กํารรับซื้อไฟฟ้ําจํากกํารผลิตไฟฟ้ําพลังงํานแสงอําทิตย์ท่ีติด

[imerlot]

กํารรับซื้อไฟฟ้ําจํากกํารผลิตไฟฟ้ําพลังงํานแสงอําทิตย์ท่ีติดตั้งบนหลังคํา

คําถํามและแนวคําตอบ

1. ทม่ีําของนโยบํายเปน็อยํา่งไรและมีสําระสําคญัอะไรบํา้ง
คณะกรรมการนโยบายพลงังานแห่งชาติ(กพช.)ในการประชุมเมื่อวนัองัคารที่16กรกฎาคม2556ไดม้มีติ เห็นชอบใหม้ีการรับซ้อืไฟฟา้จากโครงการผลิตไฟฟา้พลังงานแสงอาทิตยท์ต่ีิดตงั้บนหลงัคา(RooftopPV System) โดยมีปรมิ าณกาลังการผลติ ติดตงั้ ของแผงโฟโตโวลเทอกิ (Photovoltaic Panel) รวม 200 MWp จาแนก เป็น 100 MWp สาหรับอาคารประเภทบา้ นอยอู่ าศัย และอกี 100 MWp สาหรับอาคารประเภทธุรกจิ และโรงงาน ทัง้ น้ี ให้มกี ารเร่ิมจาหน่ายไฟฟ้าเชงิ พาณชิ ยเ์ ข้าสรู่ ะบบโครงข่ายไฟฟ้าภายในปี 2556 ดว้ ยอัตราการรับซือ้ แบบ Feed-in Tariff ระยะเวลาการสนับสนนุ 25 ปี
2. รําคํารับซอื้ ไฟฟํา้ มอี ตั รําอย่ํางไร
จาแนกตามกลุ่มประเภทอาคารและขนาดกาลังการผลติ ตดิ ตงั้ ของแผงโฟโตโวลเทอกิ เป็น 3 อัตราในรูปแบบ Feed-In Tariff ดังต่อไปนี้
กลุ่มประเภทอําคําร
กําลังกํารผลติ ตดิ ตงั้
อัตรํา (FiT)

บ้านอยอู่ าศัย ไม่เกิน 10 kWp
อาคารธรุกิจขนาดเล็ก มากกว่า10ถงึ 250kWp
อาคารธรุกจิขนาดกลาง-ใหญ/่ มากกว่า250ถงึ1,000kWp
6.96 บาท/หนว่ ย
6.55บาท/หนว่ย
6.16บาท/หนว่ย

...


http://www.mea.or.th/new/download-file/ ... oSo3QoSo3Q
.......

@@@@@








http://www.mea.or.th/new/content/detail ... &tid=&pid=






------


กฟน. ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) โดยมีปริมาณพลังไฟฟ้าที่รับซื้อ และราคารับซื้อไฟฟ้า เป็นไปตาม ระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยการรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา พ.ศ. ๒๕๕๖ ลงวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ และประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่องการรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา พ.ศ. ๒๕๕๖ ลงวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๖

โดยผู้ที่ประสงค์จะผลิตไฟฟ้า สามารถยื่นความจำนงได้ที่ แผนกบริการ การไฟฟ้านครหลวงเขตทั้ง ๑๘ เขต ได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 ถึง วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2556 เวลา 09.00 -15.00 น. และจะประกาศรายชื่อผู้ยื่นคำขอขายไฟฟ้าที่ผ่านการคัดเลือกตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ในพื้นที่ให้บริการของการไฟฟ้านครหลวง จะรับซื้อไฟฟ้าโดยมีปริมาณการรับซื้อที่ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม ๘๐ เมกะวัตต์ โดยมีราคารับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้า ตามอัตรารับซื้อไฟฟ้า Feed-in Tariff ดังนี้  






http://www.mea.or.th/new/profile/index. ... 1&pid=3030

[imerlot]

