 5 ปีแรกให้เอาไปตัดต้นทุน ยิ่งเก็บเยอะอาจไม่ได้กำไรเพิ่มขึ้น แต่หลังจากที่ตัดต้นทุนหมดแล้ว จึงจะกลับมา เป็นธุรกิจที่มี high margin แต่ต้องตัดต้นทุนให้หมดก่อน เนื่องจากว่า เป็นปัญหาทีไม่มีธุรกิจนี้ในตลาดหลักทรัพย์ กลต.จะยึดถือวิธีที่ปลอดภัยไว้ก่อน เป็นระยะยาว เช่น หนี้ก่อนแรกที่ซื้อมา 1,000 ล้าน ใช้เงิน 39 ล้านบาท ตอนนี้เก็บได้เกือบ 150 ล้านบาทแล้ว และยังเก็บอยู่ ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมาซื้อก้อนใหญ่เยอะ 5,000 ล้าน หนี้ตรงนี้ก็กว่าจะหมดในอีก 2 ปีนี้ ก็เป็นธุรกิจที่มองกำไรได้ยากเหมือนกัน ตัดทุนทั้ง lot ออกหมด ไม่ได้เป็นรายๆ ปกติใช้เวลาในการเก็บ lot หนึ่งได้เป็น 10 ปี ใช้เวลาเฉลี่ย 4-5 ปี จะตัดต้นทุนได้หมดต่อกอง
o ใครอยากรู้วิธีตัดต้นทุน JMT ดูได้ใน money talk weekly
TRUE จะมีกำไรไหมปีนี้?
ธุรกิจหลัก 3 ประเภท ที่ผ่านมากำไร 2 ตัวมาตลอด บรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ท กำไรมาตลอด 10 กว่าปี มีเทรนด์ที่โตขึ้นเรื่อยๆ โต เกือบ 20% ทุกปี ธุรกิจเคบิ้ลทีวีก็กำไร ส่วนธุรกิจมือถือ ขายทุนมาตลอด คือสัญญาสัมปทาน ได้รับมาสายกว่าคนอื่น ผู้บริการอื่นเกิดก่อนเรา 10 กว่าปี เราจึงได้ระยะเวลาสัมปทานสั้นสุด ลงทุนโครงข่ายไปต้องโอนทรัพย์สินให้ผู้ให้สัญญา และต้องตัดค่าเสื่อม โดยธรรมดาตัดค่าเสื่อม 12-15 ปี สมมติ true ปีก่อน ต้องลงทุน เหลือสัญญาสัมปทาน 1 ปี ต้อง write off ใน 1 ปี และเกิดทีหลังก็มีสัญญาสัมปทานสูงกว่าคนอื่น ซึ่งตอนนี้ปลดไปหมดแล้ว เมื่อ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา
ถ้าปีที่แล้วดูโทรศัพท์มือถือไหนมีค่ากว่ากัน ดูว่าสัญญาสัมปทานเหลือเท่าไร เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมาย ยิ่งยาวยิ่งทำธุรกิจได้นาน แต่วันนี้เป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่หลวง ทุกคนได้ใบอนุญาติไปอีก 15 ปี กลับกันเลย ใครมีสัญญาสัมปทานยาวสุดมีภาระสุด
ตอนนี้ true ก็ focus ในการลงทุนด้นการตลาด เพื่อคงความเป็นผู้นำ 3G
หนี้ประมาณ 1 แสนล้านบาท เป็นจุดอ่อนของ true มาตลอด ทั้งผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้สนับสนุนมาตลอด
ถ้าดูงบดุล ทรัพย์สินเรามีความพิเศษอย่างมาก เพราะประกอบไปด้วย content ที่มากสุด ทั้งใน internet และจอทีวี
ซึ่งจะเป็นจุดแตกต่างหลักในอนาคต อุปกรณ์โครงข่ายทุก operator สั่งจากที่เดียวกันหมด มีอยู่ไม่กี่ยี่ห้อในโลก
โทรศัพท์มือถือก็เหมือนกัน ซึ่งที่แตกต่างคือความครอบคลุม นวัตกรรมใหม่ๆ จะเกี่ยวกับ content application ที่ใช้
ใครรู้จักผู้บริโภคดีกว่ากัน ให้บริการตรงใจ และ distribution channel ให้ง่ายที่สุดในการซื้อมือถือและบริการ
อีกอย่างคือ after sales service true internet มี shopping ที่ใหญ่สุดใน south east asia , music
คลื่นความถี่สูงยิ่งครอบคลุมน้อย คลื่นความถี่ต่ำ ถูกใช้หมดแล้ว อย่างวิทยุ AM ไปถึงนครสวรรค์ก็ยังได้ยิน
แต่ถ้าวิทยุ FM ขับไปไกลนิดเดียวก็ไม่ได้ยินแล้ว
ดังนั้นในอดีตคลื่นความถี่ต่ำ ก็ได้เปรียบ และทะลุทะลวงตึก กำแพงได้ดีกว่า
ตอนนี้เรา partner กับ CAT คลื่น3G 850 MHz ซึ่งทำให้เราครอบคลุมในประเทศไทย
