เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 1

โพสต์

พยายามหาข้อด้อยของ egcomp ได้มา 3 ข้อ...

1.กำไรปีนี้รวมกำไรค่าเงินประมาณ 600 ล้าน และไตรมาสสี่ จะมีผลดำเนินงานที่แย่ที่สุด เพราะจะมีการบันทึกการซ่อมบำรุง อย่างปีที่แล้วจะมีกำไรแค่ร้อยกว่าล้าน (เช็คดูอีกครั้งครับ)...

2.โครงการใหญ่ที่จะเพิ่มรายได้ จะทำการผลิตปี 2550 หรืออีก 4ปีข้างหน้า!!
อีกโครงการผลิตปี 2551 และโครงการที่สามปี 2552....ดังนั้น 2-3 ปีข้างหน้ากำไรน่าจะเพิ่มไม่มาก ปันผลประมาณ 3 บาท ที่ราคา 76 บาท ก็ไม่ถูกมาก..

3.ไตรมาสหน้า กฟผ. จะเข้าตลาด (คู่แข่งทำธุรกิจเดียวกัน) โดย กฟผ. ถือหุ้น egcomp ประมาณ 25 % ส่วนที่เหลือ CLP ้Hongkong ถือเท่าๆกัน
(CLP เคยซื้อ egcomp private placement ที่ 120 บาท แต่ได้ซื้อถัวเฉลี่ย+ปันผล ทำให้มีต้นทุนต่ำพอสมควร).....ส่วนคู่แข่งอีกรายคือ RATCH ซึ่ง กฟผ. ถือหุ้นประมาณ 50 % .......

คือดูแล้วในอนาคตหากมีโครงการใหม่ๆ โอกาสที่ egcomp จะได้รับทำโครงการน้อยเพราะ กฟผ ถือหุ้นน้อยสุด และยังมี partner เป็นต่างชาติีอีก...

เป็นมุมมองในแง่ร้ายนะครับ แต่ผมก็ยังคิดว่า egcomp ยังเป็นหุ้นที่ดีครับ แต่หากเรามองไปอีกด้าน ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนสมาชิก รวมถึงผู้ถือหุ้นปัจจุบันด้วยครับ... :D :D
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
FITCH เองไม่ได้Login
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ไม่ได้โต้แย้งครับ
พี่ลูกอืสานมีมุมมองที่ดีครับ
อย่าลืมว่าโครงการขยายกำลังการผลึตขี้นกับ geographical ด้วยนะครับ อีกอย่าง Technically ขี้นมาเยอะแบบนี้น่ากลัวครับ
ถ้ามีทุน 38 บาทค่อยไม่ต้องกลัวัมากเท่าไรครับ วันนี้ใช้ Pocket pc พิมพ์ไม่ค่อยถนัดเกี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาDisscuss กันเต็มๆดีก่่่า
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เจอข้อด้อยอีกข้อเห็นแล้วลมแทบจับ!!....
ถ้าเป็นบริษัทเอกชน คงต้องเชิญผู้บริหาร & Cef ออกไปทำที่อื่น!!

คือ EGCOMP มีต้นทุนทางการเงินที่สูงมาก แทบไม่น่าเชื่อ
มีดอกเบี้ยจ่ายต่อยอดขาย 24-25 % และมีต้นทุนเงินกู้ประมาณเกือบ 9 %
(มีเงินกู้+หุ้นกู้ ณ ไตรมาส 3 = 32000 ล้านบาท)

ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากได้ออกหุ้นกู้ ให้ดอกเบี้ยสูงมากในอดีต เช่น...

5000 ล้าน ที่ 8% เหลืออีก 2-3 ปีที่จะไถ่ถอน
1500 ล้าน ที่ 11.5 เหลืออีก 2-3 ปีที่จะไถ่ถอน
5664 ล้าน ที่ 11.25 เหลืออีก 8!!!! ปีที่จะไถ่ถอน

lot สุดท้ายเนี่ยสุดแสบจริงๆ ผมไม่มีรายละเอียดว่าเป็นหุ้นกู้ที่ไถ่ถอนก่อนกำหนดได้หรือเปล่า (callable bond) ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ไถ่ถอนครับ ถ้า refinace ตอนนี้ประหยัดดอกเบี้ยได้ (8.75-3)*32000 = 1850 ล้านบาทต่อปี.....