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง สรุปยอดผู้สนใจขายไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ภายหลังเปิดรับสมัครในวันแรก
วันนี้ (23 ก.ย.56) มีการเปิดให้ยื่นคำขอขายไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือ Solar PV Rooftop เป็นวันแรก โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สำนักงานใหญ่ งามวงศ์วาน ได้สรุปจำนวนผู้สนใจยื่นขอขายไฟฟ้าตั้งแต่เช้าจนถึงขณะนี้ ในส่วนของกลุ่มอาคารธุรกิจ หรือโรงงาน มีทั้งสิ้น 842 ราย แบ่งเป็นภาคเหนือ 123 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 184 ราย ภาคกลาง 443 ราย ภาคใต้ 92 ราย และกลุ่มบ้านอยู่อาศัย ของ กฟภ. 12 เขต ทั่วประเทศ รวมทั้งหมด 819 ราย ภาคเหนือ 707 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 46 ราย ภาคกลาง 59 ราย ภาคใต้ 7 ราย สำหรับผู้ยื่นขอขายไฟฟ้าที่การไฟฟ้านครหลวง มีทั้งสิ้น 423 ราย แบ่งเป็น กลุ่มอาคารธุรกิจหรือโรงงาน ยื่น ณ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) สำนักงานใหญ่ เพลินจิต 312 ราย และกลุ่มบ้านอยู่อาศัย ยื่น 18 เขต มีผู้ยื่นทั้งสิ้น 111 ราย
ทั้งนี้จะทยอยประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยมีกำหนดเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม ในปริมาณการรับซื้อที่ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 200 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นบ้านอยู่อาศัยที่มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 0 - 10 กิโลวัตต์ รวมทั้งสิ้น 100 เมกะวัตต์ และอาคารธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ ที่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 10 - 1,000 กิโลวัตต์ อีก 100 เมกะวัตต์ ซึ่งมีราคารับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้า ตามอัตรารับซื้อไฟฟ้าตามต้นทุนจริง หรือ Feed-in Tariff มีระยะเวลาสนับสนุน 25 ปี นับจากกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ สำหรับผู้ที่สนใจจะผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) ในเขตจำหน่ายของการไฟฟ้านครหลวง คือ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ สามารถยื่นแบบคำขอขายไฟฟ้าและการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 11 ตุลาคมนี้ เวลา 09.00 - 15.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mea.or.th หรือ Call Center 1130

http://61.19.244.31/centerweb/news/News ... 9230020017

[imerlot]

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า จากการเปิดรับซื้อไฟฟ้าหลังจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) วันแรก(23 ก.ย.-11 ต.ค.) ผู้ที่เสนอจำนวนรายมากที่สุดคือ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) เสนอติดตั้งบนหลังคาสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศประมาณ 100 แห่ง เฉลี่ยกำลังผลิตแห่งละ 11-15 กิโลวัตต์ ในขณะที่ บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ผู้ให้บริการคลังสินค้ายื่นเสนอติดตั้งเป็นจำนวนเมกะวัตต์มากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีห้างสรรพสินค้าทั้งเซ็นทรัล บิ๊กซี เดอะมอลล์ และโรงงานต่างเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก

โครงการ Solar Pv Rooftop ทั้งอาคารบ้านเรือนและอาคารโรงงานจะเปิดให้ยื่นเสนอขายไฟ 200 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นภาคธุรกิจ 100 เมกะวัตต์ บ้านที่อยู่อาศัย 100 เมกะวัตต์ เปิดให้ยื่นได้ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ตามเขต 120 เมกะวัตต์ และ กฟน.100 จำนวน 80 เมกะวัตต์ โดยในวันนี้ที่ การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)มีภาคธุรกิจยื่น 266 ราย และบ้านที่อยู่อาศัย 60 ราย ส่วนที่ กฟภ.ภาคธุรกิจยื่น 802 รายแบ่งเป็น ภาคกลาง 418 ราย ภาคใต้ 90 ราย ภาคเหนือ 120 รายภาคอีสาน 175 ราย แต่ในส่วนบ้านที่อยู่อาศัยไม่มีตัวเลขชัดเจนเพราะกระจายไปทั่วตามเขตที่รับยื่นข้อเสนอ

http://www.ryt9.com/s/iq05/1741122

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 15:17:38 น.