กองทุนโครงสร้างพื้นฐานมีจริงไหม? ลงรายละเอียดมากไม่ได้ มีจริง เราลงทุนเป็นแสนล้านบาทในการตั้งเสา สาย fiber optic ซึ่งเราใช้คนเดียว ซึ่งสามารถแชร์ได้ 4-5 operator ในอดีตไม่แชร์กัน ซึ่งกลต.ดึงดูดให้มาลงทุน
1) กองทุนโครงสร้างพื้นฐานไม่เสียภาษี จนกระทั่งเปลี่ยนกฏหมาย กำไรเท่าไรปันผลได้หมด
2) นักลงทุนไม่ต้องเสียภาษี ไม่มีหักภาษี ณ ที่จ่าย ภาษีปันผล
3) ปันผลบนกระแสเงินสด ไม่ใช่บนกำไรสุทธิ ให้ปันผลห้ามต่ำกว่า 90%
4) กองทุนให้กู้ได้ ถึง 3 เท่าของเงินทุน true ขายเฉพาะเสากับสาย fiber optic ซึ่ง true
จะได้เงินเข้ามามากพอที่จะให้กองทุนไปปล่อยให้เช่าได้ ผู้ให้บริการต้องให้บริการคลื่นสูงขึ้น
จึงต้องการเสามากขึ้น ไปสร้างเสาเองก็มีต้นทุนสูงมาก และทำให้ระยะเวลาเข้าถึงลูกค้าเร็วกว่า
3G ที่ผ่านมาไม่มีผู้ประมูลอื่นต่างประเทศเข้ามา ถ้ามาตั้งเสาเองใช้เวลา 5-6 ปีกว่าจะให้บริการได้
กองทุนโครงสร้างพื้นฐานห้ามกลุ่มบริษัทใดถือมากกว่า 1 ส่วน 3 เพื่อให้กองทุนเป็นกลาง เจ้าอื่นก็สามารถเอาเสาหรืออุปกรณ์เข้ามาในกองทุนได้
ทรัพย์สินปราศจากความโต้แย้ง ซึ่งทำให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติการตั้งกองทุนทั้งหมด
จะขายทรัพย์สินรวมกันประมาณ 6-8 หมื่นล้านบาท พยายามจะลดหนี้มากที่สุด ยังตอบไม่ได้ว่าแค่ไหน
UAC
o รายได้คาดจะโตเกิน 20% ตามที่คาดไว้ กำไรก็เป็นไปตามแผนโตตามรายได้
o ไตรมาส 3 ผลก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ในปี 58 ก็น่าจะมีรายได้จากโรงงงานที่เราลงทุนไปได้เต็มร้อย น่าจะมากกว่าปีนี้ได้เป็นเท่า ในปัจจุบันยังเป็นธุรกิจเดิมเป็นหลัก ปีหน้าจะมากขึ้น
STPI
o รายได้จะเป็นลูกคลื่น อาจความถี่ต่ำหน่อย
o อยู่ห่างไกลผู้บริโภค เป็น upstream จังหวะที่เราเต็มกำลังการผลิตจะใช้เวลาอีก 3 ปีกว่าจะจบโครงการของญี่ปุ่นที่ทำอยู่ ทำให้รับงานใหม่ไม่ได้ กว่าเราจะพร้อมก็ไม่ใช่ว่าลูกค้าจะรอจ้างงานเรา เพราะมีคู่แข่งอื่นเหมือนกันในตลาด
o เป็น Project ที่ 3 ที่เราทำ 2 ครั้งแรกจะมีการชะงักของรายได้ 1-1.5 ปี ถ้าทำงานนี้ 1 งานจะมีค่าเท่ากับทำงานอื่น 5 งาน
o ถ้าจะให้รับงานได้ต่อเนื่องต้องมีกำลังผลิตมากกว่านี้ 1 เท่าตัว แต่ก็ยังไม่อยากก้าวกระโดดเร็วเกินไป และภาครัฐเราก็ไม่ได้สนับสนุน
o ในช่วงแรกที่รับงานจะขนาดไม่ใหญ่มากอย่างสุวรรณภูมิ งานบางประเภทก็มีกำไรต่ำ ตอนหลังเลยเปลี่ยนไปรับงานต่างประเทศ
o เคยรับงานที่ได้ margin มากกว่าต้นทุน ลูกค้าทราบก็ยังไม่เป็นไรเพราะขึ้นกับการบริหารของเรา แต่คู่แข่งทราบก็จะมาดูว่าเราทำอย่างไร และมีการตัดราคา ทำให้เราต้องหาทางหนีออกไปเรื่อยๆ
o เรื่องคู่แข่งไม่กลัว อยากให้ทำกันเยอะๆจะได้เกิดบุคลากรและแรงงาน ตอนนี้ใช้แรงงานฝีมือเกิน 10,000 คน มันหมดประเทศแล้ว และซ้ำเติมด้วยนโยบายบางอย่างที่ให้จ่ายค่าแรงสูงๆ ราคาก็ต้องสูงขึ้นอีก ก็ต้องใส่ไปในต้นทุนประมูล
o ถ้าหากภาครัฐไม่ดูภาคเอกชนต่อไปก็จะกลับมาที่เอกชน ใครจะเป็นคนจ้างงาน ภาครัฐบาลจ้างคนอยู่น้อย
o เมื่อเอานโยบายให้เกษตรกรทำให้เกษตรกรรมก็ไม่เคลื่อนตัวมาที่เทคโนโลยี ถ้าให้ 3 จังหวัดภาคใต้มาให้ stpi ทำ จะสามารถสร้างรายได้มากกว่าภูเก็ต
o คุณนพปฎลช่วยเสริม ในโลกนี้มี 20 รายที่ทำได้ และที่ได้ margin เป็นเท่าตัวของต้นทุนเพราะมี knowhow และ scale ที่มีในมือ
Go against and stay alive.
