ไม่ทราบว่า cei ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ทราบว่า cei ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่ครับ
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับ 8)
ขอรบกวนถามความเห็นเกี่ยวกับceiครับ อย่างที่ทราบกันว่าหุ้นตัวนี้กำลังจะปันผลเร็วๆนี้ที่1.25บาทต่อหุ้น คิดเป็นdiv yieldที่ประมาณ6% ถึงแม้บริษัทนี้มีความเสี่ยงจากที่ลูกค้ารายใหญ่ขอถอนตัวออก แต่ก็กำลังวางนโยบายใหม่เป็นการเจาะตลาดใหม่เพิ่มขึ้น คือทางออสเตรเลียและยุโรป ผมเห็นว่าถ้าหากแผนการตลาดนี้ไปได้ รายได้ในอนาคตก็จะมากขึ้น และเงินปันผลก็อาจจะดีเหมือนก่อนครับ ซึ่งถ้าเทียบกับราคา ณ ปัจจุบันนี้แล้ว ยังไม่น่าแพงเลย จึงอยากรบกวนขอความเห็นเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทนี้ ว่าน่าจะไปได้ไหม ขอบคุณครับ
ขอรบกวนถามความเห็นเกี่ยวกับceiครับ อย่างที่ทราบกันว่าหุ้นตัวนี้กำลังจะปันผลเร็วๆนี้ที่1.25บาทต่อหุ้น คิดเป็นdiv yieldที่ประมาณ6% ถึงแม้บริษัทนี้มีความเสี่ยงจากที่ลูกค้ารายใหญ่ขอถอนตัวออก แต่ก็กำลังวางนโยบายใหม่เป็นการเจาะตลาดใหม่เพิ่มขึ้น คือทางออสเตรเลียและยุโรป ผมเห็นว่าถ้าหากแผนการตลาดนี้ไปได้ รายได้ในอนาคตก็จะมากขึ้น และเงินปันผลก็อาจจะดีเหมือนก่อนครับ ซึ่งถ้าเทียบกับราคา ณ ปัจจุบันนี้แล้ว ยังไม่น่าแพงเลย จึงอยากรบกวนขอความเห็นเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทนี้ ว่าน่าจะไปได้ไหม ขอบคุณครับ
แก้ไขล่าสุดโดย หมาป่า เมื่อ จันทร์ พ.ย. 17, 2003 4:23 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ทราบว่า cei ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่ครับ
โพสต์ที่ 3
ที่เราซื้อ เพราะหวังว่า อนาคตมันน่าจะดีขึ้นกว่านี้ไงครับ
ปีหน้า มีแนวโน้ม ว่าผลประกอบการ จะดีกว่านี้ครับ ขนาดปีนี้เน่าๆ ยังได้ 6 % เลย !
ถ้าปีหน้า หรือ ปีถัดไป สามารถ ขึ้นไปยืน เท่าที่เคยทำได้
ปันผล จะอยู่ที่ 10 กว่า % ปลายๆ
ถ้าถาม ความคิดเห็นผม ผมว่า จะต่ำลงกว่า 18 อีกครั้ง ยากมากครับ
อิอิ... ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ... อิอิ
ปีหน้า มีแนวโน้ม ว่าผลประกอบการ จะดีกว่านี้ครับ ขนาดปีนี้เน่าๆ ยังได้ 6 % เลย !
ถ้าปีหน้า หรือ ปีถัดไป สามารถ ขึ้นไปยืน เท่าที่เคยทำได้
ปันผล จะอยู่ที่ 10 กว่า % ปลายๆ
ถ้าถาม ความคิดเห็นผม ผมว่า จะต่ำลงกว่า 18 อีกครั้ง ยากมากครับ
อิอิ... ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ... อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ประชุมผู้ถือหุ้น
โพสต์ที่ 4
cei มีประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี2546 ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 เวลา 10.00น. ณ.ห้องประชุมของบริษัท เลขที่ 290-1 หมู่4 นิคมอุตสาหกรรมบางปู ซอย5 อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
ต่อไปนี้คือสารจากประธานกรรมการ ที่ปรากฏในรายงานประจำปี2546 หน้า2 ครับ
ceiประสบปัญหาอย่างมากในปี2546 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่ตกต่ำ โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีปัญหามากมายรุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ และปรากฏการณ์ฤดูหนาวที่ยาวนาน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ยอดขายของบริษัทลดลง
เราคาดว่าสาเหตุอีกประการหนึ่งมาจากการพัฒนาระดับคุณภาพสินค้าให้สูงขึ้นตามความต้องการของลูกค้าบริษัท คือ Hunter ย่อมส่งผลต่อต้นทุนที่สูงขึ้นเนื่องจากต้องมีการเปลี่ยนสายการผลิตใหม่หมด ผลที่ตามมาคือ ยอดขายภายในสองไตรมาสแรกต่ำมาก (มีเพียง 22% ของประมาณการผลิตที่ส่งออกไปจำหน่ายในครึ่งปีแรกของปี2546) ซึ่งปริมาณการขายที่ลดลงเกิดจากประสิทธิภาพของสินค้าเนื่องจากปัญหาทางด้านการผลิด