[imerlot]

กกพ. เร่งประชาสัมพันธ์กลุ่มบ้านเรือน หลังพบยื่นคำขอขายไฟฟ้าน้อย ขณะที่ รง.4 เร่งแก้ปัญหาควบคู่การดำเนินโครงการ
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า การเปิดรับซื้อไฟฟ้าหลังจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) ณ ที่ทำการการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิต เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีกลุ่มอาคารธุรกิจหรือโรงงานในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง ได้มายื่นแบบคำขอจำหน่ายจำนวน 274 ราย ขณะที่กลุ่มภาคที่อยู่อาศัย ขนาดกำลังผลิตติดตั้งน้อยกว่า 10 กิโลวัตต์ เข้ายื่น ณ ที่ทำการ กฟน. ในเขตต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร มีเพียง 60 รายเท่านั้น โดยหลังจากนี้ จะเร่งทำการประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้มีจำนวนผู้มายื่นแบบคำขอเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ นายดิเรก กล่าวเพิ่มเติมว่า หากกลุ่มอาคารธุรกิจหรือโรงงานมีผู้มายื่นคำขอจนเกิดอัตราที่กำหนดไว้ที่ 100 เมกะวัตต์ จะทำการเก็บรายชื่อผู้ยื่นแบบคำขอที่ในส่วนที่เกินไว้รอจนกว่าจะมีนโยบายเพิ่มเติม แต่ในส่วนของอัตรารับซื้อไฟฟ้า หรือ Feed in Tariff อาจมีการปรับเปลี่ยน เนื่องจากในแต่ละปี ราคาของเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์จะลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ ปัญหาในส่วนของการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน หรือ รง.4 นั้น จะดำเนินการแก้ปัญหาควบคู่ไป ซึ่งจากนี้ จะทำเรื่องข้อยกเว้นขนาดการติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ที่มีขนาดตั้งแต่ 3.7 กิโลวัตต์ ถึง 1 พันกิโลวัตต์ ไม่ต้องขอใบอนุญาต รง.4 ส่งให้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อให้ดำเนินการตามเป้าหมาย ก่อนเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้า ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=481746

[imerlot]

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=481746

[imerlot]

กกพ. คาด ผู้สนใจยื่นคำขอขายไฟฟ้า จาก Solar PV Rooftop ทะลุเป้าหมาย จากนโยบายรัฐที่สนับสนุน  Feed-in Tariff
นายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เปิดเผยแนวทางการกำกับดูแล การรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งบนหลังคา ในงานเสวนาความรู้ความเข้าใจ การรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือ Solar PV Rooftop ว่า คาด ช่วงวันเปิดรับซื้อไฟฟ้า ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน - 11 ตุลาคม 2556 จะมีผู้สนใจยื่นคำขอขายไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งอาจเกินเป้าหมายที่ได้กำหนด จากการที่มีปัจจัยหลายด้านสนับสนุน เช่น นโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐที่ชัดเจน โดยใช้อัตราการรับซื้อไฟฟ้าตามต้นทุนจริง หรือ Feed-in Tariff แบ่งเป็นกลุ่มบ้านอยู่อาศัย รับซื้อ 6.96 บาทต่อหน่วย กลุ่มอาคารธุรกิจขนาดเล็ก รับซื้อ 6.55 บาทต่อหน่วย และกลุ่มอาคารธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่ รับซื้อ 6.16 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ นายกวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้นทุนการการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ขนาด 1 กิโลวัตต์ อยู่ที่ประมาณ 60,000 บาท ซึ่งจะผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 1,300 หน่วยต่อปี สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยประมาณ 8,000-9,000 บาทต่อปี โดยจุดคุ้มทุนจะอยู่ประมาณ 6-7 ปี ซึ่งการลงทุนอาจดูสูงเมื่อเทียบกับรายได้ต่อ 1 กิโลวัตต์ต่อปี แต่หากมองในระยะยาว ซึ่งมีอายุสัญญาซื้อ-ขาย 25 ปี จะมีความคุ้มค่าทั้งด้านราคา และการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้ประเทศ อีกทั้ง ยังช่วยลดภาระการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนร้อยละ 70 ของการ
ผลิตไฟฟ้าทั้งหมด