- i-salmon
- Verified User
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Money talk@SET27Oct13"Megatrend"ICT/หุ้นเด่น/กลยุทธ์ลงทุ
โพสต์ที่ 4
ช่วงที่ 3 “กลยุทธ์ลงทุนหุ้น MegaTrend”
คุณธันวา เลาหศิริวงศ์ อดีตนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการMegatrend ในโลก
เกริ่นนำ
อ.เสน่ห์ Megatrend จาก convergence 4 อย่าง
1) Device convergence พวก smartphone เอาสิ่งทั้งหลายมารวมกัน
2) Media convergence เกิดการหลอมรวมสื่อเข้าด้วยกัน
3) Network convergence เครือข่าวต่างๆมารวมกัน อย่างพวก tv ด้วย
4) Content convergence จัดระเบียบ content มาอยู่ด้วยกัน
Megatrend?
• คุณธันวา
o มีหลายมุมมอง ของโลกขอแบ่งเป็น 3 ส่วน
1) data การใช้ปริมาณข้อมูลสารสนเทศเยอะขึ้น
o research IBM บอกว่าข้อมูลทั้งหมดที่มีในวันนี้ ในปี 2014 จะเท่ากับข้อมูลที่เราใช้เพียง 2 วัน
เนื่องจากอดีตใช้ข้อมูล B2B แล้วเป็น B2C ซึ่งถัดมาเป็น C2C ปริมาณคนใช้ google, facebook,twitter,instagram,line
ซึ่งจะเป็น trend ที่เติบโตต่อเนื่อง คนในโลกใช้ google เยอะสุด เป็น 60 ประเทศที่เจริญแล้ว
facebook ใช้เยอะสุด 50 กว่าประเทศ
o Smart device คนจะใช้เยอะขึ้น จะมีความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจและพฤติกรรมของคน
o อุตสาหกรรมโฆษณามีทำวิจัย ก่อน information technology เข้ามา
สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือ อุตสาหกรรมออนไลน์ 23% -> 38% สื่อโทรทัศน์ ไม่เติบโต แต่ยังใช้อยู่ สื่อกลางแจ้ง ลดลง
o สินค้าเทคโนโลยี ต่างประเทศบ.จำหน่ายเทคโนโลยีก็ไม่ค่อยดี ร้านที่เกี่ยวกับ it น้อยลงไปเยอะ
บางร้านให้ซื้อทางอินเทอร์เน็ทแล้วค่อยไปรับสินค้า มี e-book , shopping mall เกิดขึ้น
2) ประชากรโลกอายุยืนมากขึ้น มีงานวิจัยในอเมริกา คนจะอายุถึง 100 ปีมากกว่า 10%
ต่อไปจะต้องแยกการเกษียณกับแก่ ออกจากกัน บางที่ก็ยืดอายุเกษียณออกไป
อย่างสิงคโปร์ จาก 60 -> 65 ปี สิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงคืออุตสาหกรรม health care
ซึ่งประเทศไทยก็มีแนวโน้มคล้ายๆกัน
3) เอเชีย ประเทศที่จะมีบทบาทมากขึ้น คือ จีน อินเดีย ถ้าจะลงทุนก็เลือกกิจการที่อยู่ในแถบเจริญเติบโต
ในปี 2020 ประเทศจีนจะใหญ่ที่สุด มีการเติบโต GDP สูง และมีประชากรสูงสุด
o อ.ไพบูลย์ เสริมว่าเพื่อนส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ 80% จีน 20% อินเดีย คิดว่าใครมาแรงกว่า
o อ.เสน่ห์ จีนประชากร 1350 คน ไปก็เจอการเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง แต่คนยังเหมือนเดิม เค้าปรับคล้ายๆญี่ปุ่น เมื่อก่อนก็ copy เหมือนกัน อินเดีย มีมหาเศรษฐีหลายคนในโลก ก็มีศักยภาพ ประเทศที่อยากให้จับตาดูคือพม่า มีตำแหน่งที่ได้เปรียบที่ถูกหนีบด้วยจีนและอินเดีย ซึ่งจะเป็นเส้นทางผ่านของทางสายใหม่ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น hub เป็นอะไรที่อยู่ใกล้บ้านเรา เชียงใหม่จะเป็นจังหวัดที่ต่อเชื่อมกับพม่าเข้ามา
คุณธันวา
o ในแง่เศรษฐกิจจะเห็น M&A มากขึ้น เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ บริษัทใหญ่ก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บริษัทเล็กก็ต้องหาจุดของตัวเองอยู่ให้ได้ นักลงทุนก็ต้องดูบริษัทใหญ่ที่มีความสามารถไปซื้อกิจการ หรือบริษัทเล็กที่อยู่รอดได้ หรือเป็นเป้าหมายในการถูกเข้าซื้อ
• ดร.นิเวศน์
