VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ก.ล.ต.เปิดศึกตลาดหุ้น สกัดนักปั่น

กิตติรัตน์ แถลงการณ์โต้ ย้ำเป็นเรื่องที่ตลาดดำเนินการเองได้ หวั่นกระทบผู้เล่นหุ้นกว่า 2 แสนบัญชีหากมีผลต้น ธ.ค.นี้

ทักษิณหนุนตลาดจัดการพวกปั่นหุ้น

บอร์ด ก.ล.ต.ชิงตัดหน้าตลาดหลักทรัพย์ ออกมาตรการคุมซื้อขายหักกลบลบหนี้ วางกฎเข้มให้นักลงทุนต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 10% ตั้งแต่ 1 ธ.ค.นี้ และ 25% มีผล 1 ม.ค.47 หวังสกัดการเล่นเก็งกำไร โดยเฉพาะในหุ้นขนาดเล็กที่มีการหมุนหลายรอบต่อวัน ยอมรับตลาดหุ้นสัปดาห์หน้าดิ่งฮวบแน่

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต.เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2546 พิจารณาเห็นว่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขายหลักทรัพย์แบบเก็งกำไรระยะสั้น ในระดับที่เกินความเหมาะสม และเกินกว่ากำลังซื้อของผู้ลงทุน โดยเฉพาะการเล่นแบบหักกลบลบหนี้ในหุ้นตัวเดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement)

คณะกรรมการ ก.ล.ต.จึงมีมติให้ตลาดหลักทรัพย์ ดำเนินการให้ลูกค้าของ บล.ต้องวางหลักประกันสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีเงินสดในอัตราไม่ต่ำกว่า 10% ของวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2546 และให้เพิ่มเป็น 25% ภายในวันที่ 1 ม.ค.2547

โดยประเภทของหลักประกัน และการคำนวณมูลค่าของหลักประกันให้อนุโลมตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (margin loan)

ดร.ประสาร กล่าวอีกว่า สืบเนื่องจากภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ตั้งแต่ต้นปี 2546 เป็นต้นมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้นมาก ซึ่งจากการติดตามภาวะการซื้อขายหุ้นพบว่า การใช้ net settlement ในการซื้อขายหุ้นในบัญชีเงินสดมีปริมาณเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด จาก 76,945 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 1 เป็น 132,351 ล้านบาท และ 451,879 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 และ 3 และเป็นการใช้ net settlement โดยผู้ลงทุนรายย่อยในลักษณะเก็งกำไรจากการลงทุนในหุ้นที่มีขนาดเล็ก และบางหุ้นขาดปัจจัยพื้นฐานที่ดี ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อความผันผวนของราคาหุ้นดังกล่าวอย่างรุนแรง

นอกจากนี้ พฤติกรรมการใช้เน็ตเซทเทิลเมนท์ดังกล่าว ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับ บล.ที่เป็นผู้ให้วงเงินโดยไม่มีการเรียกหลักประกัน เนื่องจากหากลูกค้าไม่สามารถขายหุ้นที่ซื้อมาในวันนั้นได้ก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการ และไม่สามารถชำระค่าซื้อหุ้นก็จะทำให้เกิดความเสียหายต่อหุ้น และระบบซื้อขายหุ้นโดยรวมได้

ดร.ประสาร กล่าวอีกว่า ก.ล.ต.พบว่า นักลงทุนมีการเล่นแบบหักกลบลบหนี้เพื่อเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กซึ่งขาดปัจจัยพื้นฐาน ที่อาจส่งผลกระทบกับพื้นฐานโดยรวมของตลาด โดยจะเห็นว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค - 5 พ.ย.2546 ปรับตัวสูงขึ้นไปถึง 88.99% สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชีย ขณะที่อันดับ 2 คือ อินโดนีเซีย ปรับตัวขึ้นไป 49.62% ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ 40.51% สาเหตุส่วนหนึ่งอาจะเป็นเพราะเศรษฐกิจไทยเติบโตสูง แต่หากพิจารณาราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี เรโช) ปัจจุบันจากบริษัทจดทะเบียนทั้งระบบ อยู่ที่ 15.53 เท่า ซึ่งถือว่าค่าพี/อีในระดับดังกล่าวไม่ได้ต่ำ