ถ้าเป็นชนิดไถ่ถอนก่อนกำหนดไม่ได้หรือ bullet bond ก็ถือว่าเป็นกรรมของผู้ถือหุ้นครับ ที่มี cef อย่างนี้ ผมไม่เคยเจอจริงๆ ครับ ที่ออกหุ้นกู้ให้ดอกสูง และระยะเวลานานอย่าง lot สุดท้าย และยังไถ่ถอนก่อนไม่ได้อีก... suc...x :evil: :evil:

อีกบริษัทที่เคยเจอว่าออกหุ้นกู้สูงๆ และนำเงินมาดองไว้กินดอกต่ำอีกบริษัท คือบริษัทญาติ egcomp นั่นเอง eastw ครับ ลองไปดูได้ ไม่น่าแปลกใจเลย ที่เราต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ให้เร็วที่สุด...

อ้ออีกบริษัท คือ SCC มีหุ้นกู้ จ่ายดอกสูงพอสมควร แต่เริ่มทยอยออกหุ้นกู้ดอกต่ำ จำได้ว่าตอนลดค่าเงิน SCC ก็ไม่ hedge ไว้เลยทั้งที่มีหนี้ดอลลาร์มหาศาล ทั้งที่มีแบงค์ไทยพาณิชย์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่...ผมก็เคยคิดว่า cef ของ SCC ไม่เก่งครับ ถ้าเก่งกว่านี้อีกนิด SCC คงไปไกลกว่านี้อีก 10 เท่า...

วันนี้วิจารณ์แรงไปนิดต้องขอโทษด้วย เพราะมันน่าว่าจริงๆ...
ใช่ไหมครัับผู้ถือหุ้นคุณ Fitch และเพื่อนๆ...
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
FITCH
Verified User
โพสต์: 194
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 4

โพสต์

_ลูกอีสาน เขียน:เจอข้อด้อยอีกข้อเห็นแล้วลมแทบจับ!!....
ถ้าเป็นบริษัทเอกชน คงต้องเชิญผู้บริหาร & Cef ออกไปทำที่อื่น!!

คือ EGCOMP มีต้นทุนทางการเงินที่สูงมาก แทบไม่น่าเชื่อ
มีดอกเบี้ยจ่ายต่อยอดขาย 24-25 % และมีต้นทุนเงินกู้ประมาณเกือบ 9 %
(มีเงินกู้+หุ้นกู้ ณ ไตรมาส 3 = 32000 ล้านบาท)

ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากได้ออกหุ้นกู้ ให้ดอกเบี้ยสูงมากในอดีต เช่น...

5000 ล้าน ที่ 8% เหลืออีก 2-3 ปีที่จะไถ่ถอน
1500 ล้าน ที่ 11.5 เหลืออีก 2-3 ปีที่จะไถ่ถอน
5664 ล้าน ที่ 11.25 เหลืออีก 8!!!! ปีที่จะไถ่ถอน

lot สุดท้ายเนี่ยสุดแสบจริงๆ ผมไม่มีรายละเอียดว่าเป็นหุ้นกู้ที่ไถ่ถอนก่อนกำหนดได้หรือเปล่า (callable bond) ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ไถ่ถอนครับ ถ้า refinace ตอนนี้ประหยัดดอกเบี้ยได้ (8.75-3)*32000 = 1850 ล้านบาทต่อปี.....

ถ้าเป็นชนิดไถ่ถอนก่อนกำหนดไม่ได้หรือ bullet bond ก็ถือว่าเป็นกรรมของผู้ถือหุ้นครับ ที่มี cef อย่างนี้ ผมไม่เคยเจอจริงๆ ครับ ที่ออกหุ้นกู้ให้ดอกสูง และระยะเวลานานอย่าง lot สุดท้าย และยังไถ่ถอนก่อนไม่ได้อีก... suc...x :evil: :evil:

อีกบริษัทที่เคยเจอว่าออกหุ้นกู้สูงๆ และนำเงินมาดองไว้กินดอกต่ำอีกบริษัท คือบริษัทญาติ egcomp นั่นเอง eastw ครับ ลองไปดูได้ ไม่น่าแปลกใจเลย ที่เราต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ให้เร็วที่สุด...