o คุณธันวาและอ.เสน่ห์พูดเรื่องอนาคตไปหมดแล้ว ก็เลยจะพูดย้อนหลังแทน
o ย้อนไปสมัยมนุษย์เกิดมา อะไรจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน แต่พฤติกรรมมนุษย์ไม่ได้เปลี่ยน เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีภารกิจใหญ่ คือ
1) เอาตัวรอด 2) การแพร่พันธุ์/สืบพันธุ์
o มาดูว่าทุกวันนี้มนุษย์ทำอะไร และ megatrend เกี่ยวกับเรื่องมนุษย์อย่างไร
o มนุษย์ก็ทำอะไรให้สามารถเอาตัวรอดได้ดีขึ้น สินค้า หรือ บริการอะไรที่ช่วยให้มนุษย์เอาตัวรอดได้ดี
o อาหาร ที่ดีขึ้น, พลังงาน, ความสะดวกสบาย, การประหยัด
o คนในสมัยก่อนไม่ได้มีของเหลือล้นแบบในวันนี้ การมีอาหารกินคือการเอาตัวรอด พอพัฒนามาจุดหนึ่ง ก็ต้องการอาหารที่ดีขึ้นเพื่อเอาตัวรอดได้ดีขึ้น ประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา เพื่อเอาเวลาไปหาอาหารหรือสืบพันธุ์ การเอาตัวรอดรวมถึงสุขภาพด้วย ถ้ามีเทคโนโลยีที่ปรับปรุงเรื่องเหล่านี้ได้ มนุษย์ก็จะเข้าไปทำถ้ามีปัญญา
o การสืบพันธุ์
ความสวยงาม
ความฟุ่มเฟือย
การท่องเที่ยว - คนสมัยก่อนไม่มีเครื่องบิน ถ้าสืบพันธุ์ในหมู่บ้านเล็กๆเป็นโรคจะตายหมด
ต้องไปสืบพันธุ์ไกลๆ มันฝังอยู่ในยีนส์ ต้องไปให้ไกล
o ดังนั้น Megatrend มี 2 อย่าง New development new innovation เป็นเรื่องระดับโลก ที่ปรับปรุงชีวิต ช่วยให้สืบพันธุ์ได้มากขึ้น คนอเมริกันก็จะเปลี่ยนไปใช้บริการ คนไทยบางส่วนก็จะใช้ถ้ามีปัญญา
o เดินทางด้วยเรือสมัยก่อนเป็น megatrend สมัยนี้เป็นเครื่องบินแทน จะมี development จากของเดิมและไม่แพงเกินไป
ตอนที่เครื่องบินบินได้ใหม่ๆยังไม่เป็น megatrend เพราะมันแพงเกินไป พอรายได้ถึงจุดที่บินได้
แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้รวย คนชั้นกลางกลุ่มใหญ่บินได้ การบินก็เติบโตกระโดด
o ในประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์คล้ายกับการบินเยอะไปหมด ผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีปัญญาใช้ เช่น ห้างสรรพสินค้า เมื่อก่อนเซ็นทรัลเปิดไม่มีคนเข้ามาเดิน จนถึงวันนึงห้างเปิดกับเต็มไปหมด เพราะคนกรุงเทพมีเงินมากพอ มีปัญญาซื้อของได้ ทำให้ห้าง traditional ตายหมด แต่ในต่างจังหวัดก็ยังไม่เกิด ห้างหรูๆเปิดไม่ได้ ตอนนี้เริ่มเห็น รายได้คนต่างจังหวัดโตเร็วมาก เร็วกว่ากรุงเทพ ต่อมาหัวเมืองใหญ่เริ่มเปิด ห้างอาจกลายเป็นเมกะเทรนด์ไป
o เมกะเทรนด์บางอย่างไม่สามารถหาผู้ชนะได้ บางอย่างเป็น thread
เพราะเข้ามาแข่งกันกันมากเพราะทุกอคนอยากจับเมกาเทรนด์
o การกินอาหารนอกบ้าน สมัยก่อนเป็นของที่แพงเกินไป ก็ไปกินตามตลาด ตอนนี้พอมีรายได้ก็กินร้านอาหารมีแอร์ อย่างในอเมริกาอาจจะเลยเมกาเทรนด์ไปแล้ว เพราะทำเป็นปกติ
o ช่วงที่คนตกงานเยอะๆ รายได้ประชาชนขึ้นช้ามาก คนสมัยนี้หายาก รายได้ส่วนบุคคลจะขึ้นเร็วมาก คนล้นเหลือเงินจะขึ้นยากมาก ตอนหลังจะขึ้นเร็วมาก พวกเราจะกลายเป็น consumer อะไรที่เป็นของ consumer ถ้าตรงนั้นดีขึ้น ของอำนวยความสะดวก ต่างๆก็อาจกลายเป็นเมกาเทรนด์ แต่ก่อนเป็นปิรามิดพอถึงจุดหนึ่ง คนทั้งประเทศมีปัญญาใช้ ของที่ดีขึ้นก็จะเป็นเมกาเทรนด์
o ไม่จำเป็นต้องเป็น hi-tech เป็นของ low-tech แต่คุณภาพดีขึ้นก็ได้
o การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า พอรายได้เพิ่มถึงจุดหนึ่งคนก็เดินทางได้มากขึ้น มันจะมีจุดที่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
หุ้น Megatrend เลือกยังไง ?