 

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=479257

[imerlot]

ถามว่า
ถ้าสนใจ
ลงทุนและบ้าน
ใช้ ไฟ
700หน่วย -1500หน่วย ขึ้นกับเดือน
ต้องลงทุน เท่าไร
จุดคุ้มทุน 7 ปี จริงไหม
หรือขึ้นกับ factor อะไรอื่นๆอีก
ใคร เชี่ยวชาญ
ขอเชิญ ให้ความกระจ่างด้วย
ขอบคุณล่วงหน้า

[CONAN]

ถามว่า
ถ้าสนใจ
ลงทุนและบ้าน
ใช้ ไฟ
700หน่วย -1500หน่วย ขึ้นกับเดือน
ต้องลงทุน เท่าไร
จุดคุ้มทุน 7 ปี จริงไหม
หรือขึ้นกับ factor อะไรอื่นๆอีก
ใคร เชี่ยวชาญ
ขอเชิญ ให้ความกระจ่างด้วย
ขอบคุณล่วงหน้า

โทรไปที่ www.solartron.co.th ให้คำตอบได้ชัดเจนครับ

[romee]

ถามว่า
ถ้าสนใจ
ลงทุนและบ้าน
ใช้ ไฟ
700หน่วย -1500หน่วย ขึ้นกับเดือน
ต้องลงทุน เท่าไร
จุดคุ้มทุน 7 ปี จริงไหม
หรือขึ้นกับ factor อะไรอื่นๆอีก
ใคร เชี่ยวชาญ
ขอเชิญ ให้ความกระจ่างด้วย
ขอบคุณล่วงหน้า

อันนี้พูดถึงขายไฟให้การไฟฟ้า ใช่มั้ยครับ

โดยปกติที่คำนวนกัน จะใช้ตัวเลข 1วัน ต่อ1Kw จะผลิตไฟฟ้าได้ที่Peak100% ประมาณ4ชั่วโมง (คิดเฉลี่ย) ก็จะได้4Unit ต่อวัน
[การใช้ไฟฟ้า 1 หน่วยหรือ 1 ยูนิตคือ กำลังไฟ1,000 วัตต์ที่ใช้งานใน 1 ชั่วโมง]
แม้ว่าความเป็นจริง แค่มีแสงแดดตั้งแต่6โมงเช้าก็ผลิตได้แล้ว แต่ไม่เต็ม100%

ดังนั้นที่แผง 1Kw จะขายให้การไฟฟ้าได้ 4*30 = 120หน่วยต่อเดือน
หรือ2400หน่วยต่อปี

ถ้าเป็นรูปแบบบ้านติดตั้งไม่เกิน10Kw การไฟฟ้าจะรับซื้อที่ 6.96บาท/หน่วย จะได้ต่อปี = 2400*6.96 =16704บาท

ก็มาคิดที่ต้นทุนของแผง ว่าเราได้ราคาแผงละเท่าไร ส่วนใหญ่เฉลี่ยตอนนี้อยู่ที่65-70K รวมติดตั้งด้วย(ขอเอาราคากลางๆ ต่ำกว่า30Kต้องดูด้วยว่าเป็นแผงโดนน้ำท่วม จากใหนมาหรือเปล่า)

ถ้าได้แผง65K ก็จะได้ประมาณ 4ปีกว่าๆ ก็ลองไปบวกลบ ค่าerrorต่างๆกันนะครับ

[romee]

แต่ ความเป็นจริง ณ ตอนนี้ สำหรับบ้านที่พักอาศัย การไฟฟ้ามีโควต้าให้ทั้งประเทศ 100M
ส่วนภาคกลาง รวมถึงกทม. 40M

และมีข้อกำหนดหลายอย่างที่การไฟฟ้าบังคับ เช่นการติดตั้ง ต้องติดบนหลังคาบ้านเท่านั้น ห้ามติดหลังคาโรงจอดรถ, และผู้ยื่นขายไฟ กับเจ้าของหลังคา อาคาร ต้องเป็นคนๆเดียวกัน, ทิศทางในการติดตั้งก็บังคับให้ติดไปทางทิศใต้