ประกอบกับหากพิจารณากลุ่มผู้ลงทุน พบว่า ราคาหุ้นในตลาดไทยเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่เดือน พ.ค.-มิ.ย.2546 เพราะนักลงทุนต่างประเทศเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ แต่ในเดือน ก.ค.-ต.ค.พบว่า นักลงทุนต่างประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ แต่การซื้อขายของนักลงทุนส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น เป็นฝ่ายที่เข้ามาซื้อขายมากที่สุด ซึ่งแสดงว่า ในช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค.การซื้อขายที่เข้ามาสอดคล่องกับการปรับตัวสูงขึ้นของตัวเลขเน็ตที่สูงถึง 30%

ดร.ประสาร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังได้มีการตรวจสอบไปถึงกลุ่ม บริษัทจดทะเบียนในตลาดสามารถจัดได้เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน คือ มีหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 3 เท่า มีกำไรจากการดำเนินงานพอจ่ายดอกเบี้ย 3 งวดบัญชีติดต่อกัน และมีการเติบโตของกำไรสุทธิอย่างน้อย 2 งวดบัญชี

โดยกลุ่ม 2 คือ กลุ่มที่มีฐานะการเงินปานกลาง และกลุ่ม 3 คือ กลุ่มที่อ่อนแอคือกลุ่มที่มีทุนติดลบ มีหนี้สินต่อทุนเกิน 10 เท่า มีกำไรจากการดำเนินงานไม่พอจ่ายดอกเบี้ย 2 งวดบัญชีติดต่อกัน พบว่า มีการเข้าไปลงทุนใน บจ.กลุ่มที่ 3 จำนวนมาก จนทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งยังมีการซื้อขายหลายรอบใน บจ.กลุ่มนี้ ทั้งที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน แต่ราคาหุ้นกลับปรับตัวสูงขึ้นในระดับตั้งแต่ 500% ถึง 1,000% และเมื่อมีการเปรียบเทียบพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุน 3 กลุ่ม คือ สถาบันในประเทศ ต่างประเทศ และบุคคลธรรมดา พบว่า ต่างชาติมีการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ 3 น้อย แต่นักลงทุนบุคคล กลับมีสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มนี้ถึง 3 ใน 4

"ข้อมูลเหล่านี้เราได้เสนอให้บอร์ด ก.ล.ต.พิจารณาประกอบการตัดสินใจ เพราะเห็นว่า หากปล่อยให้อาจส่งผลกระทบต่อตลาด ซึ่ง ก.ล.ต.จะดำเนินการส่งมติของ ก.ล.ต.ให้ตลาดพิจารณาภายในวันที่ 14 พ.ย.นี้" ดร.ประสาร กล่าว

เขากล่าวอีกว่า มาตรการที่นำออกมาใช้ครั้งนี้อาจจะมีผลทำให้ปริมาณการซื้อขายแบบหักกลบลบหนี้ลดลงบ้าง เพราะ ก.ล.ต.เห็นว่า การซื้อขายในระดับ 4-6 หมื่นล้านบาทต่อวันเป็นระดับที่สูงเกินไป หากปริมาณกรซื้อขายลดลงบ้าง ก็คงไม่กระทบต่อธุรกิจ แต่ยังประเมินไม่ได้ว่าปริมาณการซื้อขายจะลดลงเหลือเท่าไหร่ แต่โดยหลักการแล้ว ปริมาณการซื้อขายที่เหมาะสมควรอยู่ในระดับ 1 เท่าของมูลค่าตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) แต่ปัจจุบันหากการซื้อขายอยู่ในระดับ 4 หมื่นล้านบาทต่อวัน จะคิดเป็น 4 เท่า และหาก 6 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 5 เท่า ซึ่งสูงเกินไป

อย่างไรก็ตาม มติของ ก.ล.ต.ครั้งนี้ยังไม่ถึงขั้นให้ยกเลิกมาตรการเน็ตเซทเทิลเมนท์ เพราะยังมีข้อดี เรื่องของการเพิ่มกำลังซื้อ และมีการชำระราคาภายใน 1 วันทำการ

สำหรับกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์จะมีการหารือกับโบรกเกอร์อาจจะไม่เห็นด้วยกับมาตรการนี้ถือเป็นขั้นตอนรายละเอียดที่ตลาดจะต้องหารือกับโบรกเกอร์เอง แต่มตินี้เป็นมาตรการที่ ก.ล.ต.เห็นว่าเหมาะสม