ดร.นิเวศน์
• เลือกบริษัทที่โดดเด่น เป็นผู้ชนะ และรอเวลาที่เติบโต ขยายเพิ่มเติม
• ถ้ายังไม่มีผู้ชนะต้องระวัง เช่น TV digital ถึงจะดีกว่าของเดิม แต่ยังไม่รู้ใครจะชนะ ถ้าถือผู้แพ้เราก็เจ๊ง
• โทรคมนาคมไม่ได้มองว่าเป็น Megatrend ไม่ค่อยมี improvement สัญญาณมือถือก็มีใช้กันอยู่แล้ว ถ้าเรื่อง 2G ย้ายไป 3G ก็เป็น megatrend ของธุรกิจขายโทรศัพท์มือถือที่ smart
Megatrend ?
คุณธันวา
• 1) มองว่าโทรคมนาคมเป็น megatrend
• Migrate 3G จะทำให้มี application มากขึ้น ใช้ข้อมูลมากขึ้น
• คนไม่ได้มี device อันเดียว อย่างผมมี 3 อัน notebook, ipad, มือถือ
• ระยะสั้นถึงกลางยังเติบโตได้
• 2) โรงพยาบาล aging population
• 3) ค้าปลีก เชื่อว่าจะขยายตัวต่อไปได้อีก
o เพิ่มสาขา
o Product mix เช่น อาหารพร้อมทาน ในต่างประเทศมีสัดส่วนการขายมากกว่านี้ มี packaging และรสชาติดีกว่านี้
o House brand เจ้าของ chain สามารถทำอาหารขายในแบรนด์ตัวเอง และวิจัยพัฒนาเองได้
หุ้น Megatrend เลือกยังไง ?
คุณธันวา
• เลือกผู้ชนะ
• ศักยภาพในการแข่งขันอย่างยั่งยืน
• พยายามอย่า time the market เราอาจจะไม่ถูกเสมอไป
อ.เสน่ห์
• Megatrend เศรษฐกิจชายแดน
o AEC ทำให้เกิดการขยายเมือง ประเทศ CLMV เป็นโอกาส
o โดยเฉพาะอิสาน ค้าปลีก โรงพยาบาลเข้าไปแล้ว
o เชียงราย,อุบลราชธานี น่าสนใจมี 3 ประเทศชนกัน
o มองข้ามลาวไม่ได้
เมื่อก่อนมองว่าเป็น Land lock เป็น Land link คือจะไม่ออกทะเล แต่ใครจะออกทะเลต้องผ่านลาว
จากท่าเรือพม่ามีมะละแหล่ง ตัดผ่านจังหวัดตาก ผ่านลาว และลงเวียดนามไป ดานัง จะเกิดการเชื่อมต่อ
ลาวจะเป็น Battery of ASEAN เป็นประเทศที่มีสำรองน้ำมากเป็นอันดับ 2 ของโลก (อันดับ 1 แคนาดา)
• มีแม่น้ำโขง จีนปล่อยน้ำลงมาให้
• ไต้ฝุ่นปะทะที่เวียดนามมาเป็นฝนที่เวียดนาม
สุดท้ายจะทำพวกเขื่อนพลังงานน้ำ
พื้นที่ชายแดนก็จะเกิดการพัฒนา เช่น กาญจนบุรี ตาก เชียงใหม่ เชียงราย มุกดาหาร ตราด
ข้อสังเกตควรระวัง?
ดร.นิเวศน์
• ที่คุณธันวาพูดก็ครอบคลุมหมดแล้ว
• ในหลายอุตสาหกรรมแม้จะเป็น megatrend ก็อาจหาผู้ชนะไม่ได้ เพราะโครงสร้างอุตสาหกรรมทำไม่ได้
• เช่น สมัยก่อน คอมพิวเตอร์เป็น megatrend แต่คนขายคอมพิวเตอร์ ตายหมด เพราะแข่งขันกันหนัก ไม่สามารถสร้างความแตกต่าง
• บางอย่างชนะแต่วันหนึ่งก็อาจจะแพ้ได้ เช่น การบิน คู่แข่งเข้ามาเปิดแข่งได้ทั่วโลก เส้นทางดีก็เปิดได้เหมือนกัน
หมดแล้วครับ ถ้าขาดตกบกพร่องหรือผิดประการใดช่วยแก้ไขให้ได้นะครับ ขอบคุณครับ
คุณธันวา เลาหศิริวงศ์ อดีตนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการMegatrend ในโลก
เกริ่นนำ
อ.เสน่ห์ Megatrend จาก convergence 4 อย่าง
1) Device convergence พวก smartphone เอาสิ่งทั้งหลายมารวมกัน
2) Media convergence เกิดการหลอมรวมสื่อเข้าด้วยกัน
3) Network convergence เครือข่าวต่างๆมารวมกัน อย่างพวก tv ด้วย
4) Content convergence จัดระเบียบ content มาอยู่ด้วยกัน
Megatrend?