และจะหมดเวลาในการขอยื่นเพื่อขายไฟ แค่กลางเดือนตุลา

และปีหน้า ก็มีแนวโน้ม ว่าการไฟฟ้าจะรับซื้อไฟถูกกว่านี้แน่นอนครับ

ส่วนfactor อื่นๆที่อาจจะผลิตไม่ได้unitตามที่ผมเขียนไว้ข้างบน
1.เรื่องทิศทาง สำคัญสุด ต้องหันไปทางทิศใต้
2.มุม ถ้ามุมIdle อยุ่ที่15องศา แต่ในความเป็นจริงมีผลกระทบน้อยกว่าเรื่องทิศ
3.ความสามารถของแผงsolar

แต่ถ้าไม่ได้เข้าโครงการขายไฟให้การไฟฟ้า ถ้ามีเงินติดตั้ง ผมว่าก็ยังคุ้มอยู่ดี เพราะค่าไฟในอนาคตมีแต่แพงขึ้น และติดเพื่อลดการใช้ไฟในตอนกลางวัน ก็คุ้มครับ แต่จุดคุ้มทุน อาจจะช้าลงไปแค่2-3ปี

ระบบที่ติดตั้งแบบนี้ เป็นไร้แบตเตอรี่ และต่อพ่วงใช้ขนานกับไฟบ้านเลย (grid connect) ครับ

[imerlot]

ขอบคุณ
คุณ romee และ คุณ CONAN

[moonorway]

ราคาแผง ขึ้นอยู่กับ ว่าเป็นของ จีน ญี่ปุ่น หรือ เยอร์มัน

ที่ผมเห็นในตลาด ประมาณ 6,000 บาท ต่อ แผง นะครับที่เป็นของจีน ส่วน ญี่ปุ่นและ German made ก็แพงขึ้นตามลำดับ

ส่วนเรื่องทิศที่ดีที่สุด คือ ทิศใต้ 15 องศาครับ

การติดตั้งต้องมีทางเดิน service ด้วยครับ จึงต้องเผื่อพื้นที่ในการคำนวนด้วย

อย่าลืมเรื่องของ ค่า maintenance ในการคิด ROI ด้วยครับ ส่วนเรื่องความเสี่ยงที่ต้องมองคือ อายุการใช้งานแผง เพราะว่า ที่ผ่านมา ยังไม่รู้ว่าใช้งานผ่านไปในแต่ละปี efficiency ลดลงไปเท่าไรกันแน่ ที่เป็นตัวเลข exactly ครับ

อีกตัวที่สำคัญ คือ inverter ครับ ที่ต้องถูกต้องตามที่ การไฟฟ้ากำหนด ในการขายไฟครับ

[doang]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่แชร์กันครับ

ส่วนตัวถ้าเป็น user สามารถติดตั้งได้ก็น่าสนใจนะครับ ถึงจะไม่ได้ขายไฟให้การไฟฟ้าแต่สามารถประหยัดค่าไฟได้พอสมควร เป็นการช่วยลดการใช้พลังงาน จุดคุ้มทุนอาจจะนานกว่าแต่ก็คุ้มนะครับ

แต่มีข้อสงสัยนิดหนึ่งนะครับ ถ้ากรณีฝนตกหนักจะมีทำให้แผงเสียหายหรือช็อตไหมนะครับ

[dr1]

สามสี่เดือนที่แล้ว ได้ตามรุ่นพี่ไปงานโซล่าเซลเอ็กซ์โปที่เซี่ยงไฮ้มาครับ
งานครั้งล่าสุด พี่เขาบอกว่าคนน้อยลงราว30% (พี่เขาไปมาสามหนแล้ว
อารมย์ประมาณฝรั่งผู้ผลิตต้นน้ำ(ตั้งแต่ก้อนซิลิคอนเอามาตัดเป็นแผ่นเวเฟอร์) มาขายของ + เครื่องจักร
แล้วมี"เจ้ามือใหญ่"จีน ซื้อเครื่องมาทำแผ่นบางขาย(น่าจะไม่เกินสิบ)
แล้วรายย่อยปลายน้ำ(น่าจะเป็นร้อยเป็นพัน)เอาแผ่นมาประกอบกับกรอบ กระจก พลาสติก กาว คอนเนคเตอร์ ๆลๆ ขายึดเป็นแผ่นสำเร็จรูป จะเอาอะไรมีขายหมด จะซื้อไปทำเอง รึให้เขาทำให้มีทุกแบบ แบบแผ่นใหญ่ แผ่นเล็กทรงกระเบื่องมุงหลังคาโมเนีย แผ่นกลางทรงกระเบื้องลอนคู่ แผ่นม้วนใด้แบบเสื่อก็มี