อ้ออีกบริษัท คือ SCC มีหุ้นกู้ จ่ายดอกสูงพอสมควร แต่เริ่มทยอยออกหุ้นกู้ดอกต่ำ จำได้ว่าตอนลดค่าเงิน SCC ก็ไม่ hedge ไว้เลยทั้งที่มีหนี้ดอลลาร์มหาศาล ทั้งที่มีแบงค์ไทยพาณิชย์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่...ผมก็เคยคิดว่า cef ของ SCC ไม่เก่งครับ ถ้าเก่งกว่านี้อีกนิด SCC คงไปไกลกว่านี้อีก 10 เท่า...

วันนี้วิจารณ์แรงไปนิดต้องขอโทษด้วย เพราะมันน่าว่าจริงๆ...
ใช่ไหมครัับผู้ถือหุ้นคุณ Fitch และเพื่อนๆ...

Lot แรก 5000 ล้าน ของบริษัทเป็น หุ้นกู้ด้อยสิทธิแบบไม่มีหลักประกันนั้นเขาทำ Refinance ไปแล้วครับพี่ ลูกอิสาน เป็น Fix 6.95%
ช่วงนั้นผมยังได้ Private offering จากทาง Merill Lynch ของหุ้นกู้ชุดนี้เลยอ่ะ

อีกอย่างสมัย ปี 1994 ที่เขาเพิ่งตั้งบริษัท งบการเงินยังไม่สวยหรู ดูภูมิฐานเท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนะครับอย่าลืม เงินก็ไม่ค่อยจะมีต้องลงทุนสูงมากเพราะธุรกิจเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก สมัยนั้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่สูงมากประมาณ 10-12% มั๊งถ้าจำไม่ผิด ไม่เหมือนกับสมัยนี้ที่ดอกเบี้ยต่ำติดดิน

ผมจึงคิดว่าผู้บริหารในสมัยนั้นต้องการ Fix ต้นทุนทางการเงินทุกๆทางแล้ว Reflect เข้าไปในสูตรการคำนวณราคาขายของค่าไฟฟ้าที่ EGAT จะต้องรับซื้อโดยออก Bond ระยะยาวมากตามที่ได้เซ็นสัญญาขายไฟฟ้าไว้กับทาง EGAT ถึง 20 ปี เพราะไม่ต้องการรับความเสี่ยงด้านการผันผวนของต้นทุนทางการเงิน เรียกว่า ต้นทุนฉันมาแพงนะ ฉันก็ขายแพงไปตามสภาพแล้วก็ให้ EGAT รับต้นทุนนั้นไป คือไม่ยอกมาเสี่ยงเอากำไรเนื่องจากอนาคตที่ไม่แน่นอนนั่นเอง

ตรงนี้ผมกลับมองว่าเป็น ผู้บริหารที่มี วิสัยทัศน์ แบบ conservative สูงสุดเท่านั้น นะครับที่ทำแบบนี้

เดี๋ยวมาต่อกัน :lol:
FITCH
Verified User
โพสต์: 194
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ต่อครับ ต่อ ต่อ

ดังนั้น พี่ลองคิดดูครับว่าบริษัทเพิ่งตั้งใหม่เมื่อ 10 ปี ก่อนงบยังดูไม่ดีเท่าไหร่มีเพียงสัญญาในอนาคตเท่านั้น คนที่เขาให้กู้จะคิดยังไง(เมื่อ 9 ปีก่อนนะครับ ตอนออกหุ้นกู้ชนิดนี้ )..เพียงแต่ว่า เออ นะ บริษัทมันมี shareholder เป็น การไฟฟ้า ซึ่ง รัฐบาลเป็น Back up อยู่ภายหลัง ดังนั้นกว่าจะทำ book building เพื่อขายหุ้นกู้ชุดดังกล่าว คงต้องมีการตีลังกาคิดกันประมาณ 80 ตลบ ระหว่าง ผู้กู้ กับ คนทำ book built นั่นแหละ ถึงอัตราดอกเบี้ยที่จะออกมาไม่งั้นขายไม่ได้แน่ๆ ( เพราะดอกเบี้ยต้องต่ำกว่ากู้ Bank อยู่แล้ว ไม่งั้นจะออกมาทำไม?? )

ถ้าไม่ได้เงินกู้ชุดนั้นมาก็อย่าหวังจะซื้อโรงไฟฟ้าระยอง โรงไฟฟ้าขนอม มาไว้ในอ้อมอกเลย เพราะ...ตังค์ไม่มี...