ดร.ประสาร กล่าวอีกว่า ก.ล.ต.ยังได้มีการเรียก่โบรกเกอร์บางรายที่พบว่ามีการส่งออเดอร์ซื้อขายหุ้นผิดปกติเข้ามาหารือ เพราะพฤติกรรมดังกล่าวมีส่วนทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดว่า มีการส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาในตลาดจำนวนมาก โดยใช้วิธีการส่งออเดอร์เข้ามาต่อคิว จากนั้นก็จะมีการถอนออเดอร์ออกแล้วมีการส่งคำสั่งเข้ามาใหม่ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้พบในโบรกเกอร์จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่มีนักลงทุนรายบุคคลจำนวนมาก และถ้าหากพบว่าโบรกเกอร์ทำผิดก็จะดำเนินการลงโทษ แต่ปัจจุบันนี้ ก.ล.ต.จะพยายามนำเครื่องมือป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการปั่นหุ้นเข้า

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ กล่าวว่า มาตรการของ ก.ล.ต.ที่กำหนดเงื่อนไขเน็ตเซทเทิลเมนท์ เป็นการเล่นการเมือง เนื่องจากเป็นประเด็นที่นายกรัฐมนตรีให้ความห่วงใย ซึ่งเรื่องนี้จะมีการหารือกันอยู่แล้ว แต่ ก.ล.ต.ชิงออกมาตรการมาก่อน ทั้งๆ ที่เป็นวาระจรของการประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต.วานนี้ ซึ่งถือเป็นการตีกรอบทางความคิดในประเด็นที่จะมีการหารือของโบรกเกอร์ เนื่องจากการหารืออาจจะมีการเสนอยกเลิกเน็ตเซทเทิลเมนท์ก็ได้ แต่ ก.ล.ต.มากำหนดกรอบเป็นขั้นๆ

ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีตลาดหลักทรัพย์จะเอาจริงเอาจังกับผู้ที่ปั่นหุ้นว่า คนทำไม่ดี ก็ไม่ควรให้อยู่

กิตติรัตน์โต้เป็นเรื่องที่ตลาดทำเองได้

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า เขายังไม่เห็นมติในเรื่องการวางหลักประกันสำหรับวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีเงินสดที่ คณะกรรมการ ก.ล.ต.มีมติออกมา แต่ก็เห็นว่าเป็นแนวทางที่ดี และมีประโยชน์ต่อการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจของอุตสาหกรรมตลาดทุน แต่มีความเป็นห่วงว่าจะมีปัญหาในทางปฏิบัติหากจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2546 เพราะจะมีเวลาให้เตรียมการเพียง 2 สัปดาห์ สำหรับจำนวนบัญชีกว่า 2 แสนบัญชี

"ความจริงเรื่องการวางหลักประกันสำหรับวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์เป็นเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์สามารถดำเนินการได้เอง โดยไม่ต้องรบกวนคณะกรรมการ ก.ล.ต.ให้มีมติใดๆ ซึ่งก็ได้เตรียมการที่จะหารือกับ บริษัทสมาชิกในฐานะที่เป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงในวันอังคารที่ 18 พ.ย.2546 โดยผมจะพยายามประสานให้มีการเลื่อนวันเริ่มใช้ออกไป ในความเห็นส่วนตัว ควรจะเริ่มใช้ในช่วงใดช่วงหนึ่งของปีหน้าเป็นอย่างเร็ว ขอให้ผู้ลงทุนและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสบายใจ ว่าเรื่องนี้จะมีการพิจารณากันอย่างรอบคอบ ก่อนจะเริ่มใช้" นายกิตติรัตน์ กล่าว

ตลาดหุ้นผันผวนกังวลมาตรการคุมเน็ต

นายภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรีนิตี้ วัฒนา กล่าวว่า ระบบการซื้อขายแบบหักหลบลบหนี้ในหุ้นตัวเดียวกันวันเดียวกัน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่ทำลายระบบการซื้อขายของตลาดหุ้น ซึ่งการกำหนดสัดส่วนการซื้อขายแบบหักกลบลบหนี้คงไม่ใช่แนวทางการแก้ไขปัญหา แต่ปัญหาน่าจะเกิดจากการที่นักลงทุนเปิดบัญชีไว้กับหลายบริษัทหลักทรัพย์ ทำให้มีการให้วงเงินที่ซับซ้อนจนทำให้เกิดปัญหาว่ามีการเก็งกำไรเข้ามามาก