แข่งกันจนราคาเหลือราว"วัตต์ละหยวน"(ราว4.5-5.3บาทแล้วแต่ค่าเงิน)
แต่ปัญหารึข้อสงสัยก็อย่างที่เพื่อนๆโพสต์มาครับ
คือไม่แน่ใจว่าประสิทธิภาพ กะความทนทานเป็นอย่างไร
มีบ.มาขายเครื่องวัดด้วย ว่าวัดแสงได้เท่านี้ ไฟออกเท่าไร
บางเจ้าที่"ดูดีหน่อย"ก็น่าเชื่ออยู่หรอก ว่าเต็มวัตต์
แต่บางเจ้าที่ดูเหมือน"เอาของเหลือๆ รึตกสเปค"(ขออภัย ถ้ารู้สึกไปเองแรงไปหน่อย)มาทำ ดูๆก็เป็นแผงเหมือนกัน

ผมเลยพูดเล่นๆกะพี่เค้า ว่าถ้าราคาเหลือต่อตารางเมตรเท่ากระเบื้องเมื่อไร เด๋วเหมามาทำโรงรถดีก่า ไฟไม่ออกก็ช่างมัน
แต่เห็นว่า ไม่รับซื้อจากโรงรถ ต้องติดหลังคาบ้าน?

เพราะในงานนั้น ขายLEDด้วยครับ ไม่เห็นเจ้าใหนยอมรับประกันเกิน2ปีเลย ทั้งๆที่อ้างว่าหลายหมื่นชั่วโมง
แต่ก็นั่นแหละ LEDมัน"เห็นกะตา"
solar cell มันไม่เห็น ว่าไฟออกป่าว
ออกไม่เต็มก็มี"เหตุผล"ให้ ว่าแดดไม่แรง แผงสกปรก ความชื้นในอากาศ ขั้วต่อเสื่อม เมืองไทยร้อนชื้น บลา บลาๆ

สรุปว่า คงต้องเผื่อ "margin of safety" เยอะหน่อยมั้งครับ

[dome@perth]

ผมตั้งใจจะขอติดตั้งแผงโซล่าที่บ้านออสเตรเลีย
ตั้งแต่ซัมเมอร์ ปีที่แล้วเพราะแรงจูงใจค่า adder
เมื่อเทียบกับต้นทุนค่าแผงค่าติดตั้ง อยู่ดีๆ รัฐก็ลดค่า adder ซะงั้น
ให้เหตุผลว่าราคาแผงโซล่าถูกลงมาก และโอเวอร์ซัพพลาย
มาคิดคำนวนอีกอีกที ผมเลยรอค่าแผงและค่าติดตั้งถูกลงอีกหน่อย
และอีกอย่าง ช่วงวินเทอร์ ระยะเวลาให้แสงน้อยลงมากเทียบกับซัมเมอร์

ปีนี้คงติดแล้วหละ ค่าไฟมันแพงได้ใจจริงๆ

[romee]

เทคโนโลยี่ของแผงโซล่าเซล ถ้าเป็นแบบ thin film มันเจ๊งไปแล้วละครับ เจ้าใหญ่สุดของจีนยังปิดตัวลง

แต่ว่าเทคโนโลยี่ตอนนี้ที่ใช้กันในโลกส่วนใหญ่ เป็นแบบ Polycrystalline กับ Monocrystalline ประสิทธิภาพดีกว่า ราคาก็สูงกว่านิดหน่อย