เพียงแต่ว่าผู้บริหารสมัยนั้นยังไม่ "เซียน" สุดๆ ตรงที่ควรจะเปิดโอกาสให้ Call ได้ก็เท่านั้นแหละ เหตุผลเขาคงมีคิดว่า เค้าอาจมองว่าถ้าเป็น Callable bond อาจต้องจ่ายดอก แพงเข้าไปอีก คราวนี้ ราคาค่าไฟฟ้าที่จะขายให้ EGAT คงแพงพิลึก จนไม่ competitive กับ IPP,SPP รายอื่นนะสิ ดังนั้น ส่วนผสมทางการเงินจึงได้ผลลัพธ์ออกมาเป็น ฉะนี้แล....

อัตราดอกเบี้ย เป็นสิ่งที่ไม่สามารถกำหนดล่วงหน้าได้เช่นเดียวกับ อัตราแลกเปลี่ยนนะครับ ถ้าไม่มีเหตุการณ์สำคัญเปลี่ยนแปลงเราคงไม่มี บริษัท ADVANC อย่างที่มีในวันนี้ ( analogy กัน ) UCOM ในวันก่อนเป็นผู้นำตลาดอยู่ไหงมากลายเป็นแบบนี้ไปได้หว่าเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่หรือครับ ถ้าเขาได้ hedge ต้นทุนทางการเงินเอาไว้วันนั้น วันนี้อาจไม่มี นายกคนเก่งของเราที่ชื่อ ทักษิณก็ได้นะครับ.....



ชอบ Discussion แบบนี้จังเลย ถ้าพี่ ลูกอิสาน มีมุมมองอื่นช่วยบอกด้วยนะครับ


:) :)
FITCH
Verified User
โพสต์: 194
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 6

โพสต์

มาต่อกันที่ เรื่องกำลังขยายการผลิตดีกว่า
EGCOMP มีความพยายามมานานแล้วที่จะเพิ่มอัตราการผลิตให้ได้ถึง 5000 MW เพียงแต่ว่าโครงการบางโครงการก็ติดปัญหาโน่นนี่ เช่น บ่อนอก โหยกว่าจะได้ข้อสรุปไปสร้างที่ แก่งคอยสระบุรี ต้องรอท่านนายกสรุปให้ได้ก่อน ซึ่งเราๆท่านๆก็คงทราบกันอยู่แล้ว.

อีกอย่างช่วงที่ผ่านมามีการกระหน่ำโฆษณาชวนเชื่อให้เรานึกว่าอัตราการสำรองไฟฟ้าของ Thailand นั้นมันสูงมากๆ มากเสียจนกระทั่งไม่รู้จะสร้างโรงไฟฟ้ากันไปอีกทำไม คราวนี้เออ มันจริงอย่างว่า แต่ไม่ทั้งหมดนะสิ คืองี้ เจ้าอัตราการสำรองไฟฟ้ามันต้องมีการวางแผนล่วงหน้ากันเป็น 10 ปีนะครับไม่ใช่เพิ่งนึกออกก็คิดจะสร้างโรงไฟฟ้าก็สร้าง...คราวนี้เมื่อเศรษฐกิจวิ่งฉิวราวกับจรวดเมื่อรอบที่แล้วแถวปี 35-37 อะไรๆมันก็ดูดีไปหมด ถ้าไม่มีไฟฟ้าใช้ผมถามหน่อยใครจะอยากมาตั้งโรงงานที่ไม่มีไฟฟ้าจะผลิตล่ะครับ พอเศรษฐกิจฟุบมาช่วง 97-02 เนี่ย อะไรๆ มันก็ดูไม่ดีใช่มั๊ยล่ะ มันก็เลยดูสเหมือนว่าเฮ้ย พวกที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทำอะไรอยู่ฟะ ปล่อยให้ ตัวเลขมันเลยเถิดจริงๆแล้วไม่ได้ over ขนาดนั้นนะครับ

คราวนี้พอเกิด upturn ใน economy ขึ้นมาโรงไฟฟ้าโรงนึงนะใช้เวลาสร้างนานกว่า condo 50 ชั้นของ SIRI, SUPALI, RAIMON บ้านเอื้ออาทร 2 แสน unit s หมู่บ้านที่เปิดขายวันเดียวหมดของ LH,GOLD,LALIN โรงต่อรถยนต์ toyota, BMW, Isuzu โรงปูนใหม่ โรงปิโตรเคมีใหม่ โรงงาน Harddisk ของ IBM, HANA, DELTA ฯลฯ
อยู่แล้ว นะคราวนี้เค้าถึงต้องมีโครงการขยายกำลังการผลิตของขนอมตามมาไงล่ะครับ ส่วนเรื่องอัตราเพิ่มนั้นขออุบไว้ก่อนครับ....เค้าก็ทำอยู่นะครับ อิอิ :lol:

เอ้า คราวนี่ทำยังไงมันถึงจะเพิ่มกำลังการผลิตให้มันได้กับ demand ที่เพิ่มขึ้นล่ะเนี่ย สงสัยต้องใช้วิธีเดียวกับพี่ TTA กะ PSL มั๊งคือซื้อเรือมาเลยมันถึงจะทันใจโก๋ ไม่งั้นรอต่อเรืออยู่ก็ไม่ทันได้กินพอดี เพราะค่าระวางมันแพงสุดๆ นี่ครับใครเรือเยอะก็ได้เปรียบนะช่วงนี้นะ
( อ้าวกลายเป็นเรื่องเรือไปได้ยังไงหว่า)......โครงการ Aqquisition จึงได้กำเนิดเกิดขึ้นมา BLCP คือคำตอบ โรงไฟฟ้าพระนครใต้ อีกอันนึง และยังมีอีก 2-3 อันผมจำไม่ได้....พี่ลูกอิสานช่วยชี้แนะผมด้วยนะครับ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 7

โพสต์

คุณ Fitch อธิบายกลับมา ทำเอาผมหมดมุขเลยครับ...ไล่ไม่จนมุม.. :lol: :lol:
แสดงว่าเป็นผู้ถือหุ้นพันธ์แท้เลยครับ นับถือ...นับถือ.. :wink:


ก็เพราะ EGCOMP มีต้นทุนทางการเงินที่สูงอย่างนี้นี่เอง ทำให้ต้องขายไฟแพง ทำใ้ห้ กฟผ สั่งจ่ายไฟจากโรงงานระยองน้อยลงเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะได้รับการชดเชยที่ไม่สั่งจ่าย แต่ก็ได้น้อยกว่า หาก กฟผ สั่งจ่าย......ส่วนโรงขนอม ไม่มีปัญหาเนื่องจากภาคใต้ยังขาดแคลนไฟฟ้า....กฟผ จึงสั่งจ่ายไฟเต็มที่...

เห็นด้วยกับคุณ Fitch เรื่องการ hedge ค่าเงิน-ดอกเบี้ย...บางทีหากเราเสียต้นทุนเพิ่มนิดหน่อย อาจจะเป็นจุดผกผันได้เลยนะครับ เหมือนเช่น Advance hedge ค่าเงิน ในขณะที่ Ucom ไม่ได้ทำ แต่ในกรณี SCC ผมคิดว่าเค้าควรจะทำบ้าง แต่เค้าคงเชื่อคุณ โอฬาร ไชยประวัติ (ซึ่งท่านเชื่อว่าไทยจะไม่ลดค่าเงิน) ทำให้ SCC ขาดทุนค่าเงินเกือบ แสนล้าน.......

แต่ผมก็ยังเสียดายนะครับ ที่ Bond งวดสุดท้ายของ egcomp ไม่มี option ให้ call ได้ ทั้งที่อายุของหุ้นกู้นี้ยาวมากถึง 15 ปี!!

อีกเรื่องนึงไม่ทราบว่าคุณ Fitch พอจะมีความรู้ไหมครับ คือสัญญาขายไฟฟ้าของ egcomp มีอายุ 20 ปี สำหรับโรงระยอง และ 15,20 ปี สำหรับโรงขนอม
ซึ่งถึงตอนนี้ก็มาถึงครึ่งทางแล้ว......คือผมสงสัยว่าถ้าหมดสัญญาแล้ว จะต้องทำอย่างไรครับ ต้่องยกโรงไฟฟ้าให้ กฟผ ฟรีๆ? หรือต่อสัญญาใหม่ หรือ ทำ repowering -ยกเครื่องโรงงานใหม่ พอทราบไหมครับ.... :D
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
FITCH
Verified User
โพสต์: 194
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 8