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง กล่าวว่า หากตลาดหลักทรัพย์จะออกมาตรการคุมเพดานหักกลบลบหนี้จะต้องสร้างความเข้าใจให้กับนักลงทุน นอกจากนี้ ยังเห็นว่า การที่ตลาดหุ้นมีมูลค่าการซื้อขายสูงมากก็มีความเสี่ยง จึงน่าจะมีมาตรการออกมาป้องกัน แต่มาตรการดังกล่าวไม่ควรทำให้ตลาดขาดสภาพคล่องไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประเมินได้ว่ามาตรการของตลาดที่จะออกมาจะมีผลต่อมูลค่าการซื้อขายหรือไม่

สำหรับการตรวจสอบของบริษัทไม่พบว่ามีหุ้นตัวใดผิดปกติ เพราะระดับการซื้อขายแบบหักกลบลบหนี้ของบริษัทยังอยู่ในระดับ 11-12% ของปริมาณการซื้อขายรวมของบริษัท

ผวาตลาดจับนักปั่นหุ้นกดภาวะซบ

นายสุเชษฐ์ สุขแท้ ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าบุคคล บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวผันผวน แกว่งตัวค่อนข้างมากทั้งแดนบวกและลบ โดยขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 665.05 จุด เพิ่มขึ้น 6.90 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 652.23 จุด ลดลง 5.92 จุด และปิดตลาดการซื้อขายที่ระดับ 657.38 จุด ลดลง 0.77 จุด มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 26,130.48 ล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกต่อมาตรการของตลาดหลักทรัพย์ที่ประกาศว่าจะจับนักปั่นหุ้นเข้าคุก และความกังวลเกี่ยวกับมาตรการคุมการซื้อขายแบบหักกลบลบหนี้ในหุ้นตัวเดียวกันวันเดียวกัน ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนที่ตลาดหลักทรัพย์จะมีการหารือกับบริษัทสมาชิกนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ จึงทำให้เกิดความคลุมเครือในตลาดหุ้น นักลงทุนจึงเทขายหุ้นตัวเล็กที่ราคาต่ำกว่า 10 บาท กระจายทั่วทั้งกระดาน เพื่อป้องกันความเสี่ยง และรอดูมาตรการของตลาดหลักทรัพย์ในสัปดาห์หน้า
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ถือช้อน ถือถัง ถือกระบวยไว้นานแล้วครับ พี่ลูกอีสาน
แต่ไม่รู้จะตักอะไรดี พี่ว่า HEMRAJ นี่พื้นฐานมันเลวร้ายมั้ยครับ ราคาขึ้นมาสูงเหมือนกัน แต่มีคนบอกผมว่ามันดี แต่ผมยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่
ถ้าเทียบกับ AMATA พี่ว่าตัวไหนดีกว่ากันครับ

ตอนนี้ BH ก็ดูร่วงๆลงมาแล้ว พี่ๆที่รอเก็บคงได้เก็บกันคราวนี้
ยังไงจะเก็บตัวไหน ก็บอกกันด้วยนะครับ .. :D
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ผมไม่มีความรู้จริงๆ ครับคุณคัดท้าย สำหรับ HEMRAJ & AMATA.....
รู้แต่ว่าเจ้าของ AMATA ชอบเลี้ยงสัตว์ป่าหายาก.. :lol: :lol:

ทั้ง HEMRAJ-AMATA-BH เป็นหุ้นที่ดีแน่นอนครับ แต่เปรียบเทียบกับราคาแล้วแพงไปนิดครับ ผมว่ายังมีตัวที่ถูกกว่า.....