• คุณธันวา
o มีหลายมุมมอง ของโลกขอแบ่งเป็น 3 ส่วน
1) data การใช้ปริมาณข้อมูลสารสนเทศเยอะขึ้น
o research IBM บอกว่าข้อมูลทั้งหมดที่มีในวันนี้ ในปี 2014 จะเท่ากับข้อมูลที่เราใช้เพียง 2 วัน
เนื่องจากอดีตใช้ข้อมูล B2B แล้วเป็น B2C ซึ่งถัดมาเป็น C2C ปริมาณคนใช้ google, facebook,twitter,instagram,line
ซึ่งจะเป็น trend ที่เติบโตต่อเนื่อง คนในโลกใช้ google เยอะสุด เป็น 60 ประเทศที่เจริญแล้ว
facebook ใช้เยอะสุด 50 กว่าประเทศ
o Smart device คนจะใช้เยอะขึ้น จะมีความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจและพฤติกรรมของคน
o อุตสาหกรรมโฆษณามีทำวิจัย ก่อน information technology เข้ามา
สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือ อุตสาหกรรมออนไลน์ 23% -> 38% สื่อโทรทัศน์ ไม่เติบโต แต่ยังใช้อยู่ สื่อกลางแจ้ง ลดลง
o สินค้าเทคโนโลยี ต่างประเทศบ.จำหน่ายเทคโนโลยีก็ไม่ค่อยดี ร้านที่เกี่ยวกับ it น้อยลงไปเยอะ
บางร้านให้ซื้อทางอินเทอร์เน็ทแล้วค่อยไปรับสินค้า มี e-book , shopping mall เกิดขึ้น
2) ประชากรโลกอายุยืนมากขึ้น มีงานวิจัยในอเมริกา คนจะอายุถึง 100 ปีมากกว่า 10%
ต่อไปจะต้องแยกการเกษียณกับแก่ ออกจากกัน บางที่ก็ยืดอายุเกษียณออกไป
อย่างสิงคโปร์ จาก 60 -> 65 ปี สิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงคืออุตสาหกรรม health care
ซึ่งประเทศไทยก็มีแนวโน้มคล้ายๆกัน
3) เอเชีย ประเทศที่จะมีบทบาทมากขึ้น คือ จีน อินเดีย ถ้าจะลงทุนก็เลือกกิจการที่อยู่ในแถบเจริญเติบโต
ในปี 2020 ประเทศจีนจะใหญ่ที่สุด มีการเติบโต GDP สูง และมีประชากรสูงสุด
o อ.ไพบูลย์ เสริมว่าเพื่อนส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ 80% จีน 20% อินเดีย คิดว่าใครมาแรงกว่า
o อ.เสน่ห์ จีนประชากร 1350 คน ไปก็เจอการเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง แต่คนยังเหมือนเดิม เค้าปรับคล้ายๆญี่ปุ่น เมื่อก่อนก็ copy เหมือนกัน อินเดีย มีมหาเศรษฐีหลายคนในโลก ก็มีศักยภาพ ประเทศที่อยากให้จับตาดูคือพม่า มีตำแหน่งที่ได้เปรียบที่ถูกหนีบด้วยจีนและอินเดีย ซึ่งจะเป็นเส้นทางผ่านของทางสายใหม่ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น hub เป็นอะไรที่อยู่ใกล้บ้านเรา เชียงใหม่จะเป็นจังหวัดที่ต่อเชื่อมกับพม่าเข้ามา
คุณธันวา
o ในแง่เศรษฐกิจจะเห็น M&A มากขึ้น เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ บริษัทใหญ่ก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บริษัทเล็กก็ต้องหาจุดของตัวเองอยู่ให้ได้ นักลงทุนก็ต้องดูบริษัทใหญ่ที่มีความสามารถไปซื้อกิจการ หรือบริษัทเล็กที่อยู่รอดได้ หรือเป็นเป้าหมายในการถูกเข้าซื้อ
• ดร.นิเวศน์
o คุณธันวาและอ.เสน่ห์พูดเรื่องอนาคตไปหมดแล้ว ก็เลยจะพูดย้อนหลังแทน
o ย้อนไปสมัยมนุษย์เกิดมา อะไรจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน แต่พฤติกรรมมนุษย์ไม่ได้เปลี่ยน เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีภารกิจใหญ่ คือ
1) เอาตัวรอด 2) การแพร่พันธุ์/สืบพันธุ์
o มาดูว่าทุกวันนี้มนุษย์ทำอะไร และ megatrend เกี่ยวกับเรื่องมนุษย์อย่างไร
o มนุษย์ก็ทำอะไรให้สามารถเอาตัวรอดได้ดีขึ้น สินค้า หรือ บริการอะไรที่ช่วยให้มนุษย์เอาตัวรอดได้ดี