โพสต์

อ้าว พี่มีส่วนได้เสียอยู่ตั้งแสนกว่าหุ้น ไม่ดูได้ไงเนี่ย
ส่วนเรื่องอืนๆเอาไว้ทำการบ้านมาให้รึกันตอนนี้ขอตัวไปกินข้าวก่อนดีกว่า :lol:

ไม่ได้ต้องการให้ใครซื้อ EGCOMP นะครับ แค่บอกให้ฟังเพื่อคิดกันเองน้า อย่าลืม!!!!!!! :lol:
thanwa
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1011
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ยอดเยี่ยมมากเลยคุณ FITCH
เห็นด้วยกับ คุณลูกอิสานเลยเรื่องผู้ถือหุ้นพันธุ์แท้

นี่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนต้องการเป็น VI เหมือนกันครับ
ถือน้อยตัวและก้อเน้นๆ รู้จริงสำหรับกิจการที่เราเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ
อาทิตย์นี้ขอ Vote ให้คุณ FITCH ครับ :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
PRO_BABY
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1584
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ที่คามอ่านมาคุณFITCH แน่นจริงๆๆครับยอมรับเลยอย่างนี้แหละครับ VI พันธุ์แท้ครับ :P :P
--ผลของอนาคตเกิดจาก<====ปัจจุบัน ผลของปัจจุบันเกิดจาก<===อดีต
--ทุกอย่างเชื่อมโยง มีเหตุ====> มีผ
FITCH
Verified User
โพสต์: 194
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 11

โพสต์

พวกพี่ๆ ชมกันเกินไปแล้วครับ...

ปัญญาผมมีแค่หางอึ่งไม่สามารถเทียบชั้นกับพวก ปรมาจารย์ในที่นี้หลายๆคนได้หรอกครับ ที่เข้ามานี่ ก็เพื่อได้พูดคุยและเผื่อแผ่ความรู้เท่าที่มี และต้องการการ discussion ที่มีหลักเหตุผลกับคนที่มีความคิดในเรื่องเดียวกันเท่านั้นเองครับ บางทีหลายเรื่องเราอาจมีความเห็นไม่เหมือนกันบ้างก็เพียงแต่ยกตัวอย่างและเหตุผลมาอธิบายพร้อม proof ต่างๆที่มันเป็น วิทยาศาตร์ ไม่ใช่ ความรู้สึกที่น่าจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ แบบที่ตลาดเราส่วนใหญ่ยังเป็นอยู่เยอะ แม้แต่นักวิเคราะห์ตามค่ายต่างๆนี่บางทีมั่วมากนะครับผมว่าแต่ก็ดีมากๆ เลย ถ้าผมเห็น paper ของค่ายไหนก็ตามที่เกี่ยวเนื่องกับ stock ที่ผมถืออยู่ ผมจะยินดีอ่านได้ทุกฉบับเลยครับ collect ไว้เป็นตั้งเลยไม่น่าต่ำกว่า 1000 paper แล้วเนี่ย เมียจะด่าตาย....

ความรู้สึกอยากให้ตลาดเมืองไทยก้าวหน้ามากขึ้นกว่านี้ อีกมากๆ ก็ได้แต่หวังแหละครับ..........

ตัวเอง อย่างที่เคยบอกผมก็เคยเล่นแบบ ชักเข้าชักออกมาก่อน รู้ว่าเป็นยังไงดีมากๆเลย ( ค่าคอมกินเรียบครับ.ค่าคอมปีละ ล้านกว่าบาท..เฮ้อคิดแล้วเหนื่อย เอาที่ไหนมากำไรล่ะครับ )

ต้องศึกษาครับ ต้องศึกษา ใช้เวลากับหุ้นแต่ละตัว แล้วเอาให้เข้าใจสุดๆกันไปเลย ตลาดเมืองไทยยังมีดีๆอีกเยอะครับ..เพียงแต่ช่วงนี้ ราคามันขึ้นมาเยอะแล้ว ก็ต้องระวังบ้างก็เท่านั้นครับ............