เป็นมุมมอง VI นะครับ ฺแต่นักเก็งกำไรอาจจะชอบเพราะมีคนเค้าเล่นกัน...
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
trex
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมกลัวช้อนหักครับ
Boring Stock Lover
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

มีใครเข้าใจถึงวิธีการที่กลต.กำหนดไหมครับ

ผมเดาว่า...
พวกชาวVIที่ถือหุ้นระยะยาว จะมีวงเงินในการซื้อระหว่างวันในอัตรา10เท่าของมูลค่าหุ้นที่ถือครอง โดยกำหนดมูลค่าตามเงื่อนไข margin loan

เช่น ถ้าหาก port เรามี SCC 100 หุ้น และ PTT 100 หุ้น ราคาปิดเมื่อวานเท่ากับ 200 และ 110 ตามลำดับ มูลค่ารวม เท่ากับ 20,000 + 11,000 = 31,000 บาท ตามหลัก Margin Loan ให้ margin 60% ดังนั้น มูลค่าจะเท่ากับ 18,000 บาทโดยประมาณ ซึ่งมูลค่านี้ คูณด้วย 10 = 180,000 บาท จะเท่ากับวงเงินที่สามารถซื้อระหว่างวัน ใช่หรือไม่

โดยวิธีนี้ จะต่างจากเดิม ที่ทาง Broker จะเป็นผุที่กำหนดวงเงิน ให้พวกเรา

ท้ายนี้ขออนุญาติบ่นหน่อย
-. กลต. น่าจะแจกแจงรายละเอียดมากกว่านี้ เพื่อที่จะทำให้ นักลงทุนเข้าใจ ผมพยายามค้นข้อมูลที่ เวปกลต.ข้อมูลที่มีก็เพียงเป็นข้อมูลตามหนังสือพิมพ์ต่างๆนำเสนอ
-. ผมเดาว่า กลต.ใช้วิธีแฟกซ์ข้อมูลไปยังสำนักข่าวต่างๆแต่ไม่มีการให้สัมภาษณ์ซักถาม เนื่องจากในหนังสือพิมพ์ก็ลงข่าวแทบจะคำต่อคำกับข้อมูลข่าวบนเวปกลต.
-. อันนี้ไมรู้ว่าใครเกาเหลาใคร แต่ที่แน่ๆก็คือ ผมเบื่อ เหมือนที่เคยเบื่อนักการเมือง ที่ให้ข่าวโต้กัน ไม่คิดว่าจะเห็นเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในแวดวงนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
sirivajj
Verified User
โพสต์: 985
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมเข้าใจว่า ที่ กลต. เสนอ ยังต้องผ่านมติของ ตลาดหลักทรัพย์อีก
ไม่ทราบว่า เข้าใจคลาดเคลื่อนหรือเปล่า
รวมทั้งตามข่าว คุณกิตติรัตน์ ก็ดูเหมือนจะอยากให้เริ่มที่ต้นปีหน้า
อย่างไรก็ดี ข่าวนี้ ก็น่าจะสร้างแรงกดดันให้กับตลาดในสัปดาห์หน้า
ตอนนี้ ก็รออยากฟังความชัดเจนในเรื่องนี้อยู่ครับ
What do you mean.?
Boring Stock Lover
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ไม่รู้ว่ารับของถูกกันบ้างหรือเปล่า ผมเล็งไว้หลายตัว วันนี้เลยรับกลับบ้านไปกอด
ภาพประจำตัวสมาชิก
someOne
Verified User
โพสต์: 253
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ไม่มีตังค์จะซื้อแล้วครับ
ด้วยความเคารพ

From someOne
--------------------
Knowledge Access Investment
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ไม่รู้เรียกช้อนหรือเปล่าวันนี้เข้า APRINT 115 กับ PHA 175 บาทครับ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

วันนี้ก็เข้าำไปรับบ้างเหมือนกันครับ...

ตั้งไว้หลายตัว ส่วนใหญ่ลงมาไม่ถึง ...แต่สุดท้ายมีคนเทกระจาดหุ้นตัวนึง...ก็เลยได้หุ้นดีราคาถูก...เพิ่มอีกเยอะ..
ขอบคุณคนโยนนะ....แต่พรุ่งนี้ไม่ต้องโยนเพิ่มนะ...พอแล้ว :lol: :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา1
Verified User
โพสต์: 1092
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ใช้ช้อนมันเล็กไป

พับพีก็ยังเล็กไป

ผมเตรียมสวิ่งกับอวนไว้ลากเลยดีม๊ะ
ฝันถึง วัน ฟ้าสวย...... อยากร่ำรวย-ด้วยเล่นหุ้น
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ว้าว คุณพี่ปรัชญา ทุนหนาจริงๆ เล้ยยยย ขอยืมมาลงทุนบ้างอิ