o อาหาร ที่ดีขึ้น, พลังงาน, ความสะดวกสบาย, การประหยัด
o คนในสมัยก่อนไม่ได้มีของเหลือล้นแบบในวันนี้ การมีอาหารกินคือการเอาตัวรอด พอพัฒนามาจุดหนึ่ง ก็ต้องการอาหารที่ดีขึ้นเพื่อเอาตัวรอดได้ดีขึ้น ประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา เพื่อเอาเวลาไปหาอาหารหรือสืบพันธุ์ การเอาตัวรอดรวมถึงสุขภาพด้วย ถ้ามีเทคโนโลยีที่ปรับปรุงเรื่องเหล่านี้ได้ มนุษย์ก็จะเข้าไปทำถ้ามีปัญญา
o การสืบพันธุ์
ความสวยงาม
ความฟุ่มเฟือย
การท่องเที่ยว - คนสมัยก่อนไม่มีเครื่องบิน ถ้าสืบพันธุ์ในหมู่บ้านเล็กๆเป็นโรคจะตายหมด
ต้องไปสืบพันธุ์ไกลๆ มันฝังอยู่ในยีนส์ ต้องไปให้ไกล
o ดังนั้น Megatrend มี 2 อย่าง New development new innovation เป็นเรื่องระดับโลก ที่ปรับปรุงชีวิต ช่วยให้สืบพันธุ์ได้มากขึ้น คนอเมริกันก็จะเปลี่ยนไปใช้บริการ คนไทยบางส่วนก็จะใช้ถ้ามีปัญญา
o เดินทางด้วยเรือสมัยก่อนเป็น megatrend สมัยนี้เป็นเครื่องบินแทน จะมี development จากของเดิมและไม่แพงเกินไป
ตอนที่เครื่องบินบินได้ใหม่ๆยังไม่เป็น megatrend เพราะมันแพงเกินไป พอรายได้ถึงจุดที่บินได้
แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้รวย คนชั้นกลางกลุ่มใหญ่บินได้ การบินก็เติบโตกระโดด
o ในประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์คล้ายกับการบินเยอะไปหมด ผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีปัญญาใช้ เช่น ห้างสรรพสินค้า เมื่อก่อนเซ็นทรัลเปิดไม่มีคนเข้ามาเดิน จนถึงวันนึงห้างเปิดกับเต็มไปหมด เพราะคนกรุงเทพมีเงินมากพอ มีปัญญาซื้อของได้ ทำให้ห้าง traditional ตายหมด แต่ในต่างจังหวัดก็ยังไม่เกิด ห้างหรูๆเปิดไม่ได้ ตอนนี้เริ่มเห็น รายได้คนต่างจังหวัดโตเร็วมาก เร็วกว่ากรุงเทพ ต่อมาหัวเมืองใหญ่เริ่มเปิด ห้างอาจกลายเป็นเมกะเทรนด์ไป
o เมกะเทรนด์บางอย่างไม่สามารถหาผู้ชนะได้ บางอย่างเป็น thread
เพราะเข้ามาแข่งกันกันมากเพราะทุกอคนอยากจับเมกาเทรนด์
o การกินอาหารนอกบ้าน สมัยก่อนเป็นของที่แพงเกินไป ก็ไปกินตามตลาด ตอนนี้พอมีรายได้ก็กินร้านอาหารมีแอร์ อย่างในอเมริกาอาจจะเลยเมกาเทรนด์ไปแล้ว เพราะทำเป็นปกติ
o ช่วงที่คนตกงานเยอะๆ รายได้ประชาชนขึ้นช้ามาก คนสมัยนี้หายาก รายได้ส่วนบุคคลจะขึ้นเร็วมาก คนล้นเหลือเงินจะขึ้นยากมาก ตอนหลังจะขึ้นเร็วมาก พวกเราจะกลายเป็น consumer อะไรที่เป็นของ consumer ถ้าตรงนั้นดีขึ้น ของอำนวยความสะดวก ต่างๆก็อาจกลายเป็นเมกาเทรนด์ แต่ก่อนเป็นปิรามิดพอถึงจุดหนึ่ง คนทั้งประเทศมีปัญญาใช้ ของที่ดีขึ้นก็จะเป็นเมกาเทรนด์
o ไม่จำเป็นต้องเป็น hi-tech เป็นของ low-tech แต่คุณภาพดีขึ้นก็ได้
o การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า พอรายได้เพิ่มถึงจุดหนึ่งคนก็เดินทางได้มากขึ้น มันจะมีจุดที่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
หุ้น Megatrend เลือกยังไง ?
ดร.นิเวศน์
• เลือกบริษัทที่โดดเด่น เป็นผู้ชนะ และรอเวลาที่เติบโต ขยายเพิ่มเติม
• ถ้ายังไม่มีผู้ชนะต้องระวัง เช่น TV digital ถึงจะดีกว่าของเดิม แต่ยังไม่รู้ใครจะชนะ ถ้าถือผู้แพ้เราก็เจ๊ง
• โทรคมนาคมไม่ได้มองว่าเป็น Megatrend ไม่ค่อยมี improvement สัญญาณมือถือก็มีใช้กันอยู่แล้ว ถ้าเรื่อง 2G ย้ายไป 3G ก็เป็น megatrend ของธุรกิจขายโทรศัพท์มือถือที่ smart
Megatrend ?