จุดเสี่ยงอันนึง ผมว่าอยู่ที่ตัวบริษัทมากกว่า เพราะสินค้าพวกนี้อยู่กับบ้านไปเป็น10ๆปี อาจจะต้องดูเรื่องประกันหลังการขายให้ดีๆ แม้ว่าแต่ละเจ้าจะบอกว่ารับประกัน10-20ปี แต่ถ้าบริษัทล้มไปก่อน ประกันที่บอกไว้ก็สูญเปล่า
และแต่ละเจ้า จะรับประกันว่า ถ้าประสิทธิภาพไม่ถึงตามที่บอก ก็จะมาแก้ไขให้

แต่ข้อดีอันนึงคือ ตัวแผงโซล่าเซลมันพังยาก มีแต่จะเสื่อมประสิทธิภาพลง ตัวที่น่าจะพังง่ายกว่า คือinvertor ด้วยซ้ำ

แต่มีข้อสงสัยนิดหนึ่งนะครับ ถ้ากรณีฝนตกหนักจะมีทำให้แผงเสียหายหรือช็อตไหมนะครับ

เรื่องฝนตก ไม่ทำให้ไฟช็อตแผงหรอกครับ เพราะไฟที่ผลิตได้(เป็นไฟกระแสตรง)จะวิ่งไปตามสายไฟ(เป็นสายติดตั้งนอกอาคาร ทนต่อน้ำ ลม) เพื่อเข้า invertor แปลงเป็นไฟกระแสสลับใช้ในบ้าน หรือขายให้การไฟฟ้าอ่ะครับ

[vim]

แข่งกันจนราคาเหลือราว"วัตต์ละหยวน"(ราว4.5-5.3บาทแล้วแต่ค่าเงิน)
แต่ปัญหารึข้อสงสัยก็อย่างที่เพื่อนๆโพสต์มาครับ
คือไม่แน่ใจว่าประสิทธิภาพ กะความทนทานเป็นอย่างไร
มีบ.มาขายเครื่องวัดด้วย ว่าวัดแสงได้เท่านี้ ไฟออกเท่าไร
บางเจ้าที่"ดูดีหน่อย"ก็น่าเชื่ออยู่หรอก ว่าเต็มวัตต์
แต่บางเจ้าที่ดูเหมือน"เอาของเหลือๆ รึตกสเปค"(ขออภัย ถ้ารู้สึกไปเองแรงไปหน่อย)มาทำ ดูๆก็เป็นแผงเหมือนกัน

ตรงราคาประมาณนี้ผมได้ยินมาเหมือนกันครับ ราคาต่ำกว่าวัตต์ละหนึ่งหยวนนี้ เรียกกันได้ว่าเป็นราคาที่ถูกพอๆกับพลังงานถ่านหินเลยครับ ถ้าทำได้จริงก็น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

แต่นอกจากปัจจัยที่คุณ dr1 เขียนไว้แล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่หลายบริษัทไม่ซื้อ ก็เพราะบริษัทผู้ผลิตสินค้าในราคาต่ำกว่าหยวนมีฐานะการเงินไม่ดี ทำให้เราไม่รู้ว่าสินค้าจะอยู่ได้ถึงระยะเวลาคืนทุนรึเปล่า หรือจะเจ๊งปิดกิจการกันไปก่อน มีการประเมินจากฝั่งยุโรปว่าราคาที่ขายนี้เนี่ย ต่ำกว่าราคาทุนของผู้ผลิตเสียอีก จึงเป็นไปไม่ได้ว่าบริษัทจะอยู่รอดในระยะยาว สินค้าที่เอามาขายนี้น่าจะเป็นการขาย "โละล้างสต็อก" เสียมากกว่า

[so simple]

กำลังศึกษาอยู่เหมือนกันครับ ว่าจะนำไปติดบนอพาร์ทเมนท์ที่บ้านทำอยู่. จะได้ประพยัดค่าไฟ รวมทั้ง
สามารถกันความร้อนได้ด้วย. มีปัญหาชั้นข้างบนจะร้อนจนลูกบ้านบ่น. แต่ต้องรอจนแผงราคาถูกลงเยอะและมี
Warranty เพียงพอ. เพราะถ้าทำหลังคา metal sheet นี่ก็หลายตังอยู่แล้ว. แต่ถ้า solar cell
เสื่อมนี่ก็จะไม่เปลี่ยนละครับจะ ใช้เป็นหลังคากันร้อนไปเลย. 55