อย่างไรก็ตามเรายังมองในแง่ดีที่ว่าในปี2547จะดีขึ้น เนื่องจากเราได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ คือ มีการร่วมทุนกับHunterซึ่งในการทำสัญญาระบุไว้ว่า Hunterจะช่วยสนับสนุนด้านการพัฒนาสินค้า ด้านการตลาด รวมถึงสนับสนุนด้านการขาย และนั่นหมายถึง แนวโน้มยอดจำหน่ายสินค้าของบริษัทจะมีการขยายตัวในทางบวกในปี2547
ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังได้ทำข้อตกลงกับบริษัท Honeywell ในประเทศสหรัฐอเมริกาว่าจะมีการส่งสินค้างวดแรกในช่วงไตรมาศแรกของปี2547 (ประมาณเดือนกันยายน 2546) ซึ่งจากเหตุผลต่างๆเหล่านี้ เราจึงคาดการณ์ว่าสถานการณ์ของบริษัทน่าจะมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น ในปี2547 คาดว่ายอดขายและผลกำไรจะใกล้เคียงกับที่ทำไว้ในปี2545
นางไต้ ชุนยา
ประธานกรรมการ
ในรายงานประจำปี หน้า14ครับ
การเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา
เมื่อวันที่23สิงหาคม2545 ตระกูลไต้ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ได้ซื้อหุ้นในบริษัท ฮันเตอร์ ซีอีไอ (เอเชีย)จำกัด จากบริษัท ฮันเตอร์ แฟน จำกัด นอกจากนี้ กรรมการซึ่งถูกแต่งตั้งโดยบริษัท ฮันเตอร์ แฟน จำกัด ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการของบริษัท เป็นผลให้บริษัท ฮันเตอร์ แฟน จำกัด สิ้นสุดการเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนับแต่วันที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัท ฮันเตอร์ แฟน จำกัด ยังคงเป็นคู่ค้าธุรกิจตามปกติ
เมื่อวันที่ 25ตุลาคม2545 บริษัท แอร์โรแยล อินดัสทรีส์ จำกัด ได้ทำการเลิกกิจการ และชำระบัญชีเสร็จสิ้น
ในปี 2547 บริษัทได้ขยายตลาดไปยังประเทศออสเตรเลียและในยุโรป โดยใช้ตราสินค้ายี่ห้อ Honey Well ซึ่งบริษัทเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์และทำการตลาดเอง
ต่อไปนี้คือสารจากประธานกรรมการ ที่ปรากฏในรายงานประจำปี2546 หน้า2 ครับ
ceiประสบปัญหาอย่างมากในปี2546 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่ตกต่ำ โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีปัญหามากมายรุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ และปรากฏการณ์ฤดูหนาวที่ยาวนาน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ยอดขายของบริษัทลดลง
เราคาดว่าสาเหตุอีกประการหนึ่งมาจากการพัฒนาระดับคุณภาพสินค้าให้สูงขึ้นตามความต้องการของลูกค้าบริษัท คือ Hunter ย่อมส่งผลต่อต้นทุนที่สูงขึ้นเนื่องจากต้องมีการเปลี่ยนสายการผลิตใหม่หมด ผลที่ตามมาคือ ยอดขายภายในสองไตรมาสแรกต่ำมาก (มีเพียง 22% ของประมาณการผลิตที่ส่งออกไปจำหน่ายในครึ่งปีแรกของปี2546) ซึ่งปริมาณการขายที่ลดลงเกิดจากประสิทธิภาพของสินค้าเนื่องจากปัญหาทางด้านการผลิด
อย่างไรก็ตามเรายังมองในแง่ดีที่ว่าในปี2547จะดีขึ้น เนื่องจากเราได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ คือ มีการร่วมทุนกับHunterซึ่งในการทำสัญญาระบุไว้ว่า Hunterจะช่วยสนับสนุนด้านการพัฒนาสินค้า ด้านการตลาด รวมถึงสนับสนุนด้านการขาย และนั่นหมายถึง แนวโน้มยอดจำหน่ายสินค้าของบริษัทจะมีการขยายตัวในทางบวกในปี2547
ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังได้ทำข้อตกลงกับบริษัท Honeywell ในประเทศสหรัฐอเมริกาว่าจะมีการส่งสินค้างวดแรกในช่วงไตรมาศแรกของปี2547 (ประมาณเดือนกันยายน 2546) ซึ่งจากเหตุผลต่างๆเหล่านี้ เราจึงคาดการณ์ว่าสถานการณ์ของบริษัทน่าจะมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น ในปี2547 คาดว่ายอดขายและผลกำไรจะใกล้เคียงกับที่ทำไว้ในปี2545