คุณธันวา
• 1) มองว่าโทรคมนาคมเป็น megatrend
• Migrate 3G จะทำให้มี application มากขึ้น ใช้ข้อมูลมากขึ้น
• คนไม่ได้มี device อันเดียว อย่างผมมี 3 อัน notebook, ipad, มือถือ
• ระยะสั้นถึงกลางยังเติบโตได้
• 2) โรงพยาบาล aging population
• 3) ค้าปลีก เชื่อว่าจะขยายตัวต่อไปได้อีก
o เพิ่มสาขา
o Product mix เช่น อาหารพร้อมทาน ในต่างประเทศมีสัดส่วนการขายมากกว่านี้ มี packaging และรสชาติดีกว่านี้
o House brand เจ้าของ chain สามารถทำอาหารขายในแบรนด์ตัวเอง และวิจัยพัฒนาเองได้
หุ้น Megatrend เลือกยังไง ?
คุณธันวา
• เลือกผู้ชนะ
• ศักยภาพในการแข่งขันอย่างยั่งยืน
• พยายามอย่า time the market เราอาจจะไม่ถูกเสมอไป
อ.เสน่ห์
• Megatrend เศรษฐกิจชายแดน
o AEC ทำให้เกิดการขยายเมือง ประเทศ CLMV เป็นโอกาส
o โดยเฉพาะอิสาน ค้าปลีก โรงพยาบาลเข้าไปแล้ว
o เชียงราย,อุบลราชธานี น่าสนใจมี 3 ประเทศชนกัน
o มองข้ามลาวไม่ได้
เมื่อก่อนมองว่าเป็น Land lock เป็น Land link คือจะไม่ออกทะเล แต่ใครจะออกทะเลต้องผ่านลาว
จากท่าเรือพม่ามีมะละแหล่ง ตัดผ่านจังหวัดตาก ผ่านลาว และลงเวียดนามไป ดานัง จะเกิดการเชื่อมต่อ
ลาวจะเป็น Battery of ASEAN เป็นประเทศที่มีสำรองน้ำมากเป็นอันดับ 2 ของโลก (อันดับ 1 แคนาดา)
• มีแม่น้ำโขง จีนปล่อยน้ำลงมาให้
• ไต้ฝุ่นปะทะที่เวียดนามมาเป็นฝนที่เวียดนาม
สุดท้ายจะทำพวกเขื่อนพลังงานน้ำ
พื้นที่ชายแดนก็จะเกิดการพัฒนา เช่น กาญจนบุรี ตาก เชียงใหม่ เชียงราย มุกดาหาร ตราด
ข้อสังเกตควรระวัง?
ดร.นิเวศน์
• ที่คุณธันวาพูดก็ครอบคลุมหมดแล้ว
• ในหลายอุตสาหกรรมแม้จะเป็น megatrend ก็อาจหาผู้ชนะไม่ได้ เพราะโครงสร้างอุตสาหกรรมทำไม่ได้
• เช่น สมัยก่อน คอมพิวเตอร์เป็น megatrend แต่คนขายคอมพิวเตอร์ ตายหมด เพราะแข่งขันกันหนัก ไม่สามารถสร้างความแตกต่าง
• บางอย่างชนะแต่วันหนึ่งก็อาจจะแพ้ได้ เช่น การบิน คู่แข่งเข้ามาเปิดแข่งได้ทั่วโลก เส้นทางดีก็เปิดได้เหมือนกัน
หมดแล้วครับ ถ้าขาดตกบกพร่องหรือผิดประการใดช่วยแก้ไขให้ได้นะครับ ขอบคุณครับ
Go against and stay alive.
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: Money talk@SET27Oct13"Megatrend"ICT/หุ้นเด่น/กลยุทธ์ลงทุ
โพสต์ที่ 15
สุดยอดเรย
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- แสนยานุภาพ
- Verified User
- โพสต์: 598
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Money talk@SET27Oct13"Megatrend"ICT/หุ้นเด่น/กลยุทธ์ลงทุ
โพสต์ที่ 18
ขอบคุณมากครับ
Remember, investing in the stock market is a marathon and not a slot machine.
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Money talk@SET27Oct13"Megatrend"ICT/หุ้นเด่น/กลยุทธ์ลงทุ
โพสต์ที่ 21
ขอบคุณมากๆครับ ที่แบ่งปัน น้ำใจงาม
แต่ขอเอารูปภาพออกนะครับ ใหญ่เกินไปครับ
แต่ขอเอารูปภาพออกนะครับ ใหญ่เกินไปครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 24
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Money talk@SET27Oct13"Megatrend"ICT/หุ้นเด่น/กลยุทธ์ลงทุ
โพสต์ที่ 24
เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปฟัง ขอบคุณครับ
ค้นหาอิสระ รักษาสุขภาพ ตอบแทนผู้มีพระคุณ และทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2455
- ผู้ติดตาม: 1
Re: Money talk@SET27Oct13"Megatrend"ICT/หุ้นเด่น/กลยุทธ์ลงทุ
โพสต์ที่ 28
คลิปย้อนหลังครับ
[youtube]Z3wmSFdcTFg[/youtube]
[youtube]Z3wmSFdcTFg[/youtube]
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2455
- ผู้ติดตาม: 1
Re: Money talk@SET27Oct13"Megatrend"ICT/หุ้นเด่น/กลยุทธ์ลงทุ
โพสต์ที่ 30
อีกคลิปครับ
[youtube]xFsrj8S8uW0[/youtube]
[youtube]xFsrj8S8uW0[/youtube]
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น