ผมอยากเห็นสังคมที่นี่มีคำตอบ อย่างแตกฉานให้กับผู้ที่ต้องการคำตอบทุกคน เรารู้เรื่องอะไรก็ต้องมาบอกกันครับ สังคมนี้มันถึงจะน่าอยู่ น่าคบ อิอิ อิ

:lol: :lol: :lol:
FB
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 12

โพสต์

งั้นถามคุณ Fitch หน่อยครับ ว่าระหว่าง Ratch กับ Egcomp อันไหนน่าจะดีกว่ากัน
ratch เหลือสัญญาระยะยาวกับ กฟผ มากกว่า
ratch รง ทันสมัยกว่า ทำให้ต้นทุนในการผลิตต่อหน่วยต่ำกว่า
ratch มีการ refinance หนี้ ทำให้เสียดอกเบี้ยน้อยกว่า
egcomp มีกำลังการผลิต/หุ้น สูงกว่า

ยังไงช่วยวิเคราะห์ให้ฟังหน่อยครับ ว่าเหตุผลใดจึงเลือกที่จะลงทุนใน egcomp มากกว่า

แต่ผมลงทุน ratch ครับ ตามเหตุผลข้างต้น
FITCH
Verified User
โพสต์: 194
ผู้ติดตาม: 0

เหรียญอีกด้านของ EGCOMP!!

โพสต์ที่ 13

โพสต์

FB เขียน:งั้นถามคุณ Fitch หน่อยครับ ว่าระหว่าง Ratch กับ Egcomp อันไหนน่าจะดีกว่ากัน
ratch เหลือสัญญาระยะยาวกับ กฟผ มากกว่า
ratch รง ทันสมัยกว่า ทำให้ต้นทุนในการผลิตต่อหน่วยต่ำกว่า
ratch มีการ refinance หนี้ ทำให้เสียดอกเบี้ยน้อยกว่า
egcomp มีกำลังการผลิต/หุ้น สูงกว่า

ยังไงช่วยวิเคราะห์ให้ฟังหน่อยครับ ว่าเหตุผลใดจึงเลือกที่จะลงทุนใน egcomp มากกว่า

แต่ผมลงทุน ratch ครับ ตามเหตุผลข้างต้น
RATCH ก็ดีครับในระยะยาว แต่ผมไม่ได้ศึกษาตัวนี้อย่างจริงจัง จึงไม่สามารถตอบได้ว่าอะไรน่าจะดีกว่ากัน อย่าลืมนะครับหุ้นดี หุ้นไม่ดีไม่ได้หมายความว่าสมเหตุผลกับราคารึเปล่านะครับ มันขึ้นกับ Valuation ด้วย
อย่างถ้าวันนี้ EGCOMP สัก 150 B ผมอาจจะว่า RATCH ดีกว่า ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดแบบนั้นนะครับ ขณะนี้ก็ Valuation "น่าจะ" ใกล้เคียงกันแล้ว
ที่ระดับราคาที่ปิดไปเมื่อวันศุกร์เหลือ ส่วนต่างน้อยจนอาจไม่คุ้ม Arbitrage ระหว่างสองตัวนี้เท่าไหร่ เมื่อก่อน gap ห่างตั้ง 32%
เหลือแค่ 6% ( ส่วน Valuation ที่ผมให้กับหุ้นเต่ละตัวนั้นผมคิดเอาเองโดยประมวลจาก research ประมาณ 20 paper ของ 7 โบรกเช่น UBS, MLP, CLSA, CNS, AST, KIMENG, UOBKHST โดย Research ต้องเอามาเรียงลำดับเวลา ก่อนหลังเพื่อหา relationship ของเหตุการณ์ด้วยราคานั้นผมไม่ขอบอกล่ะครับ...พรรคพวกชาว VI ต้องรู้วิธีแน่นอน!!!! )

สำหรับ fund manager ที่ต้องทำ arbitrage ในหุ้นกลุ่มพลังงาน
เมื่อก่อนถือ RATCH พอขึ้นมาระดับนี้ก็ขาย take profit มา switch เป็น EGCOMP แทน ( ในความคิดของผมนะครับ ถ้าผมเป็น fund manager ผมจะทำอย่างนี้ถ้าเห็น Valuation )

ไม่ใช่ว่า RATCH ไม่ดี ไม่ดี เราไม่จำเป็นต้องเทียบกันนี่ครับ กฏของ supply demand ไม่ได้จำกัด การถือหุ้นนี่ครับว่าใครจะถืออะไรเท่าไหร่หรือจะต้องลงทุนในตัวไหนเท่าไหร่


เอามาบอกส่วนได้เสียดีกว่าว่า RATCH ผมก็มีครับ ถือผ่าน BANPU 15% ของ 50,000 หุ้น ก็ 7500 หุ้นครับ อิ อิ อิ :P
ล็อคหัวข้อ