อิอิ แซวเล่นครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
PRO_BABY
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1584
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ขอใช้ อวนที่โรงงานเดชา หรือไม่ก็ขอนแก่นแหอวนก็ได้ครับ รับรองได้ทั้งตลาดแน่ อิอิอิ :lol: :lol:
--ผลของอนาคตเกิดจาก<====ปัจจุบัน ผลของปัจจุบันเกิดจาก<===อดีต
--ทุกอย่างเชื่อมโยง มีเหตุ====> มีผ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

สงสัยช้อนหักกับ aprint แน่เลย ผลประกอบการออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไร แหะ แหะ ไม่เป็นไรครับ ยังชอบหุ้นตัวนี้อยู่ครับ
tp146
Verified User
โพสต์: 9
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

มีพี่ๆท่านใด ชายตามอง AJ บ้างหรือปล่าวครับ ผมดูมานาน พอควรครับ แต่ไม่ค่อยแน่ใจ หนี้เยอะพอควร มีใครจะแชร์กับผมหน่อย เป็นพระคุณครับ ......... วันนี้ช้อนได้ตัวนึงครับ ต้องดูว่าจะหักหรือปล่าว
----------------------------------------
"Life is full of surprises, you cannot trust the time, Life is a way of achievement, and we are trapped in a life game"
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

tp146 เขียน:มีพี่ๆท่านใด ชายตามอง AJ บ้างหรือปล่าวครับ ผมดูมานาน พอควรครับ แต่ไม่ค่อยแน่ใจ หนี้เยอะพอควร มีใครจะแชร์กับผมหน่อย เป็นพระคุณครับ ......... วันนี้ช้อนได้ตัวนึงครับ ต้องดูว่าจะหักหรือปล่าว
ผมมองมานานแล้วครับ และก็ถือมานานเหมือนกันครับ

ข้อเสียของ AJ คือการแข่งขันด้านราคา BOPP จากจีนครับ อื่นๆแล้วค่อนข้างดี ที่ราคาตกไปเยอะเพราะผลประกอบการ Q3 แย่ผิดคาดครับ เจ้าของบอกว่าเป็นเพราะการแข่งขันจากจีน ยอดขายตก (เทียบกับปีที่แล้ว) จาก 150 ล้านเหลือ 100 ล้าน ค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกต่างหาก

ตอนนี้คงต้องดูว่า BOPET จะไปได้ดีแค่ไหน คงจะเห็นผลในไตรมาส 2-3 ปีหน้า ถ้า BOPET ไม่รุ่ง AJ อาจจะรุ่งริ่งก็ได้ครับ

ส่วนตัวผมเก็บมาพอแล้วคงต้องนั่งดูแล้วล่ะครับ เมื่อวานนี้ถูกลงมาอีกหน่อย แต่ถ้าไม่ถึง 7.20 บาทผมคงไม่ซื้อเพิ่มครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา1
Verified User
โพสต์: 1092
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

PRO_BABY เขียน:ขอใช้ อวนที่โรงงานเดชา หรือไม่ก็ขอนแก่นแหอวนก็ได้ครับ รับรองได้ทั้งตลาดแน่ อิอิอิ :lol: :lol:

ไม่รู้จักเจ้าของโรงอวนครับ

เขาคงไม่ให้ยืมมาช้อน

เสียงผมดังไปงั้นล่ะ ตังค์หมดเหมือนกันครับ

เลยได้แต่ดูเขาช้อน
ฝันถึง วัน ฟ้าสวย...... อยากร่ำรวย-ด้วยเล่นหุ้น
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
PRO_BABY
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1584
ผู้ติดตาม: 0

VI เตรียมช้อนไว้นะครับ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ผมก็พูดไปงั้นแหละครับเฮียปรัชญา
เหนื่อยๆๆเหมือนกัน ตังก็น้อย คงใช้ตะเกียบแทนครับ :oops: :oops:
--ผลของอนาคตเกิดจาก<====ปัจจุบัน ผลของปัจจุบันเกิดจาก<===อดีต
--ทุกอย่างเชื่อมโยง มีเหตุ====> มีผ
ล็อคหัวข้อ