นางไต้ ชุนยา
ประธานกรรมการ
ในรายงานประจำปี หน้า14ครับ
การเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา
เมื่อวันที่23สิงหาคม2545 ตระกูลไต้ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ได้ซื้อหุ้นในบริษัท ฮันเตอร์ ซีอีไอ (เอเชีย)จำกัด จากบริษัท ฮันเตอร์ แฟน จำกัด นอกจากนี้ กรรมการซึ่งถูกแต่งตั้งโดยบริษัท ฮันเตอร์ แฟน จำกัด ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการของบริษัท เป็นผลให้บริษัท ฮันเตอร์ แฟน จำกัด สิ้นสุดการเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกันนับแต่วันที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัท ฮันเตอร์ แฟน จำกัด ยังคงเป็นคู่ค้าธุรกิจตามปกติ
เมื่อวันที่ 25ตุลาคม2545 บริษัท แอร์โรแยล อินดัสทรีส์ จำกัด ได้ทำการเลิกกิจการ และชำระบัญชีเสร็จสิ้น
ในปี 2547 บริษัทได้ขยายตลาดไปยังประเทศออสเตรเลียและในยุโรป โดยใช้ตราสินค้ายี่ห้อ Honey Well ซึ่งบริษัทเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์และทำการตลาดเอง
แก้ไขล่าสุดโดย หมาป่า เมื่อ จันทร์ พ.ย. 17, 2003 4:30 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ทราบว่า cei ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่ครับ
โพสต์ที่ 5
ผมซื้อceiไว้นิดหน่อย เพื่อรับเงินปันผลครับ แต่ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าควรจะถือต่อหลังจากรับเงินปันผลดีไหม สำหรับผมแล้ว บริษัทนี้แทบจะไม่มีcompetitive advantageในปัจจุบันนี้ครับ สิ่งที่ดึงดูดใจมากคือเงินปันผลที่สูง และคงต้องพิจารณานโยบายการตลาด โดยเฉพาะการสร้างbrandของตนเอง คือHoneywell แต่ผมไม่แน่ใจว่าบริษัทจะเติบโตในระยะยาวได้หรือไม่ เพราะเป็นการเก็งกำไรต่อนโยบายการตลาดที่ยังไม่เกิด ส่วนปัญหาเงินบาทแข็งค่านั้น ผมคิดว่าเป็นปัญหาที่สำคัญมากในระยะสั้น อย่างน้อยก็ภายในปีหน้านี้ แต่ไม่ใช่ปัญหาสำคัญในระยะยาวครับ มีเหตุผลสองประการ ประการแรก พัดลมของceiเป็นสินค้าที่เน้นตลาดระดับบน ซึ่งไม่น่าจะprice sensitiveนัก แต่เน้นคุณภาพและดีไซน์มากกว่า ประการที่สอง ถ้าบริษัทสามารถเอาตัวรอดได้ในช่วงปีแรกๆที่ค่าเงินแข็งขึ้น บริษัทนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาในระยะยาว เพราะค่าเงินนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องปกติครับ สำหรับผม ตอนนี้ก็คิดอยู่ครับว่าถ้าตัดสินใจจะถือต่อ ก็คงซื้อเพิ่มอีกสักหน่อยเพื่อให้มีความรู้สึกร่วมในกิจการ ไม่เช่นนั้นก็จะตัดสินใจขายครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 226
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ทราบว่า cei ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่ครับ
โพสต์ที่ 6
มีเหมือนกันครับ CEI ผมจะนำเงินมูลค่าเท่ากับเงินปันผลที่ได้จาก CEI ซื้อกลับเข้าไป ณ.วันขึ้นป้าย XD จากนั้นรอผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2547 (ของ CEI น่าจะเริ่มที่ สค.46-ตค.46) ซึ่งน่าจะรายงานในช่วงกลางเดือน ธค.46 นี้ ว่าแนวโน้มเป็นอย่างไร
ถ้าแนวโน้มฟื้นตัว ถือต่อไปรับปันผลปีหน้าเลยครับ (ฝันเอาว่าขอปันผลเทียบเท่าปี 45 = 3 บาทกว่าๆต่อหุ้น จากราคาที่ซื้อมาก็ 16-17% เชียวหล่ะ ) ถ้าแนวโน้มทรงตัวหรือแย่ลงก็จะทยอยลด Port ลงครับ
การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาก่อนตัดสินใจ.....
ถ้าแนวโน้มฟื้นตัว ถือต่อไปรับปันผลปีหน้าเลยครับ (ฝันเอาว่าขอปันผลเทียบเท่าปี 45 = 3 บาทกว่าๆต่อหุ้น จากราคาที่ซื้อมาก็ 16-17% เชียวหล่ะ ) ถ้าแนวโน้มทรงตัวหรือแย่ลงก็จะทยอยลด Port ลงครับ
การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาก่อนตัดสินใจ.....